ศิลาพาปณาลีมาที่บ้านของตนเองแต่กว่าจะพาเธอเดินมาถึงก็เล่นเอาแทบแย่เพราะเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็ถอยหลังอีกสามก้าวจนสุดท้ายเขาต้องประคองและแทบจะลากเธอเข้ามาด้านใน
ชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ห้องรับแขกและหาไวน์ให้เธอดื่มเพราะถ้าให้ดื่มวิสกี้อย่างที่เขาชอบเธอก็คงจะแย่ไปกว่าที่เห็น
“อร่อย” หญิงสาวจิบไวน์แล้วยิ้มตาเยิ้มทั้งเมาและพอใจกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์ราคาแพง
“ยี่หวาบอกอาได้ไหมว่าทำไมถึงกินเหล้าหนักขนาดนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” ศิลาถามพลางมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“เปล่าสักหน่อยก็แค่อยากเมา” เธอเถียงก่อนจะดื่มไวน์ไปทีเดียวหมดแล้วแล้วทำท่าจะหยิบขวดไวน์มารินอีก
“ไหนบอกว่าจะกินอีกแค่นิดเดียว” ศิลาถามพลางเลื่อนขวดไวน์ออกห่างจากมือเธอ
“อาศิลาอย่างกได้ไหมของอร่อยก็ขอกินเยอะหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูดื้อรั้นจนศิลาใจอ่อน
“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบวิ่งกลับลงมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้า
“อยากฟังเหรอคะ”
“อยากฟังสิ เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่นและมีสติเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงได้ดื่มจนเมาขนาดนี้ แล้วยี่หวาร้องไห้มาด้วยใช่ไหม ตาบวมไปหมดแล้ว” ศิลาถามอย่างอ่อนโยนพลางยื่นผ้าขนหนูให้เธอ
ปณาลีมองหน้าเขาแล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“พี่นนท์เขา...ฮือ...เขาขอเลิกกับยี่หวา เขาบอกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้…แต่เราคบกันมาเกือบสามปีแล้วนะคะ แล้วยังจะบอกอีกว่าขอลดสถานะเป็นพี่เป็นน้องอีก ถ้าอยากจะเป็นพี่น้องแล้วจะมาขอคบเป็นแฟนทำไม ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” ปณาลีพูดแล้วก็กระดกไวน์เข้าปากราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
ศิลามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกที่เห็นใจและสงสารเพราะเมื่อไม่กี่วันวันก่อนเธอยังดูอารมณ์ดีตอนที่ปณวัฒน์แซวว่าแฟนของเธอจะขอแต่งงาน
“ไม่เป็นไรนะยี่หวา…ไม่เป็นไร” เขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดไว้แน่น ปณาลีซบกับอกของเขาและปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก ศิลาปลอบโยนพลางลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน
ปณาลีร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของศิลาอยู่นานก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“ทำไมเขาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะคะ อาศิลา ยี่หวาไม่ดีตรงไหนอาศิลาลองบอกยี่หวาได้ไหมว่ายี่หวาไม่ดีตรงไหนหรือเพราะยี่หวาไม่สวย”
“อาว่ามันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ยี่หวาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ทำอาหารก็อร่อยมากด้วย ทำงานได้ทั้งในบ้านนอกบ้านแบบนี้จะหาได้ที่ไหนกันล่ะ”
“แต่เขาก็ยังทิ้งยี่หวาไปนะคะ”
