ภายในห้องนอนใหญ่เผยให้เห็นร่างของ ‘อลิน หรืออลินดา’ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยคมกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงคิงไซส์ ก่อนเธอจะค่อย ๆ ลืมตาตื่นในวินาทีต่อมาด้วยอาการมึนงงเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อคืนเธอนอนดึกไปเสียหน่อย แต่ทว่าเช้าวันนี้ดันมีนัดกับใครบางคนเอาไว้ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมือง นั่นจึงทำให้เธอจำเป็นที่จะต้องตื่นเร็วกว่าปกติ
ครั้นตื่นดีแล้วเธอก็รีบตรงดิ่งเข้าไปให้ห้องน้ำเพื่อทำกิจวัตรประจำทันที ใช้เวลาราว ๆ ครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำสระผมจนเสร็จสรรพ และใช้เวลาในการแต่งตัวอีกเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงเศษ ไม่แปลกเลยว่าทำไมเธอถึงต้องตื่นเร็ว เพราะไม่อย่างนั้นคงจะไปไม่ทันเวลาที่นัดหมายอีกฝ่ายเอาไว้เป็นแน่
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยครบถ้วนแล้วเธอก็เหลือบสายตาไปดูเวลา ขณะนี้เป็นเวลาเก้าโมงครึ่งแล้วเวลาที่นัดแนะกับอีกคนเอาไว้ คือ สิบโมงตรงดูท่าแล้วคงจะได้ไปสายแน่ ๆ เพราะรถราบนท้องถนนไม่เป็นใจแหง ๆ คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกจากห้องทันที
และทันทีที่เปิดประตูออกจากห้องเธอก็เจอเข้ากับอคินคนเป็นน้องชาย เธอไม่คิดจะสนใจเพราะเร่งรีบจะออกไปข้างนอกเพียงเหลือบมองน้องชายเล็กน้อยแล้วสาวเท้าเดินต่อ ทว่าก้าวเดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงักเพราะประโยคที่ดังตามหลังมา
“นี่พี่จะไปไหนแต่เช้าเนี่ย พ่อกับแม่ให้ตามไปกินข้าวเช้าด้วยกันห้ามเบี้ยว”
เธอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันกลับไปตอบด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ “พี่มีนัดแล้วบอกพ่อกับแม่ว่าตอนเย็นจะกลับมาทานด้วย ตอนนี้พี่ต้องรีบไปสายแล้ว”
“เดี๋ยวนี้อยู่ไม่ติดบ้านเลยนะ ถามจริงไปแอบคบหนุ่มที่ไหนหรือเปล่าอลิน” ในขณะที่สองพี่น้องกำลังสนทนากันอยู่จู่ ๆ อลัน แฝดผู้พี่ของอลินดาที่เดินมาจากไหนไม่รู้ก็ดังแทรกขึ้น
“ไม่มีหนุ่มที่ไหนทั้งนั้นอะ แค่จะออกไปกินข้าวกับเพื่อน” อลินดารีบเอ่ยปากปฏิเสธออกไปอย่างทันควัน ก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกวางมาด หวังให้อลันเชื่อในคำพูดของเธอแล้วเลิกตั้งคำถามกับการออกไปข้างนอกบ่อย ๆ สักที
“ใครเชื่อก็บ้าแล้ว ดูดิแต่งตัวอย่างกับจะไปเดต ใคร ๆ เขาก็ดูออกทั้งนั้นแหละ”
“ก็ปกติของพี่อลินนะ พี่อลันนั่นแหละชอบจับผิด”
“เออ จริงอย่างที่น้องมันบอกเลิกจับผิดอลินเหอะ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละแค่ไปกินข้าวกับเพื่อนสนิทเฉย ๆ” เธอเอ่ยสมทบประโยคก่อนหน้าของอคิน ทั้งยังทำหน้างอใส่แฝดผู้พี่ด้วยความหมั่นไส้กับความชอบจับผิดของพี่ชาย
