Share

ตอน 12 แม่ชี

last update Last Updated: 2025-06-23 17:13:10

"แม่ชีครับ มีคนมาหาครับ"

เด็กลูกวัดเข้ามาบอกจีรานุชอย่างสุภาพ หญิงวัยห้าสิบต้น ๆ กำลังนั่งพับดอกบัวอยู่กับแม่ชีและคนนุ่งขาวห่มขาวอีกหลายคน คงเป็นคนที่มาปฏิบัติธรรมเหมือนกัน

วัดแห่งนี้ค่อนข้างคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว ไม่ได้เงียบเหงาอย่างที่อธิปนึกภาพไว้

กระนั้น เมื่อเขาเห็นหน้าจีรานุชที่ลุกเดินออกมาหา ก็ใจหาย...

จีรานุชดวงตาเบิกกว้างอย่างยินดี

"อาร์ต!"

ชายหนุ่มยกมือไหว้เก้ ๆ กัง ๆ 

"น้า...แม่ชี..."

"เรียกน้านุชเหมือนเดิมก็ได้จ้ะ"

จีรานุชบอกยิ้ม ๆ ถึงเธอจะโกนผมแต่ก็ถือศีลแปดข้อเหมือนเนกขัมมนารีทั่วไป จะเรียกว่าอะไรก็ไม่เป็นปัญหาหรอก

แม่ชีจีรานุชพาอธิปไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังอุโบสถ ที่พลุกพล่านน้อยกว่าบริเวณอื่น ๆ ของวัด

"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"

"สามเดือนแล้วครับ"

เขาหมายถึงกลับจากอังกฤษ เพราะแม้จะเรียนจบแล้วอธิปก็ยังแทบไม่กลับไทย เลือกจะใช้ชีวิตสุขสำราญอยู่ต่างประเทศ

"พ่อเขาคงดีใจนะ ที่ลูกชายคนโตกลับมาอยู่ใกล้ ๆ"

"น้านุช...สบายดีไหมครับ"

"ก็ดีจ้ะ สงบใจดี"

แม้จะพูดเช่นนั้น แต่อธิปก็ทันสังเกตเห็นแววหม่นหมองบางอย่างพาดผ่านดวงตาของจีรานุช

มันทำให้เขาคิดว่า ผู้หญิงตรงหน้าแค่กำลังพยายามจะมีความสุข พยายามจะสงบ เพื่อดิ้นรนหนีความเจ็บปวดบางอย่าง...

เขาจะไม่ถาม เพราะรู้ดีว่าความเจ็บปวดนั้นคงไม่พ้นเรื่องที่พ่อของเขาแต่งงานใหม่ กับยายรองนางสาวไทยนั่น!

"ได้เจอโอมบ้างไหมอาร์ต"

จู่ ๆ จีรานุชก็ถามถึงลูกชาย แววตาเปล่งประกายคาดหวังขึ้นมา

"เจอครับ ผมแวะไปชวนมันมาแต่มันบอกไม่ว่าง"

"อย่างนั้นหรือ"

แววตาจีรานุชดูเศร้าไปอีก...อธิปรู้สึกแปลบในใจ

"ถ้าน้าคิดถึงไอ้เจ้าโอม คราวหน้าอาร์ตจะบังคับพามันมาด้วยให้ได้ ต่อให้ต้องโปะยาสลบแล้วอุ้มมาก็จะทำ"

ท่าทีขึงขังของเขาทำให้จีรานุชหัวเราะออกมาได้เบา ๆ

"อย่างนั้นเลยหรือ อาร์ตยังใจดีกับน้าจริง ๆ ขอบใจนะจ๊ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าโอมเขาอยากมาเขาก็คงจะมาเอง อาร์ตไม่ต้องไปบังคับน้องหรอกนะลูก เดี๋ยวอาร์ตจะหงุดหงิดเปล่า ๆ"

"น้านุชครับ... น้านุชอยากกลับกรุงเทพฯ มั้ย ไปอยู่กับผมก็ได้"

"ขอบใจมากนะลูก...น้าขอบใจมาก"

จีรานุชเอ่ยเสียงเบา แต่ซึ้งใจจนน้ำตาคลอ

เธอแทบไม่ได้เลี้ยงเขามาด้วยซ้ำ เพราะคุณอรรถส่งอธิปไปเรียนโรงเรียนประจำที่เมืองนอกตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่น ปีนึงจะได้กลับบ้านสักครั้ง