“อาว่ายี่หวาอย่าไปสนใจคนที่ให้เห็นค่าของเราเลยนะ ยี่หวายังมีโอกาสได้เจอคนอีกเยอะ หน้าตาสวยๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ต้องมีคนดีเข้ามา”
“คนดีเหรอคะ ใครอยากจะได้แฟนเป็นคนดีกัน”
“ถ้าไม่อยากมีแฟนเป็นคนแล้วคนแบบไหนล่ะที่ยี่หวาอยากได้เป็นแฟน” เขาพยายามชวนคุยเพื่อให้เธอดื่มได้น้อยลง
“คนที่รักยี่หวาไงล่ะ ขอแค่นี่เอง” เธอพูดอย่างตัดพ้อ
“อาเข้าใจนะ แต่ตอนนี้พอก่อนดีไหม กลับบ้านเถอะเดี๋ยวอาไปส่ง”
“ยี่หวาไม่อยากกลับ ตอนนี้ยี่หวาอยากลืม…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“อาเข้าใจความรู้สึกของยี่หวานะ ความรักมันก็เป็นแบบนี้แหละ ตอนที่อามีปัญหากับเมียอาก็อยากจะกินเหล้าให้เมาเพื่อจะลืมแต่ พอหายเมามันก็เจ็บเหมือนเดิม ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจของเราเองนะ ว่าจะลืมเขาได้ไหมเรื่องของยี่หวาแผลมันยังสดอาจต้องใช้เวลาเพื่อจะลืม”
“นานแค่ไหนคะอาศิลา”
“อาไม่รู้ว่ายี่หวากับเขารักกันมากแค่ไหน ถ้ารักกันมากมีความทรงจำดีๆ ด้วยกันมันก็ยากที่จะลืม”
“ทำไมคะ ทำไมความรักถึงต้องทำร้ายกันขนาดนี้”
“ความรักไม่ได้ทำร้านใครเลยนะยี่หวา คนต่างหากที่ทำร้ายกันเอง อย่าคิดอะไรมากอาเชื่อว่าเดี๋ยวยี่หวาจะลืมเรื่องนี้ได้”
เขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดอีกครั้ง ปณาลีซบกับอกของเขาและปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างเต็มที่
“ยี่หวา ดึกมากแล้วเดี๋ยวปัณจะเป็นห่วงนะ เรากลับบ้านกันเถอะ”
“คืนนี้ปัณไม่อยู่ ยี่หวาไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว ขอยี่หวาค้างบ้านอาศิลาได้ไหม ขอนอนที่โซฟาก็ได้”
“ถ้าอยากค้างที่นี่อาก็ว่าแต่ยี่หวาโทรบอกเพื่อนก่อนว่าตอนนี้มาถึงบ้านแล้ว”
“ยี่หวาบอกเพื่อนแล้ว”
“ถ้างั้นก็ขึ้นไปนอนที่ห้องอาเดี๋ยวอาจะนอนที่ห้องนอนแขกเองตกลงไหม”
ปณาลีพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นแต่เพราะเมามากก็เลยทรงตัวไม่อยู่และโชคดีที่ศิลายืนอยู่ใกล้เขาเลยรับตัวไว้
“ไหวไหมยี่หวา เช็ดหน้าก่อนจะได้สดชื่น” เขาหยิบผ้าผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้าอีกครั้ง
“ไหวค่ะ”
“เดินช้าๆ นะเดี๋ยวอาพาไปนอน”
ศิลาพาปณาลีเข้ามายังห้องนอนของตนเอง พาเธอไปนอนบนเตียงเปิดแอร์และเปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้
“นอนพักนะอาจะออกไปนอนห้องข้างๆ ยี่หวามีอะไรเรียกอานะ” เขานั่งลงบนเตียงเอามือลูบไปบนศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน
“อาสิลา ยี่หวาไม่อยากอยู่คนเดียวอาอยู่กับยี่หวาได้ไหม”
“แต่มันไม่ดีนะ อาเป็นผู้ชายและยี่หวาก็เป็นผู้หญิงถ้ามีคนรู้คงไม่ดี”
“จะมีใครรู้วันนี้ปัณก็ไม่อยู่บ้าน”
“ยี่หวา ชายหญิงอยู่กันตามลำพังแบบนี้อาว่ามันไม่ดีเท่าไหร่นะ”
“ค่ะ ยี่หวาเข้าใจ” เธอพูดเสียงสั่นน้ำตาที่แห้งไปแล้วกลับมาไหลอีกครั้ง
“ยี่หวา ถ้าเข้าใจทำไมต้องร้องไห้ด้วย”
“จะไม่ร้องได้ยังไง ยี่หวามีแต่คนรังเกียจวันนี้ถูกแฟนทิ้งแล้วตอนนี้อาศิลาก็มาทิ้งอีกทำทุกคนใจร้ายกับยี่หวาแบบนี้ล่ะ”
“ยี่วา อาได้ไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ถ้าอยู่กันสองคนแบบนี้อากลัวว่า.....”