“แหม เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ” อลันอดพูดแซะน้องสาวฝาแฝดกับน้องชายไม่ได้ ก่อนจะถามไถ่ถึงคนที่น้องสาวฝาแฝดจะไปหา “ว่าแต่เพื่อนคนไหนที่จะไปหา คนชื่อหยกอะไรนั่นน่ะเหรอ”
“อืม คนนั้นแหละรู้แล้วจะถามทำไม”
“ก็ไม่รู้ไงถึงได้ถาม แต่จะว่าไปเธอสองคนนี่ก็แปลก ๆ ตัวติดกันตลอดเลย หากน้องหยกเป็นผู้ชายฉันคงคิดว่าเป็นแฟนกันไปแล้ว” อลันยังคงคิดที่จะจับผิดน้องสาวอยู่อย่างนั้น แต่อันที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไร เพียงแค่ต้องการหยอกล้อให้อลินดาหัวเสียเล่น ๆ ตามประสาพี่น้องท้องเดียวกันก็เท่านั้น
ทว่าคำพูดเล่น ๆ ของอลันกับไปจี้ถูกจุดอลินดาเสียอย่างนั้นเพราะความจริงแล้วหยกคนที่เธอบอกใคร ๆ ว่าเป็นเพื่อนสนิทกันเป็นแฟนของเธอต่างหาก
สาเหตุที่เธอต้องปิดบังเรื่องนี้เพราะรู้ว่าทั้งครอบครัวของเธอและครอบครัวของแฟนสาวคงรับไม่ได้ และไม่ยอมรับอาจจะขัดขวางความรักของเธอด้วยซ้ำการคบกันเงียบ ๆ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“พี่อลันก็พูดไปเรื่อย” เธอนิ่งเงียบไปนานนับนาทีก่อนแสร้งทำตีหน้ายักษ์ใส่พี่ชายฝาแฝดกลบเกลื่อนพิรุธ
“แต่ก็จริงอย่างที่พี่อลันบอก พี่อลินสนิทกับพี่หยกขนาดนั้นมันก็แปลก ๆ อยู่นะ” ครั้งนี้อคินเห็นด้วยกับคนเป็นพี่ชายเอ่ยพลางมองหน้าพี่สาวอย่างจับพิรุธ
“แปลกอะไร แปลกตรงไหนก็ปกตินิ” วินาทีนี้อลินถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ก็พยายามพูดจาเสียงดังทำเป็นขึงขังเหมือนไม่พอใจ ก่อนจะเดินหนีไป “ฉันไม่คุยกับพวกแกแล้ว”
“เฮ้อ..เกือบถูกจับได้แล้ว” เธอลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งทำใจให้นิ่งอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะขับรถออกจากบ้านมุ่งตรงสู่จุดหมาย
ใช้เวลาในการขับรถครึ่งชั่วโมงก็มาถึงร้านอาหารอิตาลีที่นัดกับแฟนสาวไว้ เธอไม่รอช้าเปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปภายในร้านทันทีเพราะนี่ก็เลยเวลานัดมาหลายนาทีแล้วแฟนสาวคงโกรธแน่ ๆ
เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อมองไปเห็นแฟนสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ งานนี้เธอคงโดนบ่นชุดใหญ่ได้แต่ทำใจแล้วรีบเดินไปหาแฟนสาวด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
“เธอ ขอโทษนะสายอีกแล้ว...” เมื่อเดินมาถึงโต๊ะก็รีบกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มพลางส่งสายตาอ้อนสุดฤทธิ์หวังให้แฟนสาวเห็นใจ ขณะเดียวกันก็นึกโกรธตัวเองนักทั้งที่พยายามตื่นเช้าแล้วแท้ ๆ ทว่าก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์สักเท่าไรเลย...
