Home / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 1 ผมไม่มีน้องสาว

Share

พาล Blaming Her Sin
พาล Blaming Her Sin
Author: ลิขิตา Likita

ตอน 1 ผมไม่มีน้องสาว

last update Last Updated: 2025-06-13 02:07:12

คืนนั้นพายุฝนโหมกระหน่ำ

แม้แต่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มั่นคงและแข็งแรง เสียงฝนฟ้าก็ยังคำรามลอดเข้ามาไม่ขาดสาย

ลลิตรา...นอนตัวเย็นเฉียบอยู่บนเตียงกว้าง น้ำตาไหลเปียกหมอน ผ้าปูเตียงสีขาวปรากฏร่องรอยสีเข้ม...

เมื่อสติกลับมา เธอก็รู้สึกอดสูจนไม่กล้าแม้แต่จะสะอื้น

กระทั่งมือร้อนผ่าวของใครคนหนึ่งแตะตัวเธออีกครั้ง ลลิตราหรือลูกอมก็สะดุ้งเบา ๆ

"ไปตายซะ"

เสียงแหบเครือแข็งกร้าว แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามก็ไม่สะทกสะท้าน

เขายังคงดึงร่างบางไปกอดแนบตัว

เธอพยายามออกจากวงแขนแข็งแรงแต่ไร้ผล

หนำซ้ำยิ่งดิ้นรนยิ่งเสียดสี ก็ยิ่งกระตุ้นให้อะไร ๆ ที่เพิ่งสลดกลับลุกโลดขึ้นมาอีก

“ครั้งแรกอาจเป็นเพราะฉัน แต่ครั้งที่สองนี่เธอหาเรื่องเองนะ”

อธิปกระซิบเสียงแตกพร่า

แค่คิดถึงสัมผัสรัดรึงที่แสนอ่อนนุ่มเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาก็ทำให้เขาร้อนวูบขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่นะ หยุดเถอะ พอได้แล้ว”

“จะพออะไร ฉันยังเหลือแรงสะสางกับเธออีกทั้งคืนนั่นแหละ”

“ไม่นะ ฉันไม่...”

หญิงสาวขอร้องเสียงสั่น ส่ายหน้าไปมา น้ำตาและเรือนผมสีน้ำตาลเข้มกระจายแผ่บนหมอน

พยายามทุบถองจิกตีเพื่อไม่ให้ผู้ชายสารเลวคนนี้ทำอะไรได้ตามอำเภอใจอีก แต่อธิปไม่คิดจะหยุดยั้งแม้แต่น้อย

ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีอะไรที่เขาอยากได้แล้วไม่ได้...

และอย่างที่เขาเพิ่งประกาศกร้าวกับเธอไป... เขายังเหลือเรี่ยวแรงและเวลาที่จะ 'สะสาง' กับเธออีกทั้งคืน

ห้าเดือนก่อนหน้า

"อรรถ รชต" ประธานบริหารและเจ้าของสายการบินระดับลักซูรี่ 'ไซแอมเจ็ต(สยามเจ็ต)' ในวัยห้าสิบปลาย ๆ ยังคงหล่อเหลา แข็งแรง และดูหนุ่มกว่าวัย ใบหน้าคมเข้มเหมือนมีสายเลือดแขกเปอร์เซียผสมเชื้อสายตะวันตก และตอนนี้ใบหน้านั้นก็กำลังยิ้มกว้างด้วยความสุขที่ฉายชัดจนคนรอบข้างสัมผัสได้

"ยินดีต้อนรับสู่บ้านรชตนะลินดา หนูลูกอมด้วย... จากนี้ที่นี่คือบ้านของหนูกับแม่แล้วนะ"

อรรถหันไปเอ่ยกับหญิงสาวต่างวัยสองคนที่เดินตามเข้ามา คนหนึ่งอายุใกล้เคียงกับเขาคือห้าสิบกว่า ๆ ส่วนอีกคนนั้นอายุประมาณยี่สิบต้น ๆ หญิงทั้งคู่มีดวงตาหวานซึ้งสีน้ำตาลเข้ม สีเดียวกับเรือนผมหยักศก และจมูกโด่งปลายโค้งมนนิด ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ

มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นแม่ลูกกัน

"บ้านของคุณค่ะอรรถ ฉันกับลูกแค่มาอาศัยอยู่"

