ณ บ้านหลังเล็กกลางสวนหญิงสาวผมยาว ตาคม ริมฝีปากอิ่มวิ่งลงบันไดด้วยความรีบร้อน
“ แม่คะ แพมไม่ทันแล้ว แพมไม่ทานอาหารเช้านะคะ วันนี้มีสัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่แถวสุขุมวิทค่ะ ตายแน่แล้วจะทันไหมเนี่ย” หญิงสาวรีบร้อนใส่รองเท้า อีกมือถือเอกสาร
นางกาบชะโงกหน้ามาจากครัวเล็ก ๆ
“ ยายหนู วันนี้แกงส้มของโปรดนะจ๊ะ” หญิงสาววิ่งเข้ามากอดแล้วหอมแก้ม
“ไม่ทันแล้วค่ะ ไปนะคะแม่ อวยพรให้หนูด้วยนะจ๊ะ ในที่สุดหนูก็จะได้เป็นพนักงานบริษัทเอสทีจี บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาทั่วโลกมีเงินทุนหมุนเวียนมหาศาลเป็นบริษัทที่ได้ชื่อว่าสามารถทำเงินให้ประเทศปีละหลายแสนล้าน”
ณพิชชาไม่คิดว่าเธอจะมีวันนี้ แต่เมื่อโอกาสมาถึงมีหรือเธอจะไม่ไขว่คว้า นึกย้อนไปเมื่อสามเดือนก่อนที่เธออ่านเจอประกาศรับสมัครงาน เธอแทบกรี๊ดเธอและเพื่อน ๆ ในกลุ่มไปยื่นใบสมัครกันทุกคน ผลปรากฏว่าเธอติดหนึ่งในสิบคนที่ได้รับคัดเลือกจากคนเรือนแสน จากนั้นสองเดือนต่อมาพวกเธอสิบคนก็ถูกเคี่ยวจากหัวหน้าฝ่ายบุคคลคุณสมทรงอย่างหนักหน่วง วันนี้แล้วสินะที่เธอจะรู้ว่าเธอจะได้ทำแผนกไหน ว่าแล้วเดินจ้ำอ้าวผ่านร่องสวนกระโดดด้วยความเคยชินจนถึงปากทาง แล้วลัดเลาะไปหน้าปากซอย
โหแต่งตัวด้วยชุดเก่งที่ได้รับการตัดเย็บจากแม่กาบ โหนรถเมล์อีกแล้วเหรอนี่ เมื่อไหร่ฉันจะมีเงินซื้อรถเก่า ๆ สักคันเนี่ย จะได้ไม่ต้องมาเบียดทั้งร้อนทั้งเหนื่อยแบบนี้ อิอิ นึกไปก็วาดฝันว่าจะได้งานแผนกไหนหนอ
จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าบริษัทเอสทีจี สำนักงานใหญ่ มองขึ้นไปถึงชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบเอ็ด ในที่สุดฝันของฉันก็เป็นจริง หยิกตัวเองอีกครั้ง
“โอ๊ยเจ็บ” ก้มมองนาฬิกาอีกห้านาทีแปดโมง ณพิชชาหรือแพมที่เพื่อนๆชอบเรียกก็วิ่งปรู๊ดไปที่ลิฟท์ตัวใหญ่
“รอด้วยค่ะ” ว่าแล้วก็วิ่งเข้าตัวลิฟท์จนชนเข้ากับร่างหนุ่มใหญ่ จนเอกสารที่หอบมาด้วยหล่นกระจุย
“ขอโทษค่ะ แพมรีบไปหน่อย” ระหว่างเก็บก็เงยหน้ามองคนที่ชน
“เจ็บไหมคะคุณ โทษทีนะคะรีบจริงๆค่ะ”
ชายร่างใหญ่ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉย ช่วยจับมือเธอ ระหว่างนั้นณพิชชาลอบมองใบหน้าของบุรุษรูปงาม
‘อืม หล่อมากต้องเป็นลูกครึ่งแน่ๆ คิ้วเข้ม จมูกโด่งริมฝีปากบาง โฮ๊ย ตอนเค้ายืนสูงมาก ร้อยแปดสิบแน่ๆ คนบ้าไรเนี่ย หล่อมาก’ ณพิชชา รำพึงในใจ
