ในขณะที่ปณาลีกำลังดื่มเหล้าอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาคู่หนึ่งก็มองด้วยความประหลาดใจและอดแปลกใจไม่ได้ว่าจะมาเจอกับเธอที่นี่ วันนี้ปณาลีดูสวยเซ็กซี่และโดดเด่นจนหลายคนในผับต่างมองไปที่เธอรวมถึงเขาและเพื่อนอีกสองคน
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นไงล่ะ สวยพอที่นายจะจัดการกับความเหงาของนายได้ไหมล่ะ” จิรกิตต์ถามพลางพยักหน้าไปทางหญิงสาวในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงที่เห็นว่าศิลาจ้องเธออยู่นาน
“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด” ถึงแม้จะสนใจในตัวเธอมากแต่เขาก็ไม่อยากจะเสียเพื่อนบ้านที่ดีอย่างปณาลีไป
“คนรู้จักเหรอ แต่นั่นมันสเปกนายเลย” ธีรวัฒน์แปลกใจเพราะผู้หญิงคนนั้นตรงกับสเปกของศิลามาก ตัวเล็กผิวขาวและที่สำคัญหุ่นของเธอก็ดีมากๆ ด้วย
“เธอเป็นเพื่อนบ้าน”
“แบบนี้ฉันว่าไม่ดีนะ เพราะถ้าคิดจะแค่วันไนท์ฯ คงต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่ว่าตอนแรกบอกว่าวันไนท์ฯแต่พอนอนด้วยกันแล้วอยากให้รับผิดชอบขึ้นมานายจะซวยเอานะ” จิรกิตต์ด้วยความหวังดี
“อือ ฉันก็ไม่คิดจะนอนกับเธอหรอก ยี่หวาเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เธอน่ารักทำอาหารอร่อยมากด้วย”
“แต่นายจ้องเธอนานแล้วนะ”
“ก็แค่เป็นห่วงเห็นมากันแต่ผู้หญิงแล้วก็ท่าทางจะเมามากด้วย” เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าปณาลีเป็นนักดื่มมาก่อน
“มันก็น่าห่วงอย่างที่บอกนั่นแหละ นายดูผู้ชายพวกนั้นสิ จ้องเธอกับเพื่อนเหมือนหมาป่าเห็นเหยื่อเลยนะ ถ้าเธอเป็นเพื่อนบ้านที่ดีนายก็น่าจะไปดูหน่อยนะเผื่อว่าเธอมีอะไรให้ช่วย หรือก็พาเธอกับเพื่อนออกไปจากที่นี่ก่อนผู้ชายพวกนั้นจะเข้ามารุมทึ้งเธอมากกว่านี้” ธีรวัฒน์จากมุมนี้พอจะเห็นแล้วว่าพวกเธอทั้งสามคนกำลังเป็นจุดสนใจของผู้ชายที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปคุยกับมากขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อนบ้านของศิลาก็ดูจะเมามากกว่าอีกสองคน
“รอดูไปก่อน ให้เธอสนุกต่ออีกนิดเดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับบ้านเอง” ศิลาไม่รู้ว่าเพราะอะไรปณาลีถึงมาเที่ยวและดื่มหนักขนาดนี้
ชายหนุ่มนั่งจิบวิสกี้หมดไปอีกแล้วก่อนจะลุกจากที่นั่งเมื่อคิดว่าปณาลีน่าจะไม่ไหวแล้ว
“พาส่งให้ถึงบ้านนะเว้ยศิลา” จิรกิตต์เอ่ยแซว
ศิลาเดินแหวกผู้คนเพื่อตรงไปยังหญิงสาวที่ยืนโยกตัวไปตามจังหวะเพลงแม้จะไม่ค่อยเข้าจังหวะแต่ก็ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมาก ยิ่งเข้าใกล้ได้เห็นเธอว่าเธอเซ็กซี่มากแค่ไหน ผิวขาวเนียนตัดกับชุดที่แดงเพลิง เอวเล็กคอดสะโพกกลมกลึงที่โยกไปมาก็ยิ่งเย้ายวนจนเขาลืมภาพปณาลีคนเดิมที่มักจะเห็นสวมชุดฟอร์มของธนาคารหรือไม่ก็ใส่ผ้ากันเปื้อน
“ยี่หวา” เขาเรียกเธอจากทางด้านหลัง
เสียงที่ฟังคุ้นหูทำให้ปณาลีหันกลับมาช้าๆ เธอพยายามจะเพิ่งมองว่าเขาคือใครจึงขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วจ้องอีกครั้ง
“อาศิลา มาเที่ยวเหรอค้า” เสียงที่เปล่งออกมาก็พอเดาได้ว่าเมามากแค่ไหน
“อามาเที่ยวแล้วยี่หวาล่ะ”
