แขนหญิงสาวผลักจนไปชิดกำแพงพร้อมแขนทั้งสองข้างถูกล็อคด้วยมือของชายหนุ่ม พร้อมกับเสียงตะคอกที่ทำเอาหญิงสาวหลับตาลงด้วยความกลัวแต่แอบใจดีสู้เสือ
“ ผมยังพูดไม่จบ คุณจะออกจากห้องนี้ได้เมื่อผมอนุญาตแล้ว ไม่เคยมีใครมาเถียงผมแล้วสะบัดหน้าออกไปได้ คุณยังไม่รู้จักผมดีพอสินะณพิชชา”
หญิงสาวยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหร่ชายหนุ่มก็กอดหญิงสาวแน่นเข้าเท่านั้น เชื้อเพลิง สองขั้วเสียดสีกัน
” ปล่อย !! “ หญิงสาวพูดยังไม่ทันจบประโยค ชายหนุ่มก็กดปิดริมฝีปากนุ่มที่เค้า นึกอยากจูบตั้งแต่แรกเห็น ชายหนุ่มมอบรสจูบที่แสนดุดันให้หญิงสาว มือที่กดล็อค หัวไหล่เลื่อนไปล็อคแขนทั้งสองที่ยันไม่ให้ชายหนุ่มกอดหญิงสาวได้ถนัด ยิ่งจูบยิ่งหวาน ลิ้นของชายหนุ่มก็ทะลวงเข้าไปข้างในทำเอาหญิงสาวตัวอ่อนจนหมดแรงขัดขืน ทำให้ชายหนุ่มกอดหญิงสาวถนัด หน้าอกหญิงสาวสัมผัสหน้าอกชายหนุ่ม รสจูบคลายความดุดันเปลี่ยนเป็นนุ่มหวาน ทำเอาหญิงสาวพรหมจารีสติแตกกระเจิง แม้ในใจจะต่อต้านแต่ร่างกายกลับตอบสนอง หญิงสาวหันไปร่วมมือกับชายหนุ่ม มือที่ขัดขืนกลับโอบกอดจน ชายหนุ่มครางด้วยความพึงพอใจ หัวเร็วไม่ใช่เล่นสาวน้อย
“ กริ๊ง” เสียงโทรศัพท์กรีดร้อง ทำเอาชายหนุ่มหญิงสาวตื่นจากภวังค์เสียง กริ่งโทรศัพท์ยังกรีดร้องไม่หยุด หญิงสาวรวบรวมกำลังผลักชายหนุ่มออกให้พ้นตัวแล้ววิ่งไปรับโทรศัพท์แทนเพื่อหนีซาตานร้ายที่อยู่ข้าง ๆตัว
“ ฮัลโหล ค่ะเจ้านายคะ พี่ดมจะเรียนสายค่ะ” ชายหนุ่มยิ้มกับความเจ้าเล่ห์ของหญิงสาว พร้อมกับรับโทรศัพท์จากมือหญิงสาว พร้อมกับลากหญิงสาวเข้าไปอยู่ในวงแขน พร้อมกับพูดโทรศัพท์
“ ว่าไงดม”ชายหนุ่มพูด แต่สายตาไม่ล่ะไปจากหน้าหญิงสาวสวยที่หน้าแดงอยู่ตรงหน้าด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“ ประชุมครับเจ้านาย ห้องประชุมสามทุกแผนกพร้อมแล้ว” เลขาหนุ่มรายงานมาตามสาย
“ อืม สิบนาทีดม นายเข้าไปก่อนบอกเราขอเวลาเคลียร์เอกสารอีกสิบนาที”
ชายหนุ่มวางสายโทรศัพท์พร้อมกับหอมแก้มหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“ นี่คือบทลงโทษ อย่าทำกิริยาอย่างเมื่อกี้นี้กับผมอีก” ชายหนุ่มพูดเสียงดังแต่แววตาอบอุ่น หญิงสาวทำปากยื่นหน้างอ
