จนได้!...ไอ้มิกเอ้ยไอ้มิก...ยุ่งไม่เข้าเรื่อง......จริงๆเลย รณภพด่าตัวเองเป้าหมายที่เขาต้องการไปจริงๆคืออยากไปฟิตเนสสักหน่อยอากาศกำลังดีท้องฟ้ามัวๆ ที่ไม่มีแดดเขาชอบนัก เวลาขับรถคู่ใจแล้วมันไม่ร้อนดีเสือกดันมาตาดีเห็นใยคุณหนูจอมเปิ่น ยืนกำหมัดแน่นที่โดนด่าคำแรงๆจากหญิงสาวที่ข้างเธอมีชายหนุ่มอีกคนมอง
ภัสสรอยู่หน้าห้างดังห้างหนึ่งการยืนมองของกลุ่มคนรอบๆ ทำให้รณภพรู้ทันทีว่าคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ รณภพส่ายหัวแล้วขับรถไปต่อเรื่อยๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทั้งที่บอกจะว่าไม่ใส่ใจ แต่เหตุฉะใดขาเขาจึงตามเจ้าหล่อนไปทุกที่ได้หล่ะนั่นดันมาอยู่ใน เหตุการณ์ซะได้ ทำไมไม่ขับตรงไปฟิตเนสอย่างที่ตั้งใจวะไอ้มิก เขากร่นด่าตัวเองในใจ เหตุการณ์ที่เห็นทำให้รณภพประหม่าที่คาดการณ์เดาเธอผิดไปนึกว่าจะผิดหวังกับพฤติกรรมของเธอซะแล้ว และการตอบกลับของเธอทำให้รณภพพอใจไม่น้อย ผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงเบื้องหน้าที่ดูท่าคงเป็นแฟนกัน..รณภพดูแคลน..คิดว่าคุณหนูมีปัญหาอะไรมากมายสุดท้ายคงไม่พ้นเรื่องผู้ชายตบตีแย่งกัน.....น่าละอายชะมัด ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับตามทางเก่าที่เพิ่งผ่านมันมาแต่คำพูดที่ไม่น่าเชื่อว่าใยคุณหนูจะไม่วีนเหวี่ยง เสียงแหลมๆที่ไม่คุ้นเคยดังเข้าโสตประสาทรณภพแม้กำลังจะเดินออก ไปจากเหตุการณ์แต่ทุกอย่างได้ยินชัดเจน........ “ ใยลูกเป็ดขี้เหร่ พี่ณุเขาไม่กลับไปหาหล่อนหรอกยะ ใยคุณหนูไฮโซโดนแฟนทิ้ง....อ่อๆคนนี้เองหรอค่ะพี่ณุ ที่ทั้งจืดชืด รสนิยมสูง แต่เฉิ่มเชย....ตายละมิน่าหล่ะพี่ณุถึงเบื่อ ” หล่อนกรีดกรายกอดอกปรายตามองอดีตคนรักที่แฟนหนุ่มข้างกายเธอเคยคบเคยเปรยให้ฟัง รณภพนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆที่ทำให้เขาต้องชะงักเท้าแล้วหันไปสนใจกับมันอีกครั้งภัสสรกำมือแน่นด้วยความโกรธจนหน้าขาวๆแดงจัดก่อนจะ ปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วกอดอกเลียนแบบสาวตรงหน้า “ ฉันโดนทิ้งแล้วมันหนักส่วนไหนในร่างกายเธอ อย่ามั่นหน้านักนะขอเตือนนึกว่าไอ้ผู้ชายคนนี้มันจะรักใครจริงหรือไง......อ่อ นี่ขนาดรู้เรื่องของฉันตอนคบกับเขา...หึๆ ไม่ละอายบ้างหรอจ้ะคบเขาตอนที่เขาคบฉัน...