“ไม่ต้องมาพูดเลย ไหนบอกว่าครั้งนี้จะมาก่อนเวลาไง ให้เค้ารออีกแล้วนะ” โยษิตาไม่ได้ใจอ่อนกับท่าทางออดอ้อนของสาวคนรักสักนิดมองค้อนไปด้วยความไม่พอใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สาวคนรักมาสาย
แต่ตั้งแต่ครบมาจนปีที่เก้าสาวคนรักก็ยังมาสายเกือบทุกครั้งจะไม่ให้เธอโกรธได้ยังไงกัน
“เค้าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะมาสายนะ พอดีพ่อกับแม่ชวนกินข้าวน่ะก็เลยตีกับอคิน อลันอยู่สักพัก กว่าจะได้ออกมาก็สายแล้ว ขอโทษน้าสัญญาว่าคราวหน้าจะไม่ให้เธอรออีกแล้ว ดีกันนะ” อลินดารีบพูดบอกเหตุผลในการมาเลยเวลานัดหมายครั้งนี้ออกไปให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ฟังพลางยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าแฟนสาวหวังขอเกี่ยวก้อยคืนดี
เธอเองก็ไม่อยากแก้ตัว แต่เดิมทีแล้วไม่ได้มีเจตนาที่จะมาสายเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องมาส่งสายตาอ้อนเลย ไม่ดีด้วยหรอก” แน่นอนว่าโยษิตาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลเธอเข้าใจ แต่เพราะอยากทำให้คนรักหลาบจำว่าไม่ควรปล่อยให้แฟนสาวอย่างเธอต้องมานั่งรอคนเดียวนาน ๆ จึงยังทำเป็นโกรธเอ่ยตอบพร้อมทั้งสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ไม่สนใจนิ้วก้อยของอีกฝ่ายที่ยื่นมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอเพื่อขอคืนดีสักนิด
“โอ๋ งอนจริงซะด้วยไม่เอาน่าเค้าขอโทษ สัญญาด้วยเกีรยติเลยว่าต่อจากนี้จะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว”
“ลินก็พูดแบบนี้ตลอด แล้วเป็นไงล่ะ...ไม่เคยทำได้จริงสักที”
“โธ่ เค้าขอโทษผิดไปแล้วจริง ๆ ขอโทษนะคะคนดี” อลินดายังคงไม่ยอมแพ้ในการง้อแฟนสาวคราวนี้งัดไม้ตายออกมาใช้ เธอรู้ว่าหยกแพ้คนขี้อ้อนยิ่งถ้าพูดเพราะแล้วด้วยยิ่งไปกันใหญ่
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ๆ ที่เธอเผลอทำผิดโดยที่ไม่ตั้งใจก็มักจะได้ไม้นี้ตลอด ซึ่งมันก็ได้ผลดีเสมอมา
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานหันมองนิ้วก้อยน้อย ๆ ทันทีก่อนที่จะเหลือบสายตาแสนดุดันขึ้นมองหน้าอลินดาเพื่อเตือนเป็นนัย ๆ ว่าห้ามมีครั้งต่อไปเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นดีกัน
“ห้ามมีครั้งต่อไปนะ ไม่งั้นเค้าเอาเธอตายแน่”
“อื้ม ไม่มีครั้งต่อไปแล้วจริงๆ นะ เอาหัวใจไปเป็นตัวประกันเลยก็ได้”
“พอแล้ว เลิกหยอดได้แล้วน่าทำเหมือนตอนจีบกันใหม่ ๆ ไปได้”
โยษิตาแบะปากอย่างนึกหมั่นไส้กับคำหยอดหวาน ๆ ของแฟนสาว ก่อนจะยอมเกี่ยวก้อยคืนดีกับแฟนสาวขี้อ้อนของเธอแต่โดยดีแม้ว่าในใจจะแอบเคืองอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม ทว่าความรักมักทำให้คนหน้ามืดตามัว เธอจะทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน...
“แล้วไม่ดีเหรอ?”
“ก็เปล่า มันก็ดีนั่นแหละ แต่เธอก็รู้ว่าเค้าแพ้อะไรแบบนี้เพราะฉะนั้นห้ามทำ เข้าใจไหม?”
“ห้ามทำเลยเหรอคะ ทำไมอ่าเค้าไม่น่ารักเหมือนตอนที่เธอมาสารภาพรักเค้าแล้วเหรอ?”
“ไอ้บ้า ใครให้พูดถึงอดีต เค้าไม่เคยทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย”
“ใช่เหรอ แต่เค้าจำได้ว่า..”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นเค้าโกรธเธออีกแน่”
อลินดายังคงเย้าแหย่แฟนสาวไม่เลิกแม้อีกฝ่ายจะห้ามปราม ก่อนเธอจะต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากเมื่อได้ยินคำขู่ และสายตาเคือง ๆ จากแฟนสาว “โอเค ๆ เค้าไม่พูดแล้วก็ได้”
แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งเธอกับแฟนสาวจะผ่านมาถึงเก้าปีแล้ว แต่ทว่าความหวานก็ไม่เคยลดลงเลยสักนิดเดียว วันแรกที่ตกลงคบกันเป็นอย่างไร จนถึงปัจจุบันมันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ไม่เคยเปลี่ยนเลย....
