รักเก่าที่มาพร้อมกับความทรงจำ
ภายในครัวของคาเฟ่ในรีสอร์ตอรุณกร พนักงานแผนกทำเบเกอรี่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงไม่กี่วัน กำลังคร่ำเคร่งกับการอบขนมอยู่หน้าเตา
ใบหน้าเกลี้ยงเกลาชื้นเหงื่อ ขณะที่เจ้าตัวยกถาดขนมออกจากเตาอบ
เค้กกล้วยหอมแบบคลีน มีผิวหน้าสีน้ำตาลอ่อนแต้มด้วยสีน้ำตาลเข้มของช็อกโกแลตชิพ กลิ่นหอมอวลไปทั่วห้องครัวของร้าน กระทั่งคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา อุทานว่า
“กลิ่นหอมมาก อยากชิมแล้ว”
“รอให้เย็นก่อนค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะถูกปากพี่แพรไหม แต่ยังไงก็ปรับสูตรได้ค่ะ” หญิงสาวบอกผู้จัดการคาเฟ่อย่างคนถ่อมตัว
“เอาตามสูตรคลีน หวานน้อยอร่อยมากของดาเถอะ พี่ว่ายังไงก็ถูกใจสายรักสุขภาพอยู่แล้ว”
“ค่ะ” ดาริณขานรับ เธอเพิ่งมาทำงานในคาเฟ่ของรีสอร์ต
อรุณกร เมื่อสามวันก่อน ในตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายเบเกอรี่ทางร้านมีสูตรทำเบเกอรี่อยู่แล้ว แต่เธอเสนอสูตร
โฮมเมดสายคลีน ซึ่งเป็นสูตรที่เธอทำกินบ่อยๆ วัตถุดิบก็มีเพียงข้าวโอ๊ต กล้วยหอม เนยถั่ว นมโปรตีนจากพืช เพิ่มความหวานด้วยช็อกโกแลตชิฟตามความชอบ เติมกลิ่นวานิลลา ผงฟู และเกลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อบด้วยความร้อน 180 องศาฯ สิบห้านาที ก็ได้เค้กกล้วยหอมแบบนุ่ม และหวานกำลังดีเมื่อเย็นแล้ว เธอก็ตัดให้แพรไหมชิม คำแรกเข้าปาก อีกฝ่ายก็ทำตาโต
“อู้ย อร่อย หวานกลมกล่อมกำลังดี ขอพี่ชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้นเลยค่ะ จากนั้นก็ยกไปหน้าร้านได้เลยจ้ะ”
ดาริณยิ้มปลื้มกับคำชมของผู้จัดการร้าน เธอเองก็หวังไว้มากกับการทำงานที่นี่อย่างราบรื่นและมีความสุข
เพราะดาริณเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง บ้านเกิดเธออยู่อีกอำเภอหนึ่ง ไม่ได้ไกลจากที่นี่มากนัก แต่ที่นั่นมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุข
หวังจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่กับลูกชายคนเดียว ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ซึ่งไม่ว่าชีวิตจะผ่านความยากลำบากอย่างไร
ดาริณก็จะไม่มีวันท้อ จะพยายามทำทุกอย่างให้ชีวิตดีขึ้น เพื่ออนาคตของลูกดาริณเคยมีความฝันอยากมีคาเฟ่เล็กๆ เป็นของตัวเอง หลายปีที่ผ่านมาเธอพยายามทำตามความฝัน แต่ทุกอย่างก็พังหมด เพียงเพราะว่า...ไม่รู้จะโทษอะไร
โชคชะตา ตัวเธอเอง หรือทั้งสองอย่าง