หรือไม่รู้จักหาเองถึงชอบคาบของคนอื่นไปกิน เดี๋ยวแปปนะ อ่ะฉันให้เป็นของขวัญ เผื่อเอาไว้ใช้คงไม่นานหรอกน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า ” ภัสสรพูดในน้ำเสียงเรียบเธอแสร้งหยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วส่งให้ไม่ใยดีเท่าไหร่ ปล่อยมันปลิวลงไปอย่างทิ้งๆ ด่าได้เจ็บแสบชะมัด รณภพกอดอกมองห่างๆท่ามกลางฝูงชนที่อยากรู้ บางคนก็หัวเราสะใจกับคำสอนที่แฝงคำด่าดีๆ ของคุณหนูตัวแสบที่ด่ากลับนี่แหล่ะ! สังคมไทยอยากรู้เรื่องของคนโน้นคนนี้ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตน จะด่าอะไรมากก็ไม่ได้เพราะตอนนึ้เขาเองก็เป็นหนึ่งในฝูงชนเช่นกัน “ กรี๊ดนี่แกด่าฉันหรอห๊ะใยลูกเป็ดขี้เหร่ไม่มีใครรัก ” “ นั่นมันอดีตใยบ้าเอ้ยเดี๋ยวแม่ก็เอารองเท้ายัดปากซะนี่ เธอหน้าตาดีและสวยแต่เด็กหรอ ใบหน้านั้นไม่เคยผ่านมีดหมอจริงหรือเปล่า ” ภัสสรตอกหน้ากลับไม่ไว้หน้า.มารยาทหน่ะมี แต่ว่าเลือกใช้กับคนบางคนซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้กับผู้หญิงตรงหน้าที่ด่าเธอ อดีตคนรักทำไมถึงเอาเรื่องราวจุดอ่อนของเธอในอดีต ไปเล่าให้ผู้หญิงคนอื่นมาดูถูกเธอ “ น้องนุชพอเถอะครับอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ” อดีตคนรักของภัสสรร้องห้ามเขารู้ดีว่าหญิงสาวคนรักเก่านั้นนิสัยเช่นไร พี่ชายเธอมีอิทธิพลในสังคมมากแค่ไหนแล้วตอนนี้ภัสสรเองก็ไม่ใช่ลูกเป็ดขี้เหร่แล้วด้วย ตรงกันข้ามเธอน่ารักและดูสวยมากกว่าแต่ก่อนซะอีกถ้ารู้ว่าโตแล้วน่ารักขนาดนี้เขาไม่บอกเลิกกับเธอหรอกถึงแม้ตอนนั้นเธอและเขาจะศึกษาดูใจกันไม่นานและอาจขัดใจต่อคนในครอบครัวของหญิงสาวเสียด้วย แต่เพราะตอนนั้นเธอมีประโยชน์ที่เขาสามารถใช้เธอเป็นทางในการทำธุรกิจได้ แต่ไม่นานก็ต้องจบลงเพราะพี่ชายของเจ้าหล่อนรู้เรื่องที่ใช้น้องสาวเขาเป็นเครื่องมือ “ คิดว่ามีอำนาจมากนักรึไงห๊ะ ” “ มากไม่มากฉันก็ยุบบริษัทพ่อเธอได้ก็แล้วกันไม่เชื่อก็ลองดู! ” ทำไมภัสสรจะไม่รู้จักนางแบบตรงหน้าหล่ะเธอถ่ายปกนิตยสารตั้งเยอะแล้วนี่พ่อหล่อนเองก็เปิดบริษัทซึ่งหุ้นหลักก็ตระกูลเธอทั้งนั้น ไม่อยากอวดหรอกนะแต่เห็นนางชะนีนี่มั่นหน้าเกินเลยอยากอัดเล่นๆ “ มากเกินไปแล้วนะอีบ้า ” หล่อนยกมือขึ้นหมายจะตบหน้าคุณหนูสาวไฮโซ “ พลั่ก ! โอ้ว ” รณภพถึงกับตะลึงเมื่อใยคุณหนูปล่อยหมัดเล็กๆอัดใส่สาวตรงหน้าเสียงร้องทั้งตกใจและตะลึงของคนรอบข้างไม่ต่างจากชายหนุ่มเลย “ จำไว้! ฉันไม่ใช่นางเอก ที่จะอยู่เฉยๆ แล้วยืนให้เธอตบ.....สำหรับฉันถ้าใครทำฉันเจ็บล่ะก็ มันจะต้องเจ็บกว่าฉันสิบเท่าจำไว้ ” ภัสสรชี้หน้าใส่หญิงสาวที่หน้าหงายไปเพราะถูกชกเข้าให้ มือเรียวจับจมูกตัวเอง “ กรี๊ดเลือด กรี๊ด แก.....