แชร์

2 หนังสือหย่าที่เขียนด้วยเลือด (2)

ผู้เขียน: บ้านเขมปัณณ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-06 10:15:53

เหตุการณ์ก่อนหน้า

        เหวินซืออี้กราดเกรี้ยวหนัก นางอดทนมานาน ไม่เคยมีปากเสียงอันใดกับคนรัก ก็เพียงแต่อยากทวงถามสิ่งที่นางควรได้รับ ตัวนางต้องทนรับปัญหาสารพัด ตัดขาดญาติพี่น้องเพื่อมาเป็นจ้าวสาวของเซียวหัวเฟิง ผู้ที่เพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งแม่ทัพเมื่อไม่นานมานี้ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ป้อมสังเกตการณ์ ส่งผลให้เหวินซืออี้กำลังจะจมดิ่งสู่ห้วงเหวลึก

        “เฟิงเกอ...ท่านจะไปที่ใด ยามนี้ได้ฤกษ์เข้าหอแล้ว” นางถามน้ำเสียงสั่นอยู่สักหน่อย ด้วยมันเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจ และความโมโหตนเองที่ไม่อาจพูดสิ่งใดที่รุนแรงอย่างใจนึกได้ นางเป็นสตรีเช่นนี้ โลกสวยงาม มีแต่สิ่งรื่นเริง คำร้ายๆ ไม่เคยหลุดออกจากปาก

        จวบจนได้เห็นเกิงเตียวอิ๋ง ฝ่ายนั้นทำเรื่องบัดซบยิ่งนัก ขี่ม้าตัวโตเข้ามาที่นี่ อาภรณ์ที่นางสวมใส่คือ ชุดหยกที่เรียงเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าห้อยต่อกันไว้ ซึ่งกล่าวได้ว่า นางเปลือยกายคงไม่ผิด เพราะมองแล้วช่างเป็นคนไร้ยางอายยิ่ง

        “เฟิงเกอ... โอ้ ท่านจะรอให้ร่างกายสตรีผู้นี้ สูญสลายและสิ้นใจเสียก่อนหรือ ถึงจะเข้ามาหาข้า”

        เสียงดังกล่าวเรียกขึ้นร้อง ท่าทางสตรีผู้นั้นมิต่างจากโสเภณีชี้และชวนให้บุรุษเข้าไปเสพรักนาง ช่างไร้ค่า ทั้งชวนให้น่าเวทนา

        เหวินซืออี้เดือดดาล สุดท้ายนางก็หลุดคำต่อว่าออกไป

        “มารดาเจ้าเถอะ มะ มาทางไหน ก็รีบกลับไปตายที่เดิม สถานที่นี้ ไม่มีใครต้อนรับเจ้า”

        สีหน้าและดวงตาคมๆ ตึงจัด ดรุณีน้อยของเขา เหตุใดถึงได้มีวาจาน่าชิงชังเช่นนี้ คงเพราะบิดามารดาไร้การอบรม และเขายอมแต่งงานกับนาง ก็นับว่าให้เกียรติมากแล้ว แต่นางเริ่มเผยส่วนที่ร้ายกาจออกมา หากเขาไม่ปรามเสียบ้าง สตรีนางนี้คงกำเริบ และสร้างเรื่องๆ ให้เขาปวดหัวเป็นแน่

        และสายที่เซียวหัวเฟิงมองเหวินซืออี้คล้ายคมมีดกรีดหัวในดวงน้อยให้แหลกสลาย แล้วเขาก็ทำร้ายนางรุนแรงด้วยคำพูด

        “เสี่ยวอี้ องค์หญิงหกคือคนที่เจ้าควรเคารพ เพราะนางได้ช่วยเจ้าไว้หลายครา ยามนี้ ก็เห็นว่านางนั้นได้รับบาดเจ็บหนักจากการปกป้องบ้านเมือง แต่เจ้ากลับใช้วาจาไม่สมควร เช่นนี้ ยังมีคุณธรรมในใจอยู่หรือ”

