Главная / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 1 ผมไม่มีน้องสาว

Share

พาล Blaming Her Sin
พาล Blaming Her Sin
Автор: ลิขิตา Likita

ตอน 1 ผมไม่มีน้องสาว

last update Последнее обновление: 2025-06-13 02:07:12

คืนนั้นพายุฝนโหมกระหน่ำ

แม้แต่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มั่นคงและแข็งแรง เสียงฝนฟ้าก็ยังคำรามลอดเข้ามาไม่ขาดสาย

ลลิตรา...นอนตัวเย็นเฉียบอยู่บนเตียงกว้าง น้ำตาไหลเปียกหมอน ผ้าปูเตียงสีขาวปรากฏร่องรอยสีเข้ม...

เมื่อสติกลับมา เธอก็รู้สึกอดสูจนไม่กล้าแม้แต่จะสะอื้น

กระทั่งมือร้อนผ่าวของใครคนหนึ่งแตะตัวเธออีกครั้ง ลลิตราหรือลูกอมก็สะดุ้งเบา ๆ

"ไปตายซะ"

เสียงแหบเครือแข็งกร้าว แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามก็ไม่สะทกสะท้าน

เขายังคงดึงร่างบางไปกอดแนบตัว

เธอพยายามออกจากวงแขนแข็งแรงแต่ไร้ผล

หนำซ้ำยิ่งดิ้นรนยิ่งเสียดสี ก็ยิ่งกระตุ้นให้อะไร ๆ ที่เพิ่งสลดกลับลุกโลดขึ้นมาอีก

“ครั้งแรกอาจเป็นเพราะฉัน แต่ครั้งที่สองนี่เธอหาเรื่องเองนะ”

อธิปกระซิบเสียงแตกพร่า

แค่คิดถึงสัมผัสรัดรึงที่แสนอ่อนนุ่มเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาก็ทำให้เขาร้อนวูบขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่นะ หยุดเถอะ พอได้แล้ว”

“จะพออะไร ฉันยังเหลือแรงสะสางกับเธออีกทั้งคืนนั่นแหละ”

“ไม่นะ ฉันไม่...”

หญิงสาวขอร้องเสียงสั่น ส่ายหน้าไปมา น้ำตาและเรือนผมสีน้ำตาลเข้มกระจายแผ่บนหมอน

พยายามทุบถองจิกตีเพื่อไม่ให้ผู้ชายสารเลวคนนี้ทำอะไรได้ตามอำเภอใจอีก แต่อธิปไม่คิดจะหยุดยั้งแม้แต่น้อย

ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีอะไรที่เขาอยากได้แล้วไม่ได้...

และอย่างที่เขาเพิ่งประกาศกร้าวกับเธอไป... เขายังเหลือเรี่ยวแรงและเวลาที่จะ 'สะสาง' กับเธออีกทั้งคืน

ห้าเดือนก่อนหน้า

"อรรถ รชต" ประธานบริหารและเจ้าของสายการบินระดับลักซูรี่ 'ไซแอมเจ็ต(สยามเจ็ต)' ในวัยห้าสิบปลาย ๆ ยังคงหล่อเหลา แข็งแรง และดูหนุ่มกว่าวัย ใบหน้าคมเข้มเหมือนมีสายเลือดแขกเปอร์เซียผสมเชื้อสายตะวันตก และตอนนี้ใบหน้านั้นก็กำลังยิ้มกว้างด้วยความสุขที่ฉายชัดจนคนรอบข้างสัมผัสได้

"ยินดีต้อนรับสู่บ้านรชตนะลินดา หนูลูกอมด้วย... จากนี้ที่นี่คือบ้านของหนูกับแม่แล้วนะ"

อรรถหันไปเอ่ยกับหญิงสาวต่างวัยสองคนที่เดินตามเข้ามา คนหนึ่งอายุใกล้เคียงกับเขาคือห้าสิบกว่า ๆ ส่วนอีกคนนั้นอายุประมาณยี่สิบต้น ๆ หญิงทั้งคู่มีดวงตาหวานซึ้งสีน้ำตาลเข้ม สีเดียวกับเรือนผมหยักศก และจมูกโด่งปลายโค้งมนนิด ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ

มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นแม่ลูกกัน

"บ้านของคุณค่ะอรรถ ฉันกับลูกแค่มาอาศัยอยู่"

