Masukบทที่ 11
กรงทอง
วันต่อมา
สายขิมเดินกลับไป กลับมาอยู่ในห้องนั่งเล่น มือเธอถือแก้วกาแฟร้อนที่เพิ่งชงเสร็จ
“ขิม เป็นยังไงบ้างแก”
“จุ๊บ…” สายขิมเบะปากพร้อมวางแก้วกาแหแล้วเดินเข้าไปกอดเพื่อนสนิท น้ำตาอุ่นๆ ไหลรินพร้อมเสียงร้องไห้งอแงราวกับเด็กน้อย จุ๊บแจงลูบหลังเธอเบาๆ เพื่อปลอบ
เสียงสะอื้นค่อยๆ แผ่วลงหลังจากได้ปลดปล่อยออกมา สายขิมดึงตัวออกจากอ้อมกอดเพื่อนสนิท เช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนสูดหายใจเข้าลึก พยายามเรียกสติกลับมา
“แก…ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” น้ำเสียงสั่นเครือแฝงด้วยความหวาดระแวง “แค่คิดว่ามันอาจจะมาอีกเมื่อไรก็ได้ ฉันก็แทบไม่กล้าอยู่คนเดียว”
จุ๊บแจงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วแกจะทำยังไงต่อ”
“ฉันจะเร่งให้คอนโดใหม่เสร็จเร็วที่สุด” เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ผู้ประสานงาน “อยู่ใกล้พวกบอดีการ์ดของโทมัส ฉันคงอุ่นใจกว่าที่นี่”
ไม่นานเสียงปลายสายดังขึ้น เธอก็พูดทันที
“คุณคะ เรื่องการปรับแต่งห้อง ขิมอยากให้เสร็จก่อนกำหนดค่ะ…ค่ะ รบกวนช่วยเร่งงานให้ทีนะคะ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไม่ต้องกังวล ขิมจ่ายทั้งหมด ขอให้เสร็จเร็วที่สุดก็พอ”
หลังจากวางสาย เธอก็เอนตัวลงบนโซฟาเหมือนหมดแรงอีกครั้ง สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย แต่ริมฝีปากกลับพึมพำเบาๆ เหมือนให้กำลังใจตัวเอง
“แค่ย้ายเข้าไปเร็วๆ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น…”
จุ๊บแจงนั่งลงข้างๆ พลางกุมมือเพื่อนแน่น
“แกไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะช่วยดูทุกอย่างเอง จนกว่าห้องใหม่แกจะพร้อม”
“ขอบคุณแกมากนะ”
“ช่วงนั้ฉันจะมาอยู่กับแกก่อน เอาไว้ย้ายเข้าคอนโดใหม่ค่อยว่ากันอีกที”
“อือ…”
ในเวลาใกล้เที่ยง
โทรศัพท์เครื่องหนึ่งสั่นเบาๆ บนโต๊ะทำงานไม้เนื้อเข้มภายในห้องโทมัส ชายหนุ่มละสายตาจากเอกสารเพียงชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสาย
(สวัสดีครับคุณโทมัส ผมโทรมาแจ้งเรื่องการตกแต่งคอนโดครับ)
“อืม ว่า?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยสั้นๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก
(คุณสายขิมเพิ่งติดต่อเรามาเมื่อเช้านี้ เธอเร่งให้ทางทีมงานทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนกำหนดครับ เธอบอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเองทั้งหมด และต้องการย้ายเข้าอยู่ให้เร็วที่สุด)
