ในเวลาต่อมา
เวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง กิ่งไม้แห้งอยู่เต็มอ้อมแขนของหญิงสาว ร่างระหงก้าวเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางกลับไปยังจุดเดิมที่เธอตกลงมา ด้วยกลัวว่าหากทีมค้นหาลงมาช่วยจะสามารถพบได้อย่างง่ายดายไม่ต้องเดินหาแต่อย่างใด แต่แล้วในเวลานี้เธอรู้สึกว่ายิ่งเดินทุกอย่างเริ่มแปรเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ไม่ได้เดินไปไหนไกลจากจุดเดิมแม้แต่น้อย ก่อนจะแหงนหน้ามองเบื้องบนเมื่อความมืดเข้ามาเยือน
“จะมืดแล้วทำไงดีล่ะฉัน จะไปปักหลักอยู่ตรงไหนทำไมยิ่งเดินเหมือนยิ่งห่างไกลจากจุดเดิมด้วยนะ แปลกจัง” หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะเหลือบไปเห็นชะง่อนผาที่ยื่นออกมาพอที่จะเข้าไปหลบได้ ใบหน้างามคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจออกมาทันที เมื่อเห็นสถานที่พอจะใช้หลบและหลับนอนได้ในคืนนี้ “เข้าไปหลบในนี้ก่อนแล้วกัน!” หญิงสาวกล่าวพร้อมเดินตรงไปเบื้องหน้าทันที เพียงไม่นานกองไฟก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ ทั่วบริเวณมืดสนิทไม่สามารถมองเห็นแม้แต่เงาของต้นไม้ด้านนอกแม้แต่น้อย แสงสว่างจากกองไฟสะท้อนเงาของเฉินวาวาในชุดเจ้าสาวทาบทับลงบนผนังหินผา ในขณะที่เจ้าตัวนั่งสัปหงกอยู่ที่พื้นด้วยความเหนื่อย “โฮกกกก!!!” เสียงคำรามของสัตว์ป่าขนาดใหญ่ดังก้องท่ามกลางความเงียบงัน “เฮือกก!!!” หญิงสาวสะดุ้งจนสุดตัว ครั้นได้ยินเสียงสัตว์ป่าดังกึกก้องไปทั่ว “สะ...เสียง...เสือ...กะ...ก้นเหวแบบนี้มีเสือด้วยเหรอ..ยะ..แย่แล้ว” หญิงสาวรีบลุกพรวดพราดจากพื้นทันที “จะไปทางไหนดี! มืดแบบนี้วิ่งหนีออกไปมีแต่ตายกับตาย ไม่โดนเสือกัดตายก็คงเดินหลงหาทางออกไม่ได้” หญิงสาวพูดพลางรีบหันกลับไปคว้ากระเป๋าเป้มากอดไว้แนบอก ร่างงามเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดนิ่งอยู่กับที่เมื่อถอยมาจนสุดทาง “ฟิ้วววว!!!” สายลมปะทะเข้าที่ร่างออกมาจากช่องโหว่ตรงหินผา “ฮือออ” หญิงสาวส่งเสียงอยู่ในลำคอขึ้นมาทันทีเมื่อถูกสายลมพาดผ่านกาย ใบหน้างามหันกลับไปมองตรงช่องโหว่ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบวิ่งไปคว้าเศษไม้ที่กำลังลุกไหม้อยู่ในกองไฟมาส่องดูภายในช่องโหว่ดังกล่าว แสงสว่างจากไม้ที่ลุกติดไฟทำให้เธอมองเห็นพื้นที่โล่งๆ หลังหินผานี้ได้ หญิงสาวไม่รอช้ารีบเร้นกายเข้าไปภายในช่องโหว่ดังกล่าว ร่างงามระหงของหญิงสาวสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้แต่เป้ของเธอไม่สามารถเข้าไปได้ จนต้องถอดออกจากหลังวางไว้ตรงทางเข้าก่อนจะรีบเร้นกายหลบเข้าไปภายในทันทีเมื่อเสียงคำรามของสัตว์ป่าเริ่มเข้ามาใกล้ เฉินวาวาสามารถเข้ามาหลบหลังผนังถ้ำได้เป็นผลสำเร็จเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะทันทีที่ร่างของเธอหายเข้าไปในช่องหลืบดังกล่าว เสือดำขนาดใหญ่จำนวนสองตัวค่อยๆ เดินตรงมายังกองไฟที่ลุกโชน ดวงตาแดงก่ำก่อนจะเดินดมกลิ่นไปทั่วบริเวณท่ามกลางสายตาของหญิงสาวที่แอบมองลอดผ่านทางช่องหลืบดังกล่าว “อย่าบอกนะว่าที่ตรงนี้เป็นรังของเจ้าเสือดำสองตัวนี้!” หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจ แต่แล้วความคิดของเธอก็ดันเป็นจริงเมื่อเสือดำสองตัว ค่อยๆ ทรุดลงนั่งกับพื้นตรงหน้ากองไฟ ราวกับว่าแสงสว่างดังกล่าวให้ไออุ่นมิให้พวกมันต้องเหน็บหนาวในเวลากลางคืน และกระเป๋าเป้ของเธอที่ตกอยู่ตรงทางเข้าช่องหลืบดังกล่าวถูกเสือดำตัวเขื่องคาบออกมาจากปากทางเข้า