บทเพลงรักที่แสนทรมานหัวใจผ่านพ้นไปอย่างยาวนานสำหรับพลอยไพลิน ไร้ซึ่งเสียงสนทนาหรือแม้กระทั่งเสียงปลอบโยนสำหรับหญิงสาว เขาตักตวงความสุขความหอมหวานจากร่างเล็กจนพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวแล้วเดินออกไปจากห้อง
หยดน้ำตาสีใสไหลอาบแก้มนวลด้วยความอึดอัด เธออยากจะออกไปจากจุดนี้เหลือเกิน ติดแต่ว่าหัวใจมันยังเรียกร้องที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง แม้จะเศร้าที่ต้องแอบขโมยอ้อมกอดจากคนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้กอดเขา แม้จะเศร้าที่ต้องคอยลอบมองรอยยิ้มที่เขายิ้มให้คนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้เห็นมัน หากเลือกได้จริง ๆ เธอก็คงยอมกลายเป็นคนเลวแบบนี้ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาก็พอ
ร่างเล็กลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เธอสะบัดความช้ำออกจากหัวใจโดยปล่อยให้สายน้ำชำระล้างมันให้หมดสิ้น หลังจากอาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็พาร่างของตัวเองกลับมานอนที่เดิมจนเคลิ้มหลับไป
***
เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสนะสำหรับเธอ พลอยไพลินตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน เธอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงมาด้านล่างเครื่องปรุงอาหารเช้าสำหรับตัวเธอเองและพวกเขา
ตุบ!
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
ด้วยความเพลิดเพลินกับการทำอาหาร ทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตผู้มาใหม่ หญิงสาวร่างเล็กอีกคนที่เธอชนหล่อนยืนมองเธอนิ่งด้วยสายตาว่างเปล่า
“คุณวิเวียนมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ออกไปได้แล้ว” หล่อนตอบเสียงเรียบ
“คะ?”
“ก็บอกให้ออกไปไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ”
“อ๋อ..ค่ะ ๆ”
พลอยไพลินเดินออกมาจากห้องอาหารด้วยความมึนงง อะไรของเขา จู่ ๆ ก็มาไล่กัน
ตุบ!
“ว๊าย”
“.....”
รอบสองที่เธอเดินชนคนอื่นเพราะความเหม่อลอยเป็นเหตุ แต่คราวนี้แตกต่าง เพราะร่างของเธออยู่ในอ้อมกอดผู้ถูกชน
“คุณอลัน...”
“.....”
“เอ่อ...ปล่อยพลอยก่อนได้ไหมคะ?”
“.....”
เขาเงียบไม่ตอบเธอ แต่สายตาคมกับจ้องเธอไม่ห่าง เรียวปากหยักยกยิ้มขึ้นพร้อมกับส่งแววตากวนประสาทมาให้ หัวใจดวงน้อยเต้นเสียงดังโครมครามราวกับกลองชุด แค่รอยยิ้มบาง ๆ ของเขาก็มีอิทธิพลกับเธอมากขนาดนี้ หากเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอบอุ่นแบบที่เขายิ้มให้กับคนรักของเขาเธอคงเป็นลมตายเป็นแน่
“เธอจะรีบไปไหน?” เสียงทุ้มดังขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นาน
“เอ่อ...คือ...พลอย” นั่นสิเธอจะไปไหน เธอเองก็ยังไม่รู้
“อลันคะ ตื่นแล้วเหรอคะ?” เสียงตะโกนดังจากในครัวเป็นเหตุให้เขาปล่อยร่างเธอออกจากอ้อมกอด พลอยไพลินขยับเสื้อผ้าอย่างลนลาน ก่อนจะขอตัวเดินหนีออกมา
***
ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องครัวตามเสียงเรียกของคนรัก กลิ่นหอมชวนหิวลอยเข้ามาเตะจมูกโด่งทันทีที่เข้าใกล้รัศมี
“หอมจังเลยครับวิเวียน”
“ทานเลยไหมคะ? เดี๋ยววิเวียนตักให้”
“คุณทานกับผมนะ”
“ค่ะ”
เขาเลือกเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารรอการเสิร์ฟของคนรัก ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างภูมิใจที่รู้สึกเลือกคู่ชีวิตไม่ผิด แค่กลิ่นก็พอจะเดารสชาติได้อยู่บ้างว่าคงจะอร่อยไม่น้อย
***
ในขณะที่อีกฟากโลกกำลังจะเช้า แต่ที่นี่กับเริ่มมืด บนโต๊ะอาหารเย็นของตระกูลโคนอฟปกคลุมไปด้วยความเงียบ
“ต้นอ้อ...คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“.....”
