"นายครับ นายครับ"
นธีหนุ่มน้อยวัยยี่สิบต้นๆวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางไร่ศีขรินเพื่อมาตามผู้เป็นเจ้านายของเขา
สายตาคมของหนุ่มน้อยกวาดมองไปรอบๆพร้อมกับพักหายใจไปด้วยเมื่อเข้ามาถึงภายในบ้านหลังใหญ่โตราวกับวัง
ภายในบ้านหลังนี้ถึงจะกว้างใหญ่แต่เงียบสงบเพราะมีเพียงเจ้านายของเขาที่เขายังหาไม่เจอในตอนนี้อาศัยอยู่เพียงคนเดียว
"มีอะไร"
ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากภายในห้องนั่งเล่นตามเสียงเรียกของลูกน้อง ในมือของเขาถือขวดเหล้าออกมาด้วยเพราะเวลาเย็นย่ำแบบนี้ถือเป็นเวลาส่วนตัวของเขาแล้ว เขามักจะนั่งดื่มเหล้าคนเดียวแบบนี้ประจำ
"ไอ้ไผ่กับทิดดำกำลังจะยิงกันครับ"
นธีรีบพูดในสิ่งที่ทำให้เขาต้องมาถึงที่นี่ทันที เพราะปกติภายในบ้านแห่งนี้ถือเป็นที่ต้องห้ามสำหรับคนงานด้วยเจ้านายของเขาชอบความเป็นส่วนตัว จะมีแต่แม่บ้านกับแม่ครัวเท่านั้นที่จะเข้ามาที่นี่ได้
"ก็ปล่อยให้มันยิงกันไป มึงจะเสือกมารายงานกูทำไม"
ภูผากระดกเหล้าเข้าปากเพื่อดับความโมโหที่ลูกน้องเอาเรื่องไร้สาระมารายงานแต่มันก็ดับได้ไม่หมดเขายังตะคอกใส่ลูกน้องต่ออีกด้วยน้ำเสียงอันแสนดังน่าเกรงขาม
"นายจะไม่ไปดูหน่อยเหรอครับ"
หนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลายังคงเซ้าซี้ผู้เป็นเจ้านายต่อเพราะเหตุการณ์ทะเลาะกันมันค่อนข้างร้ายแรงไม่ใช่แค่ชกต่อยธรรมดาเหมือนคู่อื่นๆ
"รอมันสองตัวตายก่อนแล้วเดี๋ยวกูค่อยไปดู มึงมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม จบเรื่องแล้วก็ออกไปจากบ้านกูได้แล้ว"
ภูผาเดินกลับเข้าไปภายในห้องนั่งเล่นต่อพร้อมกับขวดเหล้าในมือยกขึ้นกระดกเข้าปากไปตลอดทาง เขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตายเขาสนเพียงเหล้าในขวดกับเวลาส่วนตัวมากกว่า
"แต่อีหวานกำลังท้องถ้าเกิดไอ้ไผ่ตายตอนนี้เด็กที่จะเกิดก็อาจจะกำพร้าได้นะนาย"
นธีรวบรวมความกล้าเดินตามผู้เป็นเจ้านายเข้ามาในห้องนั่งเล่น เพื่อจะโน้มน้าวให้ผู้เป็นเจ้านายยอมไปดูเหตุการณ์จะยิงกันของคนงานให้ได้ ด้วยสองคนนั้นทะเลาะกันรุนแรงมีแต่เจ้านายของเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะเข้าไปห้ามทัพได้
"ช่างหัวมัน"
ขวดเหล้าในมือหนาที่ถูกดื่มจนหมดพอดีถูกปาไปยังร่างของนธีที่เดินเข้ามาภายในห้องแห่งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงเขาจะเริ่มเมาแต่เขาก็ยังคงเล็งเป้าหมายให้กับขวดนั้นค่อนข้างแม่นอยู่พอสมควร
"นายไปดูหน่อยเถอะ ปังๆ"
นธีกระโดดหลบขวดเหล้าแทบไม่ทัน และก็ต้องกระโดดหลบกระสุนปืนที่ถูกยิงสาดเข้ามาด้วยอีกทาง เรียกได้ว่าเกือบจะตายตรงนี้เสียแล้ว
"ไปหยิบปืนแล้วตามกูมา"
ภูผารีบก้าวเท้าเดินออกจากห้องนั่งเล่นด้วยความรวดเร็วถึงแม้จะเริ่มเมาแล้วก็ตาม เขาออกไปด้วยความโมโหที่อยากจะจัดการคนทั้งสอง ด้วยทั้งคนสองกล้าดีมายิงปืนใส่บ้านที่เขาพักอยู่ แบบนี้เท่ากับว่าอยากจะฆ่าเขาเพราะฉะนั้นมันจะต้องเจอดีกลับไป
"ครับ"