“อาคงหมายถึงกลัวว่าจะเผลอมีอะไรกับยี่หวาแล้วต้องมารับผิดชอบใช่ไหมล่ะ” เพราะความเมาทำให้ปลาณีพูดออกมาโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดี
“ถ้ายี่หวาถามตรงอาก็ตอบตรง อาไม่อยากรับผิดชอบอะไร ไม่อยากมีความรัก ไม่อยากคบใคร” ศิลาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ยี่หวาก็ไม่อยากมีความรักอีกแล้ว ไม่อยากคบใครเหมือนกัน” เธอตอบกลับทันควัน
“งั้นก็ต้องให้อาออกไปจากห้องนี้” พูดจบศิลาก็ลุกขึ้นจากเตียง
“อาศิลาอยากออกไปจริงเหรอ” หญิงสาวลุกขึ้นแล้วกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง ตอนนี้ปณาลีเหมือนคนขาดสติ
“ยี่หวา อาว่ายี่หวาปล่อยอาเถอะนะ ตอนนี้ยี่หวาก็เมาอาก็ดื่มไปเยอะ อาไม่อยากให้พรุ่งนี้เรามองหน้ากันไม่ติดถ้าคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น”
“บอกมาตรงๆ ก็ได้ว่ารังเกียจ” เสียงเธอกำลังน้อยใจอย่างหนัก
ศิลาหันกลับมามองหน้าเธอที่มองเขาอย่างตัดพ้อแล้วใจของชายหนุ่มก็อ่อนยวบ
“ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ สำหรับอามันจะเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ยี่หวาจะรับได้เหรอ”
“ถ้ามันจะให้คืนนี้ยี่หวาลืมเรื่องร้ายๆ ลืมผู้ชายเลว คนนั้นยี่หวาก็ว่ามันคุ้ม” เธอตอบกลับอย่างไม่ลังเล ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าและความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
ปณาลีและศิลาไม่สามารถเก็บความลับไว้ได้นานพวกเขาตัดสินใจบอกปณวัฒน์ว่าตอนนี้กำลังคบหากันอยู่ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปณวัฒน์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นว่าพี่สาวตนเองมีคนดีๆ อย่างศิลาคอยดูแลและศิลาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่เข้ามาในชีวิตของปณาลีแล้วปณวัฒน์ยอมรับเขาอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่เพราะเขามีอาชีพการงานดีมั่นคงแต่เพราะปณวัฒน์เห็นว่าคุณอาหนุ่มข้างบ้านคนนี้รักพี่สาวของเขาจริงๆ สายตาที่ศิลามองปณาลีนั้นปณวัฒน์รู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความรักความห่วงใยจนปิดเอาไว้ไม่มิดแม้ว่าตกลงคบหาและบอกน้องชายให้รับรู้แล้วแต่ทั้งสองก็ยังคงอยู่กันคนละบ้านแต่จะเปลี่ยนไปนอนบ้านหลังนั้นทีหลังนี้ทีทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองวันแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นพรุ่งนี้ก็เป็นวันวันอาทิตย์ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ศิลาวางแผนเอาไว้แล้วว่าคืนวันเสาร์เขาจะไปหาเธอที่ห้องแล้วจะเป็นคนแรกที่มอบดอกกุหลาบให้เธอในวันวาเลนไทน์ เขาชอบที่ทำเซอร์ไพรส์ให้ปณาลีเพราะชอบที่เห็นสีหน้าดีใจตื่นเต้นแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ เธอก็ทำให้เขายิ้มได้อยู่ตลอดบ่ายวันเสาร์ทั้งสองช่วยกันทำอาหารก่อนจะทานด้วยกันจากนั้นก็นั่งดูทีวีด้วยกันจนถึงสี่ทุ่มศิลาก็ขอต
