บทที่ 3 จิวซินหายตัวไป
ยามเหม่า (05.00) สาวใช้พากันตื่นตั้งแต่ยังไม่สว่างเพราะต้องจัดเตรียมแต่งกายให้แก่จิวซิน เป็นเวลาเดียวกันที่จิวหลินนั้นตื่นขึ้นมาเพราะนางเป็นคนที่หูเบามาก นางจึงเดินออกมาดูสาวใช้ที่กำลังจัดเตรียมของต่าง ๆ อย่างกระตือรือร้น
"คุณหนูมาทำอันใดอยู่ตรงนี้เจ้าคะ รีบมากับข้าเถิดเดี๋ยวจะไม่ทันการ" จิวหลินที่กำลังเดินอยู่ก็ถูกสาวใช้ที่ดูเหมือนจะเป็นแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่ แต่ที่จิวหลินไม่เข้าใจคือนางมาดึงแขนจิวหลินไปทำไมกัน
"เดี๋ยวสิ ท่านจะพาข้าไปที่ใดหรือ" จิวหลินคิ้วขมวดเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ก็ต้องไปที่ห้องแต่งตัวสิเจ้าคะ อีกประเดี๋ยวฟ้าก็สว่างขบวนเกี้ยวขององค์ชายก็จะมาถึงเดี๋ยวไม่ทันการเจ้าค่ะ อย่าเอ่ยอันใดอีกเลยรีบตามข้ามาเถิดเจ้าค่ะ" จิวหลินยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ผู้ที่จะแต่งงานออกนอกเรือนวันนี้ต้องเป็นท่านพี่สิมิใช่นางเสียหน่อย นางจึงหยุดเดินทำให้สาวใช้ถึงกับเซเพราะแรงของจิวหลินนั้นมีมากเหลือเกิน
"แต่ข้ามิใช่ท่านพี่จิวซิน และข้าก็ไม่เชื่อว่าท่านมองไม่ออก ท่านดูแลท่านพี่มาตั้งแต่เด็ก ดูไม่ออกจริง ๆ นะหรือ" จิวหลินเห็นว่าบางอย่างผิดแปลกไปทำให้นางเอะใจเหตุใดจู่ ๆ ถึงมาจับตัวนางทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ผู้ที่ควรไปหาก็น่าจะอยู่ที่ห้องสิ แต่แล้วจู่ ๆ สตรีผู้นั้นก็ได้คุกเข่าลงต่อหน้าจิวหลินเมื่อมองไม่เห็นผู้ใด
"คุณหนูข้ารู้แต่ว่าตอนนี้ข้าจำเป็นต้องให้คุณหนูช่วยเจ้าค่ะ แม้มันจะไม่ถูกต้องแต่ทว่าตอนนี้คุณหนูใหญ่จิวซินได้หายตัวไปจากห้องแล้วเจ้าค่ะ หากคุณหนูไม่ไปแทนตระกูลจิวของคุณหนูก็อาจจะได้รับโทษนะเจ้าคะ คุณหนูก็รู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานที่ฝ่าบาทพระราชทานมาให้ " สาวใช้เมื่อเห็นว่าถูกจับได้จึงได้บอกความจริงแก่จิวหลิน ทำให้นางตกใจเบิกตาโพลงโต
"เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร! เรื่องใหญ่ขนาดนี้เหตุใดเจ้าไม่แจ้งท่านพ่อกับท่านแม่ ข้าคงเป็นตัวแทนของท่านพี่มิได้หรอก เจ้ามากับข้าเถิดข้าจะบอกท่านพ่อเรื่องนี้เอง " จิวหลินรีบคิดหาทางออก หากนำเรื่องนี้ไปหารือกับท่านพ่อท่านแม่อาจจะพบทางออก นางจะไม่ยอมเป็นตัวแทนของผู้ใดแน่ ๆ อีกอย่างการแต่งงานครั้งนี้นางคิดว่าท่านพี่เต็มใจเสียอีก
"ไม่ได้นะเจ้าคะ มิเช่นนั้นคุณหนูใหญ่ต้องถูกท่านใต้เท้าทำโทษเอาได้ " นางจับมือของจิวหลินอย่างอ้อนวอน
"ไม่ได้อย่างไรก็ไม่ได้ เพราะหากข้าเป็นผู้หายไปทุกคนจะคิดว่าอย่างไร มาเถิดหากเจ้ากังวลอยู่เช่นนี้จะไม่ทันการอย่างที่เจ้ากล่าว " จิวหลินปล่อยมือของสาวใช้เดินตรงไปหาท่านพ่อที่ห้อง โชคดีที่ท่านพ่อกับท่านแม่ก็ได้ตื่นพร้อมกำลังยืนดูบ่าวไพร่จัดเตรียมของอยู่
"ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกมีจะเรื่องหารือกับท่านพ่อท่านแม่สักครู่ ไปที่ไม่มีสาวใช้ได้หรือไม่เจ้าคะ"
"จิวหลินเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ? สำคัญมากกว่างานของพี่เจ้าหรือไม่? "
"สำคัญเจ้าค่ะ สำคัญทั้งกับท่านพี่และตัวข้าเอง" ใต้เท้าจิวมองดูสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังเมื่อเห็นสีหน้าของนางก็เริ่มเข้าใจ เพราะนางคือแม่นมสาวใช้ข้างกายของจิวซิน
"เช่นนั้นก็ไปคุยกันที่ห้องโถงเถอะ นี่เจ้าไปตามฮูหยินที่โรงครัวมาที" ใต้เท้าจิวได้สั่งสาวใช้ที่ยืนจัดผ้าอยู่ให้ไปตามฮูหยินมาที่ห้องโถงก่อนที่จะเดินนำจิวหลินไป
เมื่อมาถึงห้องโถงแม่นมของจิวซินก็ได้นั่งคุกเข่าลงพื้นพร้อมก้มหน้าลงเพราะความผิดมหันต์นี้นางไม่รู้จะทำเช่นไรได้แต่ยอมรับความผิดที่ต้องพบเจอ
"เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!!! " เมื่อใต้เท้าจิวได้รู้เรื่องที่จิวซินหายตัวไปก็เกิดอารมณ์โมโหเกรี้ยวโกรธมากดวงตาแข็งกร้าว
"ท่านใต้เท้าข้าผิดไปแล้ว แต่ก่อนที่ข้าจะกลับไปพักก็ได้ส่งตัวคุณหนูเข้านอนแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่คิดเลยว่าคุณหนูจะทำเช่นนี้ " สีหน้าเป็นกังวลของท่านพ่อทำให้จิวหลินเห็นได้ชัด ส่วนแม่นมก็เอาแต่นั่งก้มหน้าตัวสั่นเทา
"ท่านพ่อเจ้าคะ แม้ลูกไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นเช่นไร แต่ว่าตอนนี้ฟ้าใกล้สว่างแล้วเราต้องมาคิดก่อนว่าจะทำอย่างไรเจ้าค่ะ ส่วนเรื่องนี้ค่อยคิด " เสมือนจิวหลินได้เตือนสติของผู้เป็นบิดา เขาจึงครุ่นคิดและหันมามองหน้าของจิวหลินอย่างมีหวัง
"จริงอย่างที่เจ้ากล่าวออกมา เราต้องหาทางคิดเรื่องนี้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน จิวหลินแม้ว่าข้าไม่ได้เลี้ยงดูเจ้ามาแต่ข้าเองก็เป็นผู้มีพระคุณ เจ้าเข้าร่วมพิธีแทนท่านพี่ของเจ้าได้หรือไม่? ส่วนข้าจะสั่งให้บ่าวในเรือนออกตามหาจิวซินให้เร็วที่สุด เมื่อพบนางแล้วข้าจะให้นางกับเจ้าเปลี่ยนตัวเป็นเช่นเดิม" ใต้เท้าจิวเดินเข้ามาจับมือของจิวหลินพร้อมขอความช่วยเหลือ ทำให้นางลำบากใจเป็นอย่างมาก
"เอ่อ... ท่านพ่อเจ้าคะข้าเป็นเพียงสตรีที่ถูกเลี้ยงมาในชนบทไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวังหลังเลย ข้ามิอาจทำตามคำขอของท่านพ่อได้หรอกเจ้าค่ะ"
"เจ้าจะให้ตระกูลของเราต้องโทษหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าโทษที่จะได้รับหนักหนาเพียงใด แม้แต่ชีวิตเจ้าเองก็จะโดนลงโทษเช่นกัน ..." สีหน้าของใต้เท้าจิวสลดลงเล็กน้อยก่อนจะบอกไม่ให้จิวหลินทำ
"แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เช่นนั้นเจ้าจงรีบพาท่านพี่กลับเรือนเถิด โทษครั้งนี้ข้าจะรับมันไว้เอง" คำพูดสิ้นหวังของใต้เท้าจิวทำให้จิวหลินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นางจึงจับมือของท่านพ่อแน่น
"ท่านพ่อหากเป็นเช่นนี้ข้าจะยอมเข้าพิธีแทนท่านพี่เองเจ้าค่ะ " ใต้เท้าจิวใบหน้าผลันเปลี่ยนสีรอยยิ้มเริ่มปรากฎบนใบหน้า
"ไม่ได้!! ไม่ได้นะข้าไม่ยอม "ท่านป้าได้เดินเข้ามาก็ได้ห้ามไม่ให้จิวหลินหลานรักของตนเองต้องแต่งงานแทนผู้ใด
"ข้าเองก็ไม่ยอมเช่นกันเจ้าค่ะ" ท่านแม่ที่เดินตามหลังมาก็ได้เอ่ยออกมาราวกับท่านป้าทำให้จิวหลินกับใต้เท้าจิวต้องหันไปมองพร้อม ๆ กัน
"แล้วท่านพี่จะให้ข้าทำเช่นไรขอรับนี่ก็ใกล้ยามเฉิน (07.00) แล้วปานนี้ขบวนเกี้ยวจากวังหลวงคงกำลังเดินทางมาที่เรือนของเราแล้ว นี่เป็นทางเดียวที่ตระกูลของเราจะรอด" จิวหลินมองใบหน้าท่านป้าที่ไม่พึงพอใจแต่เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของท่านพ่อท่านแม่นางจึงเดินไปหาท่านป้า
"ท่านป้าเจ้าคะ ข้ารู้ดีว่าท่านรักและเอ็นดูข้า ไม่เคยห่างกายกันสักคราแต่ครั้งนี้ข้าขอตอบแทนพระคุณท่านพ่อท่านแม่ได้หรือไม่เจ้าคะ อีกอย่างท่านพ่อบอกข้าว่าจะออกตามหาท่านพี่ ไม่นานก็คงหาท่านพี่เจอถึงตอนนั้นค่อยเปลี่ยนตัวข้าออกมา ข้าก็จะได้กลับเรือนกับท่านป้า ส่วนเรื่องวันนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้โดยไม่มีผู้ใดต้องโทษนะเจ้าคะ" นางจับมือของท่านป้าที่ถือพัดอยู่
"เด็กน้อยเอ๋ยเจ้ารู้หรือไม่ว่าวังหลังน่ากลัวเช่นไร เจ้าเป็นเพียงสตรีที่ไม่เจนโลกแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ในนั้นได้อย่างไร ไม่เอาข้าไม่ให้เจ้าไป" สายตาจ้องมองอย่างห่วงใยพร้อมเอ่ยออกมาเสียงแข็ง
"ท่านพี่ ข้าสัญญาว่าจะรีบตามหาตัวของจิวซินให้พบแล้วพาตัวจิวหลินออกมา ให้ท่านพี่เชื่อใจข้าสักครั้งนะขอรับอย่างไรจิวหลินเองก็เป็นบุตรสาวของข้า" ใต้เท้าจิวได้เดินเข้ามาใกล้ท่านพี่ของตนพร้อมอ้อนวอนให้ท่านพี่เห็นใจตนเอง
"ก็ได้หากเจ้ารับปากข้าจะพาตัวจิวหลินมาคืนข้าเมื่อเสร็จพิธี" ท่านป้าได้เห็นใจจึงยอมให้จิวหลินเข้าร่วมพิธีแทน
"ท่านพี่ข้าไม่อยากให้ลูกต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้ เราออกไปยอมรับผิดและให้ฝ่าบาทกล่าวโทษเถิดเจ้าค่ะ ข้าสงสารจิวหลินนางไม่รู้เรื่องด้วยแท้ ๆ "ท่านแม่ที่เคร่งเครียดอยู่ก็ได้เอ่ยขึ้น แต่แล้วก็ต้องถูกใต้เท้าจิวหันไปมองด้วยสายตาโหดเหี้ยมจนนางหลบสายตาและปิดปากเงียบ
"ท่านแม่ ไม่ต้องคิดมากเจ้าค่ะ ข้าเต็มใจทำขอให้ทุกคนแยกย้ายส่วนข้าจะไปแต่งกายเป็นท่านพี่เองเจ้าค่ะ" จิวหลินยิ้มให้ทุกคนก่อนจะหันมองแม่นมของท่านพี่ให้เดินนำตนเองไป
