Beranda / LGBTQ+ / พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย / ⧫ Chapter 6 เรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจ

Share

⧫ Chapter 6 เรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจ

Penulis: RGeraniuM
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-29 23:55:24

‘การที่ผมหลุดมายังโลกนิยายนักล่าสาปบาปนั้น ทำให้ผมได้เจอความแตกต่างระหว่างโลกเดิมและโลกนี้อย่างเห็นได้ชัด’

‘แต่มันมีบางอย่างที่ยังคงเหมือนเดิม’

สายฝนโปรยปรายลงมาจากกลุ่มเมฆครึ้มก่อตัวทั่วท้องฟ้า ไม่เข้ากับฤดูกาลยามนี้ซึ่งอยู่ช่วงหน้าร้อน หยาดน้ำร่วงกระทบร่างหนุ่มผมยาวดำที่ยืนอยู่เบื้องหน้าศิลาสลักชื่อ ‘คาเบิล แบรนดอน’ ชายผู้เป็นบิดาของร่างนี้ในโลกนี้ได้จากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงแค่อนุสรณ์ที่เรียกว่า ‘หลุมศพ’ เท่านั้น

“นี่มันอะไร...”

คาเลนพูดออกมาเสียงแผ่วคล้ายรำพันกับตนเอง สายตาจดจ้องไปยังอักษรบ่งบอกชื่อผู้เสียชีวิต คาเบิลถือว่าเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมอยู่พอตัว ก่อนหน้าจึงมีคนมากมายมาร่วมพิธีฝังศพเยอะประมาณหนึ่ง แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นออกไปกันหมดแล้ว สุสานเลยเหลือเพียงแค่เขาคนเดียวปราศจากใครอื่น หรือบางทีก็เป็นเขาเองที่ไม่ได้สนใจว่ามีบุคคลอื่นอยู่รอบข้าง

‘ความตายก็ยังคงเป็นความตาย’

‘มันไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงกันได้ก็จริง แต่การต้องมานั่งจัดการความรู้สึกตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ผมชอบเท่าไหร่ มันไม่ง่ายเหมือนเดิม มันไม่เคยง่ายเลยสักครั้ง’

คาเลนยืนมองนิ่งอยู่เช่นนี้มานาน ไม่อาจนับได้ว่าผ่านไปกี่นาทีหรือชั่วโมง บรรยากาศอึมครึมทำให้ความรู้สึกภายในจมดิ่ง เส้นผมเริ่มจับเป็นกีบผนวกด้วยน้ำฝนที่ไหลหยดจากปลาย ชายหนุ่มแทบไม่ใส่ใจเลยว่าตัวเองจะเป็นหวัดหรือไม่ เพราะตอนนี้มีสิ่งอื่นที่ควรคิดหนักมากกว่านั้น

คาเบิลเป็นมะเร็งมานานและตายไปด้วยโรคนี้ ในยุคปัจจุบันโลกเดิมของเขาก็ยังหาวิธีรักษาไม่ได้ แล้วจะให้มาหวังอะไรกับยุคสมัยนี้ที่การแพทย์เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้ามากขนาดนั้น คาเลนรู้ดีว่านิยายเรื่องนักล่าสาปบาปไม่ใช่นิยายที่ถนอมน้ำใจคนอ่าน

ตัวละครตายเป็นเบือ สร้างแผลให้กับตัวละครอื่นที่เหลืออยู่ไม่หยุดไม่หย่อน

‘เห็นว่าคาเบิลเป็นตัวละครลับเลยหลงคิดว่าคงไม่มาตายเอาตอนเริ่มเรื่อง แต่สุดท้ายก็โดนตลบหลังสินะ ถ้าไม่นับว่านี้เป็นโลกนิยายที่เขียนขึ้นมา จริงๆ ผมก็คงมองว่ามันเป็นโลกอีกใบหนึ่งที่ทุกๆ คนมีชีวิตอยู่จริงๆ’

‘ผมชะล่าใจเกินไป’

นึกแบบนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาพลางเสยผมยาวดำขึ้น สายตาปรายละจากป้ายหลุมศพ เริ่มสาวเท้าไปเรียกรถม้าเพื่อกลับบ้านตนเอง คาเลนรับรู้ถึงความเศร้าหมองมากมายที่อัดแน่นอยู่ภายใน ไม่อาจเอ่ยได้ว่ามันมากแค่ไหน เพราะเขาไม่แน่ใจนักว่ามันวัดจากอะไร

วัดจากปริมาณน้ำตาเหรอ?

หรือวัดจากเวลายืนตากฝนเพื่อไว้อาลัย?

เขาไม่รู้... แต่ที่แน่ๆ ความรู้สึกมันกำลังขยายอยู่ข้างใน จนเหมือนว่าจะฉีกกระชากร่างกายเขาออกจากกัน ถ้าความเศร้าคือระเบิดในร่างมนุษย์ ตอนนี้คาเลนคงแหลกเป็นชิ้นอีกครั้ง ไม่ต่างจากตอนเสียคนใกล้ชิดในโลกเดิม

‘ยิ่งเนื้อเรื่องของนิยายเริ่มดำเนินไปไกลเท่าไหร่ เหตุการณ์พวกนี้คงมีมาอีกเรื่อยๆ’

‘ดังนั้นปัญหาตอนนี้คือ นิยายเรื่องนี้กำลังเกิดช่องว่างการหายไปของตัวละครลับ มันเป็นเพราะผมเข้ามาแทรกแซงเนื้อเรื่องเหรอ? ไม่สิ... ตามปกติในเนื้อเรื่องคาเบิลเข้ามามีส่วนกับเนื้อเรื่องหลักเสมอ แต่ตัวคาเบิลกลับไม่เคยปรากฏให้เห็นเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้ง’

‘หรือจริงๆ แล้วคาเบิลตายตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่นิยายยังไม่ได้เล่าถึง?’

“วางใจอะไรไม่ได้เลยแฮะ”

ชายหนุ่มบ่นอุบอิบขณะที่ลงจากรถม้าอย่างอิดโรย ฝนเริ่มซาแต่บรรยากาศมืดครึ้มยังคงอยู่ นัยน์ตาสีน้ำตาลเลื่อนจับจ้องไปยังบ้านตนเอง แต่พอเลื่อนมองข้างๆ ประตูก็เห็นชายร่างสูงอันคุ้นตายืนพิงรออยู่

“มารอจีบผมอีกแล้วเหรอครับ?”

“นายควรหัดพูดทักทายแบบคนปกติบ้างนะ คาเลน”

“งั้นอรุณสวัสดิ์ คุณโลฮาส”

คนฟังได้ยินคำทักทายนั้นถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม “นี่มันตอนเที่ยงแล้ว” คาเลนกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะส่งเสียง ‘โอ้ว’ ออกมาเหมือนเพิ่งจะนึกเอะใจได้ว่าตอนนี้เวลากี่โมงกี่ยาม

“สายัณห์สวัสดิ์ครับ”

“...”

บิทเทอเพ่งสายตามองไม่หัวเราะสักแอะ ถึงอย่างนั้นคาเลนกลับยิ้มแฉ่งออกมาพร้อมกับเอียงหัวมองอย่างทองไม่รู้ร้อน ฮันเตอร์หนุ่มคร้านจะต่อว่าจึงไม่ท้วงเรื่องการทักทายต่อ เพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้าตั้งใจกวนประสาท

“สวมชุดไว้ทุกข์ยังยิ้มออกอยู่อีกเหรอ?”

“อยากเห็นหน้าตอนผมเศร้ารึไง?”