หนุ่มน้อยวิ่งตัวปลิวไปหยิบปืนคู่ใจให้กับเจ้านายในทันทีแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านตามเจ้านายของเขาไป เขาค่อนข้างรู้ว่าอะไรของเจ้านายถูกเก็บไว้ตรงไหนถึงแม้จะเพิ่งเข้ามารับใช้เจ้านายได้เพียงสองปีก็ตาม
"ปัง ปัง ปัง"
เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นอีกครั้งตรงลานกว้างหน้าโรงอาหารภายในไร่ศีขริน
นกตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังหาที่หลับที่นอนในเวลาใกล้มืดบินแตกฮือออกจากต้นไม้ที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นด้วยความตกใจ
คนงานทั้งหญิงชายพากันตกใจหาที่หลบกระสุนปืนจ้าละหวั่นด้วยความหวาดกลัว เพราะภูผาผู้ปกครองที่นี่ด้วยความป่าเถื่อนตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาดูแลที่นี่ต่อจากพ่อเลี้ยงอาทิตย์ เขาจะยิงจริงถ้าใครกล้าไปลองดีกับเขา
"มึงใช่ไหมตัวก่อเรื่อง"
ภูผาเดินเข้าไปหาทิดดำหนึ่งในคู่ทะเลาะวิวาทตามคำบอกเล่าของนธี ปลายกระบอกปืนของเขาจ่อตรงที่ศีรษะของทิดดำในทันที เพื่อหวังจะจบเรื่องน่ารำคาญพวกนี้
"ยิงมันเลยครับนายมันแอบเล่นชู้กับเมียผม ยิงมันให้หัวระเบิดตายคาที่ไปเลย"
ไผ่หนุ่มน้อยที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับนธีในมือของเขายังคงถือปืนอยู่แต่กลับไม่กล้ายิงทิดดำ พอเห็นว่าผู้เป็นเจ้านายตั้งท่าจะลงโทษคนชั่วที่มาแอบเล่นชู้กับเมียของเขาจนท้องโตก็รีบตะโกนส่งเสียงออกไปในทันทีด้วยความคับแค้นใจที่ยังคงสุมอยู่ในอก
"ปัง"
เสียงปืนของภูผาผู้เป็นดั่งเจ้าของชีวิตของทุกคนภายในไร่แห่งนี้ดังขึ้นอีกครั้ง ภูผายิงออกไปโดยไม่ได้มองเพราะสายตาของยังคงจ้องมองชายกลางคนที่ไม่น่าจะเป็นชู้กับเมียใครได้อยู่ แต่เขาก็เล็งแม่นเพราะตลอดสิบกว่าปีที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเขานั้นยิงปืนแก้เบื่อทุกวัน
"โอ๊ย"
กระสุนปืนฝังเข้าไปในส่วนเนื้อตรงหัวไหล่ของไผ่หนุ่มน้อยที่เพิ่งจะเอ่ยวาจาออกมาเมื่อตะกี้
ร่างหนาของไผ่ทรุดลงไปนอนดิ้นเพราะความเจ็บปวดที่พื้นทันที
สองมือของไผ่ที่ข้างหนึ่งยังถือปืนที่เคยใช้ยิงอยู่ช่วยกันปิดแผลที่เลือดกำลังไหลอาบเพื่อหวังเบาเทาความเจ็บปวด
"ผู้หญิงคนที่พวกมึงแย้งกันคือใคร"
ภูผากระชากคอเสื้อของทิดดำคนงานเก่าแก่ที่เขามักจะเห็นหน้าอยู่บ่อยๆเวลาออกตรวจงานภายในไร่ขึ้นมาถาม
ทิดดำได้แต่ส่ายหน้าไปมาเหมือนที่เขาทำกับไผ่เพราะเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ เขาแค่เอ็นดูเมียของไผ่เหมือนลูกเหมือนหลานเท่านั้นเองเลยคอยช่วยเหลือเมื่อเมียของไผ่มาเอ่ยปากว่าลำบากขาดแคลน
"ไปสิอีหวาน เดี๋ยวนายก็ยิงผัวมึงตายทั้งคู่หรอก"
คนงานในครัวของไร่ศีขรินคนหนึ่งรีบดันร่างของสาวท้องที่เป็นต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องทะเลาะวิวาทในวันนี้ให้เดินเข้าไปหาภูผาผู้เป็นเจ้านายของเขาแล้วรีบวิ่งกลับไปหลบกระสุนปืนตรงต้นไม้ใหญ่ที่เดิม
"ตามกูมานี้"
