“แฟนเหรอ” เสียงทุ้มถามหญิงสาวขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ เพราะหญิงสาวไม่ยอมพูดจาอะไรเลย ตั้งแต่ที่ขึ้นรถมาแล้ว
“มะ ไม่ใช่ค่ะ เพื่อน” หญิงสาวรีบปฏิเสธทันควัน เมื่อร่างสูงถามออกมาแบบนี้
“ดู ๆ แล้ว เขาน่าจะชอบน้องน่ะ” พงศกรยังคงถามหาความจริงจากหญิงสาว
“ชะ ชอบอะไรกันค่ะ เราเป็นแค่เพื่อนกัน” หญิงสาวยังคงที่จะตอบออกมาแบบเดิม
ร่างสูงจึงได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับความใสซื่อของเธอ *ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย* พร้อมกับอมยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย *นี่เธอดูไม่ออกเหรอว่าเพื่อนสนใจเธอ*
“แล้วโทรมาทำไมไม่ยอมรับสายพี่” พงศกรเปลี่ยนเรื่องถามทันที
“คือ...” หญิงสาวอึกอักไม่กล้าตอบออกมา
ร่างสูงตีไฟเลี้ยว และรีบหักเลี้ยวเข้าจอดข้างทางทันที พร้อมกับปลดเข็มขัดออก จ้องมองหญิงสาวอย่างคาดโทษทันที
“พี่เคยบอกแล้วน่ะ แต่น้องท้าทายพี่เอง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พร้อมกับสายตาที่ดูเจ้าเล่ห์ออกมา
“น้อง...”
“อะไร” ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วถามขึ้น
“พะ พีเพชรจะทำอะไรค่ะ” หญิงสาวกลับตาลง พร้อมกับมือที่ยกขึ้นดันอกแกร่งของพงศกรออก
“หึ แค่ล้อเล่นเอง กลัวเหรอ” ร่างสูงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ เมื่อได้แกล้งหญิงสาว และยือมือหนาขึ้นมาขยี้ผมเธออยากหยอกล้อ เพราะความหมั่นไส้คนตัวเล็ก
“ฟู่ว์...อย่าล้อเล่นแบบนี้อีกนะคะ” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาทันที อย่างโล่งอก
“ทำไม เป็นโรคกลัวผู้ชายเหรอ ทีเมื่อกี้นี้ยังเห็นยืนคุยกันสนิทสนมกลมกลืนเชียว” ร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ประชดประชัน
“...” หญิงสาวไม่ตอบ แต่กลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“พี่ล้อเล่น โกรธเหรอ” มือหนาวางลงที่ศีรษะเธอ แล้วถามขึ้น
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวเอาแต่ปฏิเสธ
“...” ร่างสูงสังเกตุคนตัวเล็กหวั่นๆ ก็ละมือกลับคืนมา แล้วขาดเข็มขัดนิรภัยคืน แล้วก็ออกรถทันที โดยไม่พูดอะไร
“พี่จะพาน้องไปไหนค่ะ” หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นเอง เพราะดูเส้นทางแล้วไม่น่าจะใช่ทางไปห้องแถวของเธอเลย
“พี่หิวข้าว ไปทานเป็นเพื่อนหน่อยน่ะ” ร่างสูงเอ่ยตอบเพียงแค่นั้น แต่ไม่ได้หันมามองเธอ เพราะต้องใช้สายตาในการขับรถ
ห้างสรรพสินค้า
ทั้งคู่รับประทานอาหารจนเสร็จ ร่างสูงจึงพาเธอออกมาช็อปต่อ โดยหาเหตุผลสารพัดมาอ้างแก่หญิงสาว
“ชอบเครื่องไหน เลือกได้เลย” ร่างสูงถามหญิงสาวขึ้นทันที ที่พาเธอเดินเข้ามายังร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบรนด์ดังระดับโลก
“...” หญิงสาวตาลุกวาวขึ้นมาทันที เมื่อได้เห็นราคาของแต่ละเครื่อง ถ้าเทียบกับเครื่องที่เธอใช้อยู่ตอนนี้เพียงไม่กี่พัน ราคาที่ช็อปนี้คงจะซื้อได้ตั้งหลายเครื่องเลย
“พี่จ่ายให้เอง...” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีกังวลของหญิงสาว
“แต่เครื่องนี้น้องยังใช้ได้ค่ะ...” หญิงสาวให้เหตุผลกับร่างสูงออกไป
“ถ้าไม่เอาพี่จะให้น้องจ่ายค่าซ่อมรถให้พี่น่ะ...” ร่างสูงหันมาเอ่ยขู่อีกครั้ง
ทั้งที่รถของเขา แค่มีรอยขูดเพียงแค่นิดเดียว แต่รถของเธอกลับพังไม่มีชิ้นดี เพราะเธอดันเสียล้มลงก่อนที่รถยนต์คันหรูของพงศกรจะมาชนเข้าเสียอีก
“แต่ราคามันสูงเกินไป น้องไม่กล้าใช้หรอกค่ะ” หญิงสาวยังคงปฏิเสธ และอยากจะเดินออกจากตรงนี้ไปด้วยซ้พ
“เถอะน่า...ถือว่ารับน้ำใจจากพี่ ในฐานะที่เราเป็น...เอ่อ...คนที่พึ่งรู้จักกัน” แต่ร่างสูงคว้ามือของเธอเอาไว้
“ขอร้านอื่นที่ราคาไม่ถึงหมื่นได้ไหมค่ะ...”