“ยี่หวาก็มาเที่ยวกับเพื่อน นี่ไงคะเพื่อนของยี่หวา” ปณาลีดึงแขนของเพื่อนทั้งสองคนให้เข้ามาใกล้
“ใครน่ะยี่หวา” ภัทรมนกระซิบ
“คุณ.....” วนรัตน์มองหน้าศิลาอย่างใช้ความคิด
“นี่อาศิลา อาศิลานี่เพื่อนของยี่หวา นี่มนส่วนคนนี้ชื่อรัตน์”
“ผมชื่อศิลาเป็นเพื่อนบ้านของยี่หวา” เขาแนะนำตัวก่อนจะมองหน้าวนรัตน์และรู้สึกว่าเคยเจอผู้หPbงคนนี้ที่ไหน
“คุณศิลากำลังสงสัยใช่ไหมว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” วนรัตน์ถามเมื่อเห็นเขาจ้องหน้าเธอนานกว่าปกติ แม้จะเริ่มเมาแต่ก็ยังพอมีติรู้ว่าเขาคนนี้คือใคร
“คุณคือพนักงานบัญชีที่บริษัทผมใช่ไหม”
“นี่คุณศิลาจำได้เหรอคะ” วนรัตน์แปลกใจเพราะไม่คิดว่าเจ้าของบริษัทจะจำพนักงานตัวเล็กอย่างเธอได้
“ถึงผมจะไม่ค่อยได้เข้าบริษัทแต่ก็พอจำพนักงานของตัวเองได้”
“ขอบคุณค่ะที่จำได้ คุณศิลาเป็นเพื่อนบ้านของยี่หวาเหรอคะ”
“ครับผมเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือน คุณรัตน์ผมถามหน่อยได้ไหมว่าทำไมวันนี้ยี่หวาถึงได้เมาเละขนาดนี้ล่ะ”
“มีเรื่องนิดหน่อยค่ะ”
“ผมว่าไม่นิดละมั้ง ยี่หวาเมาจนไม่ได้สติแล้ว”
“ปล่อยเธอเมาสักคืนเถอะค่ะ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะคะเดี๋ยวฉันจะดูแลเพื่อนเอง” ภัทรมนที่ไม่ได้ดื่มบอกเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มที่ทั้งเป็นห่วงและตำหนิ
“จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะพายี่หวากลับบ้าน เพราะถ้ายังกินอยู่แบบนี้เดี๋ยวคงได้ล้มพับ คุณคนเดียวคงดูแลคนเมาสองคนไม่ไหว” ศิลามองไปทางวนรัตน์ที่ดูแล้วก็น่าจะเมาอยู่ไม่น้อย
“เอาไงดีล่ะรัตน์ เจ้านายของแกไว้ใจได้ไหม” ภัทรมนกระซิบเพราะถ้าเธอต้องพาคนเมากลับบ้านสองคนก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
“ได้สิ”
“แกมั่นใจนะว่าเขาจะพายี่หวาไปส่งถึงบ้าน ไม่ใช่ลากขึ้นเตียงนะ” ภัทรมนถามออกมาตามตรงเพราะดูแล้วไม่ว่าใครจะพาไปทำอะไรที่ไหนปณาลีคงไม่ขัดขืนแน่
“ไว้ใจได้เลย คนที่บริษัทเล่าให้ฉันฟังว่าคุณศิลาถูกเมียขอหย่าเพราะเรื่องบนเตียง” เธอบอกเพื่อนตามที่ได้ฟังมาจากคนที่บริษัท
“หมายถึงอะไร”
“ฉันเดาว่าคงเสื่อมสมรรถภาพมั้งเมียถึงได้ขอหย่า เราไว้ใจเข้าได้” วนรัตน์ยืนยันย่างหนักแน่น
“ฉันให้คุณศิลาไปส่งยี่หวาที่บ้านก็ได้ นี่คะกระเป๋ายี่หวา ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วยได้ไหม รหัสหน้าจอของยี่หวา 43210 ค่ะ”
“ถ้างั้นผมจะพายี่หวาไปก่อนคุณสองคนล่ะ”
“เราก็จะกลับแล้วเหมือนกันเดี๋ยวเราช่วยพายี่หวาไปส่งที่รถก็ได้ ปะยี่หวากลับ”
“ไม่เอา ฉันไม่กลับ น้องเอาแบบเดิมมากอีกแก้ว ไม่สิ เอามาทั้งขวดเลย” ปณาลีบอกพนักงานเสิร์ฟแต่ศิลาหน้าห้ามไว้
“พอแล้วยี่หวา”
“อาศิลา ยี่หวาขอกินอีกแล้วได้ไหม ยี่หวาอยากเมา”
“นี่ก็เมามากแล้ว ถ้ายังดื้อแบบนี้อาจะอุ้มออกไปนะ”
“อาศิลาใจร้าย ทำไมยี่หวาต้องเจอกับผู้ชายใจร้าย” หญิงสาวโวยวายและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ศิลาและภัทรมนเห็นท่าไม่ดีเท่าไหร่ จึงรีบพากับพยุงปณาลีออกมาด้านนอกโดยมีวนรัตน์เดินตามออกมาอย่างช้าๆ เพราะเมาจนแทบเดินไม่ตรงทาง
“รถผมอยู่นั่น” เขาชี้ไปที่รถเก๋งสีดำที่จอดอยู่หน้าผับ
