รถคันหรูของอลันจอดสนิทที่ลานจอดรถวีไอพีห้างดังของประเทศ พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก ตลอดเวลาบนรถเธออึดอัดจวนอาเจียนเพราะความมวนท้อง เขาทั้งคู่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ไม่สิ...เธอคือส่วนเกิน และหากเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะพาเธอมาด้วยทำไม
“คุณอลันคะ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาด้วยความประหม่า
“?”
เขาไม่ได้ขานรับเพียงแค่หันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ
“พลอยขออนุญาตไปเดินแยกได้ไหมคะ?” หลังจากถามคำถามออกไปเธอก็เม้มปากสนิทรอลุ้นคำตอบ
“ที่ให้มาด้วยเพราะเธอต้องถือของให้วิเวียน ไม่ได้ให้เดินเที่ยว เข้าใจนะ!”
วาจาประกาศิตกล่าวจบเขาก็เดินจูงมือคนรักนำไปทันที หญิงสาวมองตามด้วยความรู้สึกน้อยใจ ประโยคที่เขาเอ่ยบอกเธอเมื่อครู่ชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม ขาเรียวจึงเดินตามไปอย่างไม่รีรอ
เพียงเวลาไม่นานมือเล็กก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมายจนล้นมือ เธอรู้สึกว่าของมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่คนรักของเขาก็ไม่ได้ซื้อของเพิ่ม นั่นอาจเป็นเพราะว่าแขนของเธอเริ่มล้าตามกาลเวลา ดวงตากลมมองร่างสูงของสามีทางพฤตินัยอย่างเว้าวอน หวังไว้ว่าเขาจะมีน้ำใจช่วยเหลือเธอสักนิด แต่เปล่าเลย...เปล่าประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้เหลียวมองหรือสนใจเธอแม้แต่น้อย
“กลับกันเลยไหมคะอลัน วิเวียนเหนื่อยจัง” เสียงใสของหล่อนอ้อนออกมา
“ครับ” เขาตอบเธอพร้อมยิ้มหวาน
แม้จะรู้สึกเจ็บปวดจนหัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดีใจที่จะได้กลับเสียที ของพวกนี้ไม่ใช่ของเธอแม้แต่ชิ้นเดียวแต่มันกลับสู่พลังเธอไปจนเกือบหมด จริง ๆ คุณวิเวียนแทบจะไม่มีสิทธิ์พูดคำว่าเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ เฮ้อ...
หลังจากที่เขาส่งคนรักเสร็จแล้วเธอก็ย้ายไปนั่งด้านหน้ากับเขา ใบหน้าสะสวยเหลือบมองชายหนุ่มเป็นระยะ ๆ เธอมีบางอย่างที่อยากจะถามเขาเหลือเกิน วันนี้เธอได้ยินที่เขาคุยกับคนรักเรื่องการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า แม้จะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แต่สำหรับเธอไม่ว่าจะตอนไหนมันก็ยังเร็วไปอยู่ดี
เธออยากถามเขาที่สุดคือเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ และเขาหากเขาแต่งงานไปแล้วเรื่องของเราจะยุติลงไหม หรือเขาจะให้เธออยู่ในตำแหน่งนี้ไปตลอดชีวิต
“มีอะไร?”
ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่ม
“ถามว่ามีอะไร?”
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“บอกมา!”
“คะ...คือพลอย เอ่อ...คือว่า” หญิงสาวเสียงติดขัดเธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะถามเขาเลยจริง ๆ
“พลอยไพลิน!” อลันตวาดเสียงดังลั่นเมื่อรู้สึกไม่พอใจที่เธอเอาแต่อ้ำอึ้ง
“พลอยแค่อยากทราบว่าหากคุณอลันแต่งงานไปแล้วเรื่องของเราจะยุติลงได้ไหมคะ?”
เอี๊ยด...!
เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนจนเกิดเสียงดังเมื่อเขาเหยียบเบรกกะทันหันสุดแรง หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความตื่นกลัว เธออยากจะกัดลิ้นตัวเองเสียให้รู้แล้วรู้รอดที่ถามอะไรออกไปแบบนั้น หญิงสาวหลับตาสนิทด้วยความกลัว โชคดีที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ไม่เช่นนั้นหัวคงฟาดกับด้านหน้าหรือไม่ก็ทะลุออกไปนอกรถแล้ว
“เธอถามว่าอะไรนะ?!” ชายหนุ่มถามเสียงลอดไรฟันฟังแล้วหนาวจับขั้วหัวใจ สายตาดุดันที่มองมาราวกับแววตาโรจน์ของหมาป่ายามโกรธเกรี้ยว
“.....”
“ตอบ!”
อลันตวาดเสียงดังลั่นรถ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดจึงต้องรู้สึกหัวเสียขนาดนี้เมื่อได้ยินคำถามของเธอ เขารู้เพียงว่าหลังฟังเสร็จเขาแทบอยากจะลงโทษเธอเดี๋ยวนี้
“พะ...พลอย ฮึก...พลอยขอโทษค่ะ ขอโทษที่ทำให้คุณอลันโกรธ ฮือ...” หญิงสาวสะอื้นตัวโยนน่าสงสาร เธอกลัวเขามากจริง ๆ
“ทำไมเหรอพลอยไพลิน รอเวลาใช่ไหม? อยากไปหาไอ้หน้าจืดนั่นจนตัวสั่นเลยสินะ!”
“คุณอลันพูดอะไรคะ?” เธอถามกลับเมื่อไม่เข้าใจประโยคของเขา
“อย่ามาทำไขสือ แต่นั่นมันก็เรื่องของเธอเถอะ อยากจะรักใครชอบใคร เพราะมันไม่เกี่ยวกับข้อตกลงของเราอยู่แล้ว เธอเป็นแค่ของเล่นยามแก้เบื่อของฉันเท่านั้น จำไว้!!
“ค่ะ” เธอตอบรับเสียงเบา
เมื่อพายุอารมณ์ของเขาสงบลงชายหนุ่มก็เคลื่อนรถออกถนนตามเดิม มือเดียวยกปาดน้ำตาเป็นระยะๆ อย่างไม่อาจห้ามได้ เธอเสียใจที่ตัวเองใจง่ายยกหัวใจให้เขา ทั้ง ๆ ที่เขามองว่ามันแสนจะไร้ค่า เขามองเธอเป็นเพียงเครื่องบำเรอกายเท่านั้น
“ลิลลี่คงมองพวกเรามาจากบนฟ้า”
“ถ้าอย่างนั้นเธอคงจะเห็นว่าต้นอ้อดูแลพี่ดีมากจริง ๆ”
“ลิลลี่ยังโกรธเราอยู่ไหมคะ?”
“ต้นอ้อกลับเข้าบ้านเถอะ”
ร่างสูงของชายวัยกลางคนพยายามจูงมือคนรักเข้าไปในตัวบ้าน เมื่อเห็นอาการไม่สู้ดีนักของเธอ มือแกร่งยกขึ้นปาดน้ำตาที่แก้มนวลเผ่าเบาและอบอุ่น จนคนเป็นภรรยายิ้มออกมา
“พี่ว่าต้นอ้อควรจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ลูกเราฟังได้แล้วนะ” คุณ อเล็กซ์เอ่ยระหว่างเดินเข้าบ้าน
“ต้นอ้อยังไม่พร้อมเลยค่ะ ลูก ๆ ของคุณก็คงจะยังไม่พร้อมฟัง เล่าไปก็จะเป็นการแก้ตัวเปล่า ๆ”
“หนูพลอยล่ะรู้หรือยัง?”
“ต้นอ้อยังไม่กล้าบอกลูกค่ะ” เสียงเศร้าที่เอ่ยออก ทำให้คนฟังสงสารและพูดไม่ออก
เสียงรถที่ดังเข้ามาใกล้ๆ ดึงความสนใจของคนทั้งสอง ทั้งคู่หยุดบทสนทนาเมื่อครู่ไว้แค่นั้น เมื่อเห็นร่างเล็กที่คุ้นตาเดินเข้ามา
“คุณลุงคุณแม่ สวัสดีค่ะ” พลอยไพลินยิ้มกว้าง พร้อมยกมือไหว้สวัสดี
“เป็นไงไอ้หนุ่ม วันนี้งานยุ่งไหม?”
