เช้านี้ทุกสำนักข่าวทุกพื้นที่สื่อถูกนายอาทิตย์ บรรพ์เกียรติ เจ้าของผับหรูและบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังพร้อมกับเพื่อนอีกสิบคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจหมดในสภาพที่ดูไม่ได้หน้าตาบวมช้ำ ร่างกายบาดเจ็บกระดูกแขนขาหักบางส่วนซึ่งไม่ได้จงใจเอาชีวิตรวมไปถึงอวัยวะเพศมีเลือดซึมจากรอยเข็มจิ้มอย่างรุนแรงตรวจสอบแล้วพบว่าถูกฉีดฮอร์โมนทำให้ฝ่อตัว ส่วนคนทำนั้นตามตัวไม่ได้ไร้ร่องรอยให้ติดตามราวภูติผียามค่ำคืน
ทั้งนี้ยังมีหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาค้ามนุษย์และค้ายาเสพติดรายใหญ่รวมไปถึงยาเสียสาวที่กำลังระบาดในช่วงนี้ ถูกส่งมอบมาให้ผู้กำกับธนภัทร ภูติสกุล ฉายามือปราบกังฉินผู้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา
“เอ๋? จำได้ว่านายอาทิตย์ต้องแต่งงานสิรินสิ้นปีนี้นี่นาแล้วใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปเรื่อยๆส่วนเมียหลวงก็ตามจิกเป็นไก่เช่นกัน”
หัสวีร์ในชุดเสื้อคอเต่าสีดำกางเกงสีซิลเวอร์เกรย์แบบเดียวกับสูทที่ถูกถอดพาดหลังเก้าอี้ตัวใหญ่ ใบหูขวาประดับโอปอล์สีดำเม็ดจิ๋วตรงตำแหน่งอัพเปอร์โลบ (Upper lobe) สองชิ้นและแฟลต (Flat) หนึ่งชิ้น กำลังอ่านข่าวพลางพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยหรือเพราะเขาย้อนเวลากลับมาเลยเกิดปรากฎการณ์ผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect) กันนะ ช่างเถอะไม่เกี่ยวกับเขาไหนๆจะเปลี่ยนออแกไนซ์อยู่แล้วเกิดเหตุการณ์นี้ก็ดีเหมือนกัน
ติ๊ง
Manas_V : นัทเห็นข่าวแล้วนะวินจะใช้ออแกไนซ์เจ้าไหนแทน
Win.W : ยังไม่รู้เลยหรือนัทมีแนะนำไหม
Manas_V : มีๆ เป็นรุ่นน้องของนัทเองทีมเดียวกับที่จัดงานแกลอรี่นี่แหละงานเนี๊ยบ ความรับผิดชอบดี สนใจไหม
Win.W : เอาสินัทว่าดีวินก็โอเค ขอบคุณมากนะ
Manas_V : เดี๋ยวส่งคอนแทคให้หรือถ้าวินมีเวลาแวะมาคุยที่แกลอรี่ก็ได้พอดีเธียรมาช่วยสอนงานปั้นแทนพี่วาววาพอดี
Win.W : รุ่นน้องนัทนี่ทำตัวเหมือนว่างดีนะถ้าให้เดางานคงจะยุ่งแต่ก็อยากอู้มาทำอย่างอื่น ไว้แวะเข้าไป
Manas_V : มันเป็นแบบนี้มานานแล้วแหละแต่บริษัทก็โตเอาๆเพราะระบบหลังบ้านดี
นั่นสินะเพราะเขาก็กำลังจัดการสิ่งปฏิกูลหลังบ้านเหมือนกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ”
