6 ปี ผ่านไป!!“มิลิน...มิลัน มาหาม๊ามี๊สิลูก”“ค่า ม๊ามี๊/คร้าบ ม๊ามี๊”ตอนนี้ติณภพและโมริก็ได้ให้กำเนิดเด็กชายและเด็กสาวหน้าตาหน้ารักเพื่อเป็นของขวัญให้กับวงตระกูลของทั้งสอง เป็นฝาแฝดที่คลานตามกันมา มิลิน เด็กสาวผู้หน้าจิ้มลิ้มเป็นน้องสาวของเด็กชายที่มีชื่อว่ามิลัน ทั้งสองดูแลและรักกันมาก โดยเฉพาะพี่ชายนั้นมีนิสัยที่ได้โมริมาเต็มๆ ไม่ว่าจะทั้งนิสัย ท่าทาง ส่วนน้องสาวนั้นได้นิสัยของติณภพแทบจะถอดกันมา ทั้งสองได้ยินเสียงแม่ของเขาเรียกก็วิ่งเข้ามาหายังแม่ของเขา“มาให้ม๊ามี๊หอมให้ชื่นใจหน่อยสิคะ”“ค่า/คร้าบ”ฟอดดด!! ฟอดด!! ฟอดด!! ทั้งสามคนแม่ลูกพากันหอมแก้มกันไปมาอย่างมีความสุข“แหม่ แอบชาร์จพลังกัน ไม่ยอมบอกป๊าปี๊เลยนะครับ” ติณภพเพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนทำหน้าบูดบึ้ง เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดทั้งสองจึงพักผ่อนและให้พี่เลี้ยงเป็นคนคอยดูแล แต่ภรรยาของเขาก็รีบวิ่งออกมาหาลูกเมื่อตื่นขึ้นมา“คิกๆ ป๊าปี๊มาจุ๊บกันค้าบ” มิลันยิ้มตาหยี ทำปากจู๋ให้ผู้เป็นพ่อจุ๊บอย่างน่ารักจุ๊บ!! จุ๊บ!! ชายหนุ่มจุ๊บไปที่ริมฝีปากน้อยๆ อย่างเอ็นดู“แล้วมิลินละครับให้ป๊าปี๊จุ๊บชาร์จพลังหน่อยได้ไหม??”“โนวๆ ไม่ค่ะ ป๊าป
ณ หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับต้นๆ ของเมืองไทยกริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงง"สวัสดีครับคุณหนู ผมไปช้า 15 นาทีนะครับ พอดีว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุทำให้รถติดนิดหน่อยครับ""ไม่เป็นไรค่ะ ลุงพงษ์ กอหญ้า รอที่หน้ามหาวิทยาลัยนะคะ""รับทราบครับ ขอบคุณครับคุณหนู"“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด อื้อ อ่อยอัน อ๊ะ” จู่ๆ ก็มีคนชุดดำจู่โจมมาด้านหลังของเธอพร้อมผ้าปิดมาที่จมูกของเธอ“ออกรถ เร็ว” แล้วทุกอย่างก็ดับลงณ อิตาลีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่ในหุบเขาลึก เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่รายล้อมด้วยพืชพันธุ์นานาชนิดและภูเขาสูงต่ำสลับกันไป มองเห็นภูเขาน้ำแข็งที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ด้านหลังเป็นทะสาบน้ำใส สีเขียวมรกต สวยสะดุดตา สภาพอากาศเย็นสบายไปจนถึงหนาวเหน็บมีหิมะตก แต่ภายในคฤหาสน์นั้นหนาวเหน็บกว่าด้านนอกหลายเท่า ด้วยชายชุดดำที่ยืนคุมคฤหาสน์มากถึง 20 ชีวิต ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีคอยคุ้มกันนายน้อย อายุ 32 ปี ของเขาที่ปลีกตัวออกมาอยู่บ้านหลังใหญ่เพียงคนเดียว เพราะรักสันโดษ ชอบใช้ชีวิตเงียบๆ ไม่ชอบเปิดเผยตัวตน และเย็นชา นั่นคือนายน้อยแดเนียล หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียมังกรดำที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ในอิตาลี ด้วยใบหน้าคมคาย จมูกโด่