“เปล่า คิดว่าถ้านายไม่ทำท่าทางแบบนั้น ฉันคงชอบนายมากกว่านี้”

‘เอาแล้วไง จะมาพูดหวานๆ เซอร์วิสทั้งทีทำไมต้องวันนี้ด้วยเนี่ย’

‘แบบนี้มันน่าแหย่เล่นชะมัด’

“ถ้าผมไม่ทำ ‘ท่าทางแบบนั้น’ คุณจะ ‘ชอบ’ ผมใช่ไหมครับ?” คาเลนพูดย้ำอย่างจงใจแล้วหรี่ตามอง บิทเทอไม่ได้ให้คำตอบใดๆ คนทะเล้นจึงพูดต่อ “ไม่ต้องเลิกทำแบบนั้น เดี๋ยวคุณก็ชอบผมอยู่ดีแหละครับ”

“มั่นใจกับเรื่องไร้สาระซะจริง”

“แล้วมีธุระอะไรเหรอ?” คาเลนไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่าเลยออกปากถามเข้าประเด็นทันที ถ้าตามปกติเขาคงใช้เวลาหยอกล้อแกล้งพระเอกนานกว่านี้ แต่วันนี้คงไม่เหมาะนัก

“มีเรื่องสำคัญที่ฉันต้องบอกกับนายน่ะ”

พอได้ความแบบนั้น เจ้าบ้านจึงไขเปิดประตูพลางสาวเท้าเข้ามาพร้อมๆ กับแขกผู้ซึ่งเป็นฮันเตอร์ ทั้งสองตรงไปยังห้องรับแขกเริ่มสนทนาธุระที่คุณพระเอกพูดถึง สายตาบิทเทอนั้นเรียบนิ่งคอยพินิจตัวคาเลนต่างจากทุกครา เพราะธรรมชาติของอีกฝ่ายนั้นจะเป็นคนปากจ้อพูดไม่หยุด แต่วันนี้กลับเงียบผิดปกติ

‘คงเป็นเพราะเรื่องคาเบิลสินะ’

บิทเทอคาดเดาเหตุผลที่ทำให้คาเลนแสดงพฤติกรรมสุขุม ถึงแม้นักล่าเสพติดภูตจะรู้จักมักจี่ชายคนนี้ไม่นานนัก แต่เทียบจากท่าทีเดิมมันก็ออกจะแปลกหูแปลกตาเหลือเกิน ในทางกลับกัน ชายผมยาวดำเดินมานั่งลงตรงข้ามแล้วค่อยๆ คลี่ยิ้มบาง

“ยะ...อยากบอกอะไรเหรอครับ?”

‘แม่ง...ทำไงถึงจะไม่เขินออร่าพระเอกวะ?! จะกลั้นยิ้มไม่อยู่แล้วโว้ยยย!’

คาเลนมองตาแข็งผนวกกับมุมปากซึ่งกระตุกบ้างบางครั้ง เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะรับรู้ได้ถึงสายตาบิทเทอที่มองมาอย่างห่วงใย (มโนเอง) นั่นมันทำให้หัวใจนายบอดี้การ์ดจากต่างโลกฟูนุ่มพิกล ถ้าไม่ติดว่าพระเอกคนนี้กำลังจ้องตนอยู่ เขาคงยกมือขึ้นกุมอกกุมใจตัวเองไปแล้ว

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าปรับท่าทางให้สงบนิ่งกว่าเก่า ชายผมบลอนด์ขาวมองก่อนเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมาทันที “คาเบิลไม่ได้ตายเพราะโรคมะเร็ง”

คาเลนชะงักไปพร้อมย่นคิ้วมอง บิทเทอสบตากลับแล้วพูดต่อ

“นายคงรู้จักโรค ‘สาปกายศิลา’ ใช่ไหม?”

