“ ฮึกๆ ฮึก ” ภวิชขยุบขยิบดวงตาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะเสียงบางอย่างที่ดังมาจากคนที่หลับในอ้อมแขนของเขาที่ส่งเสียงสะอื้นภวิชผงกหัวขึ้นเล็กน้อยจูบหน้าผากมนตามเคยชิน อุณหภูมิที่เขาสัมผัสได้ทำให้เขาลุกนั่งพร้อมคว้าคนในอ้อมกอดให้นั่งด้วย
“ ฮึกๆ ฮือๆ ” “ มิน ” เสียงสะอื้นหญิงสาวทำให้หัวใจเขากระตุกวูบเมื่อเธอร้องเหมือนคนไม่ได้สติ ดวงตาที่หลับพริ้มแต่มีน้ำใสๆไหลลงห่างตาตลอดทำเอาภวิชนิ่งไปชั่วคราวเขาค่อยๆพามินตราล้มตัวลงนอนอีกครั้งก่อนจะค่อยๆดึงผ้าห่มคลุมร่างบอบบางที่ยังไม่ทันได้ใส่อะไรสักชิ้นแต่แล้วมือก็ต้องชะงักกลางอากาศเมื่อเห็นรอยช้ำบนเรือนร่างมินตราตามคอขาวที่ช้ำแดงเป็นจ้ำบ้างก็มีรอยฟัน ริมฝีปากที่มุมปากแดงช้ำผิวขาวผ่องที่มีแต่รอยรักที่เขาปฏิบัติกับเธอเมื่อคืนหลายต่อหลายครั้งเขาเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงทำกับมินตราได้ขนาดนี้ อะไรมันเข้าสิงให้เขารุนแรงป่าเถื่อนขนาดนี้เพียงคิดว่าเธอจะหนีหายไปจากเขากลัวใครมาแย่งเธอไป ใจก็พาลไม่ฟังอะไรทั้งนั้น มือแกร่งสัมผัสไหล่บางเบาๆก้มจุมพิตอ่อนโยน ตัวรุมๆอุ่นๆ เพราะเขาอีกสินะ.... “ ฮึกๆ อือ แม่ ฮือแม่จ๋า พ่อ มินฮือๆ มินหนาว ” มินตราเผลอผวาร้องไขว่คว้าหาบุพการีทั้งสองที่รักถึงแม่จะทิ้งเธอไปก็ตามเธอเชื่อว่ามารดาต้องมีเหตุผลมินตรายกมือลูบตัวเองสั่นๆ เพียงเท่านั้น ภวิชถึงกับคว้าข้อมือมินตราอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงฝ่ามือเล็กๆ “ เลือด ” เขาพูดพึมพำ คว้าข้อแขนที่ลูบตัวเองดึงเธอเข้ามาหาตัวเขาอีกครั้ง ภวิชสวมกายแกร่งโอบกอดเธอแทน.......คว้าข้อแขนข้างซ้ายของคนไม่ได้สติขึ้นมาดูแผ่วเบา มือเขาสั่นกล้าๆกลัวๆ รอยแผลที่มีเลือดแห้งกรังจับที่ฝ่ามือมินตรา เหตุการณ์เมื่อคืนถูกประมวลผลในหัวของชายหนุ่มอีกครั้งก่อนที่เขาจะคิดได้ว่าเมื่อคืนเขาทำอะไรกับเธอลงไปบ้าง แผลใหญ่พอดู ฟันกรามขบกันแน่นจนขึ้นนูน ลูบฝ่ามือบางที่เป็นแผลใหญ่เบาๆ เสียงกัดฟันกรอด เขาโกรธเธอจนเผลอดิบเถื่อนทำให้เธอเจ็บ แต่ตอนนี้ เขากลับกลายเป็นเจ็บยิ่งกว่า เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆก่อน จะค่อยๆปรับท่านอนให้หญิงสาวได้สบายยิ่งขึ้น เขาหยิบเสื้อผ้าของเขามาสวมใส่ให้มิน ยิ่งเห็นผิวขาวๆบอบช้ำ เขายิ่งโมโหตัวเองมินต้องกินข้าวกินยาก่อนไม่งั้นไข้ไม่ลดแน่ แล้วเขาก็ลงไปจัดการหาอาหารและยามาป้อนเมียสุดที่รักที่เขาทำร้ายเธอไป “ อรุณสวัสครับแม่นิ่ม จุ้ฟ ” เขาเดินลงมาเห็นแม่นมตัวเองเลยเดินเข้าสวมกอดแล้วหอมแก้มตามความเคยชิน “ วันนี้ไม่เหมือนเมื่อคืนเลยนะคะ แล้วคุณมินเธอยังไม่ตื่นหรือคะ ” “ เอ่อ คือ ครับ ! ” คนทำผิดหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อแม่นมถามหาคนที่เขาลงโทษทัณฑ์เธอไป “ อ๊ะ นั่นมัน ! แม่นมผมนี่น่ารักอะไรขนาดนี้เตรียมกับข้าวรอผมแต่เช้าเลยนะครับนี่ตีหน้าครึ่งเองตั้งเร็วจังครับ ” แม่นมของเขาเป็นคนที่ตื่นเช้ามาเตรียมกับข้าวไว้เสมอสายตาภวิชมองไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าววางอยู่เต็มไปหมดคำพูดชื่นชมก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะอาหารแล้วพูดต่อในขณะที่แม่นมกำลังทบทวนแล้วทำท่าทางตกใจ “ มีแต่ของโปรดผมเลยนะครับ! ” “ ตายแล้วคุณวิชยังไม่ได้ทานอีกหรือค่ะ ” “ หืม....อะไรครับผมเพิ่งจะลงมาเองนะแม่นิ่ม แล้วรู้ได้ไงว่าผมกำลังอยากกินต้มยำกุ้งฝีมือแม่นิ่มพอดี ” ภวิชยืนจับเก้าอี้มองอาหารจานโปรดอันหลากหลาย “ ป้าทำที่ไหนค่ะคุณชาย คุณชายนะคุณชายทำไมไม่ทานค่ะเสียดายของรู้ไหมว่าคุณมินเขาตั้งใจทำให้ขนาดไหน แล้วนี้ทำแผลให้เธอหรือยังค่ะเศษจานแก้วบาดเธอเมื่อคืนนี้ ” คำตอบป้านิ่มทำเอาภวิชค้างไปอีกครั้ง “ แม่นิ่มบอกว่ามินทำอย่างนั้นหรอ! ” “ ใช่ค่ะ ไม่ใช่แค่เข้าครัวอย่างเดียวนะคะเธอไปซื้อของทะเลเองด้วย ” “ ทั้งหมดนี่เลยหรอครับ? ” หัวใจไหววูบอีกครั้งมันเต้นจนแทบจะกระเด็นออกมาได้อยู่แล้ว “ ค่ะ เธอบอกว่าเห็นคุณวิชบ่นว่าชอบอยากกินเธอเลยลงครัวเองทั้งหมด บราวนี่ก็มีนะคะคุณมินเธอทำไว้ให้ตั้งเยอะ เธอทำเอาไว้ให้คุณชายกินกับกาแฟยามเช้า เก่งนะคะ งานบ้านงานเรือนอาหาร ” “ อึก ” เสียงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากมองอาหารจานโปรดหลายอย่างตรงหน้ารู้สึกดีใจ อบอุ่น และเสียใจที่ทำร้ายความรู้สึกของเธอ “ ผมขอข้าวต้มร้อนๆสักถ้วยนะครับ มินไม่ค่อยสบาย ผมขอยากับอุปกรณ์ทำแผลด้วยนะครับแม่นิ่ม ” “ ค่ะเดี๋ยวป้าให้เด็กรับใช้ยกขึ้นไปให้ คุณชายขึ้นไปดูคุณมินเถอะค่ะ ” “ ขอบคุณมากครับ ” ภวิชยกมือไหว้ เขาวิ่งก้าวยาวๆหลายๆขั้นไม่กี่ครั้งก็ถึงห้องนอนเขาสูดหายใจเข้าลึกๆถ้ามินรู้สึกตัวเธอคงโกรธเขาบรรลัยแน่ ภวิชเอ้ย!! “ แกร๊ก ฟึ่บ มินลุกทำไมเห็นไหมจะล้มขมำจับกบแต่เช้ารึไง ” น้ำเสียงตำหนิแต่ติดตลกหวังให้คลายความตึงเครียดลงแต่.....ไม่ได้ผล มันน่าตีนัก นี่ถ้าเขาเปิดประตูเข้ามาช้ากว่านี้อีกนิดสาวดื้อรั้นของเขาคงได้ล้มไปกองกับพื้นแล้ว มินตราไม่แม้แต่จะมองหน้าภวิชด้วยซ้ำ เธอไม่มีแรงเถียงกับเขาแล้ว มือบางค่อยๆยกจับมือหนาดึงให้พ้นแขนตัวเองความนิ่งของมินตราทำให้ใจเขาเริ่มกลัว “ จะไปไหน หืม ไหนขอพี่ดูหน่อย ” เขาคว้าแขนเธออีกครั้งที่ตอนแรกเธอดึงออกไปแล้วหญิงสาวพยายามดิ้นรนไม่เอ่ยคำใดๆให้เขาได้ยินสักคำ “ ฟึ่บ ” ภวิชคว้าเธอกอดแนบอกแน่น “ มินจ๋า พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษนะครับคุยกับพี่หน่อยครับพี่อยากได้ยินเสียงมิน พี่ขอโทษ ” แรงน้อยๆที่ต่อต้านเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นเบาๆ เขาพร่ำบอกคำขอโทษกับเธอพี่วิชคนเดิมที่อ่อนโยนกับเธอกลับมาแล้ว ภวิชแววตาเศร้ารู้สึกผิดอย่างไม่น่าจะให้อภัยทำไมความหวง หึงเธอมันถึงได้แรงขนาดนี้ “ นิ่งซะนะครับคนดี..”