แต่ไม่ว่าจะโทษอะไร สุดท้ายก็บอกตัวเองว่าต้องพยายามและสู้ต่อไป เพราะความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเธอจริงๆ คืออนาคตที่ดีของลูกเท่านั้น
ดาริณยิ้มปลื้มกับตัวเองเมื่อเค้กสูตรโฮมเมดของเธอขายหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ต้องทำเพิ่ม มันอาจไม่ได้อร่อยมาก แต่เพียงเป็นเบเกอรี่สูตรใหม่ของทางร้าน ลูกค้าเลยอยากชิม
วันนี้หัวหน้าแผนกเบเกอรี่ลางาน เพราะลูกสาวป่วย ดาริณก็เลยอบขนมกับมาริสา ซึ่งเป็นผู้ช่วยอีกคน ตอนนี้อีกฝ่ายไปกินข้าว ซึ่งพนักงานของร้านทุกแผนกต้องสลับเวลากันไปกิน
โรงอาหารสำหรับพนักงานนั้น อยู่อีกด้านหนึ่งของของบริเวณรีสอร์ต ส่วนคาเฟ่กับร้านอาหารอยู่ไม่ไกลกัน เพราะฉะนั้นในคาเฟ่ จึงไม่มีอาหารคาวขาย นอกจากเบเกอรี่กับเครื่องดื่มเท่านั้น
คาเฟ่เป็นเรือนชั้นเดียว กระจกรอบด้าน สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ทุกมุมของร้าน แต่มีส่วนเอาท์ดอร์ที่ร่มรื่น เพราะนอกตัวร้านตกแต่งสไตล์สวนหย่อม
เธอชอบที่นี่...ไม่ใช่เพียงเพราะสวย แต่ครั้งหนึ่งเธอกับคนรักเคยพากันมาพักผ่อนในวันครบรอบสามปีที่คบหากัน
ทั้งที่เขาไม่ใช่คนที่มีเงินมากมาย แต่อีกฝ่ายก็แบ่งเงินเดือนที่เก็บไว้เพื่อสร้างอนาคตด้วยกัน พาเธอมาเที่ยวรีสอร์ตสวยๆ และราคาที่พักค่อนข้างแพงสำหรับคนทั่วไป
ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ดีของเธอกับธีธัส
ซึ่งไม่รู้ว่าป่านนี้ เขา...จะหายเกลียดเธอหรือยัง
คงไม่...เพราะสิ่งที่เธอทำกับเขา เป็นเรื่องที่อภัยไม่ได้ ความเกลียดชังของเขาก็เป็นสิ่งที่เธอควรได้รับอยู่แล้ว เธอรู้ดี
ดาริณทำงานอย่างเพลิดเพลินกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน คือห้าโมงเย็น เพราะเธอเข้างานตั้งแต่ 9 โมงเช้า
จากนั้นก็รีบไปรับลูกจากโรงเรียน ลูกอายุห้าขวบครึ่ง เรียนอยู่อนุบาลสาม เลิกเรียนสองโมงครึ่ง แต่เธอก็ต้องฝากลูกไว้กับครูพี่เลี้ยงที่รับสอนทำการบ้านให้เด็กๆ กระทั่งเวลาเลิกงานของเธอ
ดาริณมาถึงโรงเรียนลูกชายในเวลาห้าโมงครึ่ง ถือว่าเย็นมาก สำหรับเด็กอนุบาลที่เลิกเรียนตั้งแต่สองโมงครึ่ง แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะเธอก็ยังไม่มีเงินจ้างพี่เลี้ยง ได้แต่จ้างครูพี่เลี้ยงให้ดูแลต่อหลังเลิกเรียน
เหมือนเช่นทุกวัน ลูกชายของเธอเป็นเด็กอนุบาลคนสุดท้ายที่รอผู้ปกครองมารับ
"""""""""""""""""""