แต่แปลกที่เด็กชายอธิป ไม่เคยแสดงอาการต่อต้านหรือพยศต่อจีรานุช เขาค่อนข้างติดเธอมากด้วยซ้ำ กลับไทยหนไหนก็จะเรียกหาแต่น้านุช ๆ ทุกครั้งไป

ไม่เหมือนกับพ่อของเขา อธิปมักพยศและก่อเรื่องให้คนเป็นพ่อต้องบินตามไปแก้ไขปัญหาให้หลายครั้ง บ่อยครั้งเขาอรรถก็ส่งทนายไปแทน

'เจ้าอาร์ตมันไม่อยากเห็นหน้าผม เห็นหน้าพ่อมันทีไร ก็ทำหน้าเหมือนกำลังอมยาพิษ'

อรรถเคยบอกจีรานุชแบบนั้น

'ผมก็คิดถึงลูกนะ แต่ถ้าลูกไม่อยากเห็นหน้า ผมก็ไม่อยากเอาหน้าไปทำให้มันหงุดหงิด'

'ลูกที่ไหนจะไม่คิดถึงพ่อล่ะคะ คุณอรรถน่าจะคิดมากไปเองนะ'

'ไม่หรอกคุณนุช ผมว่าลูกคงกำลังโตเป็นหนุ่ม อยากมีอิสระ ถ้าผมไปหาเขาบ่อย ๆ คงคิดว่าผมไปจับผิด... อยู่ห่าง ๆ กันแบบนี้ก็ดีแล้ว'

อรรถยืนยันกับเธอ จีรานุชไม่ค่อยเห็นด้วยนัก แต่ก็ไม่มีอะไรจะไปโต้แย้งเขา อรรถเป็นคนฉลาด เก่ง ถ้าเขาเชื่อเช่นนั้น เธอก็ไม่มีอะไรจะไปแก้ไขความเชื่อได้

จีรานุชนึกถึงอดีตสามี และอดถามถึงเขาไม่ได้

"คุณพ่อสบายดีไหมอาร์ต"

"พ่อน่ะหรือครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ค่อยได้เจอเขา"

"โถ่ แล้วอาร์ตไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อเขาหรือไง"

"อาร์ตอยู่คอนโดฮะ เจ้าโอมก็เหมือนกัน อยู่หอ ไม่มีใครอยากอยู่บ้านสักคน"

"น่าเศร้านะ บ้านออกจะใหญ่โตแบบนั้น...ไปอยู่บ้านกับพ่อเถอะนะอาร์ต น้ารู้ว่าพ่อเขาก็อยากให้อาร์ตอยู่บ้าน ถึงเขาจะทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลา แต่เวลาที่เขากลับบ้่าน เขาก็อยากเจอหน้าลูกนะรู้ไหม"

ชายหนุ่มเกือบพูดออกไปด้วยอารมณ์พาลแล้วว่าพ่อเขาก็มีเมียใหม่แล้ว จะมาสนใจอะไรกับลูกชายที่เป็นไม้เบื้อไม้เมากัน...

แต่เขาไม่ได้พูด เพราะยังมีสติยั้งไว้ทันและเขาก็นึกขอบคุณตัวเอง เพราะไม่อย่างนั้นแววตาของจีรานุชคงจะเศร้ายิ่งกว่านี้

ไม่คิดเลยว่า จีรานุชกลับเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมา

"คุณลินดากับลูกสาว...เขามาอยู่ที่บ้านแล้วใช่ไหม"

อธิปนิ่งไป ไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร แต่สุดท้ายก็แค่พยักหน้า

จีรานุชยิ้มแต่แววตาแห้งผาก เธอเหม่อมองออกไปทางอื่นแล้วพูดต่อ

"ทำดีกับเธอนะอาร์ต ดูแลเธอกับลูกสาว...นึกเสียว่าทำแทนน้าก็ได้"

"ทำไมผมต้องดูแลพวกนั้นด้วยล่ะครับ ถ้าไม่มีสองแม่ลูกนั่น น้านุชก็อาจไม่ต้องหนีมาบวช"

"ไม่ใช่นะอาร์ต ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณลินดาหรือลูกสาวเขาเลย... มันเป็นการตัดสินใจของน้าเอง"

จีรานุชรีบบอก เหมือนกลัวเขาจะรู้สึกไม่ดีกับภรรยาใหม่ของพ่อ

ดวงตาของจีรานุชมีน้ำตาคลอหน่วย...

