“อ้าวบุ้งมาแล้วเหรอ พี่รอเธออยู่พอดี” โชคดีที่เสียงของซีเรียกผักบุ้งไว้ก่อน ทำให้หล่อนเดินไปหาซีปล่อยผ่านเขาไปง่ายๆ แบบนี้ ไม่งั้นคงจะโดนด่ายับแน่นอน
“มึงนี่ก็ขยันสร้างวีรกรรมเนอะ กลัวพ่อแม่มึงไม่มีชื่อเสียงหรือไง” คีย์เอ่ยอย่างประชดประชันเพื่อนหนุ่มที่ขนาดเรียนจบมาแล้วก็ยังคงเดินหน้าสร้างวีรกรรมไม่หยุดหย่อน ถูกขนานนามว่าเจ้าชู้กะล่อนแล้วคงไม่พอยังมาเพิ่มความมึนความแสบของตัวเองเข้าไปในเรื่องราวพวกนั้นอีก “มันบังเอิญต่างหากแล้วกูจะไปรู้ได้ไงว่าเขาเป็นเพื่อนพี่ชา พี่ชาโทรให้กูไปรับเขากูก็ไปรับแค่เขาสิ คนอื่นพี่ชาไม่ได้บอกให้ไปรับสักหน่อย!” “มึงโง่หรือมึงโง่ มึงเข้าใจคำว่าสุภาพบุรุษมั้ยเพื่อน!” โซนเอ่ยอย่างปลงกับความแสบซนของเฮโร เขารู้ว่าหมอนี่ที่จริงเป็นคนที่ฉลาดเข้าใจทุกอย่างแหละแต่เหมือนว่าเป็นลูกคนเดียวถูกเลี้ยงมาแบบตามใจเลยมักจะทำตัวมึนเสเพลไปเรื่อยจนคุณฮารีจับยัดให้ชาไหมรองประธานสาวสุดเคร่งครัดเรื่องงานคอยดูแลนี่แหละ “เรื่องของกู!” “เออ ก็มันเรื่องของมึงพวกกูก็ไม่ได้อยากจะเสือก!” โซนตอบพลางส่ายหน้าให้แล้วเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้กลางร้านตามเดิม สักพักก็ได้ยินเสียงเครื่องสักกำลังทำงานดังมาจากห้องสักห้องเล็กนั่น ส่วนพวกเขาก็นั่งเล่นนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อยตามประสาวัยรุ่นหนุ่มหล่อ เวลา 21:15 น. ร่างเพรียวบางระหงส์ของชาไหมยืนอยู่หน้าคอนโดในชุดเดรสเกาะอกสีขาวมุก คู่กับรองเท้าส้นสูงสีครีม สัดส่วนที่เว้าโค้งสวยได้รูปนั้นทำให้เธอดูเซ็กซี่ขึ้นมา ยิ่งใบหน้าเรียวที่ถูกแต่งเติมเพิ่มสีสันให้ดูอ่อยนิดๆ นั้นยิ่งดูแซ่บเข้าไปใหญ่ แปะ! เสียงกระจกจากตลับแป้งของชาไหมถูกเจ้าตัวปิดลงหลังจากเธอส่องดูความงามของตัวเองเป็นรอบที่ห้าแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าเพื่อนสาวที่บอกว่าจะมารับนั้นมารับสักที จนผู้ชายที่ขับรถผ่านไปผ่านมาแถวหน้าคอนโดนี่ชะลอรถหลายคันแล้วนะหากเพื่อนเธอยังไม่มาอีกหน่อยต้องมีคนจอดถามราคาจากเธอแน่ ทรงเธอดูเป็นผู้หญิงขายบริการขนาดนั้นเลยหรือไง! บรืนนน! “กูคิดว่าผู้หญิงที่ไหนมายืนขายอยู่แถวกลางเมืองแบบนี้ ที่ไหนได้เพื่อนกูนี่เอง” รถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดเทียบตัวชาไหมพร้อมกับกระจกรถที่ถูกลดลงแล้วเจ้าของรถก็เอ่ยถามขึ้นอย่างทีเล่นที แต่ชาไหมกลับไม่เล่นด้วยรีบเดินไปเข้ารถและปิดประตูเสียจนดังลั่น “รถกูแพงสัส!!” “ก็ถ้าจะมาช้าทีหลังก็บอกเดี๋ยวกูเอารถไปเองไม่ต้องมายืนรอให้พวกแวะถามราคาอยู่ได้” “ก็กูเพิ่งปิดร้านไปตอนสองทุ่มครึ่งแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวมานี่ไง” แนนซี่ตอบแล้วขับเคลื่อนรถออกไปจากตัวคอนโดของเพื่อนสาว