‘สาปกายศิลา เป็นโรคที่รักษาไม่หายไม่ต่างจากโรคมะเร็ง แต่ความต่างคือคนป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการที่ยากสังเกตในช่วงแรก ช่วงปลายตามร่างกายจะมีบางส่วนกลายเป็นหินแข็งจนขยับแทบไม่ได้ พอตายไปร่างกายจะค่อยๆ กลายเป็นหินแข็งทั่วทั้งหมดไม่ต่างจากรูปปั้น’

‘ผมรู้จักโรคนี้ดี เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในโรคที่เกิดจากคำสาปหายาก และแอนนาลิสต์หลายๆ คนก็ให้ความสนใจกันมาก อย่างผมก็ศึกษาเรื่องนี้ตามโอกาสเพราะมันมีส่วนเกี่ยวกับนิยายพอตัว แต่ถึงจะวิเคราะห์วิจัยหายังไง ก็หาต้นตอโรคนี้แทบไม่เจอ มีแต่ทฤษฎีที่ยากจะพิสูจน์ เพราะงั้นไม่ต้องหวังการหาวิธีรักษาหรอก’

สายตาคาเลนหยุดมองบิทเทอ ‘ทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ล่ะ? สรุปแล้วเขามีความสัมพันธ์ยังไงกับคาเบิลกันแน่? ผมเคยคิดว่าการอ่านได้นิยายมันได้เปรียบแท้ๆ แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วว่า รู้เรื่องไอ้หมอนี่ลึกตื้นหนาบางแค่ไหน’

“รู้จัก จะบอกว่าคาเบิลเป็นโรคนั้นสินะ…”

“นายรู้อยู่แล้วเหรอ?”

คาเลนเค้นเสียงหัวเราะแห้งออกมา

“เกริ่นมาขนาดนี้ทำไมจะเดาไม่ออกล่ะ ถามอะไรแปลกจริงๆ” บิทเทอเงียบไม่ตอบอะไรจึงเป็นเขาที่ออกปากถาม “ทำไมถึงบอกเรื่องนี้กับผมล่ะ?”

“แค่คิดว่านายควรจะรู้เรื่องนี้ไว้”

คนถามแทบไม่เชื่อหูที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น เพราะปกติแล้วคุณพระเอกเป็นคนทำตัวเย็นชาผิดที่ผิดเวลาอยู่ก็บ่อยครั้ง ไหงตอนนี้กลับทำได้ดีจนเขาอยากแปลงร่างเป็นโทรโข่งป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า ‘บิทเทอ โลฮาส ได้เรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจมนุษย์มากขึ้นแล้วค้าบ~’

‘ว่าไปเถอะ~ ไอ้คำพูดเมื่อกี้เกือบทำผมตกหลุมรักอีกแล้วนะ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่สามารถเอนจอยกับเซอร์วิสนี้ได้ ผมคงเดินเข้าไปหยิกแก้มเขาสักที’

“พูดแบบนี้เดี๋ยวผมก็เข้าใจว่าคุณเป็นห่วงผมหรอก” คาเลนแซวเหมือนกับทุกครั้งพร้อมเผยรอยยิ้มออกมา บิทเทอกอดอกมองนิ่งแล้วตอบกลับเสียงเรียบ

“ใช่ ฉันเป็นห่วงนาย”

“... ครับ?”

คาเลนยิ้มค้างแล้วถามกลับเหมือนฟังไม่ถนัด

“ฉันบอกว่า ‘ฉันเป็นห่วงนาย’ ”

‘เมื่อกี้...ผมหูฝาดใช่ไหม?’ 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย   ⧫ Chapter 24 “อำลาโศกศัลย์”