        เหวินซืออี้ไม่อยากเชื่อหูของตน ไฉนบุรุษที่นางยกย่องและเลือกเขาให้เป็นคู่ชีวิต ถึงกล่าวคำร้ายกาจต่อว่านางต่อหน้าผู้คนมากมาย

        ผู้เป็นเจ้าสาวกำหมัดแน่น เล็บของนางทิ่มเข้าเนื้อนิ่ม จนเกิดแผลและมีเลือดไหลซึม

        “นางแค่อ้างคำพูดเหลวไหล อีกอย่างมีสตรีคนใดขี่ม้าแล้วเปลื้องผ้าให้ผู้อื่นมองอย่างหมิ่นเกียรติ เฟิงเกอยังมีสติปัญญาอยู่หรือไม่ ข้าหวังว่า ท่านคงไม่หน้ามืดตามัว เห็นสตรีไร้ค่าเป็นเทพธิดาหรอกนะ”

        หญิงสาวสาดคำพูดร้ายๆ อีกชุด นั่นคงเป็นเพราะนางเก็บกดไว้ในใจมาเนิ่นนาน

        “องค์หญิงหกแจ้งชัดแล้วว่านางได้รับพิษรุนแรง หากไม่รีบช่วย... อาจถึงขั้นเสียชีวิต” เซียงหัวเฟิงตอบกลับน้ำเสียงเข้ม ติดตำหนิผู้เป็นเจ้าสาว

        “เฮอะ เฟิงเกอห่วงนางเยี่ยงนั้นหรือ ท่านห่วงผู้อื่นมากกว่าจิตใจของข้า ทั้งที่วันนี้คือวันเข้าหอของเรา”

        กล่าวออกไปเช่นนั้น เหวินซืออี้ก็อยากคว้าคำพูดของตนกลับคืนเหลือเกิน เพราะเมื่อมองใบหน้าชายหนุ่ม ก็พบคำตอบที่กระจ่างใจ

        “เสี่ยวอี้ หากไม่ได้สะสางปัญหาตรงหน้า ข้าคงไม่ใช่ลูกชายที่ผดุงความยุติธรรม อีกทั้งข้าคงผิดต่อลูกน้องของตน นอกจากองค์หญิงหก ยังมีดวงวิญญาณอีก 115 ดวงที่ข้าต้องล้างแค้นให้พวกเขา”

        เซียวหัวเฟิงกล่าวถึงทหารและสหายของเขาที่พลีชีพปกป้องเชื้อพระวงศ์ จากการบุกของมือสังหารที่กำลังล่าสัตว์อยู่ มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนงานวิวาห์เหวินซืออี้ราวๆ หนึ่งชั่วยามก่อน

        “เฟิงเกอ ทะท่าน กล่าวสิ่งใดออกมา ช่างไร้ความรับผิดชอบ ข้ากับท่านดื่มเหล้ามงคลด้วยกัน กราบไหว้ฟ้าดิน มีแขกร่วมงานเป็นสักขีพยาน ไฉนยังจะให้เรื่องอื่นขัดขวางความสุขที่ข้ากับท่านรอมานานอีกเล่า”

        “โถ เสี่ยวอี้...เจ้าช่างยึดถือแต่ตนเป็นใหญ่ องค์หญิงหกต้องการเพียงแค่ให้ข้าช่วยเหลือให้นางมีชีวิตรอด หลังจากนั้นข้าจะรับผิดชอบทุกอย่าง และชดใช้ให้เจ้าเอง”

        เซียวหัวเฟิง เป็นแม่ทัพและเขามีสกุลเดิมขององค์หญิงหกหนุนหลัง และที่เขายืนยันอยากช่วยเหลือเกิงเตียวอิ๋ง ด้วยรู้ว่าพิษที่ทำร้ายนางในตอนนี้กำลังจะเผาไหม้อวัยวะภายใน และเขาต้องพาอีกฝ่ายไปยังถ้ำหิน อาศัยเตียงหยกแล้วใช้ลมปราณของเขาขับพิษแก่นาง