ลินดาเอ่ยเบา ๆ อย่างเกรงใจ แต่อรรถส่ายหน้า

"เราจดทะเบียนกันแล้ว ถึงคุณจะไม่ยอมให้ผมจัดงานเลี้ยง แต่เราก็เป็นสามีภรรยากันแล้วอย่างถูกต้อง..." อรรถบอกก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วหันไปประกาศกับเหล่าแม่บ้าน คนสวน คนขับรถ คนงานทุกคนที่ทำงานที่บ้านหลังนั้น

"อย่างที่ฉันเคยบอกไปแล้วว่าคุณลินดาจะมาเป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้ และนี่คือคุณหนูลูกอม ลูกสาวของคุณลินดา เธอก็จะเป็นลูกสาวของฉันอีกคนเหมือนกัน... ฝากดูแลลูกกับเมียของฉันด้วยนะ"

"ค่ะ/ครับ"

มีเสียงตอบรับงึมงำจากเหล่าลูกจ้าง บางสายตาแสดงความสนอกสนใจ บางสายตาก็ก้มหรือแกล้งมองไปทางอื่น แต่ก็มีคนที่ค่อนข้างสูงวัยสองสามคนที่มองมาอย่างตื่นเต้น

ลลิตรารู้ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจเธอ เป็นมารดาของเธอต่างหากที่พวกเขาจดจำได้... ใครก็ตามที่ตอนนี้อายุสี่สิบห้าสิบขึ้นไปล้วนจดจำ "ลินดา เมธานันท์" ได้ทั้งนั้น แม่ของลลิตราเคยเป็นทั้งรองนางสาวไทย เป็นอดีตนางเอกภาพยนตร์ที่ได้ฉายไปทั่วทั้งเอเชีย ครั้งหนึ่งแม่ของเธอเคยมีชื่อเสียงโด่งดังถึงเพียงนั้นนั่นแหละ

"ป้าอ้อม จัดห้องใหม่ให้คุณหนูแล้วใช่ไหม"

'คุณหนู' ที่ว่า อรรถหมายถึงลูกเลี้ยงของเขา แม่บ้านที่ท่าทางแข็งขันที่สุดคนหนึ่งพยักหน้าแล้วรีบเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ

"เรียบร้อยแล้วค่ะ ป้าให้เด็กทำความสะอาด เปลี่ยนเครื่องนอนใหม่หมด ตอนนี้ห้องหอมฟุ้ง รับรองว่าคุณหนูจะต้องชอบแน่ ๆ ค่ะ"

"ขอบคุณนะคะ" ลลิตรารีบเอ่ยกับป้าอ้อม ท่าทางยังไม่คุ้นชินกับการเป็น 'นาย'

อรรถกำลังจะบอกให้แม่บ้านพาเด็กสาวขึ้นไปชมห้องใหม่ ก็มีเสียงรถเร่งเครื่องดังทะยานมาจอดหน้ามุกประตู รถสปอร์ตสีเหลืองสดที่คนขับจงใจเร่งเครื่องให้ดังราวกับอยู่ในสนามแข่ง

ลลิตราดวงตาเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะบังเอิญอะไรขนาดนี้ เธอปราดไปยืนข้างลินดา จับมือคนเป็นแม่ไว้ด้วยท่าทีปกป้องตามสัญชาตญาณ ลินดาเงยหน้ามองลูกสาวที่สูงกว่าตัวเองอย่างแปลกใจ

"มีอะไรหรือลูก"

"รถคันนี้ไงคะที่เฉี่ยวหนูเมื่อสองสามวันก่อน แล้วก็แค่เปิดกระจกรถโยนเงินมาให้"

ลลิตรากัดฟันกระซิบเพราะไม่อยากให้อรรถได้ยิน เธอไม่อยากให้พ่อเลี้ยงมีเรื่องไม่สบายใจตั้งแต่วันแรกที่เธอกับแม่เข้าบ้าน

ลินดาสีหน้าไม่แน่ใจ

"มันจะใช่หรือลูก"

"รถแบบนี้ ในกรุงเทพฯ คงมีไม่กี่คันหรอกค่ะ และถ้าคนขับคือหมอนั่น มันก็คงจะใช่"

หญิงสาวเอ่ย ดวงตาเปล่งประกายเอาเรื่อง แผลถลอกปอกเปิกตามเนื้อตัวยังปรากฎชัดหลายแผล รวมถึงที่บนใบหน้าสวย ๆ ของเธอด้วย

"ถ้าใช่ แม่ขอนะลูกอม"