ไม่ลืมที่จะลอบมองชุดแสนจะเซ็กซี่ของชาไหมนั่นด้วยทั้งที่คิดว่าตัวเองเซ็กซี่สุดแล้วแต่พอมาเจอยัยคุณชาเธอก็คือดรอปลงไปในทันทีอ่ะ @ลุ่มหลงผับ ใช้เวลาไม่นานสองสาวก็มาถึงผับและรีบเดินตรงเข้าไปยังด้านในผับทันทีเมื่อเพื่อนสาวอีกคนมารอนานแล้ว “เดี๋ยวนะ! ใครเอาหมอนี่มา?” ชาไหมหยุดชะงักทันทีเมื่อเดินมาหยุดยังโต๊ะที่บุ้งกี๋นัดเธอไว้และเห็นเฮโรนั่งยิ้มแฉ่งให้อยู่ เอาจริง!โลกนี้จะเหวี่ยงให้เธอมาคู่กับหมอนี่ให้ได้หรือว่ายังไงถึงไม่ยอมปล่อยเธอให้หลุดพ้นไปสักที “กูไปสักร้านพี่ซีแล้วมันขอให้กูไปรับมันมานี่ด้วย บอกว่าอยากมาเจอมึง” “แต่กูไม่อยากเจอมัน!!” “อันนี้ปัญหาของพวกมึง!” บุ้งกี๋ตอบพลางไหวไหล่ให้แล้วดึงมือของแนนซี่ให้นั่งลงข้างเธอทำให้เหลือที่วางที่เดียวคือข้างเฮโรซึ่งชาไหมก็จำใจต้องยอมนั่งมันไปดีกว่ายืนให้เมื่อย “ผมเมานิดๆ แต่จะไม่ดื่มอีกแล้วเดี๋ยวเมาเยอะ” “ฉันไม่ได้ถาม!!” ชาไหมหันไปตอบชายหนุ่มข้างกายที่อยู่ๆ ก็โพล่งออกมาอย่างไม่ถามสักนิดว่าคนอื่นเขาจะอยากรู้หรือเปล่า เฮโรจึงยักคิ้วใส่ชาไหมก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดตัวแล้วเดินตรงไปหาผู้หญิงที่เขานั่งเล็งไว้ตั้งแต่เข้ามาพร้อมกับบุ้งกี๋แล้ว “มันหล่อนะแต่มันแปกฉิบหาย” “กูว่าจริง ความแสบก็อย่างเยอะ” แนนซี่หันไปสมทบกับบุ้งกี๋ ที่จริงเรื่องขอเฮโรนี่ชาไหมก็ชอบเอามาเล่าให้พวกเธอฟังในแชทกลุ่มบ่อยๆ จนเธอรู้ว่านั่นก็คือคนเดียวที่ชอบมาสร้างความวุ่นวายกับพวกเธอโดยมีความหลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง “ชื่อผับนี่คุณเกาตั้งชื่อให้ลูกชายโดยเฉพาะชัวร์” ชาไหมเอ่ยถึงชื่อผับแห่งนี้ที่เจ้าของก็คือคุณเกาบิดาของเฮโรนี่แหละ ที่จริงก็คงไม่เกี่ยวกันหรอกแค่อยากพูดเฉยๆ เปรียบเปรยว่าเฮโรเขามีความหลงตัวเองมากระดับสูงสุดอ่ะ “ลุ่มหลงผับ ขี้หลงตัวเองอ่ะนะ” “เออดิ แล้วชามึงดูนั่น” แนนซี่พยักหน้าบุ้งกี๋แล้วชี้ไปยังเฮโรที่ยืนควงสาวถึงสองคน หนำซ้ำยังหันไปซุกไซร้ซอกคอคนนั้นทีคนนี้ที ชาไหมจึงมองไปตามนิ้วเรียวของเพื่อนสาวแล้วก็ถึงกับกระพริบตาตัวเองถี่ๆ ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาเบา เอาเลยเฮโรควงสามควงสี่ไปเลยก็ดี!! ฮึ่ยย! “ช่างมันดิ” “แต่เดี๋ยวคุณฮารีรู้มันจะโดนด่านะ” “ก็เรื่องของมันสิ ไม่ไดเกี่ยวอะไรกับกู” “คุณฮารีเขาฝากมันไว้ให้มึงเป็นผู้ปกครอง มึงก็ควรดูแลทุกย่างก้าวของน้องมันดิ” บุ้งกี๋บอกเพื่อนสาวอย่างกลัวว่าหากเรื่องนี้ไปถึงหูของคุณฮารีเจ้าตัวเพื่อนจะพลอยโดนบ่นไปด้วย ที่จริงคุณฮารีก็ไม่ได้เอาเฮโรมาฝากกับชาไหมโดยตรงหรอก เลือกมาตั้งแต่บุ้งกี๋กับแนนซี่แต่สองคนนี้ปฏิเสธแบบสุดฤทธิ์สุดเดชถึงตอนนั้นจะยังไม่เคยเจอแต่ก็พอได้ยินความแสบของเฮโรมาบ้างไง