        ฝ่ายเกิงเตียวอิ๋งเป็นสตรีที่เก่งด้านบุ๋น กระนั้นกว่าจะตีฝ่าวงล้อมศัตรูออกมาและควบม้าจะถึงที่นี่ นางต้องใช้พลังไปหลายส่วน สุดท้ายร่างกายนั้นคล้ายถูกเผาไหม้ จึงสลัดเสื้อผ้าออก ยามนี้มีเพียงชุดหยกด้านในที่แนบเนื้อ ซึ่งไม่อาจปกปิดเรือนร่างนางได้ ส่วนเว้าส่วนโค้งของประจักษ์ต่อสายตาผู้อื่น

        อึดใจต่อมา หญิงสาวกระอักเลือดกองโต ภาพของนางในยามนี้ สร้างความตื่นตะลึงและเรียกคะแนนสงสารได้ดี อีกทั้งนางเป็นถึงองค์หญิงนักรบ ผิดกับคุณหนูในห้องหอ อย่างเหวินซืออี้ ให้ดีก็มีแต่ความงาม สตรีเช่นนี้เคยทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดินหรือ

        “แม่ทัพเซียว... เรื่องอื่นพวกเราจัดการเอง ต่อลมหายใจให้องค์หญิงหกเถิด จากนั้นค่อยไปชำระแค้น งานแต่งก็สำคัญ แต่ชีวิตคนที่ช่วยเหลือชาติบ้านเมืองย่อมสูงส่งกว่า ”

        จากเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น ก็เหมือนจะโน้มน้าวให้เซียวหัวเฟิงทำเช่นนั้น ฝ่ายกัวเตียวอิ๋งที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็โงนเงนไปมาเจียนพลัดตกลงมา สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งสร้างความคับแค้นใจต่อผู้เป็นเจ้าสาว

        จวบจนแม่ทัพหนุ่มก้าวขาหมายใจเข้าไปช่วยเกิงเตียวอิ๋ง ก็เป็นช่วงเวลาดังกล่าวที่เหวินซืออี้ ล้วงมีดสั้นออกมาจากอกเสื้อ ใจนางเดือดพล่าน ห้วงเวลาดังกล่าวเจ้าสาวขาดสติไปเสียแล้ว

        “เฟิงเกอ หากท่านก้าวออกไปจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว... ขะ ข้า เหวินซืออี้ก็จะไปรอเฟิงเกอที่ประตูนรก!”

        เมื่อนางตัดสินใจกระทำเช่นนั้น แทนทีจะรั้งเขาได้ กับมีสายตาเย็นชาของผู้เป็นเจ้าบ่าวมองมาที่นาง พร้อมคำพูดที่ทำให้เหวินซืออี้ หนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ

        “ข้าคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวอี้จะไร้เหตุผล ช่างเป็นคนที่ข้าไม่สมควรแต่งงานด้วย และแรกเริ่มก็เป็นเจ้าแอบลักลอบมาถึงเมืองไฉ ปลอมตัวเป็นทหาร เป็นบ่าวรับใช้ จนเกิดเรื่องราวมากมายให้ข้าต้องช่วยเช็ดล้าง มีคดีถึงศาลก็หลายหน ทั้งสั่นคลอนกฎของกองทัพ และหากเราไม่ได้มีช่วงเวลาลึกซึ้งด้วยกัน ข้าคงไม่ตัดสินใจรับผิดชอบสตรีแซ่เหวิน!”

        หึๆ ๆ สวรรค์ล้อนางเล่นเป็นแน่ เซียวหัวเฟิงเหตุใดถึงกล่าววาจาร้ายกาจกับนางครั้งแล้วครั้งเล่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    75 ชู้รักฮูหยินหม้าย (จบ)

