Share

บทที่ 16

last update Last Updated: 2025-05-15 22:52:14

ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่...

ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้าน

ทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี...

"ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใจนัก...หายไปไหนในเมื่อรถสปอร์ตคันหรูทั้งสองคันที่เขาเปย์ไม่อั้นยังจอดอยู่หน้าบ้านแท้ๆ

ไม่สิ! รถคันเก่าโกโรโกโสที่จอดอยู่ในโรงจอดรถด้านข้างบ้านจัดสรรดันหายไป แต่เธอจะขับรถคันนั้นเพื่ออะไรในเมื่อเขาก็สั่งแล้วว่าห้ามเอามันออกไปไหนอีก หากใครมาเห็นเข้าคงได้ซุบซิบนินทาเป็นถึงเลขาของรองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่แต่กลับทำตัวคล้ายจนตรอกจนกระทั่งมีเงินซื้อรถใหม่...

คงได้อับอายขายขี้หน้ามาถึงเขาแน่ๆนี่มินตรากล้าขัดสั่งเขางั้นหรอ

ไม่ว่าเปล่าภาคินหยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเข้า application ส่งข้อความทักหาเธอแต่ปรากฏว่า เธอบล็อกเขาไปเรียบร้อยแล้ว

"มินตรา!!!!" ภาคินตวาดเสียงดังในใจก็นึกว่ามินตราคงจะเรียกร้องความสนใจ อยากจะมีบทเพราะกลัวว่าตัวเองถูกเฉดหัวทิ้งนั่นแน่ๆ "กลับมาเราได้เจอดีกันแน่"

ภาคินยังคงไม่ละความพยายามกดเบอร์โทรศัพท์ต่อสายหามินตรา 'บริการฝากหมายเลขโทรกลับ'

"แม่งเอ้ย!!!!" ภาคินปัดกวาดทุกอย่างที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์หัวเตียงหล่นกระจัดกระจายลงบนพื้นกระเบื้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวที่โดนไฟนั้นกระทำเช่นนี้ เพราะคนที่มีสิทธิ์มีเสียงปิดมือถือ บล็อคช่องทางการติดต่อควรจะเป็นเขามากกว่าเธอ

แต่ทว่า...

"อะไร?" ภาคินขมวดคิ้วนิ่วหน้าลุกขึ้นแล้วก้มลงหยิบซองกระดาษสีขาวซึ่งหล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาเปิดอ่านมันถูกจารึกด้านหน้าว่า ถึงคุณภาคิน

"มินตรา"

เรียน คุณภาคินัย เดชาบวรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ป

ดิฉันต้องการแจ้งให้คุณภาคินัย เดชาบวรสกุลได้ทราบว่า ดิฉันมีความประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งเลขานุการรองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปตั้งแต่วันนี้ที่คุณภาคินัย เดชาบวรสกุลกรุ๊ปได้รับจดหมาย โดยไม่ปรารถนาที่จะรับเงินชดเชยทดแทนระยะเวลาล่วงหน้า 3 เดือนแม้แต่บาทเดียว

ดิฉันต้องขอบคุณโอกาสจากคุณภาคิน เดชาบวรสกุลซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรงของดิฉันที่ให้โอกาสฉันเข้ามาทำงานตำแหน่งเลขานุการของบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปจวบจนครบ 1 ปีเต็ม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดิฉันมีความสุขมากที่ได้ทำงานที่นี่มีเพื่อนร่วมงานที่ดี แถมหน้าที่การงานก็มั่นคงฐานเงินเดือนไม่ต้องถามถึงเนื่องจากเป็นบริษัทใหญ่จึงทำให้ดิฉันสามารถหาเลี้ยงชีพและเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งไปตั้งตัว

ส่วนเหตุผลที่ฉันลาออกนั้นสาเหตุหนึ่งก็มาจากเหตุผลส่วนตัวและอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือดิฉันอยากจะพักกายสักช่วงเวลาหนึ่งเพื่อใช้เวลาชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มค่าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ และเปิดโอกาสให้กับบริษัทอื่นๆเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง

-เรียนมาเพื่อทราบ มินตรา-

"..." ภาคินขยำจดหมายทางการฉบับนั้นแล้วเขวี้ยงทิ้งลงบนพื้นกระเบื้องก่อนที่จะดึงเอกสารอีกแผ่นหนึ่งขึ้นมาอ่านต่อ