เช่นเดียวกับชาไหมที่ก็ปฏิเสธที่จะรับหมอนี่มาฝึกงานแต่คุณหญิงมัมดันไปสนิทกับคุณฮารีไงเธอจึงปฏิเสธได้ไม่สุดเหมือนสองสาวนั่น “แต่นี่มันไม่ใช่เวลางาน” หญิงสาวร่างเพรียวแย้งพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกน้ำสีทองเขาปาก “ก็แล้วแต่นะ เกิดมันไปทำผู้หญิงท้องมาทีเดียวสี่ห้าคนแบบนี้มึงจะทำไง” “มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกูเปล่าวะ!?” ลูกก็ไม่ใช่ ผัวก็ไม่ใช่สายเลือดพี่น้องก็ยิ่งไม่มีแล้วเรื่องอะไรที่เธอจะต้องไปสนใจหมอนั่นล่ะ? “เออน่า มึงรีบไปดึงมันกลับมาเถอะ” แนนซี่ตอบพลางดันตัวของชาไหมให้ลุกขึ้นยืน เธอจึงต้องจำใจเดินเข้าไปหาเฮโรที่ตอนนี้กำลังจะก้มหน้าลงไปดูดหน้าอกของหญิงสาวร่างสูงที่แต่งตัวแซ่บซู่ซ่าแบบสุดๆ พรึ่บ!! แต่ยังไม่ทันที่ใบหน้าคมจะถึงเนินอกของผู้หญิงคนนั้นเขาก็ถูกชาไหมกระชากเส้นผมไว้ก่อน “ขอโทษนะสาวๆ คนนี้ของฉัน!!” ชาไหมหันไปบอกกับสองสาวที่ทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ยอมปล่อยเฮโรแล้วเดินไปหาเหยื่อคนต่อไป ส่วนชาไหมนั้นก็เปลี่ยนจากการดึงเส้นผมมาเปลี่ยนเป็นดึงหูของเฮโรแทนเพราะเดี๋ยวจะดูไม่ให้เกียจความเป็นผู้ชายของเขา “อ้ากกก!! พี่ไหมมันเจ็บ เจ็บๆๆ!” พอถูกชาไหมดึงหูเขาก็ร้องโอดครวญมาด้วยความเจ็บแล้วก็เดินตามคนตัวเล็กไปโดยที่มือนั้นพยายามจะดึงมือของชาไหมให้ออกแต่เพราะพอจะดึงออกเธอก็ดึงหูเขาแรงขึ้นจนเขากลัวหูตัวเองจะขาดก่อนจึงได้แต่เดินตามไปด้วยความเจ็บอยู่แบบนั้น “เจ็บก็ดีจะได้เลิกสร้างปัญหาใหฉันบ้าง!” “ผมปวดฉี่ ปล่อยหูผม!” “ไม่ปล่อย!! ปวดก็ให้มันราดตรงนี้แหละ” ขาเรียวหยุดเดินแล้วบอกกับชายหนุ่มที่ทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บจนตอนนี้ใบหูของเขานั้นแดงลามไปถึงใบหน้าหมดแล้ว “ผมปล่อยจริงนะ!” ว่าพลางขยับมือไปลูบเป้ากางเกงของตัวเองเพื่อหาซิบ ทำให้ชาไหมที่เห็นแบบนั้นต้องรีบดึงเขาไปทางห้องน้ำแทนการให้เขามาปล่อยเรี่ยราดตรงนี้ “ไปเข้าสิยืนบื้ออยู่ทำไม?” “พี่ก็ปล่อยหูผมสิ! หรือจะเข้ามาเลยก็ได้นะ” พรึ่บ!! ว่าพลางดึงมือของชาไหมให้เข้าไปด้านในห้องน้ำกับเขาด้วยทำเอาชาไหมถึงกับใจสั่นรัวทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้เข้ามาอยู่ในห้องน้ำกับผู้ชายโรคจิตอย่างเฮโรสองต่อสองโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ “นายจะทำบ้าอะไร? !!” เอ่ยถามเสียงห้วนเมื่อเห็นเฮโรยืนหันหน้าไปทางชักโครกแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา “ฉี่ไงถามแปลก!”