Share

บทที่ 17

last update Last Updated: 2025-05-15 22:52:21

ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก!

"คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ

ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ

...

@ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที่เพิ่งจะถอยมาจากศูนย์หมาดๆไปรับว่าที่คู่หมั้นสาวสวยอย่างพิรญาณ์เพื่อพาเธอมาเดินช็อปปิ้งซื้อโน่น ซื้อนี่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ทั้งๆที่ไม่ใช่ธุระกงการหรือจุดประสงค์ของเขาเลยสักนิด แต่เนื่องจากบัญชาการของคุณดำเกิงผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังถือไพ่เหนือกว่าใครทุกคนโดยเฉพาะเจ้าลูกชายทั้งสองซึ่งกำลังแข่งขันแย่งชิงอำนาจท่านประธานคณะกรรมการบริหารอยู่...ฉะนั้นในระยะเวลาที่ยังไม่ได้ตัดสินหรือมอบอำนาจให้แก่คนใดคนหนึ่งภาคินก็จำเป็นต้องประพฤติตัวว่านอนสอนง่ายเอาไว้ก่อน

หากเสร็จงานนี้และเขาได้รับแท่งตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเมื่อไหร่ล่ะก็เขาก็จะจัดการปิดจ๊อบพิรญาณ์ด้วยเช่นเดียวกัน...อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาก็จะได้เป็นอิสระทำอย่างใจชอบ ปลดปล่อยมารดา สร้างคาเฟ่เล็กๆให้หล่อนได้ทำตามความฝันที่เคยคิดไว้ตั้งแต่เล็กๆจนกระทั่งเป็นเมียพ่อเขา ทุกอย่างก็ต้องพลันดับสลายเพราะต้องอุดอู้อยู่ในรูหนูเป็นเมียเก็บที่แม้นลูกก็น้อยครั้งนักจะได้พบหน้า

"พี่ภาคินว่าน้ำหอมกลิ่นนี้หอมไหมคะ" พิรญาณ์ยืนเลือกซื้อน้ำหอมราคาแพงจากแบรนด์ดังที่ขึ้นเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำอันดับต้นๆส่งตรงมาจากต่างประเทศ ฉีดลงบนข้อมือแล้วสูดดมกลิ่นของมันก่อนจะยื่นให้แก่ภาคินเพื่อถามไถ่ความคิดเห็นเขา

"หอมดีครับ" นี่คือประโยคยอดฮิตประจำวันนี้ตั้งแต่ที่ควงภาคินเดินห้างมาร่วม 30 นาที เขาก็มีแต่คำว่าดีครับ ดีครับและดีครับตบท้ายเสมอ แทบจะไม่ออกความคิดเห็นแต่อย่างใด...ราวกับว่าตอบส่งส่งเพียงแค่ให้ผ่านพ้นไปก็เท่านั้น

"ว่าแต่พี่ภาคินชอบใช้น้ำหอมแบบไหนหรอคะ วันนั้นที่พิณควงพี่ภาคินไปงานเลี้ยงค็อกเทล พิณจำกลิ่นตัวพี่ภาคินติดจมูกอยู่เลย ห๊อม หอม ยี่ห้อไหนดีแนะนำพิณบ้างสิคะ" พิรญาณ์หันไปพยักหน้ากับพนักงานเพื่อนำน้ำหอมที่เธอมักจะเลือกซื้อเป็นประจำคิดเงินบริเวณเคาน์เตอร์แล้วใส่ถุงกระดาษกลับบ้านเช่นเคย...

"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ" จะให้เขาทราบได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อตั้งแต่ที่รู้จักกับมินตรามา พวกข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นรวมถึงเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่เธอก็จะเป็นคนจัดการและเลือกซื้อให้ทั้งสิ้น...เขามีหน้าที่ใช้และไม่ได้สังเกตเหมือนกันว่ายี่ห้ออะไร แบรนด์อะไรและราคาเท่าไหร่...

"พี่ภาคินไม่ได้ซื้อเองเหรอคะ"

"ครับ"

"ใครซื้อให้เหรอคะ?" คำถามนี้เริ่มแฝงไปด้วยน้ำเสียงขุ่นแสดงออกถึงความไม่พึงพอใจปรากฏอยู่บนแววตาดุดันคู่นั้นของพิรญาณ์ หล่อนรู้ดีมาโดยตลอดถึงแม้ภาพลักษณ์ภายนอกของภาคินจะไม่เคยมีข่าวมั่วซั่วกับผู้หญิงคนไหนทั้งในวงการหรือนอกวงการสักครั้ง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะอยู่เปล่าเปลี่ยวเดียวดายนี่ อาจมีพวกลูกเด็กเล็กแดงเห็บหมัดปลิงที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อเลี้ยงไว้บ้างสักคนสองคนนั่นแหละ แต่พวกนั้นก็คงจะเป็นหมาว่านอนสอนง่ายก็เลยไม่ออกมาเห่าหอนเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของตัวเองสักเท่าไร

