Beranda / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 8 เริ่มต้นใหม่

Share

ตอน 8 เริ่มต้นใหม่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-18 23:26:40

ตะวันที่อยู่ตรงกับศีรษะเริ่มจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตก

ตอนที่แอร์โฮสเตสสาวแห่งสายการบินไซแอมเจ็ตถูกปลุก

ด้วยเสียงเครื่องดูดฝุ่นจากด้านนอกที่ดังเข้ามาในห้องนอน

โชติรสค่อย ๆ ปรือตาตื่น

เนื้อตัวปวดระบมโดยเฉพาะอวัยวะท่อนล่าง

แต่มันก็คุ้มค่ากับเรี่ยวแรงทุกหยาดหยดที่เสียไป

ถ้าเลือกได้ เธอก็อยากจะทำมันกับเขาอีกเรื่อย ๆ

"คุณอาร์ต..."

โชติรสครางเรียกชื่อเขาอย่างงัวเงีย แต่ไร้เสียงตอบ

เตียงนอนไร้เงาของเจ้าของห้อง มีเพียงเธอที่นอนเปลือยเปล่าอยู่คนเดียว

"คุณอาร์ตคะ!"

เสียงเครื่องดูดฝุ่นหยุดฉับพลัน ไม่ถึงนาทีประตูห้องนอนก็ค่อย ๆ เปิดออก

คนที่มาเปิดไม่ใช่อธิป

แต่เป็นหญิงกลางคนแต่งตัวเรียบร้อย หน้าตาใจดี ส่งยิ้มแหย ๆ มาให้โชติรส

"เมื่อกี้เรียกหาคุณอาร์ตหรือคะ"

"เอ่อ ใช่ ป้าเป็นใคร เป็นคนใช้ที่นี่เหรอ"

"เปล่าคะ คุณอาร์ตแค่จ้างฉันมาทำความสะอาดรายวัน"

"อ๋อ แล้วคุณอาร์ตอยู่ที่ไหนล่ะ" โชติถาม

คว้าผ้าห่มนวมมาปิดหน้าอกพลางยันตัวลุกขึ้นนั่ง

"คุณอาร์ตออกไปตอนก่อนเที่ยงแล้วค่ะ บอกให้ฉันอยู่รอจนกว่าคุณจะตื่น...

คุณเค้าบอกให้คุณสั่งอาหารได้เลย ที่นี่มีรูมเซอร์วิสค่ะ..."

คนทำความสะอาดตอบก่อนจะกลับไปทำความสะอาดต่อ ปิดประตูห้องนอนไว้ตามเดิม

ที่จริงมันก็เป็นเรื่องปกติของวันไนต์สแตนด์

หลายครั้งเป็นเธอเองด้วยซ้ำที่เมื่อตื่นขึ้นมา ก็แค่ลุกมาล้างตัว สวมเสื้อผ้า

แล้วเดินออกจากโรงแรมโดยไม่คิดแม้แต่จะหันไปปลุกคู่นอนด้วยซ้ำไป

แต่ว่าครั้งนี้ โชติรสใจฟีบไปเล็กน้อยที่อธิปไม่อยู่รอเจอหน้าเธอตอนตื่น

แอร์โฮสเตสสาวรู้กติกาดีพอที่จะไม่คาดหวังว่าเขาจะขอเบอร์ติดต่อ...

แต่ก็ยังอดเสียดายไม่ได้...