ก่อนจะพยายามเปิดกระเป๋าเป้ของเธอ “ปัดโธ่เอ๋ย... พวกแกอย่าทำลายข้าวของในกระเป๋าเป้ของฉันนะขอร้องละ!” หญิงสาวรำพึงรำพันเมื่อเห็นเจ้าเสือดำพยายามที่จะเปิดกระเป๋าเป้ของเธอให้ได้ และดูเหมือนว่าความพยายามของมันจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะกระเป๋าเป้ดังกล่าวมิได้เปิดง่ายๆ ดั่งใจคิดเพราะมีซิปรูดปิดปากกระเป๋าเอาไว้ ก่อนจะถูกอุ้งเท้าของมันเหยียบเอาไว้แทนและลงนั่งทับกระเป๋าเป้ของหญิงสาวประหนึ่งเบาะรองกายของมันก็ว่าได้ “เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น “นึกว่าจะโดนรื้อซะแล้ว ดีนะที่พวกมันรามือ” วาวารำพึงออกมาเบาๆ หญิงสาวค่อยๆ หันกลับมาสำรวจพื้นที่ภายในเพื่อหาที่นั่งเหมาะๆ ไฟแช็กที่ถูกเก็บไว้ในสาบเสื้อของตัวชุดถูกล้วงออกมาทันทีพร้อมถูกจุดขึ้นเพื่อให้เกิดแสงสว่างภายใน “ข้อดีของชุดโบราณก็คือสามารถเก็บข้าวของไว้ในอกเสื้อเยอะเลยคริคริ” วาวาพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ มือเรียวตบลงบนหน้าอกที่ยังมีข้าวของบางอย่างยัดอยู่ในสาบเสื้อด้านใน ก่อนจะชูมือขึ้นสูงพร้อมส่องไฟแช็กให้แสงสว่างสาดกระจายไปทั่ว ดวงตากลมโตเห็นด้านหลังของช่องหลืบเป็นพื้นที่กว้างเลยทีเดียว มองไปแห่งหนใดมีแต่ความว่างเปล่า ก่อนจะเห็นกลุ่มควันขาวบางๆ ลอยอยู่ตรงเบื้องหน้าพร้อมทางเดินเล็กๆ เพียงพอสำหรับตัวคนเดินเข้าไปได้ “จะเข้าไปดีไหมนะ ทำไมควันขาวพวกนี้ถึงมีไอร้อนด้วย” หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจ สองเท้าที่กำลังก้าวเดินตรงไปข้างหน้าหยุดชะงักทันทีก่อนจะถอยหลังกลับ เมื่อคิดใคร่ครวญว่าไม่ควรที่จะเดินตรงไปเบื้องหน้าในสถานที่ไม่รู้จักแม้แต่น้อย “ข้างหน้าจะมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ เกิดไปเจอสัตว์มีพิษ! หรือสัตว์ประหลาดจะทำยังไง หรือไม่ก็เจองูตัวใหญ่นอนเฝ้าหรือมังกรเฝ้าถ้ำเหมือนในหนังที่เคยดูแล้วฉันจะทำยังไง” หญิงสาวยืนครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย “ปัญญาอ่อนแล้ววาวา คิดออกมาได้!ยุคสมัยนี้มีที่ไหนเรื่องแบบนั้น... ประสาทแล้วคิดอะไรไปทั่ว” หญิงสาวก่นด่าตัวเองก่อนจะนึกถึงความฝันของเธอขึ้นมาทันที ใบหน้าสวยส่ายไปมาทันใดครั้นคิดถึงความฝันที่เห็นทุกค่ำคืน พร้อมยกไฟแช็กขึ้นสูงพลางหมุนกายไปโดยรอบเพื่อสำรวจให้แน่ใจ “ยิ่งความฝันบ้าบอแบบนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันกำลังเจออยู่ในตอนนี้แตกต่างจากที่เห็นในฝันอย่างสิ้นเชิง ไม่มีตรงไหนที่เหมือนกันสักอย่าง เมื่อเห็นแบบนี้เธอจะกลัวทำไมอีกเฉินวาวา! ในโลกนี้คนอย่างเธอไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว!” หญิงสาวพูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะตัดสินใจทันใด “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเดินไปสำรวจข้างในดีกว่า แต่เอ... หรือจะเข้าไปเลยแต่ตอนนี้ทั้งมืดทั้งหนาว ไม่ดีมั้งที่จะรีบร้อนเข้าไป” หญิงสาวมิวายชั่งใจอีกครา ทันใดนั้นเอง “โฮกกกก!!!” เสียงคำรามของเสือดำสองตัวดังอยู่ด้านนอก พร้อมอุ้งมือของมันลอดผ่านทางช่องหลืบเข้ามาทันทีดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมาโดยพลันครั้นเห็นเช่นนั้น สองขารีบวิ่งตรงไปเส้นทางข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อซ่อนเร้นกายให้พ้นจากสัตว์ป่าสองตัว ท่ามกลางเสียงคำรามลั่นดังไล่หลังอย่างไม่ขาดสาย