ลินดารีบกระซิบตอบ เห็นชัดว่ากลัวลูกสาวจะเอาเรื่องใครก็ตามที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถคันนั้น คนเป็นลูกเม้มปากกัดกรามแน่นยอมพยักหน้าแกน ๆ

อรรถกำลังรอคอยเจ้าของรถคันนั้นอยู่เช่นกัน เขาจึงไม่ทันได้สังเกตอากัปกิริยาของสองแม่ลูก สีหน้าของอรรถดีใจ แม้จะแอบหวั่นใจอยู่บ้างนิด ๆ

ใครบางคนดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถ ก่อนพาร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรก้าวยาว ๆ เข้ามาสมทบกับทุกคนที่ยืนอยู่ ใบหน้าขาว ๆ มีแว่นกันแดดสีดำอำพรางไว้ และเมื่อเขาถอดแว่นออกลลิตราก็จดจำได้ทันที

'นี่คุณ ลงจากรถมาเลยนะ ในซอยแคบแค่นี้ขับรถทุเรศ ๆ แบบนี้ได้ยังไง'

ลลิตราที่เนื้อตัวเปรอะเลอะไปด้วยน้ำโคลนกำลังโต้เถียงกับคนบนรถสปอร์ตหรู กระจกฝั่งข้างคนขับลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ก็มากพอให้เธอเห็นว่าคนขับเป็นผู้ชายและคนนั่งข้างเป็นผู้หญิงสาวสวยเสียด้วย

'ลงมาคุยกันเดี๋ยวนี้เลย เรียกประกันของคุณมา แล้วพาพี่เขาไปโรงพยาบาล'

'ไม่เป็นไรพี่ ผมไม่เป็นอะไร'

วินมอเตอร์ไซค์ที่ยังเป็นวัยรุ่นรีบบอก ท่าทางเหมือนเกรงใจรถหรูคันนี้อยู่มาก คงกลัวว่าจะโดนคนรวย ๆ เรียกค่าสีรถสินะ ลลิตราเข้าใจอย่างนั้น และทั้งที่ตัวเองก็เจ็บมีแผลเลือดออก แต่เธอยังหันไปแหวใส่คนบนรถ

'ลงมาสิ ฉันบอกให้ลงมาตกลงกัน'

'อาร์ต เอาไงดี เรียกตำรวจเลยมั้ย'

สาวสวยที่นั่งข้างคนขับสีหน้ายุ่งยากรำคาญใจ แต่ชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยกลับสีหน้าเย็นชาเรียบเฉย ก้มหยิบอะไรบางอย่างก่อนจะชะโงกตัวข้ามสาวสวย แล้วโปรยบางอย่างลงมา

ลลิตรากำลังงุนงงตอนที่รถหรูสีเหลืองสดคันนั้นแล่นจากไป ทิ้งไว้เพียงธนบัตรสีเทาหลายสิบใบที่ลอยเกลื่อนอยู่บนแอ่งน้ำขัง หญิงสาวกำลังนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งขนมให้ลูกค้าตอนที่รถหรูคันนั้นขับเบียดมาอย่างเร็วและแรงจนน้ำที่เอ่อขังหลังฝนตกสาดกระเซ็นใส่มอเตอร์ไซค์ รถเล็กเสียหลักล้มไถล เธอกับวินมอเตอร์ไซค์กลิ้งไปหลายตลบ กล่องขนมไทยที่เธอนั่งทำหลังขดหลังแข็งมาทั้งคืนเละเทะทั้งหมด

แต่คนบนรถนั่นไม่มีแม้แต่คำว่าขอโทษ...

ลลิตราจ้องหน้าเขาเขม็ง เธอพอจะรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เพราะพ่อเลี้ยงของเธอเคยบอกไว้ว่าท่านมีลูกชายสองคน

"กลับมาพอดีเลยนะ สวัสดีคุณน้าลินดาสิ นี่น้าลินดาเขาจะมาอยู่กับเราตั้งแต่วันนี้ไป และนี่น้องลูกอม ลูกสาวของน้าลินดา เขาอายุน้อยกว่าอาร์ตสักสามสี่ปีนี่แหละ..."