“เรื่องพนักงานดิฉันจัดการเรียบร้อยแล้วนะคะติดต่อได้ครบทุกคน พวกเขาดีใจกันมากเลยค่ะ”
ขอบคุณที่เป็นธุระจัดการให้นะครับ”
“ยินดีมากเลยค่ะคุณวิน ส่วนนัดที่เลอฌาวันนี้กับคุณชัชชัยลงตารางไว้เป็นบ่ายสองค่ะห้องวีไอพีเดิม
หัสวีร์ส่งยิ้มขอบคุณเลขาคนสนิทด้วยใจจริง เขาจำได้ไม่เคยลืมเพราะเจ้าตัวอยู่ทำงานจนวันสุดท้ายที่บริษัทปิดตัวลงแม้ได้เงินชดเชยไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนคนที่ถูกรอยยิ้มพิฆาตกำลังเก็บอาการแบบสุดๆวันนี้เจ้านายหล่อมากสไตล์การแต่งตัวเหมือนกับตอนแรกที่เธอมาทำงานที่นี่แต่หลังจากที่คบและแต่งงานกับคุณสรัลเลยเปลี่ยนเป็นแบบที่อีกฝ่ายชอบ ยิ่งเซตผมเปิดหน้าแม่อยากจะกรี๊ด
ด้อมมัมหมีน้องวินภูมิใจมาก
ทางด้านของสิรินเมื่อรู้ข่าวใหญ่ของวันนี้ก็ไม่มีใครเข้าหน้าติดกระวนกระวานเหมือนหนูติดจั่น
“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกันแล้วทำไมพี่รันถึงติดต่อไม่ได้เนี่ย”
ทั้งที่อยากจะอาละวาดกวาดเอกสารบนโต๊ะระบายความหงุดหงิดร้อนรนแต่ทำได้แค่พยายามนั่งสงบสติอารมณ์กัดเล็บตัวเองด้วยใจร้อนรน
เธอจะถูกซัดทอดหรือเปล่าไม่น่าหลวมตัวเชื่อคำพูดเห็นแก่เงินก้อนโตที่ได้มาจากพี่อาทิตย์เลย
.
.
.
ย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อคืน
ณ ผับหรูใจกลางมหานคร
ห้อง VVIP (Red Zone)
โซนลับออกแบบพิเศษซ่อนตัวอย่างมิดชิดมาเนิ่นนานให้ผู้เป็นเจ้าของผับและบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังอย่างอาทิตย์ไว้ใช้ทำเรื่องโสมมปกปิดสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมันเปรียบเสมือนห้องเชือดของใครหลายๆคนที่หลงเข้ามา
ตอนนี้ปรากฎร่างชายฉกรรจ์สิบเอ็ดคนรวมผู้เป็นเจ้าของ หญิงสาวหน้าตาสะสวยสามคนและชายหนุ่มร่างบางหน้าตาจิ้มลิ้มหนึ่งคน บนโต๊ะนอกจากแอลกอฮอล์แล้วยังมีสิ่งเสพติดกับพวกถุงยางด้วย
โดยคนทั้งสี่นั่งตัวสั่นใช้มือปัดป้องร่างกายที่กำลังถูกคุกคามจากมือใหญ่ของคนพวกนั้น พวกเขาถูกหลอกจากบริษัทโมเดลลิ่งชื่อดังว่าวันนี้แคสงานเดินแบบแค่อยากหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนทำไมต้องเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ด้วย
“เฮ้ยไอ้อาทิตย์รอบนี้มีแต่แจ่มๆนี่หว่าลองงานก่อนได้เปล่าวะ”
“เอาสิ นี่ของเล่นใหม่ไร้สีไร้กลิ่นตรวจสอบยากไม่ทิ้งร่องรอย”