“นายครับ ไปคฤหาสน์มาดามเลยไหมครับ” ฟิลิปมือขวาของแดเนียลถามผู้เป็นเจ้านายของตนหลังออกมาจากห้องชั้นใต้ดิน“อืม อีก 10 นาที ฉันจะไปขึ้นเครื่อง”“ครับผม”ภายในพื้นที่ของคฤหาสน์มีสนามบินขนาดเล็กสำหรับเครื่องบินขนาด 2 ลำของชายหนุ่ม เครื่องบินไพรเวทเจ็ทสุดหรู 1 ลำ บินขึ้นสู่ท้องฟ้าในยามเย็น กับอากาศอันหนาวเหน็บ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว มีหิมะตกโปรยปราย แต่ไม่ได้ทำให้จิตใจของชายหนุ่มนั้นเย็นลงได้เลย เพราะไฟแค้นของชายหนุ่มกำลังก่อขึ้นในจิตใจอย่างแผดเผา‘เธอจะต้องชดใช้อย่างสาสม ข้าวฟ่าง’ระหว่างคฤหาสน์ชายหนุ่มและคฤหาสน์แม่ของเขานั้นระยะทางห่างกันหลายร้อยกิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์นานหลายชั่วโมง จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบินส่วนตัวเดินทางเพื่อความสะดวกและรวดเร็วมายังคฤหาสน์ของผู้เป็นแม่ โดยใช้เวลาแค่เพียง 30 นาที เครื่องบินก็ลงจอดยังคฤหาสน์หรูอีกหลังหนึ่งเป็นคฤหาสน์ตั้งอยู่ทางทิศเหนือติดทะเลสาบที่สวยอันดับต้นๆ ของอิตาลี ด้านหลังคฤหาสน์ติดถนนใหญ่และทิวทัศน์ด้านหน้าของคฤหาสน์ติดกับทะเลสาบสีเขียว มีเรือยอร์ชจอดอยู่ 2 ลำ มองเห็นภูเขาที่มีหิมะน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน ตั้งอยู่
เช้าวันใหม่“นายครับตอนนี้คุณข้าวฟ่างก็ยังไม่ทานข้าวเลยครับ”“เตรียมข้าวมาให้เธอใหม่”“ครับนาย”ณ ห้องใต้ดินหญิงสาวนอนซมอยู่บนพื้นอันเย็นเฉียบ รวมถึงศรีษะกระแทกพื้นอย่างแรกเมื่อวานทำให้มีแผลบริเวณหน้าผาก และไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ถูกจับตัวมา ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก บอดี้การ์ดชุดดำหลายๆ คน เดินเอาอาหารมาให้แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมกิน เพราะมั่วแต่วิตกกังวลและคิดถึงแต่บ้าน หญิงสาวพยายามนั่งคิด นอนคิดว่าทำไมถึงจับตัวมาที่นี่แต่คิดทีไรก็คิดไม่ออก แต่จากการถามชายชุดดำว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เขาบอกเธอได้แค่ว่า ที่นี่คือประเทศอิตาลี หญิงสาวพยายามคิดต่อก็นึกขึ้นได้ว่าหรืออาจจะเป็นเพราะจับมาผิดตัว เพราะพี่สาวฝาแฝดของเธออาศัยอยู่ที่อิตาลี แต่ก็นานหลายปีแล้วที่พี่สาวไม่ยอมติดต่อกลับมาหาเธอที่ทางบ้านเลย เธอพยายามติดต่อไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับกลับมา หรือพี่สาวของเธอทำร้ายพี่ชายของชายหนุ่มนั้น แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม เพราะเธอรักและเป็นห่วงพี่สาวของเธอมาก กลัวว่าพี่สาวของเธอจะได้รับอันตราย แต่ทันใดนั้นเองแกร๊ก!! เสียงประตูห้องเปิดออกมาอย่างช้าๆ ทำให้เธอหรี่ม่านตาลงเพราะแสงสว่างด้านนอกจ้า ทำให้เธอป
