ศิลาพาปณาลีมาที่บ้านของตนเองแต่กว่าจะพาเธอเดินมาถึงก็เล่นเอาแทบแย่เพราะเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็ถอยหลังอีกสามก้าวจนสุดท้ายเขาต้องประคองและแทบจะลากเธอเข้ามาด้านใน
ชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ห้องรับแขกและหาไวน์ให้เธอดื่มเพราะถ้าให้ดื่มวิสกี้อย่างที่เขาชอบเธอก็คงจะแย่ไปกว่าที่เห็น
“อร่อย” หญิงสาวจิบไวน์แล้วยิ้มตาเยิ้มทั้งเมาและพอใจกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์ราคาแพง
“ยี่หวาบอกอาได้ไหมว่าทำไมถึงกินเหล้าหนักขนาดนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” ศิลาถามพลางมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“เปล่าสักหน่อยก็แค่อยากเมา” เธอเถียงก่อนจะดื่มไวน์ไปทีเดียวหมดแล้วแล้วทำท่าจะหยิบขวดไวน์มารินอีก
“ไหนบอกว่าจะกินอีกแค่นิดเดียว” ศิลาถามพลางเลื่อนขวดไวน์ออกห่างจากมือเธอ
“อาศิลาอย่างกได้ไหมของอร่อยก็ขอกินเยอะหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูดื้อรั้นจนศิลาใจอ่อน
“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบวิ่งกลับลงมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้า
“อยากฟังเหรอคะ”
“อยากฟังสิ เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่นและมีสติเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงได้ดื่มจนเมาขนาดนี้ แล้วยี่หวาร้องไห้มาด้วยใช่ไหม ตาบวมไปหมดแล้ว” ศิลาถามอย่างอ่อนโยนพลางยื่นผ้าขนหนูให้เธอ
ปณาลีมองหน้าเขาแล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“พี่นนท์เขา...ฮือ...เขาขอเลิกกับยี่หวา เขาบอกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้…แต่เราคบกันมาเกือบสามปีแล้วนะคะ แล้วยังจะบอกอีกว่าขอลดสถานะเป็นพี่เป็นน้องอีก ถ้าอยากจะเป็นพี่น้องแล้วจะมาขอคบเป็นแฟนทำไม ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” ปณาลีพูดแล้วก็กระดกไวน์เข้าปากราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
ศิลามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกที่เห็นใจและสงสารเพราะเมื่อไม่กี่วันวันก่อนเธอยังดูอารมณ์ดีตอนที่ปณวัฒน์แซวว่าแฟนของเธอจะขอแต่งงาน
“ไม่เป็นไรนะยี่หวา…ไม่เป็นไร” เขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดไว้แน่น ปณาลีซบกับอกของเขาและปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก ศิลาปลอบโยนพลางลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน
ปณาลีร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของศิลาอยู่นานก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“ทำไมเขาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะคะ อาศิลา ยี่หวาไม่ดีตรงไหนอาศิลาลองบอกยี่หวาได้ไหมว่ายี่หวาไม่ดีตรงไหนหรือเพราะยี่หวาไม่สวย”
“อาว่ามันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ยี่หวาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ทำอาหารก็อร่อยมากด้วย ทำงานได้ทั้งในบ้านนอกบ้านแบบนี้จะหาได้ที่ไหนกันล่ะ”
“แต่เขาก็ยังทิ้งยี่หวาไปนะคะ”