“ ทำตัวดี ๆ เดี๋ยวผมจะพาไปเลี้ยงข้าว” ชายหนุ่มกล่าวแล้วเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวเหมือนจะล่องลอย มือลูบริมฝีปากไปมาด้วยความคิดที่แสนสับสน
หญิงสาวทำงานที่คั่งค้างด้วยจิตใจว้าวุ่นว่าเจ้านายหนุ่มมาจูบเธอเพราะอะไร
แล้วเค้าจูบลงโทษแบบนี้ตลอดเลยหรือไง ว่าแล้วก็พิมพ์งานต่อไปด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น พอสมควร ไม่น่าคนแก่เค้าถึงสอนว่า อย่าริไปเล่นกับไฟ เธอยังรู้สึกความร้อนรุ่ม
ที่มีอยู่ช่วงเช้าไม่หาย มันจะประทุเป็นไฟได้ทุกเมื่อ ณพิชชาเก็บเอกสารเรียง ๆตามหัวข้อแล้วกลับไปห้องเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง กลับไปที่โต๊ะเจ้านายที่มีเอกสารวาง
สุมกองระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ แล้วแอบหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกพร้อมกับนึกถึง
คำสอนของรุ่นพี่ว่า
“ โต๊ะนี่ห้ามเตะ ห้ามย้ายเจ้านายจะหาเอกสารไม่เจอ ท่านไม่ชอบใจ ห้ามจัด แม่บ้าน โดนไล่ออกไปหลายคนแล้วพี่ขอเตือนไว้ก่อน”
หญิงสาววางแฟ้มเอกสาร แต่เลี่ยงจากเอกสาร มันวางสุมกันเป็นชั้น ๆ พอวางแล้วเอกสารก็เลื่อนตกโต๊ะ หญิงสาวหงุดหงิดเก็บขึ้นมาวางอีกครั้ง แล้วเอกสารก็เลื่อนตกอีก
‘เอาวะ เป็นไงเป็นกัน อย่างมากก็โดนด่า ไม่ไหวจริง ๆ เค้าทำงานไงของเค้าเนี่ยเอกสารวางซ้อน ๆ จนจะท่วมหัวได้แล้ว’ ว่าแล้วหญิงสาวก็เริ่มจัดการกับเอกสารหลายร้อยฉบับที่วางอยู่บนโต๊ะจนจัดวางอย่างเป็นระเบียบ หลังจากแยกประเภทเอกสารต่าง ๆเป็นชั่วโมง หญิงสาวปัดมือพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไปล้างมือ
ด้านพีทษรุทนั่งฟังประชุมด้วยในใจที่ว้าวุ่น เพราะหน้าของหญิงสาวลอยไปมา แล้วไหนจะรสจูบที่แสนหวานที่ทำเอาฤาษีที่เพื่อน ๆ เรียกสมญานามเค้า ตบะแตกก็คราวนี้ ฟังรายงานการประชุมแผนกต่าง ๆด้วยสมาธิที่มีอยู่น้อยนิด พลันนึกถึงสาวน้อย ป่านนี้คงอกสั่นขวัญหายด้วยสัญชาตญาณ ชายหนุ่มที่ผ่านประสบการณ์อันโชกโชนก็รู้ว่าตนเป็นจูบแรกของหญิงสาว การประชุมอันแสนยืดยาวก็จบลงชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาผ่านโต๊ะของหญิงสาวที่ว่างเปล่าพร้อมมองนาฬิกาเที่ยงครึ่ง หญิงสาวคงไปทานอาหารกับเพื่อน ๆ ของเธอ
พอเปิดประตูเข้าห้องทำงานของตนเอง พลันสายตาไปหยุดที่โต๊ะที่จัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย ชายหนุ่มกระชากประตูพร้อมกับตะคอกออกไปด้านนอก