หญิงสาวกรี๊ดและหลับตาเพื่อทำใจยอมรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นแต่!!!! เสียงกระโจนเข้ามานั้นไม่โดนตัวเธอ และไม่ทำให้เธอนั้นเจ็บปวดแต่ปวดอย่างใดหงิง!! หงิง!! หงิง!! แผล่บ แผล่บ เธอสัมผัสได้ถึงน้ำลายของสัตว์ตัวนั้นโดนที่ใบหน้าของเธอเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใช่ หมาป่า ลักษณะดุร้ายตัวนั้น กำลังเลียที่ใบหน้าของเธอ พร้อมหางกระดิกอย่างดีใจเห้อ!! เธอถอนหายใจออกมาอย่างเต็มปอด และมองจ้องหน้าสายตาอ่อนโยนไปยังหมาป่าตัวนั้น“ไง เธอคงชื่อเจ้าลูซ สินะ” หญิงสาวเอามือเรียวยาวของเธอ สัมผัสลูบเข้าไปที่ลูซหงิง!! หงิง!! หงิง!! เหมือนเจ้าลูซจะตอบรับเธอว่าใช่ ว่าตัวเองชื่อลูซ“เธอทำฉันตกใจหมดเลยนะ” ลูซยังพยายามสำรวจสำรวจตัวเธอและรับรู้ได้ว่าร่างกายเธอซูบผอม จึงใช้มือกัดที่แขนของเธอและดึงแขนเบาๆ เพื่อบอกให้เธอลุกขึ้น และลูซก็เดินมายังจานอาหารอีกจานก่อนหน้านี้ที่บอดี้การ์ดนำว่าวางไว้ให้เธอและมองหน้าเธอหงิง!! หงิง!! หงิง!!“ให้ฉันกินข้าวเหรอ”หงิง!! หงิง!! หงิง!!“ฉันไม่อยากกิน ฉันคิดถึงบ้าน” แต่ลูซก็ไม่ลดความพยายาม เดินเข้ามาดึงแขนของเธอและส่งสายตาอ้อนวอนเพื่อให้เธอกินข้าว“อืม กินก็ได้ จะได้มีแรงไปสู้ก
บรรยากาศค่ำคืนนี้เหน็บหนาวกว่าปกติ ภายนอกคฤหาสน์มีอากาศเย็นจัด และละอองน้ำบนฟ้าเกิดการจับตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็ง เริ่มโปรยลงมาจากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน นั่นคือฤดูกาลหิมะตกเข้ามาถึงแล้ว ทำให้ห้องชั้นใต้ดินอากาศเย็นกว่าปกติ ร่างบางนอนขดตัวอยู่บนพื้น ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ เพราะปรับตัวไม่ทัน เพราะย้ายมาจากเขตเมืองร้อนที่ประเทศไทย มายัง เขตเมืองหนาวที่ประเทศอิตาลี บวกกับเสื้อผ้าชุดนักศึกษาของเธอที่ไม่สามารถบรรเทาความหนาวให้อุ่นขึ้นมาได้เลยตอนนี้ภายในร่างกายของเธออุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้นอย่างเรื่อยๆ“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วย” เธอพยายามเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากด้านนอก“หนูหนาว ขอผ้าห่มคลุมตัวหน่อยได้ไหมคะ” แต่ไร้เสียงตอบรับจากภายนอกเหมือนเดิมหญิงสาวได้แต่พยายามข่มตัวเองและข่มตานอนเพื่อให้ถึงเช้าของอีกวันเพื่อจะได้ขอผ้าห่มหนาๆ ประทังความหนาวและข้าวอีกสักมื้อ ณ ห้องทำงานก๊อก!! ก๊อก!!“เข้ามา”“นายครับ คนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูบอกว่า หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ เพราะอากาศหนาวครับ” ฟิลิปยืนรายงานเจ้านายของตัวเอง“นายเป็นห่วงเธอ???” ชายหนุ่มเงยหน้าออกมาจากกระดาษที่กำลังจดจ่อบริเวณด้านห
ณ ห้องทำงานก๊อก!! ก๊อก!!“เข้ามา”“นายครับ หมอโรม มาถึงแล้วครับ”“ให้ไปที่ห้องของเธอได้เลย”“ครับนาย”20 นาทีต่อมาแอ๊ดดด!! ปัง!!หมอโรมรักษากอหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยความโมโหจึงเปิดประตูเข้ามายังห้องทำงานของแดเนียลที่เจ้าตัวกำลังนั่งทำงานอยู่อย่างรวดเร็ว“ไอ้แดเนียล มึงทำอะไรของมึงเนี้ยะ”“ทำอะไร??” ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของตนจะเข้ามาต่อมา“ก็มึงเอาคุณข้าวฟ่างเข้ามาในบ้านยังไงล่ะ”“แล้วจะทำไม”“นี่มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะเว้ย มึงจะจับตัวเธอมาแก้แค้นไม่ได้ ตัวเธอยิ่งเล็กๆ บอบบางอยู่ นี่ถ้ากูมาไม่ทันนะ เธออาจจะช็อคตายไปแล้วก็ได้”“มึงไม่ใช่กูจะไปรู้อะไร กูรอวันเวลานี้มานานมาก กว่าจะจับตัวเธอมาได้ และอีกอย่างนังนั่นไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง แต่คือ ฆาตรกร!!”“กูคงห้ามมึงไม่ได้สินะ”“ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แล้วมึงจะถามทำไม”“งั้นก็เบาๆ กับเธอหน่อยก็แล้วกัน จากที่ฉันดูลักษณะเธอไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร น่าเอ็นดูด้วยซ้ำไป”“กูไม่รับปาก”“ไอ้แดเนียล มึงนี่มัน!!” หมอโรมยืนชี้หน้าชายหนุ่มอย่างโมโห“ตรวจเสร็จแล้วใช่ไหม”“เออ อีก 1-2 วัน น่าจะดีขึ้น กูฉีดยาลดไข้และให้น้ำเกลือไว้แล้ว เพราะร่างกา
เช้าวันต่อมา…“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้หมอหนุ่มที่เข้ามารักษาเธอ“สวัสดีครับ ผมชื่อโรม เป็นหมอประจำคฤหาสน์แห่งนี้ครับ” หมอโรมกล่าวทักทายหญิงสาว“หนูชื่อกอหญ้านะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เมื่อชายหนุ่มได้ยินชื่อหญิงสาวก็คิ้วขมวดเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าแดเนียลบอกว่าคนที่ทำร้ายพี่ชาย ชื่อว่า ข้าวฟ่าง“อ๋อ เอ่อ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณกอหญ้า”“เรียกกอหญ้า เฉยๆ ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตาหยีส่งให้หมอหนุ่ม‘เชี้ยแล้วไหมล่ะ ไอ้โรม ทำไมเธอน่าตาน่ารัก น่าทะนุถนอมขนาดนี้ว่ะ’ หมอหนุ่มคิดอยู่ในใจ“เออ หมอโรมคะ อาการกอหญ้าเป็นอย่างไงบ้างคะ”“เรียกผมพี่โรมก็ได้ครับ ตอนนี้อาการน้องกอหญ้าดีขึ้นมากๆ เลยครับ นอนพักอีกสักวันน่าจะหายดีแล้วครับ”“ขอบคุณมากค่ะ พี่โรม”“ครับ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะครับ” หญิงสาวยิ้มให้ชายหนุ่มด้วยนัยตาเศร้าเมื่อได้ยินว่าจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป“ไม่เจอกันเลยน่าจะดีกว่านะคะ ถ้าพี่โรมมาแสดงว่ากอหญ้าจะต้องป่วย กอหญ้าไม่ชอบฉีดยาค่ะ” หญิงสาวทำจมูกย่นอย่างน่าเอ็นดูหมอหนุ่มยื่นมือไปลูบศรีษะของกอหญ้าเบาๆ“หึ เด็กน้อย วันหน้าถ้าพี่ว่างพี่จะพาน้องกอหญ้าไปเที่
แอ๊ดดด!! ปัง!!“มึงมาทำเชี้ยไรอีกเนี้ยะ ไอ้โรม” ชายหนุ่มมองหน้าเพื่อนรักอย่างหงุดหงิดที่มารบกวนเวลานอนของเขา“หวัดดี!! กูมาดูอาการของน้องกอหญ้าครับเพื่อนรัก” หมอหนุ่มยืนโบกมือและส่งยิ้มไปหาเพื่อนรักเบาๆ“มึงไม่มีงานมีการทำหรือไง คนไข้ที่โรงพยาบาลมึงน้อยไปหรอ กูจะได้จัดการยิงคนส่งไปให้มึงรักษา”“มีครับ แต่กูไม่ทำ มึงลืมไปแล้วเหรอ ว่ากู...เป็นเจ้าของโรงพยาบาล” หมอหนุ่มยืนยักคิ้วเบาๆ ใส่ชายหนุ่ม“ไอ้เหี้ยยยย!!”“ว่าแต่มึงเถอะ สายขนาดนี้งานการไม่มีทำหรือไง กูจะได้ให้ลูกน้องไปทุบตึกโรงแรมมึงแล้วให้มึงสร้างใหม่ และปกติเนี้ยะ...