ชายหนุ่มยื่นขวดสีชาขนาดเท่ายาหยอดตาข้างในมีน้ำสีใสบรรจุอยู่ให้คนตรงข้ามที่ส่งสายตาวาววับถูกใจ
“เจ๋งว่ะ”
“ห้ามเกินสองหยดนะมึงเดี๋ยวตายห่าขึ้นมากูไม่มีของส่ง”
“รู้แล้วน่า แล้วน้องเขาจะไม่ช้ำเหรอวะ”
ปากว่าแบบนั้นแต่สายตากลับจ้องมองเหยื่ออย่างหื่นกระหายมือไม้เกาะเกี่ยวเอวลูบไล้ร่างบางในชุดเดรสดำเกาะอกสั้นไม่หยุดยิ่งอีกฝ่ายตัวสั่นพยายามปัดป้องมือใหญ่ที่จ้องจะล้วงเข้ามาทั้งเบี่ยงตัวหลบจมูกปากที่สูดดมความหอมจากกายสาวไปด้วยก็ยิ่งปลุกไฟราคะให้โหมกระพือ
“ก็แค่ไม่ขัดขืนนอนอ้าขากว้างๆกับครางดังๆตอนโดนเอาก็พอแล้วเปล่าวะ”
“ฮ่า ฮ่า เออว่ะเดี๋ยวไปที่เกาะก็ต้องรับแขกเป็นร้อยเป็นพันอยู่แล้วสี่ต่อสิบแค่นี้เองสบายๆใช่ไหมจ๊ะคนสวย ดื่มสิจะได้มาสนุกกัน หึหึ”
แก้วเหล้าใส่ยาถูกยื่นไปตรงหน้าหญิงสาว
“กรี๊ดดดดดดด”
“อยู่นิ่งๆสิครับแค่บีบเบาๆเองแม่กระต่ายน้อยตัวหอม อา น่ากินฉิบหายเลยว่ะ”
เสียงกรีดร้องจากอีกมุมหนึ่งของโซฟาหลังสาวสวยเดรสขาวใส่หูกระต่ายถูกมุดล้วงไปขยำปทุมคู่งามโดยไม่ทันตั้งตัวจากผู้ชายสองคนดิ้นรนอย่างสิ้นหวังน้ำตาไหลอาบแก้มนวลก่อนจะถูกอุ้มไปนั่งบนตักหนึ่งในนั้นพร้อมแก้วเหล้าจ่อปากบังคับดื่ม
“กูต่อคิวแม่กระต่ายน้อยนะเว้ย ฮ่า ฮ่า”
ในมุมที่ไม่ไกลกันสองร่างบางของหนึ่งสาวหนึ่งหนุ่มกำลังสะอื้นไห้หลบการปล้ำจูบโดยที่คนทำยิ่งชอบใจเมื่อเห็นการดิ้นรนขัดขืน
“ฮึก ไม่!”
ตุ่มไตสีชมพูหวานบนอกเรียบถูกบี้บีบลิ้นร้อนชอนไชหูเล็กงับเบาๆเนื้อตัวสั่นเทาน้ำตานองหน้ายิ่งดิ้นรนยิ่งถูกฟอนเฟ้นจากมือใหญ่ของชายทั้งสาม
“อย่า!กรี๊ด”
เดรสสีแดงถูกกระชากออกจนขาดวิ่นเผยอกอิ่มกับบราเซียตัวน้อยปกปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ด้วยแรงของคนตัวโตที่กำลังแลบลิ้นเลียมุมปากอย่างชอบใจ
“ร้องอีก ร้องดังกว่านี้สิ พี่ชอบ ฮ่า ฮ่า”
เหยื่อตัวน้อยทั้งสี่คนที่น่าสงสารกำลังจะเผชิญชะตากรรมที่แสนเลวร้ายโดยที่ไม่มีใครสักคนได้ยินเสียงวิงวอนร้องขอความช่วยเหลือ ความสิ้นหวังบังเกิดขึ้นในจิตใจจนอยากฆ่าตัวตายไปให้พ้นๆก่อนที่ร่างกายจะถูกพวกเดรัจฉานในคราบมนุษย์ย่ำยี ไม่อยากรู้สึก ไม่อยากรับรู้ และไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
ผลั๊วะ ปึง!!!
ประตูห้องถูกถีบกระแทกเปิดกระทันหันอย่างแรงจากด้านนอกมีแค่อาทิตย์คนเดียวที่ตื่นตัวเมื่อเห็นผู้บุกรุกแปลกหน้าสี่คน
“พวกมึงเป็นใคร!”