ผู้ชายรูปหล่อ หุ่นดี ลีลาเผ็ชชอย่างกับเด็ดพริกมาร้อยสวนแบบนี้

ใครได้กินสักครั้งแล้วไม่อยากกินอีก ก็คงจะตายด้านเกินไปเสียแล้ว

* * * * * 

รถพอร์ชสีเหลืองสดของอธิปแล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาในตอนบ่าย

ลลิตรากำลังยืนคุยอะไรบางอย่างอยู่กับคนขับรถที่ชื่อน้าดาว

เมื่อเธอเห็นรถของเขาแล่นมาก็หน้าเปลี่ยนสี และรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที

"เมื่อกี้คุยอะไรกันน่ะน้า"

อธิปถามนายดาวเมื่อเขาลงจากรถ มองเห็นลลิตราเดินออกไปจะถึงประตูรั้วแล้ว

บ้านนี้ไม่มีใครเดินเท้า

ความกว้างขวางของอาณาจักรบ้านรชตทำให้พ่อของเขาสั่งรถกอล์ฟมาใช้ถึงสองคัน

แล้วทำไมยัยเพิ้งนั่นถึงเดินดุ่มไปเองแบบนั้น?

"ผมจะไปส่งคุณหนูครับ คุณท่านสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณหนูกับคุณผู้หญิงจะไปไหน ให้พวกผมไปส่งทุกที่..."

"อ้าว! แล้วทำไมปล่อยให้เดินไป"

เขาพยักเพยิด เหมือนไม่อยากจะเอ่ยชื่อสมาชิกใหม่ของบ้าน

น้าดาวยิ้มแหย ๆ

"แกบอกว่าจะไปเองครับ ผมบอกจะไปส่งแกก็ดื้อ...คงยังไม่ชินน่ะครับ"

"หรือไม่ก็แค่อวดดี อยากสร้างภาพว่าเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว"

อธิปเอ่ยอย่างดูแคลน น้าดาวส่ายหน้าอย่างพาซื่อ

"ผมว่าไม่น่าจะใช่อย่างนั้นหรอกนะครับ

จำได้ว่าตอนคุณนุชมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ

เธอก็ไม่อยากให้ผมขับรถให้เหมือนกัน

เธอว่าเธอเกรงใจ"

น้าดาวหลุดเอ่ยถึงคุณผู้หญิงคนก่อนออกมาแล้วก็เพิ่งรู้สึกตัว

เมื่อหันกลับมาเห็นสายตาเย็นชาของชายหนุ่มตัวสูงอย่างกับเสาไฟก้มมองอยู่

คนขับรถวัยกลางคนก็หัวเราะแหะ ๆ

เอ่ยขอตัวแล้วรีบเดินหนีไปทางเรือนทำครัวที่อยู่ด้านหลัง

อธิปมองไปทิศที่ลลิตราเดินไปอีกครั้งอย่างไร้อารมณ์

ผู้หญิง...ร้อยทั้งร้อยคงคิดว่ทำตัวหยิ่งผยอง เย็นชา แล้วเขาจะสนใจ

ยัยลูกแม่เลี้ยงนี่ก็เหมือนกัน คงคิดว่าจะเรียกร้องความสนใจได้ด้วยท่าทีแบบนั้น

อธิปเผลอยิ้มเหยียด... ตอนที่เขาจูบยั่ยนั่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสัมผัสของริมฝีปากเธอมันเป็นอย่างไร

แค่เป็นปฏิกิริยาแรกที่เขาคิดได้ในการจะลงโทษผู้หญิงปากดีสักคน

* * * * *

ลลิตราเร่งฝีเท้าเดินออกมาจนพ้นรั้วบ้าน

เจอรถแท็กซี่ที่กดแอพฯ เรียกมารับพอดี

นึกโล่งใจที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับไอ้ผู้ชายชั้นต่ำป่าเถื่อนอย่างลูกชายของลุงอรรถ

เวลานี้อารมณ์เธอยิ่งกำลังเปราะบาง

คนที่ประกาศชัดว่าจะรังแกเธอทุกเวลาได้แบบนั้น หญิงสาวไม่คิดอยากเอาตัวเข้าใกล้เลยแม้แต่นิดเดียว

เพื่อนทั้งสองของลลิตรา นัดเธอที่ห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด

เมื่อลลิตราไปถึง ก็เห็นกันตานั่งอยู่กับอมาวสี

"มาแล้ว"

