Share

บทที่ 15

last update Last Updated: 2025-05-15 22:52:04

@สามวันผ่านไป

มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!'

แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน...

มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง...

บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง

'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง'

ปรากฏว่า...

'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลังใช้งานและอาจนำไปสู่การตั้งครรภ์ที่ไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้นได้'

"เชี้ย..." แค่ข้อแรกหัวใจเธอก็กระตุกวูบหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเสียแล้ว

'ข้อที่สอง ยางที่ถุงยางอนามัยอาจเสื่อมสภาพไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้'

ข้อแรกว่าหนักหนาสาหัสแล้วเจอข้อ 2 เข้าไป เธอแทบช็อค มินตรากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ทอดมองถุงพลาสติกสีหม่นที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์หัวเตียงด้วยสายตาหวาดหวั่นว่าอย่าให้เธอต้องเป็นผู้โชคร้ายคนนั้นทีเถิด ก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อ

'ข้อที่สาม ยางที่เสื่อมสภาพอาจทำให้อวัยวะเพศของตนเองหรือคนรักเกิดการระคายเคือง ประกอบไปด้วยผื่นคัน รู้สึกแสบ เกิดอาการแพ้จนต้องพบแพทย์'

ข้อนี้ทำให้เธอโล่งเพราะเธอไม่ได้มีอาการอย่างที่ในอากู๋ว่าทั้งสิ้น ส่วนภาคินเธอไม่รู้เพราะเขาไม่เคยบ่นและเธอเองก็ไม่เคยไถ่ถามมากเกินความจำเป็นเนื่องจากเขาไม่ชอบคนขี้จุกจิก วุ่นวาย

"อย่าเลยนะ..." ตอนนี้นับได้ว่ามินตรามีโอกาสเสี่ยงตามตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากให้ชัดเจนและเพื่อความสบายใจของทั้งเธอและภาคินเอง ทางเลือกที่ดีที่สุดนั่นก็คือการตรวจ

มินตราผุดลุกผุดนั่งบนฟูกเตียงแล้วหยิบถุงพลาสติกสีหม่นก่อนดึงกล่องชุดตรวจครรภ์ออกมาด้วยมือที่สั่นเทา สูดลมหายใจเข้าปอดรวดใหญ่แล้วชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะได้ผลสรุปที่แน่ชัดโดยการเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อดำเนินตามกระบวนการตรวจหลังกล่อง...

มินตรานั่งอยู่บนฝาชักโครก ในมือของเธอนั้นถือชุดตรวจครรภ์ที่พลิกด้านแสดงผลตรวจหันเข้าหากระเบื้องด้านล่าง...รอเวลาประมาณ 5 นาทีเพื่อให้ได้ผลที่แน่ชัด

แต่ภายในใจนั้นร้อนรุ่มกระวนกระวายแทบอยู่ไม่ติดด้วยความหวาดหวั่น หากผลมันออกมาตรงกันข้ามกับสิ่งตรงข้ามกับที่เธอภาวนาจริง เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรต่อไปและจะทำอย่างไรในการเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศ...

"อย่า..." ครบเวลา 5 นาทีมินตราค่อยๆพลิกหงายชุดตรวจครรภ์ขึ้นมา มือไม้ของเธออ่อนแรงทำมันหล่นลงบนพื้นกระเบื้องจนเกิดเสียงดัง ป๊อก! เมื่อเห็นขีดสองขีดสีแดงปรากฏเด่นหราไม่มีผิดเพี้ยน คราวแรกก็ยังไม่มั่นใจเพราะคิดว่าอาจจะผิดพลาดทางเทคนิคหรืออะไรสักอย่าง

ก็เลยหยิบชุดตรวจครรภ์กล่องอื่นจำนวนอีดห้ากล่องทำการตรวจอีกรอบรวดเดียว...ก็ยังสองขีดแดงเถือกอยู่ดี...ไม่มีอะไรชัดเจนไปมากกว่านี้อีกแล้วสินะ

เธอกำลังท้อง..

เธอกำลังตั้งท้องลูกของภาคิน เด็กที่พ่อไม่ต้องการ...

"ฮึก ฮื่อ...มะ...ไม่" น้ำตาหลั่งรินพร่างพรูลงมาอีกคราว ฝ่ามือของมินตรากำชุดตรวจครรภ์แน่น เธอซบใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาผงกหัวด้วยความรู้สึกมากมายที่ตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง...

แทบไม่รู้เหมือนกันว่าเธอนั่งอยู่ในอริยาบทเช่นนี้นานร่วมชั่วโมง...ร้องไห้ออกมาจนน้ำตาเหือดแห้งไม่สามารถพยายามเค้นมันให้ออกมาร่ำร้องได้อีกแล้ว เธอเลื่อนฝ่ามือลงไปลูกเนินหน้าท้องที่ในขณะนี้กำลังมีเจ้าก้นทารกตัวน้อยๆกำลังเจริญพันธุ์อยู่ในมดลูก...

