"เดี๋ยวก่อนสิพลอยใส" คริสเตียนโน่ยังเดินตามเธอเข้ามา "พี่ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น พี่ไม่เชื่อว่าพลอยจะทำได้ลงคอ"
"ทำไมไม่เชื่อล่ะคะ ก็คุณบอกให้ฉันไปเอาออกเอง เด็กที่คุณไม่ต้องการ คุณจะถามหาเขาอีกทำไม"
ความแค้นมันฝังอยู่ในใจจนจุกอก แต่พลอยใส พยายามไม่แสดงมันออกมา การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกเพียงคนเดียวมันลำบากแค่ไหนใครจะรู้ อยู่ดีดีเขาจะมาถามหาลูกของเธอ มันจะง่ายไปนะ
"พี่.." เขาไม่รู้จะบอกยังไง มันดูเห็นแก่ตัวมาก ถ้าบอกว่าอยากจะเจอเด็กนั่น เพราะว่าแม่ของตัวเองกำลังตรอมใจ
" ตอนนี้พี่แค่อยากจะรับผิดชอบ"
"รับผิดชอบเหรอคะ นี่ฉันหูเพี้ยนไปหรือเปล่า ผ่านมาตั้งหกปี จะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้" เธอส่งยิ้มหยันให้คนตรงหน้า รับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ ผ่านมาตั้งหกปี ต่อมสำนึกชั่วดีพึ่งจะเริ่มทำงาน
"แสดงว่าเด็กคนนั้นยังอยู่จริงๆ"
"ไม่ค่ะ ไม่อยู่ ไม่มีเด็กคนไหนทั้งนั้น ถอยไปค่ะ ฉันจะทำงาน" พลอยใสยืนยันเสียงหนักแน่น แต่อีกคนก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
"พี่มีข้อเสนอให้พลอยนะ ถ้าหากตรวจ ดีเอ็นเอ ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของพี่จริง พี่พร้อมจะเลี้ยงดูเขา พี่พร้อมจะมอบเงินให้พลอย พลอยอยากได้เท่าไหร่ พลอยว่ามาเลย"
หึ มอบเงินให้อย่างนั้นเหรอ พลอยใสหัวเราะในลำคอ ผู้ชายคนนี้กำลังจะเอาเงินซื้อเธอ เอาเงินซื้อความเป็นแม่ ซื้อความรู้สึกที่เสียใจ เสียเวลามาตั้งหกปี
"เก็บเงินคุณเอาไว้เถอะค่ะ เงินของคุณมันซื้อความรู้สึกของฉันไม่ได้ มันซื้อเวลามันซื้อโอกาสที่ฉันเสียไปไม่ได้ ในเมื่อตอนนั้นคุณเลือกเขา คุณเลือกผู้หญิงคนนั้น คุณอยากมีลูก คุณก็ไปมีกับแฟนคุณสิ คุณจะมาอะไรกับพวกเรา"
พลอยใสร่ายยาวไปถึงเรื่องในอดีต ข่าวนักแข่งสุดหล่อ ประสบอุบัติเหตุ จนพิการเดินไม่ได้ แฟนสาวไฮโซของเขา ประกาศถอนหมั้นทันที ข่าวดังไปทั่วประเทศอยู่พักหนึ่ง อันที่จริงพลอยใสก็รู้สึกสมน้ำหน้าเขาเหมือนกัน รู้สึกว่าเวรกรรมมันตามทัน
เขารักผู้หญิงคนนั้นมาก ควงกันออกหน้าออกตา ส่วนเธอมันเป็นเพียงแค่เมียบำเรอ เป็นเมียลับๆ ที่เขาเก็บไว้คลายเหงามันก็เท่านั้น ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเจ็บแค้นขึ้นมาในหัวใจ
ในตอนนั้นถึงแม้ว่าพลอยใสจะเป็นแค่นางบำเรอ แต่เธอก็รักคริสเตียนโน่จนหมดหัวใจ เธอรอคอยเขามาตลอด รอคอยว่าวันหนึ่ง เขาจะมาขอเธอแต่งงาน แต่มันก็ไม่ใช่ พอถึงเวลา