อมาวสีทักสั้น ๆ แต่กันตาที่ตาแดงเรื่อ หน้าจ๋อย ได้แต่มองอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำ

เป็นลลิตราเองที่กลับเป็นฝ่ายหัวเราะ

"อะไรยัยเกี๊ยว ทำไมทำหน้าแบบนั้น"

"ฮือ โฮ ลูกอม แก...ฉันขอโทษ"

กันตาสะอื้นออกมาทันที โชคดียังกลั้นเสียงไว้ได้ไม่อย่างนั้นคนคงหันมามองทั้งร้านกาแฟ

ลลิตราตกใจแท้จริง ๆ หันมามองอมาวสีสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม 

ดวงตากลมเหมือนลูกแก้วที่อยู่ใต้เลนส์แว่นของอมาวสีกลอกไปมา ทั้งขบขันทั้งรำคาญ

"มันขอโทษเรื่องไอ้พี่...นั่นแหละ มันบอกว่ามันไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ"

"ฮือ ใช่ใช่" กันตาพยักหน้าหงึก ๆ น้ำตายังเอ่อคลอตามประสาคนอ่อนไหวง่าย

คงเพราะกิตติทัศน์เป็นลูกพี่ลูกน้องของกันตา เขาเข้ามารู้จักและคบหาเป็นคนรักกับเพื่อนได้ก็เพราะเธอเป็นสื่อกลาง

เมื่อวันหนึ่ง จู่ ๆ ญาติของเธอดันลุกมาประกาศว่าจะแต่งงานกับคนอื่นกะทันหันแบบนี้ กันตาตั้งตัวไม่ทัน และพาลคิดไปว่ามิตรภาพระหว่างเธอกับลลิตราคงจะมีปัญหาไปด้วยแน่ ๆ

"โถ่ ไอ้บ้า ใครจะไปว่าอะไรแกล่ะไอ้เกี๊ยว มันไม่เกี่ยวกับแกหรอก..."

"ฮือ...แก...แกจะยังคบฉันอยู่จริง ๆ ใช่ไหม"

"ก็เออสิ ไม่งั้นฉันจะมาหาเหรอ ไม่เอา อย่าแย่งซีนฉันสิ วันนี้คนที่ควรจะได้รับการเลี้ยงปลอบใจ คือฉันไม่ใช่เหรอ แกมาตัดหน้าแย่งซีนกันแบบนี้ ฉันก็อดได้เป็นนางเอกเอ็มวีเลย"

กันตาค่อยยิ้มออก แลบลิ้นอย่างขัดเขิน

อมาวสีหันมาจ้องหน้าลลิตราเพื่อความแน่ใจ

"แล้วแกเป็นไงบ้าง"

"ก็ร้องไห้ทั้งคืน" ลลิตราบอกตรง ๆ ก่อนยิ้ม

"แต่จบแล้ว จะไม่กลับไปข้องเกี่ยวอะไรกันอีกทั้งนั้น"

"ไอ้พี่ติมันก็เลวจริง ๆ นะ...ตอนโทรคุยกับป้า พ่อแม่ฉันยังด่ามันไม่หยุดเลย มีอย่างที่ไหน นอกใจแฟน แถมยังจะแต่งงานเฉย..."

กันตาเผลอพูดออกมา เมื่อนึกขึ้นได้ก็ยิ้มเจื่อนอีกรอบ

เธอเกือบจะบอกไปแล้วว่า คนที่ด่าคือพ่อเธอที่เป็นน้าของกิตติทัศน์ก็จริง แต่ป้า...พี่สาวของพ่อ ที่เป็นแม่แท้ ๆ ของกิตติทัศน์ ออกอาการปกป้องลูกชาย...