ระหว่างนั้นพีทษรุทหรือพีทก็มองกลับไปที่สาวน้อยที่ซุ่มซ่ามมาชนเข้ากับตน สวย ผมยาว คิ้มเข้ม รอยยิ้มแหยๆ ตอนขอโทษกระตุกใจที่เคยด้านชามาเกือบห้าปีให้เต้นรัวได้ไม่ยาก โดยเฉพาะริมฝีปากอวบอิ่มเวลาเจรจาแล้วนัยน์ตาที่สุกใส ทำให้ชายหนุ่มที่ไม่เคยสนใจหญิงสาวมาห้าปีเต็มๆ ใจเต้นแบบไม่รู้ตัว แล้วได้ยินเธอบ่นระงม
“ทันไหมเนี่ย” ลิฟท์จอดชั้นสิบหกตามที่เธอกด เธอหันมาพูดกับเค้าว่า
“ ขอโทษอีกครั้งนะคะ คุณ คุณคงทำงานที่นี่ใช่ไหมคะ ยินดี ที่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานกันนะคะ” แล้วเสียงเธอก็เจื้อยแจ้วแบบไม่ต้องการคำตอบจากเค้า ชายหนุ่มมองกลับแล้วพูดด้วยน้ำเสียงขรึมว่า
“ คราวหลังระวังหน่อยคุณเป็นผู้หญิง”
หญิงสาวหน้างอ ในใจอดด่าในใจ ‘อีตาบ้าฉันอุตส่าห์ขอโทษยังมาเทศน์อีก คนอะไรหน้าตาก็ดีแต่มารยาทแย่มาก’ ว่าแล้วเธอก็วิ่งไปไม่เหลียวหลังเลยไม่เห็นรอยยิ้มของชายหนุ่มรูปงาม
หลังจากประตูลิฟท์ปิด ชายหนุ่มกดมือถือหาเลขาหนุ่มคู่ใจทันที
“ อุดม คุณช่วยหาเทปวงจรปิดลิฟท์ตัวที่เก้ามาให้ผมที่ห้องด่่วนที่สุดผมอยากตามหาใครคนหนึ่ง”
“ผู้หญิงหรือผู้ชายฮะเจ้านาย”
เจ้านายหนุ่มตอบกลับไปว่า “ ผู้หญิง ด่วนที่สุดนะอุดม” ว่าแล้วเลขาหนุ่มนะยะก็กระวีกระวาดโทรไปที่หน่วยรักษาความปลอดภัย
“ช่วยหาเทปวงจรปิดส่งมาที่ฝ่ายบริหารชั้นสามสิบเอ็ดด่วนนะฮะ อีกสามสิบนาที โอเคแค่นี้นะ”
เจ้านายหนุ่มเดินหน้าขรึมมาที่โต๊ะเลขา “ได้เรื่องไหมว่าไง”
“ อีกสามสิบนาทีฮะ เจ้านาย” ว่าแล้วเจ้านายหนุ่มก็เดินจากไป ทิ้งปริศนาให้เลขาหนุ่มนะยะครุ่นคิด
“ บอสจะหาสาวที่ไหนหว่า ปกติให้เราสับรางหลบหนีสาวนั้นนี้โน้น จนทำให้เราคิดว่าเป็นเก้งหรือเปล่าแล้วนี่จะหาสาวที่ไหนเนี่ย”
ข้างฝ่ายณพิชชาสาวสวยวิ่งกระหืดกระหอบมาที่หัวหน้าฝ่ายบุคคล คุณสมทรง
“ เธอมาสายห้านาที สามสิบหกวินาทีนะคุณณพิชชา นโรดม” หญิงสาวยกมือไหว้ทำหน้าจ๋อยสุดฤทธิ์
“ขอโทษค่ะ หนูจะไม่มาสายอีกแล้วค่ะ”
“บ้านอยูนนทบุรี ไกลไปนะสำหรับการเดินทางมาสำนักงานใหญ่ เนี่ยหรือเราคิดว่าไง”
คุณสมทรงขยับแว่นมองลอดแว่นสีดำค่อนข้างหนา แต่แปลกใจนึกเอ็นดูเด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“ หนูอยู่กับแม่กับยายที่บ้านสวนค่ะ พี่ชายไปทำงานต่างจังหวัดนาน ๆจะกลับบ้านทีหนูเป็นห่วงค่ะ หนูสัญญาค่ะว่าจะพยายามมาให้ตรงเวลา” คุณสมทรงถอนหายใจยาวแล้วพูดว่า
“ จริงๆ บริษัทมีหอพักให้พนักงานที่อยู่บ้านไกลจากนี่ไปสองป้ายรถเมล์ ถ้าเธอสนใจติดต่อคุณวิชัย เลขาฉันได้” ณพิชชายิ้มประจบแล้วพูดหนักแน่นว่า
“ ไม่ดีกว่าค่ะ อยากอยู่กับแม่กับยายค่ะ”