“ ดม เข้ามานี่สิ” เลขาหนุ่มกระวีกระวาด
“ ใครเข้ามายุ่งบนโต๊ะทำงานผม ผมสั่งคุณแล้วใช่ไหม ไปหาตัวการมาด่วนที่สุดแล้วนี่ผมจะหาเอกสารผมเจอไหมเนี่ย” ชายหนุ่มตะคอกด้วยความโมโห ด้วยความไม่ได้ ดั่งใจ
“วันนี้เป็นวันไรเนี่ย ยัยแพมแน่ๆ นี่อุตส่าห์เตือนแล้วนะ ตัวใครตัวมันแล้วกันน้องเอ๋ย” อุดมเลขาหนุ่มบ่นพึมพำว่าแล้วก็กระแทกตัวนั่งด้วยอารมณ์คุกรุ่น
สาวน้อยเดินถือมะม่วงดองมะยมดองพร้อมกับรอยยิ้มส่งให้เลขารุ่นพี่มาแต่ไกลไม่ได้สังเกตใบหน้าที่ยุ่งเหยิงของเลขารุ่นพี่เลยสักนิด
“ ยัยแพมเธอไปจัดโต๊ะเจ้านายเหรอ พี่บอกเธอแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปยุ่ง ท่านหวงของท่าน ไม่เคยมีใครไปจัดโต๊ะท่านได้” เลขารุ่นพี่เทศนาพร้อมดันให้หญิงสาวเข้าห้องเจ้านายหนุ่มไป
“ หนูจัดเอง ก็มันรกหนูวางเอกสารไม่ได้ เอกสารมันเลื่อนหล่นบนพื้นเต็มไปหมด เป็นไงเป็นกันวันนี้หนูจะงัดกับเจ้านายสักตั้ง” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนเข้าห้อง ก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วยกมือขึ้นเคาะประตู
“ ก๊อก ๆ”
“ เข้ามา” น้ำเสียงห้วนสั้นตามเดิม หญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้า ในขณะที่ชายหนุ่มหันหลังให้กับหญิงสาวพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น
“ ใครอนุญาตให้คุณมาจัดโต๊ะทำงานผม อุดมไม่ได้บอกคุณหรือไงว่าผมสั่งห้าม”
พีทษรุทหันกลับมานัยน์ตาแข็งกร้าวเหมือนเสือจะขย้ำเหยื่อทุกขณะ
“ เคยค่ะแต่ดิฉันเห็นว่ามัน รก แล้วมันทำความยุ่งยาก ใจให้กับดิฉันมาก เจ้านายคะ คุณเอาเอกสารทุกอย่างมาสุม ๆ ไว้เต็มไปหมด ดิฉันจะเอาเอกสารมาวาง เอกสารก็เลื่อนตก ดิฉันก็เข้าใจนะคะว่ามันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ทำงานแบบไร้ระเบียบแบบนี้ คุณรู้ไหม คุณทำความยุ่งยากใจให้คนรอบข้างคุณ แม่บ้านก็ไม่กล้าจะดูดฝุ่นแรงเพราะกลัวว่าเอกสาร จะปลิว ก็มันวางสุม ๆ จนจะเป็นพีระมิดแล้ว แล้วดิฉันก็ยุ่งยากใจทุกครั้งที่เห็นอะไรที่ไม่เป็นระเบียบ ชีวิตการทำงานที่ไร้ระเบียบมันทำความยุ่งยากใจให้กับเพื่อนร่วมงานนะคะ เจ้านายคุณคงไม่รู้ว่าทั้งแม่บ้าน พี่ดมและฉันต้องเกร็งแค่ไหนเวลาจะเข้าห้องคุณ เดินแรงไปนิดก็กลัวว่าเอกสารมันจะเลื่อนตกลงมา พอจัดให้เป็นระเบียบ มันก็ยังมีที่อีกมากให้คุณวางเอกสารนะคะ ดิฉันแยกเอกสารออกเป็นสามหมวดหมู่ นี่เอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก อันนี้เอกสารของลูกค้าที่จะตอบกลับค่ะ อันนี้พวกเอกสารเวียนที่จะส่งให้
