เมิ่งซินเดินฝ่าแนวพุ่มไม้
สองเท้าเหยียบลงบนพื้นชื้นจากน้ำค้าง เสียงน้ำลำธารไหลกระทบโขดหินข้างหน้า เธอเดินตามมันไปอย่างไร้จุดหมาย—เพียงเพื่อหนีจากความเงียบของการถูกทิ้งไว้เพียงลำพังทันใดนั้น
เสียงฝีเท้า เสียงพูดคุยกันอย่างเบาเบา… ดังขึ้นจากอีกฟากลำธาร เธอชะงัก ย่อกายลงอย่างระวัง …กลุ่มคนประมาณห้าหกคนในเสื้อผ้าพื้นเมืองแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน กำลังแบกตะกร้าเดินเลียบลำธารเสียงพวกเขาพูดกันเบา ๆ แต่ชัดเจน
“ข้าว่าพวกเรารีบกลับหมู่บ้านกันเถอะ เพลานี้พวกข้าศึกออกลาดตะเวนบ่อยขึ้น ถ้าเจอกับพวกมันเข้าจะแย่เอานะ" "เออ...ก็ดีเหมือนกัน หวังใจว่าสมุนไพรพวกนี้คงจะพอรักษาชาวบ้านในหมู่บ้านของพวกเราได้นะ"เสียงนั้น… เป็นภาษาไทย แถมยังเป็นสำเนียงไทยแบบที่เคยได้ยินจากละคร และบทความในงานวิชาการ
ภาษาไทยโบราณ...สำเนียงเหนือ...หรือ…ไทยย้อนยุคที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยฟังรู้เรื่องเลย?ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ—ตอนนี้เธอกลับฟังรู้เรื่องหมดทุกคำ
“เดี๋ยวนะ…รู้สึกว่าเมื่อคืนก็พูดกับเขาเป็นภาษาไทย…นี่มันอะไรกันเนี่ย”
เธอพึมพำความทรงจำซ้อนทับในหัว
ใบหน้าของชายหนุ่มปริศนาในหน้ากากทองดำ คำพูดที่เขาเอ่ยเตือนเธอ การโต้ตอบที่เกิดขึ้นอย่างไม่ลังเลเมิ่งซินเม้มริมฝีปากแน่น
มือหนึ่งยกขึ้นแตะแก้ม อีกมือยกขึ้นตบหน้าตัวเองแรง ๆ เพี๊ยะ!เสียงดังจนชาวบ้านชะงัก
เธอตัวแข็งค้าง แล้วค่อย ๆ พึมพำเป็นภาษาจีนในใจ“ทะ…ทำไมฉันพูดภาษาไทยได้?”
“หรือว่านี่คือโลกนิยาย?”“ไม่สิ…ฉันไม่เคยอ่านนิยายอะไรพวกนี้เลย… เอ๊ะ! หรือว่านี่คือฝัน?”“ไม่ได้สิ เมิ่งซิน! จะมาหลับในระหว่างภารกิจแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”เธอตบหน้าตัวเองอีกครั้ง คราวนี้แรงขึ้นกว่าเดิม
น้ำตาซึมขึ้นมาจากความเจ็บปวดจริง ๆ“โอ๊ย… เจ็บจริง…”
“งั้นนี่ไม่ใช่ความฝันแน่นอน”เธอหายใจแรง สองตาเบิกกว้าง
และก่อนที่เธอจะถลำลึกไปในความคิดมากกว่านี้ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งลำธาร“แม่หญิง… เจ้าหลงทางหรือ?”
เมิ่งซินหันขวับ
ชายชราคนหนึ่งในกลุ่มชาวบ้านมองเธอด้วยสีหน้าฉงน คนอื่น ๆ ก็หยุดเดิน และมองเธออย่างระแวงปนสงสัย“แต่ข้าว่านางดูกระไรอยู่นะ การแต่งกายของนางมิได้ละม้ายคล้ายคนแถวนี้”
“นั่นสิ่...หรือว่า นางเป้นข้าศึกแฝงตัวมา...แย่แล้ว เราจะทำกระไรกันดีละทีนี้ ฮือ...”