ลินดาเอ่ยเบา ๆ อย่างเกรงใจ แต่อรรถส่ายหน้า

"เราจดทะเบียนกันแล้ว ถึงคุณจะไม่ยอมให้ผมจัดงานเลี้ยง แต่เราก็เป็นสามีภรรยากันแล้วอย่างถูกต้อง..." อรรถบอกก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วหันไปประกาศกับเหล่าแม่บ้าน คนสวน คนขับรถ คนงานทุกคนที่ทำงานที่บ้านหลังนั้น

"อย่างที่ฉันเคยบอกไปแล้วว่าคุณลินดาจะมาเป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้ และนี่คือคุณหนูลูกอม ลูกสาวของคุณลินดา เธอก็จะเป็นลูกสาวของฉันอีกคนเหมือนกัน... ฝากดูแลลูกกับเมียของฉันด้วยนะ"

"ค่ะ/ครับ"

มีเสียงตอบรับงึมงำจากเหล่าลูกจ้าง บางสายตาแสดงความสนอกสนใจ บางสายตาก็ก้มหรือแกล้งมองไปทางอื่น แต่ก็มีคนที่ค่อนข้างสูงวัยสองสามคนที่มองมาอย่างตื่นเต้น

ลลิตรารู้ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจเธอ เป็นมารดาของเธอต่างหากที่พวกเขาจดจำได้... ใครก็ตามที่ตอนนี้อายุสี่สิบห้าสิบขึ้นไปล้วนจดจำ "ลินดา เมธานันท์" ได้ทั้งนั้น แม่ของลลิตราเคยเป็นทั้งรองนางสาวไทย เป็นอดีตนางเอกภาพยนตร์ที่ได้ฉายไปทั่วทั้งเอเชีย ครั้งหนึ่งแม่ของเธอเคยมีชื่อเสียงโด่งดังถึงเพียงนั้นนั่นแหละ

"ป้าอ้อม จัดห้องใหม่ให้คุณหนูแล้วใช่ไหม"

'คุณหนู' ที่ว่า อรรถหมายถึงลูกเลี้ยงของเขา แม่บ้านที่ท่าทางแข็งขันที่สุดคนหนึ่งพยักหน้าแล้วรีบเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ

"เรียบร้อยแล้วค่ะ ป้าให้เด็กทำความสะอาด เปลี่ยนเครื่องนอนใหม่หมด ตอนนี้ห้องหอมฟุ้ง รับรองว่าคุณหนูจะต้องชอบแน่ ๆ ค่ะ"

"ขอบคุณนะคะ" ลลิตรารีบเอ่ยกับป้าอ้อม ท่าทางยังไม่คุ้นชินกับการเป็น 'นาย'

อรรถกำลังจะบอกให้แม่บ้านพาเด็กสาวขึ้นไปชมห้องใหม่ ก็มีเสียงรถเร่งเครื่องดังทะยานมาจอดหน้ามุกประตู รถสปอร์ตสีเหลืองสดที่คนขับจงใจเร่งเครื่องให้ดังราวกับอยู่ในสนามแข่ง

ลลิตราดวงตาเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะบังเอิญอะไรขนาดนี้ เธอปราดไปยืนข้างลินดา จับมือคนเป็นแม่ไว้ด้วยท่าทีปกป้องตามสัญชาตญาณ ลินดาเงยหน้ามองลูกสาวที่สูงกว่าตัวเองอย่างแปลกใจ

"มีอะไรหรือลูก"

"รถคันนี้ไงคะที่เฉี่ยวหนูเมื่อสองสามวันก่อน แล้วก็แค่เปิดกระจกรถโยนเงินมาให้"

ลลิตรากัดฟันกระซิบเพราะไม่อยากให้อรรถได้ยิน เธอไม่อยากให้พ่อเลี้ยงมีเรื่องไม่สบายใจตั้งแต่วันแรกที่เธอกับแม่เข้าบ้าน

ลินดาสีหน้าไม่แน่ใจ

"มันจะใช่หรือลูก"

"รถแบบนี้ ในกรุงเทพฯ คงมีไม่กี่คันหรอกค่ะ และถ้าคนขับคือหมอนั่น มันก็คงจะใช่"

หญิงสาวเอ่ย ดวงตาเปล่งประกายเอาเรื่อง แผลถลอกปอกเปิกตามเนื้อตัวยังปรากฎชัดหลายแผล รวมถึงที่บนใบหน้าสวย ๆ ของเธอด้วย