คุณสมทรงปิดแฟ้มประวัติณพิชชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นว่า
“ ฉันถูกใจการทำงานและผลการเรียนของเธอ เป็นเด็กกิจกรรมที่ไม่ได้สนใจเรียนอย่างเดียว แล้วฉันก็ชอบเด็กที่กตัญญู เอาเป็นว่าเรารับคุณเข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนขั้นแรกสองหมื่นห้าโบนัสสองครั้งต่อปีแล้วแต่ผลงาน เดี๋ยววิชัยจะพาเธอไปที่โต๊ะทำงานแล้วพาเธอไปแนะนำกับพนักงานในแผนกของเรากว่าสามสิบเก้าคน สำนักงานใหญ่มีพนักงานตั้งแต่ระดับล่างถึงซีอีโอสูงสุดสามพันกว่าคน เธอก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป เรื่อย ๆ ทำงานไปเรื่อย ๆก็รู้จักครบเองเข้าสักวัน แล้วอย่ามาสายบ่อยจะโดนหักคะแนนมีผลกับเงินเดือนและเงินโบนัสของเธอเองรู้ไหมณพิชชา”
“เรียกหนูว่าแพมก็ได้ค่ะ คุณสมทรงอายุคงพอกับคุณแม่หนู”
“อืมไปได้แล้ว” แล้วคุณสมทรงกดโทรศัพท์ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มเหมือนเดิมว่า
“วิชัยเข้ามาหาฉันด้วย” อีกไม่ถึงอึดใจเลขาร่างท้วมก็เดินกรีดกรายเข้ามา
“ ช่วยพาณพิชชาไปที่นั่งเค้าแล้ว พาเค้าไปแนะนำให้แผนกเค้ารู้จักด้วย แล้วรายงานการประชุมเมื่อวานได้หรือยัง”
“อีกนิดเดียวค้า ไม่เกินเที่ยงชัยจะเอามาให้เซ็นค่ะ” ว่าแล้วเลขาร่างท้วมก็ทั้งลากทั้งจูงให้เธอเดินตาม เลขาหนุ่มร่างท้วมหันมามองหน้าเธอแล้วบอกว่า
“ เธอเนี่ยเป็นชะนีที่น่ารักมาก ฉันชื่อวิชัยแต่อย่าเรียกชื่อเต็ม ไม่งั้นมีโกรธเรียกฉันว่าทรายนะจ๊ะ ชื่อที่ฉันใช้เล่นเฟส อิอิ คุณสมทรงเนี่ยพวกเราเรียกว่าคุณระเบียบเพราะเธอจะระเบียบมาก เปลี่ยนเลขามาแล้วสิบเจ็ดคน ฉันคนที่สิบเจ็ดอยู่กับเธอมาห้าปีแล้วจริง ๆ แกก็ดีนะติดที่ขี้บ่นไปหน่อย อิอิ แอบเม้าส์เจ้านาย ไป ฉันจะพาเธอไปแนะนำให้แผนกบุคคล”
ว่าแล้วเธอก็ตบมือแล้วแนะนำเสียงดังว่า
“ พวกเรา นี่น้องใหม่ชื่อณพิชชา ชื่อเล่นแพมมาทำงานวันนี้วันแรกแนะนำกันด้วยนะจ๊ะ” ณพิชชายกมือไหว้ก้มศีรษะ ทุกคนปรบมือต้อนรับ ส่วนผู้ชายก็ผิวปากกันสนั่น
“โน่นโต๊ะน้อง” แล้วเธอก็เดินผ่านโต๊ะที่เรียงรายเป็นแถวเป็นแนวอย่างระเบียบกว่ายี่สิบโต๊ะ อีกห้องก็ขนาดเดียวกันแต่เธออยู่ส่วนนี้
“ที่นั่งในลึกสุดนั้นของเธอชอบไหม”
“ แหมพี่ทรายชอบสิคะ บริษัทในฝันของหนูตอนเรียนหนังสือเลยนะเนี่ย”
‘เข้ามาได้ก็บุญแล้ว’ แพมนึกในใจ เธอนั่งที่โต๊ะในขณะที่เลขาร่างท้วมหันกลับไปที่ห้อง