“อาว่ายี่หวาอย่าไปสนใจคนที่ให้เห็นค่าของเราเลยนะ ยี่หวายังมีโอกาสได้เจอคนอีกเยอะ หน้าตาสวยๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ต้องมีคนดีเข้ามา”
“คนดีเหรอคะ ใครอยากจะได้แฟนเป็นคนดีกัน”
“ถ้าไม่อยากมีแฟนเป็นคนแล้วคนแบบไหนล่ะที่ยี่หวาอยากได้เป็นแฟน” เขาพยายามชวนคุยเพื่อให้เธอดื่มได้น้อยลง
“คนที่รักยี่หวาไงล่ะ ขอแค่นี่เอง” เธอพูดอย่างตัดพ้อ
“อาเข้าใจนะ แต่ตอนนี้พอก่อนดีไหม กลับบ้านเถอะเดี๋ยวอาไปส่ง”
“ยี่หวาไม่อยากกลับ ตอนนี้ยี่หวาอยากลืม…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“อาเข้าใจความรู้สึกของยี่หวานะ ความรักมันก็เป็นแบบนี้แหละ ตอนที่อามีปัญหากับเมียอาก็อยากจะกินเหล้าให้เมาเพื่อจะลืมแต่ พอหายเมามันก็เจ็บเหมือนเดิม ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจของเราเองนะ ว่าจะลืมเขาได้ไหมเรื่องของยี่หวาแผลมันยังสดอาจต้องใช้เวลาเพื่อจะลืม”
“นานแค่ไหนคะอาศิลา”
“อาไม่รู้ว่ายี่หวากับเขารักกันมากแค่ไหน ถ้ารักกันมากมีความทรงจำดีๆ ด้วยกันมันก็ยากที่จะลืม”
“ทำไมคะ ทำไมความรักถึงต้องทำร้ายกันขนาดนี้”
“ความรักไม่ได้ทำร้านใครเลยนะยี่หวา คนต่างหากที่ทำร้ายกันเอง อย่าคิดอะไรมากอาเชื่อว่าเดี๋ยวยี่หวาจะลืมเรื่องนี้ได้”
เขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดอีกครั้ง ปณาลีซบกับอกของเขาและปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างเต็มที่
“ยี่หวา ดึกมากแล้วเดี๋ยวปัณจะเป็นห่วงนะ เรากลับบ้านกันเถอะ”
“คืนนี้ปัณไม่อยู่ ยี่หวาไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว ขอยี่หวาค้างบ้านอาศิลาได้ไหม ขอนอนที่โซฟาก็ได้”
“ถ้าอยากค้างที่นี่อาก็ว่าแต่ยี่หวาโทรบอกเพื่อนก่อนว่าตอนนี้มาถึงบ้านแล้ว”
“ยี่หวาบอกเพื่อนแล้ว”
“ถ้างั้นก็ขึ้นไปนอนที่ห้องอาเดี๋ยวอาจะนอนที่ห้องนอนแขกเองตกลงไหม”
ปณาลีพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นแต่เพราะเมามากก็เลยทรงตัวไม่อยู่และโชคดีที่ศิลายืนอยู่ใกล้เขาเลยรับตัวไว้
“ไหวไหมยี่หวา เช็ดหน้าก่อนจะได้สดชื่น” เขาหยิบผ้าผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้าอีกครั้ง
“ไหวค่ะ”
“เดินช้าๆ นะเดี๋ยวอาพาไปนอน”
ศิลาพาปณาลีเข้ามายังห้องนอนของตนเอง พาเธอไปนอนบนเตียงเปิดแอร์และเปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้
“นอนพักนะอาจะออกไปนอนห้องข้างๆ ยี่หวามีอะไรเรียกอานะ” เขานั่งลงบนเตียงเอามือลูบไปบนศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน
“อาสิลา ยี่หวาไม่อยากอยู่คนเดียวอาอยู่กับยี่หวาได้ไหม”
“แต่มันไม่ดีนะ อาเป็นผู้ชายและยี่หวาก็เป็นผู้หญิงถ้ามีคนรู้คงไม่ดี”
“จะมีใครรู้วันนี้ปัณก็ไม่อยู่บ้าน”
“ยี่หวา ชายหญิงอยู่กันตามลำพังแบบนี้อาว่ามันไม่ดีเท่าไหร่นะ”
“ค่ะ ยี่หวาเข้าใจ” เธอพูดเสียงสั่นน้ำตาที่แห้งไปแล้วกลับมาไหลอีกครั้ง
“ยี่หวา ถ้าเข้าใจทำไมต้องร้องไห้ด้วย”
“จะไม่ร้องได้ยังไง ยี่หวามีแต่คนรังเกียจวันนี้ถูกแฟนทิ้งแล้วตอนนี้อาศิลาก็มาทิ้งอีกทำทุกคนใจร้ายกับยี่หวาแบบนี้ล่ะ”
“ยี่วา อาได้ไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ถ้าอยู่กันสองคนแบบนี้อากลัวว่า.....”