ดาริณทนเสียงเหล่านั้นได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องที่ลูกชายเธอถูกล้อในเรื่องพ่อนั้นแหละ ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดของเขาจริงๆมันเป็นความผิดพลาดของเธอเอง ในวันนี้ที่ลูกชายดีใจกับการได้เรียกธีธัสว่า ‘พ่อ’ เพราะที่ผ่านมาก็รู้สึกผิดกับลูกมาตลอด“ใช่แล้วลูก ลุงธีเป็นพ่อของน้องดรีม” ดาริณบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอไม่รู้ว่าลูกเข้าใจมากน้อยแค่ไหนกับคำพูดเธอ แต่ตอนนี้ลูกก็ยังเล็กเกินกว่าจะอธิบายอะไรที่มากกว่านั้นธีธัสจึงโอบบ่าเธอ จูบข้างขมับอย่างปลอบโยนในค่ำคืนนั้นดาริณก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยบนปุยเมฆ เมื่อเธอถูกร่างสูงดึงไปเอนตัวบนเตียงกว้างด้วยกัน สามคนพ่อแม่ลูก โดยมีลูกนอนอยู่ตรงกลาง มีเสียงทุ้มนุ่มเล่านิทานเรื่องพิน็อกคิโอ กระทั่งเจ้าตัวเล็กหลับไปแล้ว ส่วนเธอกำลังเคลิ้มหลับ เขาก็ขยับมานอนข้างเธอแล้วกระซิบบอก“ต่อไปนี้ถ้าดามีเรื่องอะไร ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ สัญญาได้ไหมว่าจะบอกพี่ เราจะแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยกันอย่างมีสติ และเราจะผ่านมันไปด้วยกันให้ได้”ธีธัสไม่มีความลังเลอีกต่อไปสำหรับการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่กับดาริณ เพราะเขาอยากมีความสุขอีกครั้ง อยากสร้างครอบค
ครอบครัว ดาริณตื่นขึ้นมาในตอนสายด้วยความรู้สึกระบมเนื้อตัวเล็กน้อย และพบว่าลูกชายไม่ได้อยู่บนเตียง เธอจึงรีบอาบน้ำ เห็นร่างเปลือยตัวเองบนกระจก มีรอยจ้ำแดงจากการถูกธีธัสดูดขบตามเนื้อตัว โดยเฉพาะทรวงอก ที่คออีกเล็กน้อย ดารินจึงใส่เสื้อเชิ้ตขาว ปิดกระดุมยันเม็ดบนสุด จากนั้นก็หยิบกางเกงห้าส่วน ผ้าลินินที่เขาซื้อให้วันก่อนมาใส่ ลงมาข้างล่างก็พบสองพ่อลูกกำลังนั่งเล่นเปียโนกันอยู่ดูเหมือนธีธัสกำลังสอนลูกไล่ตามตัวโน้ต พอเห็นเธอ ลูกชายก็ส่งเสียงร้อง“แม่คับ มาฟังดรีมเล่นเปียโน”ดาริณส่งยิ้มอ่อนโยนให้ลูก ขณะเดินมาหยุดข้างๆ ลูกชายที่กำลังใช้นิ้วป้อมๆ กดไปตามคีย์ เป็นตัวโน้ตทั้งเจ็ด โด เร มี...กระทั่งไปสุดที่เสียงโด“ต่อไปวันเสาร์ น้องดรีมจะต้องเรียนเปียโนกับว่ายน้ำแล้วกัน เรียนแค่ครึ่งวันพอ ตอนบ่ายก็เล่นบอล หรือไปเล่นสนามเด็กเล่นของรีสอร์ตก็ได้ แต่เร็วๆ นี้ลุงจะทำสนามเด็กเล่นที่บ้านด้วย ส่วนวันจันทร์ถึงศุกร์หลังเลิกเรียนแล้วให้แม่สอนการบ้าน กับอ่านหนังสือ วันอาทิตย์ก็ไม่ต้องทำอะไร ถ้าน้องดรีมอยากไปเที่ยวที่ไหน ก็ได้ทั้งนั้น”“ดรีมอยากไปเที่ยวสวนสัตว์ อยากไปเที่ยวทะเล อยากไปเล่นหิมะ อยากไป...”