โทมัสเงียบไปครู่หนึ่ง นิ้วเรียวยาวเคาะเบาๆ ลงบนแฟ้มงานตรงหน้า ดวงตาคมไร้ประกายสะท้อนอารมณ์ใดๆ
“อืม ทำตามที่เธอต้องการไป”
(ครับ แต่ทางทีมงานอยากทราบว่า คุณโทมัสมีข้อสั่งการเพิ่มเติมหรือจะให้แก้ไขตรงไหนไหมครับ)
“ไม่จำเป็น” น้ำเสียงเรียบเย็นขาดความลังเล “เธออยากได้แบบไหน ก็ทำไปตามนั้น”
(รับทราบครับ)
เมื่อสายสิ้นสุดลง ความเงียบก็กลับเข้าครอบคลุมห้องทำงานอีกครั้ง โทมัสเอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาลงเล็กน้อยเหมือนกำลังชั่งใจ แต่ในที่สุดก็เพียงถอนหายใจแผ่ว ก่อนกลับไปเปิดเอกสารตรงหน้าอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย
สองวันต่อมา
คุณอ้นเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยท่าทางสุขุม เขาโค้งตัวเล็กน้อยแล้วเริ่มรายงาน
“คุณสายขิมไม่ได้ออกไปไหนครับ ตลอดสองวันมานี้เธออยู่ในห้องกับคุณจุ๊บแจง”
“อืม”
“ส่วนห้องก็น่าจะเสร็จภายในอาทิตย์นี้ครับ”
“อืม”
“แล้วก็”
คราวนี้โทมัสเงยหน้ามองลูกน้อง เขามองเอกสารที่คุณอ้นยื่นมาให้
“งานประมูลเพื่อการกุศลครับ มีการ์ดเรียนเชิญนายกับคุณสายขิมไปร่วมด้วย”
“เพิ่งมาเหรอ”
“ครับ เขาเพิ่งเอามาให้เมื่อเช้านี้”
“งั้นก็แจ้งสายขิมให้เตรียมตัว”
“ครับนาย”
“บอกเดี่ยวไปดูแลความเรียบร้อยที่คอนโดเธอด้วย”
“ครับ”
คอนโดฯ สายขิม
“งานประมูลเพื่อการกุศลเหรอคะ”
“ครับ”
“อาทิตย์หน้าเองนี่นา น่าจะเตรียมตัวทันค่ะ”
“แล้วก็นี่ครับ คุณผู้หญิงให้คุณสายขิมใส่เครื่องเพชรชุดนี้ออกงาน”
“อ๋อ ขอบคุณค่ะ” เธอรับกล่องเครื่องเพชรมาถือไว้ และมองมันอย่างชั่งใจ
“ผมขอตัวนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณที่เป็นธุระให้นะคะ” สายขิมส่งยิ้มให้กับลูกน้องของโทมัส แล้วหันหลังเดินกลับไปนั่งลงที่เดิม ในหัวยังคิดเรื่องนั้นซ้ำๆ จนไม่กล้าออกไปไหนหรือทำอะไร และงานประมูลนี่ก็ทำให้เธอเป็นกังวลเช่นกัน
หลายวันต่อมา
คอนโดใหม่ถูกจัดแต่งเกือบเสร็จสมบูรณ์ เฟอร์นิเจอร์หรูหราวางเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ แสงไฟนวลอบอุ่นสะท้อนผิวพื้นเงาวับ บรรยากาศงดงามราวคฤหาสน์ย่อส่วน แต่สำหรับสายขิมแล้ว มันกลับให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากกรงทองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อกักขัง