มือหนาของภูผาข้างที่ไม่ได้ถือปืนอยู่ดันอกของทิดดำด้วยความแรงจนทิดดำถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อให้หลบทางเดินของเขาแล้วเข้าไปกระชากแขนหญิงสาวที่กำลังตั้งท้องให้ออกเดินตามเขาไป
"นายปล่อยหนูไปเถอะ หนูกำลังท้อง นายอย่าทำหนูเลยนะ"
หวานหญิงสาวแรกรุ่นที่กำลังตั้งครรภ์กรีดร้องลั่นตลอดทางที่เธอถูกภูผาผู้เป็นเจ้านายฉุดกระชากให้เดินตามไป ใบหน้าสะสวยตามวัยหันหน้าหันหลังมองไปยังกลุ่มคนงานที่ต่างยืนมองมายังเธอเพื่อหวังให้ใครสักคนเข้ามาช่วยเธอให้รอดไปจากตรงนี้แม้เป็นเพื่อความหวังลมๆแล้งๆก็ตาม เพราะคนงานที่นี้ไม่มีใครกล้าหือกับภูผาแม้แต่คนเดียว
"เป็นอะไรหรือเปล่า"ร่างหนาวิ่งเข้ามารับร่างบางเอาไว้ได้ทันจากทางด้านหลัง สองแขนแกร่งประคองกอดเธอเอาไว้แน่น ใบหน้าแนบชิดไปกับคนที่ตั้งท่าจะล้มพอดิบพอดีเกือบไปแล้วเหมือนกันที่จะมาไม่ทัน แต่ก็โชคยังดีที่เขาลงจากรถมาแล้วเห็นเธอเดินออกมาจากบ้านเลยรีบเดินมาหาเพื่อจะทักทาย"ตัวเองมาได้ยังไง"กลิ่นกายหอมอันแสนเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มบวกกับน้ำเสียงอันแสนอบอุ่นทำให้เธอจำได้ในทันทีว่าคนที่เข้ามากอดจากด้านหลังเป็นใครโดยไม่ต้องหันหน้ากลับไปมองใจดวงน้อยที่เคยเต้นแรงด้วยความตกใจเมื่อตัวเองกำลังจะล้มนั้น ตอนนี้กลับกำลังเต้นแรงโครมครามที่ชายหนุ่มมาปรากฏตัวขึ้นเขากำลังให้ความสำคัญกับเธอมากขึ้นอีกขั้นด้วยการตามติดมาถึงที่นี้ทั้งที่งานของเขายุ่งมากเธอเองก็รู้ แต่สถานะยังคงกำกวมขาดความชัดเจน"ขับรถมา"นธีตอบออกมาตรงๆ ตามความจริงพร้อมกับบุ้ยปากไปทางที่รถจอดอยู่เพื่อให้เธอได้เห็นเขาขับรถไปส่งเจ้านายเรียบร้อยที่กรุงเทพแล้วก็ขับรถต่อมาหาเธอที่นี่เลยอย่างไม่รอช้าระยะทางค่อนข้างยาวจนเขารู้สึกเหนื่อย แต่ก็ยังฝืนมาจนถึง"ห๊ะ"สายบัวถึงกับตาโตเท่าไข่ห่านแม้ในความมืดมิดก็ยังเห็นความใหญ่โตนั้นเมื่อมองเห็นรถของ
"ตะ"สายบัวที่กำลังก้มหน้าเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมที่จะกลับบ้านในวันหยุดยาวถึงกับชะงักเล็กน้อยเมื่อกำลังจะเอ่ยทักทายชายหนุ่มที่เดินเข้ามาภายในห้องนอนของตัวเขาเองด้วยเพียงชื่อเล่นสั้นๆ เท่านั้นตามความเคยชินที่เธอใช้เรียกเขาต่อหน้าคนอื่นปากบางรีบเม้มเข้าหากันเมื่อสายตาของเขาจ้องเขม็งมาลมหายใจติดขัดเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบทลงโทษที่จะต้องเจอเมื่อเผลอพูดผิดคงได้เสียวกันทั้งวันทั้งคืนอีกแน่"ว่าไง"นธีเดินเข้ามาหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงนอนของเขาข้างๆ กับกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอใบหน้าหล่อคมยุ่งเล็กน้อยเมื่อก้มลงไปมองเสื้อผ้าหลายชุดของเธอถูกเก็บใส่ลงกระเป๋าเขาให้เธอย้ายมานอนที่ห้องเขาได้สามเดือนกว่าแล้ว แต่เขาไม่ว่างพอจะตามเธอกลับบ้านในช่วงวันหยุดด้วย เพราะต้องขับรถพาเจ้านายกลับเข้ากรุงเทพต้องยอมรับว่าเขาใจหายที่จะไม่มีเธอนอนกอดสองสามคืนข้างหน้าที่จะมาถึง"ตัวเอง กินข้าวมาหรือยัง เค้าต้มมาม่าให้เอาไหม"หญิงสาวตั้งสติทักทายคนเพิ่งเลิกงานมาใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เขาลงโทษเธอด้วยพรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไปขึ้นรถแต่เช้า โดยมีเขาไปส่งที่คิวรถก่อนที่จะกลับมาทำงานและไม่ลืมที่จะใส่ความห่วงใยไปในคำพูดนั้นด้วยเพ