"สัญญากับน้าได้ไหมว่าจะดีกับเขา จะไม่โกรธไม่เกลียดเขา"

อธิปไม่ตอบ ยิ่งเห็นจีรานุชพยายามจะให้อภัยลินดา เขาก็ยิ่งหงุดหงิด

"ผมเข้าใจน้านุชนะครับ เข้าใจทุกอย่าง..."

"ไม่จริงหรอก อาร์ตไม่เข้าใจน้า เพราะถ้าอาร์ตเข้าใจ..."

จีรานุชพูดต่อไม่ออก น้ำตาร่วงหล่นเบา ๆ เธอหันหน้าหนีไปอีกทาง  หยิบชายผ้าพาดไหล่สีขาวมาซับน้ำตา 

น่าสงสาร...อธิปใจไหวไปด้วย

และเขายิ่งสงสารจีรานุชมากเท่าไหร่ 

เขาก็ยิ่งเกลียดลินดากับลูกสาวของเธอมากเท่านั้น

"ผมขอโทษ..."

"จะขอโทษอะไรน้าล่ะ น้าดีใจมากนะที่ได้เจออาร์ตอีก นึกว่าจะลืมน้าไปแล้ว"

"ใครจะลืมน้านุชได้ล่ะครับ"

อธิปยิ้ม ถ้าไม่เพราะจีรานุชอยู่ในรูปลักษณ์ของนักบวช เขาก็คงจะสวมกอดนางไปแล้ว

"น้าคงยังไม่กลับไปง่าย ๆ ยังไงฝากโอมด้วยนะอาร์ต...โอมเขารักอาร์ตนะ เขาบอกน้าเสมอว่าเขารักพี่ชายคนเดียวคนนี้ของเขามาก"

"ครับน้านุช ผมจะไม่ทิ้งน้องครับ"

ชายหนุ่มรับปากอย่างจริงใจ ถึงโอมจะทำปั้นปึ่งตามประสาวัยรุ่น แต่เขาก็ไม่มีวันรู้สึกไม่ดีกับน้องชาย

ก่อนลากลับ จีรานุชเอื้อมมือที่ผอมลงไปมากมาจับมืออธิปแล้วบีบไว้ เงยหน้าชายหนุ่มตัวสูงใหญ่อย่างปลาบปลื้มระคนอาทร... 

"ขอบใจมากที่มาหาน้า... น้าดีใจมากนะที่ได้เจออาร์ตอีก"

"ผมก็ดีใจครับ แล้วผมจะแวะมาหาอีก คราวหน้าจะลากไอ้โอมมาด้วยให้ได้แน่นอน"

ชายหนุ่มรับปาก

* * * * *

ตอนแรกอธิปตั้งใจจะกลับกรุงเทพฯ เย็นวันนั้นเลยเพราะเพื่อนสนิทอย่างบพิตรตามมาด้วยไม่ได้ แต่เขาก็เปลี่ยนใจเพราะได้แอร์โฮสเตสสาวสวยหุ่นนางแบบอย่างโชติรสมาอยู่เป็นเพื่อนแทน

ครั้งนี้เขาไม่ได้ตะกรุมตะกรามอย่างครั้งแรกที่เจอกัน ชายหนุ่มเปิดห้องพักที่โรงแรมหรูใกล้แม่น้ำปิงและจองโต๊ะดินเนอร์ให้เขากับเธอสองคน

เมื่อได้พิจารณากันใกล้ ๆ อย่างไม่ต้องรีบร้อน อธิปก็รู้สึกว่าโชติรสสวยและมีเสน่ห์ซุกซนที่ทำให้ไม่น่าเบื่อ

"มีอะไรหรือคะ มองหน้าโชทำไม"

โชติรสถามเขิน ๆ แต่แววตาพราวระยิบระยับ

"แค่อยากมองให้ชัด เพราะครั้งก่อนแทบไม่มีเวลาได้มอง...หน้าเลย"

ชายหนุ่มตอบเรียบ ๆ แต่ก็ทำให้หญิงสาวหน้าแดงซ่านมาได้ทันที

โชติรสกระแอม ก่อนชวนคุย

"คุณอาร์ตจะพักเชียงใหม่กี่วันหรือคะ"

"พรุ่งนี้ก็คงกลับแล้ว ถ้ามีตั๋วว่าง"

หญิงสาวหัวเราะเสียงใส

"ลูกชายแชร์แมนทั้งคนนะคะ จะไม่มีที่ว่างให้เชียวหรือ"