'มันยังไม่ได้แต่งกัน ไอ้ติมันก็มีสิทธิ์เลือกคนที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ'

ป้าของกันตาแก้ตัวให้ลูกชายแบบนี้

กันตาคิดว่าไม่พูดต่อดีกว่า เพราะคงเป็นการซ้ำเติมให้เสียใจมากขึ้นไปอีก

"ช่างเหอะ เพราะถึงยังไงเขาก็ตัดสินใจไปแล้ว... ต่อไปนี้ไม่ต้องพูดเรื่องพี่ติอีกแล้วนะ ฉันเริ่มจะแสลงหูแล้วล่ะ"

"ได้สิ ได้ ๆ งั้นคุยเรื่องบ้านใหม่แกดีกว่า"

กันตาเปลี่ยนโหมดได้ทันที ดวงตาแดงก่ำเมื่อครู่กลับมาสดใสเหมือนตากวางได้อีกครั้ง อมาวสีก็สีหน้าตื่นเต้นตามไปด้วย

"ใช่ ๆ แกไม่ยอมให้ฉันไปช่วยขนของ เรียบร้อยดีใช่ไหม"

"ดีมาก ดีสุด ๆ ของของฉันกับแม่มีนิดเดียว แถมพ่อเลี้ยงยังจ้างคนมาขนของให้อีก แทบไม่ได้ทำอะไรเลย"

"ดีจังเลยนะ อย่างนี้แกก็ได้เป็นลูกสาวเศรษฐีเต็มตัวแล้วล่ะสิ"

อมาวสีหยอก

มีแค่สองคนนี้เท่านั้นที่รู้ว่าพ่อเลี้ยงของลลิตรา...เป็นใคร

ช่วงที่อรรถเทียวมาดูแลเธอกับแม่อยู่เป็นปี ๆ ก็เป็นอมาวสีที่คอยเช็คนู่นเช็คนี่ให้ เพราะกลัวว่าผู้ชายสูงวัยหน้าเข้มคนนั้นจะมาหลอกลลิตรากับแม่

ถึงตอนนี้แล้วก็คงจะเบาใจได้แล้วว่า พ่อเลี้ยงของลลิตรา จริงใจและเป็นตัวจริง

"ลูกสาวอะไรกันล่ะ ฉันก็แค่ลูกเลี้ยง...ขนาดแค่จะนัดแกสองคน ฉันยังต้องออกมาข้างนอกเลย ฉันไม่กล้านัดแกไปที่นั่นด้วยซ้ำ กลัวเขาว่าไปหมด"

"จนป่านนี้แล้ว ไว้ใจคุณลุงอรรถเถอะว่าเขาไม่ได้รังเกียจ และเต็มใจจะให้แกเป็นครอบครัวของเขาจริง ๆ"

อมาวสีบอก กันตาก็พยักหน้าตามหงึก ๆ

"แล้วบ้านของจริงมันใหญ่จริง ๆ ใช่ไหม สวยเหมือนในรูปหรือเปล่า"

ที่กันตาถามแบบนี้เพราะพวกเธอเคย 'เสิร์ช' หาข้อมูลเกี่ยวกับอรรถ รชต มาเกือบหมดแล้ว

แม้ไม่ถึงกับเปิดเผยชีวิตส่วนตัวทั้งหมด แต่ภาพถ่ายส่วนหนึ่งของ 'บ้านรชต' ที่ใหญ่โตอย่างกับโรงแรมและรีสอร์ตขนาดย่อม ก็ทำให้เพื่อนสาวทั้งสองตื่นเต้นจนอ้อนขอไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง

"อืม สวยจริง สวย...เวอร์วังอลังการ"

ลลิตราตอบแบบไม่ได้ประชด แต่สีหน้ากลับไม่ได้ตื่นเต้นเท่าที่เพื่อนคิดไว้

"งั้น...ฉันสองคนไปเที่ยวบ้านแกได้ไหมอะ คุณอรรถเขาห้ามหรือเปล่า"