กูเห็นทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือว่ามีอะไรผิดปกติไปนะ” หมอหนุ่มยืนจ้องชายหนุ่มอย่างจับผิด“กูก็ปกติของกู แค่วันนี้กูอยากพักผ่อน”“โว้วๆ เป็นห่วงแม่สาวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงก็บอกมาเถอะ” หมอหนุ่มทำท่ามองทะลุเข้าไปในห้องของชายหนุ่ม“ไอ้โรม มึงห้ามมอง” ชายหนุ่มพยายามปิดประตูเพื่อไม่ให้หมอหนุ่มเห็นหญิงสาวในสภาพแบบนี้ แต่ก็ถูกหมอหนุ่มพยายามดันประตูเพื่อแกล้งชายหนุ่ม"แต่กูจะมอง""กูไม่ให้มอง"“หึๆ งั้นกูมีข้อตกลง”“อะไร??”“มึงต้องยกเว้นการเข้าใกล้กูกับน้องกอหญ้า”“ไม่ได้!!”“งั
“ไอ้มิกซ์ ไอ้ฟิลิป พวกมึงหายหัวไปไหนกันหมดวะ!!” ชายหนุ่มตะโกนดังลั่นคฤหาสน์บอดี้การ์ดรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างตกใจเพราะตั้งแต่ทำงานกับเจ้านายไม่เคยเห็นพฤติกรรมของเจ้านายแบบนี้เลย“ครับนาย/ครับนาย”“เธอหายไปไหน??” พอชายหนุ่มกล่าวออกมาก็ทำให้บอดี้การ์ดทั้งสองรู้ทันทีว่าหมายถึงใคร“ผมเห็นเธอเดินกะเผลกขาเข้าไปในห้องรับรองครับ” ฟิลิปรีบตอบผู้เป็นนายเมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ใจชื่นขึ้นทันที“อืม พวกนายไปทำงานได้แล้ว”"ครับนาย/ครับนาย" ทั้งสองโค้งคำนับและพากันเดินออกไปทำหน้าที่ของตนณ ห้องรับรองชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเห็นหญิงสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงก็แทรกตัวเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มเดียวกับเธอและดึงเธอมากอดเอาไว้“อือ...” หญิงสาวพึมพำในละคอเบาๆ เหมือนถูกใครดึงมากอดอย่างอ่อนโยนและซุกเข้าไปหาแผงอกแกร่งอย่างเบาๆ19.00 น.“อือ...” หญิงสาวลืมตาขึ้นมาก็พบว่าชายหนุ่มกำลังกอดเธอไว้ เธอก็ตกใจเล็กน้อย ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ เธอจองใบหน้าของเขา ปลายจมูกของเขา และริมฝีปากของเขา“ทำไมคุณใจร้ายกับกอหญ้าจังเลยนะ” หญิงสาวพูดออกมาเบาๆ นอนมองชายหนุ่มที่กอดเธอไว้และน้ำตาคลอเธอยกแขนชายหนุ่มออกจากตัวเธออย่างเบ
“ใครอยู่ข้างนอก ไปตามหมอโรมมา!!!” ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวนอนแน่นิ่งก็ทำให้เขาแทบคลั่ง"เธอจะตายไม่ได้ นี่คือคำสั่ง"เอี๊ยดดดดดดดดด!!!หมอโรมรีบวิ่งเข้ามาในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากบอดี้การ์ดของแดเนียลว่าน้องกอหญ้าหมดสติ“ไอ้แดเนียล กูมาแล้ว”ชายหนุ่มวิ่งขึ้นไปบนห้องรับรองที่หญิงสาวพักอาศัยอยู่เมื่อแต่“ทางนี้โว้ย!! ไอ้โรม”“ห๊ะ!!” แดเนียลตะโกนเรียกหมอหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง“ทำไมน้องกอหญ้าถึงไปอยู่ห้องมึงได้??” หมอหนุ่มถามออกมาอย่างสงสัย“ก่อนจะตั้งคำถามมาถามกู มึงมาดูเธอก่อนเถอะ” หมอหนุ่มหยุดความสงสัยไว้ ณ ตอนนั้น และรีบวิ่งเข้าไปดูหญิงสาวที่ห้องของแดเนียล“ไอ้แดเนียลลล ไอ้เพื่อนเวร ทำไมมึงทำร้ายน้องเขาหนักขนาดนี้วะ”หมอหนุ่มยืนดูหญิงสาวที่ตอนนี้หมดสติอยู่ ร่างกายเธอตอนนี้บอบช้ำไปหมด ไหนจะผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ คราบเลือดเกรอะบนที่นอน ที่มาจากบริเวณขาของเธอเต็มไปด้วยรอยถลอก หมอหนุ่มเอื้อมไปแตะหน้าผากเธอก็พบอีกว่า ตัวเธอนั้นร้อนเป็นไฟ“มึงทำร้ายน้องกอหญ้าของกูแล้วใช่ไหม??” หมอหนุ่มหันหน้าไปถามชายหนุ่ม“ไม่ใช่ของมึง!!” ชายหนุ่มเถียงกลับมาอย่างลืมตัว จนห