“ฝากยี่หวาด้วยนะคะ” ภัทรมนบอกอย่างเป็นห่วง
“ครับ ผมก่อนนะ”
ตลอดเวลาที่นั่งรถกลับมาที่บ้านปณาลีก็พึมพำมาตลอดทาง ศิลาจับใจความไม่ค่อยได้แต่ก็พอจะเดาออกมว่าหญิงสาวน่าจะมีปัญหากับคนรัก
เขาจอดรถที่หน้าบ้านของปณาลีจากนั้นก็ลงไปกดออดเพื่อให้น้องชายของเธอมาเปิดแต่ในบ้านก็มืดสนิทเหมือนว่าไม่มีคนอยู่
“ยี่หวา มีกุญแจบ้านไหม” เขาเปิดประตูรถแล้วถามคนที่นั่งคอพับ
“ไม่รู้ยี่หวาไม่รู้ อาศิลา ยี่หวาไม่อยากกลับบ้าน พาไปกินเหล้าต่อได้ไหม”
“นี่ก็เมามากแล้วอาว่ารีบเข้าบ้านนอนเถอะ”
“ตอนนี้หายเมาแล้ว ยี่หวาอยากกินต่อ”
“แต่เราถึงบ้านแล้วนะ”
“ไปกินบ้านอาศิลาก็ได้ ขอกินอีกหน่อยแล้วยี่หวาจะกลับนะ อาศิลานะ ยี่หวาขอแค่นี้เองทีอาศิลายังมากินข้าวบ้านยี่หวาได้เลย”
“เอางั้นก็ได้อาจะเลี้ยงเหล้ายี่หวาเองแต่เลี้ยงนิดเดียวนะ”
เสียงเปิดประตูทำให้ศิลาลืมตาตื่น เขาเห็นแผ่นหลังของปณาลีที่ดูรีบร้อนออกจากห้องไปแต่ก็ไม่คิดจะเรียกหรือรั้งเธอไว้เพราะตอนนี้เขายังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองและก็คิดว่าปณาลีก็คงไม่ต่างกัน ถ้าอย่างนั้นเธอคงไม่รีบร้อนไปจากเขาตั้งแต่เช้าทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้นความทรงจำของเมื่อคืนระหว่างเขากับปณาลีมันชัดเจนมาก ความสุขสมที่ได้รับมันสุขล้นอยู่ในความรู้สึก ศิลาแทบจะลืมไปว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้ ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาคลั่งได้มากเท่านี้ ไม่เคยมีใครที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีชีวิตชีวาอีกครั้งจากได้รับสถานะพ่อหม้ายมานานถึงสองปีกว่าศิลานึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอและเขาที่แนบชิด ความรู้สึกนี้มันดีเกินกว่าที่เขาจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ พ่อหม้ายหนุ่มนอนนิ่งๆ บนเตียง ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างใช้ความคิด กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง“ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้กับเธอด้วยนะยี่หวา” เขาบ่นกับตัวเอง เสียงหงุดหงิดเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจเมื่อคืนศิลายอมรับว่าตัวเองมีความสุขมาก และตอนนี้ก็ยังรู้สึกดีอย่างประหลาด การได้นอนกอดเธอแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยอยู่เคียง
ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามหากแต่เขาใช้มือประคองใบหน้าเธอแล้วริมฝีปากหยักก็ก้มลงมามอบจูบที่เร่าร้อนเติมไฟพิศวาสของทั้งสองโหมกระหน่ำอีกครั้ง ศิลาจูบนานก่อนจะลากปลายลิ้นมาดูดดุนยอดถันที่เขาดูดกินแล้วหลงใหลอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน มันชูชันสู้ลิ้นอย่างที่เขาชอบ“ยี่หวาหวานไปทั้งตัว”เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูก่อนจะขบเม้มเบาๆ แล้วลากปลายลิ้นไปตามซอกคอระหงสูดดมกลิ่นกายที่หอมยั่วยวน“อื้อ....