ฟึ่บ ” “ โอ้ย! หมับ! ” ทันทีที่ภัสสรพูดจบเธอก็หันหลังจะเดินไปที่จอดรถแต่กลับถูกมือนางแบบสาวกระชากที่ผมเข้าให้มือน้อยๆของภัสสรเอื้อมไปยื้อผมตัวเองให้ลดความตึงหนังศรีษะลงบ้าง นางแบบสาวหมุนร่างเธอกลับมาเพื่อจะตบสักฉาดแต่มือกลับค้างกลางอากาศเพราะถูกใครบางคนคว้าเอาไว้ “ อย่าแตะต้องเธอ! ฟึ่บ ” น้ำเสียงเข้มของผู้ชายคนนึงดังขึ้นทำให้นางแบบสาวหันไปมอง.. “ มิก ” เธอร้องเรียกชื่อเขาเบาๆ รณภพใส่เสื้อคอวีสีขาวทับด้วยเสื้อหนังแขนยาวสีดำ หล่อชะมัด! ปลื้มอีกแล้วสิวาวเอ้ย! รณภพผลักมือที่จับนางแบบสาวไว้แล้วผลักออกให้หล่อนเซไปหาคู่รักของเธอ....... “ นี่พวกแกรุมฉันหรอ ” “ นุช พี่บอกให้พอแล้วไง กลับ จะกลับไหมหรืออยากจะอยู่ให้อายคนอีกก็เชิญ พี่ขอตัว ” ภาณุสุดจะทนกับางแบบสาวแล้ว บอกว่าอย่าไปยุ่งกับภัสสรเขารู้เธอไม่ได้ขู่แต่ทำจริงและจริงที่สุดด้วย! .........มินตราขอแยกจากรณภพเมื่อทุกอย่างเริ่มปกติ......อยากคิดทบทวนอะไรดู เธอเลยขับรถมาที่สวนสาธารณะที่ตอนนี้เริ่มจะเย็นแล้ว รูปสมัยมัธยมต้นเธอหยิบมันออกจากกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาดู คิดแล้วมันน่าจะอัดให้เข็ดสักที “ ฟึ่บ ” “ ทำบ้าอะไร! แล้วนี่นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” เมื่อรูปในมือถูกมือปริศนาช่วงชิงอย่างไร้มารยาทไป เธอจึงหันมาเพื่อจะดูหน้าแต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าคำด่าจึงตั้งเป็นคำถามแทน “ ไหน ดูสิ เธอกำลังดูอะไรอยู่ ” “ นี่เอาของฉันคืนมานะ ไม่มีมารยาทที่สุด เอามา ” ภัสสรเขย่งปลายเท้าสุดเอื้อมมือจะแย่งของ ของตัวเองรณภพก็ชูแขนสุดแรงเกิดจนเธอเริ่มท้อเลยประชดเข้าให้ “ ลำพังตัวนายก็สูงจนฉันเอื้อมไม่ถึงอยู่แล้ว เขย่งอีกทำซากอะไร อยากดูก็เชิญดูไปเลย เชอะ ” เธอหน้างอง้ำคิ้วขมวด “ ก็สิ้นเรื่อง ” เขาไม่สำนึกสักนิดว่าเธอกำลังด่าเขาอยู่รณภพมองรูปในมือเสียงของคุณหนูจอมแสบก็พูดเป็นระยะ “ ขี้เหร่ใช่ไหมหล่ะ.....อยากหัวเราะอะไรก็ทำมาน่าสมเพศใช่ไหมล่ะที่เห็นฉันแบบนี้ ฉันโดนทิ้งมา ไม่ต้องถามนะว่าทำไม ฮึก นายคงได้ยินหมดแล้ว ” น้ำตาไหลอย่างสุดจะทน “ เธอยังชอบผู้ชายคนนั้นอยู่หรือไง? ” “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายนายมายุ่งอะไรด้วย ฉันจะชอบหรือไม่จะสนใจทำไม ” ไม่ใช่ว่ายังรักแต่เจ็บใจซะมากกว่าอดีตคนรักเคยหลอกใช้เธอแล้วยังควงผู้หญิงคนใหม่มาเยาะเย้ยดูถูกรูปลักษณ์ของเธอในอดีตอีก ภัสสรกำลังโมโหเธอไม่อยากได้ยินชื่อคนเฮงซวยคนนั้น “ เออ ก็ดี งั้นฉันไปหล่ะตามสบาย ” เขาตอบกลับแบบไม่ใส่ใจแล้วเดินออกไปจากสวนสาธารณะแห่งนั้นที่ตอนนี้เริ่มโพล้เพล้แล้ว “ ฮือๆๆๆๆ ” เมื่อรณภพเดินจากไป เสียงร้องไห้สุดจะกลั้นก็ปล่อยออกมา..