“อาศิลาคิดว่าพี่สาวผมเป็นยังไงบ้างครับ” ปณวัฒน์ถามขณะทั้งสองมานั่งดูฟุตบอลด้วยกันบริเวณห้องรับแขก“ก็ดีนะ ยี่หวาเป็นคนจิตใจดีทำอาหารอร่อยมากๆ ด้วย”“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”“แล้วปัณหมายถึงแบบไหน” ศิลาแกล้งถาม“ผมหมายถึงว่าในมุมมองของอาศิลาพี่สาวผมพอจะเป็นแฟนอาศิลาได้ไหม”“นี่อานึกว่าปัณพูดเล่นนะ”“ผมไม่ได้พูดเล่นครับ ผมรู้สึกสบายใจมากๆ ที่อาศิลาย้ายมาอยู่ข้างบ้าน ได้ช่วยดูแลพี่สาวของผม” เขาพูดออกมาจากใจจริง ปณวัฒน์เป็นห่วงพี่สาวมากแต่เมื่อมีศิลาอยู่ข้างบ้านเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น“แต่ไม่มีใครดูแลพี่สาวปัณได้ดีเท่าปัณหรอกนะ”“ไม่เลยครับ ผมยังเด็กดูแลพี่สาวได้แค่เล็กน้อยแต่ผมอยากให้อาศิลาช่วยดูแลพี่ยี่หวา”“ทำไมปัณพูดเหมือนจะไม่อยู่ที่นี่แล้วล่ะ”“ผมพูดเผื่อไว้ครับพี่ ผมเป็นผู้ชายนะอนาคตต้องออกไปเผชิญโลกจะให้ผมอยู่บ้านกับพี่สาวตลอดก็คงเป็นไปไม่ได้”“แล้วปัณไว้ใจอาเหรอถึงได้ฝากพี่สาวไว้กับอาแบบนี้”“ผมไว้ใจอาศิลาครับ อาเป็นผู้ใหญ่ผ่านอะไรมาเยอะผิดหวังกับความรักมาแล้ว ผมว่าอาศิลาเข้าใจความรู้สึกนั้นดีและคงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับใครใช่ไหม” เขาจ้องศิลาอย่างต้องการคำตอบ“ปัณรู้ไหม ปัณดูเป็นผู
ความสัมพันธ์ระหว่างศิลาและปณาลีพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นผ่านมาสามเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากันแบบไม่มีสถานะ แต่ความสุขกับเต็มเปี่ยม พวกเขาใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่เติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้กันในวันช่วงปิดเทอมเป็นช่วงที่ปณาลีกังวลมากที่สุดเพราะปณวัฒน์จะกลับมาอยู่บ้านและเธอกลัวเหลือเกินว่าน้องชายจะสังเกตเห็นว่าเธอกับคุณอาข้างบ้านไม่ได้เป็นแค่เพื่อนบ้านกันอีกต่อไปแล้วเย็นนี้ปณวัฒน์กลับจากหอพักโดยมีศิลาเป็นคนอาสาไปรับทั้งสองคนช่วยกันทำอาหารเย็นก่อนจะถึงเวลาที่ปณาลีจะกลับมาจากที่ทำงานหญิงสาวยิ้มเมื่อเห็นศิลาและปณวัฒน์กำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัวด้วยความตั้งใจ“พี่ยี่หวากลับมาแล้วเหรอ”“ทำอะไรกันอยู่เหรอ”“วันนี้ผมกับอาศิลาช่วยกันทำกับข้าว พี่มาดูสิว่ามันน่ากินขนาดไหน”ปณาลีวางกระเป๋าถึงลงบนโซฟาจากนั้นก็เดินมาในห้องครัวและมองบนโต๊ะที่มีผัดวุ้นเส้น น้ำพริกกะปิปลาทูทอดผักทอดและต้มยำรวมมิตรอีกหนึ่งอย่าง“น่ากินทั้งนั้นเลยช่วยกันทำสองคนเหรอ”“เปล่าหรอกยี่หวาส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือปัณนะ อาก็แค่ช่วยหยิบจับแล้วก็หั่นพักบ้าง อาทำกับข้าวไม่เก่ง”“อาศิลาไม่ต้องทำกับข้าวเป็นหรอกครับ ให้พี่ยี่หวาเป็นคนทำให้กิ
“คนเก่งของอาเหนื่อยไหม” เขากระชับร่างหญิงสาวไว้แน่น แม้จะปลดปล่อยไปแล้วแต่เขายังไม่อิ่มเลยสักนิด ยิ่งสุขสมก็ยิ่งอยากได้เพิ่ม เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะกลายเป็นคนเซ็กซ์จัดมากขนาดนี้“อาศิลาล่ะคะ” ปณาลีเลือกที่จะถามกลับเพราะคนที่ออกแรงคือเขาไม่ใช่เธอ“ไม่เลย ถึงอาจะอายุเยอะแต่อาคิดว่าเรื่องนี้อาไม่มีทางแพ้ใครแน่ ยี่หวาเชื่ออาไหมล่ะ” ศิลาถามขณะไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนียนกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวอย่างช้าๆ“ยี่หวาเชื่อว่าอาศิลาแรงดี”“ไม่ใช่แค่แรงดีนะยี่หวาเอวอาก็ยังดีด้วย