แผนกต่าง ๆ ค่ะ จัดให้เป็นระเบียบชีวิตคุณจะได้เป็นระเบียบขึ้นไงคะ”
หญิงสาวหยุดหอบเพราะอธิบายมาซะยืดยาว
ชายหนุ่มนึกขำ แต่ก็ก้าวออกมาแทบจะประชิดตัวหญิงสาว หญิงสาวถอยหลังจนเกือบชนเข้ากับชุดรับแขก
“ อืมคงจริงของคุณ ตั้งแต่แม่ผมตายก็ไม่ค่อยมีใครกล้ามาด่าผมซึ่ง ๆหน้าสักครั้ง คุณว่าอะไรนะ ชีวิตผมมันไร้ระเบียบใช่ไหม ดี ต่อไปดีผมคงต้องรบกวนให้คุณมาช่วยจัดระเบียบให้ชีวิตผมสักที ก็ดีเหมือนกัน ผมให้เวลาคุณกลับไปเก็บเสื้อผ้าสองวันพอไหม ต่อไปนี้ผมจะให้คุณดูแลชีวิตผมตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน เผื่อชีวิตผมจะเป็นระเบียบอย่างที่คุณว่าจริง ๆ ผมให้เวลาคุณไปเก็บเสื้อผ้า แล้วย้ายไปอยู่บ้านผม สองวันพอไหม ที่เหลือผมจะให้เด็กที่บ้านไปช่วยเก็บวันหลัง
“ บ้า นี่คุณนะบ้าเหรอให้เวลาฉันเก็บของสองวันแล้วย้ายไปอยู่บ้านคุณเนี่ยนะ นี่คุณกินยาเกินขนาดหรือเปล่า” ขณะที่พูดใจเธอสั่นระรัวไปกับสายตาที่ดุดัน
“ คุณคิดว่าผู้บริหารระดับสูงอย่างผมมีเวลามาพูดเล่นกับเด็กอย่างคุณหรือไง บอกแล้วไงว่าคุณต้องย้ายไปอยู่กับผม ผมให้เวลาคุณสองวันถ้าคุณไม่อยากให้คนในครอบครัวคุณได้รับความเดือดร้อน”
เสียงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวดังขึ้นทำให้หญิงสาวกดรับ เบี่ยงตัวพร้อมกับ ตอบสายไปเบา ๆ ว่า “ ว่าไงคะพี่ต้อม จะมารับแพมเหรอ แพมเลิกงานห้าโมงเย็นค่ะ โอเคที่เดิมแล้วเจอกัน” หญิงสาวกดปิดมือถือพร้อมกับเดินออกไปด้านหน้าเผชิญหน้ากับเจ้านายหนุ่ม
‘บ้า เค้าต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ’ หญิงสาวคิด
เสียงพูดโทรศัพท์เมื่อกี้ ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจกะทันหันจากบทสนทนาที่เค้าฟัง หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคงคุยกับไอ้ตำรวจหนุ่มที่เค้าเห็นเมื่อเช้าเป็นแน่แท้ อารมณ์หวงก้างทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจพูดออกไปว่า
“เลิกงานผมจะให้คนรถผมไปส่งคุณที่บ้านแล้วคุณตามเค้ากลับมาด้วย เดี๋ยวผมจะให้เด็กที่บ้านไปเก็บของของคุณที่เหลือ”