ใต้เท้าจิวโล่งอกพรางแสยะยิ้มมุมปากแต่กลับกันกับฮูหยินที่ตอนนี้นางดวงตาแดงก่ำใบหน้าเศร้าหมอง
บทที่ 34 พ่ายรักพระชายาตัวแทนหลายวันต่อมาจิวหลินกลับมาอยู่วังหลวงอยางมีความสุข เสี่ยวหลงก็ไม่ยอมอยู่ห่างนางเลยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งห้องนอนยังต้องย้ายมานอนในห้องเดียวกัน"จิวหลินตอนนี้เจ้าเก็บของเสร็จหรือยัง? ""เสร็จแล้วเพคะ หม่อมฉันตื่นเต้นเหลือเกินเพคะไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ""ให้ข้าบอกเจ้ามั้ยล่ะ ชีวิตของเจ้าต่อจากนี้คือเจ้าต้องตั้งครรภ์บุตรของข้าโดยมีซือเล่อคอยช่วยเหลือ ข้าวางแผนจะมีบุตรสักสามคนกำลังดี พอเจ้าคลอดข้าก็จะให้เจ้าท้องอีกคนดีหรือไม่ความคิดของข้า""ฮึ! ไม่เพคะ หม่อมฉันจะปลูกผักปลูกข้าวทำทุกอย่าง และนำข้าวของที่ได้มาส่งขายที่ตลาดเพคะ หม่อมฉันจะยังไม่มีบุตรจนกว่าเราจะมีทุกอย่างมั่นคงเพคะ ""แต่ว่าทุกวันนี้ข้ากับเจ้าก็มีจนไม่ต้องชาตินี้ทั้งชาติก็ใช้ไม่หมดแล้วนะ อย่าลืมสิว่าข้าคือองค์ชายของฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่""หม่อมฉันรู้ไม่เคยลืมเพคะ แต่หม่อมฉันอยากวางแผนชีวิตให้เป็นอย่างดี หากมีบุตรชายก็ดีแต่หากมีบุตรสาวหม่อมฉันไม่อยากบังคับให้นางแต่งเข้าเรือนของบุตรชายของใต้เท้าหรือแต่งงานกับท่านอ๋อง ชีวิตของนางถึงได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่ข้าอยากให้นางได้เลือกเส้นทางของนางเอ
บทที่ 33 ตามพระชายากลับวังสายลมพัดผ่านร่างบางที่ยืนรับลมยามนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวชาวบ้านเริ่มพากันเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าว จิวหลินข่มตานอนในแต่ละคืนช่างยากนัก จิตใจของนางเฝ้าแต่คิดถึงเสี่ยงหลงไม่จางหาย นี่นานเท่าไหร่แล้ว นางยังคงไม่ลืมจิวหลินเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า "ปานนี้ท่านพี่คงจะมีความสุขกับพระชายาตัวจริงมากสินะ แค่คิดว่าท่านมีความสุขข้าเองก็สุขใจแม้ในใจของข้าจะเจ็บปวดมากก็ตาม" "ข้าจะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อพระชายาตัวจริงของข้าไม่ได้อยู่ข้างกายของข้า " จิวหลินแสยะยิ้มสมเพชตนเองที่จู่ ๆได้ยินเสียงของเสี่ยวหลง"ข้าคงคิดถึงท่านจนหูฝาดไปแล้ว เอาล่ะต่อจากนี้ข้าจะเลิกคิดถึงท่านเสียที ข้าจะใช้ชีวิตของตนเองอย่างมีความสุข เป็นสาวบ้านนอกอีกไม่นานอายุของข้าก็ใกล้ออกเรือนท่านป้าก็หาบุตรชายบ้านขุนนางมาดูตัว ตอนนั้นข้าคงจะลืมท่านได้สักทีองค์ชายเสี่ยวหลง""ไม่ข้าไม่ยอม เจ้าเป็นพระชายาของข้า หากชายใดกล้ามาแตะต้องตัวเจ้าข้าจะจับไปประหารให้หมด" จิวหลินคิดว่าตนเองหูฝาดนางจึงมองหาเสียงก็พบว่านางไม่ได้หูฝาดแต่น้ำเสียงที่พูดคุยกับนางอยู่นั้นคือเสี่ยวหลงตัวจริง หัวใจของจิวหลินเ