ไม่มีคำตอบใดเอ่ยกลับมาส่วนที่เหลือกำลังจะเล่นสนุกกับเหยื่อตัวน้อยประกอบกับฤทธิ์ยาที่เพิ่งเสพเลยเพิกเฉยต่อเสียงดังเอะอะที่เกิดขึ้น
“เฮ้ย ไอ้พวกข้างนอก”
“นี่น่ะเหรอ”
ร่างใหญ่ของพวกลูกน้องมือดีสองคนจากสิบคนที่เฝ้าทางออกถูกโยนมากองกลางห้องในสภาพปางตาย
จากนั้นเหล่าชายฉกรรจ์ทั้งหลายโดนกระชากปลิวลงมาที่พื้นอย่างแรงถูกเตะอัดเสยคางแบบไร้ความปราณีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว อาทิตย์คว้าปืนที่เหน็บข้างกายหมายจัดการยิงคนที่คาดว่าเป็นหัวหน้าก่อนจะถูกอีกฝ่ายสวนยิงข้อมือที่จับปืนกับต้นขาฝั่งเดียวกัน
“อ๊ากกกกกกกก”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของอาทิตย์ที่ทรุดตัวลงเลือดสีแดงฉานไหลนองราวประติมากรรมสีชาด ใบหน้าหล่อเหลาของผู้กระทำมองอย่างถูกใจก่อนนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ตรงหน้า
ดวงตาสีรัตติการหันไปมองเหยื่อทั้งสี่ที่ขดตัวสะอื้นตื่นกลัวเบียดกันอยู่มุมห้องอย่างเย็นชา ก่อนสั่งการลูกน้องให้ถอดเสื้อผ้าไอ้พวกเดนสังคมส่งให้ทั้งสี่คนคลุมกาย
“ไปได้แล้วต่อไปอย่าไว้ใจใครง่ายๆอีกเพราะมันจะไม่โชคดีเหมือนวันนี้”
จากนั้นให้ลูกน้องพาออกไปช่องทางประตูลับด้านหลังผับเพื่อส่งแต่ละคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย
“อึก กูไม่รู้จักพวกมึงทำแบบนี้ทำไมหรือเป็นสายตำรวจ”
เจ้าของผับหรูกัดฟันข่มความเจ็บปวดเงยหน้าถามอย่างใจกล้า ร่างสูงกระตุกยิ้มราวกับมัจจุราชก่อนไล้ปลายกระบอกปืนไปกับใบหน้าซีดเผือดเหงื่อซึมจากการเสียเลือดและสั่นกลัวที่อยู่ๆวัตถุเย็นเยียบถูกลากจากกลางหน้าผาก ขมับ โหนกแก้ม มาจบที่ปลายคางจ่อค้างบังคับให้เงยหน้าขึ้นเพื่อฟังคำตอบ ทั้งที่ใจนั้นไม่อยากได้ยินแล้วเขาไม่น่าถามขึ้นมาเลย
“เช็คบิลย้อนหลังส่วนดอกเบี้ยจะตามไปเก็บอีกที”
ก่อนฟาดด้ามปืนไปที่ขมับขวาจนร่างอาทิตย์ทรุดไปกองกับพื้นสลบทันทีทั้งที่ยังคาใจเพราะเขาไม่เคยมีเรื่องกันคนๆนี้เลย
“หักแขนหักขา ฉีดยาให้ฝ่อแล้วโยนพวกมันไว้หน้าสถานีตำรวจพร้อมหลักฐาน”
“ครับ”
ทั้งที่ใจอยากเฉือนของพวกมันทิ้งแต่กลัวจะเสียเลือดจนใจเสาะตายง่ายไปเสียก่อนยังทรมานไม่สาสมเลย อีกอย่างร่างสูงก็ไม่อยากให้มือเปื้อนเลือดสกปรกของเดนมนุษย์พวกนี้ด้วย
คดีลักลอบค้ามนุษย์และผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของนายอาทิตย์ บรรพ์เกียรติ จึงส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของนายตำรวจตำแหน่งผู้กำกับเจ้าของฉายามือปราบกังฉินใช้กฎหมายจัดการ
.
.
.