“ต้นอ้อครับ”
“ปะ...เปล่าค่ะ ต้นอ้อไม่ได้เป็นอะไร”
“ผมรู้ว่าคุณเป็น มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?”
“ต้นอ้อรู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้ค่ะ มันแปลก ๆ บอกไม่ถูก ทั้งเรื่องคุณด้วย แล้วก็เรื่องลูกด้วย”
“เรื่องผมคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ส่วนเรื่องลูกของเราก็ยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง ผมเชื่อว่าอลันเขาจะดูแลหนูพลอยได้ดี”
“เฮ้อ...ต้นอ้อตัดสินใจแล้วนะคะ ต้นอ้อจะบอกความจริงกับลูกทั้งหมดทุกเรื่อง ทั้งเรื่องของเราและเรื่องของลูกด้วย”
“ครับที่รัก ผมเองก็รอวันนั้นเหมือนกัน วันที่ความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผย วันที่ทุกคนจะได้รับรู้ความจริง วันที่คุณจะหมดตราบาป”
“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงกัน”
“เพราะผมรักคุณ รักคุณคนเดียวเสมอมา”
เคร้ง!
กรอบรูปครอบครัวแสนสุขตระกูลโคนอฟตกลงมาแตก โดยไม่ทราบสาเหตุ ชายหญิงวัยกลางคนทั้งสองมองหน้ากันราวกับรู้ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น
“ลิลลี่คุณอยู่แถวนี้ใช่ไหม?”
“.....”
“ถ้าเธออยู่และรับรู้ เธอจงปล่อยวาง...แล้วพวกเราจะไปทำบุญให้นะ”
“พอเถอะครับต้นอ้อ ลิลลี่เขาไปสบายแล้ว”
“ค่ะ ต้นอ้อว่าต้นอ้อโทรหาลูกดีกว่า”
เมื่อตกลงกันได้แล้ว หญิงสาววัยกลางคนจึงเดินไปหยิบมือถือโทรหาลูกสาว เพียงเวลาไม่นานนักปลายสายก็กดรับ
(คุณแม่ คิดถึงจังเลยค่ะ) เสียงสดใสที่กรอกมาตามสาย เหมือนสายน้ำเย็นหยดลงบนต้นไม้หัวใจที่แห้งเหี่ยว
“แม่ก็คิดถึงลูกจ้ะ เป็นยังไงบ้างพลอย ที่นั่นหนาวไหม?”
(หนาวนิดหน่อยค่ะ แต่พลอยชอบ เย็นดี คุณแม่ทำอะไรอยู่คะ ยังไม่ง่วงอีกเหรอ?)
“ยังจ๊ะ แม่ทานข้าวอยู่ แต่คิดถึงลูกก็เลยโทรมาหา”
(พลอยคิดว่าคุณแม่คงหลับไปแล้วก็เลยไม่ได้โทรหา คุณแม่รีบทานข้าวรีบนอนเถอะนะคะ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้)
“พลอยก็เหมือนกันนะลูก อย่านอนดึก แล้วก็ดูแลสุขภาพด้วยนะลูก”
(พลอยรักแม่นะคะ)
“แม่ก็รักลูกจ้ะ”
มือเรียวกดตัดสายไป หล่อนเงยหน้าขึ้นมองสามีก่อนจะระบายยิ้มออกมาบาง ๆ
“ต้นอ้อเป็นห่วงเรื่องงานแต่งของตาอลัน”
“ผมคิดว่าเราควรจะบอกเรื่องนั้นกับลูกก่อน ส่วนถ้าจะเป็นยังไงต่อไปก็ให้เขาตัดสินใจเอาเอง”
“แต่ที่ต้นอ้อเห็นคืนนั้น...”