ชายหนุ่มลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าไม่สนใจหญิงสาว มองดูคราบเลือดที่เปื้อนบนที่นอนอย่างสงสัยและแอบดีใจที่เขาเป็นคนแรกของเธอ“ฉันให้เวลาเธอแต่งตัว 15 นาที เตรียมตัวไปทำงาน”“แต่หนูเจ็บตรงนั้น หนูลุกไม่ไหว”“โดนแค่นี้ อย่ามาสำออย เธอเป็นแค่เชลย ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับฉัน”“ฮือๆ”“หยุดร้อง ฉันรำคาญ”“ฮึก!! ค่ะ”“ฉันจะไปรอข้างล่าง ถ้าช้า!!เธอโดนหนักกว่านี้แน่” แล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไป“เธอต้องเข้มแข็งนะ กอหญ้า” แล้วหญิงสาวก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วรีบเดินไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวชายหนุ่มจะโมโหอีก15 นาทีต่อมาณ หน้าคฤหาสน์หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีครีม เธอใส่ชุดนี้ทำให้เธอดูดีเป็นอย่างมาก และเดินขากะเผลกลงมายังประตูทางเข้าคฤหาสน์ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงไม่พอใจขึ้นอีก“อ่อยเพื่อนฉันยังไม่พอ นี่ยังมาอ่อยบอดี้การ์ดของฉันอีกหรอ ห๊ะ”“หนูเปล่านะ หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” หญิงสาวถามชายหนุ่มอยากสงสัย“ก็เธอใส่ชุดนี้ลงมายังไงล่ะ”“ก็ในตู้เสื้อ..” หญิงสาวกำลังจะบอกว่าในตู้เสื้อผ้ามีแต่ชุดเดรสจะให้เธอใส่อะไร แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจคำอธิบายของเธอ“อย่ามาเถียงฉัน”“ค่ะ” หญิงสาวยืนก้มหน้าน้ำตาคลอ ไม่กล
เช้าวันต่อมา…“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้หมอหนุ่มที่เข้ามารักษาเธอ“สวัสดีครับ ผมชื่อโรม เป็นหมอประจำคฤหาสน์แห่งนี้ครับ” หมอโรมกล่าวทักทายหญิงสาว“หนูชื่อกอหญ้านะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เมื่อชายหนุ่มได้ยินชื่อหญิงสาวก็คิ้วขมวดเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าแดเนียลบอกว่าคนที่ทำร้ายพี่ชาย ชื่อว่า ข้าวฟ่าง“อ๋อ เอ่อ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณกอหญ้า”“เรียกกอหญ้า เฉยๆ ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตาหยีส่งให้หมอหนุ่ม‘เชี้ยแล้วไหมล่ะ ไอ้โรม ทำไมเธอน่าตาน่ารัก น่าทะนุถนอมขนาดนี้ว่ะ’ หมอหนุ่มคิดอยู่ในใจ“เออ หมอโรมคะ อาการกอหญ้าเป็นอย่างไงบ้างคะ”“เรียกผมพี่โรมก็ได้ครับ ตอนนี้อาการน้องกอหญ้าดีขึ้นมากๆ เลยครับ นอนพักอีกสักวันน่าจะหายดีแล้วครับ”“ขอบคุณมากค่ะ พี่โรม”“ครับ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะครับ” หญิงสาวยิ้มให้ชายหนุ่มด้วยนัยตาเศร้าเมื่อได้ยินว่าจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป“ไม่เจอกันเลยน่าจะดีกว่านะคะ ถ้าพี่โรมมาแสดงว่ากอหญ้าจะต้องป่วย กอหญ้าไม่ชอบฉีดยาค่ะ” หญิงสาวทำจมูกย่นอย่างน่าเอ็นดูหมอหนุ่มยื่นมือไปลูบศรีษะของกอหญ้าเบาๆ“หึ เด็กน้อย วันหน้าถ้าพี่ว่างพี่จะพาน้องกอหญ้าไปเที่