ใครกันจะอยากโดนล้อปมด้อยของตัวเอง รณภพที่ฉุนกับคำพูดของคนขี้วีนที่เขาอุตส่าห์ช่วยแต่กลับกลายเป็นวุ่นวายสำหรับเธอ ถึงจะรู้ไม่ได้ตั้งใจก็เถอะนะ เขาขับรถคู่ใจวนไปจอดมุมตึกที่ฝั่งตรงข้ามสามารถมองเห็นจุดที่เขาเพิ่งโดนไล่มาถึงนั่นจะไล่เขาแต่เขาคงไปยังไม่ได้หรอก ความรู้สึกถึงการมีปมด้อยเขาเข้าใจมันดีเพราะเขาเองก็มีมันเหมือนกันอย่างน้อยๆได้มองเห็นเธอในเวลานี้แม้จะไกลๆก็ตามยังดีกว่าให้อยู่คนเดียว จะทำอะไรก็ทำไปเขาก็เคลื่อนไหวไปตามเธอนั่นแหล่ะไม่ได้ทิ้งไปไหนไกลเลยที่ถามว่าเขามาได้ไงก็คงไม่ต้องตอบ ขับตามเธอมาหน่ะสิ..เขาหยิบรูปที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหนังด้านในออกมาดูพลางดีดที่รูปเบาๆ เขานั่งบนตัวรถคู่ใจที่เต๊ะขาตั้งล็อคกับพื้นไว้เพื่อเป็นที่พัก “ ร้องไห้ทำไม ไม่เห็นจะขี้เหร่เลยใยคุณหนูจอมแสบ น่ารักดีออก ” เขาเอ่ยชมรูปภาพที่เขาถือวิสาสะเอามาเลยตอนเธอไล่เขา..รูปผู้หญิงอ้วนๆตอนม.ปลายน่าจะกำลังแรกแย้ม ถักเปีย แก้มยุ้ยๆ แตกต่างมากกับปัจจุบันถ้าเทียบอายุแล้วแสดงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพึ่งจะผ่านมาไม่นานแว่นตาหนาที่เธอใส่ตอนนี้ไม่ใส่แล้ว....... “ ครืดๆ ” เสียงฟ้าร้องที่เริ่มดังขึ้นไม่ช้าไม่นาน ฝนก็เทลงมาอย่างกับไม่เคยตกมานานปี “ ดี เยี่ยมจริงๆ ตกมาเยาะเย้ยฉันหรือไงห๊ะ? เอาเลยสิ ตกมาเลย ตกเยอะๆ ชอบ! ” ทั้งประชดทั้งสงสัย อยู่ๆฝนที่สาดซัดเข้ามามันกลับรู้สึกไม่สัมผัสถึงตัวเหมือนเมื่อครู่จนเธอสงสัย เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยทุกอย่างเหมือนตกในภวังค์ รณภพที่วิ่งฝ่าฝนมา...คนไม่พกร่มเช่นเขาจะมีก็แค่เสื้อหนังที่จะพอเป็นร่มเงาให้หลบได้บ้างฝ่ามือที่จับเสื้อหนังดันออกจากลำตัวไปข้างหน้าเผื่อกำบังให้หญิงสาวไม่ต้องเปียกโชกไปมากกว่านี้ “ เปียกโชกอย่างกับลูกหมาเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก ” รณภพเปรยขึ้น สายตามองตรงไม่ได้สนใจคนที่นั่งกับเก้าอี้ไม้เบื้องล่างที่มองหน้าดูเขา “ ............ ” เมื่อไม่ได้ยินคำตอบของหญิงสาวเขาจึงถามอีกครั้ง “ ถามจริงเถอะ! เสียใจกับผู้ชายคนนั้นมากหรือไง หรือรักอยู่ถึงได้ร้องไห้แข่งกับฝนแบบนี้? ” “ ฮือๆๆ ” เหมือนจะร้องหนักกว่าเดิมรณภพลดสายตาลงมองคนที่ร้องไห้ที่ตอนนี้ก้มหน้าร้องหนักกว่าเดิม “ เปล่าฉันไม่ได้รักเขา แต่ฉันฮือๆ แค่เจ็บใจ ที่คนที่ฉันเคยให้ใจเขาไม่ได้รักฉันอย่างจริงๆ....