“ร้านนี้แหล่ะ พอดีพี่เป็นลูกค้าวีไอพี เขามีส่วนลดให้” ร่างสูงคะยั้นคะยอโน้มน้าวจนเธอยอม
“น้องเลือกไม่เป็น...” หญิงสาวพูดออกมาตามตรงอย่างไม่อาย เพราะเธอก็ใช้ของราคาแพงขนาดนี้ไม่เป็นจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นพี่เลือกให้เองน่ะ...”
“เดี๋ยวค่ะ...เครื่องนั้นสีหวานเกินไป ขอเป็นสีเข้มละกันนะค่ะ” หญิงสาวรีบห้าม เมื่อเห็นว่าร่างสูงจะหยิบสีชมพูขึ้นมา
“เอารุ่นใหม่ล่าสุดสีที่เหมาะกับน้องเขา แต่ไม่ใช่สีหวานนะครับ นี้ครับบัตร” ร่างสูงจึงหันไปบอกแก่พนักงานขายแทน พร้อมกับยื่นแบล็คการ์ดให้แก่พนักงานไปพร้อมเลยทันที
เมื่อได้สิ่งของตามที่ต้องการแล้ว ไม่พอแค่นั้น ร่างสูงยังพาเธอไปยังโซนเสื้อผ้าอีก และก็เอาเรื่องเดิมมาขู่เธออีกเช่นเคย
“ขอกางเกงยีนส์ไซส์นี้สัก...เอ่อ 5 ตัว...” ร่างสูงเอ่ยขึ้นกับพนักงาน แต่ก็ต้องชะงักเพียงเล็กน้อยเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงลดปริมาณลง
“ตัวเดียวพอค่ะ...” หญิงสาวสวนขึ้นมาเสียก่อน
“สามครับ...” ร่างสูงที่ไม่ยอมแพ้ ก็ยืนต่อรองขึ้นมาทันที
“พี่เพชร...” หญิงสาวตวาดตามองร่างสูงที่เอาแต่ใจตัวเองทันที
“ครับ...”