ณ ห้องทำงานก๊อก!! ก๊อก!!“เข้ามา”“นายครับ หมอโรม มาถึงแล้วครับ”“ให้ไปที่ห้องของเธอได้เลย”“ครับนาย”20 นาทีต่อมาแอ๊ดดด!! ปัง!!หมอโรมรักษากอหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยความโมโหจึงเปิดประตูเข้ามายังห้องทำงานของแดเนียลที่เจ้าตัวกำลังนั่งทำงานอยู่อย่างรวดเร็ว“ไอ้แดเนียล มึงทำอะไรของมึงเนี้ยะ”“ทำอะไร??” ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของตนจะเข้ามาต่อมา“ก็มึงเอาคุณข้าวฟ่างเข้ามาในบ้านยังไงล่ะ”“แล้วจะทำไม”“นี่มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะเว้ย มึงจะจับตัวเธอมาแก้แค้นไม่ได้ ตัวเธอยิ่งเล็กๆ บอบบางอยู่ นี่ถ้ากูมาไม่ทันนะ เธออาจจะช็อคตายไปแล้วก็ได้”“มึงไม่ใช่กูจะไปรู้อะไร กูรอวันเวลานี้มานานมาก กว่าจะจับตัวเธอมาได้ และอีกอย่างนังนั่นไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง แต่คือ ฆาตรกร!!”“กูคงห้ามมึงไม่ได้สินะ”“ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แล้วมึงจะถามทำไม”“งั้นก็เบาๆ กับเธอหน่อยก็แล้วกัน จากที่ฉันดูลักษณะเธอไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร น่าเอ็นดูด้วยซ้ำไป”“กูไม่รับปาก”“ไอ้แดเนียล มึงนี่มัน!!” หมอโรมยืนชี้หน้าชายหนุ่มอย่างโมโห“ตรวจเสร็จแล้วใช่ไหม”“เออ อีก 1-2 วัน น่าจะดีขึ้น กูฉีดยาลดไข้และให้น้ำเกลือไว้แล้ว เพราะร่างกา
บรรยากาศค่ำคืนนี้เหน็บหนาวกว่าปกติ ภายนอกคฤหาสน์มีอากาศเย็นจัด และละอองน้ำบนฟ้าเกิดการจับตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็ง เริ่มโปรยลงมาจากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน นั่นคือฤดูกาลหิมะตกเข้ามาถึงแล้ว ทำให้ห้องชั้นใต้ดินอากาศเย็นกว่าปกติ ร่างบางนอนขดตัวอยู่บนพื้น ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ เพราะปรับตัวไม่ทัน เพราะย้ายมาจากเขตเมืองร้อนที่ประเทศไทย มายัง เขตเมืองหนาวที่ประเทศอิตาลี บวกกับเสื้อผ้าชุดนักศึกษาของเธอที่ไม่สามารถบรรเทาความหนาวให้อุ่นขึ้นมาได้เลยตอนนี้ภายในร่างกายของเธออุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้นอย่างเรื่อยๆ“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วย” เธอพยายามเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากด้านนอก“หนูหนาว ขอผ้าห่มคลุมตัวหน่อยได้ไหมคะ” แต่ไร้เสียงตอบรับจากภายนอกเหมือนเดิมหญิงสาวได้แต่พยายามข่มตัวเองและข่มตานอนเพื่อให้ถึงเช้าของอีกวันเพื่อจะได้ขอผ้าห่มหนาๆ ประทังความหนาวและข้าวอีกสักมื้อ ณ ห้องทำงานก๊อก!! ก๊อก!!“เข้ามา”“นายครับ คนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูบอกว่า หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ เพราะอากาศหนาวครับ” ฟิลิปยืนรายงานเจ้านายของตัวเอง“นายเป็นห่วงเธอ???” ชายหนุ่มเงยหน้าออกมาจากกระดาษที่กำลังจดจ่อบริเวณด้านห