อย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็คือลูกของเธอ...ลูกที่เกิดจากความรักของเธอ

"ต่อให้พ่อเขาจะไม่ยอมรับแต่แม่จะรักและดูแลหนูให้ดีที่สุด" มินตราพูดพร่ำเพ้อตัดพ้อชีวิตอันแสนบัดซบของตัวเอง ภาพภายในตาตอนนี้มันมืดบอดดำสนิทแทบมองไม่เห็นหนทางออกวันหลังจากนี้จะเอาอย่างไรต่อไป ในเมื่อได้ยินภาคินพูดเองเต็มสองหูว่าเขาไม่มีวันยอมรับเด็กคนนี้เด็ดขาดเนื่องจากเธอมันก็เป็นแค่คู่นอนไร้สกุลรุนชาติไม่มีอะไรที่จะไปยืนเทียบเคียงว่าที่ CEO อย่างเขาได้...

แล้วเธอจะบอกเรื่องนี้กับแม่อย่างไร...ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามินตราเป็นเด็กดีอยู่ในกรอบอยู่ในระเบียบไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผลการเรียนหรือแม้กระทั่งการทำงาน...แต่นี่คือจุดเปลี่ยนผันของชีวิตเธอกำลังจะก้าวสู่ความเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเลี้ยงเด็กคนหนึ่งตามลำพังโดยที่พ่อเขาไม่ยอมรับ

ป้าข้างบ้านคงเอาไปซุบซิบนินทาว่าเธอท้องไม่มีพ่อ แล้วลามปามถึงมารดาและบิดาอบรมสั่งสอนลูกอย่างไรถึงได้ประพฤติตัวเช่นนี้

"หากคุณภาคินรู้เข้า เขาจะให้แม่ไปเอาหนูออกหรือเปล่านะ" มินตราไม่สามารถคาดเดาจิตใจของภาคินล่วงหน้าได้เลย...มีคำหนึ่งที่ยังย้ำซ้ำอยู่ในใจของเธอเสมอมานั่นก็คือคำพูด 'เขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเด็กคนนี้คือลูกของเขา' นั่นหมายถึงหากเธอพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมาเขาไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด

"เป็นไงเสีย แม่ก็ไม่ทิ้งหนูหรอก ในเมื่อแม่พลาดมีหนูมาแล้วแม่ก็ต้องยอมรับผลของการกระทำตัวเอง แม่จะพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้หนูลำบาก แม่สัญญา" มินตราสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนเก็บกวาดชุดตรวจครรภ์ทั้งหมดทั้งมวลให้เรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องน้ำ...

"คุณไม่เคยรักฉันเลย...เพราะฉะนั้นลูกที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขขอชั้นฉันครึ่งหนึ่งมันก็คงจะต่ำต้อยด้อยค่าเกินกว่าที่จะให้ใช้นามสกุลของคุณสินะคะ" มินตราหยิบรูปภาพของภาคินขึ้นมาแล้วพร่ำพูดกับเขาตามลำพังด้วยแววตากลมโตดุจไข่ห่านที่ยังคงมีคราบน้ำแปดเปื้อนกำลังไล่มองรอบๆห้องที่มีแต่ภาพความทรงจำของสองเราเต็มไปหมด ทว่ามันล้วนเป็นกิจกรรมทางเพศที่เกี่ยวกับเซ็กส์ทั้งสิ้น

มินตราชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง...นี่อาจจะเป็นทางเลือกและเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอและภาคินเองนั่นก็คือการเดินออกไปจากชีวิตของเขา...

ตอนนี้เขากำลังจะประสบความสำเร็จในชีวิต กำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึงประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุล หากมีเธอและลูกคอยถ่วงเขาก็คงจะต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อนาคตดับสิ้น มีแต่คนพูดจาถากถางพวกคว้าผู้หญิงชั้นต่ำขึ้นมาเป็นภรรยาเชิดหน้าชูตา...แต่ถึงกระไรมันอาจจะยังไปไม่ถึงขั้นนั้นเลยด้วยซ้ำเพราะเขาคงตัดหางปล่อยวัด คิดตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการให้ทำแท้งและเอาเด็กออก...