"หยก..เธอไปอยู่ที่ไหนกัน" อลินดายังคงนอนนิ่งอยู่บนโซฟาแม้มาเฟียหนุ่มกับลูกน้องจะออกจากห้องไปหมดแล้วก็ตามเรื่องที่ได้รู้มันทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงจริง ๆ เพราะโยษิตาเป็นเสมือนหัวใจของเธอ ทว่าตอนนี้หัวใจดวงนั้นกลับหายไปแล้วโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าหายไปไหน น้ำสีใสยังคงรินไหลออกจากดวงตาคมไม่หยุด ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่แบบนั้นกระทั่งตระหนักได้ว่าเธอไม่ควรปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอแบบนี้สู้เอาเวลาไปสืบเสาะว่าแฟนสาวอยู่ที่ไหนดีกว่าคิดได้ดังนั้นก็ดีดตัวลุกขึ้นยืน ใช้มือเช็ดน้ำตาออกจนแห้ง ก่อนจะเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วก็ออกมาแต่งหน้าแต่งตัว จากนั้นจึงเดินทางออกจากคอนโดตรงไปสนามบินทันทีเพื่อสืบหาว่าโยษิตาบินไปประเทศไหน โดยเธอไม่รู้เลยว่าทุกย่างก้าวของตัวเองมีคนของมาเฟียหนุ่มแอบติดตามเมื่อมาถึงสนามบินเธอก็ใช้เส้นสายของผู้เป็นพ่อขอดูข้อมูลการเดินทางเข้าออกของสนามบิน ทว่าเธอกลับต้องผิดหวังเพราะข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศไม่มีชื่อแฟนสาวเลยสักไฟล์อดทำให้คิดไม่ได้ว่ามาเฟียหนุ่มพูดโกหก ความจริงแล้วแฟนสาวอาจยังอยู่ในประเทศไทย"คนเลว! คุณหลอกฉัน" เธอสบถออกมาด้วยความโกรธมือทั้งสองกำ
วันต่อมา…กริ่ง กริ่ง~เสียงกริ่งดังสนั่นไปทั่วห้องนอนสี่เหลี่ยมปลุกให้อลินดาเจ้าของห้องที่นอนหลับอยู่บนเตียงใหญ่สะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ“โอ๊ย! ใครมาตั้งแต่เช้าเนี่ย” เธอสบถออกมาอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ใช้มือยีผมแรง ๆ จนยุ่งเหยิง ก่อนจะพาตัวลงจากเตียงเดินตรงไปที่ประตูด้วยความไม่พอใจหมายมั่นปั้นมือไว้อย่างแรงว่าหากคนที่มากดกริ่งปลุกมีเรื่องไม่สำคัญพอเธอจะด่าเข้าให้โทษฐานที่มากวนเวลานอนแกร็ก!วินาทีที่เปิดประตูออกไปเธอก็ต้องตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่หน้าห้องคือผู้ชายสารเลว และด้านหลังของเขามีลูกน้องสองคนยืนประกอบอยู่ในมือถือถุงใส่ชุดแต่งงานไม่ต่ำกว่าห้าชุด เธออุตส่าห์หนีมาอยู่ที่คอนโดแล้วเขาก็ยังพาชุดแต่งงานตามมาอีกเหรอแต่แล้วยังไงเธอจะไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการเด็ดขาด คิดได้ดังนั้นก็รีบผลักประตูให้ปิดลง ทว่าเหมือนอีกคนจะเร็วกว่าเพราะเขาดันใช้เท้าดักไว้ก่อนที่ประตูจะปิดลง จากนั้นก็ใช้มือผลักประตูให้เปิดกว้างแล้วเดินเข้าไปด้านในอย่างหน้าตาเฉย ตามด้วยลูกน้องอีกสองคน“พวกคุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ” เธอรีบวิ่งไปขวางร่างสูงเอาไว้พร้อมกับไล่ตะเพิ