ชาวบ้านพากันรำพันด้วยความแตกตื่น เมิ่งซินสูดลมหายใจลึกรีบตั้งสติและพยายามทำใจให้มั่น
“พี่ชาย พี่สาว… ช่วยฉันหน่อยได้ไหมจ๊ะ… ฉันหลงทางมา…”
คำพูดนั้นไหลออกจากปากเธอเองโดยไม่ทันคิด
ออกมาเป็นภาษาไทยโบราณที่ไหลลื่นราวกับเป็นภาษาแม่ชาวบ้านเงียบสบตากันสลับไปมา
แต่ในสายตานั้น… มีแววเห็นใจปรากฏขึ้นทีละน้อย“เอ็งแม่จากทีใดกันเล่าแม่หนู...ดูผ้าผ่อนที่เอ้งสวมใส่ก้ช่างแปลกตาเสียจริง”
“คะ...คือว่าฉัน เอ็ยหนู หนูมาจากแผ่นดินใหญ่จ้ะป้า หลงทางมาไกล แถมเมื่อคืนยังเจอพวกข้าศึกไล่ล่าอีก ป้าช่วยหนูเถอะนะจ้ะ”
จากความสงสัย กลายเป็นความเมตตาชายชราก้าวมาข้างหน้า
พยักหน้าเบา ๆ“งั้นมาเถิด… หมู่บ้านเราไม่ไกลจากที่นี่นัก”
“คืนนี้เอ็งอยู่กับพวกเราก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยคิดว่าจะไปทางไหน…”เมิ่งซินพยักหน้ารับ
หัวใจยังเต้นแรง เธอเดินตามพวกเขาไปขณะดวงตายังหันกลับมองไปทางป่าที่เธอจากมา ราวกับเธอรู้ว่า… บางอย่างกำลังรอให้เธอพบเจอ“ข้าจะอยู่อยู่ตรงนี้…แล้วเจ้าไม่มีวันโดดเดี่ยวอีกต่อไป”ฉาก 1 — ห้องลับ / 8 วันผ่านมาแสงเช้าสาดผ่านช่องไม้เล็ก ๆ ลงมากระทบใบหน้าของขุนคีรินทร์ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตา — เปลือกตาหนักราวกับเพิ่งตื่นจากความตายหายใจแรง ๆ ราวกับโลกนี้ยังไม่แน่ใจว่ามันคือจริงหรือฝันสิ่งแรกที่เขามองหา…คือเมิ่งซินแต่พบว่าเธอฟุบอยู่ข้างกาย…กับถ้วยยาสมุนไพรอุ่น ๆ ที่เธอเพิ่งทำเสร็จเพื่อเขาขุนคีรินทร์“เมิ่งซิน...”เขารีบลุกอุ้มเธอขึ้นมาวางบนเตียงของตัวเองมือสั่น ๆ แตะลงบนหน้าผากเธออย่างแผ่วเบาใต้ตาของเธอคล้ำ ปากแห้งซีด — เหลือเพียงเงาเดิมของหญิงผู้เข้มแข็งขุนคีรินทร์“เมิ่งซิน…ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี้”เมิ่งซินพยายามลืมตา แต่ได้แค่ลืมปรือ ๆน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับไม่มีแรงเหลือเมิ่งซิน“ขุน…คีรินทร์ ท่าน…รีบ…ดื่มยาสุดท้ายเถิด…พิษในตัวท่านจักหายไปตลอดกาล…”มือเธอร่วงลงพื้น…ขุนคีรินทร์“ไม่…ไม่นะเมิ่งซิน…เจ้าต้องไม่เป็นอะไร ตื่นสิ! ตื่นขึ้นมาอยู่กับข้า…”เขามองถ้วยยา…แล้วกลับมองเธอที่นอนแน่นิ่งทุกความทรงจำของวันที่เธอต้มยาให้เขา…ป้อนยาเช้าเย็น…อยู่ข้างเขาแม้ในความมืด…มันไหลกลับมาในหัวใจเขาแบบชัดเจนฉาก 1/2 —