“โกรธแม่ฉันมั้ย ฉันขอโทษแทนท่านด้วยนะท่านเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว” ชาไหมเอ่ยขอโทษคนข้างกายแทนผู้เป็นแม่เมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว แต่ชายหนุ่มกับส่ายหน้าให้แล้วเอื้อมมือมากุมมือของเธอไว้“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษแทนแม่ผม ท่านน่ะเป็นคนไม่ค่อยมีเหตุผลถึงมีก็เป็นเหตุผลส่วนตัวที่ชอบยกมาอ้างไปมั่ว”“จะว่าฉันเป็นคนไม่มีมารยาทก็ได้นะ แต่เวลาฉันมีแฟนน่ะฉันไม่ค่อยสนใจครอบครัวของแฟนสนใจแค่แฟนของฉัน ไม่สนใจคือไม่ว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบฉันก็เรื่องของเขาขอแค่ลูกชายเขารักฉันแค่นั้นก็เพียงพอ กับแม่ผัวฉันแค่ทำในสิ่งที่ลูกสะใภ้ควรทำแค่นั้น”“ผมเข้าใจครับ ถ้างั้นเรากลับคอนโดพี่นะ”“อืม ฉันอยากไปนอนพักสักหน่อยเดี๋ยวคืนนี้ไปเที่ยวอีก” จากนั้นเฮโรก็สตาร์ทรถและขับออกไป เธอรู้สึกว่าวันนี้เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดเลย คือแบบมีเรื่องมีราวเข้ามาเยอะจนงานของเธอนั้นไม่ได้กระดิกไปไหน ส่วนงานค้างของวันนี้แน่นอนว่าเธอก็ทักแชทไปบอกให้รองประธานเข้าไปเคลียร์งานแทนแล้วพูดถึงบริษัทก็ตัดมายังห้องทำงานของรองประธานหนุ่มที่นั่งหน้าเคร่งเครียดขมวดคิ้วมุ่นอยู่หน้างานกองโต ที่ไม่รู้ว่าปกติแล้วงานของท่านประธานสาวนั้นเยอะขนาดนี้อยู่แล้วหรือว่
บรรยากาศภายในร้านเงียบสงัดลงทันทีเมื่อลูกค้าภายในร้านเกิดมีปากเสียงจนถึงขั้นสาดน้ำใส่หน้ากัน ผู้คนต่างเริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอัดคลิปอัดวิดีโอไว้แต่ก็ไม่ได้ทำให้สามสาวนั้นรู้สึกละอายแต่อย่างใดเพราะกำลังถูกความโมโหเข้าควบคุมอยู่“ด่ากูว่าร่านมึงก็ร่านพอๆ กูแหละแนน!”“เยอะไปป่าวบุ้ง!!?”“ก็มึงดูมันด่ากูดิชา!”“แต่กูว่ามันก็เรื่องจริงนะ!!” ชาไหมลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับผักบุ้ง มือเล็กกำเข้าหากันแน่นพร้อมจะยกขึ้นไปฟาดใบหน้าของคนตรงหน้าได้ทุกเมื่อ“ก็เพราะพวกมึงทำงานด้วยกันไงเลยเข้าข้างกันแบบนี้!!”“กูเข้าข้างกันเพราะสิ่งที่มึงทำมันผิดนะแนน!!” แนนซี่ลุกขึ้นยืนอีกคนแล้วบอกกับหญิงสาวตรงหน้าที่ยังเถียงจนคอเป็นเอ็น ทั้งที่ตัวเองผิดแต่กลับไม่ยอมรับความผิดพยายามโบ้ยความผิดไปให้คนอื่นอีก เหอะ!“กูผิดตรงไหน กูแค่ทำตามความต้องการแม่”“มึงอย่าเอาแม่มาอ้างสิ!!”“มึงมีดีกว่ากูทุกอย่าง ทั้งเรียนเก่ง บ้านมีฐานะ มีธุรกิจเป็นของตัวเองแค่ผู้ชายคนเดียวมึงก็ยกให้กูดิ” เพี้ยะ! แน่นอนว่าประโยคที่สิ้นคิดของผักบุ้งนั้นทำให้ชาไหมยกฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเธอเต็มๆ และจากที่ยืนอยู่คนละฝากเธอก็เดินปรี่ไปหาผักบุ้งจนแนนซี
ชาไหมเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานของตัวเองก็ชวนโอเล่ต์กับแนนซี่ลงไปหาอะไรทานแถวข้างบริษัทที่มีร้านน้ำร้านขนมหวานเปิดใหบริการอยู่“พี่ไหมคะ พี่ยังรักแฟนเก่าอยู่มั้ยคะ?” โอเล่ต์เอ่ยถามหลังจากพวกเธอพากันมานั่งในร้านเบอเกอรี่และสั่งของหวานกับพนักงานไปเรียบร้อนแล้ว“ไม่รักแน่นอน คนอย่างนั้นไม่สมควรถูกรักหรอก”“จริงค่ะ พี่สวยแบบนี้คงมัดใจพี่โรได้สินะ”“โรต่างที่มัดใจคุณชาได้อ่ะ” แนนซี่แย้งด้วยรอยยิ้มขณะที่มือกำลังพยายามคุยแชทกับใครสักคนอยู่ จากนั้นเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้ชาไหมดูสิ่งที่เธอคุยกับคนในแชท“อะไรเหรอ?”“ลองอ่านสิ”“ถ้างั้นหนูขอไปสั่งขนมเพิ่มได้มั้ยคะ?” เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่คงมีเรื่องส่วนตัวโอเล่ต์จึงเอ่ยถามสองสาวซึ่งก็พยักหน้าให้เธอ ร่างเล็กจึงเดินดุ๊กดิ๊กไปมองหาขนมหวานที่ถูกใจเพื่อสั่งมันพร้อมกับน้ำปั่นสีสันสดใส“มันจะมานี่เหรอ?”“อืม กูถามมันเรื่องโรมันบอกว่ามันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะมาอธิบายกับเรา” แนนซี่บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เมื่อเธอทักไปถามผักบุ้งเรื่องหมั้นกับโรแต่หล่อนกับบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรรู้แค่ว่าแม่อยากให้หมั้นกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเลยจะมาอธิบายให้พวกเธอฟังที่นี่ด้วยตัวเอง อ
“แล้วนี่นั่งยิ้มอะไร ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดีนะ!!” คุณหญิงมัมหันมาถามบุตรสาวที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทั้งที่ตัวเธอโมโหพีพีจนอกจะแตกตายอยู่แล้ว ชาไหมจึงขยับเข้าไปนวดแขนให้ผู้เป็นแม่“นานทีคุณหญิงจะออกโรงช่วยไล่สิ่งไม่ดีออกจากชีวิตลูกสาวนี่คะเลยดีใจไปหน่อย”“อ๋อ นี่จะบอกว่าฉันไม่เคยออกโรงปกป้องหรือช่วยอะไรเธอเลยว่างั้น?”“ก็ตั้งแต่อายุยี่สิบ…”“เพราะเธอโตแล้วควรช่วยเหลือตัวเอง เอาตัวรอดเองได้แล้วนี่”“โอเคๆ ไม่เถียงค่ะ ว่าแต่มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า” ตั้งแต่ยกตำแหน่งประธานบริษัทให้ คุณหญิงมัมก็ไม่เคยมาหาเธอเลยสักครั้ง และนานครั้งมากที่เธอกับแม่จะเจอกันเพราะอย่างที่รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่บ้านอาศัยอยู่ที่คอนโดเป็นส่วนใหญ่ ส่วนคุณพ่อนั้นแล้วใหญ่เลยปีหนึ่งแทบจะเจอกันแค่ครั้งหนึ่งเห็นจะได้!“วันนี้ไปเดินห้างมาเห็นพนักงานพูดถึงเธอกับแฟนหนุ่ม มีแฟนทั้งทีไม่คิดจะบอกฉันเลยเหรอ!?”“ก็คิดว่าจะบอกอยู่ แต่ยังไม่กล้าบอกกลัวไม่ถูกใจ”“แล้วใครล่ะ”“เฮโร ผ่านมั้ย..ลูกชายคุณฮารี”“เฮโร หมอนั่นน่ะเหรอ เหอะ! ไม่เห็นมีอะไรคู่ควรกับเธอสักนิด”“แล้วผ่านมั้ยล่ะ?”“ก็พอผ่าน ตอนนี้ได้ข่าวว่าจะเปิดร้านเสื้อผ้านี่ ไปเรียนกลับ