“บอสครับมีคนชิงลงมือก่อนที่พวกเราจะไปถึงให้ตามต่อไหมครับ”
“ไม่ต้อง เก็บกวาดให้ดี”
“ครับ”
“ปล่อยกู!”เซฟเฮ้าส์ส่วนตัวย่านชานเมืองไม่ไกลจากสนามแข่งรถ Steed King มากนัก ห้องใต้ดินที่ถูกซ่อนตัวปรากฏเงาร่างกำยำเปลือยเปล่าของมาเฟียต่างวัยถึงสองคนถูกพันธนาการด้วยโซ่ล่ามทั้งแขนขากำลังถูกมดแดงหลายรังที่จิตรกรสั่งให้มาโปรยที่พื้นไต่ขึ้นตัวและกัดจนจุดแดงขึ้นเป็นจ้ำโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งส่วนอ่อนไหวกลางกลายด้วยแล้วกรีดร้องแทบจะทุกครั้งที่ปากเล็กเจาะผิวเนื้อจนน้ำตาเล็ดและคนที่โดนเยอะสุดคงหนีไม่พ้นมู่ตงเฉิงที่ตอนนี้มีสภาพราวกับศพ ลมหายใจแผ่วเบาใกล้ตายเต็มที เพราะแผลจากคมกระสุนที่ไม่ได้รับการรักษาห้ามเลือดแล้วระหว่างที่รอนายน้อยตระกูลมู่ตามล่าจางเฟิงก็ผ่านไปหลายชั่วโมงอวัยวะเพศบวมเป่ง เลือดไหลอาบย้อมแดงฉานมีทั้งจุดที่แห้งกรังและเป็นลิ่ม“แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอจางเฟิง”จิตรกรเดินเข้ามาในห้องนั่งลงไขว่ห้างมองใบหน้าคับแค้นใจของมาเฟียใหญ่ที่ถูกเอาตัวกลับมาจัดการในไทยมีเพียงกระจกกั้นเท่านั้นด้วยแววตาเย็นชา“ไอ้จิตรกร แน่จริงก็ฆ่ากูเลยสิวะ”ความรู้สึกของการพ่ายแพ้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเป็นสิ่งที่เจ้าของดวงตาสีขี้เถ้ายอมรับไม่ได้ว่าตัวเองจะตกต่ำจากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อน่าสมเพศเสียเอง เคียดแค้
จำเลยหมายหัว คนที่ 0 และ 4จางเฟิง/วิคเตอร์สถานะ : มาเฟียหนึ่งในสามผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของธันเดอร์เลค คาสิโน ผู้ค้าอาวุธเถื่อนและสร้างองค์กรค้ามนุษย์ในฮ่องกงมู่ตงเฉิงสถานะ : บอสมาเฟียสายรองตระกูลมู่ความผิด : ร่วมมือกันฆ่าและกวาดล้างตระกูลมู่สายหลักเพื่อจะได้รวบอำนาจเข้ตระกูลจาง (คดีเก่า), ร่วมมือกันจับจิตรกรเพื่อกำจัดกับหัสวีถูกฉีดสารเสพติดเพื่อกระตุ้นความต้องการก่อนลงมือข่มขืน (คดีใหม่)จางเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้นำมาเฟียตระกูลจางอย่างจางเฟยหลงเจ้าของดวงตาสีขี้เถ้าซึ่งถอดนิสัยความโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรมจากผู้เป็นพ่อทั้งหมดและดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าด้วยซ้ำฆ่าคนครั้งแรกในวัย 8 ปี ด้วยด้ามปากกาแหลมแทงหัวใจเพื่อนร่วมชั้นเพียงเพราะอีกฝ่ายไม่แบ่งของเล่นให้แถมยังหัวเราะชอบใจมองดูการกระตุกเกร็งจนแน่นิ่งพี่เลี้ยงที่ดูแลล้วนเปลี่ยนรายวันเพราะหายสาบสูญทันทีโดยไม่ต้องมีเหตุผลเพียงแค่หายใจก็กลายเป็นคนผิดได้วัย 11 ปี วางยาอาจารย์ประจำชั้นเพราะถูกตักเตือนเรื่องที่เอาเท้ามาวางพาดไว้บนโต๊ะในขณะที่สอนอยู่วัย 14 ปี สั่งให้ลูกน้องไปฉุดรุ่นพี่เดือนโรงเรียนมาข่มขืนและส่งต่อให้ลูกน้องรุมโทรมจนขา