“บางครั้ง…ความมืดไม่ได้น่ากลัวที่สุด…แต่คือการตัดสินใจที่จะปกป้องคนที่เรารักต่างหาก”ฉาก 1 — หมู่บ้านก่อนรุ่งสางเสียงฝีเท้าม้ากระแทกพื้นดินดังสะท้อนในอก เมิ่งซินลากร่างอิดโรยกลับถึงหมู่บ้าน ใบหน้าเปรอะเถ้าควันและฝุ่น แต่เวลานี้…หยุดไม่ได้สักวินาทีชาวบ้านเริ่มส่งสายตาสงสัย เธอไม่รอช้า ตะโกนเสียงแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นเมิ่งซิน:“ทุกคน…ฟังฉันให้ดี! พวกทหารจะมา ล่วงรุ่งเช้า…เพื่อฆ่าพวกเราทุกคน!”เสียงฮือฮาและความตื่นตระหนกผสมปนกันชาวบ้าน1 (OS): “นี่มันเรื่องอะไรนี่ท่านหมอหญิง?”ชาวบ้าน2 (OS): “เราทำผิดอะไรให้พวกทหารมาสังหารเรา?”ชาวบ้าน3 (OS): “จะให้หนีโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นหรือ…”ชาวบ้าน4 (OS): “นี่ท่านหญิงตั้งใจหลอกเราหรือเปล่า?”เมิ่งซิน:“ฉันไม่มีเวลามาอธิบายมากนัก…แต่เชื่อใจฉัน!”ชาวบ้าน5 (OS):“เราวางใจท่านหมอหญิง! ถ้าไม่ใช่ท่าน…เราคงตายไปตั้งหลายเดือนแล้ว…บอกเราหน่อยว่าต้องทำยังไง!”เมิ่งซินหอบหายใจ ก่อนจะชูแผนที่ในมือเมิ่งซิน:“นี่คือแผนที่ทางลับของพี่แย้ม…มันจะพาพวกเราทุกคนไปที่ปลอดภัย!”1/2 — ตัดภาพไปก่อนที่นายแย้มจะสิ้นลม (บนเกวียน)นายแย้ม:“ท่านหญิง…จงเอาแผน
“ควันพิษ… เงาฆาตกร… และชายปริศนาที่เรียกฉันว่า ‘เซียนอิ๋น’ — ใครคือเขา ใครคือผู้บงการทั้งหมด?!”ฉาก 1 – ภายในหอพระโอสถ กลางคืนเมิ่งซินลื่นไหลออกจากหลืบชั้นยา มือเรียวกอดตำรับยาและสมุนไพรเล็ก ๆ แนบอก — เป้าหมายอยู่แค่ปลายนิ้ว แต่ทันใดนั้น… กลิ่นแสบจมูกจู่โจมเข้ามา ม่านควันสีเทาอ่อนลอยเข้ามาในห้องเงียบ ๆ กลิ่นฉุนแบบสนผสมกำมะถัน ทำให้เธอต้องสะดุ้งเมิ่งซิน (คิดในใจ)นี่มัน…ควันพิษ!?