“อยากทำอะไรก็ตามใจพี่เลย...น้องกลับก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวที่เริ่มหมดความอดทนกับคนหน้ามึน พูดขึ้นมาแบบไม่สนใจอะไรเลย แล้วเดินออกจากร้านนั้นไปทันที
“เอ่อ เดี๋ยวสิเอย เสื้อผ้าสิบชุดส่งไปตามที่อยู่นี้เลยนะครับ...ขอเป็นชุดนอนด้วยนะครับสักสามชุด” ร่างสูงเอ่ยบอกแก่พนักงานแล้วส่งนามบัตร พร้อมกับที่อยู่ของเขาไปให้แก่พนักทันที แล้วรีบสาวเท้ายาวเดินตามหญิงสาวออกมา
“เอย...รอพี่ก่อน” ร่างสูงรีบเอ่ยเรียกหญิงสาวเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเธอจะเดินออกไปเรียกรถที่ด้านหน้า
“น้องจะรีบกลับค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มจะมืดแล้วด้วย” หญิงสาวบอกเหตุผลของเธอออกไป
“ไปขึ้นรถครับ...พี่จะไปส่ง กลับคนเดียวมันอันตราย” ร่างสูงไม่พูดเปล่า ลากหญิงสาวเดินออกมายังรถเขาที่จอดอยู่
“แล้วอยู่ใกล้พี่...น้องจะไม่เป็นอันตรายใช่ไหมค่ะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามกลับไป อย่างไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น
“...ครับ” ร่างสูงยืนนิ่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพยักหน้ารับอีกที
“ดูพี่ลำบากใจตอบจังนะคะ...” หญิงสาวแซวออกมาทันที เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของร่างสูง
“ขึ้นรถครับ...กลับกันดีกว่าเนอะ ใกล้ค่ำแล้ว...” ร่างสูงไม่ได้สนใจ รีบเอ่ยบอกหญิงสาว พร้อมกับเปิดประตูรถให้เธอได้ขึ้นไปนั่งข้างคนขับทันที
ปัง
ร่างสูงปิดประตูรถลง แล้วรีบสาวเท้ายาวเดินกลับไปทางฝั่งคนขับอย่างรีบร้อน และขับรถออกจากตรงนี้ไปยังก้องพักของหญิงสาวทันที
บทส่งท้าย(จบ)ทั้งคู่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเดินลงมารอทุกคนกลับมา ในช่วงที่เวลาพลบค่ำแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นทุกคนกลับเข้ามาเลย“ยังคลื่นไส้อยู่ไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อนั่งลงที่ศาลาเล็ก ๆ หน้าบ้านของเธอ“ไม่แล้วคะ” หญิงสาวเอ่ยตอบออกมาตามความเป็นจริง เพราะอาการของเธอดีขึ้นมาบ้างแล้ว“สงสัยจะได้ยาดี” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจและรถที่ทุกคนออกไปข้างนอก ก็ขับกลับเข้าจอดที่บ้านของเธอในเวลาต่อมา“ซื้ออะไรมากันเยอะแยะครับ” พงศกรถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นทุกคนลงจากรถแล้วของเต็มมือกันไปหมด“เลี้ยงฉลองให้มึงยังไงละ ทีนี้ก็ละลึกถึงความดีของกูบ้างนะ” อัศนัยเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา เมื่อเอาของมาวางลงที่ศาลาใกล้กับปรียาภัทรนั่งอยู่“ได้ทีมึงก็ทวงบุญคุณกูเลยนะ ไอ้เพื่อนชั่ว” พงศกรต่อว่าออกมาอย่างหนอกล้อกันตามประสาเพื่อน“หริ่งหริ่ง” พจีพัฒน์ที่เดินตามหญิงสาวลงมาจากรถรีบเอ่ยเรียกเธอไว้ทันที เมื่อเห็นหญิงสาวหน้างอใส่เขา และรีบตามเธอไปโดยไม่สนใจฟอร์ยูเลย“อ้าว สองคนนี้เป็นอะไรกันอีกละ” พงศกรถามขึ้นมาทันที“อย่าไปสนใจเลย พ่อแง่แม่งอน ฟอร์ยูมาช่วยย่าดีกว่าเนอะ” นิ