ทันทีที่จิตรกรมาถึงหน้าประตูธันเดอร์เลคคาสิโนก็พบกับเหล่าลูกน้องมาเฟียร่วมร้อยคนพร้อมอาวุธครบมือประจัญหน้าต้อนรับเขาอย่างดีใบหน้าคมมองอย่างเย็นชาครั้งนี้ชายหนุ่มก็พาคนมากฝีมือมาไม่น้อยเช่นกันทั้งของตัวเองและตระกูลมู่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นทันทีที่นายน้อยตระกูลมู่ยิงแสกเข้ากลางหน้าผากคนที่คาดว่าเป็นระดับหัวหน้าตายคาที่เมื่อมีการปะทะก็ย่อมมีการสูญเสียและฝ่ายจิตรกรนั้นล้วนเต็มใจเพราะที่ตามมาแทบทั้งสิ้นมีความแค้นฝังหุ่นกับจางเฟิง เมื่อไม่มีกำลังย่อมบุกมาทวงคืนไม่ได้แต่ตอนนี้มีโอกาสก็ลุยทันที คงจะเป็นฝั่งคาสิโนมากกว่าที่เสียเปรียบเพราะสายที่แทรกซึมอยู่ในกลุ่มมาเฟียเกือบครึ่งในนี้จากปลายกระบอกปืนและคมมีดที่หันมายังคนนอกที่บุกรุก อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอเพราะเพื่อนข้างกายเจอหน้ากินดื่มอยู่ทุกวันแทงลึกหมุนบิดจนคอเกือบขาดอย่างไร้ความปราณีกระสุนที่ออกจากรังเพลิงทุกลูกล้วนเข้าเป้าพลั่กขายาวถีบชายฉกรรจ์ที่ถูกคมมีดปักตัดขั้วหัวใจดวงตาเบิกโพลงร่างกระตุกเกร็งให้พ้นทางโดยไม่ได้ให้ความสนใจอีกก่อนเดินเข้าลิฟท์ไป“เกะกะ”ระหว่างทางที่ขึ้นกบด้านก็มีพวกลูกสมุนมาเฟียเข้ามาขัดขวางอยู่เรื่อยๆแต่ก็ถูก
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว“หาตำแหน่งเจอหรือยัง”น้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมกับทำแผลที่ถูกคมกระสุนไปด้วยถามชยุตลูกน้องคนสนิททันทีหลังจากออกคำสั่งนำตัวมู่ตงเฉิงไปขังไว้แล้วรีบไปช่วยหัสวีร์“ตอนนี้คุณวินอยู่ใกล้กับสมุทรปราการเป็นพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่ครับห่างจากที่นี่เกือบหนึ่งชั่วโมงครับ”“ฉันให้เวลาครึ่งชั่วโมงต้องไปถึงที่นั่น”“ครับ”จิตรกรรอไม่ได้แล้วเขาเสียเวลาที่นี่มามากพอแม้คนของมาร์ติโนจะนำไปก่อนหน้านั้นก็ตามชยุตค้นหาเส้นทางลัดจากดาวเทียมทันทีที่สิ้นสุดคำสั่งหากว่าเขาทำไม่ได้คงหลุดออกจากตำแหน่งแน่นอนรถยนต์แล่นด้วยความเร็วมิดไมล์ประหนึ่งติดปีกบินแต่ถึงยังไงก็ไม่ทันใจเจ้าของดวงตาสีรัตติกาลอยู่ดีตอนที่มาถึงลูกน้องของมาร์ติโนได้เคลียร์ทางไว้หมดแล้วซึ่งเป็นการซุ่มโจมตีโดยที่ไม่ให้คนข้างในรู้ตัวเพราะกลัวนายน้อยตระกูลเฉินจะเป็นอันตรายแม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคลจำนวน 50 ไร่ที่ไม่มีคนหาเจอแต่ก็สมเป็นจางเฟิงที่ยังรอบคอบ ลูกน้องที่เฝ้ากะจากสายตาไม่ต่ำกว่า 50 คนแน่นอนส่วนมาร์ติโนมาถึงทีหลังจิตรกรไม่กี่นาทีมาถึงตัวบ้านมีคนเฝ้าอยู่สองคนด้านหน้าจิตรกรพร้อมกับชยุตตรงเข้าไปจัดการโดยไม่ให้