    และฝ่ายนางกลั่นแกล้งเขาคืน เรื่องนี้คงกล่าวได้เช่นนั้น “น้องหญิง... เจ้ากำลังท้าทายข้า” เขาบอกอย่างนั้น แล้วร่วมมือกับเหวินมู่ถังพานางลงไปแช่น้ำพุร้อน ที่อุ่นกำลังดี ยามนี้นางถูกอุ้มและหันหน้าเผชิญกับเซี่ยสิงหาวโดยที่ความแข็งขันอยู่ในกลีบสวาท ด้านหลังเป็นเหวินมู่ถังที่อุ้มนางเอาไว้ เขาสอดแขนไว้ใต้ข้อพับขาทั้งสองข้างของนาง ดังนั้นเนินเนื้อสาวจึงประจักษ์ตรงหน้าเซี่ยเหวินถัง และเขากำลังเสือกแก่นกายเข้าออกด้วยความสำราญใจ ส่วนทางด้านหลัง จมูกกับปากของเหวินมู่ถังก็ไม่หยุดที่จะเล่นสนุกกับผิวกายนาง ดังนั้นอวี้เพ่ยเอ๋อร์จึงเดี๋ยวครางเดี๋ยวส่งคำสบถอย่างลืมตัว “หาวต้าเกอ ทะ ท่าน... อยากพ่นน้ำใส่ข้าหรือไม่ ทั้งข้างในนั้น ที่ใบหน้า แล้วก็แตกล้นปาก” เซี่ยสิงหาวไม่ตอบ หากเป็นเหวินมู่ถังที่ตำหนินางว่า “คนมักมาก... ยามที่ข้าทิ่มแทงเพ่ยเอ๋อร์ ไฉนถึงสำออย และร้องเจ็บอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเป็นเขา ใต้เท้าเซี่ย เจ้ากับครวญครางร้องขอให้เขาทำสิ่งต่างๆ ไม่หยุดปาก” อวี้เพ่ยเอ๋อร์อับอาย และต้องยอมรับแต่โดยดีว่า ของลับเหวินมู่ถังใหญ่เกินไป อีกทั้งเขาใช้แรงราวกับม้

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    74 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์กำลังหัวหมุน เมื่อนางลงจากม้าตัวโตได้ก็ถูกจับจูงมือมายังบ่อน้ำพุร้อน คราแรกเซี่ยสิงหาวจะอุ้มนาง แต่หญิงสาวอยากเดินชมบรรยากาศไปด้วย และยามนี้เป็นเวลาเท่าใด ฟ้ามืดแล้วแต่มีแสงสว่างจากดวงจันทร์นำทาง และนางภาวนาว่า ขอไม่ให้มีผู้ใดมาพบเห็นนาง ด้วยกำลังถูกคนตัวสูงที่แสนหล่อเหลาเอาอกเอาใจสารพัด มือเขาสัมผัสเรือนร่างนางอย่างสิเน่หา จมูกก็ซุกไซ้ซอกคอ ติ่งหู ก้าวไปได้อีกเล็กน้อย ก็รั้งเอวนางไว้แล้วบดเบียดริมฝีปาก พร้อมกับสิ่งลิ้นสากร้อนเข้าไปกวาดข้างใน อวี้เพ่ยเอ๋อร์ร้อนฉ่า นางครางเสียงหวาน และบีบท่อนแขนกำยำของเขาบอกให้รู้ว่า นางก็ปรารถนาจะปรนนิบัติเขาเช่นกัน ซึ่งปกติเขาไม่ได้หวานกับนางเช่นนี้ ไม่มีการเล้าโลมที่ชวนให้สั่นสะท้าน หากยามนี้เซี่ยสิงหาวเปลี่ยนไป เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มที่พบหญิงสาวถูกใจ และกำลังจะมีครั้งแรกกับนาง บุรุษรูปงามตังสูง ใบหน้าอ่อนกว่าวัยมาก ยามนี้หากนางบอกว่ากำลังคลั่งเขา ก็คงไม่เกินเลยสักนิด โอ้ มือเขา ปากนุ่มนิ่ม แล้วก็ท่อนลำที่ผงาดล้ำนั้น ทำให้นางสะท้านไปทั้งร่าง เซี่ยสิงหาวไม่สนใจเสื้อผ้าของตน เขาถอดมันออก และ

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    73 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์ถูกส่งตัวออกจากพิธีบรวงสรวงโดยเป็นคำสั่งของม่านกุ้ยหนิง ไม่มีคนของนางติดตามมา อันที่จริงหญิงสาวห่วงเหลียวจูและฉีหนวน อย่างไรพวกนางก็ให้ความช่วยเหลืออวี้เพ่ยเอ๋อร์ในช่วงที่อยู่จวนเซี่ยเป็นอย่างดี ในช่วงที่กำลังจะถูกคลุมศีรษะและจับขึ้นรถม้า นางได้เห็นเหลียวจูพอดี ฝ่ายนั้นได้ส่งสัญญาณบางอย่างมา ซึ่งแปลความหมายได้ว่า แม่บ้านกับสาวใช้จะปลอดภัยแน่นอน รถม้าเคลื่อนออกมาไกล ด้วยถูกผ้าคลุมศีรษะเอาไว้ อวี้เพ่ยเอ๋อร์จึงยากคาดเดาได้ว่าตนอยู่ที่ใด เวลาก็ไม่แน่ชัด หากประเมินว่าตะวันคงตกดินแล้ว กระทั่งนางถูกพาตัวลงจากรถม้า สถานที่แห่งนั้นวังเวง เงียบ ทั้งมีอากาศเย็นชื้น ฝ่ายนางไม่อาจคาดเดาสิ่งใด จิตใจหวั่นวิตก นางเมื่อยทั้งตัว และยังหิว เรื่องที่เกิดขึ้นมันช่วยไม่ได้ที่จะทำให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์ปลงต่อชีวิต “แม่นาง มีสิ่งใดต้องการสั่งเสียหรือไม่” เสียงที่ดังขึ้น แม้จะชวนให้ขวัญเสีย แต่อวี้เพ่ยเอ๋อร์ผ่านหลายสิ่งมาในเวลาจำกัด เรียกได้ว่าหากต้องสิ้นลมหายใจตอนนี้ก็คงไม่เสียดาย อีกอย่างชายพวกนี้ มองอย่างไรก็ประเมินได้ว่า เป็นเพียงลูกน้องชั้นปลายแถว คงทำได้แค่ขู่เท่า

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    72 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์ไม่รู้จักอ๋องเสอ คนผู้นี้คือม่านเสอ และจู่ๆ ก็ก้าวตามติดนาง นับแต่หญิงสาวแยกตัวมาหามุมสงบๆ พักใจ พอจะกลับเข้าไปพื้นที่งาน เขากางมือทั้งสองข้างแสดงท่าทางอยากขัดขวางนางเอาไว้ “เป็นเจ้านั่นเอง นึกไม่ถึงว่าจะงดงามเช่นนี้” “ขออภัยด้วย ข้าต้องเข้าไปรอสามีด้านใน ไม่สะดวกคุยกับผู้ใดทั้งสิ้น” “เหลวไหล ข้าคนนี้ กำลังจะเป็นสามีใหม่ให้เจ้า เยี่ยงนี้ยังจะเสนอหน้าไปที่อื่นได้หรือ” ม่านเสอกล่าวอย่างนั้น และพออวี้เพ่ยเอ๋อร์มองไปเบื้องหลังต้น เห็นว่าแม่บ้านเหลียวถูกจับตัวไว้ อีกทั้งใบหน้านางมีรอยแดงปื้นใหญ่ คนพวกนี้ใช้กำลังทำร้ายคนของนาง แสดงความป่าเถื่อนยิ่งนัก “อย่าทำเรื่องให้ใหญ่โตเลย ข้ามาพิธีบรวงสรวงในนามของสามี และไม่คิดก่อเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น” “หึๆ ๆ เจ้าคงเป็นคนเมืองอื่น ถึงไม่รู้ว่างานนี้ มีการจับคู่ สร้างกระโจมไว้ให้พลอดรัก และต่อขาเติมแขนให้เด็กๆ เกิดมาไวๆ แคว้นซีฉางนิยมให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง ดังนั้นการจัดงานขึ้นก็เพื่อส่งเสริมเรื่องนี้” อวี้เพ่ยเอ๋อร์ไม่ได้ศึกษาพิธีบรวงสรวงให้ละเอียด แต่นางพอจะคาดเดาได้ว่า การมีกระโจมใหญ่น้