“อาคงหมายถึงกลัวว่าจะเผลอมีอะไรกับยี่หวาแล้วต้องมารับผิดชอบใช่ไหมล่ะ” เพราะความเมาทำให้ปลาณีพูดออกมาโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดี
“ถ้ายี่หวาถามตรงอาก็ตอบตรง อาไม่อยากรับผิดชอบอะไร ไม่อยากมีความรัก ไม่อยากคบใคร” ศิลาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ยี่หวาก็ไม่อยากมีความรักอีกแล้ว ไม่อยากคบใครเหมือนกัน” เธอตอบกลับทันควัน
“งั้นก็ต้องให้อาออกไปจากห้องนี้” พูดจบศิลาก็ลุกขึ้นจากเตียง
“อาศิลาอยากออกไปจริงเหรอ” หญิงสาวลุกขึ้นแล้วกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง ตอนนี้ปณาลีเหมือนคนขาดสติ
“ยี่หวา อาว่ายี่หวาปล่อยอาเถอะนะ ตอนนี้ยี่หวาก็เมาอาก็ดื่มไปเยอะ อาไม่อยากให้พรุ่งนี้เรามองหน้ากันไม่ติดถ้าคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น”
“บอกมาตรงๆ ก็ได้ว่ารังเกียจ” เสียงเธอกำลังน้อยใจอย่างหนัก
ศิลาหันกลับมามองหน้าเธอที่มองเขาอย่างตัดพ้อแล้วใจของชายหนุ่มก็อ่อนยวบ
“ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ สำหรับอามันจะเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ยี่หวาจะรับได้เหรอ”
“ถ้ามันจะให้คืนนี้ยี่หวาลืมเรื่องร้ายๆ ลืมผู้ชายเลว คนนั้นยี่หวาก็ว่ามันคุ้ม” เธอตอบกลับอย่างไม่ลังเล ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าและความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
เสียงเปิดประตูทำให้ศิลาลืมตาตื่น เขาเห็นแผ่นหลังของปณาลีที่ดูรีบร้อนออกจากห้องไปแต่ก็ไม่คิดจะเรียกหรือรั้งเธอไว้เพราะตอนนี้เขายังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองและก็คิดว่าปณาลีก็คงไม่ต่างกัน ถ้าอย่างนั้นเธอคงไม่รีบร้อนไปจากเขาตั้งแต่เช้าทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้นความทรงจำของเมื่อคืนระหว่างเขากับปณาลีมันชัดเจนมาก ความสุขสมที่ได้รับมันสุขล้นอยู่ในความรู้สึก ศิลาแทบจะลืมไปว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้ ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาคลั่งได้มากเท่านี้ ไม่เคยมีใครที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีชีวิตชีวาอีกครั้งจากได้รับสถานะพ่อหม้ายมานานถึงสองปีกว่าศิลานึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอและเขาที่แนบชิด ความรู้สึกนี้มันดีเกินกว่าที่เขาจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ พ่อหม้ายหนุ่มนอนนิ่งๆ บนเตียง ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างใช้ความคิด กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง“ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้กับเธอด้วยนะยี่หวา” เขาบ่นกับตัวเอง เสียงหงุดหงิดเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจเมื่อคืนศิลายอมรับว่าตัวเองมีความสุขมาก และตอนนี้ก็ยังรู้สึกดีอย่างประหลาด การได้นอนกอดเธอแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยอยู่เคียง
ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามหากแต่เขาใช้มือประคองใบหน้าเธอแล้วริมฝีปากหยักก็ก้มลงมามอบจูบที่เร่าร้อนเติมไฟพิศวาสของทั้งสองโหมกระหน่ำอีกครั้ง ศิลาจูบนานก่อนจะลากปลายลิ้นมาดูดดุนยอดถันที่เขาดูดกินแล้วหลงใหลอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน มันชูชันสู้ลิ้นอย่างที่เขาชอบ“ยี่หวาหวานไปทั้งตัว”เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูก่อนจะขบเม้มเบาๆ แล้วลากปลายลิ้นไปตามซอกคอระหงสูดดมกลิ่นกายที่หอมยั่วยวน“อื้อ....อาศิลา”หญิงสาวแอ่นโค้งไปตามแรงดูดดุนของปากร้อน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังมีความต้องการอยากให้เขาเข้ามาในตัวเธออีกครั้งแต่ไม่รู้จะบอกเขายังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด เธอกำลังจมอยู่กับตัณหาปณาลีที่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีความต้องการมากมายขนาดนี้ แม้จะแตะขอบสวรรค์ไปแล้วแต่ร่างกายยังร้อนรุ่ม หญิงสาวโทษว่าเพราะเหล้าดีกรีแรงที่ดื่มเข้าไป มันไม่ใช่ตัวตนของเธอเลยสักนิดหญิงริมฝีปากอิ่มแลกจูบอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มไปตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง เธอจึงเบียดกายเข้าหาเพื่อรอคอยการเติมเต็มของพ่อหม้ายหนุ่มอีกครั้ง“ยี่หวาอาขอสดได้ไหม”เขายืดตัวขึ้นมากระซิบข้างหูและมองหน้าเธออย่างวิงวอน ตาคมจ้องอย่างรอคอยคำตอบเพร
ศิลามองร่างที่หอบเหนื่อยอยู่บนเตียงในห้องนอนที่เขายังไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมานอนแล้วเขาก็ยิ้ม ในเมื่อเธอเองก็ยินยอมและเขาเองก็เป็นชายชาตรีก็คงไม่อาจจะปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอย่างแน่นอนชายหนุ่มรีบจัดการกับชุดของตนแล้วคร่อมทับลงมาบนร่างหญิงสาวอีกครั้ง ปณาลีมองศิลาด้วยสายตาหวานเชื่อม ความเมาทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่กล้ามากขึ้น หญิงสาวเอื้อมมือลากไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องของเขาอย่างแผ่วเบา“อ่า....ยี่หวา”เขาครางแหบพร่าเมื่อมือนุ่มลากไปตามกล้ามท้อง มันกระตุ้นให้เขาไม่อยากจะรอเวลาอีกต่อไป ชายหนุ่มจูบไปยังเรียวปากอิ่มสีสวย สอดปลายลิ้นหยอกล้อเป็นพัลวันหญิงสาวจูบตอบแม้จะยังไม่เก่งแต่ก็ทำให้เขารู้สึกดี จูบหวานเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนปณาลีแทบหลอมละลายศิลาเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงควานหาถุงยางอนามัยที่ซื้อมาติดไว้แต่ยังไม่เคยได้เอาออกมาใช้เพราะนี่เป็นครั้งที่เขานอนกับผู้หญิงที่นี่ เขารีบสวมลงบนแก่นกายที่ร้อนระอุจากนั้นแยกเรียวขาของหญิงสาวให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิมริมฝีปากร้อนพรมจูบ ฝ่ามือฟอนเฟ้นหน้าอกอวบกนะตุ้นให้เธอเสียวซ่าน ส่วนมือข้างที่เหลือก็จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบสวยให้น้ำหวานช
คำตอบของปณาลีทำให้ศิลาต้องพยายามคุมสติของตนเองอย่างที่สุด เขามองลึกลงไปในดวงตาที่แดงก่ำและเห็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน ชายหนุ่มเข้าใจถึงความรู้สึกที่อยากจะหลีกหนีจากความเป็นจริงเพราะเขาเองก็เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน อยากจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น“อาอยากให้เราคิดให้ดีก่อนนะ” ศิลาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเขาไม่อยากใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของเธอ“ยี่หวาคิดดีแล้วค่ะ อาศิลาไม่รังเกียจยี่หวาใช่ไหมคะ” เธอถามพลางมองหน้าเขาสายตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ หญิงสาวกำลังคิดว่าใครๆ ก็รังเกียจและพากันทิ้งเธอไปศิลามองปณาลีในตอนนี้ดูสวยและเย้ายวนมากในชุดเกาะอกแดงรัดรูปที่ขับผิวขาวเนียนและปากอวบอิ่มสีแดงของเธอแล้วแอบกลืนน้ำลาย“ถ้ารังเกียจอาคงไม่พายี่หวามาที่นี่หรอกนะ” ศิลาตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าปณาลียิ้มก่อนจะดึงเขาเข้ามาใกล้และจูบลงบนริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา ศิลาตกใจเพราะไม่คิดว่าปณาลีจะทำแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ผลักไสเธอออกไป เขาจูบตอบเธออย่างนุ่มนวลก่อนที่ความร้อนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของร่างกายศิลากอดเธอไว้แน่นและจูบเธออย่างดูดดื่ม ปณาลีตอบสนองเขาอย่างไม่ประสาแต่ก็เต็มไป
ศิลาพาปณาลีมาที่บ้านของตนเองแต่กว่าจะพาเธอเดินมาถึงก็เล่นเอาแทบแย่เพราะเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็ถอยหลังอีกสามก้าวจนสุดท้ายเขาต้องประคองและแทบจะลากเธอเข้ามาด้านในชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ห้องรับแขกและหาไวน์ให้เธอดื่มเพราะถ้าให้ดื่มวิสกี้อย่างที่เขาชอบเธอก็คงจะแย่ไปกว่าที่เห็น“อร่อย” หญิงสาวจิบไวน์แล้วยิ้มตาเยิ้มทั้งเมาและพอใจกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์ราคาแพง“ยี่หวาบอกอาได้ไหมว่าทำไมถึงกินเหล้าหนักขนาดนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” ศิลาถามพลางมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์“เปล่าสักหน่อยก็แค่อยากเมา” เธอเถียงก่อนจะดื่มไวน์ไปทีเดียวหมดแล้วแล้วทำท่าจะหยิบขวดไวน์มารินอีก“ไหนบอกว่าจะกินอีกแค่นิดเดียว” ศิลาถามพลางเลื่อนขวดไวน์ออกห่างจากมือเธอ“อาศิลาอย่างกได้ไหมของอร่อยก็ขอกินเยอะหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูดื้อรั้นจนศิลาใจอ่อน“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบวิ่งกลับลงมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้า“อยากฟังเหรอคะ”“อยากฟังสิ เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่นและมีสติเล่าให้อา
ในขณะที่ปณาลีกำลังดื่มเหล้าอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาคู่หนึ่งก็มองด้วยความประหลาดใจและอดแปลกใจไม่ได้ว่าจะมาเจอกับเธอที่นี่ วันนี้ปณาลีดูสวยเซ็กซี่และโดดเด่นจนหลายคนในผับต่างมองไปที่เธอรวมถึงเขาและเพื่อนอีกสองคน“ผู้หญิงคนนั้นเป็นไงล่ะ สวยพอที่นายจะจัดการกับความเหงาของนายได้ไหมล่ะ” จิรกิตต์ถามพลางพยักหน้าไปทางหญิงสาวในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงที่เห็นว่าศิลาจ้องเธออยู่นาน“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด” ถึงแม้จะสนใจในตัวเธอมากแต่เขาก็ไม่อยากจะเสียเพื่อนบ้านที่ดีอย่างปณาลีไป“คนรู้จักเหรอ แต่นั่นมันสเปกนายเลย” ธีรวัฒน์แปลกใจเพราะผู้หญิงคนนั้นตรงกับสเปกของศิลามาก ตัวเล็กผิวขาวและที่สำคัญหุ่นของเธอก็ดีมากๆ ด้วย“เธอเป็นเพื่อนบ้าน”“แบบนี้ฉันว่าไม่ดีนะ เพราะถ้าคิดจะแค่วันไนท์ฯ คงต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่ว่าตอนแรกบอกว่าวันไนท์ฯแต่พอนอนด้วยกันแล้วอยากให้รับผิดชอบขึ้นมานายจะซวยเอานะ” จิรกิตต์ด้วยความหวังดี“อือ ฉันก็ไม่คิดจะนอนกับเธอหรอก ยี่หวาเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เธอน่ารักทำอาหารอร่อยมากด้วย”“แต่นายจ้องเธอนานแล้วนะ”“ก็แค่เป็นห่วงเห็นมากันแต่ผู้หญิงแล้วก็ท่าทางจะเมามากด้วย” เขาไม่เคย