"ไม่หรอก เขาใจดีมาก..." ผิดกับลูกชายเขาลิบลับ

ถ้าพ่อเลี้ยงของเธอเป็นเทพบุตรขี่ม้าขาวมาเพื่อช่วยแม่

ไอ้ลูกชายคนโตของเขามันก็มารผจญคอยขัดแข้งขัดขาไม่ให้คนอื่นมีความสุข เหมือนเปรตหรือสัมภเวสีชัด ๆ

แค่นึกขึ้นมา ลลิตราก็รู้สึกยะเยือกจนตัวสั่นไม่ได้ตั้งใจ

"เอาไว้...สักวันเราค่อยนัดกันที่บ้านลุงอรรถก็แล้วกันนะ เอาไว้ขอฉันปรับตัวอีกสักนิด"

หญิงสาวตอบเลี่ยง ๆ เพื่อนทั้งสองพยักหน้าอย่างเข้าใจ สำคัญที่สุดคือลลิตรากับลินดามีความสุขในบ้านหลังนั้นก็น่าจะพอแล้ว

* * * * *

ขากลับ ลลิตราแวะซื้อข้าวของวัตถุดิบสำหรับทำขนมมาเต็มสองมือ และเรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งถึงหน้าบ้านรชตอีกตามเคย

"บ้านนี่ผมผ่านหลายครั้งเลย ข้างในสวยไหมครับ"

แท็กซี่ถามซื่อ ๆ 

"ก็สวยค่ะ"

"น้องอยู่ที่นี่หรือครับ"

แท็กซี่ถามอีก

"เปล่าหรอกค่ะ หนูมาส่งของ เพิ่งเคยมาครั้งแรกเมื่อวานนี้เอง นี่แม่บ้านเขาสั่งอุปกรณ์ทำขนมน่ะค่ะ"

"อ๋อครับ"

แท็กซี่ช่างคุยยิ้มแล้วช่วยหญิงสาวหิ้วถุงแป้ง แผงไข่ และอะไรอีกมากมายลงจากรถ เมื่อรับเงินค่าโดยสารพร้อมทิปจากลลิตราก็ขับรถออกไป

รปภ. หนุ่มที่ประจำอยู่หน้าป้อม เข้ามาช่วยลลิตราและกดวิทยุสื่อสารเรียกให้คนด้านในขับรถกอล์ฟมารับที่หน้าประตูด้วย

'นั่นปะไร อย่างกับมาอยู่รีสอร์ต'

ลลิตรานึกอย่างขบขัน

รปภ.ตะเบ๊ะให้หญิงสาวอย่างขันแข็ง

"สวัสดีครับ! คุณหนู!"

"เอิ่ม...สวัสดีค่ะ"

ลลิตรายิ้มเจื่อน ๆ เธอคงต้องรีบทำตัวให้ชินกับสรรพนามนี้ได้แล้วสินะ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 51 วันเกิด

    พายุยังไม่เคลื่อนผ่าน พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนยังจะตกหนักอีกหลายวัน แต่ในความมืดมนของท้องฟ้านั้น ครอบครัววรเศรษฐกุลกลับสว่างไสวด้วยข่าวดีเพราะชลธิชาให้กำเนิดบุตรสาวคนแรกอย่างปลอดภัยในโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง"เป็นตาคนแล้วนะ แถมยังได้หลานสาวด้วย เลิกเจ้าชู้ได้แล้ว"วิภาเอ่ยลอยๆ ชาญหัวเราะเบาๆ ไม่ตอบว่ากระไร อาจเพราะมัวแต่ปลื้มอกปลื้มใจหลานตาคนแรกนี้คนนี้กิตติทัศน์ก็ดีใจไม่น้อย ความรู้สึกของการเป็นพ่อคนที่เขาเพิ่งเคยได้สัมผัส ทว่าเพราะลูกสาวของเขาเกิดในตระกูลมหาเศรษฐี แทบจะมีพี่เลี้ยงคอยรับใช้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาดูโลก ไหนจะแม่ยายอย่างวิภาที่คอยประกบทั้งลูกและหลานไม่ห่าง จนเหมือนทุกคนลืมเว้นพื้นที่ให้กิตติทัศน์ได้แสดงบทบาทความเป็นพ่อและสามี...ชายหนุ่มออกมาหากาแฟดื่มแก้เซ็ง ชลธิชาเพิ่งให้นมลูกและหลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย อีกหลายชั่วโมงกว่าเธอจะตื่น แม่ยายเขาไล่ให้เขากลับไปอาบน้ำอาบท่าที่บ้านทั้งที่เขาก็อยากอยู่ใกล้ๆ ยัยหนูลูกสาวของเขาเหมือนกัน..."เฮ้อ..."เซลล์หนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว อดคิดไม่ได้ว่าในเมื่อชลธิชาก็ไม่จำเป็นต้องมีเขาอยู่ข้างๆ เธอก็ได้...ถ้าในอนาคตจะหย