    โฮ่งๆ ๆ“อะไร? แกก็ตื่นเต้นเหรอไอ้ตูบ~”คาเลนว่าพลางยืนเท้าเข่ามองเจ้าร็อตไวเลอร์พิลึกนี่วิ่งวนตรงหน้าบ้าน ดูจากสภาพแวดล้อมปลอดโปร่งและห่างไกลจากผู้คน ที่นี่คงเป็นนอกเมืองเกือบเข้าเขตป่า ชายหนุ่มออกมาสูดอากาศเพราะหลังจากโดนเข็มอาร์ลีนไปหลายเล่มก็หลับยาว ใช้เวลาเพียงคืนเดียวแผลจึงหายดีแต่ไอ้ที่ว่าดีก็ดี ไอ้ที่ว่าแย่ก็แย่ แย่คืออะไรล่ะเหรอ?เปรียบเทียบง่ายๆ คือคนเราโดนฉีดยาเข็มเล็กๆ ยังปวดแขนขนาดนั้น แต่เข็มที่เขาโดนน่ะยาวเท่าศอกแทงจนทะลุหนังไปแล้วรึเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นคงไม่ต้องพูดถึงความปวดความชาเลย เพราะทั้งแขนและขาใช้การตอนนี้เหมือนมีไฟฟ้าช็อตตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ช่าง ตอนนี้เขาหายดีแล้วคาเลนนึกไปเรื่อยพลางยื่นมือไปลูบหัวหมาออดอ้อนก่อนจะกล่าว“ฉันสัญญาว่าจะไม่แย่งอาหารแกกินอีก”โฮ่ง!เขาพูดแซวตัวเอง แต่จริงๆ ส่วนหนึ่งก็แอบรู้สึกผิดนิดหน่อย ถึงจะไม่แน่ใจว่านี่มันหมาปกติจริงไหม แต่ถ้าเจ้าร็อตไวเลอร์ตัวนี้ไม่ช่วยไว้เมื่อวานนี้ เขาคงโดนอาร์ลีนแทงเข็มจนตัวพรุนไปแล้ว ขณะเล่นกับเพื่อนใหม่เพื่อนหมา ราวินกับบิทเทอก็เดิน

  • พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย   ⧫ Chapter 23 เตรียมบอกลาเธอด้วยล่ะ

    เฮ้อ~คาเลนซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงถอนหายใจยาว สายตามองเพดานห้องอย่างว่างเปล่า อเนจอนาถใจราวกับว่าเขากำลังทำบางอย่างพลาดไป ใช่...เขาทำพลาด พลาดมากๆ ความพลาดอันเกิดมาจากความหิวตัวเองที่เกินพิกัดอีกด้วย ระหว่างปลงจิตก็เหลียวมองข้างเตียงพบเจ้าร็อตไวเลอร์ตัวใหญ่แลบลิ้นห้อยอยู่ข้างๆ‘ไอ้หมาเวร…’คนป่วยนอนเตียงมองหมาตัวนี้อย่างระแคะระคายใจ บอกว่าความผิดหมาก็ไม่ใช่ จะโทษความหิวตัวเองก็เหมือนเป็นคนขาดความยับยั้งชั่งใจ (ในการกิน) เกินไป“เพราะแกเลยทำให้ฉันเป็นคนกินอาหารหมา... เดี๋ยวสิ?”คาเลนพูดหลังเพิ่งสังเกตบบางอย่างได้เอาตอนนี้ เขาหรี่ตาจ้องสิ่งผิดปกติที่เห็นจากตัวเจ้าหมาร็อตไวเลอร์‘คงไม่ใช่ว่าไอ้ตูบนี่...’“ช่างเถอะ ฉันคงตาฝาดแหงๆ ”เจ้าหมาเอียงหัวมองแล้วส่ายหางเดินสี่ขาออกจากห้องไป อาการเขาดีขึ้นมากแล้วแต่ยังมีไข้อ่อนๆ อยู่นิดหน่อย ใช่แล้ว เขาเห็นอะไรแบบนี้ได้ต้องเป็นเพราะไข้แน่ๆ คาเลนลุกขึ้นจากเตียงสาวเท้าออกไปยังห้องกว้าง ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นห้องรับแขก ดูเหมือนท

  • พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย   ⧫ Chapter 22 เพราะหิวไง

    ชายหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นรับรู้ได้ว่าร่างตนนั้นหนักอึ้งเหลือหลาย ภาพพร่าๆ ที่ทอดสายตามองตอนนี้คือเพดานห้องขาวหมอง ไม่นานทัศนวิสัยก็ปรับชัดครั้นกะพริบตาอีกครั้งสองครั้ง เขานอนนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะกลอกมองรอบๆ ตัว พบว่าราวินนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ เขา“ฉันสลบไปเหรอ?”“ครับ”อัศวินตอบกลับด้วยท่าทีเรียบเฉยเช่นเดิม“งั้นเหรอ? คงทำเอานายกับบิทเทอลำบากแย่เลยสินะ”“ใช่ แกทำ”สิ้นคำพูดนั้นจึงปรายมองตามเสียงอันคุ้นเคย คนกล่าวก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคุณพระเอกซึ่งยืนกอดอกพิงกำแพงฝั่งตรงข้ามเตียงที่เขานอนอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าใสฉายแววไม่พึงใจไม่คิดปกปิด คาเลนซึ่งอาการยังไม่คงตัวมากเพียงหลุบมองลงอย่างรู้สึกผิดและเมื่อยล้า“ขอโทษ”“...”บิทเทอไม่ได้ตอบกลับอะไร ถึงกระนั้นถ้าสังเกตจากบรรยากาศอึมครึม เขารู้สึกได้เลยว่าตอนนี้พระเอกกำลังโกรธไม่น้อยเลยทีเดียว“ครั้งแรกเรื่องคำสาปย้อนกลับ แกไม่บอกฉันแต่ให้รามุสรู้ก็ยังพอให้อภัย แต่คราวนี้แกอาการกำลังแย่ แต่เลือกไม่บอกทั้งหมอนั่นหรือฉัน ปล่อยให้ตัวเองเป็นลมล้มพับไปแบบนั้น… ทำไม? แกอยากตายตั้

  • พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย   ⧫ Chapter 21 ทำไมไม่บอกฉัน

    TW :: Trafficking (การค้ามนุษย์) / Emesis (อาเจียน) / Misogyny (การเหยียดผู้หญิง)‘อาร์ลีน’ หญิงเลอโฉมโดดเด่นแต่ไร้ค่า ด้วยตำหนิใหญ่หลวงเธอนั้นคือชาติกำเนิดอันเป็นทาสจากแดนสงคราม จึงง่ายดายนักที่นางจะถูกนำมาตีราคาในการแย่งชิง ไม่ว่าชาวบ้าน อัศวิน ขุนนางหรือเศรษฐี หากได้บังเอิญเห็นค่าหน้าค่าตานี้เข้าก็ต่างพากันหลงใหลโงหัวไม่ขึ้น เมื่อขายออกจึงพ้นจากทาสกลายเป็นนางบำเรอผู้นำตระกูลเอิร์ล‘ตุ๊กตาบำเรอ’ ฉายาที่ถูกตั้งให้ภาพความทรงจำเหล่านี้แล่นวนเวียนอยู่ในหัวคาเลนบ่อยครั้ง เกิดอย่างควบคุมไม่ได้ และง่ายที่จะทำให้เขาประสาทเสียกับสิ่งที่รับรู้ โดยเรื่องราวทั้งหมดถูกส่งมายามเขาหลับใหลตอนนี้มันกำลังจะเริ่มฉายหนังชีวิตต่ออีกครั้ง…เวลากลางวันภายในห้องกว้าง อาร์ลีนนั่งเย็บปักผ้าเช็ดหน้าอยู่ริมหน้าต่างอย่างประณีต นัยน์ตาสีฟ้าสวยกลมโตจดจ่อกิจกรรมตรงหน้า มือบางค่อยๆ บรรจงถักทอด้ายบางสร้างลวดลายทีละนิด นี่คงเป็นงานอดิเรกเดียวที่เธอสามารถทำเพื่อคลายเครียดได้บัดนี้ชีวิตข

  • พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย   ⧫ Chapter 20 นอนตรงไหนใช่ปัญหา