"ถ้าใช่ แม่ขอนะลูกอม"

ลินดารีบกระซิบตอบ เห็นชัดว่ากลัวลูกสาวจะเอาเรื่องใครก็ตามที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถคันนั้น คนเป็นลูกเม้มปากกัดกรามแน่นยอมพยักหน้าแกน ๆ

อรรถกำลังรอคอยเจ้าของรถคันนั้นอยู่เช่นกัน เขาจึงไม่ทันได้สังเกตอากัปกิริยาของสองแม่ลูก สีหน้าของอรรถดีใจ แม้จะแอบหวั่นใจอยู่บ้างนิด ๆ

ใครบางคนดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถ ก่อนพาร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรก้าวยาว ๆ เข้ามาสมทบกับทุกคนที่ยืนอยู่ ใบหน้าขาว ๆ มีแว่นกันแดดสีดำอำพรางไว้ และเมื่อเขาถอดแว่นออกลลิตราก็จดจำได้ทันที

'นี่คุณ ลงจากรถมาเลยนะ ในซอยแคบแค่นี้ขับรถทุเรศ ๆ แบบนี้ได้ยังไง'

ลลิตราที่เนื้อตัวเปรอะเลอะไปด้วยน้ำโคลนกำลังโต้เถียงกับคนบนรถสปอร์ตหรู กระจกฝั่งข้างคนขับลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ก็มากพอให้เธอเห็นว่าคนขับเป็นผู้ชายและคนนั่งข้างเป็นผู้หญิงสาวสวยเสียด้วย

'ลงมาคุยกันเดี๋ยวนี้เลย เรียกประกันของคุณมา แล้วพาพี่เขาไปโรงพยาบาล'

'ไม่เป็นไรพี่ ผมไม่เป็นอะไร'

วินมอเตอร์ไซค์ที่ยังเป็นวัยรุ่นรีบบอก ท่าทางเหมือนเกรงใจรถหรูคันนี้อยู่มาก คงกลัวว่าจะโดนคนรวย ๆ เรียกค่าสีรถสินะ ลลิตราเข้าใจอย่างนั้น และทั้งที่ตัวเองก็เจ็บมีแผลเลือดออก แต่เธอยังหันไปแหวใส่คนบนรถ

'ลงมาสิ ฉันบอกให้ลงมาตกลงกัน'

'อาร์ต เอาไงดี เรียกตำรวจเลยมั้ย'

สาวสวยที่นั่งข้างคนขับสีหน้ายุ่งยากรำคาญใจ แต่ชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยกลับสีหน้าเย็นชาเรียบเฉย ก้มหยิบอะไรบางอย่างก่อนจะชะโงกตัวข้ามสาวสวย แล้วโปรยบางอย่างลงมา

ลลิตรากำลังงุนงงตอนที่รถหรูสีเหลืองสดคันนั้นแล่นจากไป ทิ้งไว้เพียงธนบัตรสีเทาหลายสิบใบที่ลอยเกลื่อนอยู่บนแอ่งน้ำขัง หญิงสาวกำลังนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งขนมให้ลูกค้าตอนที่รถหรูคันนั้นขับเบียดมาอย่างเร็วและแรงจนน้ำที่เอ่อขังหลังฝนตกสาดกระเซ็นใส่มอเตอร์ไซค์ รถเล็กเสียหลักล้มไถล เธอกับวินมอเตอร์ไซค์กลิ้งไปหลายตลบ กล่องขนมไทยที่เธอนั่งทำหลังขดหลังแข็งมาทั้งคืนเละเทะทั้งหมด

แต่คนบนรถนั่นไม่มีแม้แต่คำว่าขอโทษ...

ลลิตราจ้องหน้าเขาเขม็ง เธอพอจะรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เพราะพ่อเลี้ยงของเธอเคยบอกไว้ว่าท่านมีลูกชายสองคน

"กลับมาพอดีเลยนะ สวัสดีคุณน้าลินดาสิ นี่น้าลินดาเขาจะมาอยู่กับเราตั้งแต่วันนี้ไป และนี่น้องลูกอม ลูกสาวของน้าลินดา เขาอายุน้อยกว่าอาร์ตสักสามสี่ปีนี่แหละ..."