อรรถแนะนำสมาชิกใหม่ก่อน และหันมาบอกลินดากับลูกสาวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

"คุณลิน...หนูลูกอม... นี่ลูกชายคนโตของลุงเอง ชื่ออาร์ต หนูเรียกพี่เขาว่าพี่อาร์ตได้เลยนะ"

"ผมไม่มีน้องสาว"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 47 รักษาสัญญา

    "นายก็ไม่ได้ดีไปกว่าแฟนเก่าฉันหรอก เห็นแก่ตัวเหมือนกัน คิดเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน และก็...ตอแยฉันไม่เลิกเหมือนกัน""ฉันไม่ได้..."อธิปนึกอยากจะเถียง แต่จำนนด้วยหลักฐาน เขายอมปล่อยมือออกจากเอวบางอย่างเสียดายแต่ยังไม่ยอมก้าวห่างไปไหน "ฉันไม่เหมือนแฟนเก่าเธอ เพราะฉันยังไม่มีพันธะอะไรกับใคร""คุณโชติรสได้ยินแบบนี้เธอคงยิ้มดีใจสินะ""ฉันกับโช เราไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น"อธิปแก้ตัว แล้วเขาก็รู้สึกรังเกียจตัวเองขึ้นมานิดๆ ทันทียังไม่นับว่าตอนนี้ลลิตราก็มองมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน...เขามันทุเรศจริงๆ"ช่างฉันเถอะ ฉันมาคุยเรื่องของเรา...อย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยรู้สึกกับฉันเลยสักครั้ง..."อธิปยังดื้อดึง ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากคนตรงหน้ารวดเร็วจนเธอผงะหนีแทบไม่ทัน"เธอรู้สึก ฉันดูออก... ไม่ต้องอายหรอกเพราะฉันก็รู้สึก ฉันแทบบ้าที่รู้ว่าเธออยู่ใกล้แค่นี้แต่ทำอะไรไม่ได้...และฉันไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป เธอ...ลูกอม...แฟนเก่าเธอมันแต่งงานไปแล้ว แต่ฉันยังว่าง ฉันให้เธอได้ทุกอย่างขอแค่เธอ..."อธิปละไว้ในฐานที่เข้าใจ ลลิตราแค่นหัวเราะ "นายนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ""แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะ เยส หรือ โน""แป

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 46 แววตาที่ว่างเปล่า

    "ก็ฉันไม่คิดว่าจะเป็นนายนี่!"ลลิตราเถียง มือยกจับคอเสื้อโดยอัตโนมัติ นึกโล่งอกที่ยังสวมเสื้อชั้นใน และเสื้อนอนผ้าฝ้ายก็ไม่ได้บางจนหมิ่นเหม่"ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วเธอเปิดประตูให้ใคร""เปิดให้น้องโอมมั้ง!" หญิงสาวประชด แต่อธิปกลับสีหน้าจริงจัง"ไม่ต้องมากวน! เธอกำลังรอใคร? ถึงได้รีบเปิดประตูแบบไม่คิดอย่างนั้น""เอ๊ะ! มันเรื่องของฉันนะ นายออกไปได้แล้ว มีอะไรไปคุยกับพรุ่งนี้""แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอตอนนี้ เดี๋ยวนี้""ฉันไม่สะดวก"ลลิตราตอบเสียงแข็ง ตามองออกไปนอกประตู หวังให้น้ำตาลหรือแม้แต่น้ำค้างก็ได้ เดินถือถาดอาหารเข้ามาขัดจังหวะอีกเช่นเคยแต่ท่าทางของเธอทำให้อธิปไม่พอใจเพราะคิดว่าเธอกำลังรอใครอยู่จริงๆ เขายื่นแขนที่ยาวกว่าและมีกำลังมากกว่าปิดประตูใส่หน้าเธอดังโครม แถมยังกดล็อกเสร็จสรรพ"นายอธิป! อย่ามาทำตัวแบบนี้กับฉันนะ!""ทำตัวแบบไหน"อธิปเลิกคิ้ว สีหน้ายียวน แต่แววตาที่เข้มขึ้นบ่งบอกว่าเขาไม่อยู่ในอารมณ์ยั่วล้อมีอะไรบางอย่างในท่าทีนั้นที่ทำให้ลลิตรารู้สึกขึ้นมาว่าวันนี้เขาเอาจริง!ถ้อยคำแรงๆ ที่ตั้งใจจะพูดในตอนแรกจึงถูกกลืนกลับไปทันที หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ทำใจดีสู้เสือ"นาย...ค

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 45 นี่เปิดประตูให้ทุกคนง่ายๆ แบบนี้ตลอดเลยหรือ

    คืนนั้นโชติรสค้างคืนกับอธิปเหมือนเคยแอร์โฮสเตสสาวฉลาดมากพอที่จะรับรู้ได้ว่า แม้ร่างกายของเขาจะยังคงทำงานอย่างเร่าร้อนและมอบความสุขให้เธอล้นปรี่ แต่หัวใจของอธิปไม่ได้อยู่ที่เธอเลยเขาแทบไม่จูบเธอเลยด้วยซ้ำโชติรสรู้สึกเจ็บหน่วงในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และคนที่รักตัวเองมากอย่างเธอไม่อยากเห็นตัวเองเป็นแบบนี้แต่ขออีกสักครั้งก่อนเถอะ ขออยู่กับเขาอีกสักคืน อีกสักวัน แล้วเธอค่อยตัดใจ โชติรสบอกตัวเองแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา* * * * *ลลิตราไม่ได้เจอหน้าอธิปมาหลายวันแล้ว วันแรกๆ เธอยังเผลอหวาดระแวง กลัวว่าจู่ๆ เขาก็จะโผล่มาแบบไม่ให้สุุ้มให้เสียงเหมือนครั้งก่อนๆ แต่เมื่อได้ยินว่าอธิปไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้วจริงๆ เธอจึงค่อยสบายใจขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนสลับหนาวเหมือนคนจะเป็นไข้ในแทบทุกครั้งที่ได้สบตากับดวงตาสีฟ้าคู่นั้นลลิตราค่อนข้างแน่ใจว่าดวงตาของอธิปเป็นสีฟ้าสดใสแบบน้ำทะเลในวันไร้คลื่นลม แต่ไม่รู้ทำไมเธอมักได้เห็นมันกลายเป็นสีฟ้าเข้มเหมือนกลางทะเลลึกทึ่พร้อมจะดูดกลืนเธอลงไปได้่เสมอและที่ทำให้เธอตัวสั่นคือสายตาแบบนั้น ราวกับมีไว้เพื่อจ้องมองเธอเพียงผู้เดียวหญิงสาวค

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 44 เขาก็ไม่ควรจะได้อยู่ในบ้านผมอีก

    "เดี๋ยวชล! ผมอธิบายได้!"จะมีสักกี่ประโยคกันเชียวที่คนเรานึกโพล่งออกมาในสถานการณ์แบบนี้"ไม่ต้องอธิบาย! ถ้าอยากอธิบายค่อยไปพูดต่อหน้าอีนี่ บอกมามันอยู่ที่ไหน!""จะบ้าหรือไงคุณชล จะไปหาเขาทำไม...""ปกป้องมันเหรอ!"ชลธิชาที่อดทนอดกลั้นได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีโผเข้าทุบตีกิตติทัศน์ทันที ชายหนุ่มรีบยกมือปัดป้องเป็นพัลวัน เวลาชลธิชาโกรธ เธอน่ากลัวร้อยเท่า แต่เวลาความโกรธนั้นผสมกับความหึงหวง ก็คูณพันเท่าไปเลย"คุณท้องแก่อยู่นะ! ระวังลูกบ้างสิ""จำได้เหมือนกันเหรอว่ามีเมียมีลูกแล้วนะ! แล้วยังจะกล้ากลับไปหามันอีก เลวๆๆ!!!"หญิงสาวกรีดร้องไม่สนว่ากี่โมงกี่ยาม และยิ่งไม่ห่วงใยว่าจะกระทบกระเทือนลูกในครรภ์ กิตติทัศน์เสียอีกยังรู้สึกกลัวว่าเธอจะทำอะไรรุนแรงจนเป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง "ชล! ผมบอกแล้วไงว่าหยุดก่อน! คุยกันก่อน!""ไม่!"ยิ่งห้าม ชลธิชาก็ยิ่งกรีดร้อง กิตติทัศน์กำลังละล้าละลังคิดว่าจะวิ่งหนีออกไปเลยดีหรือไม่ แต่พลันนั้นชลธิชาก็หยุดชะงัก ตาเบิกกว้าง..."ชล..."ชายหนุ่มใจหายวาบ ทำไมจู่ๆ ชลธิชาทำหน้าแบบนั้น เขาเริ่มจะกลัวแล้วนะก่อนที่กิตติทัศน์จะคิดไปเองว่าเมียโดนผีเข้ากะทันหัน ชลธิชาที่หน้าซีดข

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 43 โป๊ะแตก!