อธิปหมุนไวน์ในมือเบา ๆ พ่อของเขาพูดเสมอว่าสักวัน เขาในฐานะลูกชายคนโต จะต้องเข้าไปบริหารสยามเจ็ตต่อจากพ่อ ไม่ใช่แค่สายการบินนี้แต่หมายถึงทุกกิจการภายใต้บริษัทที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ

แต่วันนี้เขากลับทำในสิ่งที่อาจจะมีผลต่อการบริหารในอนาคต นั่นคือการหลับนอนกับพนักงานของตัวเอง

ชายหนุ่มคิดแล้วก็เผลอหัวเราะออกมา

โชติรสเลิกคิ้วเป็นคำถาม

และอธิปก็ไม่คิดจะปิดบัง เขาบอกเธอตามตรง

"พ่อคงไม่ยกบริษัทให้ผมแน่ ๆ ถ้ารู้ว่าผม...มีอะไรกับแอร์โฮสเตสสายการบินตัวเอง"

โชติรสหน้าเจื่อนไป

นั่นสิ สำหรับอธิป เธอก็คงเป็นแค่ลูกจ้าง แค่ความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวก็อาจส่งผลต่อธุรกิจของเขาได้

"ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณไม่พูด โชไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้ ทางที่ดีเราจบกันตรงนี้เลยก็น่าจะดีกว่า ขอตัวนะคะ"

โชติรสไม่ได้คิดจะเล่นละคร เธอรู้สึกเจ็บแปลบในใจขึ้นมาจริง ๆ 

แต่อธิปชะโงกตัวมาแตะแขนเธอไว้

"คุณ...โช..."

หญิงสาวชะงัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยชื่อเธอ แค่เรียกชื่อน้ำเสียงของเขาก็ยังเซ็กซี่จนเธอใจสั่น

นี่มันผิดกฎวันไนต์สแตนด์ชัด ๆ!

"ช่างมันสิ ผมไม่แคร์นะ หรือคุณแคร์"

"โชก็...ไม่แคร์ค่ะ"

โชติรสหย่อนตัวนั่งลงตามเดิม เธอรู้ว่ากฎของคู่นอน ต้องไม่เอาใจลงไปเล่น แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้ว...

เธอชอบและอยากได้ผู้ชายคนนี้เหลือเกิน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 112 ระบม

    "ไม่! ฉันคบกับพี่ต้นแล้ว นายจะมาทำแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว!" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด "ใครอีกล่ะ คราวนี้เธอให้ใครมาเล่นละครอีก" "ครั้งนี้ไม่ใช่ คราวก่อนฉันยอมรับว่าฉันโกหกนาย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว" "งั้นเหรอ งั้นคราวนี้มันเป็นใครล่ะ" เขาถามอย่างอดทน ทั้งที่อยากกดเธอลงบนเตียงเต็มทีแล้ว ลลิตราขยุ้มคอเสื้อแน่นโดยอัตโนมัติ ราวกับว่าแค่สายตาของเขาก็จะทำให้เสื้อผ้าเธอหลุดรุ่ยล่อนจ้อนได้ "เขาเป็นรุ่นพี่ของฉันสมัยเรียน ฉันเคยชอบเขามาก่อนแต่ตอนนั้นเราเด็กเกินไปเลยไม่ได้คบกัน ฉันเพิ่งกลับไปเจอพี่ต้นที่ตราด...ใช่ฉันเพิ่งไปเที่ยวทะเลที่ตราดมา โรงแรมนั่นเป็นของพี่ต้น และฉันกับเขาก็...ตกลงเป็นแฟนกัน" อธิปหัวเราะพรืดทั้งที่แววตาไม่ขำด้วยสักนิด ก็เธอเล่นบอกเขาเหมือนท่องเตรียมมาแล้ว "เลิกตั้งแง่ใส่กันเถอะนะลูกอม เราทั้งคู่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกยังไงกัน โชติรสไม่ใช่ปัญหาเลย โชก็อยากถอนหมั้นพอ ๆ กับฉันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้เพราะ..." อธิปหยุดไปเล็กน้อย ถอนหายใจ เขาสัญญากับโชติรสว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ "เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ ที่ฉันกับโชยังไม่ถอนหมั้นเพราะมัน