ก๊อกก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับบานประตูที่ถูกผลักเข้ามา ร่างของแนนซี่เดินนำชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกรมกับกางเกงสแล็คสีดำรองเท้าหนังเดินเข้ามา ชาไหมจึงละสายตาจากงานแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองเขาก็เห็นว่าคนที่ให้เลขามานัดคุยงานกับเธอก็คือแฟนเก่าของเธออย่างพีพี!“นายจะไม่ยอมเลิกยุ่งกับฉันจริงๆ หรือไง” ชาไหมบ่นขึ้นกับตัวเองเบาๆ ไม่รู้ว่าพีพีต้องการอะไรจากเธอถึงยังมาวนเวียนตามตอแยเธออยู่เช่นนี้ ทั้งที่เลิกกันไปสองปีจะเข้าสามปีอยู่แล้ว ร่างบางจึงลุกขึ้นยืนแล้วกวักมือให้โอเล่ต์มานั่งตรงที่เธอส่วนตัวเธอนั้นก็เดินไปนั่งบนโซฟาไม่ลืมจะผายมือให้ชายหนุ่มร่างสูงมานั่งด้วย“ขอบคุณสำหรับอาหารกับน้ำนะคะ” แนนซี่ที่ยืนมองพีพีด้วยสายตาที่ไม่ชอบพอนั้นเอ่ยบอกกับประธานสาวแล้วก็เดินออกไปนั่งทำงานของตัวเองต่อด้านนอกทิ้งให้ภายในห้องนั้นเงียบกริบเมื่อไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร มีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่ดังอยู่ สายตาคมกริบของพีพีจ้องมองไปยังใบหน้าคนข้างกายที่นั่งมองไปยังเด็กสาวที่นั่งอยู่ในห้องนี้อีกที“หนูรบกวนใช่มั้ยคะ?” โอเล่ต์จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามชาไหมเมื่อเห็นว่าถูกจ้องมองและทั้งคู่ไม่พูด
เมื่อผู้หญิงคนนั้นถูกลากตัวไปแล้วเฮโรก็หันไปขอโทษลูกค้าท่านอื่นที่ทำให้ภายในร้านบรรยากาศเสียไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของเขาที่เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นว่ามีเด็กสาวร่างเล็กนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเขาและมีเลขาของเขายืนมองเธออยู่ด้วยสีหน้าที่ปานจะกลืนกินเด็กสาวไปทั้งตัว“เธอยังเด็กนะครับ”“อายุสิบเจ็ดนี่ก็ไม่ถือว่าเด็กแล้วนะคะ”“อ่า อย่าดุเธอเลย..คุณไปเคลียร์เรื่องที่โรงพักให้ผมหน่อย เดี๋ยวผมจัดการที่นี่ต่อเอง อ้อ..ฝากเอาเลขาพี่ชาไปส่งให้พี่เขาด้วยนะครับ” เฮโรสั่งงานธีรกานต์เสร็จแล้วเขาก็เดินไปนั่งบนโซฟากลางห้อง ส่วนธีรกานต์ที่ได้รับมอบหมายงานก็โค้งหัวให้ผู้เป็นนายเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป“ไม่ต้องไล่หนู หนูออกเอง!” คนตัวเล็กกระแทกเสียงบอกคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่บนโซฟาห่างจากเธอแถมยังยกแขนขึ้นมากอดอกมองเธออยู่ แต่เขายังไม่ทันได้ปริปากว่าอะไรเธอสักนิด“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”“หนูรู้ว่าพี่จะดุหนูที่หนูไปว่าลูกค้าแบบนั้น แต่เธอทำหนูก่อนหนูไม่ยอมหรอกนะ เป็นพนักงานแล้วไงพนักงานไม่ใช่คนหรือไง!!”“พี่ให้คนพาเธอไปส่งตำรวจแล้ว” เขาส่ายหัวให้หญิงสาวตรงหน้าเบาๆ ที่ดูจะไม่ยอมรอฟังในส