ฉันเจ็บใจที่เชื่อใจเขาง่ายๆ และเจ็บใจที่สุดคือเขาเห็นจุดอ่อนของฉัน เป็นเรื่องสนุกปาก เจ็บใจๆ ฮือ นายเข้าใจไหม! ” คนที่ร้องไห้ทุบเก้าอี้ไม้รัวในประโยคสุดท้าย รณภพมองฝ่ามือน้อยๆแต่ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการห้าม เธอแค่หาทางระบายมันเพราะ มันลงกับใครไม่ได้ไงเลยลงที่ตัวเอง “ จะสนใจทำไม ตอนนี้เธออยู่กับปัจจุบัน ใครทิ้งก็ชั่งหัวมันสนใจทำไม! ความรักมันบังคับไม่ได้ แม้บางครั้งรู้ว่าเลวแต่ก็รัก บางทีรู้ว่าเขาไม่รักแต่ก็ยังอยากทำให้ ฉันว่าเธอรอเย้ยไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่ดีกว่าหรอห๊ะ ทำตัวให้มีค่าให้ดูดีสักวันก็คงมีคนที่รักเธอโดยที่เธอไม่ต้องพยายามด้วย แล้วก็ขอบคุณมันด้วยที่ทิ้งไปให้เธอได้รู้จักเลือกรักใครที่ดีๆ ” ภัสสรเงยหน้ามองคนที่รอสบสายตาของเธออยู่ก่อนแล้ว ไม่คิดว่ามนุษย์เถื่อนที่หล่อนปลื้มนั้นจะมีทฤษฏีโลกสีชมพูอยู่ด้วย ...ภัสสรหายเศร้าตั้งแต่ที่เห็นเขามายืนบังฝนให้เธอแล้ว...... ยิ่งเจอคำคมกวีเด็ดๆจากเขา ยิ่งหลงปลื้มไปอีก “ รู้แล้วๆ บ่นจริงเลย ” “ อีกอย่าง! ฉันไม่เคยเห็นปมด้อยของใครเป็นเรื่องสนุก ตรงกันข้ามฉันกลับมองพวกคนที่คิดว่าคนที่เห็นปมด้อยคนอื่นเป็นเรื่องสนุก คนพวกนั้นต่างหากคงมีปมด้อยมากกว่า ” เขาเบ้ปากอย่างเอือมๆ “ อืม ฉันจะคิดแบบนาย ” “ งั้นเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้นฉันยอมตามใจเธอจนถึงตีห้าพรุ่งเลย ” ภัสสรรีบก้มมองนาฬิกานี่ก็จะสองทุ่มแล้วรณภพยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นปฏิกิริยาของสาวเจ้าที่ไม่เหลือวี่แววว่าจะร้องไห้ต่อเลย......เธอไม่รู้เลยรึไงว่าจุดด้อยจุดอ่อนมันเป็นจุดเด่นของเธอไปแล้ว ทั้งรูปร่างและหน้าตาไม่มีแล้วปมด้อยอะไรนั่น ที่สะดุดและเป็นเอกลักษณ์ไม่เปลี่ยนก็คือรอยยิ้มตรงแก้มบุ๋มนั่นแหล่ะคือจุดเริ่มต้นหลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าที่ห้างเปลี่ยน ที่ตอนนี้กลายเป็นเขาต้องมาเดินตามต้อยๆคุณหนูสาวที่เดินช็อปปิ้งกระจายหาเรื่องแท้ๆเลยมึงเอ้ย เขาสบถให้ตัวเอง เขายังคงเดินตามถือของและทำตามที่เธอต้องการปากเปราะเสียจริงลืมนึกไปว่าคุณหนูที่มีแต่คนเอาใจเมื่อมีข้อเสนอยื่นให้เกิดถูกใจ....คิดหรือว่า?....เธอจะปฏิเสธ.......