รักคือการให้อภัย NCร่างสูงถอนจูบออกจากปากของ แล้วอุ้มหญิงสาวขึ้นมาในท่าเจ้าสาว เดินไปวางเธอลงบนที่นอนทันทีอย่างนุ่มนวล แล้วตามมาทาบทับร่างของเธอเอาไว้แต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักตัวลงไปทั้งหมด เพราะรู้ว่าเธอกำลังมีอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้อง ซึ่งก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขานั้นเอง“จะทำอะไร เอยท้องอยู่นะ” หญิงสาวถามขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่สื่อถึงความวิตกเป็นกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ทำได้ครับ ให้พี่เข้าไปทักทายลูกนะ เอยจะได้หายแพ้สักที” เสียงนุ่มเอ่ยบอกออกมา พร้อมกับส่งสายตามองเธออย่างเว้าวอนน่าสงสาร“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบอะไรกลับมา แต่กลับเบือนหน้าหนีออกไปทางอื่น เพื่อหลบสายตาเขาที่มองเธอจนแทบจะกลืนกิน และเพราะเก้อเขินที่ร่างสูงพูดจาหื่นห่ามออกมาอีกด้วย“เดี๋ยวพ่อเข้าไปหานะครับ ตัวเล็กอย่าแกล้งแม่เยอะสิ ดูสิแม่เอยผอมไปหมดแล้วน่ะ” มือหนาลูบไปที่หน้าท้องของเธอเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อ พร้อมกับก้มลงไปเอ่ยเสียงนุ่มพูดกับคนในท้อง แล้วจุ๊บท้องของเธอลงไปทันที“พี่เพชรอื้อ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อของเขาขึ้นมา แต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรต่อออกมา ปากหยักก็ก้มลงมาปิดปากของเธอเข้าเสียแล้วลิ้นร้อนกวาดต้อนชิมคว
ง้อหนัก ๆบ้านเรืองพาณิชยากุล“ทำไมบ้านเงียบจัง ทุกคนไปไหนกันคะป้าพิมพ์” พจีกานต์ถามขึ้น เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน แต่ต้องพบกับความเงียบ เพราะไม่มีใครอยู่เลย“ไปต่างจังหวัดกันคะ แม่แฟนคุณเพชรเสีย” พิมพาเอ่ยบอกแก่หญิงสาวออกไป“แม่แฟนพี่เพชรเสีย พี่เพชรมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมแพทไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย” หญิงสาวถามออกไป เพราะเธอไม่ทราบเรื่องจริง ๆ“ก็คุณแพทไม่เคยอยู่บ้านนี้คะ พวกคุณท่านเลยไม่ได้บอก” พิมพาเอ่ยบอก แล้วเดินเข้าไปที่ครัวต่อ“เที่ยวจนลืมว่าตัวเองมีครอบครัวรอที่บ้าน ทำตัวเหมือนว่าตัวเองตัวคนเดียวอย่างนั้นแหละ” เสียงทุ้มของคนที่เดินเข้ามาตามหลัง เอ่ยแซวขึ้นมาทันทีสิบทิศ หรือ ทิศ ชายหนุ่มในวัย 35 ปี ช่างซ่อมบำรุงข้างบ้านของเธอนั้นเอง เข้าออกมาบ้านนี้บ่อย เพราะพัฒน์พงษ์จ้างมาเป็นช่างประจำบ้าน และจะค่อนข้างสนิทกับคนงาน คนสวน เหล่าแม่บ้านของบ้านเธอ เพราะพิมพาชอบเอาอาหาร หรือของกินต่าง ๆ แบ่งไปให้ตลอด “นี้นาย...” พจีกานต์ตะคอกเสียงใส่ทันที เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร“พูดเพราะ ๆ หน่อยครับคุณผู้หญิง ผมแก่กว่าคุณตั้งหลายปีน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกออกมา พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห
ความจริงทั้งหมดรถขับเข้ามาถึงเพียงหน้าหมู่บ้านในเวลาตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว หญิงสาวที่มองเห็นแค่ป้ายชื่อหน้าหน้าหมู่บ้าน น้ำตาก็ไหลออกมาอีกทันทีร่างสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นั้น ละทิ้งทุกอย่างที่ทำไว้ทันที เอื้อมมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน และลูบศีรษะเพื่อปลอบประโลมเธอ“เอยยังมีพี่ มีครอบครัวของพี่อยู่นะ พี่จะอยู่กับเอยกับลูกนะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับกุมมือของเธอเอาไว้ เพื่อเป็นคำมั่นสัญญา“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับใด ๆ แต่กลับร้องไห้ออกมาอย่างหนักกว่าเดิม“ไปหาแม่อรกันนะ เข้มแข็งนะครับคนดีของดีของพี่ แม่อรท่านไปสบายแล้ว” มือหนาเช็ดน้ำตาให้เธอ แล้วจึงพากันลงจากรถ เมื่อรถมาจอดที่บ้านของเธอแล้ว และตอนนี้ก็มีผู้คนมากมายช่วยกันจัดเตรียมทุกอย่างให้เป็นอย่างดี“เอื้อย...