อาศิลา”หญิงสาวแอ่นโค้งไปตามแรงดูดดุนของปากร้อน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังมีความต้องการอยากให้เขาเข้ามาในตัวเธออีกครั้งแต่ไม่รู้จะบอกเขายังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด เธอกำลังจมอยู่กับตัณหาปณาลีที่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีความต้องการมากมายขนาดนี้ แม้จะแตะขอบสวรรค์ไปแล้วแต่ร่างกายยังร้อนรุ่ม หญิงสาวโทษว่าเพราะเหล้าดีกรีแรงที่ดื่มเข้าไป มันไม่ใช่ตัวตนของเธอเลยสักนิดหญิงริมฝีปากอิ่มแลกจูบอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มไปตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง เธอจึงเบียดกายเข้าหาเพื่อรอคอยการเติมเต็มของพ่อหม้ายหนุ่มอีกครั้ง“ยี่หวาอาขอสดได้ไหม”เขายืดตัวขึ้นมากระซิบข้างหูและมองหน้าเธออย่างวิงวอน ตาคมจ้องอย่างรอคอยคำตอบเพร
ศิลามองร่างที่หอบเหนื่อยอยู่บนเตียงในห้องนอนที่เขายังไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมานอนแล้วเขาก็ยิ้ม ในเมื่อเธอเองก็ยินยอมและเขาเองก็เป็นชายชาตรีก็คงไม่อาจจะปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอย่างแน่นอนชายหนุ่มรีบจัดการกับชุดของตนแล้วคร่อมทับลงมาบนร่างหญิงสาวอีกครั้ง ปณาลีมองศิลาด้วยสายตาหวานเชื่อม ความเมาทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่กล้ามากขึ้น หญิงสาวเอื้อมมือลากไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องของเขาอย่างแผ่วเบา“อ่า....ยี่หวา”เขาครางแหบพร่าเมื่อมือนุ่มลากไปตามกล้ามท้อง มันกระตุ้นให้เขาไม่อยากจะรอเวลาอีกต่อไป ชายหนุ่มจูบไปยังเรียวปากอิ่มสีสวย สอดปลายลิ้นหยอกล้อเป็นพัลวันหญิงสาวจูบตอบแม้จะยังไม่เก่งแต่ก็ทำให้เขารู้สึกดี จูบหวานเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนปณาลีแทบหลอมละลายศิลาเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงควานหาถุงยางอนามัยที่ซื้อมาติดไว้แต่ยังไม่เคยได้เอาออกมาใช้เพราะนี่เป็นครั้งที่เขานอนกับผู้หญิงที่นี่ เขารีบสวมลงบนแก่นกายที่ร้อนระอุจากนั้นแยกเรียวขาของหญิงสาวให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิมริมฝีปากร้อนพรมจูบ ฝ่ามือฟอนเฟ้นหน้าอกอวบกนะตุ้นให้เธอเสียวซ่าน ส่วนมือข้างที่เหลือก็จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบสวยให้น้ำหวานช
คำตอบของปณาลีทำให้ศิลาต้องพยายามคุมสติของตนเองอย่างที่สุด เขามองลึกลงไปในดวงตาที่แดงก่ำและเห็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน ชายหนุ่มเข้าใจถึงความรู้สึกที่อยากจะหลีกหนีจากความเป็นจริงเพราะเขาเองก็เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน อยากจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น“อาอยากให้เราคิดให้ดีก่อนนะ” ศิลาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเขาไม่อยากใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของเธอ“ยี่หวาคิดดีแล้วค่ะ อาศิลาไม่รังเกียจยี่หวาใช่ไหมคะ” เธอถามพลางมองหน้าเขาสายตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ หญิงสาวกำลังคิดว่าใครๆ ก็รังเกียจและพากันทิ้งเธอไปศิลามองปณาลีในตอนนี้ดูสวยและเย้ายวนมากในชุดเกาะอกแดงรัดรูปที่ขับผิวขาวเนียนและปากอวบอิ่มสีแดงของเธอแล้วแอบกลืนน้ำลาย“ถ้ารังเกียจอาคงไม่พายี่หวามาที่นี่หรอกนะ” ศิลาตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าปณาลียิ้มก่อนจะดึงเขาเข้ามาใกล้และจูบลงบนริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา ศิลาตกใจเพราะไม่คิดว่าปณาลีจะทำแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ผลักไสเธอออกไป เขาจูบตอบเธออย่างนุ่มนวลก่อนที่ความร้อนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของร่างกายศิลากอดเธอไว้แน่นและจูบเธออย่างดูดดื่ม ปณาลีตอบสนองเขาอย่างไม่ประสาแต่ก็เต็มไป
ศิลาพาปณาลีมาที่บ้านของตนเองแต่กว่าจะพาเธอเดินมาถึงก็เล่นเอาแทบแย่เพราะเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็ถอยหลังอีกสามก้าวจนสุดท้ายเขาต้องประคองและแทบจะลากเธอเข้ามาด้านในชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ห้องรับแขกและหาไวน์ให้เธอดื่มเพราะถ้าให้ดื่มวิสกี้อย่างที่เขาชอบเธอก็คงจะแย่ไปกว่าที่เห็น“อร่อย” หญิงสาวจิบไวน์แล้วยิ้มตาเยิ้มทั้งเมาและพอใจกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์ราคาแพง“ยี่หวาบอกอาได้ไหมว่าทำไมถึงกินเหล้าหนักขนาดนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” ศิลาถามพลางมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์“เปล่าสักหน่อยก็แค่อยากเมา” เธอเถียงก่อนจะดื่มไวน์ไปทีเดียวหมดแล้วแล้วทำท่าจะหยิบขวดไวน์มารินอีก“ไหนบอกว่าจะกินอีกแค่นิดเดียว” ศิลาถามพลางเลื่อนขวดไวน์ออกห่างจากมือเธอ“อาศิลาอย่างกได้ไหมของอร่อยก็ขอกินเยอะหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูดื้อรั้นจนศิลาใจอ่อน“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบวิ่งกลับลงมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้า“อยากฟังเหรอคะ”“อยากฟังสิ เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่นและมีสติเล่าให้อา
ในขณะที่ปณาลีกำลังดื่มเหล้าอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาคู่หนึ่งก็มองด้วยความประหลาดใจและอดแปลกใจไม่ได้ว่าจะมาเจอกับเธอที่นี่ วันนี้ปณาลีดูสวยเซ็กซี่และโดดเด่นจนหลายคนในผับต่างมองไปที่เธอรวมถึงเขาและเพื่อนอีกสองคน“ผู้หญิงคนนั้นเป็นไงล่ะ สวยพอที่นายจะจัดการกับความเหงาของนายได้ไหมล่ะ” จิรกิตต์ถามพลางพยักหน้าไปทางหญิงสาวในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงที่เห็นว่าศิลาจ้องเธออยู่นาน“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด” ถึงแม้จะสนใจในตัวเธอมากแต่เขาก็ไม่อยากจะเสียเพื่อนบ้านที่ดีอย่างปณาลีไป“คนรู้จักเหรอ แต่นั่นมันสเปกนายเลย” ธีรวัฒน์แปลกใจเพราะผู้หญิงคนนั้นตรงกับสเปกของศิลามาก ตัวเล็กผิวขาวและที่สำคัญหุ่นของเธอก็ดีมากๆ ด้วย“เธอเป็นเพื่อนบ้าน”“แบบนี้ฉันว่าไม่ดีนะ เพราะถ้าคิดจะแค่วันไนท์ฯ คงต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่ว่าตอนแรกบอกว่าวันไนท์ฯแต่พอนอนด้วยกันแล้วอยากให้รับผิดชอบขึ้นมานายจะซวยเอานะ” จิรกิตต์ด้วยความหวังดี“อือ ฉันก็ไม่คิดจะนอนกับเธอหรอก ยี่หวาเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เธอน่ารักทำอาหารอร่อยมากด้วย”“แต่นายจ้องเธอนานแล้วนะ”“ก็แค่เป็นห่วงเห็นมากันแต่ผู้หญิงแล้วก็ท่าทางจะเมามากด้วย” เขาไม่เคย