ไม่รอช้า เธอควักขวดยาสกัดพิษจากชายเสื้อ จุ่มแตะจมูก และพันผ้าคาดเอวปิดหน้าแน่น — กลิ่นตะไคร้ กานพลู ยูคาลิปตัส ขิงแห้ง และชะเอมเทศ ดับกลิ่นพิษเบา ๆเมิ่งซิน (พึมพำ)ขอโทษนะ…ของแค่นี้เล่นงานฉันไม่ได้หรอกทันใดนั้น! เสียงฝีเท้า — เงาดำชุดดำพร้อมหน้ากากโผล่เข้ามา ล้อมหอพระโอสถ แววตาอำมหิตทุกคู่และ…เสียงเย็นยะเยือกจากเงามืดหญิงปริศนา…ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องมา…แต่ลืมไปเสียเถอะ ว่าจะได้รอดออกไป!สังหารนางบัดเดี๋ยวนี้!!เมิ่งซิน (คิดในใจ)อะ…อะไรนะ…เรียกฉันว่าเมิ่งเซียนอิ๋นเหรอ…นี่มันอะไรกัน!เธอถอยหลังชนชั้นเก็บตำรับยา มือกำแน่น ไม่มีทางหนีทันใด…เสียงฝีเท้าทั่วหลังคาดัง! เงาหนึ่งพุ่งลงราวเหยี่ยว!ชายปริศนาท
"พิษโบราณ ทหารเวร และแผนลวง…เมิ่งซินต้องฝ่าหอพระโอสถให้ได้ ก่อนที่ชีวิตและหมู่บ้านจะตกอยู่ในความเสี่ยง"– ริมป่าหลังเขา – ทางลับสู่พระราชตำหนัก – เช้าหมอกจาง ๆ คลี่คลุมผืนดิน เงาไม้โยกไหวตามสายลมแผ่วเสียงกิ่งไม้หักเบา ๆ ก่อนเมิ่งซินและนายแย้มจะโผล่พ้นแนวพงหญ้านายแย้มหยุดยืนตรงทางลับ — กำแพงหินสูงขนาบข้าง ต้นไผ่รกชัฏเขาหันไปมองเมิ่งซิน ใบหน้าเธอเปื้อนเหงื่อ แต่ดวงตายังคง แน่วแน่เกินใครนายแย้ม (เสียงแผ่ว)“จากตรงนี้ไปสุดทางก็ถึงทางเข้าพระราชตำหนัก…อีกสองชั่วยาม ข้าจะรอรับท่านหมอหญิงที่ปลายทาง”เมิ่งซิน (พยักหน้าแน่น)“ขอบคุณนะพี่แย้ม…”นายแย้มถอนใจ มองซ้ายขวา ก่อนล้วงมีดสั้นออกจากอกเสื้อนายแย้ม“รับสิ่งนี้ไว้…มีดนี้ไม่ใช่ฆ่าใคร แต่ใช้ปกป้องเจ้าหากมีภัย ให้เจ้าทำภารกิจสำเร็จและกลับไปรักษาขุนคีรินทร์ได้”เมิ่งซิน (ชะงักเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า)“พี่แย้มไม่ต้องกังวล…ไม่ว่าจะเจออะไร ฉันจะกลับมาให้ได้”นายแย้ม (เบาเสียงราวพูดกับตัวเอง)“ขอให้โชคดีนะ…ท่านหมอหญิง”เมิ่งซินไม่ตอบ…เพียงมองเข้าไปในเงามืดของทางลับ ก่อนก้าวเข้าไปแผ่นหลังเล็ก ๆ แบกความหวังทั้งชีวิตของชายคนหนึ่ง ค่อย ๆ กลืนหายไปใ
"พิษเลือดร้ายรอวันถอน…แต่หัวใจสองดวงต้องร่วมฝ่าฟันอันตรายไปพร้อมกัน"– หมู่บ้าน – เย็น –แสงเย็นสาดผ่านต้นไม้ ใบไม้ไหวตามลม เสียงนกร้องคลอเบา ๆเมิ่งซินเดินเข้าหมู่บ้าน หอบหิ้วขุนคีรินทร์ บาดเจ็บสาหัส ร่างซีด ซีด…เหมือนแผ่นกระดาษชาวบ้านกระซิบกันอย่างตกใจชาวบ้าน 1“นั่นใครน่ะ? ทำไมหมอหญิงถึงพามาคนเจ็บมาด้วย?”