“ผมเข้าใจครับ ผมเองก็รู้สึกได้ว่าอลันคิดยังไงกับหนูพลอย เพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเองก็แค่นั้น”
“เขาจะยอมรับได้จริง ๆ เหรอคะ?”
“แต่ถึงยังไงตระกูลโคนอฟก็ขาดหัวเสืออย่างอลันไม่ได้หรอกนะคุณ ผมเองก็คงจะบริหารไม่ได้ดีอย่างที่เขาทำ อีกอย่างลูกของเราก็คงจะทำไม่ได้”
“ต้นอ้อร้อนใจจังเลยค่ะคุณ ต้นอ้อน่าจะกล้าตัดสินใจให้มากกว่านี้ ต้นอ้อไม่น่าขี้ขลาดเลย”
“ไม่เป็นไรนะที่รัก ทำใจให้สบาย เมื่อวันเวลาที่พร้อมและเราจะบอกลูกกันเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด”
“ต้นอ้อรักคุณนะคะ”
“ผมก็รักคุณครับ”
***
ดวงตากลมโตมองสถานที่บันเทิงเบื้องหน้าด้วยหัวใจเต้นรัว เธอรู้สึกประหม่าอย่างที่สุดเนื่องจากไม่เคยมาเที่ยวสถานที่แบบนี้มาก่อนในชีวิต พลอยไพลินอยู่ในชุดกางเกงยีนสีเข้มทรงสกินนี่ ท่อนบนสวมเสื้อยืดสีเทาพอดีตัว ผมยาวสลวยถูกปล่อยตามธรรมชาติ ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาเพื่อเสริมความมั่นใจ“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะน้องพลอย เข้าไปข้างในเถอะ ข้าวบอกว่าจองโต๊ะไว้ให้แล้ว”“โอเคค่ะ”หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งเรียกความมั่นใจ เธอก้าวตามร่างสูงของโนอาห์ไปติด ๆ เพราะกลัวคลาดกัน บรรยากาศด้านในชวนให้กระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มทำให้เธออึดอัด ผู้คนมากมายต่างโชว์ลวดลายโยกย้ายส่ายเอวเข้ากับจังหวะดนตรี สาวสวยหลายคนปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ชายหนุ่มสัมผัสตามอำเภอใจ โดยที่หล่อนไม่ได้ขัดขืน เธอไม่ชอบสถานที่แบบนี้เป็นที่สุด“พลอยทางนี้ ๆ”ร่างเล็กหันไปตามเสียงเรียกที่ได้ยินไม่ถนัดนัก เธอเห็นเพื่อนที่นั่งรออยู่พอดีจึงเดินไปหารวงข้าวอย่างไว“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ?” รวงข้าวเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของพลอยไพลิน“เราไม่เคยมาที่แบบนี้น่ะ เลยประหม่านิดหน่อย”“อ๋อ...ใจเย็นนะ ผ่อนคลายเลย ส
บทเพลงรักที่แสนทรมานหัวใจผ่านพ้นไปอย่างยาวนานสำหรับพลอยไพลิน ไร้ซึ่งเสียงสนทนาหรือแม้กระทั่งเสียงปลอบโยนสำหรับหญิงสาว เขาตักตวงความสุขความหอมหวานจากร่างเล็กจนพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวแล้วเดินออกไปจากห้องหยดน้ำตาสีใสไหลอาบแก้มนวลด้วยความอึดอัด เธออยากจะออกไปจากจุดนี้เหลือเกิน ติดแต่ว่าหัวใจมันยังเรียกร้องที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง แม้จะเศร้าที่ต้องแอบขโมยอ้อมกอดจากคนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้กอดเขา แม้จะเศร้าที่ต้องคอยลอบมองรอยยิ้มที่เขายิ้มให้คนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้เห็นมัน หากเลือกได้จริง ๆ เธอก็คงยอมกลายเป็นคนเลวแบบนี้ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาก็พอร่างเล็กลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เธอสะบัดความช้ำออกจากหัวใจโดยปล่อยให้สายน้ำชำระล้างมันให้หมดสิ้น หลังจากอาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็พาร่างของตัวเองกลับมานอนที่เดิมจนเคลิ้มหลับไป***เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสนะสำหรับเธอ พลอยไพลินตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน เธอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงมาด้านล่างเครื่องปรุงอาหารเช้าสำหรับตัวเธอเองและพวกเขาตุบ!“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”ด้วยความเพลิดเพลินกับการทำอาหาร ทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตผู้มาใหม่ หญิงสาวร่างเล