หญิงสาวกรี๊ดและหลับตาเพื่อทำใจยอมรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นแต่!!!! เสียงกระโจนเข้ามานั้นไม่โดนตัวเธอ และไม่ทำให้เธอนั้นเจ็บปวดแต่ปวดอย่างใดหงิง!! หงิง!! หงิง!! แผล่บ แผล่บ เธอสัมผัสได้ถึงน้ำลายของสัตว์ตัวนั้นโดนที่ใบหน้าของเธอเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใช่ หมาป่า ลักษณะดุร้ายตัวนั้น กำลังเลียที่ใบหน้าของเธอ พร้อมหางกระดิกอย่างดีใจเห้อ!! เธอถอนหายใจออกมาอย่างเต็มปอด และมองจ้องหน้าสายตาอ่อนโยนไปยังหมาป่าตัวนั้น“ไง เธอคงชื่อเจ้าลูซ สินะ” หญิงสาวเอามือเรียวยาวของเธอ สัมผัสลูบเข้าไปที่ลูซหงิง!! หงิง!! หงิง!! เหมือนเจ้าลูซจะตอบรับเธอว่าใช่ ว่าตัวเองชื่อลูซ“เธอทำฉันตกใจหมดเลยนะ” ลูซยังพยายามสำรวจสำรวจตัวเธอและรับรู้ได้ว่าร่างกายเธอซูบผอม จึงใช้มือกัดที่แขนของเธอและดึงแขนเบาๆ เพื่อบอกให้เธอลุกขึ้น และลูซก็เดินมายังจานอาหารอีกจานก่อนหน้านี้ที่บอดี้การ์ดนำว่าวางไว้ให้เธอและมองหน้าเธอหงิง!! หงิง!! หงิง!!“ให้ฉันกินข้าวเหรอ”หงิง!! หงิง!! หงิง!!“ฉันไม่อยากกิน ฉันคิดถึงบ้าน” แต่ลูซก็ไม่ลดความพยายาม เดินเข้ามาดึงแขนของเธอและส่งสายตาอ้อนวอนเพื่อให้เธอกินข้าว“อืม กินก็ได้ จะได้มีแรงไปสู้ก
เช้าวันใหม่“นายครับตอนนี้คุณข้าวฟ่างก็ยังไม่ทานข้าวเลยครับ”“เตรียมข้าวมาให้เธอใหม่”“ครับนาย”ณ ห้องใต้ดินหญิงสาวนอนซมอยู่บนพื้นอันเย็นเฉียบ รวมถึงศรีษะกระแทกพื้นอย่างแรกเมื่อวานทำให้มีแผลบริเวณหน้าผาก และไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ถูกจับตัวมา ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก บอดี้การ์ดชุดดำหลายๆ คน เดินเอาอาหารมาให้แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมกิน เพราะมั่วแต่วิตกกังวลและคิดถึงแต่บ้าน หญิงสาวพยายามนั่งคิด นอนคิดว่าทำไมถึงจับตัวมาที่นี่แต่คิดทีไรก็คิดไม่ออก แต่จากการถามชายชุดดำว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เขาบอกเธอได้แค่ว่า ที่นี่คือประเทศอิตาลี หญิงสาวพยายามคิดต่อก็นึกขึ้นได้ว่าหรืออาจจะเป็นเพราะจับมาผิดตัว เพราะพี่สาวฝาแฝดของเธออาศัยอยู่ที่อิตาลี แต่ก็นานหลายปีแล้วที่พี่สาวไม่ยอมติดต่อกลับมาหาเธอที่ทางบ้านเลย เธอพยายามติดต่อไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับกลับมา หรือพี่สาวของเธอทำร้ายพี่ชายของชายหนุ่มนั้น แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม เพราะเธอรักและเป็นห่วงพี่สาวของเธอมาก กลัวว่าพี่สาวของเธอจะได้รับอันตราย แต่ทันใดนั้นเองแกร๊ก!! เสียงประตูห้องเปิดออกมาอย่างช้าๆ ทำให้เธอหรี่ม่านตาลงเพราะแสงสว่างด้านนอกจ้า ทำให้เธอป