ยี่หว่าทำให้อากลับมาเป็นหนุ่มและเสียวจนแทบขาดใจทุกครั้งอาไม่เสียน้ำให้ใครมากเท่านี้มาก่อน จากนี้อาคงขาดยี่หวาไม่ได้”“อาศิลาก็ทำให้ยี่หวามีความสุขทำให้ยี่หวาก็จะขาดอาไม่ได้เหมือนกันแต่คืนนี้.....” หญิงสาวตอบออกมาจากความรู้สึกใจเธอตอนนี้มันมีเขาเข้ามาแล้วแต่ยังไม่อยากยอมรับเพราะกลัวความผิดหวัง“อย่าห้ามอาเลย แรงอายังเหลือ ยี่หวาก็หายเหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะ”ศิลาลูบไล้ไปตามผิวเนียนนุ่มอย่างหลงใหล สองมือเริ่มนวดเฟ้นอกอิ่มปลุกเร้าให้คนที่นอนพิงอยู่รู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้ง ปณาลีรับรู้ได้ถึงความต้องการของชายหนุ่มเพราะท่อนเอ็นร้อนกำลั
ศิลาเพิ่มความเสียวซ่านให้กับปณาลีด้วยการขบเม้มลงบนเต้าอวบตรงหน้าก่อนจะดูดเข้าปากร้อนสลับไปมาจนหญิงสาวหูอื้อตาลายไปหมดเธอครางเรียกชื่อเขาแทบไม่ขาดปากเพราะความเสียวซ่านที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ“อื้อ...อาศิลา ยี่หวาเสียว”“อาก็เสียวมาก ยี่หวาของอาเก่งมาก...อ้า....ยี่หวาของอา”แรงบีบรัดของร่องสวาททำให้ศิลาครางแหบพร่าเมื่อหญิงสาวสะบัดสะโพกพลิ้วขึ้นลงไปตามอารมณ์ปรารถนา เสียงเนื้อกระทบกันไปทั่วรถ“อาศิลาขา....ไม่ไหว เสียวเกินไปแล้ว ยี่หวาใจจะขาด.....”“เสียวแล้วชอบไหม”“ยี่หวาชอบค่ะอาศิลา มันเสียว อื้อ....อาศิลาอ้า.....”ปณาลีกรีดร้องพร้อมเกร็งกระตุกรับท่อนเอ็นที่กระแทกเข้าหาอย่างหนักหน่วง ร่องสาวทตอดถี่กระตุ้นให้ศิลาส่งตัวตนเข้าออกอย่างไม่พักแล้วเขาก็สุขสมตามเธอไปติดๆ ทั้งสองหอบเหนื่อยจนตัวโยน“อาศิลายี่หวาหมดแรง”“แค่รอบเดียวเองนะยี่หวา”“แต่เมื่อกี้ยี่หวาเป็นคนทำ อาศิลาเอาเปรียบตัวเองไม่ได้ออกแรงเลย”“งั้นจากนี้ยี่หวาแค่นอนครางก็พอนะที่เหลืออาจัดการเองตกลงไหม”ศิลาดึงท่อนเอ็นออกแล้วอุ้มเธอกลับไปที่เดิมก่อนจะสวมกางเกงแล้วเดินอ้อมไปอุ้มหญิงสาวจากเบาะข้างคนขับ“เดี๋ยวสิคะอาศิลา ยี่หวาขอใส่เสื้
ปณาลีฉลองกับเพื่อนสนิทที่ร้านอาหารใจกลางเมือง เสียงหัวเราะและบทสนทนาสนุกสนานดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง“ยี่หวา ฉันว่าคุณศิลาเขาเป็นคนดีนะ ตกลงคบกับเขาเถอะ” วนรัตน์พูดขึ้นหลังจากปณาลีเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้สนิทกับเขามากขึ้น“แล้วเรื่องข่าวลือว่าเขาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศล่ะ ฉันกลัวว่ายี่หวาแต่งงานไปจะแห้งเหี่ยวเอานะ” ภัทรมนเป็นห่วง“เรื่องนั้นอาจจะแค่ข่าวลือก็ได้นะมน ฉันเองก็ฟังเขามาอีกที”คำพูดของเพื่อนทำให้คนฟังหน้าแดงเพราะศิลาไม่ได้เป็นแบบที่คนอื่นพูดถึงเลยเขาไม่ได้เสื่อมเลยสักนิดบางทีปณาลียังคิดว่ามันมากไปด้วยซ้ำและเธอก็ยอมเขาทุกครั้งเช่นกัน“ยี่หวาแกเมาแล้วเหรอหน้าแดงมาก”“เมาที่ไหนวันนี้ฉันแค่เบียร์ไปสองแก้วเองไม่มาหรอกน่า”“ไม่เมาก็ดีแล้ว วันนี้คุณศิลาเขาจะมารับใช่ไหมล่ะ เมามากๆ เขาลากขึ้นเตียงจะยุ่งเอานะ”“แกก็อย่าพูดแบบนี้สิมนเดี๋ยวยี่หวามันก็กลัวเจ้านายฉันหรอก ฉันอยากให้ยี่หวากับคุณศิลาคบกันนะ”“ไหนลองบอกมาสิว่าเจ้านายแกมีดีอะไรบ้างเผื่อว่าฉันจะลองเปิดใจ” ปณาลีอยากรู้มุมมองของวนรัตน์ที่มีต่อศิลาว่าเธอจะเห็นเหมือนกับที่ตนเองเห็นหรือเปล่า“ก็คุณศิลาเป็นเจ้านายที่ดี ไม่ถือตัว ขยันทำงานมาก