“ดา ดาของพี่ อืม อ่าห์ ซี้ด..” ธีธัสบัดนี้ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบันที่เขาโหยหาร่างกลมกลึงนี้มานาน เขาแค่อยากกระแทกเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่งเขาเปลี่ยนท่าหลายครั้ง กระทั่งมาหยุดที่ให้เธอก้มโก้งโค้งเกาะขอบโซฟา แล้วเขากระแทกเข้าหาจากด้านหลัง บีบและขยำสะโพกกลมกลึงเธอเพื่อควบคุมจังหวะ บางครั้งก็ตีก้นขาวงามงอนอย่างมันเขี้ยว“อ๊าย พี่ธีขา ดา ใกล้...อือ อ๊าย” ดาริณตัวเกร็งสะท้าน ขณะที่ร่างใหญ่เบื้องหลังก็อัดกระแทกเข้าหารัวๆ ก่อนที่เขาจะครางเสียงดัง ตัวเกร็งสะท้าน แล้วซุบซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอดาริณนิ่งอยู่ในท่าเดิมนานแล้ว แต่ร่างใหญ่ก็ยังไม่ผละออกห่าง ทั้งที่ปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวเธอจนหมดแล้วเป็นการกอดที่ไม่ได้เห็นหน้า แต่เธอรับรู้ไออุ่นที่ชื้นเหงื่อ มันไม่ต่างจากวันวานที่เคยเสร็จสม เขาจะชอบคลอเคลีย จูบแก้ม จูบไปทั่วดวงหน้า ทว่าตอนนี้เขาแค่กอดอย่างเดียว“ปล่อยได้แล้วค่ะ จะไปอาบน้ำนอน ดึกแล้ว”“พรุ่งนี้วันอาทิตย์”“วันอาทิตย์ดาก็ทำงานค่ะ”“พรุ่งนี้พี่จะโทร. ไปลาให้”“แต่...” ยังไม่ทันจะโต้ตอบด้วยซ้ำ เขาก็ผละออก แต่ดาริณยังไม่ได้ขยับตัวในท่าอื่น ก็ต้องหวีดร้องอย่างซ่านเสี
“พี่ธี อย่า...อ๊า” ดาริณห้าม แต่สุดท้ายกลับร้องครางอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อมือใหญ่นั้นเคล้าคลึงทรวงอกอวบของเธอ ก่อนสอดเข้าไปในชายเสื้อ ปลดบราฯ เธอออกอย่างง่ายดาย นิ้วโป้งก็ปาดไปยังยอดอกที่แข็งเป็นไตดาริณหมดแรงจะพาตัวเองออกจากห้วงอารมณ์หวามหวิว เธอได้แต่ร้องครางแผ่ว ดวงตาฉ่ำปรือนั้นหลับพริ้มดื่มด่ำกับความซ่านเสียวที่ร้างราจากสัมผัสของผู้ชายคนนี้ไม่กี่นาทีต่อมาเสื้อเธอก็หลุดจากตัว ริมฝีปากอุ่นผ่าวก็ครอบลงดูดยอดอก ดูดเบาๆ แต่ดาริณถึงกับร่างสะท้านด้วยความกระสัน“อ๊า พี่ธี...”ธีธัสเองก็เหมือนจะลืมทุกอย่างไปแล้วจริงๆ ตอนแรกแค่อยากจะหยั่งความรู้สึกของดาริณ ว่ายังรู้สึกกับร่างกายเขามากน้อยแค่ไหนตอนนี้เขารับรู้ว่ายังมีอิทธิพลเหนือจิตใจและร่างกายของดาริณเหมือนเดิม ตอนนี้อารมณ์และท่าทีของเธอเหมือนเด็กสาวในวันวานที่มีอะไรกับเขาครั้งแรก และยิ่งมันทำให้ธีธัสหมดความอดกลั้นเขาดูด ขบ เม้ม ทรวงสล้างที่ทั้งขาว อวบและขยายใหญ่กว่าเดิมด้วยความหลงใหล ลิ้นสากเขาลากเลียยอดอกรัวเร็ว จนดาริณครางเสียงดัง แอ่นอกขึ้นรับสัมผัสอย่างซ่านเสียว ร้องเรียกชื่อเขาไม่ต่างจากวันวานที่เคยร่วมเสน่หาดาริณสอดนิ้วเข้าไปในเร