“แด๊ดดี๊กับมามี๊รู้จักเขาดีแล้วเหรอคะถึงยอมให้อลินแต่งงานกับเขาง่าย ๆ บางทีเขาอาจจะเป็นคนไม่ดีก็ได้นะคะ อีกอย่างอลินก็ไม่ได้รักเขาเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาด และเรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติมากนะคะในสมัยนี้” ทันทีที่มาเฟียหนุ่มจากไปอลินดาก็รีบเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาที่เขาเคยนั่งแล้วพูดคุยกับพ่อแม่ พยายามหาเหตุผลต่าง ๆ มาอ้างหวังว่าจะเปลี่ยนความคิดพวกท่านได้“รู้จักสิ” ภาคินตอบเสียงเรียบสายตาจับจ้องหน้าบุตรสาวนิ่ง ๆ “แทนไทเป็นลูกมาคัล แอคคาร์โดผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจของไทยเพียบพร้อมทั้งครอบครัว ฐานะ การศึกษา และหน้าตาดี แล้วมีตรงไหนที่ไม่ดี หรือไม่เหมาะสมกับลูก” “อลินหมายถึงนิสัยค่ะแด๊ดดี๊” อลินดามองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างอ่อนใจ“ยังไงลูกก็ต้องแต่งงานกับเขา ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งสิ้นเพราะแด๊ดได้ตกลงไปแล้ว” ภาคินยังคงยืนยันคำเดิมเพราะเขาต้องการให้บุตรสาวเลิกคบผู้หญิงด้วยกัน ว่าจบก็ลุกเดินขึ้นห้องไปทันทีไม่ฟังเสียงทักท้วงของบุตรสาวที่ดังตามหลังมาสักนิด“มามี๊ช่วยอลินด้วยนะคะ อลินไม่อยากแต่งงานกับเขา มามี๊ช่วยไปพูดกับแด๊ดดี๊ให้หน่อยนะคะ” เมื่อพูดเปลี่ยนใจผู้เป็นพ่อไม่สำเร็
ในประเทศไทยคงจะมีแค่ครอบครัวมาคัลที่ใช้นามสกุลนี้ ซึ่งเขาก็เคยพบเจอมามาคัลบ่อย ๆ ในงานสังสรรค์ต่าง ๆ เพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจเหมือนกัน และยังรู้ว่ามาคัลมีบุตรชายกับบุตรสาวชื่อแทนไทกับโยษิตา เขารู้จักโยษิตาบุตรสาวคนเล็กของมาคัลเพราะเธอเป็นเพื่อนกับบุตรสาวของเขา เคยไปมาหาสู่บุตรสาวที่บ้านบ่อย ๆ เมื่อก่อนเขาคิดว่าทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เขาบังเอิญเห็นทั้งสองแสดงความรักต่อกันเกินคำว่าเพื่อนจึงนึกสงสัยเลยแอบตามดูพฤติกรรมทั้งสองห่าง ๆ จนได้รู้ความจริงบางอย่าง ส่วนแทนไทบุตรชายคนโตของมาคัลเขาเพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพราะชายหนุ่มไม่เคยไปออกงาน หรือปรากฏตัวที่ไหนเลยการที่ชายหนุ่มปรากฏกายที่บ้านในวันนี้ทำให้เขาสงสัย และแปลกใจเป็นอย่างมาก ยิ่งได้เห็นสีหน้าท่าทางแปลก ๆ ของบุตรสาวตอนคุยกับชายหนุ่มเมื่อกี้ก็ยิ่งทำให้สงสัยเข้าไปอีกรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ “ครับ วันนี้ผมมีเรื่องจะมาคุยกับท่านทั้งสองครับ” มาเฟียหนุ่มยิ้มรับคำพูดภาคินเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเข้าเรื่องทันทีพร้อมกับหย่อนก้นนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามผู้ใหญ่ทั้งสอง ทิ้งให้อีกคนยืนเคว้งอยู่คนเดียวเพราะทำอะไรไม่