'ถึงคุณภาคิน ผู้ชายใจร้ายที่มินดันหลงรักหัวปักหัวปำ มินขอขอบคุณระยะเวลาหนึ่งปีเต็มที่คุณภาคินให้มินยืมอ้อมแขนคอยกอด คอยซบอกเวลาร้องไห้และคอยยิ้มหัวเราะเป็นความสุขเล็กๆให้กับผู้หญิงคนนี้มาโดยตลอด ไม่เคยมีวันไหนเลยค่ะที่มินไม่รักคุณ ไม่เคยมีสักวันเลยจริงๆ จงรักภักดีและซื่อสัตย์กับคุณแค่คนเดียวนี่คือความจริงที่มีอยากจะบอกคุณแต่สำหรับในสายตาของคุณภาคินอาจจะเป็นแค่ผู้หญิงหน้าเงินเป็นตัวอะไรไม่รู้ที่น่าขยะแขยง น่าสมเพช จำต้องรีบหลีกหนีไปไกลๆเพราะความขนหัวลุก เพราะความรังเกียจเดียดฉันท์อะไรก็ช่าง มินเข้าใจดีค่ะว่ามินก็เป็นแค่ลูกคนจนคนหนึ่งไม่ได้มีสกุลรุนชาติ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเทียบเท่ากับคุณภาคินได้สักอย่าง ที่ผ่านมามินคิดเข้าข้างตัวเองมักใหญ่ใฝ่สูงว่าวันหนึ่งคุณภาคินอาจจะเปลี่ยนใจมารักแต่วันนี้มินได้รู้แล้วว่าคุณภาคินไม่เคยแม้แต่คิดจะรักมินด้วยซ้ำ...มินรู้แล้วว่ามีสิทธิ์เท่าใดเป็นได้มากแค่นางบำเรอ เป็นได้มากก็แค่สาวใช้อุ่นเตียงที่นอนรอคุณภาคินอยู่บนเตียงยามที่คุณภาคินต้องการ ส่วนเวลาอื่นๆอาจจะเป็นแค่เศษฝุ่นเป็นแค่ผงฝุ่นเป็นอากาศที่ไม่มีตัวตน

ขอบคุณสำหรับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาขอบคุณที่คุณภาคินอุตส่าห์เลี้ยงดูเมตตาผู้หญิงคนนี้ให้อยู่ดีกินดีมาโดยตลอด...มินเองก็อยากจะคืนเงินคุณนะคะ เงินที่มินใช้ไปทั้งหมดแต่มันคงไม่มีปัญญาขนาดนั้น ฉะนั้นมินก็จะยึดถือว่าเงินที่คุณภาคินให้มินมาเป็นเงินส่วนที่มินควรจะได้รับในระยะเวลาที่มีอยู่กินกับคุณมิน เป็นตุ๊กตายางให้คุณ เป็นที่รองรับอารมณ์ เป็นแม่บ้านให้คุณ ส่วนรถและบ้านหลังนั้นมูลค่ามันคงมากเกินไปจึงขอส่งกลับคืน ท้ายสุดนะคะมินอยากจะให้คุณภาคินรับรู้เอาไว้ว่าคุณลุงดำเกิงรักและเป็นห่วงคุณภาคินมาก ระหว่างมินกับคุณลุงดำเกิงเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันทั้งสิ้น มินรัก มินเคารพคุณลุงดำเกิงเปรียบเสมือนพ่ออีกคนหนึ่งเพราะท่านมีพระคุณมีเมตตากับครอบครัวมินที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแม่มีในตอนที่มีปัญหา'

ขอให้โชคดีค่ะ มินตรา

"..." ภายในใจของภาคินมันรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆราวกับมีอะไรบางอย่างแปล๊บเข้ามากระทบก้อนเนื้อที่หน้าอกข้างซ้ายจนสั่นไหวกระเพื่อม...

พอถึงวันที่มินตราต้องเดินออกไปจากชีวิตของเขาจริงๆ ถึงวันที่ภายในห้องแห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำร่วมระหว่างสองเรา หัวใจมันก็ดันสั่นผิดจังหวะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

ใช่!!!

"เธอกล้ามากเลยนะมินตราที่ชิ่งหนีฉัน" เขาทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่โดนหยามหน้าจากผู้หญิงไร้ค่าคนนั้น เธอกล้าดีและเธอมีสิทธิ์อย่างไรเป็นฝ่ายออกไปจากเขาต้องเป็นเขามากกว่าสิที่เป็นฝ่ายสลัดเห็บหมัดอย่างเธอทิ้ง!!