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 50 สัปดาห์ฮันนีมูน

    ณ ประเทศสิงคโปร์โชติรสสวมแว่นตาดำปิดบังเกือบครึ่งของใบหน้า เดินมาที่ห้องพักชั้นบนของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านมารีน่าเบย์ แม้ค่อนข้างแน่ใจว่าจะไม่เจอคนรู้จักที่นี่ แต่เธอก็อดใจเต้นแรงไม่ได้อยู่ดี...เมื่อกดกริ่งเรียกคนด้านใน อึดใจเดียวประตูก็แง้มออก หญิงสาวก้าวเข้าไปเพียงสองก้าว ประตูก็ปิดตามหลังและโดยไม่ทันตั้งตัวใครที่รออยู่ก็ผลักเธอเข้ากับผนังห้องแล้วระดมจูบอย่างหิวกระหายโชติรสชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที แต่วินาทีต่อมาเธอก็ยกแขนโอบรอบคอเขาแล้วจูบตอบอย่างร้อนแรงพอกัน...ก็ทั้งคู่นัดกันเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง...จังหวะหนึ่งที่บานกระจกในห้องสะท้อนเงาสองร่าง เผยให้เห็นว่าผู้ชายที่กำลังโรมรันพันตูอยู่กับโชติรสนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เขาคือซีอีโอคนใหม่ของสยามเจ็ต...ภพธร...* * * * "พ่อจะไม่อยู่ตั้งสามอาทิตย์ แกแวะมาดูบ้านบ้างสิอาร์ต"อรรถเอ่ยกับลูกชายคนโตทางโทรศัพท์ เกือบสองสัปดาห์แล้วที่ไม่เห็นหน้าอธิปเลย อีกไม่กี่วันเขาจะเดินทางไปยุโรปกับลินดา จึงโทรไปบอกลูกชายให้รับทราบไว้"ให้ป้าอ้อมดูแลไปสิฮะ หรือไม่ก็...ลูกสาวของพ่อไง หรือว่ายัยลูกอมก็ไปด้วย""เปล่า ลูกอมไม่ได้ไป พ่อกับน้าลินดาไปก