เธอยืนมองรอบห้องนั่งเล่น กรอบรูปวันแต่งงานที่แม่ของโทมัสสั่งให้นำมาตั้งเด่นหราอยู่ตรงผนังหลัก ขณะที่โต๊ะทำงานถูกจัดวางภาพพรีเวดดิงเล็กๆ อย่างบรรจง สิ่งเหล่านั้นไม่เคยทำให้เธอรู้สึกถึงบ้านเลยแม้แต่น้อย กลับกลายเป็นเหมือนหลักฐานที่ตอกย้ำข้อตกลงแต่งงานที่ไร้ความรัก
สายขิมวางกล่องเครื่องเพชรลงบนโต๊ะกระจกกลางห้องตั้งแต่วันที่ลูกน้องของโทมัสนำมาให้ เธอยังไม่ได้เปิดดูของข้างในเลยด้วยซ้ำ เสียงฝาเปิดเบาๆ ดังขึ้น เธอปรายตามองประกายระยิบจากเพชรเม็ดงาม แต่ก็เพียงยกยิ้มบางๆ อย่างเย็นชา
“กรงทองก็ต้องมีโซ่ทองสินะ…” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปิดกล่องลงดัง แกร๊ก
ในเวลาไล่เลี่ยกัน โทมัสเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสงบเยือกเย็น ดวงตาคมกริบกวาดมองความเรียบร้อยรอบห้องชั่วครู่ ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ
“ห้องก็เสร็จไปเกือบหมดแล้ว เธอคงพอใจ”
“อืม ทั้งพอใจทั้งมองว่าสวยดี เหมือนฉันอยู่ในตู้โชว์” สายขิมสวนเสียงเรียบ พลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
โทมัสเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด เพียงเดินผ่านไปยังระเบียง เหม่อมองทิวทัศน์เบื้องล่างที่เต็มไปด้วยตึกสูง ก่อนพูดขึ้นโดยไม่หันกลับมา
“อีกสองวันอย่าลืมงานประมูล”
“ไม่ลืมหรอก ก็แค่ไปยืนเป็นนางแบบโชว์เพชรของคุณผู้หญิง”
“ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ”
ความเงียบปกคลุมห้องอีกครั้ง สองร่างต่างนั่งและยืนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่กลับรู้สึกเหมือนมีกำแพงหนาทึบกั้นขวาง ไม่มีคำหวาน ไม่มีสายตาอบอุ่น มีเพียงความเย็นชา ที่ราวกับกลายเป็นภาษากลางของทั้งคู่ไปแล้ว
“แม่บอกให้เธอประมูลแทน อยากได้อะไรก็เลือกดูเอาเอง”
“รู้แล้ว”
“รู้ก็ดี ฉันไม่มีเวลาอธิบายขนาดนั้น”
“อืม”
โทมัสหันกลับมามองเธอครู่หนึ่งก็เดินกลับเข้ามาในห้อง
“หาวันว่างไว้นะ เราต้องคุยกันเรื่องหย่า”
ชายหนุ่มชะลอฝีเท้าแต่ไม่ได้หยุด เมื่อสิ้นเสียงของเธอเขาก็เร่งฝีเท้าเดินต่อจนภายในห้องไร้เงาของโทมัส สายขิมหันกลับไปมองประตูที่ค่อยๆ ปิดลงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ตอนพิเศษ 4 จบผ่านมาอีกหลายนาทีบทรักเร่าร้อนยังไม่จบเพียงเท่านั้น โทมัสอุ้มสายขิมมานั่งริมสระว่ายน้ำ เธอนั่งคร่อมตักเขา กำลังเคลื่อนไหวร่างกายอย่างพลิ้วไหวภายใต้แสงแดดร่ำไรในช่วงบ่าย“อ๊า ขิม…ทำแบบนี้พี่ก็เสร็จก่อนสิ”“นานๆ ทีนะ” โทมัสกระซิบบอก ความเสียวซ่านที่ได้รับพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ภายในหญิงสาวตอดรัดเบาๆ บ่งบอกถึงความเสียวซ่านอย่างหนักเสียงครางระงมดังขึ้นเบาๆ กับจังหวะรักเร่าร้อนของทั้งสองโทมัสจูบเนินอกอวบเบาๆ พลางบีบขยำบั้นท้ายของสายขิม“พี่ชอบนะ”“ชอบ…อ๊ะ อ๊า~ ชอบแบบไหน”“ชอบแบบนี้ แบบที่เราเป็น”ร่างเล็กอมยิ้มจนตาหยี แล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเขาเบาๆ“ขิมก็ชอบเหมือนกัน”“หึหึ”ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงสายขิมนอนหอบหายใจถี่อยู่ในอ้อมแขนของคนรัก ร่างกายทั้งสองยังเปลือยเปล่า และแสงของวันก็กำลังลับขอบฟ้า“พี่ทำนานเกินไปแล้วนะเนี่ย”“วันนี้อิ่มแล้ว เอาไว้ต่อพรุ่งนี้แล้วกัน”สายขิมตีแขนเขาเบาๆ แล้วเกยคางกับอกแกร่ง“อิ่มเรื่องนี้ แต่ท้องขิมยังว่างนะคะ หิวด้วย”“พี่สั่งอาหารมาให้แล้ว อีกเดี๋ยวพนักงานคงเอามาให้”“รู้ใจจริงๆ”“เมียใช้แรงเยอะ พี่ต้องเอาใจหน่อย”โทมัสหัวเราะเบาๆ พลางยกมือขึ้น
ตอนพิเศษ 3 NC“เดี๋ยวก่อนคุณพ่อ เราเพิ่งมาถึงนะคะ ไม่ไปเที่ยวก่อนแน่นะ”“เที่ยววันไหนก็ได้ เรามาตั้งห้าวัน”“แต่จะ…ทำตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเลยเหรอ”“เรามีเวลาว่างทั้งห้าวัน จะออกไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ หรือ…จะอยู่แต่ในห้องก็ยังได้เลย” เสียงเขากระเส่ามากแล้วโทมัสก็พาสายขิมเดินไปที่เตียงนอน “เรามายั่วให้พี่อยากเองนะ”“แล้วอยากไหม”“ไม่อยากได้ไง แข็งแล้วเนี่ย จะดูไหม”“บ้า! พูดอะไรเนี่ยพี่โท”“พูดบ้าอะไร พูดตรงๆ กับเมียผิดตรงไหนล่ะ แต่พี่ว่าเราอย่าหาเรื่องคุยให้เสียเวลาเลยดีกว่า” ชายหนุ่มดันตัวคนตัวเล็กไปที่เตียงนอน ขณะที่มือข้างหนึ่งไล่ปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดจนเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุม “ต้องให้พี่ป้องกันไหม”“ป้องกันเถอะ ตอนนี้ขิมยังไม่พร้อมเลี้ยงเบบี๋อีกค่ะ รอให้พัตเตอร์โตกว่านี้ก่อน เราค่อยวางแผนกันอีกทีนะ”“ได้ พี่ก็เตรียมพร้อมมาพอดี”“ทำไมรู้ว่าต้องเตรียม?”“หึหึ สายตาเราฟ้องขนาดนั้น พี่ก็ต้องเตรียมตัวบ้างสิ” เขาพูดขณะหันไปหยิบซองถึงยางอนามัยในกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วโยนมันลงบนเตียงโทมัสถอดเสื้อออก แล้วปลดเข็มขัดออกจากเอวสอบ“แอบไปฟิตหุ่นมาไหม ทำไมดูแข็งแรงขึ้น”“ก็ต้องมีบ้างสิ เดี๋ยวเมียจ