หัวใจดวงน้อย ๆ ของอลินดากระหน่ำเต้นขึ้นมาฉับพลันในตอนที่รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่รั้วบ้านของเธอ รีบหันไปถามร่างสูงข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณมาบ้านฉันทำไม คิดจะทำอะไรบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”“หึ” คนถูกถามหันไปแสยะยิ้มร้ายมุมปากให้หญิงสาวแทนคำตอบ ก่อนจะเบี่ยงหน้ามองออกไปนอกกระจกเหมือนเดิม กระทั่งรถจอดสนิทลงหน้าบ้านหญิงสาวจึงหันกลับไปออกคำสั่งกับร่างบางข้าง ๆ “ลงไปสิถึงบ้านเธอแล้ว”“คุณมีแผนอะไรกันแน่ คงไม่ใช่ใจดีมาส่งฉันที่บ้านอย่างเดียวใช่ไหม” อลินดาเลิกคิ้วขึ้นมองใบหน้าคมคายอย่างหวาดระแวงเพราะเธอไม่เชื่อสักนิดว่าเขาจะใจดีมาส่งเธอแค่อย่างเดียว แต่กลับได้รับความเงียบแทนคำตอบ หนำซ้ำเขายังจ้องหน้าเธอด้วยสายตาของคนที่เหนือกว่ายิ่งทำให้เธอไม่ไว้ใจเข้าไปอีก พยายามอ่านสายตาของเขาแต่ก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยมาเฟียหนุ่มมองสบสายตาหญิงสาวนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนจะเป็นฝ่ายเปิดประตูลงจาจรถไปเมื่อเธอยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมลงสักทีทำให้อลินดาต้องรีบเปิดประตูลงตามไป แล้วรีบวิ่งไปยืนขวางหน้าร่างสูงที่ทำท่าจะเดินเข้าไปในบ้านของเธอ “คุณจะไปไหน”“…”มาเฟียหนุ่มไม่ตอบเหมือนเดิมเลือกจะเดินเลี่ยงเธอไปอีกทาง ซึ่
วันต่อมา…หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน วันนี้อลินดาก็ตัดสินใจว่าจะไปเฝ้าดูลาดเลาแถว ๆ หน้าบ้านแฟนสาวก่อนเผื่อจะมีโอกาสเข้าไป ให้เธอทนอยู่โดยไม่รู้เรื่องราวของแฟนสาวเลยเธอก็อยู่ไม่เป็นสุขใจมันพะหว้าพะวงตลอดเวลา โดยเธอได้กลับไปยืมรถของน้องชายที่บ้านแล้วขับไปยังบ้านแฟนสาวเพราะหากขับรถของตัวเองไปก็เกรงว่ามาเฟียหนุ่ม และคนอื่น ๆ ในบ้านนั้นจะจำได้เธอนั่งดูลาดเลาอยู่ภายในรถบริเวณริมกำแพงบ้านแฟนสาว ทว่าผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าก็ไม่มีวี่แววว่าคนในบ้านหลังนี้จะออกไปไหนเลย“บ้าเอ๊ย! ใจคอไม่คิดจะออกไปไหนกันเลยเหรอ” เธอสบถออกมาอย่างหัวเสียพร้อมกับยกมือขึ้นยีผมแรง ๆ จนยุ่งเหยิงเพื่อระบายความหงุดหงิดที่เกิดขึ้น เธอเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบรออะไรนาน ๆ ด้วยสิ ในวินาทีที่เธอตัดสินใจจะกลับก็มีรถลีมูซีนแล่นออกมาจากบ้าน เธอพยายามใช้สายตาเพ่งมองผ่านกระจกมืดเข้าไปก็เห็นว่าเป็นมาเฟียหนุ่มกับพ่อของเขานี่แหละเป็นโอกาสดีของเธอที่จะเข้าไปหาแฟนสาว ทันทีที่รถลีมูซีนแล่นออกไปไกลเธอก็รีบขับรถเข้าไปยังบ้านแฟนสาวด้วยความเร็วหัวใจของเธออดสั่นไหวไม่ได้ในตอนที่จอดรถลงหน้าบ้านแฟนสาว แล้วเห็นชายใส่ชุดสูทสีดำหน้าตาดุดันเดินต