มินตราค่อยๆลืมตาขึ้นมาในเช้าอีกหนึ่งวัน คุณหญิงมณีจึงตรงเข้าไปกอดลูกสาวเอาไว้แน่น “ มินตื่นแล้วหรอลูกเป็นยังไงบ้างค่อยๆลุกนะลูก ” “ มินรู้สึกเจ็บท้องค่ะแม่ แล้วลูกมินหล่ะค่ะ แม่ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ”มินตราเริ่มผวาเมื่อเธอสัมผัสหน้าท้องเธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอมีอาการตกเลือดทำไมเธอเจ็บท้องแล้วความฝันก่อนหน้านั้นที่หนุ่มน้อยเดินหายไปจากเธอคืออะไร “ มินใจเย็นๆนะลูก ” “ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ลูกของหนู ” “ เขาไม่อยู่แล้วลูก หนูเสียเลือดมากคุณหมอต้องขูดมดลูกเพื่อช่วยชีวิตมินไว้ ” “ ไม่จริงอ่ะ แม่โกหกใช่ไหม ลูกหนูกับพี่วิช แม่โกหกใช่ไหม ฮือๆ แล้วพี่วิชหล่ะคะแม่ พี่วิชเขาปลอดภัยใช่ไหมคะแม่ ใช่ไหมฮือๆ ” “ ใจเย็นก่อนนะลูก คุณวิชเขาปลอดภัยหนูอยากไปหาเขาไหม ” “ จริงนะคะ เขาปลอดภัยจริงนะคะ ” ถึงแม้เธอจะเศร้าใจเรื่องลูกแต่ ภวิชปลอดภัยความหวังเธอก็ยังไม่โดนพังหมดซะทุกอย่าง ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นน้ำตาของลูกก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามเธอสงสารลูกสาวคนเดียวอย่างจับใจแต่เมื่อโชคชะตาให้ลูกเธอเจอแบบนี้ เธอคงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ตอบอะไรมากนอกจากพยักหน้า มินตราถูกพยุงให้นั่งรถเข็นแ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ภัสสรใช้เวลาพอสมควรกว่าจะ มาถึง “ ถึงแล้ว ลงมาสิ ” “ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอคะ ” “ ฉันคงพาเธอมานั่งรถเล่นมั้งจะไปไหมเร็วๆเข้า ” “ อ๋อค่ะๆ ” มินตราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวแล้วรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่พามาเริ่มหงุดหงิดแต่เธอก็ไม่เคยคิดโกรธภัสสรเลยเธอกลับชอบเพราะภัสสรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเธอเองมินตราก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลายเธอสงสัย เธอกังวลหรือเธอกำลังกลัวกันแน่ ภัสสรสรเดินนำมินตราไปจนหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง “ แกร๊ก ” “ ถึงแล้วเข้าไปสิ ” ภัสสรยืนพิงประตู เบี่ยงหลบทางให้มินตราที่ทำท่าชะเง้อชะแง้มองดู มินตรากล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปในห้องเธออยากพบภวิชนะแล้วภัสสรพาเธอมาเยี่ยมใครกัน