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 49 หลงกล

    "โอม! กูมึงชอบมึงไงเข้าใจปะ กูชอบมึงตั้งแต่วันรับน้องแล้ว กูไม่สนแล้วว่ามึงจะคิดยังไงเพราะกูแค่อยากบอกว่ากูชอบมึง กูโคตรชอบมึงเลย จบนะ!"พูดจบก็ลุกพรวดจะเดินหนีไป แต่โอมคว้าแขนไว้ก่อน และเขาหัวเราะออกมาจริงๆ เป็นเสียงหัวเราะแบบที่น้ำแข็งจำไม่ได้เลยว่าเคยเห็นเขาหัวเราะแบบนี้เธอหันไปมองเขาอย่างโกรธๆ แต่สีหน้าของโอมตอนนี้กลับยิ้มเต็มหน้าและดวงตา"นี่ถึงกับพูดมึงกูเลยเหรอ นี่ชอบจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย""เออ! ชอบ! และกูก็จะไม่พูดเพราะๆ กับมึงแล้ว กูเหนื่อย กูขี้เกียจเก๊ก""ก็ไม่เห็นต้องเก๊กเลย น่าจะพูดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว""พูดแบบไหน?""ก็แบบที่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็..."โอมปล่อยมือ กระแอมแล้วมองไปทางอื่น เหมือนหูเขาจะแดงขึ้นมาเล็กน้อย"แล้วก็อะไร?""แล้วก็...น่าจะบอกออกมาตั้งนานแล้วปะ""อ้าว...แล้วแกไม่รู้รึไง?""รู้ ใครจะไม่รู้วะ แต่แค่อยากได้ยินปะ"โอมพูดออกไปแล้วก็กระแอมอีกรอบ คราวนี้ไม่ใช่แค่หูที่แดงแต่ลามมาที่หน้าและคอ เขาเหลือบมองหน้าน้ำแข็งนิดๆ น้ำแข็งอ้าปากเหมือนจะพูดแต่พูดไม่ออก หน้าตายังงงมากกว่าจะเขิน "เออ ความรู้สึกช้าแบบนี้นี่ไง ถึงได้ไม่รู้อะไรสักที"พูดจบเขาก็เดินกลับเข้าโรงยิม

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 48 กูชอบมึง

    พนักงานสยามเจ็ตตื่นเต้นกับว่าที่ซีอีโอคนใหม่มาก เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เลยว่าใครจะมานั่งเก้าอี้นี้แทนอรรถ...หนึ่งในคนที่ตื่นเต้นและแปลกใจที่สุดคงไม่พ้นโชติรสและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เคยได้ให้บริการ "คุณเจย์" ภพธร มาก่อนโดยที่ตอนนั้น"เจอกันอีกแล้วนะครับ"บรรดาแอร์โฮสเตสสาวยิ้มปลื้มที่ซีอีโอคนใหม่จดจำพวกเธอได้"เสียดายเนาะที่มีเมียแล้ว" อีกคนพูดเพราะไปสืบมาแล้วว่าภพธรหรือคุณเจย์แต่งงานแล้ว แม้ไม่รู้ว่าใครคือผู้หญิงหรือผุ้ชายผู้โชคดีคนนั้นก็ตามโชติรสก็เผลอนึกเสียดายเหมือนกัน ทั้งที่เธอไม่มีเหตุผลให้คิดแบบนั้นเลย แต่ไม่ว่าจะรู้สึกกับซีอีโอคนใหม่อย่างไร หญิงสาวก็เก็บมันไว้ในใจอย่างแนบเนียน* * * * *"โอม ช่วงนี้ได้เจอพี่อาร์ตเขาบ้างหรือเปล่า"อรรถถามลูกชายระหว่างกินอาหารเช้าด้วยกันก่อนที่โอมจะไปมหาวิทยาลัย เด็กหนุ่มส่ายหน้า"ไม่เลยครับ""อืม เห็นช่วงก่อนกลับมากินข้าวที่บ้านบ่อยๆ จู่ๆ ก็หายไปอีก...คงแล้วแต่อารมณ์เขาล่ะมั้ง"อรรถถามเองตอบเอง เขาเข้าใจว่าลูกชายคนโตเป็นคนอารมณ์แปรปรวน นึกจะมาจะไปก็คงเอาแน่เอานอนไม่ได้...นี่ถ้าฝากฝังให้ดูแลบริษัทจริงๆ จะทำปั่นป่วนไหมนะ..."โอม...