ชายชรามองด้วยความกังวลชายชรา“ดูท่าจะเป็นขุนศึก…ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บหนักขนาดนี้?”ชาวบ้านสองคนรีบเข้ามาช่วยพยุงเขาเข้าบ้านชาวบ้าน 1“มา ๆ ท่านหมอหญิง ให้พวกเราช่วยเถอะขอรับ”เมิ่งซิน“ขอบคุณมากจ้ะ พี่มิ่ง พี่แย้ม”– ภายในบ้านเมิ่งซิน –ร่างขุนคีรินทร์วางบนเตียงไม้ชาวบ้านยังตกใจชาวบ้าน 2“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน…ทำไมพวกท่านถึง…”เมิ่งซิน (ยิ้มเบา ๆ)“เรื่องมันยาว…ไว้ฉันเล่าให้ฟังทีหลังนะจ้ะ”ชาวบ้าน 1“ถ้าอย่างนั้น ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้เลยนะขอรับ”เมิ่งซิน (พยักหน้า)“จ้ะพี่”เธอมองเขาที่ยังไม่ฟื้น…หัวใจเต้นตุบ ๆ ด้วยความห่วงใยเมิ่งซิน (กระซิบ)“เลือดไหลไม่หยุด…ร่างกายเย็น…แต่ลมหายใจร้อนราวไฟ…”เธอโน้มตัวแนบหูกับอกเขาหัวใจเขาเต้นผิดจังหวะ…เธอเบิกตากว้าง…แทบหยุดหายใจเมิ่งซิน
"ใต้เงาจันทรา…หัวใจสองดวงต้องเลือกเชื่อใจ หรือปล่อยให้ความลับพรากกัน"– คุกในพระราชตำหนัก – กลางคืน – เสียงฝนพรำเบา ๆ…ราวกับโลกกำลังกระซิบว่าพรุ่งนี้อาจไม่เหมือนเดิม เมิ่งซินเงยหน้ามองดวงจันทร์ผ่านม่านฝนบางเบา มันยังลอยเด่น…สวย…และโดดเดี่ยวเธอกอดเข่าตัวเองแน่น เหมือนเด็กหลงทางรอคำตอบจากฟ้าเมิ่งซิน (เสียงแผ่ว) “คืนนี้…แม้ฝนพรำ พระจันทร์ก็ยังกล้าเปล่งแสง ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้…ฉันจะได้เห็นมันอีกไหม…”กลั้วหัวเราะในลำคอ…ปลง ๆ “ใครจะเชื่อ…นักวิจัยจากศตวรรษที่ 22 ต้องมาตายซ้ำตายซ้อนในศตวรรษที่ 15…นี่มันขำไม่ออกจริง ๆ”ทันใดนั้น — “โครม!” ประตูไม้พังด้วยด้ามดาบ ขุนคีรินทร์ในชุดคลุมดำ หน้ากากทองดำครึ่งซีกบดบังใบหน้าด้านซ้าย สองทหารนอนหมดสติราวหุ่นไร้วิญญาณเมิ่งซินเบิกตา…หัวใจเต้นผิดจังหวะเมิ่งซิน “ทะ…ท่านเป็นใคร…”ขุนคีรินทร์ “ถ้ายังอยากมีชีวิต…ไปกับข้า”ภาพในหัวเธอสั่นไหว…สัมผัสแรกในป่าผุดกลับมา อบอุ่น…คุ้นเคย…แต่หล่นหายไปนานเมิ่งซิน (คิดในใจ) “นี่เขามาช่วยฉันจริง ๆ เหรอ…”และทันใดนั้น…หัวใจเธอก็เต้นแรงไม่เคยเป็นมาก่อน– กลางป่า – กลางคืน – เสียงฝีเท้าทหารหลวงกระชั้น ขุนคีริ