“อ้าว ไหนว่าสองวันไงอะไรกันนี่” หญิงสาวชักจะโมโหในความเอาแต่ใจของเจ้านายหนุ่ม
“ ผมเปลี่ยนใจแล้วผมใจร้อน คุณย้ายของมาวันนี้เลยเอาที่จำเป็น ส่วนของอย่างอื่น ผมเตรียมไว้หมดแล้ว”
“ เจ้านายคะ ฉันย้ายไปอยู่บ้านคุณไม่ได้หรอกนะ แล้วใครจะดูแลแม่และยายของฉันล่ะค่ะ ผู้หญิงสองคนกลางสวนเมืองนนท์”
หญิงสาวออดอ้อนเพราะเห็นว่าใช้ไม้แข็งกับคนแบบนี้ไม่ได้
“ ณพิชชาผมเคยบอกคุณแล้ว สักวันคุณก็ต้องมีครอบครัว แล้วย้ายออกจากบ้านมา คุณจะเกาะติดแม่คุณยายคุณตลอดไปไม่ได้หรอก” ชายหนุ่มเสียงกร้าว
“ แต่ในเมื่อคุณเป็นห่วง ผมจะส่งเด็กที่บ้านไปดูแลแม่และยายคุณเป็นการตอบแทน ที่คุณจะมาจัดระเบียบในชีวิตผม แล้วด้วยคุณติดแม่เป็นตังเม ผมจะให้คุณไปค้างกับแม่ อาทิตย์ละหนึ่งวันเย็นวันศุกร์ เช้าวันอาทิตย์ผมจะให้รถไปรับ คุณเป็นคนเสนอตัวมาจัดระเบียบชีวิตผมเองนะ ผมก็แค่สนอง”
“ ถ้าคุณจะให้ฉันย้ายไปบ้านคุณ ฉันขอลาออก” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมน้ำตาไหลพราก ๆ
ชายหนุ่มตกใจ แต่ต้องทำใจแข็งกับน้ำตาของหญิงสาวที่ตนเองแอบรัก
“ คุณเซ็นต์สัญญาว่าจ้างแล้วอ่านรายเอียดสัญญาว่าจ้างหรือเปล่า ว่าคุณไม่สามารถลาออกได้โดยไม่มีเหตุผล จะลาออกได้ต้องแจ้งล่วงหน้าสามเดือนหรือยอมชดใช้เป็นเงินหนึ่งร้อยเท่าของเงินเดือน ก็แค่สามล้าน มิฉะนั้นคุณคงทำให้คนที่ค้ำประกันคุณเข้าทำงานเดือดร้อนแล้วล่ะงานนี้”
พีทษรุทกล่าวด้วยความมั่นใจว่าถือไพ่เหนือกว่า
“ ผมว่าเสียเวลามาต่อล้อต่อเถียงกันผมพูดคำไหนคำนั้น คุณออกไปได้เดี๋ยวผมจะให้ลุงแช่มไปส่งคุณแล้วตามเค้ากลับมาด้วย ผมจะรอทานข้าวเย็น คุณต้องถึงบ้านผมทุ่มครึ่งผมจะรอ ออกไปได้ อ้อ ไหนเอามือถือคุณมาสิ”
หญิงสาวน้ำตาไหลพราก ๆพร้อมกับยื่นมือถือให้เค้าแบบผู้แพ้ยอมจำนน ชายหนุ่มกดเบอร์ตัวเองจากเครื่องหญิงสาว
“นี่เบอร์ผม ต่อไปผมจะตามคุณได้ทุกที่ ในเมื่อคุณเสนอตัวมาจัดระเบียบในชีวิตผมแล้วนี่”
ชายหนุ่มส่งมือถือคืนพร้อมกับอมยิ้มกับชัยชนะที่ได้มาแบบไม่รู้ตัว คิดหาทางอยู่หลายวันว่าทำไงจะได้หญิงสาวไปไว้ที่บ้าน อยู่ ๆ ก็เจอหนทาง แบบไม่รู้ตัว ก่อนที่หญิงสาว จะก้าวพ้นห้องทำงาน
“ แล้วอย่าลืมโทรไปยกเลิกคนที่มาส่งคุณเมื่อเช้าด้วยว่าคุณไม่ว่างไปกับเค้าแล้ว” น้ำเสียงสั้นห้วนอีกตามเคย