'เขากลับเลือกที่จะแต่งงาน กับผู้หญิงที่คู่ควร'
"ฉันคิดว่าคุณจะมีคำพูด ที่มันดูดีกว่านี้เสียอีก ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณคงเห็นว่าฉันเป็นเด็กใจแตกมาตลอดสินะ ก็ตามนั้น ฉันมันเป็นเด็กใจแตก เพราะฉะนั้น คุณก็อย่ามายุ่งกับฉันเลย" พลอยใสพูดพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ขนาดถามหาลูก เขายังอยากจะพิสูจน์ ดีเอ็น เอ
"มันไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ใช่อย่างที่พลอยเข้าใจ แต่หลักฐานทางการแพทย์ มันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าเขาเป็นลูกของพี่จริงๆ เมื่อถึงเวลานั้น พี่จะเซ็นรับรองบุตร มันไม่ได้หมายความว่าพลอยใจง่าย หรือว่าอะไรเลย" ชายหนุ่มพยายามแก้ตัว
"คุณไม่ต้องตรวจอะไรหรอกค่ะ เพราะว่าฉันทำแท้งไปแล้วจริงๆ"
เธอยืนยันหนักแน่น ยังไงเขาก็จะไม่ได้เจอลูก หากว่าเธอไม่ตาย พลอยใสจะปกป้องเพชรกล้าให้ถึงที่สุด จะไม่มีวันให้ผู้ชายคนนี้ ได้เจอกับลูกอีกเลย
เมื่อถามเท่าไหร่ก็ไม่ได้คำตอบ ชายหนุ่มจึงไม่ถามเธอแล้ว เขาเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และวางแผนขั้นต่อไป จนกระทั่งเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ จึงกดเครื่องอินเตอร์คอม เรียกมาโนชให้เข้ามา
"มาโนช เข้ามานี่หน่อย"
"ครับเจ้านาย"
"เดี๋ยวผมจะไปที่ sky pub ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ" เขาบอกมาโนช ก่อนที่จะเดินออกไป พลอยใสมองตามคนตัวโตที่เดินออกจากห้อง แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก
ชีวิตนี้ไม่อยากจะเอาตัวเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้เลย แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อชีวิตมันไม่มีทางเลือก ในเมื่อมันยังจำเป็นต้องใช้เงิน พลอยใสจะก้มหน้าก้มตาทำงานจนกว่าจะครบสัญญา
"น้องพลอยไม่เข้าใจตรงไหนถามพี่ได้นะครับ" มาโนชที่ยังอยู่ในห้องนั้น เอ่ยถามหญิงสาวด้วยความห่วงใย
"ไม่เป็นไรค่ะพี่โนช ฝ่ายบัญชีทำมาอย่างละเอียดดีแล้ว พลอยแค่สรุปนิดหน่อยเองค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้น เสร็จแล้วก็เอาไปให้พี่ตรวจอีกทีนะครับ"
" ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่มาโนช"พลอยใสยิ้มหวานให้คนตรงหน้า ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
"พลอยมีเรื่องอยากจะถามพี่มาโนชค่ะ" เธอเรียกเขาเอาไว้
"ครับ น้องพลอยมีอะไรอยากจะถามพี่หรือครับ"