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    71 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวิ๋นเพ่ยเอ๋อร์นึกว่าตนฝันไป ภาพเสียง เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ระคนเสียวซ่าน และนางทำลงไปอย่างเต็มใจ ทั้งยังส่งเสียงหวานๆ เรียกสามีบ้าง สลับมือปราบเหวินบ้าง ซึ่งทั้งสองคนต่างมอบความสุขให้นางอย่างล้นทะลัก ทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็นเพียงการสุขสมภายนอก ไม่มีการสอดใส่ ด้วยนางยังไม่พร้อมที่จะกระทำเรื่องซึ่งดูเกินเลยไปสักหน่อย ถึงอย่างนั้นนางก็กลืนน้ำของบุรุษทั้งสองคนที่ไหลทะลักราวกับเขื่อนแตกด้วยความเร่าร้อน ซึ่งคนทั้งคู่ต่างพึงใจที่นางยอมปรนนิบัติพวกเขาแบบพร้อมกัน โดยไร้ความลำเอียง ตอนนี้นางตรวจสอบตนเองทั้งเรื่องเสื้อผ้า และสิ่งของที่จะใช้มอบให้คนสำคัญสำหรับงานบรวงสรวงประจำปีที่อยู่นอกเมืองเรียบร้อยแล้ว แต่จู่ๆ รู้สึกว่าตนกลัวหลายสิ่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น คงเพราะการที่เซี่ยสิงหาวบอกว่า นางกำลังตกเป็นเป้าของคนไม่หวังดี และหวังยืมมือทำลายชื่อเสียงเขา พวกนั้นก็คือคนสกุลม่าน “ผู้น้อยตกอยู่ในอันตรายอีกแล้วเยี่ยงนั้นหรือ” นางถาม ใจคอเหมือนจะหล่นหายไปในตอนนั้น “อย่าได้กังวล ข้ารู้ว่าเจ้าคือใคร และจ้าวรั่วรั่วตัวจริง ได้จากไปแล้ว ส่วนคร

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    70 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    เหวินมู่ถังได้พบเรื่องที่เป็นเบาะแสให้เขาต้องตามสืบ คนผู้นั้นเขาเคยพบหน้า และอีกฝ่ายแสดงท่าทางมีพิรุธ กระทั่งตามไปอย่างใกล้ชิด จึงเห็นว่าเป็นชิงถง ชายที่ใช้ฉากหน้าปิดบังว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา หากแท้จริงคือโจรชั่ว และมือสังหารที่รับจ้างงานทั่วไป ฝ่ายชิงถงไม่รู้ว่าตนถูกติดตาม เขารออยู่ประตูด้านข้างเรือนนอกสกุลเซี่ย ก่อนหน้านั้นให้คนที่เป็นหูเป็นตาในจวนเซี่ย กระทั่งรู้ว่า อวี้เพ่ยเอ๋อร์ออกมาเยี่ยมแม่เล็กของเซี่ยสิงหาว ตามคำสั่งอีกฝ่าย เขารออยู่สักพักใหญ่ ก็เตรียมเข้าไปข้างใน ด้วยการปลอมตัวเป็นคนงาน กระทั่งได้พบอวี้เพ่ยเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ห้องรับรองเพียงลำพัง “เสี่ยวเอ๋อร์!” น้ำเสียงชิงถงทำให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์หัวใจหล่นหาย นางไม่อาจทราบความต้องการอีกฝ่าย และตั้งแต่เขาใช้มีดแทงเข้าที่หัวไหล่นาง ความเชื่อใจได้หายไป “พี่ถง... ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร แล้วเหตุใดถึงสร้างความลำบากแก่ข้าถึงเพียงนี้” “หลายวันที่ผ่านมา เจ้ามีเรื่องใดแจ้งแก่ข้าบ้าง” ชิงถงไม่ได้สนใจนาง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status