พิศวาสหวนคืนวันนี้ลูกชายหลับเร็วกว่าทุกวัน อาจเพราะเหนื่อยจากการออกไปนอกบ้าน แถมกลับมาก็เล่นเตะบอลและว่ายน้ำอีกดารินเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อจะเปลี่ยนจากชุดอยู่บ้านตอนลงไปกินข้าว เป็นชุดนอนสบายๆ ของเธอซึ่งเป็นเสื้อยืดตัวหลวมโพรกสีขาว และกางเกงขาสั้นผ้า ซาตินชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นร่างสูงที่ดูเหมือนกำลังจะเปลี่ยนชุดนอนเช่นกัน เขาเพิ่งถอดชุดอยู่บ้านออกจากตัว ตอนนี้ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอก กล้ามแขนและซิกแพ็กให้เธอลอบกลืนน้ำลายและตอนนี้เขากำลังจะถอดกางเกง“เดี๋ยว คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะ!” ดาริณพูดขึ้น ขณะเดินไปยังตู้เก็บเสื้อผ้าของตัวเอง ซึ่งอยู่คนละมุมกับตู้เสื้อผ้าของเขา“ทำเหมือนไม่เคยเห็น” ธีธัสแค่นเสียงใส่ แล้วถอดกางเกงขาสั้นออกจากตัว โดยไม่สนใจสายตาตกตะลึงของดาริณแน่นอนเธอเคยเห็นเขาเนื้อตัวเปลือยเปล่ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีอะไรที่เธอกับเขาจะเป็นความลับต่อกัน แต่สถานะของเธอกับเขาในตอนนี้ มันสมควรจะต้องเปิดเผยเรือนร่างต่อกันขนาดนี้ไหมแล้วถอดออกจนไม่เหลือสักชิ้น แทนที่จะรีบหยิบชุดนอนมาสวมใส่ กลับยืนเปลือยนิ่ง แล้วยังหันหน้ามาทางเธอ ที่ยังตกตะลึงอ้าปากค้าง เพราะคำพูดมั
เธออดไม่ได้จะลอบมองร่างสูงที่แผงอกกว้าง กล้ามแขนแน่น หน้าท้องเต็มไปด้วยซิกซ์แพ็ก ตัวเขาใหญ่ หนาขึ้นกว่าเมื่อก่อน นั่นยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูดสายตา และดึงดูดบางอย่างในกายเธอให้ร้อนผ่าวดาริณเก้อเขินเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ ดวงตาคมกริบนั้นก็หันมาทางเธอดาริณจึงหมุนตัวเข้าไปในห้องแต่งตัว ใส่ชุดว่ายน้ำบ้าง แม้จะเป็นชุดที่มิดชิด ทั้งเป็นแขนยาว ปิดถึงคอ แต่ชุดก็เข้ารูป เห็นสัดส่วนของเธอชัดเจนปกติรูปร่างของดาริณก็ถือว่าตัวเล็ก แต่ซ่อนรูป เพราะมีเอวคอดกิ่ว แม้จะผ่านการคลอดลูกมาแล้ว รูปร่างเธอไม่ได้เปลี่ยน กลับทำให้มีหน้าอกขยายขึ้น สะโพกก็ผายออกกว่าแต่ก่อนดาริณสวมหมวกว่ายน้ำ คาดแว่นตาไว้ที่ศีรษะ เดินออกไปยืนล้างตัวที่ข้างสระ โดยที่ไม่มีโอกาสเห็นสายตาคมกริบของคนที่อยู่ในสระที่กำลังสอนให้ลูกฝึกตีขา โดยให้เกาะอยู่บนโฟม และมีเขาช่วยพยุงตัวธีธัสกวาดมองทั่วร่างกลมกลึงนั้นอย่างสำรวจ เขายอมรับดาริณก็ยังเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างดึงดูดสายตาและอะไรบางอย่างในตัวเขาได้เสมอแม้เขาจะสรรหาผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอ ทั้งหน้าตาและรูปร่างเพื่อสนองเรื่องบนเตียง ทว่าก็ไม่มีใครสามารถทำให้เขารู้สึกเหมือนตอนที่ได้ทำกับ