มินตราค่อยๆลืมตาขึ้นมาในเช้าอีกหนึ่งวัน คุณหญิงมณีจึงตรงเข้าไปกอดลูกสาวเอาไว้แน่น “ มินตื่นแล้วหรอลูกเป็นยังไงบ้างค่อยๆลุกนะลูก ” “ มินรู้สึกเจ็บท้องค่ะแม่ แล้วลูกมินหล่ะค่ะ แม่ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ”มินตราเริ่มผวาเมื่อเธอสัมผัสหน้าท้องเธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอมีอาการตกเลือดทำไมเธอเจ็บท้องแล้วความฝันก่อนหน้านั้นที่หนุ่มน้อยเดินหายไปจากเธอคืออะไร “ มินใจเย็นๆนะลูก ” “ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ลูกของหนู ” “ เขาไม่อยู่แล้วลูก หนูเสียเลือดมากคุณหมอต้องขูดมดลูกเพื่อช่วยชีวิตมินไว้ ” “ ไม่จริงอ่ะ แม่โกหกใช่ไหม ลูกหนูกับพี่วิช แม่โกหกใช่ไหม ฮือๆ แล้วพี่วิชหล่ะคะแม่ พี่วิชเขาปลอดภัยใช่ไหมคะแม่ ใช่ไหมฮือๆ ” “ ใจเย็นก่อนนะลูก คุณวิชเขาปลอดภัยหนูอยากไปหาเขาไหม ” “ จริงนะคะ เขาปลอดภัยจริงนะคะ ” ถึงแม้เธอจะเศร้าใจเรื่องลูกแต่ ภวิชปลอดภัยความหวังเธอก็ยังไม่โดนพังหมดซะทุกอย่าง ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นน้ำตาของลูกก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามเธอสงสารลูกสาวคนเดียวอย่างจับใจแต่เมื่อโชคชะตาให้ลูกเธอเจอแบบนี้ เธอคงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ตอบอะไรมากนอกจากพยักหน้า มินตราถูกพยุงให้นั่งรถเข็นแ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ภัสสรใช้เวลาพอสมควรกว่าจะ มาถึง “ ถึงแล้ว ลงมาสิ ” “ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอคะ ” “ ฉันคงพาเธอมานั่งรถเล่นมั้งจะไปไหมเร็วๆเข้า ” “ อ๋อค่ะๆ ” มินตราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวแล้วรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่พามาเริ่มหงุดหงิดแต่เธอก็ไม่เคยคิดโกรธภัสสรเลยเธอกลับชอบเพราะภัสสรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเธอเองมินตราก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลายเธอสงสัย เธอกังวลหรือเธอกำลังกลัวกันแน่ ภัสสรสรเดินนำมินตราไปจนหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง “ แกร๊ก ” “ ถึงแล้วเข้าไปสิ ” ภัสสรยืนพิงประตู เบี่ยงหลบทางให้มินตราที่ทำท่าชะเง้อชะแง้มองดู มินตรากล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปในห้องเธออยากพบภวิชนะแล้วภัสสรพาเธอมาเยี่ยมใครกัน มินตราเดินใกล้เข้ามายังเตียงผู้ป่วยก็พบกับทั้งพ่อแม่ภวัตต์และรฏาในห้อง เท่านั้นยังไม่พอทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียวคำพูดต่อมาของภวัตต์ทำให้มินตราก้าวขาไม่ออก “ วิช มินมาหา นายลืมตามาดูเธอหน่อยสิฉันรู้ว่านายคิดถึงเขา ” เปลือกตาภวิชที่ขยุบขยิบเหมือนกับได้ยินสิ่งที่ภวัตต์บอกแต่ปฏิกิริยาไม่มีการตอบสนองที่ทำให้รู้ว่าเขาฟื้น มินตรามอ