"ทำไมมาดึก"ร่างหนาเดินมาเปิดประตูบ้านพักตามเสียงเคาะระรัวที่ดังเรียกให้เขาต้องลุกเดินมาเขามาด้วยความเร่งรีบเพราะพอจะเดาออกว่าใครมาเคาะประตู ด้วยเขานั้นนั่งรอเธอมาหลายชั่วโมงแล้วและกำลังจะรอไม่ไหวสายตาคมจ้องมองผู้มาเยือนอย่างคาดโทษด้วยเวลานี้มันตั้งสี่ทุ่มแล้ว เขาบอกให้เธอมาที่นี่ตั้งแต่เลิกงานไม่ใช่ป่านนี้"ฉันไม่อยากมา"ร่างบางเดินผ่านหน้าเขาเข้ามาภายในบ้านพักของเขา โดยไม่สนใจเขาทำราวกับเขาไม่มีตัวตรงเธอตรงดิ่งไปยังห้องนอนของเขาตามที่เขาต้องการ แล้วลงนอนบนเตียงนุ่มทันทีไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาให้มากความเพราะอยากจะรอให้เขาเผลอหลับแล้วหาบัตรประชาชนมาดูเพื่อให้รู้ความจริงไม่อย่างนั้นเธออาจถูกเขาขู่แล้วขู่อีกแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้"งั้นก็โทรแจ้งความเลยนะ"เสียงหนาตะโกนไล่หลังเธอไปและเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางเอาไว้ตรงหน้าทีวีมาเตรียมพร้อมเขาปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้เกิดแสงสว่างขึ้นพร้อมกับเดินย่างสามขุมเข้ามาหาเธอทำทีเป็นข่มขู่เพื่อให้เธอยอมเขาง่ายขึ้น ทั้งที่ความจริงเขาอายุยี่สิบสามปีนี้แล้วไม่มีการพรากผู้เยาว์เกิดขึ้นแน่นอน จะมีก็แต่พรากเธอออกจากห้องพักมานอนที่บ้
"ชนะสิ"ร่างหนาลงนอนบนเตียงข้างเธอพร้อมกับคุยโว้ถึงความเก่งของตัวเองที่เพิ่งไปเอาชนะกับแชมป์คนล่าสุดของสนามแข่งรถเถื่อนที่เขาใช้แข่งกันอย่างผิดกฎหมายมาเขาพลิกร่างนอนตะแคงเข้าหาเธอที่นอนหันหลังให้กับเขาอยู่แขนหนายกขึ้นกอดเกี่ยวเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็กกว่าใบหน้าหล่อคมที่แสนเหนื่อยล้าซบไปกับแผ่นหลังบางที่ถูกผ้าห่มปิดจนมิดชิดสูดกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอผ่านมัน"เหรอ"หยดน้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาอย่างไม่รู้ตัว ใจดวงเล็กในอกสั่นหวั่นไหวไปกับคำตอบที่ได้รับรางวัลของคนชนะคงดีน่าดูไม่อย่างนั้นคงไม่รั้งเขาไว้จนเกือบสว่างแบบนี้สุดท้ายเธอก็ไร้ค่าเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ของเขาชั่วคราว ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ที่เขาพาเข้ามาอยู่ในบ้านพักส่วนตัวก็คงเป็นเพราะมันดูสะดวกดีแค่นั้นเอง"สายบัว"มือหนาจับร่างบางพลิกตัวมาเผชิญหน้ากับเขาเมื่อแรงสะอื้นของเธอมันรุนแรงจนเขารู้สึกได้หัวใจที่แกร่งกระตุกผิดจังหวะขึ้นมาในทันทีที่เห็นน้ำตาของเธออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนคิ้วหนาของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าเธอนั้นเป็นอะไร หรือว่าเขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่าหรือเพราะเขาไม่ได้กลับมากินอาหารฝีมือของเธอ"ปล่อย"สองมือบางยกขึ้นท