ตอนพิเศษ 2สองชั่วโมงต่อมาโทมัสกับสายขิมนั่งรถมาถึงพลูวิลลาจังหวัดพังงา บรรยากาศเย็นสบายชุ่มฉ่ำเพราะฝนเพิ่งหยุดตก“รู้ได้ยังไงว่าขิมชอบที่นี่”“พี่ทักไปถาทจุ๊บแจง เห็นว่าเราเคยมาที่นี่สมัยเรียนมหา'ลัย แล้วเราก็บ่นบ่อยๆ ว่าอยากใส่ชุดว่ายน้ำ”“อ๋า…แบบนี้นี่เอง ขอบคุณนะคะ”“เข้าที่พักเถอะ”พนักงานเดินมาเข็นกระเป๋าและเดินนำทั้งสองไปยังห้องพักที่จองเอาไว้ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีทั้งสระว่ายน้ำที่มองวิวได้สามร้อยหกสิบองศา“สวยเหมือนเดิมเลย ค่าพักต่อคืนแพงหน่อย แต่คุ้ม”“แพงก็จ่ายไหว ว่าแต่เมียชอบ”“แหม ปากหวานเชียว”“พี่มีของจะให้ขิมด้วย” โทมัสเดินไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีดำออกมาจากยื่นให้เธอ “จะให้นานแล้วล่ะ แต่มัวยุ่งอยู่กับพัตเตอร์ ก็เลยไม่ได้ให้สักที”“อะไรคะ?”“เปิดดูสิ”สายขิมยิ้มบางๆ แล้วเปิดกล่องนั้นอย่างระวัง เธอยิ้มหวานเมื่อรู้ว่าของข้างในคือบัตรแบล็คการ์ดไม่จำกัดวงเงิิน“ให้ทำไมเนี่ย ขิมไม่ได้ใช้บ่อยขนาดนั้น”“พี่กลัวเราเครียดเรื่องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เผื่อเราอย่กชอปปิงออนไลน์บ้าง”“เป็นสามีที่เอาใจเก่งมากๆ” เธอวางกล่องลงแล้วลุกขึ้นไปหาเขา สองแขนโอบรอบคอเขาหลวม
ตอนพิเศษ 1หลายเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของพัตเตอร์ดังมาจากห้องนั่งเล่น ขณะที่เขากำลังเล่นกับพ่อหลังจากตื่นนอนช่วงบ่ายสายขิมถือถ้วยข้าวบดที่เตรียมจะป้อนลูกเดินมานั่งลงบนโซฟา มองโทมัสหยอกล้อลูกชายก็พลอยได้ยิ้มตามเขา“ป้อนข้าวลูกไหม หรือพี่จะให้ขิมป้อน?”“พี่ป้อนเองดีกว่า เราจะได้มีเวลาพัก”“เอางั้นก็ได้ แล้วก็เรื่องจะไปเที่ยวน่ะค่ะ ขิมคุยกับแม่แล้วนะ แม่จะมาอยู่ที่นี่ แม่อาสาจะดูพัตเตอร์เอง”“หืม? เราไม่พาลูกไปด้วยเหรอ”“ขิมอยากพาไปนะ แต่แม่บอกว่าให้เราสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง”“อืม…เดี๋ยวพี่คุยกับพี่เลี้ยงพัตเตอร์อีกทีหนึ่ง ให้เขาดูพัตเตอร์ช่วยแม่ด้วย จะได้ไม่เหนื่อยมาก”“ค่ะ”เย็นวันนั้นโทมัสอุ้มพัตเตอร์เดินเล่นอยู่ริมสระว่ายน้ำ เด็กน้อยตัวจ้ำม่ำดีดขาไปมาเบาๆ เพียงแค่ดองลีลาวดีร่วงลงตรงหน้า“ดิ้นใหญ่เลยลูก แค่ดอกไม้ครับ” เสียงสองพ่อลูกพูดคุยกันดังเข้ามาในห้องนั่งเล่นสายขิมที่นั่งพักอยู่จนต้องละสายตาจากโทรศัพท์แล้วหันมองไปยังพ่อลูก“ร้อนไหมคะนั่น กลับมานั่งเล่นในห้องดีไหม”“อากาศดี ให้ถูกลมถูกแดดบ้าง เดี๋ยวป่วยบ่อย”“ไปฟังใครพูดมาเนี่ย”“ก็พ่อๆ ในกลุ่ม”“หะ? อะไรนะคะ”“อืม…ก็ตามที่เ