คงไม่ใจร้ายไส้ระกำที่จะกระทำกับลูกของตัวเองได้ลงคอ...ฉะนั้น ลาก่อนค่ะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 20

    "ใช่ ข้อนั้นฉันยอมรับว่าส่วนหนึ่งความผิดมันก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ อย่างที่นายคิดแม่ของนายไม่ผิดหรอกนะที่เข้ามาเพราะท่านไม่รู้ว่าพ่อของฉันมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วแม่ของฉันผิดเหรอที่ไม่พอใจ โมโห โกรธ เจ็บใจที่จู่ๆมารู้ว่าผัวตัวเองแอบไปมีเมียน้อยแถมยังมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน ในมุมมองอยู่กินกันมาร่วมหลาย 10 ปีเป็นใครๆก็เสียใจ เป็นใครๆก็โมโหทั้งนั้นแหละ! หรือนายจะเถียง" "..." ภาคินเงียบ "ในตอนแรกแม่ของฉันผิดก็จริง อันนี้ฉันยอมรับ แล้วใครรู้บ้างล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่แม่พานายมาเลี้ยง พานายมาอุ้มชู เป็นแม่กาเหว่าที่ให้อุปการะคุณลูกกา แม่ฉันน่ะทั้งรัก ทั้งเอ็นดูและให้ทุกๆอย่างกับนายเทียบเท่ากับฉัน และที่แม่พานายมาจากแม่ของนายก็เพราะอยากให้นายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้นายได้ใช้ของดีๆ อยู่ในสังคมที่ดี ตอนแรกฉันก็เคยถามแม่ ท่านบอกว่าก็คิดอยากจะทำให้แม่ของนายเจ็บใจเจ็บช้ำน้ำใจที่โดนพรากลูกออกจากอก เหมือนตนโดนแย่งผัว แต่พอได้เลี้ยงนายเข้าจริงๆ ท่านก็รักนายเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง นายเคยรู้บ้างหรือเปล่า!" ภาคีพยายามอธิบายให้น้องชายต่างมารดาได้เข้าใจพ้องต้องกัน "งั้นเหรอ?? ไม่ลำเอียงเลยงั้นเหรอ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 19

    "ต่อไปนะคะก็จะเป็นบททดสอบแรกในส่วนของคุณภาคินค่ะ ทางคู่ค้าธุรกิจเสนอโครงการด้วยบอกมาว่าข้อเสียของคุณภาคินนั่นก็คือนิ่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่การเจรจาคุยงานด้วยถือว่าราบรื่นเพราะเป็นคนพูดจาคล่องแคล่ว จริงจังตลอดเวลายามทำงานและที่สำคัญมีเทคนิคมีสกิลในการต่อรองราคาทำให้บริษัทได้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่งสูง ถือได้ว่าส่งผลดีมากๆเลยค่ะ" เลขาสาวคนสวยกล่าวรายงานหากดูจากบททดสอบแรกผู้ชนะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาคิน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่ข้อเสียของภาคินก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือเปอร์เซ็นต์กำไรบริษัทที่จะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่ากับของภาคี ฉะนั้นหากวางให้การงานรุ่งเรืองกิจการมั่นคงก็คงจะต้องเลือกภาคิน..."มาดูบททดสอบต่อไปกันนะคะ..." หลังจากนั้นเลขาสาวคนสวยก็ใช้รีโมทคอนโทรลเลื่อนสไลด์จอผ่านไปเรื่อยๆร่วมประมาณ 20 นาทีจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายนั่นก็คือกำไรไตรมาสของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในโครงการของทั้งสองคน "ท้ายสุดนี้ก็จะเป็นกำไรไตรมาสบริษัทสำหรับหัวข้อโครงการทำโฆษณานะคะ หนึ่ง ส่วนของคุณภาคีจะเป็นโฆษณาแบรนด์สบู่ผลรวมทั้งหมด ดูแล้วบริษัท

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 18

    วันประกาศผลการแข่งขัน..."ไม่ว่าวันนี้ผลมันจะออกมารูปแบบใด แม่ขอให้ภาคินอย่าโกรธ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูก เพราะพ่อเขารักลูกเท่ากันทุกคน ไม่ได้ลำเอียงรักใครมากกว่ากัน ผลการแข่งขันมันก็ต้องออกมาตามหน้างานที่ปรากฏให้เห็นว่าคนไหนเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ประธานบริหารมากกว่า" นี่คือสิ่งที่คุณอรุณีกลัวมากที่สุดนั่นก็คือลูกชายจงเกลียดจงชังพ่อตัวเอง! หล่อนไม่อยากให้ภาคินเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พยายามพูด พยายามเกลี้ยกล่อม พยายามหว่านล้อมสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ในใจของภาคินให้พังลงได้... ภาคินปลูกฝังและเห็นภาพจำซ้ำๆมาโดยตลอดว่าแม่ของเขาถูกกระทำย่ำยีจากคนบ้านนั้นอย่างไร แม่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตกเป็นตุ๊กตาเริงระบำทั้งๆที่อยากจะหนีไปใจจะขาดแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะลูก คุณดำเกิงใช้ลูกเข้ามาเป็นข้ออ้างในการรั้งอรุณี กักขังหล่อนเอาไว้ในบ้านหลังมอซอเล็กเท่ารูหนูหลังนี้ และในทางกลับกันคุณดำเกิงก็มัดตัวบีบบังคับ ชี้นิ้วสั่งขีดกรอบให้ภาคินทำตามที่เขานิมิตหมายเอาไว้ในหัวโดยใช้แม่ของเขามาเป็นข้ออ้างเช่นเดียวกัน... มันจึงทำให้ภาคินเข้าใจผิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณดำเกิงเห็นเขาแ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 17

    ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก! "คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ ... @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 16

    ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่... ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้านทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี... "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 15

    @สามวันผ่านไป มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!' แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน... มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง... บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง 'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง' ปรากฏว่า...'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลัง

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 14

    "ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น... มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา... "เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดื

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 13

    "มินขอถามคุณภาคินจริงๆเถอะค่ะ คุณภาคินเคยรักมินบ้างไหมคะ" น้ำเสียงเจือแววสะอึกสะอื้นกล้ำกลืนความชอกช้ำเข้าไปในลำคอเป็นช่วงๆ พร้อมกับหยาดน้ำอุ่นร้อนหลั่งรินลงมาด้วยอาการเจ็บปวดรวดร้าวที่มันกำลังกัดกินก้อนเนื้อหัวใจดวงน้อย..."หัดส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะมินตราว่าเธอมีค่าพอหรือเปล่าที่จะให้ฉันลดตัวลงไปรัก" มันเหมือนกับมีมีดปลายแหลมปักเข้ากลางอก เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบเรือนร่างขาวเนียนจนแทบแลไม่เห็นผิวหนังมังสา "ผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุดก็เป็นแค่นางบำเรอช่วยปรนเปรอฉัน ตอนที่ฉันอยากก็เท่านั้นแหละ อย่าสำคัญ อย่าสำเหนียกตัวเองมากเกินไปว่าที่ฉันทนอยู่กับเธอมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรัก" ยัง...ยังไม่พอหรือไง แค่ประโยคแรกหัวใจของเธอก็ป่นปี้บอบสลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว แต่นี่เขายังพูดจาถมเถตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหมายจะให้เนื้อที่เป็นแผลพุพองติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนสาหัสและเจียนตายเลยหรือ? "หากคุณไม่ได้รู้สึกดีด้วย.แล้วคุณจะดึงมินเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม!" มินตราทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยความรู้สึกซับซ้อนซ่อนเงื่อนพัวพันกันมั่วไปหมดในสมอง เขาไม่เคยรักเธอเลยสักนิดหรือไง? แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามัน

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 12

    "เชิญครับคุณมินตรา นี่ก็ถึงเวลาทำงานแล้ว กรุณาเหน็ดเหนื่อยให้สมกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายไปให้คุณด้วย" ภาคินกดน้ำเสียงต่ำแกมบังคับบีบให้มินตราค่อยๆหลุบลงมองพื้นแล้วถอนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบิดาเพื่อกระเถิบตัวตั้งท่าเตรียมรอออกจากห้อง "งั้นหนู...เอ่อ..." มินตราเหลือบขึ้นไปมองสายตาดุ กร้าวของภาคินเมื่อเธอหลุดใช้สรรพนามแทนการเรียกชื่อที่แสนจะคุ้นเคยกับคุณลุงดำเกิง "งั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะท่านประธาน" "ตามสบายเลยจ้ะ" เมื่อเป็นเช่นนั้นมินตราจึงขออนุญาตปลีกตัวออกไปจากห้องประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเพื่อประจำยังโต๊ะทำงานของตนซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของภาคินนั่นเอง @ห้องทำงานภาคิน "เข้าไปคุยกับผมในห้อง" ภาคินพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของมินตรา แกร๊ก!"ไปเสนอตัวให้พ่อผมถึงห้องเลยเหรอ?" ภาคินรั้งตัวร่างบางกระชากเข้าหากายพร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาบีบแขนเรียวบางของเธอจนเนื้อนุ่มบุ๋มยุบตัว "เงินที่ผมให้ใช้ในแต่ละเดือนมันขาดเหลือจนกระทั่งต้องยอมนอนกับผู้ชายที่มีสามีแล้วงั้นเหรอ?" "คุณภาคินพูดอะไรคะ? มินไม่เห็นจะเข้าใจเลย" มินตราไม่รู้ว่าตนจะต้องแสดงความ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status