เฉินวาวากึ่งเดินกึ่งวิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิตมาตามทางเดินเล็กๆ ที่ทอดยาวไปถึงแก่นกลางของเทือกเขา ท่ามกลางเสียงคำรามของเสือดำสองตัวส่งเสียงดังกึกก้องได้ยินอยู่ตลอดเวลา ประหนึ่งเร่งเร้าให้หญิงสาวต้องเร่งฝีเท้าให้ก้าวเดินตรงไปข้างในลึกเข้าไปทุกทีและลึกเข้าไปทุกขณะ “พรึ่บบ!!!” ร่างงามวิ่งทะลุเส้นเขตแดนที่ขวางกั้นระหว่างภพมนุษย์จนทะลุเข้าสู่ดินแดนของผู้ครอบครองอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนเร้นกายอย่างสงบนิ่งมานานนับหลายสหัสวรรษ! ร่างงามมาหยุดยืนอยู่ภายในโถงขนาดใหญ่ ตามผนังถ้ำมีหินงอกหินย้อยมากมาย เลื่อมสลับสีเป็นประกายส่องแสงเจ็ดสี ส่องประกายแวววาวระยิบ มุมตรงผนังถ้ำมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่เป็นน้ำพุร้อน ส่งควันพวยพุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมปากทางเข้าจึงมีไอบางๆ และมีความร้อนปะปนอยู่นั่นเอง “โห่สวยจัง มีน้ำพุร้อนด้วย” วาวาเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ หญิงสาวรีบวิ่งตรงไปที่บ่อน้ำพุร้อนทันทีพลางทรุดกายลงนั่งตรงขอบบ่อ รีบวางมือทั้งสองข้างเพื่ออังความร้อนเพื่อให้ได้ไออุ่นเพราะอากาศหนาวเหน็บอย่างยิ่งยวด “หายหนาวไปเยอะเลย ดีจังที่ในนี้มีน้ำพุร้อนแบบนี้ เสียดายลงไปแช่ไม่ได้ หาไม่แล้วคงโดนลวกเป็นไข่ต้มแน่ๆ เลย แต่เอ...” หญิงสาวหยุดพูดได้เพียงแค่นั้น เธอหันกายพลางสำรวจไปทั่วบริเวณ “ทำไมในนี้สว่างเหมือนตอนกลางวันเลย แต่ทำไมด้านนอกเป็นตอนกลางคืน” หญิงสาวเอ่ยด้วยความสงสัย พลางค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นมองด้านบน เบื้องบนของผนังถ้ำเป็นปล่องขนาดใหญ่ มองเห็นดวงดาวมากมายนับหมื่นล้านดวงส่องแสงสว่าง แต่แตกต่างนั่นก็คือ ดวงดาวช่างดวงใหญ่เหมือนอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม เฉินวาวาไม่รู้ตัวเลยว่าเธอได้เข้าสู่เขตหวงห้ามและเต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่งยวด ร่างระหงค่อยๆ ลุกขึ้นจากขอบบ่อ ก่อนจะเดินตรงไปแท่นหินที่มีหินศิลาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางเพื่อมองดวงดาวให้ชัดมากยิ่งไปกว่าเดิม ใบหน้าสวยแหงนหน้ามองปล่องขนาดใหญ่เบื้องบนอย่างตื่นตะลึง เมื่อเธอเห็นดวงดาวตามจักรราศีทอดยาวเป็นกลุ่มเกาะเรียงตัวเป็นรูปร่าง “ยืนอยู่ตรงนี้เห็นดาวดวงใหญ่จังเลย มองเห็นชัดแจ่มแจ๋วจริงๆ” หญิงสาวพูดพลางยกแขนวางพาดไปกับก้อนหินศิลาซึ่งมีรูปร่างคล้ายคน ตรงแขนที่เธอพาดคล้ายไหล่ก็ว่าได้ หญิงสาวยืนมองดวงดาวอยู่นานก่อนจะหันกลับมาพิจารณาหินศิลาที่วางอยู่อย่างโดดเดี่ยว มือเรียวสวยค่อยๆ ลูบไล้หินศิลาดังกล่าวเมื่อเห็นความมันเงาปรากฏขึ้น สองนิ้วถูเข้าหากันด้วยความแปลกใจ “ไม่มีฝุ่นเกาะเลยแปลกจัง” เฉินวาวาเอ่ยด้วยความแปลกใจ ดวงตากลมโตคู่งามยืนมองเห็นศิลาตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยแกะสลักรูปร่างคล้ายไฟอัคคีมองได้เพียงเลือนราง ด้วยความอยากรู้ปลายนิ้วเรียวยื่นไปสัมผัสทันทีพร้อมลูบไล้ไปมา ทันใดนั้นเองพระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”
งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน
มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ
ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม
ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว
ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