พี่เพชร” (พี่...พี่เพชร) ออมสินเห็นทั้งสองคนลงมาจากรถ ก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดพี่สาวทันที“เบา ๆ หน่อยออมสินพี่เอยท้องอยู่ มากอดพี่แทนก็ได้” พงศกรเอ่ยบอก เพราะน้องชายที่ยังไม่รู้อะไร พุ่งเข้ามาสวมกอดพี่สาวอย่างแรง จนเธอเกือบจะเซล้ม ดีที่มีร่างสูงของพงศกรคอยประคองกอดเอวเธอเอาไว้“ไม่เอาหรอก”“ไปไหว้แม่อรกันนะ” เส
สูญเสีย“หนูเอย...” นิษฐาที่เข้ามาถึงภายในบ้าน เรียกหญิงสาวขึ้นมาทันที และรีบเข้าไปดูหญิงสาวที่หลับสนิทอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก“แม่...ไอ้นัย” พงศกรหันไปมองตามเสียงคนที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน“น้องเป็นอะไร...โทรตามหมอหรือยัง” นิษฐาถามลูกชายออกไปทันที เพราะรู้สึกเป็นกังวลที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“...” พงศกรเอาแต่ส่ายหน้ารับ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรต่อ และก็ไม่รู้ด้วยว่าอาการของหญิงสาวเป็นคืออะไร เอาแต่นั่งลงกุมมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้แน่นไม่ยอมห่าง“ตาเพชรไปเอาผ้าชุบน้ำมา ตานัยโทรตามหมอณัฐให้อาด่วนเลย และโทรบอกคนในบ้านให้รีบกลับกันเข้ามาด้วย” นิษฐาหันไปสั่งทางลูกชาย และเพื่อนของลูกชายด้วย“มาแล้วครับคุณแม่” พงศกรเดินถือกะละมังใส่น้ำพร้อมกับผ้าผืนเล็กกลับมาที่เดิม“เช็ดหน้าให้น้อง เอายาดมให้น้องดมด้วย แม่จะโทรบอกคุณพ่อกับน้อง ๆ ก่อน” นิษฐาเอ่ยบอกลูกชายอย่างใจเย็น และเดินออกไปโทรศัพท์หาสามีและลูกของเธอให้รีบกลับบ้านกันโดยด่วนพงศกรทำตามที่แม่บอกเอาไว้ทุกอย่าง อย่างตั้งใจบรรจงเช็ดหน้าให้เธออย่างเบามือที่สุด เพราะไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน“แม่...” เสียงเอ่ยเรียกแม่ออกมาอย่างแผ่วเบาจากหญิง
เรื่องที่ไม่คาดคิดบ้านเรืองพาณิชยากุล“กลับมากันแล้วหรือคะ...” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือใคร“อะ เอย!” พงศกรอ้าปากค้างทันที ที่หันมาพบว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใครร่างสูงเมื่อตั้งสติได้ รีบรวบรวมความกล้า ขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวทันที หมายจะเข้าไปสวมกอดเธออย่างแสนคิดถึง“ออกไป” หญิงสาวเอ่ยปากไล่เสียงดังขึ้นมาทันที“เอย คุยกันก่อนครับที่รัก” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น และพยายามจะเข้าไปใกล้ ๆ เธออีกครั้ง“อย่ามาเรียกฉันแบบนี้” หญิงสาวสั่งห้าม พร้อมกับพยายามที่จะถอยหนี เมื่อร่างสูงจะเข้ามาใกล้เธอ“เอย” ร่างสูงรวบรวมความกล้า ย่างก้าวเข้าหาอีกครั้งอย่างช้าๆ“บอกให้ออกไปยังไงละ ไม่ได้ยินเหรอไง” เสียงตวาดดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง“จะให้พี่ออกไปไหนละ ก็นี้มันบ้านพี่นะ” พงศกรเอ่ยขึ้นบอกทันทีเพราะเขาเข้าใจเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ของแม่และเพื่อนเขาทันที ที่พยายามจะสื่ออะไร ที่แท้ก็อยากให้เขามาปรับความเข้าใจกันนี้เอง ไอ้เพื่อนนัยปิดบังกันสะนานเลยนะ“...” ปรียาภัทรนิ่งเงียบทันที“ที่นี่คือบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่เอง พ่อพงษ์แม่นิษ” พงศกรเอ่ยบอกความจร