บทที่ 32 จิวซินยอมแพ้แต่โดยดีเมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลับท้องฟ้าปกคุมด้วยความมืดมน จิวซินที่แช่น้ำดอกกุหลาบจนร่างกายของกรุ่น นางแต่งกายด้วยเนื้อผ้าที่บางแนบเนื้อเผยให้เห็นผิวเนียนขาวด้านในจนเห็นได้ชัดก่อนจะสวมเสื้อคุมด้านนอกอีกชั้นเพื่อไม่ให้ขันทีกับนางกำนัลได้เห็น เมื่อนางเข้าไปที่ห้องของเสี่ยวหลงเมื่อนั้นนางจะปลดเสื้อตัวนอกออกเพื่อยั่วยวนเสี่ยวหลง "ซือเล่อตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว เมื่อเจ้าไปส่งข้าที่ห้องขององค์ชายจากนั้นเจ้าก็กลับไปพักผ่อนเถิดข้าจะอยู่ปรนนิบัติองค์ชายตลอดทั้งคืน คงไม่กลับมานอนที่ห้องนี้รุ่งสางเจ้าค่อยไปรับตัวข้า หรือไม่แน่ข้าอาจจะลุกก็ไม่ขึ้นก็ได้ แต่เอาเถอะให้คืนนี้ผ่านพ้นไปเสียก่อน" ซือเล่อไม่เอ่ยอันใดพานางเดินไปส่งที่ห้องของเสี่ยวหลงอย่างเป็นห่วงกลัวว่าองค์ชายเสี่ยวหลงจะนอนกับจิวซินจริง ๆ เมื่อจิวซินย่างเท้าก้าวเข้ามาในห้องของเสี่ยวหลงประตูก็ถูกปิดหัวใจของนางสั่นระรัวเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ภายในห้องช่างเงียบสงัดแสงสว่างในห้องมีเพียงแสงเทียนที่จุดอยู่ในห้องนอนเท่านั้น นางจึงเดินไปในห้องนอนก็พบว่าเสี่ยวหลงนั่งอยู่บนเตียงรอนางด้วยรอยยิ้ม "มาแล้วหรือ มานั่งลงข้าง ๆ ข้านี่
บทที่ 31 ข้าจะทำให้องค์ชายลุ่มหลงส่วนจิวหลินหลังจากที่นางออกมาจากวังหลวงก็เอาแต่เก็บตัวเงียบครุ่นคิดหาทางกับเข้าวังหลวงแต่ทว่าทำอย่างไรนางก็คิดไม่ออกเสียที ท่านป้าเห็นหลานสาวของนางเอาแต่เหม่อลอยจึงเดินเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง "จิวหลินเจ้าคงคิดถึงองค์ชายเสี่ยวหลงสินะ แต่จะทำอย่างไรได้หากเจ้าเข้าไปปรากฎตัวเจ้าเองก็อาจจะต้องโทษได้ ข้าล่ะเห็นใจเจ้าเสียจริง""ท่านป้าข้าคิดจนหัวของข้าแทบระเบิด ข้าคงหมดหนทางแล้วเจ้าค่ะ ข้าคงไม่มีวาสนาเคียงคู่กับองค์ชายเสี่ยวหลง สวรรค์เหตุใดต้องเล่นตลกกับชีวิตของข้าด้วยล่ะเจ้าคะ หากไม่ให้ข้าได้เคียงคู่กับองค์ชายเสี่ยวหลงแล้วทำไมต้องลิขิตให้ข้าเข้าไปพัวพันจนข้าเกิดความรู้สึกดี ๆ กับองค์ชายด้วย ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ"จิวหลินมิอาจกักเก็บความเงียบเหงาภายในหัวใจนางเอ่ยออกมาพร้อมน้ำตาอย่างเจ็บปวด ท่านป้าโอบกอดนางแน่นใช้มือลูบหลังเบา ๆ ปลอบประโลม"หากเจ้ากับองค์ชายเป็นคู่เคียงวาสนาต่อกัน ไม่ช้าไม่นานทั้งสองก็ต้องกลับมาครองรักกันเช่นเดิม " จิวหลินมิได้เอ่ยอันใดมีเพียงเสียงสะอึกไห้ดังระงม หลายวันต่อมาเสี่ยวหลงได้ไปหาจิวซินตอนนี้นางกำลังนั่งจิบน้ำชาที่ห้องโถง ทันทีที่จิวซ