“ พี่แหวน พี่มองหาใครหรอค่ะ ” “ อ้าวคุณมิน เปล่าค่ะ พี่แค่กำลังมองหารถคันนึงหน่ะค่ะ จะชอบมาจอดหน้าบ้านเราเป็นเวลานานๆ แต่สองสามวันมานี่ไม่เห็นแล้วหล่ะคะ ไม่รู้ว่าพวกโรคจิตหรือเปล่านะคะ จอดรถหน้าบ้านแต่ไม่มีคนลงจากรถเลย ” มินตรามองไปยังหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามสายตาสาวใช้ที่บอกไป “ พี่แหวนคิดมากไปหรือเปล่าคะเขาอาจจะเป็นญาติฝั่งตรงข้ามนะคะ ” “ จริงๆนะคะคุณมิน ” “ ชั่งเถอะค่ะ ” “ อะๆ นั่นไงคะรถคันนั้นไงคะคุณมิน ” “ หืม ” มินตราชะงักเท้าที่เธอเพิ่งจะหันหลังกลับเข้าบ้านรถหรูหราที่ หน้าตาคุ้นเคย แล่นมาจอดหน้าบ้านตามคำพูดของสาวใช้มินตราไม่รอให้สาวใช้ตรงไปเปิดประตูเธอเลือกก้าวขาไปหาเอง “ แกร๊ก ” เสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและเธอก็ได้เห็นร่างสง่างามสมส่วนของสายชลที่ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ “ สวัสดีครับคุณมิน ” “ สวัสดีค่ะคุณสายชล ” “ คุณมินสบายดีไหมครับ ” “ ก็อย่างที
ตกกลางคืนภวิชเริ่มมีสติหลังจากดื่มน้ำเมาแล้วยังทะเลาะอย่างรุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักอีก เขาอดห่วงมินตราไม่ได้จริงๆจึงต้องหวนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อมาหาเธอ คุณหญิงมณีที่อยู่ภายในห้องแต่ทำไมในห้องถึงมีอดีตเพื่อนรักอย่างโทนี่อยู่ด้วยเขาเอานิ้วมือเรียวแตะที่กระจกเพื่อสัมผัสใบหน้า มินตราผ่านอากาศที่หลังจากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์สัมผัสชิดใกล้กับเธออีกแล้ว “ มินพี่ไม่รู้ว่าลูกจะได้อยู่กับพวกเราไหม แต่ถ้าหากลูกได้อยู่ บอกรักเขาแทนพี่ด้วยนะมิน ” น้ำตาไหลลงอีกครั้งนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ “ ไอ้เสี่ยชัย!!! ฉันไม่ปล่อยแกไว้ให้แกทำร้ายลูกกับเมียฉันซ้ำสองแน่!! ” เขาทิ้งความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายไว้ให้กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขาก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นแข็งกร้าวและข่มเสียงพูดถึงคนที่ทำร้ายดวงใจของเขา ด้วยความแค้นสุมอก มีใครเคยบอกไหมว่าอย่าให้คนอย่างเขาแค้น เพราะนั่นหมายถึงแค้นฝั่งหุ่นทั้งเป็นและตาย เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอันตรายไปอีกแล้วมันมากไปแล้วที่ผ่านมา