“ฉันชื่อสุดาจ้า ฉันจะเป็นพี่เลี้ยงเธอเอง เธอเอาเอกสารนี้ไปก๊อปปี้แล้วช่วยพิมพ์ยอดนี้มาให้ใหม่ด้วยนะ” ว่าแล้วสุดาก็หันไปทำงานต่ออย่างขยัน เธอมองไปทั่ว ๆ ห้องที่ต่างคนต่างทำงาน ชีวิตการทำงานของฉันเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ ว่าแล้วณพิชชาก็ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไปเช่นกัน
เสียงกริ่งโทรศัพท์ดัง เลขาหนุ่มรีบรับ มือก็สาละวนกับการโหลดรูปลงไอแพด
“ ครับเจ้านายได้แล้วครับ กำลังโหลดอยู่ อีกห้านาทีฮะ ครับผม ครับผม โห้ย อะไรเนี่่ยทำไมเจ้านายต้องจี้ขนาดนี้วะ สาวเจ้าคนนี้เป็นใครเจ้านายถึงร้อนใจให้หา”
เลขาหนุ่มนะยะอยากรู้ขี้นมาตะหงิดว่าแล้วรีบเอาไอแพดเข้าไปส่งให้เจ้านายโดยเร็ว
“ ได้แล้วฮะเจ้านาย ดมลงให้แล้วฮะจะให้ทำไรต่อไหม”
“ ออกไปก่อน เดี๋ยวมีอะไรแล้วจะเรียก” เสียงเจ้านายหนุ่มห้วนและเข้มตามสไตล์ คล้อยหลังเลขาหนุ่ม พีทษรุทกดเปิดภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ มันเหมือนพึ่งเกิดขึ้น เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“ เธอคือใคร แววตารอยยิ้มริมฝีปาก อิ่มย้อย รอยลักยิ้มน่ารัก ใบหน้า เรือนผมหรือแม้แต่เสียงของเธอยังก้องอยู่ที่หูอยู่เลย ยังไงฉันต้องรู้จักเธอให้ได้แม่สาวน้อย”
“ดม เข้ามาหาผมหน่อย” ว่าแล้วเจ้านายหนุ่มก็ผลักไอแพด แล้วกดเล่นให้เลขาหนุ่มดู เลขาหนุ่มปิดปากอ้าปากตกใจในภาพที่เกิดขึ้นภาพที่เจ้านายหนุ่มช่วยเก็บเอกสารแล้วช่วย พยุงสาวน้อยขึ้นมา
“ช่วยเอาไปให้แผนกบุคคลดู แล้วหาว่าเธอทำงานแผนกอะไรชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน ผมอยากทราบประวัติโดยละเอียดด่วนที่สุดเข้าใจไหม”
“ครับเจ้านาย” ว่าแล้วเลขาหนุ่มก็กระวีกระวาดออกจากห้องไปแล้ว ดึงเฉพาะรูปแต่สาวน้อยแล้ว ดึงออกมาแล้วรีบลงไปชั้นสิบหกที่เป็นที่ตั้งของแผนกบุคคลทันที
“ พี่ดม มาทำไรถึงนี่จ้า มีไรมาเม้าส์ให้น้องฟังเหรอเร็วมาอัพเดทข่าวเร็ว ๆ”
“ ชั้นมาหาคุณสมทรงอยู่ไหม”
“เข้าประชุมพี่เมื่อกี้เองมีไร ฝากบอกน้องได้นะจ๊ะ”
เลขาหนุ่มขมวดคิ้ว “แย่จัง อืมฝากให้คุณสมทรงดูแล้วโทรหาฉันด้วย ด่วนที่สุดเลยนะ ฉันอยากได้ประวัติโดยละเอียดของน้องในรูปนี้” ว่าแล้วเลขาหนุ่มก็เดินจากไปด้วยท่าทางรีบร้อน เลขาหนุ่มโทรเข้าไปหาเจ้านายหนุ่ม
“ อืมว่าไง ได้เรื่องไหม”
“ยังฮะเจ้านาย คุณสมทรงเข้าประชุม ยังไม่ได้รายละเอียดไรฮะ”
เจ้านายหนุ่ม พูดเสียงเข้มตอบมาว่า
“ ผมให้เวลาคุณถึงสี่โมงเย็น” เสร็จก็วางหูดังโครม
‘โฮ๊ย พายุสลาตันอะไรหว่า ผู้หญิงคนนี้ต้องสำคัญสำหรับเจ้านายมาก ๆ แน่ ๆ’
อุดมครุ่นคิดอย่างอยากรู้อยากเห็นสุดๆ
ความคิดเห็น