    เคยคบหากันมาตั้งหลายปี แต่ลลิตราก็เพิ่งรู้ว่ากิตติทัศน์เป็นคนช่างตื๊อได้ขนาดนี้เขาไม่เพียงหาทางส่งข้อความมาหาเธออยู่เรื่อย ๆ ยังไร้มารยาทถึงขั้นกลับมาที่บ้านรชตเพื่อขอพบเธออีกครั้ง แน่นอนว่าลลิตราไม่ยอมออกไปพบ เธอทั้งไม่สบายใจระคนโมโห จนต้องพิมพ์ไลน์ไปฟ้องเพื่อนในกลุ่มไลน์ที่มีกันอยู่สามคนคือเธอ กันตา และอมาวสีกันตา: เดี๋ยวฉันไปด่ามันให้เองกันตาญาติผู้น้องของกิตติทัศน์พิมพ์ตอบกลับมาพร้อมสติ๊กเกอร์รูปโมโหลูกอม: ไม่ต้องด่าไอ้เกี๊ยว ไม่ต้อง ฉันแค่มาบอกแกเฉยๆ เพราะฉันหงุดหงิดลูกอม: กำลังคิดอยู่ว่าหรือจะยอมไปเจอสักครั้งดี ไปคุยกันให้รู้เรื่องอีกสักที เพราะจะว่าไปตั้งแต่เลิกกันก็ยังไม่เคยคุยกันดีๆ อีกเลยอุ๋ม อมาวสี: แต่ไอ้พี่ติมันแต่งงานไปแล้วนะแก ไปเจอแฟนเก่าที่มีเมียแล้วมันจะดีหรอวะอุ๋ม อมาวสี: งั้นเดี๋ยวฉันสองคนไปด้วยดีไหม ไปคุยให้เด็ดขาดว่าไม่ต้องมายุ่งกันอีก ฉันเดาว่าไอ้พี่ติมันคงอยากจับปลาสองมือ มันคงไม่รู้ว่าแก move on ไปแล้วลลิตราเห็นด้วยกับเพื่อนเธอจึงยอมตอบข้อความของกิตติทัศน์ นัดหมายเขาที่คอมูนิตี้ฮอล์ชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า ตั้งใจจะคุยให้เด็ดขาดว่าไม่ต

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 42 ราแจฮยอน

    ในห้องโดยสารชั้นประหยัด เที่ยวบินจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ชายร่างสูงผิวขาวจัด ผมดำ สวมแว่นตาดำ และสวมสูทเนี้ยบเรียบกริบไม่มีที่ติ ตั้งแต่เข้าขึ้นเครื่องมา โชติรสยังไม่เห็นเขาถอดแว่นกันแดดออกเลย แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะผู้โดยสารบางคนก็มีอาการตาแพ้แสงที่แปลกมากกว่าคือบุคลิกและวิธีการพูดจาของเขาเหมือนผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่เธอคุ้นชินมากกว่า"ขอบใจนะโช ที่มาช่วย"เพื่อนแอร์โฮสเตสด้วยกันเอ่ยกับหญิงสาวเมื่ออยู่ในห้องจัดเตรียมเครื่องดื่ม ปกติโชติรสได้ดูแลลูกค้าในชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาส วันนี้เป็นกรณีพิเศษของเธอ"ไม่เป็นไรหรอก ผู้โดยสารชั้นประหยัดไม่ค่อยรีเควสอะไรหรอก"หญิงสาวเอ่ยขำๆ เพื่อนหัวเราะเบาๆ ด้วย "แต่ผู้ชายคนนั้น ท่าทางหล่อนะ ไม่เห็นถอดแว่นสักที"จู่ๆ เพื่อนก็เอ่ยถึงคนที่โชติรสเพิ่งนึกถึงเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าในบรรดาผู้โดยสารเกือบทั้งลำ เขาก็ยังดูโดดเด่นที่สุด"ถ้าถอดแว่นแล้วอาจจะไม่หล่อก็ได้มั้ง""วุ้ย! ใครจะไปหล่อเท่าคุณอธิปล่ะ จริงปะ"เพื่อนเอ่ยแซว เพราะรู้กันทั่วแล้วว่าโชติรสเป็นคนรักของอธิป รชต ลูกชายเจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทในเครือสยามเจ็ตแอร์ไลน์โชติรสยิ้มนิดๆ พอให้น่าเอ็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status