รถคันหรูของอลันจอดสนิทที่ลานจอดรถวีไอพีห้างดังของประเทศ พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก ตลอดเวลาบนรถเธออึดอัดจวนอาเจียนเพราะความมวนท้อง เขาทั้งคู่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ไม่สิ...เธอคือส่วนเกิน และหากเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะพาเธอมาด้วยทำไม“คุณอลันคะ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาด้วยความประหม่า“?” เขาไม่ได้ขานรับเพียงแค่หันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ“พลอยขออนุญาตไปเดินแยกได้ไหมคะ?” หลังจากถามคำถามออกไปเธอก็เม้มปากสนิทรอลุ้นคำตอบ“ที่ให้มาด้วยเพราะเธอต้องถือของให้วิเวียน ไม่ได้ให้เดินเที่ยว เข้าใจนะ!”วาจาประกาศิตกล่าวจบเขาก็เดินจูงมือคนรักนำไปทันที หญิงสาวมองตามด้วยความรู้สึกน้อยใจ ประโยคที่เขาเอ่ยบอกเธอเมื่อครู่ชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม ขาเรียวจึงเดินตามไปอย่างไม่รีรอเพียงเวลาไม่นานมือเล็กก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมายจนล้นมือ เธอรู้สึกว่าของมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่คนรักของเขาก็ไม่ได้ซื้อของเพิ่ม นั่นอาจเป็นเพราะว่าแขนของเธอเริ่มล้าตามกาลเวลา ดวงตากลมมองร่างสูงของสามีทางพฤตินัยอย่างเว้าวอน หวังไว้ว่าเขาจะมีน้ำใจช่วยเหลือเธอสักนิด แต่เปล่าเลย...เปล่าประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้เ
ครืด~ ครืด~~เสียงเรียกเข้าของมือถือรุ่นทั่วไปดังขึ้นเรียกความสนใจจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี เธอหยิบมือถือขึ้นมาดูพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นนักก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ” เสียงใสกรอกไปตามสายอย่างใจเย็น(อยู่ไหน?)“คุณอลันเหรอคะ?”(ใช่ ถามว่าอยู่ไหน?)“อยู่ที่มหาลัยค่ะ”(เย็นนี้ไปห้างกับฉัน)“เย็นนี้เหรอคะ?” เธอทวนคำของเขาเสียงสูง(ใช่ ทำไม?)“ปะ...เปล่า ๆ ค่ะ”(เดี๋ยวฉันไปรับตอนสี่โมงเย็น)“ค่ะ”เขาก็ตัดสายทิ้งไปแล้วจริง ๆ เธอมีนัดฉลองกับโนอาห์รุ่นพี่คนสนิท แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธบุคคลสำคัญอย่างคุณอลัน ตัวเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรเธอถึงไปกลัวเขามากขนาดนี้“เฮ้อ...” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ“พลอย”“พี่โนอาห์ มานั่งก่อนสิคะ”“เป็นไรหรือเปล่า? ทำไมหน้าดูซีด ๆ”“เปล่าหรอกค่ะ”“พลอย...นี่อาจารย์รวงข้าว” ร่างสูงนั่งลงโดยไม่ลืมแนะนำผู้หญิงอีกคนที่มากับเขาให้เธอรู้จักด้วย“สวัสดีค่ะคุณรวงข้าว” หญิงสาวทักทายเสียงหวาน“สวัสดีค่ะ เอ่อ...เรียกข้าวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” หล่อนยิ้มเต็มใบหน้าจนตาหยี“ข้าว...นี่พลอยไพลินนะ”“เรียกว่าพลอยอย่างเดียวก็พอค่ะ”“ไม่ต้องเกร็งนะพลอย เราน่าจะรุ่น