อรรถแนะนำสมาชิกใหม่ก่อน และหันมาบอกลินดากับลูกสาวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

"คุณลิน...หนูลูกอม... นี่ลูกชายคนโตของลุงเอง ชื่ออาร์ต หนูเรียกพี่เขาว่าพี่อาร์ตได้เลยนะ"

"ผมไม่มีน้องสาว"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 101 ขีดจำกัดของความอดกลั้น

    "แต่ถ้ารวมหุ้นของพี่ชลกับแม่เข้ามาด้วยกัน...""ก็ยังไม่พออยู่ดี"ชลธิชาบอก สีหน้าเคร่งเครียด เธอไม่ได้หวงหุ้นในส่วนของตัวเองอีกแล้ว นาทีนี้การรักษาอำนาจในบริษัทไว้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด"อาชัชคงคิดดักเอาไว้แล้วทุกทางนั่นแหละ เผลอๆ ที่พ่อล้มไป จะเกี่ยวอะไรกับเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้""คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่ชล"โชติรสพยายามเรียกสติ"อาชัชอาจจะขี้อิจฉาก็จริง แต่คงไม่ถึงกับลงมือทำอะไรแบบนั้น...เอาไว้ฉันขอเวลาคิดสักนิด ว่าเราจะทำยังไงกันต่อไปดี"สองพี่น้องสบตากัน น่าจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่ชลธิชากับโชติรสเพิ่งจะดูเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมาจริงๆ* * * * * "ปิ่นโตค่ะ"เสียงมะนาวไม่มีน้ำดังขึ้นข้างหลัง ลลิตราที่กำลังตัดแต่งไม้แขวนหน้าเรือนจึงหันกลับมาแล้วก็พบว่าน้ำค้างเป็นคนนำอาหารกลางวันมาให้วันนี้ เด็กสาววางเถาลงบนม้านั่งหน้าเรือนอย่างไม่ใส่ใจ"หนูวางตรงนี้นะ""ขอบใจจ้ะ วันนี้น้ำตาลไปไหนล่ะ"ลลิตราก็ทักถามไปอย่างนั้นเอง ใครจะเป็นคนเอาข้าวมาส่งก็ไม่มีปัญหา ให้เธอเดินไปยกสำรับกับข้าวมาเองยังได้เลยถ้าป้าเดือนไม่ห้ามไว้เสียก่อนแต่เหมือนน้ำค้างรอคำถามนั้นอยู่แล้ว มุมปากเด็กสาวยกยิ้มเล็กน้อ

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 100 งูพิษ

    "ว่ายังไงนะ"ชัชวาลถามย้ำแต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ค่อยแปลกใจนักหรอกแม้โชติรสจะไม่ได้แสดงความต้องการจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารบริษัท เธอถึงกับออกไปทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ หญิงสาวอาจนึกขึ้นมาได้เอง หรือมีใครมากระซิบบอก ว่าควรจะต้องปกป้องอำนาจของบิดาไว้ปลายสายที่โทรหาชัชวาลย้ำถึงประโยคที่ตัวเองได้ยินที่โต๊ะอาหารกรรมการบริษัทวัยห้าสิบฟังครู่หนึ่งแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามกลับ"แล้วทำไมนายถึงกล้าเอาเรื่องนี้มาบอกฉัน""ไม่มีอะไรมากไปกว่าผมต้องการเห็นความอยู่รอดของบริษัทครับ ถ้าบริษัทรอดผมก็รอดไปด้วย"ที่แท้คนที่โทรมาคือกิตติทัศน์ เขาพูดอย่างลื่นไหลสมกับที่เคยเป็นพนักงานขายระดับท้อปเซลล์ชัชวาลที่อยู่อีกฟากหนึ่งยิ้มเหยียดเล็กน้อย แต่ก็ยังถามกลับไปอย่างอารมณ์ดี"แล้วนายคิดว่าใครล่ะที่จะพาบริษัทรอด""ถ้าให้เรียนตามตรง เมื่อก่อนก็ต้องเป็นท่านประธานชาญนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้พ่อตาของผมท่านก็ล้มป่วยกะทันหันเสียด้วยไม่ทันได้ฝากฝังอะไรกับใครกว่าจะฟื้นมาเป็นปกติได้ก็คงอีกนานเป็นปีผมเองก็เป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ ในเมื่อพ่อตาของผมอยู่ในสภาพแบบนี้ตอนนี้ผมก็ไม่เห็นใครจะเหมาะสมเท่ากับท่า