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 47 รักษาสัญญา

    "นายก็ไม่ได้ดีไปกว่าแฟนเก่าฉันหรอก เห็นแก่ตัวเหมือนกัน คิดเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน และก็...ตอแยฉันไม่เลิกเหมือนกัน""ฉันไม่ได้..."อธิปนึกอยากจะเถียง แต่จำนนด้วยหลักฐาน เขายอมปล่อยมือออกจากเอวบางอย่างเสียดายแต่ยังไม่ยอมก้าวห่างไปไหน "ฉันไม่เหมือนแฟนเก่าเธอ เพราะฉันยังไม่มีพันธะอะไรกับใคร""คุณโชติรสได้ยินแบบนี้เธอคงยิ้มดีใจสินะ""ฉันกับโช เราไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น"อธิปแก้ตัว แล้วเขาก็รู้สึกรังเกียจตัวเองขึ้นมานิดๆ ทันทียังไม่นับว่าตอนนี้ลลิตราก็มองมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน...เขามันทุเรศจริงๆ"ช่างฉันเถอะ ฉันมาคุยเรื่องของเรา...อย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยรู้สึกกับฉันเลยสักครั้ง..."อธิปยังดื้อดึง ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากคนตรงหน้ารวดเร็วจนเธอผงะหนีแทบไม่ทัน"เธอรู้สึก ฉันดูออก... ไม่ต้องอายหรอกเพราะฉันก็รู้สึก ฉันแทบบ้าที่รู้ว่าเธออยู่ใกล้แค่นี้แต่ทำอะไรไม่ได้...และฉันไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป เธอ...ลูกอม...แฟนเก่าเธอมันแต่งงานไปแล้ว แต่ฉันยังว่าง ฉันให้เธอได้ทุกอย่างขอแค่เธอ..."อธิปละไว้ในฐานที่เข้าใจ ลลิตราแค่นหัวเราะ "นายนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ""แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะ เยส หรือ โน""แป

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 46 แววตาที่ว่างเปล่า

    "ก็ฉันไม่คิดว่าจะเป็นนายนี่!"ลลิตราเถียง มือยกจับคอเสื้อโดยอัตโนมัติ นึกโล่งอกที่ยังสวมเสื้อชั้นใน และเสื้อนอนผ้าฝ้ายก็ไม่ได้บางจนหมิ่นเหม่"ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วเธอเปิดประตูให้ใคร""เปิดให้น้องโอมมั้ง!" หญิงสาวประชด แต่อธิปกลับสีหน้าจริงจัง"ไม่ต้องมากวน! เธอกำลังรอใคร? ถึงได้รีบเปิดประตูแบบไม่คิดอย่างนั้น""เอ๊ะ! มันเรื่องของฉันนะ นายออกไปได้แล้ว มีอะไรไปคุยกับพรุ่งนี้""แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอตอนนี้ เดี๋ยวนี้""ฉันไม่สะดวก"ลลิตราตอบเสียงแข็ง ตามองออกไปนอกประตู หวังให้น้ำตาลหรือแม้แต่น้ำค้างก็ได้ เดินถือถาดอาหารเข้ามาขัดจังหวะอีกเช่นเคยแต่ท่าทางของเธอทำให้อธิปไม่พอใจเพราะคิดว่าเธอกำลังรอใครอยู่จริงๆ เขายื่นแขนที่ยาวกว่าและมีกำลังมากกว่าปิดประตูใส่หน้าเธอดังโครม แถมยังกดล็อกเสร็จสรรพ"นายอธิป! อย่ามาทำตัวแบบนี้กับฉันนะ!""ทำตัวแบบไหน"อธิปเลิกคิ้ว สีหน้ายียวน แต่แววตาที่เข้มขึ้นบ่งบอกว่าเขาไม่อยู่ในอารมณ์ยั่วล้อมีอะไรบางอย่างในท่าทีนั้นที่ทำให้ลลิตรารู้สึกขึ้นมาว่าวันนี้เขาเอาจริง!ถ้อยคำแรงๆ ที่ตั้งใจจะพูดในตอนแรกจึงถูกกลืนกลับไปทันที หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ทำใจดีสู้เสือ"นาย...ค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status