  • พาล Blaming Her Sin    ตอน 111 ดื้อ

    "อาร์ต เมื่อไหร่แม่จะได้รู้จักคู่หมั้นของลูกล่ะ"ออเดรย์ถามขึ้นมาระหว่างที่มือกำลังหั่นสเต๊ก ลลิตราทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามนั้น กินอาหารของเธอไปตามปกติแม้จะรู้สึกว่าสายตาของอธิปพุ่งตรงมาที่ตัวเองก็ตามอธิปแทบไม่ชะงักเลยเหมือนกันตอนที่ตอบ"ไม่จำเป็นหรอก เพราะอีกไม่นานผมกับเขาก็จะถอนหมั้นกัน"คราวนี้นายอรรถเงยหน้ามองทันที แม้แต่ลินดาก็ยังอดหันมาด้วยไม่ได้"หมายความว่ายังไง อาร์ต""ตามนั้นแหละครับ"อธิปตอบ ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นว่าพ่อยังคงจ้องเขาอยู่ เขาจึงขยายความ"ยังไม่เป็นทางการหรอกนะครับพ่อ และยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมกับโช เราตกลงกันแล้วว่าถ้าผ่านเรื่องยุ่ง ๆ ไปสักระยะ เราค่อยถอนหมั้นกันเงียบ ๆ""เหตุผล?""เหตุผลก็คือ ผมกับโชไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก เราแค่หมั้นกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างคลึ่คลาย เราก็จะคืนอิสรภาพให้กัน""ตอนลูกมาขอให้พ่อไปสู่ขอเขา ลูกไม่ได้พูดแบบนี้นี่"อรรถอดตำหนิไม่ได้ อาจเพราะเขาเห็นว่าบนโต๊ะนี้ก็มีแต่คนกันเองจึงเผลอพูดออกมา"ผมทราบ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว...เอาเป็นว่าผมกับโชเราคิดตรงกัน ผมไม่ได้ทำร้ายใจเธอ ถ้าพ่อคิดว่าผม

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 110 ดินเนอร์

    ลลิตรากลับจากตราดพร้อมของฝากเกินสองมือจะถือได้ไหว เมื่อรถแท็กซี่มาจอด คมสันต์ต้องวิ่งลงมาช่วยหิ้วด้วยหลายถุง เธอยอมรับกับตัวเองว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่สามารถจับจ่ายอะไรได้มือเติบแบบนี้"ฉันซื้อขนมของกินมาฝาก เดี๋ยวคมสันต์แบ่งไปได้เลยนะจ๊ะ"ลลิตราบอก รปภ. หนุ่มรุ่นน้อง คมสันต์ตะเบ๊ะแข็งขัน"ครับผม ขอบคุณครับ""แม่อยู่บ้านใช่ไหมจ๊ะ"เธอถามทั้งที่ก็รู้ว่าลินดาคงไม่ได้มีธุระที่ไหน แม่ของลลิตราไม่ใช่คนชอบเที่ยว แม้อรรถจะคะยั้นคะยอให้ออกไปใช้เงินบ้างแต่ลินดาก็พอใจจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่บ้าน และเดี๋ยวนี้หล่อนกลับมาถักไหมพรมอีกครั้งอย่างที่จิตแพทย์เคยแนะนำ เวลาเดียวที่ลินดาจะออกไปห้างสรรพสินค้าก็คือตอนที่จะไปซื้อไหมพรมเซ็ตใหม่ ๆ นั่นแหละ"ครับผม คุณผู้ชายก็อยู่ครับ""คุณอรรถอยู่บ้านงั้นหรือ"ลลิตราแปลกใจเพราะนี่ไม่ใช่วันหยุด ปกติอรรถยังไม่กลับจากบริษัทเลยไม่ใช่หรือ คมสันต์รีบอธิบายต่อ"ตอนแรกมีแขกมาหาคุณผู้หญิงครับ แล้วสักพักคุณผู้ชายก็รีบกลับมา""แขก? มาหาแม่เหรอ""ครับ มาหาคุณลินดาครับ คุณผู้ชายโทรบอกผมเองว่าให้เข้าไปได้"คมสันต์รีบบอกเพราะกลัวจะโดนตำหนิว่าปล่อยคนแปลกหน้าเข้าบ้านโดยพลการลลิต

  • พาล Blaming Her Sin   แวะทักทายระหว่างทาง

    เดินทางมาถึงตอนที่ 109 แล้ว สำหรับเรื่องพาล แต่ตลอดร้อยกว่าตอนมานี้ ไรต์ยังไม่เคยได้อ่านคอมเมนต์นักอ่านเลยนะเชื่อปะ เป็นไปได้ว่าไม่มีใครอ่าน ๕๕ และยอดวิวก็คงเป็นของไรต์เองนี่แหละที่คลิกเข้ามาอ่านนิยายตัวเองไรต์จะพยายามเขียนให้จบ ถึงมีคนอ่านแค่คนเดียวก็ตาม (แต่อาจช้าหน่อยเพราะต้องไปหาค่าน้ำค่าไฟด้วย) ถ้าได้เจอกันในภายภาคหน้า ฝากนิยายของไรต์ด้วยเช่นเคยนะคะ ขอบคุณค่ะ แวมไพร์ปีกดำ(ลีขิตา).