และที่สำคัญเขายังรู้สึกไม่คุ้มค่าเลยด้วยซ้ำสำหรับเงินที่ทุ่มไปทั้งหมดกับค่าตัวเธอแต่ละคืนเพราะมันแทบไม่ได้เศษเสี้ยวครึ่งต่อครึ่งเลยสักนิด...ถือดีอย่างไรมาตีโพยตีพายว่าเงินนั่นคือเงินค่าตอบแทนที่ตัวเองควรจะได้รับตลอดระยะเวลา 1 ปีที่เป็นตุ๊กตายางสาวใช้อุ่นเตียงและแม่บ้านให้เขา

ผู้หญิงเน่าเฟะพรรค์นั้นแค่เขารับเข้ามาเลี้ยงดูให้ความอยู่กินอย่างดีก็บุญหัวมากแค่ไหนแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 20

    "ใช่ ข้อนั้นฉันยอมรับว่าส่วนหนึ่งความผิดมันก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ อย่างที่นายคิดแม่ของนายไม่ผิดหรอกนะที่เข้ามาเพราะท่านไม่รู้ว่าพ่อของฉันมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วแม่ของฉันผิดเหรอที่ไม่พอใจ โมโห โกรธ เจ็บใจที่จู่ๆมารู้ว่าผัวตัวเองแอบไปมีเมียน้อยแถมยังมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน ในมุมมองอยู่กินกันมาร่วมหลาย 10 ปีเป็นใครๆก็เสียใจ เป็นใครๆก็โมโหทั้งนั้นแหละ! หรือนายจะเถียง" "..." ภาคินเงียบ "ในตอนแรกแม่ของฉันผิดก็จริง อันนี้ฉันยอมรับ แล้วใครรู้บ้างล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่แม่พานายมาเลี้ยง พานายมาอุ้มชู เป็นแม่กาเหว่าที่ให้อุปการะคุณลูกกา แม่ฉันน่ะทั้งรัก ทั้งเอ็นดูและให้ทุกๆอย่างกับนายเทียบเท่ากับฉัน และที่แม่พานายมาจากแม่ของนายก็เพราะอยากให้นายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้นายได้ใช้ของดีๆ อยู่ในสังคมที่ดี ตอนแรกฉันก็เคยถามแม่ ท่านบอกว่าก็คิดอยากจะทำให้แม่ของนายเจ็บใจเจ็บช้ำน้ำใจที่โดนพรากลูกออกจากอก เหมือนตนโดนแย่งผัว แต่พอได้เลี้ยงนายเข้าจริงๆ ท่านก็รักนายเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง นายเคยรู้บ้างหรือเปล่า!" ภาคีพยายามอธิบายให้น้องชายต่างมารดาได้เข้าใจพ้องต้องกัน "งั้นเหรอ?? ไม่ลำเอียงเลยงั้นเหรอ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 19

    "ต่อไปนะคะก็จะเป็นบททดสอบแรกในส่วนของคุณภาคินค่ะ ทางคู่ค้าธุรกิจเสนอโครงการด้วยบอกมาว่าข้อเสียของคุณภาคินนั่นก็คือนิ่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่การเจรจาคุยงานด้วยถือว่าราบรื่นเพราะเป็นคนพูดจาคล่องแคล่ว จริงจังตลอดเวลายามทำงานและที่สำคัญมีเทคนิคมีสกิลในการต่อรองราคาทำให้บริษัทได้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่งสูง ถือได้ว่าส่งผลดีมากๆเลยค่ะ" เลขาสาวคนสวยกล่าวรายงานหากดูจากบททดสอบแรกผู้ชนะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาคิน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่ข้อเสียของภาคินก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือเปอร์เซ็นต์กำไรบริษัทที่จะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่ากับของภาคี ฉะนั้นหากวางให้การงานรุ่งเรืองกิจการมั่นคงก็คงจะต้องเลือกภาคิน..."มาดูบททดสอบต่อไปกันนะคะ..." หลังจากนั้นเลขาสาวคนสวยก็ใช้รีโมทคอนโทรลเลื่อนสไลด์จอผ่านไปเรื่อยๆร่วมประมาณ 20 นาทีจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายนั่นก็คือกำไรไตรมาสของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในโครงการของทั้งสองคน "ท้ายสุดนี้ก็จะเป็นกำไรไตรมาสบริษัทสำหรับหัวข้อโครงการทำโฆษณานะคะ หนึ่ง ส่วนของคุณภาคีจะเป็นโฆษณาแบรนด์สบู่ผลรวมทั้งหมด ดูแล้วบริษัท

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 18

    วันประกาศผลการแข่งขัน..."ไม่ว่าวันนี้ผลมันจะออกมารูปแบบใด แม่ขอให้ภาคินอย่าโกรธ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูก เพราะพ่อเขารักลูกเท่ากันทุกคน ไม่ได้ลำเอียงรักใครมากกว่ากัน ผลการแข่งขันมันก็ต้องออกมาตามหน้างานที่ปรากฏให้เห็นว่าคนไหนเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ประธานบริหารมากกว่า" นี่คือสิ่งที่คุณอรุณีกลัวมากที่สุดนั่นก็คือลูกชายจงเกลียดจงชังพ่อตัวเอง! หล่อนไม่อยากให้ภาคินเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พยายามพูด พยายามเกลี้ยกล่อม พยายามหว่านล้อมสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ในใจของภาคินให้พังลงได้... ภาคินปลูกฝังและเห็นภาพจำซ้ำๆมาโดยตลอดว่าแม่ของเขาถูกกระทำย่ำยีจากคนบ้านนั้นอย่างไร แม่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตกเป็นตุ๊กตาเริงระบำทั้งๆที่อยากจะหนีไปใจจะขาดแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะลูก คุณดำเกิงใช้ลูกเข้ามาเป็นข้ออ้างในการรั้งอรุณี กักขังหล่อนเอาไว้ในบ้านหลังมอซอเล็กเท่ารูหนูหลังนี้ และในทางกลับกันคุณดำเกิงก็มัดตัวบีบบังคับ ชี้นิ้วสั่งขีดกรอบให้ภาคินทำตามที่เขานิมิตหมายเอาไว้ในหัวโดยใช้แม่ของเขามาเป็นข้ออ้างเช่นเดียวกัน... มันจึงทำให้ภาคินเข้าใจผิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณดำเกิงเห็นเขาแ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 17

    ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก! "คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ ... @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 16

    ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่... ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้านทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี... "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 15

    @สามวันผ่านไป มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!' แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน... มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง... บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง 'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง' ปรากฏว่า...'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลัง

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 14

    "ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น... มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา... "เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดื

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 13

    "มินขอถามคุณภาคินจริงๆเถอะค่ะ คุณภาคินเคยรักมินบ้างไหมคะ" น้ำเสียงเจือแววสะอึกสะอื้นกล้ำกลืนความชอกช้ำเข้าไปในลำคอเป็นช่วงๆ พร้อมกับหยาดน้ำอุ่นร้อนหลั่งรินลงมาด้วยอาการเจ็บปวดรวดร้าวที่มันกำลังกัดกินก้อนเนื้อหัวใจดวงน้อย..."หัดส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะมินตราว่าเธอมีค่าพอหรือเปล่าที่จะให้ฉันลดตัวลงไปรัก" มันเหมือนกับมีมีดปลายแหลมปักเข้ากลางอก เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบเรือนร่างขาวเนียนจนแทบแลไม่เห็นผิวหนังมังสา "ผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุดก็เป็นแค่นางบำเรอช่วยปรนเปรอฉัน ตอนที่ฉันอยากก็เท่านั้นแหละ อย่าสำคัญ อย่าสำเหนียกตัวเองมากเกินไปว่าที่ฉันทนอยู่กับเธอมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรัก" ยัง...ยังไม่พอหรือไง แค่ประโยคแรกหัวใจของเธอก็ป่นปี้บอบสลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว แต่นี่เขายังพูดจาถมเถตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหมายจะให้เนื้อที่เป็นแผลพุพองติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนสาหัสและเจียนตายเลยหรือ? "หากคุณไม่ได้รู้สึกดีด้วย.แล้วคุณจะดึงมินเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม!" มินตราทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยความรู้สึกซับซ้อนซ่อนเงื่อนพัวพันกันมั่วไปหมดในสมอง เขาไม่เคยรักเธอเลยสักนิดหรือไง? แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามัน

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 12

    "เชิญครับคุณมินตรา นี่ก็ถึงเวลาทำงานแล้ว กรุณาเหน็ดเหนื่อยให้สมกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายไปให้คุณด้วย" ภาคินกดน้ำเสียงต่ำแกมบังคับบีบให้มินตราค่อยๆหลุบลงมองพื้นแล้วถอนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบิดาเพื่อกระเถิบตัวตั้งท่าเตรียมรอออกจากห้อง "งั้นหนู...เอ่อ..." มินตราเหลือบขึ้นไปมองสายตาดุ กร้าวของภาคินเมื่อเธอหลุดใช้สรรพนามแทนการเรียกชื่อที่แสนจะคุ้นเคยกับคุณลุงดำเกิง "งั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะท่านประธาน" "ตามสบายเลยจ้ะ" เมื่อเป็นเช่นนั้นมินตราจึงขออนุญาตปลีกตัวออกไปจากห้องประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเพื่อประจำยังโต๊ะทำงานของตนซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของภาคินนั่นเอง @ห้องทำงานภาคิน "เข้าไปคุยกับผมในห้อง" ภาคินพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของมินตรา แกร๊ก!"ไปเสนอตัวให้พ่อผมถึงห้องเลยเหรอ?" ภาคินรั้งตัวร่างบางกระชากเข้าหากายพร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาบีบแขนเรียวบางของเธอจนเนื้อนุ่มบุ๋มยุบตัว "เงินที่ผมให้ใช้ในแต่ละเดือนมันขาดเหลือจนกระทั่งต้องยอมนอนกับผู้ชายที่มีสามีแล้วงั้นเหรอ?" "คุณภาคินพูดอะไรคะ? มินไม่เห็นจะเข้าใจเลย" มินตราไม่รู้ว่าตนจะต้องแสดงความ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status