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 99 ประชุมบอร์ด

    การล้มป่วยของนายชาญ วรเศรษฐกุลเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยคาดคิด แม้แต่เจ้าตัวเองก็เช่นกัน แม้อายุจะเกือบเข้าเลขหกแล้วแต่ชาญเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ดูแลตัวเองอย่างดีตลอดเวลาทั้งรูปร่างหน้าตาและสุขภาพภายใน ทุกหกเดือนที่ตรวจร่างกายไม่เคยมีสัญญาณความป่วยไข้ใดๆ แม้แต่น้อย เผลอๆ เขายังจะแข็งแรงกว่าวิภาที่เป็นเมียด้วยซ้ำเมื่อเส้นเลือดในหัวใจของเขาแตกและต้องพักฟื้นยาวๆ แบบนี้ ทั้งเมียและลูกก็ถึงกับช็อกกันไปหมด สภาพที่อ่อนแอลงภายในข้ามคืนของสามีทำให้วิภาต้องกลั้นน้ำตาอยู่บ่อยครั้ง หล่อนสงสารผัวหล่อนเหลือเกิน โชคดีที่หล่อนเป็นคนแข็ง จึงตั้งสติได้ไวโชติรสก็เหมือนจะได้เลือดแม่ด้วยเพราะแม้หวาดกลัวแค่ไหนแต่เธอก็ไม่แสดงออกมากนัก...ไม่เหมือนชลธิชา รายนั้นทำท่าเหมือนชาญอาการเพียบหนักไปเสียแล้ว"พ่อฟื้นก็จริง แต่ก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาไม่ใช่หรือไง..."ชลธิชาทุ่มเถียงกับน้องสาวตอนที่อยู่กันตามลำพัง ท่าทางคนเป็นพี่ทั้งกังวล เครียด และใจเสีย อาจเพราะบิดาคือคนที่ตามใจและเหมือนจะเข้าใจเธอทุกอย่างมาตลอด เป็นไปได้ว่าชลธิชาอาจจะผูกพันและรักพ่อมากกว่าที่ทุกคนเห็น"ก็แค่ช่วยพักฟื้น การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีนะพี

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 98 เมื่อโชคชะตากำหนดเอาไว้แบบนี้

    หากเป็นคู่อื่นที่รักกัน ยิ่งหมั้นหมายกันแล้วก็คงจะยิ่งใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น หวานซึ้งมากขึ้น หรือพูดคุยกันมากขึ้นถึงแผนการในอนาคต...อย่างน้อยๆ ก็อนาคตอันใกล้เช่นเรื่องการแต่งงานแต่นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือนที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวออกมากินข้าวด้วยกันอธิปเลือกภัตตาคารในโรงแรมที่หรูหราและเชฟเลื่องชื่อ อย่างน้อยเขาก็อยากให้บรรยากาศช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกันเพราะถึงตอนนี้แล้วต่างก็รู้กันดีว่าที่หมั้นหมายอยู่นั้นเป็นเรื่องของหน้าตาทางสังคมล้วนๆแม้อธิปจะคิดถึงตัวเองเป็นใหญ่แต่เขาก็ไม่ใจร้ายจนเกินไป ชายหนุ่มถามไถ่ถึงเรื่องราวของเธอระหว่างที่ไม่ได้เจอกันเกือบเดือน "โชไม่เป็นอะไรแล้วล่ะค่ะคุณอาร์ต ร่างกายฟื้นตัวดีแล้ว ผู้หญิงเรามีร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่าที่คุณคิดนะคะ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่ได้เป็นเพศแม่แล้วก็คลอดลูกกันได้หลายๆ คนในชั่วชีวิตหนึ่งหรอกค่ะ"โชติรสพูดโดยไม่ได้คิดอะไรมากแต่อธิปสีหน้ารู้สึกผิดเรื่องที่เขาเตรียมจะมาพูดกับเธอจึงยังพูดไม่ออกแต่โชติรสเป็นคนฉลาด เธอฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย"กินข้าวกันก่อนนะคะ แล้วมีอะไรค่อยคุยกันก็ได้ เราไม่ได้รีบไปไหนใช่ไหม"เธอพูดถู