บทที่ 30 ซือเล่อมิอาจทนท่านป้าจับตัวจิวหลินหมุนไปมาเพื่อดูให้แน่ใจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ "ท่านป้าข้าไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่นัก เรารีบเข้าเรือนกันเถอะเจ้าค่ะ""ได้สิ ว่าแต่เจ้าได้กินอะไรมาหรือยัง ""ตอนนี้ข้าไม่มีอารมณ์มากินอะไรหรอกนะเจ้าคะ ""เช่นนั้นเรารีบไปที่ห้องของเจ้าเถิดข้าอยากรู้เต็มอกแล้วว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้า " ทั้งสองพากันเดินไปยังห้องนอนห้องจิวหลินเมื่อมาถึงห้องนางก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ท่านป้าฟัง นางรู้สึกสงสารจิวหลินยิ่งนัก "โธ่! จิวหลินของข้า เหตุใดต้องเกิดเรื่องเช่นนี้กับเจ้าด้วยนะ ท่านพ่อของเจ้าก็ช่างเลวร้าย ทำไมทำกับเจ้าได้ลงคอไหนจะจิวซินนั้นอีกไม่เห็นว่าเจ้าเป็นสายเลือดเลยแม้แต่น้อย แล้วอย่างนี้เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป " สายตาที่อ่อนโยนพร้อมคำพูดที่อ่อนหวานทำให้จิวหลินรู้สึกสบายใจนางโผล่เข้ากอดท่านป้าแน่น "ตอนนี้ข้าคิดอะไรไม่ออกเลยเจ้าค่ะ ขอกอดท่านป้าเยี่ยงนี้นาน ๆ ก่อนได้มั้ยเจ้าคะ" ท่านป้ากอดนางกลับเพื่อปลอบโยน"ไม่ว่าเจ้าจะทำเช่นไร ป้าผู้นี้ก็อยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ หากเจ้าไม่สบายใจวันนี้ข้าจะนอนกับเจ้าที่นี่ดีหรือไม่ สมัยก่อนตอนที่เจ้าไม่สบายใ
บทที่ 29 พระชายาเปลี่ยนไปเมื่อเกี้ยวเคลื่อนขบวนจิวซินก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจในที่สุดนางก็จะได้ครอบครองทุกอย่างที่เคยเป็นของนางมาก่อน ฝั่งด้านเสี่ยวหลงที่กลับมาจากเขาซกมู เขาก็รีบร้อนมาหาจิวหลินที่ห้องของนางแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา ขันทีจางที่เดินเข้ามาเห็นองค์ชายเสี่ยวหลงก็ได้เข้ามาบอก "องค์ชายตามหาพระชายาหรือพ่ะย่ะค่ะ""ใช่แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าพระชายาอยู่ที่ใด""ช่วงสาย ๆ มีสาวใช้จากสกุลจิวมาเข้าเฝ้าพระชายาไม่นานนักพระชายาก็ให้กระหม่อมเตรียมเกี้ยวออกไปที่เรือนสกุลจิวอย่างรีบร้อนพ่ะย่ะค่ะใบหน้าของพระชายาเป็นกังวลยิ่งนักคงมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเป็นแน่""อย่างนั้นหรือ นี่ก็ใกล้ตะวันลับฟ้าแล้วปานนี้คงจะเดินทางกลับแล้ว ข้าจะรออยู่ที่นี่เจ้าให้นางกำนัลไปจัดเตรียมอาหารมาเถิดนางกลับมาจะได้กินพอดี " "พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย" ขันทีจางโค้งคำนับรับคำสั่งพร้อมเดินหันหลังจากไป เสี่ยวหลงจ้องมองไปด้านนอกสายตาของเขาก็เหลียวไปเห็นเกี้ยวของจิวหลินได้เคลื่อนเข้ามาหยุดอยู่หน้าตำหนักเขารีบออกไปหานางทันทีด้วยความคิดถึง จิวซินลงจากเกี้ยวกวาดตามองดูตำหนักที่นางจะต้องมาอยู่ต่อจากนี้นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก "พระชายาเ