มินตราเดินใกล้เข้ามายังเตียงผู้ป่วยก็พบกับทั้งพ่อแม่ภวัตต์และรฏาในห้อง เท่านั้นยังไม่พอทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียวคำพูดต่อมาของภวัตต์ทำให้มินตราก้าวขาไม่ออก “ วิช มินมาหา นายลืมตามาดูเธอหน่อยสิฉันรู้ว่านายคิดถึงเขา ” เปลือกตาภวิชที่ขยุบขยิบเหมือนกับได้ยินสิ่งที่ภวัตต์บอกแต่ปฏิกิริยาไม่มีการตอบสนองที่ทำให้รู้ว่าเขาฟื้น มินตรามอ
“ พี่แหวน พี่มองหาใครหรอค่ะ ” “ อ้าวคุณมิน เปล่าค่ะ พี่แค่กำลังมองหารถคันนึงหน่ะค่ะ จะชอบมาจอดหน้าบ้านเราเป็นเวลานานๆ แต่สองสามวันมานี่ไม่เห็นแล้วหล่ะคะ ไม่รู้ว่าพวกโรคจิตหรือเปล่านะคะ จอดรถหน้าบ้านแต่ไม่มีคนลงจากรถเลย ” มินตรามองไปยังหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามสายตาสาวใช้ที่บอกไป “ พี่แหวนคิดมากไปหรือเปล่าคะเขาอาจจะเป็นญาติฝั่งตรงข้ามนะคะ ” “ จริงๆนะคะคุณมิน ” “ ชั่งเถอะค่ะ ” “ อะๆ นั่นไงคะรถคันนั้นไงคะคุณมิน ” “ หืม ” มินตราชะงักเท้าที่เธอเพิ่งจะหันหลังกลับเข้าบ้านรถหรูหราที่ หน้าตาคุ้นเคย แล่นมาจอดหน้าบ้านตามคำพูดของสาวใช้มินตราไม่รอให้สาวใช้ตรงไปเปิดประตูเธอเลือกก้าวขาไปหาเอง “ แกร๊ก ” เสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและเธอก็ได้เห็นร่างสง่างามสมส่วนของสายชลที่ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ “ สวัสดีครับคุณมิน ” “ สวัสดีค่ะคุณสายชล ” “ คุณมินสบายดีไหมครับ ” “ ก็อย่างที
ตกกลางคืนภวิชเริ่มมีสติหลังจากดื่มน้ำเมาแล้วยังทะเลาะอย่างรุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักอีก เขาอดห่วงมินตราไม่ได้จริงๆจึงต้องหวนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อมาหาเธอ คุณหญิงมณีที่อยู่ภายในห้องแต่ทำไมในห้องถึงมีอดีตเพื่อนรักอย่างโทนี่อยู่ด้วยเขาเอานิ้วมือเรียวแตะที่กระจกเพื่อสัมผัสใบหน้า มินตราผ่านอากาศที่หลังจากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์สัมผัสชิดใกล้กับเธออีกแล้ว “ มินพี่ไม่รู้ว่าลูกจะได้อยู่กับพวกเราไหม แต่ถ้าหากลูกได้อยู่ บอกรักเขาแทนพี่ด้วยนะมิน ” น้ำตาไหลลงอีกครั้งนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ “ ไอ้เสี่ยชัย!!! ฉันไม่ปล่อยแกไว้ให้แกทำร้ายลูกกับเมียฉันซ้ำสองแน่!! ” เขาทิ้งความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายไว้ให้กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขาก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นแข็งกร้าวและข่มเสียงพูดถึงคนที่ทำร้ายดวงใจของเขา ด้วยความแค้นสุมอก มีใครเคยบอกไหมว่าอย่าให้คนอย่างเขาแค้น เพราะนั่นหมายถึงแค้นฝั่งหุ่นทั้งเป็นและตาย เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอันตรายไปอีกแล้วมันมากไปแล้วที่ผ่านมา