พิรญาณ์ตั้งใจและกะเอาไว้แล้วว่าหากวันข้างหน้าเธอได้มั่นหมายเข้าพิธีวิวาห์ร่วมงานมงคลสมรสรวบรัดเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเดชาบวรสกุลในตำแหน่งสะใภ้คนรอง เป็นนางพญายืนข้างๆภาคินจริง วันนั้นแหละอีพวกลูกเด็กเล็กแดงตัวเล็กตัวน้อยจะไม่มีสิทธิ์ได้เสนอหน้ามาใช้ของร่วมกับหล่อน ไม่ว่าพวกนางจะยืนยันคำเดิมขออยู่ที่ของตนเองไม่ล่วงล้ำเสนอหน้าทักทวงสิทธิหรือต้องการมีบทบาท อย่างไรเสียหล่อนก็ไม่มีวันยอม หัวเด็ดตีนขาดหล่อนก็ต้องเป็นหนึ่งเดียวให้ได้...

"พี่ต้องบอกด้วยเหรอครับ?" ภาคินเลิกคิ้วด้วยใบหน้ายังคงตีสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่ได้เล็งเห็นเหตุผลสำคัญแต่อย่างใดเลยที่จำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้หญิงอย่างพิรญาณ์ได้ทราบเพราะหล่อนก็เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งที่เขารั้งเอาไว้เดินเกม หากเล่นชนะเมื่อไหร่ล่ะก็ตัวละครตัวนี้ก็แทบไร้ความหมายไปโดยปริยาย

"ขอโทษค่ะ พิณคงละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวพี่ภาคินมากเกินไป" แม้ในใจพิรญาณ์ตอนนี้จะร้อนรุ่มเป็นไฟแต่ก็ต้องอดเอาไว้รอวันที่หล่อนได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของภาคินอย่างเต็มตัวหลังจากนั้นจะทำเช่นไรกับผู้หญิงคนนั้นก็ตามใจ!

หล่อนแอบชอบภาคินมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น...ตอนนั้นหล่อนเรียนอยู่มัธยมปีที่ห้า และแล้วครอบครัวสองครอบครัวก็ดันนัดเจอกัน หล่อนปลาบปลื้มภาคินมาโดยตลอดเพราะเขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่ง เฉลียวฉลาด ซ้ำหน้าตาหล่อเหลา ฉะนั้นภาคินจะต้องเป็นของหล่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น! ผู้หญิงคนอื่นที่หมายจ้องจะงาบเขาคงต้องข้ามศพหล่อนไปก่อน!

"ครับ"

"พี่ภาคินอยากกินอาหารแบบไหนคะ" พิรญาณ์เปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าท่าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก

"อะไรก็ได้ครับ" ภาคินรู้สึกอึดอัดเต็มทีที่ต้องมาใช้เวลาอยู่กับพิรญาณ์นานขนาดนี้ แม้เป็นช่วงสั้นๆ 30 นาทีแต่ทำไมเขารู้สึกเหมือนว่ามันช่างเหยียดยาวร่วมวันก็ไม่รู้...หล่อนทั้งถามมากจุกจิกวุ่นวายควงเดินไปนู่นควงเดินไปนี่ หากเป็นมินตราแล้วก็คงไม่ทำอะไรโง่ๆสิ้นคิดแบบนี้เด็ดขาด

บ้าชะมัด! เขาจะคิดถึงผู้หญิงไร้ค่าคนนั้นทำไมกัน ระหว่างมินตรากับพิรญาณ์ มินตราแทบไม่ได้เสี้ยวของพิรญาณ์เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าหล่อนจะรู้ใจเพราะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันมาระยะเวลาเกือบหนึ่งปี แต่อย่างอื่นเทียบไม่ติด! ไม่ว่าจะเป็นสกุลรุนชาติ ฐานะทางสังคม เป็นผู้ลากมากดี ไม่ได้เห็นแก่เงินที่กระทั่งยอมขายศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแลกมา

"ค่ะ" พิรญาณ์ยิ้มเจื่อนๆ "งั้นเราไปหาอาหารเที่ยงรองท้องกันดีกว่านะคะพี่ภาคิน ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น พิณรับรองได้เลยว่าอร่อยถูกปากแน่นอน"

สำหรับเขาร้านอาหารอะไรก็ช่างแม่ง ขอแค่รีบๆกิน รีบๆช็อปปิ้งแล้วปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระกลับบ้านสักที!

ปาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 20

    "ใช่ ข้อนั้นฉันยอมรับว่าส่วนหนึ่งความผิดมันก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ อย่างที่นายคิดแม่ของนายไม่ผิดหรอกนะที่เข้ามาเพราะท่านไม่รู้ว่าพ่อของฉันมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วแม่ของฉันผิดเหรอที่ไม่พอใจ โมโห โกรธ เจ็บใจที่จู่ๆมารู้ว่าผัวตัวเองแอบไปมีเมียน้อยแถมยังมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน ในมุมมองอยู่กินกันมาร่วมหลาย 10 ปีเป็นใครๆก็เสียใจ เป็นใครๆก็โมโหทั้งนั้นแหละ! หรือนายจะเถียง" "..." ภาคินเงียบ "ในตอนแรกแม่ของฉันผิดก็จริง อันนี้ฉันยอมรับ แล้วใครรู้บ้างล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่แม่พานายมาเลี้ยง พานายมาอุ้มชู เป็นแม่กาเหว่าที่ให้อุปการะคุณลูกกา แม่ฉันน่ะทั้งรัก ทั้งเอ็นดูและให้ทุกๆอย่างกับนายเทียบเท่ากับฉัน และที่แม่พานายมาจากแม่ของนายก็เพราะอยากให้นายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้นายได้ใช้ของดีๆ อยู่ในสังคมที่ดี ตอนแรกฉันก็เคยถามแม่ ท่านบอกว่าก็คิดอยากจะทำให้แม่ของนายเจ็บใจเจ็บช้ำน้ำใจที่โดนพรากลูกออกจากอก เหมือนตนโดนแย่งผัว แต่พอได้เลี้ยงนายเข้าจริงๆ ท่านก็รักนายเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง นายเคยรู้บ้างหรือเปล่า!" ภาคีพยายามอธิบายให้น้องชายต่างมารดาได้เข้าใจพ้องต้องกัน "งั้นเหรอ?? ไม่ลำเอียงเลยงั้นเหรอ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 19

    "ต่อไปนะคะก็จะเป็นบททดสอบแรกในส่วนของคุณภาคินค่ะ ทางคู่ค้าธุรกิจเสนอโครงการด้วยบอกมาว่าข้อเสียของคุณภาคินนั่นก็คือนิ่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่การเจรจาคุยงานด้วยถือว่าราบรื่นเพราะเป็นคนพูดจาคล่องแคล่ว จริงจังตลอดเวลายามทำงานและที่สำคัญมีเทคนิคมีสกิลในการต่อรองราคาทำให้บริษัทได้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่งสูง ถือได้ว่าส่งผลดีมากๆเลยค่ะ" เลขาสาวคนสวยกล่าวรายงานหากดูจากบททดสอบแรกผู้ชนะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาคิน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่ข้อเสียของภาคินก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือเปอร์เซ็นต์กำไรบริษัทที่จะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่ากับของภาคี ฉะนั้นหากวางให้การงานรุ่งเรืองกิจการมั่นคงก็คงจะต้องเลือกภาคิน..."มาดูบททดสอบต่อไปกันนะคะ..." หลังจากนั้นเลขาสาวคนสวยก็ใช้รีโมทคอนโทรลเลื่อนสไลด์จอผ่านไปเรื่อยๆร่วมประมาณ 20 นาทีจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายนั่นก็คือกำไรไตรมาสของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในโครงการของทั้งสองคน "ท้ายสุดนี้ก็จะเป็นกำไรไตรมาสบริษัทสำหรับหัวข้อโครงการทำโฆษณานะคะ หนึ่ง ส่วนของคุณภาคีจะเป็นโฆษณาแบรนด์สบู่ผลรวมทั้งหมด ดูแล้วบริษัท

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 18

    วันประกาศผลการแข่งขัน..."ไม่ว่าวันนี้ผลมันจะออกมารูปแบบใด แม่ขอให้ภาคินอย่าโกรธ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูก เพราะพ่อเขารักลูกเท่ากันทุกคน ไม่ได้ลำเอียงรักใครมากกว่ากัน ผลการแข่งขันมันก็ต้องออกมาตามหน้างานที่ปรากฏให้เห็นว่าคนไหนเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ประธานบริหารมากกว่า" นี่คือสิ่งที่คุณอรุณีกลัวมากที่สุดนั่นก็คือลูกชายจงเกลียดจงชังพ่อตัวเอง! หล่อนไม่อยากให้ภาคินเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พยายามพูด พยายามเกลี้ยกล่อม พยายามหว่านล้อมสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ในใจของภาคินให้พังลงได้... ภาคินปลูกฝังและเห็นภาพจำซ้ำๆมาโดยตลอดว่าแม่ของเขาถูกกระทำย่ำยีจากคนบ้านนั้นอย่างไร แม่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตกเป็นตุ๊กตาเริงระบำทั้งๆที่อยากจะหนีไปใจจะขาดแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะลูก คุณดำเกิงใช้ลูกเข้ามาเป็นข้ออ้างในการรั้งอรุณี กักขังหล่อนเอาไว้ในบ้านหลังมอซอเล็กเท่ารูหนูหลังนี้ และในทางกลับกันคุณดำเกิงก็มัดตัวบีบบังคับ ชี้นิ้วสั่งขีดกรอบให้ภาคินทำตามที่เขานิมิตหมายเอาไว้ในหัวโดยใช้แม่ของเขามาเป็นข้ออ้างเช่นเดียวกัน... มันจึงทำให้ภาคินเข้าใจผิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณดำเกิงเห็นเขาแ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 17

    ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก! "คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ ... @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 16

    ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่... ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้านทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี... "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 15

    @สามวันผ่านไป มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!' แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน... มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง... บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง 'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง' ปรากฏว่า...'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลัง

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 14

    "ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น... มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา... "เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดื

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 13

    "มินขอถามคุณภาคินจริงๆเถอะค่ะ คุณภาคินเคยรักมินบ้างไหมคะ" น้ำเสียงเจือแววสะอึกสะอื้นกล้ำกลืนความชอกช้ำเข้าไปในลำคอเป็นช่วงๆ พร้อมกับหยาดน้ำอุ่นร้อนหลั่งรินลงมาด้วยอาการเจ็บปวดรวดร้าวที่มันกำลังกัดกินก้อนเนื้อหัวใจดวงน้อย..."หัดส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะมินตราว่าเธอมีค่าพอหรือเปล่าที่จะให้ฉันลดตัวลงไปรัก" มันเหมือนกับมีมีดปลายแหลมปักเข้ากลางอก เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบเรือนร่างขาวเนียนจนแทบแลไม่เห็นผิวหนังมังสา "ผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุดก็เป็นแค่นางบำเรอช่วยปรนเปรอฉัน ตอนที่ฉันอยากก็เท่านั้นแหละ อย่าสำคัญ อย่าสำเหนียกตัวเองมากเกินไปว่าที่ฉันทนอยู่กับเธอมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรัก" ยัง...ยังไม่พอหรือไง แค่ประโยคแรกหัวใจของเธอก็ป่นปี้บอบสลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว แต่นี่เขายังพูดจาถมเถตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหมายจะให้เนื้อที่เป็นแผลพุพองติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนสาหัสและเจียนตายเลยหรือ? "หากคุณไม่ได้รู้สึกดีด้วย.แล้วคุณจะดึงมินเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม!" มินตราทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยความรู้สึกซับซ้อนซ่อนเงื่อนพัวพันกันมั่วไปหมดในสมอง เขาไม่เคยรักเธอเลยสักนิดหรือไง? แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามัน

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 12

    "เชิญครับคุณมินตรา นี่ก็ถึงเวลาทำงานแล้ว กรุณาเหน็ดเหนื่อยให้สมกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายไปให้คุณด้วย" ภาคินกดน้ำเสียงต่ำแกมบังคับบีบให้มินตราค่อยๆหลุบลงมองพื้นแล้วถอนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบิดาเพื่อกระเถิบตัวตั้งท่าเตรียมรอออกจากห้อง "งั้นหนู...เอ่อ..." มินตราเหลือบขึ้นไปมองสายตาดุ กร้าวของภาคินเมื่อเธอหลุดใช้สรรพนามแทนการเรียกชื่อที่แสนจะคุ้นเคยกับคุณลุงดำเกิง "งั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะท่านประธาน" "ตามสบายเลยจ้ะ" เมื่อเป็นเช่นนั้นมินตราจึงขออนุญาตปลีกตัวออกไปจากห้องประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเพื่อประจำยังโต๊ะทำงานของตนซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของภาคินนั่นเอง @ห้องทำงานภาคิน "เข้าไปคุยกับผมในห้อง" ภาคินพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของมินตรา แกร๊ก!"ไปเสนอตัวให้พ่อผมถึงห้องเลยเหรอ?" ภาคินรั้งตัวร่างบางกระชากเข้าหากายพร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาบีบแขนเรียวบางของเธอจนเนื้อนุ่มบุ๋มยุบตัว "เงินที่ผมให้ใช้ในแต่ละเดือนมันขาดเหลือจนกระทั่งต้องยอมนอนกับผู้ชายที่มีสามีแล้วงั้นเหรอ?" "คุณภาคินพูดอะไรคะ? มินไม่เห็นจะเข้าใจเลย" มินตราไม่รู้ว่าตนจะต้องแสดงความ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status