“ปกติครับพ่อ ผมขอตัวนะครับ คืนนี้ผมมีนัด” ชายหนุ่มตอบบิดาของเขาสั้น ๆ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไปทันที อเล็กซ์ส่ายหน้าเบา ๆ กับสิ่งที่ได้รับ มันสื่อว่าลูกชายของเขายังคงไม่ให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“คุณแม่คะ คืนนี้พลอยขออนุญาตไปเที่ยวได้หรือเปล่าคะ?”
“ที่ไหนลูก ไปกับใคร?”
“ผับของพี่ชายคุณรวงข้าวเพื่อนใหม่ของพลอยเองค่ะ ไปกับคุณรวงข้าวแล้วก็พี่โนอาห์ด้วย”
“จะดีเหรอ? ที่แบบนั้นอันตรายนะ แม่เป็นห่วง”
“พลอยไม่ดื่มหรอกค่ะ อีกอย่างพี่โนอาห์ก็ไปนะคะ”
“คุณก็...หนูพลอยโตแล้วนะ ให้ลองไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างก็ไม่เห็นเสียหายอะไร อีกอย่างเป็นผับของเพื่อนด้วยใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ค่ะคุณลุง”
“ถ้าอย่างนั้นรีบกลับมานะลูก”
“ขอบคุณนะคะ คุณลุงคุณแม่” เธอฝังจมูกลงบนแก้มของมารดาฟอดใหญ่ ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อโทรไปแจ้งรุ่นพี่ที่สนิทและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับนัดคืนนี้
***
บทเพลงรักที่แสนทรมานหัวใจผ่านพ้นไปอย่างยาวนานสำหรับพลอยไพลิน ไร้ซึ่งเสียงสนทนาหรือแม้กระทั่งเสียงปลอบโยนสำหรับหญิงสาว เขาตักตวงความสุขความหอมหวานจากร่างเล็กจนพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวแล้วเดินออกไปจากห้องหยดน้ำตาสีใสไหลอาบแก้มนวลด้วยความอึดอัด เธออยากจะออกไปจากจุดนี้เหลือเกิน ติดแต่ว่าหัวใจมันยังเรียกร้องที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง แม้จะเศร้าที่ต้องแอบขโมยอ้อมกอดจากคนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้กอดเขา แม้จะเศร้าที่ต้องคอยลอบมองรอยยิ้มที่เขายิ้มให้คนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้เห็นมัน หากเลือกได้จริง ๆ เธอก็คงยอมกลายเป็นคนเลวแบบนี้ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาก็พอร่างเล็กลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เธอสะบัดความช้ำออกจากหัวใจโดยปล่อยให้สายน้ำชำระล้างมันให้หมดสิ้น หลังจากอาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็พาร่างของตัวเองกลับมานอนที่เดิมจนเคลิ้มหลับไป***เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสนะสำหรับเธอ พลอยไพลินตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน เธอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงมาด้านล่างเครื่องปรุงอาหารเช้าสำหรับตัวเธอเองและพวกเขาตุบ!“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”ด้วยความเพลิดเพลินกับการทำอาหาร ทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตผู้มาใหม่ หญิงสาวร่างเล
รถคันหรูของอลันจอดสนิทที่ลานจอดรถวีไอพีห้างดังของประเทศ พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก ตลอดเวลาบนรถเธออึดอัดจวนอาเจียนเพราะความมวนท้อง เขาทั้งคู่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ไม่สิ...เธอคือส่วนเกิน และหากเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะพาเธอมาด้วยทำไม“คุณอลันคะ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาด้วยความประหม่า“?” เขาไม่ได้ขานรับเพียงแค่หันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ“พลอยขออนุญาตไปเดินแยกได้ไหมคะ?” หลังจากถามคำถามออกไปเธอก็เม้มปากสนิทรอลุ้นคำตอบ“ที่ให้มาด้วยเพราะเธอต้องถือของให้วิเวียน ไม่ได้ให้เดินเที่ยว เข้าใจนะ!”