บทที่ 50บทส่งท้ายหลายเดือนต่อมาอากาศในเมืองอบอ้าวเล็กน้อย แสงแดดลอดผ่านม่านบางๆ เข้ามาในห้องนอน สะท้อนกับแหวนแต่งงานที่ยังอยู่บนนิ้วของสายขิม เธอนั่งพิงหมอนใบใหญ่ มือข้างหนึ่งวางบนหน้าท้องกลมโตที่ขยับเบาๆ เป็นระยะโทมัสเพิ่งกลับจากเตรียมของในห้องนั่งเล่น เขามีกระเป๋าใบหนึ่งที่จัดไว้เรียบร้อย เสื้อผ้า ผ้าห่ม เอกสาร และของใช้เด็กอ่อนครบทุกอย่าง เขาเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นเธอกำลังลูบท้องเบาๆ พลางพูดกับลูกในท้อง“อีกนิดเดียวนะครับลูก…อีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้ว”“พูดกับลูกเหรอ” เขาถามพลางเดินเข้ามาสายขิมหันมายิ้ม“ก็ต้องพูดสิ เขาเริ่มดื้อแล้วนะ ดิ้นทั้งคืนเลย”“สงสัยจะอยากออกมาเร็วๆ เหมือนพ่อ”“อย่ามาโยนความซนให้ลูกเลย คนที่ชอบวุ่นวายคือพี่นั่นแหละ” เธอหัวเราะเบาๆ แต่ก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบรัดที่หน้าท้อง“โอ๊ย…”โทมัสรีบเข้ามาพยุงทันที“ขิม เป็นอะไร เจ็บเหรอ”“เหมือนจะปวด…แต่ยังไม่ถี่นะ คงแค่เตือน” เธอตอบพลางหายใจลึกๆ “พี่อย่าเพิ่งตกใจสิ”“พี่ไม่ได้ตกใจ แค่…แค่กลัวจะไม่ทัน” เขาหัวเราะแห้งๆ แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความกังวลสายขิมจับมือเขาไว้แน่น“ใจเย็นหน่อยค่ะคุณพ่อมือให
บทที่ 49ครอบครัวสองเดือนต่อมาเวลา 21:20 น.ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นใหม่ดำเนินไปอย่างราบรื่น โทมัสเตรียมของบางอย่างไว้ให้สายขิม ขณะที่เธอกำลังนั่งเล่นอยู่ริมสระว่ายน้ำ“ง่วงหรือยัง” เขาถามขึ้นพลางเดินเข้ามาใกล้“ยังเลย ขิมกำลังดูน้ำในสระอยู่… อยากลงไปเล่น แต่กลัวใส่ชุดว่ายน้ำแล้วไม่สวย”“ทำไมล่ะ”“ก็พุงออกขนาดนี้น่ะสิ ใส่ชุดว่ายน้ำมันต้องหุ่นเพรียวๆ เซ็กซีๆ หน่อยสิ”“หึ เอาไว้หลังคลอดแล้วค่อยเข้าคอร์สฟิตหุ่นก็ได้”“แน่นอนอยู่แล้ว” เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา “แล้วพี่ล่ะ ไม่ง่วงเหรอ มานั่งเฝ้าขิมทุกคืนแบบนี้ ไม่เหนื่อยหรือไง”“ไม่เหนื่อย พี่อยากทำเอง”“อืม…”เขาวางแก้วนมอุ่นๆ ลงบนโต๊ะข้างตัวเธอ แล้วนั่งลงเคียงกัน“พรุ่งนี้เราไปหาพ่อกับแม่พี่กันไหม ท่านถามถึงขิมทุกวันเลย”สายขิมนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงแผ่ว“ขิมไม่อยากออกไปไหน กลัวเป็นข่าว…” แต่พอเห็นแววตาอ้อนปนอบอุ่นของเขา เธอก็ถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ ขิมจะไป แล้วจะแวะหาพ่อกับแม่ด้วย”“ถ้าไม่อยากไป ไม่ต้องฝืนก็ได้ พี่ไม่บังคับนะ”“ไม่ได้ไปเพราะถูกบังคับหรอก แต่อยากไปจริงๆ ตั้งแต่กลับมาอยู่คอนโดก็ยังไม่ได้ไปหาท่านเลย ไปเยี่ยมท่