สายบัวลืมตาตื่นขึ้นในห้องนอนกว้างที่นธีบังคับให้เธอมานอนด้วยกับเขาตั้งแต่เมื่อคืนแต่กว่าจะได้นอนเล่นเอาเกือบตอนจะสว่างแล้วสายตาหวานกวาดมองไปรอบๆ ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องพักทั้งห้องของเธอรวมกันเสียอีกอย่างละเอียดเมื่อเจ้าของห้องไม่อยู่ ภายในห้องนี้มีข้าวของเครื่องใช้ครบครันถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบจนดูเหมือนไม่น่าจะใช่ห้องของเด็กหนุ่มอย่างเขาที่วันๆ เอาแต่กวนประสาทคนอื่นและเมื่อทอดสายตามองยาวไปอีกก็จะเจอกับห้องน้ำที่ถูกเปิดประตูทิ้งเอาไว้ ขนาดมองไกลๆ ยังรู้เลยว่าสะอาดสะอ้านน่าเข้ามากแค่ไหนสายบัวส่ายหน้าไปมาหลายครั้งแล้วรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำไล่ความคิดบ้าบอของตัวเองที่กำลังคิดไปไกลเรื่อยเปื่อย"จะรีบไปไหน"นธีที่กำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่ภายในครัวเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นร่างบางก้าวเท้าออกจากห้องนอนของเขาสายตาคมมองดูเธออย่างสำรวจเพราะเธอใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้นขาเรียวขาวของเธอที่ความยาวของเสื้อปิดไม่มิดเรียกสายตาของเขาให้หยุดมองได้เนิ่นนาน"ฉะ ฉันจะรีบไปทำงานมันสายแล้ว"คนถูกมองถึงกับพูดติดอ่างออกมาด้วยความประหม่าใบหน้าหวานที่ยังไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางแดงระเรื่
"นึกว่าไปเกิดไหมแล้ว"สายบัวกลับเข้าห้องพักในตอนมืดดึกดื่นเหมือนเช่นปกติเพราะเธอจะนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือจนพอใจก่อนด้วยที่ห้องพักไม่มีสัญญาณไวไฟให้ใช้มือบางคลำหาสวิตช์ไฟตรงข้างประตูห้องแล้วกดเปิดมันอย่างช่ำชองจนแสงไฟในห้องสว่างจ้าร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อยด้วยความตกใจเมื่อสายตาของเธอได้เจอเข้ากับร่างหนาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนอนของเธอเธอเชิดหน้าใส่เขาที่หายไปหลายวันจนเธอนึกว่าตายไปแล้วเก็บซ่อนความตกใจเอาไว้อย่างมิดชิด"คิดถึงหรือไง"สายตาคมยังคงหลับสนิทเพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงานด้วยต้องขับรถทางไกลเพื่อไปส่งเจ้านายและขับกลับมาที่นี่เลยอย่างไร้เหตุผลกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแดดที่มาจากชุดผ้าปูที่นอนอันใหม่ของเธอที่คงเปลี่ยนแทนผืนเก่าที่เลอะทั้งเลือดทั้งน้ำคาวทำให้เขารู้สึกอยากนอนหลับรวมไปถึงกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอผู้ซึ่งเดินเข้ามาใหม่ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกดี"ไม่ และก็รีบออกไปได้แล้วที่นี้มันห้องของฉัน"เสียงหวานเอ่ยไล่เขาที่ไม่รู้ว่าเข้ามาห้องพักที่เธอมั่นใจว่าล็อกเอาไว้เป็นอย่างดีนี้ได้ยังไงเธอไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกด้วยมันพานให้เหตุการณ์ที่ไม่อยากจะคิดถึงมันอีกในคืนนั้นหวนกลับมาในห้วงความค