    ระหว่างที่สองเท้าก้าวตามทางเท้า คาเลนก็หัวเราะกับตัวเองเหมือนคนบ้า บิทเทอซึ่งเดินข้างๆ มองอย่างไม่เข้าใจในการกระทำนั้น แต่ไม่คิดจะถาม สาเหตุที่เขาทำตัวเหมือนคนสติหลุดนั่นเป็นเพราะหญิงสาวซึ่งวิ่งชนตนเมื่อกี้เธอคือ ‘นางร้าย’ นิยายนักล่าสาปบาป‘ไม่คาดฝันเลยแฮะว่าจะเจอที่เมืองธานแถมเร็วอีกต่างหาก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น ภาพลักษณ์เธอดูใสซื่อกว่าที่ผมจินตนาการไว้มาก คิดว่าจะดูร้ายๆ แต่ไหงออกมาอย่างกับสาวน้อยเรียบร้อยคนหนึ่ง ว่าแต่…เธอชื่ออะไรนะ? จำหน้าตาได้แต่ดันจำชื่อไม่ได้เนี่ยสิ?’ระหว่างเดินไปคิดไป ฝีเท้าต้องหยุดครั้นถูกกระตุกคอเสื้อรั้งไว้ ชายผมยาวดำชะงักพลันถอยเท้ากลับมายืนข้างๆ บิทเทอที่เป็นคนดึง “ถึงคอกม้าแล้ว” เสียงเรียบว่าพร้อมปรายนัยน์ตาสีฟ้ามอง เขาคงจะเหม่อคิดเยอะเกินไปเลยเกือบได้เป็นเด็กหลงทางแล้ว ดีที่คุณพระเอกใจดีจูงกลับมา“เดี๋ยวผมจะไปเช่าม้าให้นะครับ”คาเลนส่งเงินให้ราวินที่อาสาไปจัดการเช่าม้าให้ ปล่อยบิทเทอกับเขารออยู่ด้วยกันสองต่อสอง คุณพระเอกคาบบุหรี่ออกมาจากซองจุดสูบด้วยไม้ขีดเสร็จสรรพ

  • พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย   ⧫ Chapter 19 มองเพราะคุ้นหน้า?

    รุ่งสางมาถึงในที่สุด ราวินนั่งเอนหลังพิงพนักในห้องรับแขกทั้งคืน รับรู้ได้ทันทีว่าวันใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง อันที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนตื่นเช้าหรืออะไร แต่อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ได้หลับเอาแรงไปเยอะแล้วเลยไม่มีอาการง่วงใดๆ“ทำท่าทำทางเหมือนตัวเองเป็นรูปปั้นไปได้”เสียงแหบพร่าเอ่ยเรียกให้อัศวินปรายนัยน์ตามรกตมอง จึงพบว่าเป็นคาเลนที่ตอนนี้สารรูปดู…ไม่จืดเท่าไร ทั้งตาคล้ำ เสียงแหบ ไหนจะผมยุ่งเหยิง เป็นลักษณะของคนเพิ่งตื่นและนอนน้อยอย่างแท้จริง“นอนไม่หลับเหรอครับ?”“ก็...นิดหน่อย”เจ้าของบ้านยักไหล่ก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงข้ามเขา“งั้นคุณควรหลับอีกสักหน่อย”“ฮะๆ ๆ ๆ ถ้านายพูดแบบนั้น ฉันจะนอนจริงๆ แล้วนะ”“ดีครับ ตอนนี้น่าจะประมาณตี 1 หลับเอาแรงต่อเถอะ”“...”ชายผมยาวดำไม่ตอบอะไรกลับไป เพียงแค่ทอดสายตามองคู่สนทนา ก่อนต่อมาเขาจะถอนหายใจแล้วเปลี่ยนอิริยาบถตนเองจากนั่งเป็นนอนไปกับโซฟากว้าง เหยียดแข้งเหยียดขาพาดแขนเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status