วาจาประกาศิตกล่าวจบเขาก็เดินจูงมือคนรักนำไปทันที หญิงสาวมองตามด้วยความรู้สึกน้อยใจ ประโยคที่เขาเอ่ยบอกเธอเมื่อครู่ชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม ขาเรียวจึงเดินตามไปอย่างไม่รีรอเพียงเวลาไม่นานมือเล็กก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมายจนล้นมือ เธอรู้สึกว่าของมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่คนรักของเขาก็ไม่ได้ซื้อของเพิ่ม นั่นอาจเป็นเพราะว่าแขนของเธอเริ่มล้าตามกาลเวลา ดวงตากลมมองร่างสูงของสามีทางพฤตินัยอย่างเว้าวอน หวังไว้ว่าเขาจะมีน้ำใจช่วยเหลือเธอสักนิด แต่เปล่าเลย...เปล่าประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้เ
ครืด~ ครืด~~เสียงเรียกเข้าของมือถือรุ่นทั่วไปดังขึ้นเรียกความสนใจจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี เธอหยิบมือถือขึ้นมาดูพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นนักก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ” เสียงใสกรอกไปตามสายอย่างใจเย็น(อยู่ไหน?)“คุณอลันเหรอคะ?”(ใช่ ถามว่าอยู่ไหน?)“อยู่ที่มหาลัยค่ะ”(เย็นนี้ไปห้างกับฉัน)“เย็นนี้เหรอคะ?” เธอทวนคำของเขาเสียงสูง(ใช่ ทำไม?)“ปะ...เปล่า ๆ ค่ะ”(เดี๋ยวฉันไปรับตอนสี่โมงเย็น)“ค่ะ”เขาก็ตัดสายทิ้งไปแล้วจริง ๆ เธอมีนัดฉลองกับโนอาห์รุ่นพี่คนสนิท แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธบุคคลสำคัญอย่างคุณอลัน ตัวเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรเธอถึงไปกลัวเขามากขนาดนี้“เฮ้อ...” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ“พลอย”“พี่โนอาห์ มานั่งก่อนสิคะ”“เป็นไรหรือเปล่า? ทำไมหน้าดูซีด ๆ”“เปล่าหรอกค่ะ”“พลอย...นี่อาจารย์รวงข้าว” ร่างสูงนั่งลงโดยไม่ลืมแนะนำผู้หญิงอีกคนที่มากับเขาให้เธอรู้จักด้วย“สวัสดีค่ะคุณรวงข้าว” หญิงสาวทักทายเสียงหวาน“สวัสดีค่ะ เอ่อ...เรียกข้าวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” หล่อนยิ้มเต็มใบหน้าจนตาหยี“ข้าว...นี่พลอยไพลินนะ”“เรียกว่าพลอยอย่างเดียวก็พอค่ะ”“ไม่ต้องเกร็งนะพลอย เราน่าจะรุ่น
ร่างสูงเคลื่อนตัวมาใกล้ร่างเล็กเรื่อย ๆ จนเธอต้องถอยหนีพลางหลับตาปี๋ไปด้วย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนเกิดเสียงดังไปถึงหูของเขา อลันกระตุกยิ้มเบา ๆ ก่อนจะถอยหลังห่างออกไปเมื่อรู้สึกว่าเขาห่างออกไปแล้วเธอจึงลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะจัดระเบียบตัวเองให้เข้าที่ ใบหน้าสวยก้มลงต่ำพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่าเลยเวลาหกโมงครึ่งมาแล้ว พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมา เบา ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองไปทำงานสายอีกแล้ว“ออกไปได้แล้ว” เขาพูดเสียงเรียบหญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ หรือเขาแค่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้น หากเป็นอย่างที่เธอคิดเขาคงเป็นบุคคลที่ใจร้ายมาก ๆ อย่างที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อนขาเรียวก้าวออกมาจากห้องช้า ๆ เพราะกลัวเสียมารยาท แต่เมื่อพบพ้นอาณาเขตของเขาแล้วเธอจึงรีบวิ่งทันที แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องสายแต่คงจะดีกว่าหากไม่สายมาก“พลอย จะรีบวิ่งไปไหน เดี๋ยวก็ล้มหรอก” มารดาของเธอเอ่ยทัก“คือ...พลอยสายมากแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ คุณลุงสวัสดีค่ะ คุณแม่คะ พลอยไปนะคะ” เธอเอ่ยอย่างร้อนรน“ไปไงล่ะหนูพลอย?”“รถโดยสารค่ะ”“พลอยลูก ตั้งสติก่อน เดี๋ยววันนี้ขอให้ลุงสมหมายไปส่ง มากินข้าวมา” มารดาของเธอปรามเมื่อเห็นท่าทีของ
เช้าวันใหม่อากาศสดใสรับฤดูใบไม้ผลิ หากแต่จิตใจของหญิงสาวไม่ได้สดใสไปด้วยเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่เธอต้องรีบตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเธอขยับที่ทำงานไปไกลและเส้นทางลำบากกว่าเดิม พลอยไพลินตื่นในเวลาตีสามครึ่ง ทั้งที่พึ่งได้นอนไปตอนตีหนึ่งกว่าเพราะถูกรบกวนจากลูกชายเจ้าของบ้านเธอจัดการเก็บพับที่นอนให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปอาบน้ำชำระร่างกาย ความอ่อนเพลียบวกกับการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเหตุให้เธอเซถลาไปตามทางระหว่างเดินไปเข้าห้องน้ำ หญิงสาวหยุดนิ่งพร้อมกับหายใจเข้าปอดลึกเพื่อตั้งสติมือเรียวยกขึ้นอังหน้าผากเมื่อรู้สึกถึงอาการที่ไม่ค่อยดีนัก ไอร้อนที่แผ่ทั่วร่างกายทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเธอป่วยหรือเปล่า แต่มีเวลาคิดไม่นานนักเธอจำเป็นต้องรีบไปอาบน้ำเพราะหากช้ากว่านี้อาจทำให้เข้างานสายได้ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากพลอยไพลินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ขาเรียวก้าวไวไปเปิดประตูเพราะกลัวคนมาใหม่จะรอนานแม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตาม บานประตูเปิดออกเผยให้เห็นผู้เป็นแม่ทำให้เธอโล่งใจขึ้น“เสร็จแล้วเหรอลูก เพิ่งจะตีห้าเองนะทำไมตื่นไวจัง?”“ค่ะ พลอยกลัวไปทำงานสายน่ะค่ะ”“มา...แม่ทำผมให้”
“ไม่ต้องใส่แล้ว ฉันขี้เกียจถอด”ใบหน้าคมฝังจมูกโด่งลงบนซอกคอขาวหอมกรุ่น เขาซุกไซร้อย่างสนุกโดยที่เธอไม่ได้ขัดขืน หญิงสาวหลับตาสนิทในใจได้แต่ภาวนาให้วินาทีนี้ผ่านพ้นไปเร็ว ๆ แม้ว่าเธอจะรักเขามากแต่เธอก็ไม่ได้ต้องการแบบนี้“อื้อ...” เสียงเล็กครางออกมาผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวถูกเหวี่ยงลงข้างเตียงอย่างไม่สนใจ มือแกร่งกอบกุมปทุมถันทั้งสองข้างเอาไว้พร้อมกับลงแรงกดบีบด้วยความเอาแต่ใจ โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของผู้ถูกกระทำแม้แต่น้อยร่างสูงลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ก่อนจะดึงเธอให้ลุกขึ้นตามมา มือแกร่งจับมือเรียวเล็กของเธอมาเกาะกุมไว้ที่แก่นกายขนาดใหญ่ที่เริ่มขยายตัวเรื่อย ๆ ตามแรงอารมณ์“อื้ม...ดีมากพลอย”มือเรียวสาวขึ้นลงช้า ๆ ด้วยความเบามือ เพราะหากเธอเร่งจังหวะมากเกินไปเขาจะเจ็บและอาจจะพาลโมโหใส่เธอเมื่อรู้สึกอารมณ์กามาลุกโหมเขาจึงปัดมือเธอทิ้ง พร้อมกับใช้มือแกร่งบีบกลีบปากเรียวให้อ้าออก แล้วสอดใส่ความเป็นชายของเขาเข้าไปในโพรงปากนุ่มชื้นทันที“เลียมัน ซี๊ดส์...อมมัน”พลอยไพลินทำทุกอย่างตามที่เขาสั่งด้วยความเบามือ เธอรู้ดีถึงสิ่งที่เขาชอบและไม่ชอบ เธอนอนกับเขามาทุกค่ำคืน และอีกอย่างเขาก็เป