ร่างสูงเคลื่อนตัวมาใกล้ร่างเล็กเรื่อย ๆ จนเธอต้องถอยหนีพลางหลับตาปี๋ไปด้วย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนเกิดเสียงดังไปถึงหูของเขา อลันกระตุกยิ้มเบา ๆ ก่อนจะถอยหลังห่างออกไปเมื่อรู้สึกว่าเขาห่างออกไปแล้วเธอจึงลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะจัดระเบียบตัวเองให้เข้าที่ ใบหน้าสวยก้มลงต่ำพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่าเลยเวลาหกโมงครึ่งมาแล้ว พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมา เบา ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองไปทำงานสายอีกแล้ว“ออกไปได้แล้ว” เขาพูดเสียงเรียบหญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ หรือเขาแค่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้น หากเป็นอย่างที่เธอคิดเขาคงเป็นบุคคลที่ใจร้ายมาก ๆ อย่างที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อนขาเรียวก้าวออกมาจากห้องช้า ๆ เพราะกลัวเสียมารยาท แต่เมื่อพบพ้นอาณาเขตของเขาแล้วเธอจึงรีบวิ่งทันที แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องสายแต่คงจะดีกว่าหากไม่สายมาก“พลอย จะรีบวิ่งไปไหน เดี๋ยวก็ล้มหรอก” มารดาของเธอเอ่ยทัก“คือ...พลอยสายมากแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ คุณลุงสวัสดีค่ะ คุณแม่คะ พลอยไปนะคะ” เธอเอ่ยอย่างร้อนรน“ไปไงล่ะหนูพลอย?”“รถโดยสารค่ะ”“พลอยลูก ตั้งสติก่อน เดี๋ยววันนี้ขอให้ลุงสมหมายไปส่ง มากินข้าวมา” มารดาของเธอปรามเมื่อเห็นท่าทีของ
เช้าวันใหม่อากาศสดใสรับฤดูใบไม้ผลิ หากแต่จิตใจของหญิงสาวไม่ได้สดใสไปด้วยเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่เธอต้องรีบตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเธอขยับที่ทำงานไปไกลและเส้นทางลำบากกว่าเดิม พลอยไพลินตื่นในเวลาตีสามครึ่ง ทั้งที่พึ่งได้นอนไปตอนตีหนึ่งกว่าเพราะถูกรบกวนจากลูกชายเจ้าของบ้านเธอจัดการเก็บพับที่นอนให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปอาบน้ำชำระร่างกาย ความอ่อนเพลียบวกกับการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเหตุให้เธอเซถลาไปตามทางระหว่างเดินไปเข้าห้องน้ำ หญิงสาวหยุดนิ่งพร้อมกับหายใจเข้าปอดลึกเพื่อตั้งสติมือเรียวยกขึ้นอังหน้าผากเมื่อรู้สึกถึงอาการที่ไม่ค่อยดีนัก ไอร้อนที่แผ่ทั่วร่างกายทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเธอป่วยหรือเปล่า แต่มีเวลาคิดไม่นานนักเธอจำเป็นต้องรีบไปอาบน้ำเพราะหากช้ากว่านี้อาจทำให้เข้างานสายได้ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากพลอยไพลินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ขาเรียวก้าวไวไปเปิดประตูเพราะกลัวคนมาใหม่จะรอนานแม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตาม บานประตูเปิดออกเผยให้เห็นผู้เป็นแม่ทำให้เธอโล่งใจขึ้น“เสร็จแล้วเหรอลูก เพิ่งจะตีห้าเองนะทำไมตื่นไวจัง?”“ค่ะ พลอยกลัวไปทำงานสายน่ะค่ะ”“มา...แม่ทำผมให้”