เย็น?ชื้น?รำคาญจังไปให้พ้นนะเจ็บเฮือกความเจ็บจี๊ดที่ลำคอทำให้หัสวีร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาเปลือกตาสีอ่อนกระพริบถี่เพื่อปรับโฟกัส กลุ่มผมสีดำของใครบางคนกำลังสัมผัสกับแก้มขวาคือสิ่งแรกที่เห็นลิ้นร้อนที่ไล้อยู่ตรงคอขาวพร้อมขบกัดเนื้ออ่อนจนเจ็บแปลบคือสิ่งสองที่รู้สึก ไอ้บ้าเอ้ยใครวะเนี่ยจำได้ว่าพอไปถึงท่าเรือเฉลิมกิจแล้วชายคนรักขอแยกตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนเพราะสนามแข่งมีปัญหา หัสวีร์เดินมาถึงเรือขนส่งสินค้าของตัวเองซึ่งมีลูกน้องคอยเช็คอยู่หน้างานอยู่แล้วแต่สิ่งที่แปลกใจคือไม่คุ้นหน้าแถมยังทำท่าทางมีพิรุธราวกับไม่คาดคิดว่าเขาจะมาแล้วจริงดั่งคาดเพราะสายตาเหลือบไปเห็นอีกฝั่งที่ไม่ไกลกันนักกำลังถ่ายสินค้าแต่บรรจุภัณฑ์ที่ตีลังป้องกันความเสียหายไม่ใช่ของลักษิกาเจ็ม ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำขึ้นเองล้วนจดจำง่ายเพราะบทเรียนจากชีวิตที่แล้วพอรู้ว่าถูกจับได้ฝ่ายนั้นจึงละทิ้งงานไม่ได้มาเผชิญกับเขาโดยตรงแต่กลับวิ่งหนีไปทางตู้คอนเทนเนอร์เปล่าด้วยความคิดที่ว่าหากจับได้หนึ่งคนแล้วมาเค้นหาความจริงจะได้รู้ว่าใครเป็นคนสั่งการโดยขาดการไตร่ตรองถึงอันตรายข้างหน้าจึงวิ่งไล่ตามไป ทันทีที่เข้าไปในดงตู้เปล่าชายคน
ท่าเรือเฉลิมกิจ เป็นท่าขนส่งทางน้ำที่มีสำคัญในภาคตะวันออกซึ่งธุรกิจหลายประเภทเลือกใช้บริการเพื่อจัดส่งสินค้าไปยังต่างประเทศเพราะหากมีสินค้าในปริมาณที่มากการขนส่งทางน้ำย่อมมีค่าใช้จ่ายถูกลงกว่าขนส่งทางอากาศถ้าไม่ใช่สิ่งที่บูดเสียง่ายแทบทุกเจ้าย่อมเลือกการขนส่งทางเรือตอนนี้หัสวีร์และจิตรกรเดินทางมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงพากันเดินเข้าไปทันทีแต่ในระหว่างนั้นมีสายเรียกเข้าจากทีมช่างที่ Steed King คนพี่จึงปลีกตัวออกมาคุยด้านนอกพอเสร็จเรียบร้อยจึงตามเข้าไปแต่กลับหาคนรักไม่เจอ โทรหาแล้วไม่รับสายจนร้อนใจเพราะหากไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือมาก็ยังมีสมาร์ทวอทช์ติดตัวซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะไม่ได้ยินเห็นพนักงานที่กำลังขนของอยู่แถวนั้นจึงเข้าไปสอบถาม“คุณครับเห็นผู้ชายใส่สูทสูงประมาณนี้ดวงตาสีทองไหมครับ”“เอ คนที่ใส่ชุดสีกรมท่าไหมครับ”“ใช่ครับ”“ผมเห็นเขาเดินไปทางนั้นนะ”ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆแต่กลับไม่พบใครมีแค่ตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงอยู่เต็มไปหมดรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลและเป็นห่วงคนน้องมากอย่างนึกเจ็บใจตัวเองว่าประมาทเกินไปวินน้องอยู่ไหนนะ นิ้วเรียวกดโทรหามาร์ติโนเพื่อค้นหาตำแหน่งของหัสวีร์แต่ย