"พี่โนชไม่ต้องติดตามอารักขาเจ้านายแล้วเหรอคะ" ว่าจะไม่ถามแต่มันก็คันปาก เพราะปกติแล้วมาโนชจะตามอารักขาเจ้านายไม่เคยห่าง แต่พักนี้เวลาคริสเตียนโน่ออกไปข้างนอก พลอยใสจะเห็นมาโนชอยู่กับเธอตลอด ไม่เห็นออกไปไหนเลย
"นายมีเด็กรุ่นใหม่คอยตามรับใช้หลายคนแล้วครับ ส่วนพี่แก่แล้ว นายเลยให้อยู่ดูแลทางนี้แทน"
"หมายถึงงานบัญชีนี่เหรอคะ"
"ครับ" มาโนชตอบสั้นๆพลางหลบสายตา อันที่จริงคริสเตียนโน่สั่งให้เขาอยู่เฝ้าพลอยใสต่างหาก แม้กระทั่งรถยนย์ของเธอ ยังโดนติดเครื่อง GPS แต่หญิงสาวไม่รู้ตัว
"น้องพลอยมีอะไรอยากจะถามพี่ อีกไหมครับ"
"ไม่มีแล้วค่ะ" พลอยใสส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อไป
ส่วนทางด้านคริสเตียนโน่ เขาเข้ามาดูแล SKy pub
ซึ่งเป็นไนท์คลับกึ่งคาสิโนแห่งแรกของชายหนุ่ม ที่ก่อตั้งมาหลายปี และคืนนี้แก๊งนักแข่งก็มาสังสรรกันครบทีม ยกเว้นไต้ฝุ่น เพราะรายนั้นมีลูกมีเมียเป็นตัวเป็นตนไปแล้ว และไต้ฝุ่นก็เป็นผู้ชายที่เกรงใจภรรยามาก หากมาริสาไม่ออกไปไหน ไต้ฝุ่นก็จะไม่ออกไปเหมือนกัน
"พี่นี่มันโครตย้อนแย้งเลยว่ะ พี่บอกว่าพลอยใสอาจจะเก็บเด็กคนนั้นเอาไว้ และพี่อยากได้เด็กคนนั้นมาให้คุณแม่ แต่จะขอตรวจดีเอ็นเอ" อีริคพูดถึงความย้อนแยัง ทั้งที่พยายามตามหาตัวเด็กคนนั้น แต่คริสเตียนโน่ก็ยังอยากจะขอตรวจ ดีเอ็นเอ หากเขาไม่มั่นใจ หากไม่ไว้ใจพลอยใสขนาดนั้น แล้วเขาจะตามหาเธอทำไม
"เอ็งก็รู้ว่าพลอยใส ไม่ได้มีแต่พี่แค่คนเดียว" โยนบาปให้เธออีก คริสเตียนโน่คิดเสมอว่าพลอยใสอยู่กับเขาก็เพราะเงิน และชายหนุ่มไม่เคยจะเชื่อใจเธอเลยสักครั้ง
เขามองว่าพลอยใสขายตัวมาตลอด แตกต่างจากผู้หญิงคนนั้น 'ชลลดา' ลูกสาวเจ้าสัวทรงพล คนที่เขาเทิดทูลมาตลอด คนที่เขามองว่าเป็นผู้หญิงที่ดี และเหมาะสมแล้วที่จะแต่งงานกัน
"เพราะอย่างนี้ใช่ไหม พี่ถึงบอกให้เธอไปเอาเด็กออก และไม่ตามหาเธอ" อีริคเอ่ยถามในเรื่องที่ข้องใจมาตลอด แต่เขาบอกว่า
"มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก แต่มีเหตุผลบางอย่างที่พี่ไม่อยากจะยุ่งกับเธอ"
"เหตุผลอะไรเหรอพี่"
"มันมีเหตุผลก็แล้วกัน เอาเป็นว่าพวกเอ็งอย่ารู้เลย" เขาบอกแค่นั้น ก่อนจะหยุดพูดเรื่องของพลอยใส และเปลี่ยนมาคุยเรื่องธุระกิจที่กำลังไปได้สวย และตอนนี้เขาและเพื่อน กำลังลงขันกันเปิดคาสิโนแห่งใหม่ ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา
:
:
:
:
:
:
แล้วมันมีเหตุอะไร ที่ทำให้พี่ไม่ไว้ใจ ไรท์อยากจะรู้จัง
อยากจะแจ้งว่าไรต์ส่ง อีบุ๊คเข้าmeb วันนี้นะคะ ถ้าอนุมัติเร็ว อีบุ๊คจะออกคืนนี้ค่ะ