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 109 แขกวีไอพี

    "พี่ต้น!""ลูกอมจริง ๆ ด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลย"ตระการยิ้มกว้าง ดวงตาสีดำส่องประกายสดใสอย่างคนที่ดีใจและคาดไม่ถึง ลลิตราจำเขาได้แทบจะทันทีเพราะแม้ผู้ชายที่เธอเห็นตรงหน้าตอนนี้จะไม่ใช่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงใส่แว่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่แววตาและรอยยิ้มแบบนี้ก็มีแค่ตระการคนเดียว"โอ้โห กี่ปีแล้วนี่ที่ไม่ได้เจอกัน พี่แทบจะจำลูกอมไม่ได้เลย""ก็ตั้งแต่พี่ต้นจบม.หกไงคะ แล้วก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย"ลลิตราตอบยิ้ม ๆ ตระการคือรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมฯ เคยติวหนังสือให้เธอและกลุ่มเพื่อนจนกระทั่งเขาเรียนจบออกไป"ลูกอมมาเที่ยวเหรอ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน""มาเที่ยวค่ะ กับอุ๋มไง พี่ต้นจำอุ๋มได้ไหม อมาวสี..."ดวงตาของตระการกว้างขึ้นอีกรอบ พยักหน้าหงึก ๆ ดูเหมือนความทรงจำของชายหนุ่มเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนขาสั้น ยังแจ่มชัดดีทุกรายละเอียด จำได้กระทั่งชื่อเล่นและความแก่นแก้วของแต่ละคนที่เป็นไปตามวัย"แต่อุ๋มของีบก่อนเพราะเพิ่งมาถึงเมื่อเที่ยงนี้เองค่ะ นี่ลูกอมโชคดีจังเลยที่ลงมาเดินเล่น ไม่งั้นคงไม่ได้เจอพี่ต้น พี่ต้นก็มาเที่ยวหรือเปล่าคะ แล้วจะกลับวันไหน พักที่นี่ใช่ไหม...""ก็ไม่เชิงหรอกครับ บ้านพี่ห่าง

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 108 พักร้อน

    แม้อาหารมื้อนั้นจะผ่านไปด้วยดีตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมายี่สิบกว่าปี แต่อธิปกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก อรรถก็คงไม่ต่างกัน สองพ่อลูกกลับมาบ้านแล้วก็แยกกันเข้าห้องส่วนตัวโดยไม่คุยอะไรกันอีกเลยเกี่ยวกับผู้หญิงที่เกี่ยวพันกับคนทั้งคู่คนนั้นแต่อธิปอยากลงไปเจอลลิตรา เขาส่งข้อความไปหาเธอว่าขอลงไปหาเธอได้ไหม เจอกันที่สนามหญ้าก็ได้ถ้าเธอไม่สะดวกให้เขาเข้าไปหาในบ้าน- ฉันไม่ได้อยู่บ้าน ออกมาอยู่บ้านเพื่อน -หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับมาอธิปห้ามใจตัวเองไม่ไหว ต้องพิมพ์บอกไปว่า- คิดถึง -- ไปบอกคู่หมั้นนายเถอะ -เธอพิมพ์ตอบมารวดเร็วเช่นกันเพราะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง จึงไม่รู้ว่าเธอประชด หรือจริงจัง อธิปกดโทรหาเธอแทนที่จะส่งเป็นข้อความกลับไป"โทรมาทำไม ฉันไม่สะดวกคุยนะ"หญิงสาวกดรับสายทันทีและเปิดฉากพูดก่อนโดยไม่รอให้เขาทัก"ก็อยากได้ยินเสียงไง""อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันขอร้อง มันไม่เหมาะสม""ระหว่างฉันกับเธอยังมีอะไรไม่เหมาะสมอีกหรือ"เขาตั้งใจจะยั่วหยอกเธอเล่น ๆ แต่ลลิตราตอบกลับมาน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"พอทีเถอะคุณอธิป ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว""แบบไหน""ก็แบบที่..."เขาได้ยินเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status