ภวิชที่ทำแผลเสร็จตอนนี้เขาพันแผลที่หัวไหล่แล้วเรียบร้อย เขาก็รีบตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉินทันที เป็นเวลาที่หมอออกมาจากห้องผ่าตัด “ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ ” “ ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดนำกระสุนออกมาแล้วนะครับแต่อาการเธอตอนนี้ยัง...” “ เกิดอะไรขึ้นครับหมอ คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” “ เอ่อ คือหมอคิดว่าคุณคงทำใจไว้สักนิดนะครับ ” “ หมายความว่าไงคะหมอ ” รฏาเริ่มใจคอไม่ดี “ เธอมีอาการตกเลือดหน่ะครับ คุณต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะครับเธออาจสูญเสียเด็กในท้อง ” “ เด็กในท้อง หมายถึง ละ ลูกหน่ะหรอ ” ภวิชพูดจาติดขัดเขาพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน สายชล ภวัตต์ รฏา รวมถึง กฤษที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นภวิช “ เฮ้ย! วิช ” ภวัตต์รีบเข้ามาพยุงน้องชายที่เข่าอ่อนลงทันทีที่หมอพูดจบ มินตราท้องหรอ ที่สาวน้อยเขาเพลียบ่อยๆตอนนั้นที่เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงเหนื่อยง่ายๆ เพราะเธอท้องงั้นหรอ แล้วทำไม ทำไมมินถึงใจร้ายไม่ยอมบอกเขาไม่ยอมให้เขาทำหน้าที่พ่อของลูกบ้าง ภวิชเหมือนคนหูอื้อไม่ได้
- แต่งงานกันนะครับ- ทันทีที่เพลงเล่นจบลงภวิชก็ดึงมือทั้งสองของมินตรามากุมไว้ในขณะที่เขายังคงคล้องแซกโซโฟนอยู่เขาใช้นิ้วมือปาดน้ำตาของคนสวยที่เปื้อนตรงแก้มใสอย่างอ่อนโยนแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเขาย่อตัวไปหยิบกล่องแหวนขึ้นมาแล้วมองกล่องแหวนในมือภาวนาขอให้มินตราตอบรับเขา “ ว่ายังไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม พี่จะทำให้มินมีความสุขที่สุด ” “ คุณวิชคือมิน.....” “ ว่ายังไงครับ ” “ มิน ไม่........ ” “ ฟุ้บ ปังๆๆๆ ” เสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัดทำให้ความโรแมนติกทุกๆ อย่างหมดสิ้นลง เสียงระเบิดที่ดังขึ้นท้ายเรือทำให้มินตราตกใจ ภวิชคว้าดึงมินตราเข้ามากอดเขาหันมองซ้ายขวา สายชลที่คอยช่วยเหลือควบคุมระบบไฟอยู่บนสุดของเรือในห้องกัปตัน ลูกน้องบางส่วนที่กระจายคอยดูอยู่รอบๆ เขาไม่ได้บอกมินตราเรื่องนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ “ วิช ” “ วัตต์นายรีบพามินลงไปจากเรือลำนี้ที ฉันจะดูทางนี้ให้ ” “ แล้วคุณหล่ะคะวิช ” รฏาเป็นฝ่ายถาม สมองมินตราสับสนไปไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ผมจะดูต้นทางให้รีบลง