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 97 จะแต่งเมื่อไร

    "มันพูดงั้นหรือไง โอ้โห นิสัย..."ยลดาตาโตขึ้นอีกเมื่อเพื่อนเอ่ยออกมาแบบนั้น เดาว่าอธิปคงพูดจาหมาๆ เหมือนผู้ชายเห็นแก่ตัวทั่วไป 'แน่ใจได้ยังไงว่าใช่ลูกผม' อะไรทำนองนั้นแต่โชติรสส่ายหน้า"ไม่ใช่ คุณอาร์ตไม่ถามเลยสักคำว่าใช่ลูกเขาหรือเปล่า เขาแค่แสดงความรับผิดชอบทั้งที่ไม่ต้องทำก็ได้...""อ้าว! แล้วที่เมื่อกี้แกบอกว่าไม่ใช่ลูก..."ยลดาถามไม่จบเพราะสังหรณ์ใจแปลกๆ ขึ้นมาเสียก่อน จ้องหน้าเพื่อนรักอย่างไม่ค่อยแน่ใจ"ยังไงนะโช...""ฉันบอกว่าลูกในท้องที่แท้งไป ไม่ใช่ลูกคุณอาร์ตหรอก"ยลลดาอ้าปากค้างโชติรสพยักหน้าช้าๆ"ฉันกับคุณอาร์ตไม่เคยไม่ป้องกัน หรือต่อให้พลาด...นับวันดูก็ไม่น่าจะใช่"คนพูดยังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบอาจเพราะครุ่นคิดเรื่องนี้มานานสักพักแล้ว ตรงข้ามกับคนฟังที่พูดอะไรไม่ออก สีหน้าเหมือนเห็นผีในวัดตอนกลางวันแสกๆนิ่งกันไปสักพักยลดาจึงค่อยหาเสียงตัวเองเจอถาม อึกอักถามออกไป"งั้น...เป็นใคร แกบอกฉันได้ไหม""บอกได้ แต่อย่าด่าฉันนะ...""ทำไมฉันต้องด่า หรือว่า...อย่าบอกนะว่าพ่อของเด็กในท้องคือพี่บอม..."ยลดาถามออกไปด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง บอมหรือบพิตรเพื่อนสนิทของอธิป คนที่เธอปิ๊งตั้งแต

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 96 จะคลั่งตายอยู่แล้ว

    "อื้อหือ หอมออกไปถึงข้างนอกเลยค่ะคุณลูกอม"น้ำตาลที่เดินหิ้วปิ่นโตเถาใหญ่มาหาลลิตราที่บ้านฝรั่ง เอ่ยขึ้นเมื่อกลิ่นเทียนอบหอมอบอวลไปทั่วบ้านเล็กๆ"วันนี้ทำอะไรหรือคะ""กลีบลำดวนจ้ะ""งือ หนูกับน้ำค้างชอบกินม้ากมาก""ได้กินแน่นอนจ้า ไม่ต้องห่วง หนนี้ปั้นไว้เยอะเลย""อุ๊ย! หนูไม่ได้ตั้งใจจะขอกินฟรีนะคะคุณลูกอม"น้ำตาลรีบบอก เด็กสาวไม่ได้คิดเรื่องนั้นจริงๆ แต่ลลิตรายิ้มส่ายหน้านิดๆ"ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ก็ตั้งใจจะแบ่งไปในครัวอยู่แล้วล่ะ กลัวแต่ว่าจะบ่นว่ากินแต่ของหวานๆ แล้วจะเบื่อกันเสียก่อน""อุ๊ย! ไม่เบื่อหรอกค่ะ ยิ่งยัยพี่น้ำค้างนะ ทำหน้าบึ้งเหมือนไม่ชอบ แต่หนูเอาอะไรไปก็เห็นกินหมดเกลี้ยงทุกที"น้ำตาลวางปิ่นโตไว้ที่อีกมุมหนึ่ง วันนี้ในครัวใหญ่ทำแกงจืดวุ้นเส้นเต้าหู้หมูสับที่มีเห็ดหอมสดๆ เยอะพอๆ กับหมูเพราะรู้ว่าทั้งคุณลินดาและลลิตราชอบกินเห็ดหอมมากๆน้ำตาลมาส่งข้าวเสร็จก็ขอตัวกลับไปช่วยงานในครัวเพราะวันนี้ลลิตรายังไม่จำเป็นต้องมีลูกมือ ลลิตราเรียงขนมถาดสุดท้ายเข้าตู้อบเสร็จแล้วก็รอเวลาขนมสุก เธอแบ่งส่วนที่ทำเสร็จไปก่อนหน้านั้นแล้วจัดใส่จานแล้วเดินไปที่ห้องทำงานที่เพิ่งจัดใหม่ เห็นแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status