ภวิชที่ทำแผลเสร็จตอนนี้เขาพันแผลที่หัวไหล่แล้วเรียบร้อย เขาก็รีบตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉินทันที เป็นเวลาที่หมอออกมาจากห้องผ่าตัด “ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ ” “ ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดนำกระสุนออกมาแล้วนะครับแต่อาการเธอตอนนี้ยัง...” “ เกิดอะไรขึ้นครับหมอ คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” “ เอ่อ คือหมอคิดว่าคุณคงทำใจไว้สักนิดนะครับ ” “ หมายความว่าไงคะหมอ ” รฏาเริ่มใจคอไม่ดี “ เธอมีอาการตกเลือดหน่ะครับ คุณต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะครับเธออาจสูญเสียเด็กในท้อง ” “ เด็กในท้อง หมายถึง ละ ลูกหน่ะหรอ ” ภวิชพูดจาติดขัดเขาพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน สายชล ภวัตต์ รฏา รวมถึง กฤษที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นภวิช “ เฮ้ย! วิช ” ภวัตต์รีบเข้ามาพยุงน้องชายที่เข่าอ่อนลงทันทีที่หมอพูดจบ มินตราท้องหรอ ที่สาวน้อยเขาเพลียบ่อยๆตอนนั้นที่เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงเหนื่อยง่ายๆ เพราะเธอท้องงั้นหรอ แล้วทำไม ทำไมมินถึงใจร้ายไม่ยอมบอกเขาไม่ยอมให้เขาทำหน้าที่พ่อของลูกบ้าง ภวิชเหมือนคนหูอื้อไม่ได้
- แต่งงานกันนะครับ- ทันทีที่เพลงเล่นจบลงภวิชก็ดึงมือทั้งสองของมินตรามากุมไว้ในขณะที่เขายังคงคล้องแซกโซโฟนอยู่เขาใช้นิ้วมือปาดน้ำตาของคนสวยที่เปื้อนตรงแก้มใสอย่างอ่อนโยนแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเขาย่อตัวไปหยิบกล่องแหวนขึ้นมาแล้วมองกล่องแหวนในมือภาวนาขอให้มินตราตอบรับเขา “ ว่ายังไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม พี่จะทำให้มินมีความสุขที่สุด ” “ คุณวิชคือมิน.....” “ ว่ายังไงครับ ” “ มิน ไม่........ ” “ ฟุ้บ ปังๆๆๆ ” เสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัดทำให้ความโรแมนติกทุกๆ อย่างหมดสิ้นลง เสียงระเบิดที่ดังขึ้นท้ายเรือทำให้มินตราตกใจ ภวิชคว้าดึงมินตราเข้ามากอดเขาหันมองซ้ายขวา สายชลที่คอยช่วยเหลือควบคุมระบบไฟอยู่บนสุดของเรือในห้องกัปตัน ลูกน้องบางส่วนที่กระจายคอยดูอยู่รอบๆ เขาไม่ได้บอกมินตราเรื่องนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ “ วิช ” “ วัตต์นายรีบพามินลงไปจากเรือลำนี้ที ฉันจะดูทางนี้ให้ ” “ แล้วคุณหล่ะคะวิช ” รฏาเป็นฝ่ายถาม สมองมินตราสับสนไปไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ผมจะดูต้นทางให้รีบลง