Mag-log inด้านธีร์ณัฐหลังจากเหตุการณ์เริ่มสงบลงแล้วนั้น ร่างสูงเหลือบมองคนตัวเล็กที่นั่งหลับตาพริบๆ ตัวสั่น ในอ้อมกอดของตน ธีร์ณัฐที่รู้สึกตัวว่ากอดหญิงสาวใบหน้าเรียวสวย ปากนิด จมูกหน่อย ธีร์ณัฐที่โอบกอดข้าวตังอยู่นั้น ร่างสูงถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ ให้ตายเถอะนานแค่ไหนแล้วที่เข้าไปได้ใกล้ชิดกับสาวๆ แบบนี้ สายตาคมมองสำรวจคนตรงหน้าอย่างใกล้ชิด แต่ก่อนที่ธีร์ณัฐจะโดนเสน่ห์ของคนในอ้อมแขนตกเข้าเต็มๆ ไปมากกว่านี้นั้น เสียงฝีเท้าของใครบางคนกลับเดินเข้ามา
"ผู้กองครับ หัวหน้าคนร้ายหนีไปได้ครับ แต่ยังดีที่ได้ลูกน้องมันมา" เสียงจ่าเข้มทำให้ร่างสูงที่นั่งกอดร่างบางที่สั่นไหวนั้นรู้สึกตัว
"เอาตัวไปโรงพัก" ด้านจ่าเข้มที่เห็นผู้กองหนุ่มนั่งโอบกับข้าวตังเช่นนั้น จ่าเข้มถึงกับชะงักเล็กน้อย
"คนร้ายไปแล้วลืมตาขึ้นมาเถอะ" ด้านข้าวตังที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับลืมตาขึ้นมา ให้ตายเถอะใครจะคิดว่าผู้ชายที่เข้ามาช่วยฉัน เขาหล่อมาก นี้ขนาดอยู่ในชุดเสื้อนอกเครื่องแบบธรรมดายังเท่ห์และหน้าหล่อตะโกนแบบนี้ ทั้งหุ่นล้ำๆ ร่างหนาๆ ถ้ารู้ว่าโดนคนหล่อๆ นั่งกอดแบบนี้จะแกล้งหลับนานๆ ซะหน่อยแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ดวงตากลมเล็กสบตาเข้ากับสายตาคมเข้มตรงหน้า
"พวกคุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง รู้หรือเปล่าว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้าม" เสียงเข้มเอ่ยกับตัวต้นเหตุ ถ้าพวกเธอไม่แอบมาเล่นที่น้ำตกในเวลาแบบนี้ ทีมของเขาจับคนร้ายได้แล้ว
"ฉันไม่รู้หรอกค่ะ คุณตำรวจเพราะไม่มีใครบอก" ด้านข้าวตังที่ถูกผู้กองหนุ่มหน้าหล่อดุมาเช่นนั้น คนที่กลัวได้ไม่ทันไรก็เริ่มต่อปากต่อคำทันที
ด้านจ่าเข้มที่เห็นข้าวตังลอยหน้าลอยตา ไม่สำนึกที่เข้ามาขัดจังหวะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนั้น ถึงกับอดที่จะต่อว่าข้าวตังไม่ได้
"ข้าวตังพูดกับผู้กองให้มันดีๆ หน่อย"
"ฉันก็พูดดีๆ ด้วยแล้วไง คุณตำรวจ ก็ฉันไม่รู้จริงๆ นี่นา" ข้าวตังเอ่ยกับจ่าเข้มและเบนสายตามาที่ธีร์ณัฐแทน แต่ขณะที่จ่าเข้มจะต่อว่าข้าวตังไปมากกว่านี้นั้น
"ผู้กองครับ ป้ายห้ามเข้าถูกเปลี่ยนครับ" หมู่โยวิ่งมารายงานหัวหน้าทีม ด้านจ่าเข้มที่ได้ยินเช่นนั้น
"ป้ายโดนเปลี่ยนหวังว่าคงไม่ใช่ฝีมือเธอหรอกนะ" จ่าเข้มเอ่ยกับข้าวตัง เพราะคนแถวนี้นั้นทราบดีว่าลูกสาวคนเล็กของคุณดิเรก นั้นแสบมากแค่ไหน
"จ่าเข้มมีหลักฐานเหรอคะ ว่าเป็นฝีมือของฉัน" ข้าวตังเอ่ยอย่างไม่คิดจะยอมรับ ทั้งที่เรื่องเปลี่ยนป้ายนี้เป็นฝีมือของพวกเธอจริง ด้านธีร์ณัฐที่เห็นว่าจ่าเข้มและข้าวตังจะเริ่มก่อสงครามเล็กๆ นั้นถึงกับรีบห้ามปราม
"ช่างเถอะจ่า" ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับเบนสายตามาจับผิดเธอ
"ผู้กองธีร์ อุตส่าห์ช่วย ไม่คิดจะขอบคุณสักคำ" จ่าเข้มเอ่ยขณะที่ข้าวตังกำลังจะเดินหนีผ่านหน้าผู้กองธีร์ณัฐ
"ขอบคุณค่ะผู้กองหน้าหล่อ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเผยยิ้มให้กับธีร์ณัฐ
"วันหลังถ้าไม่อยากวิ่งเสี่ยงตายแบบนี้อีกก็อย่าเล่นซน เปลี่ยนป้ายเข้ามาแบบนี้อีก" ด้านข้าวตังที่ถูกธีร์ณัฐแขวะตนมาเช่นนั้น ใบหน้าสวยที่เผยยิ้มได้ไม่ทันไร ถึงกับหุบยิ้มทันที
"น้ำตกนี่เป็นของผู้กองคนเดียวเหรอคะ ถึงได้ห้ามพวกฉันนัก" ข้าวตังสวนกลับอย่างไม่ยอม
"พูดไรของแกข้าวตังกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวก็ฟ้องคุณดิเรกหรอก"
"ชิ...! ด้านข้าวตังที่ถูกจ่าเข้มขู่เช่นนั้นถึงกับหน้าบึ้งตึง และเดินกลับไปหาเพื่อนๆ ของเธอ โดยที่มีสายตาคมเข้มของธีร์ณัฐได้แต่มองตาม
"อย่าสนใจคำพูดของเด็กแสบอย่างยัยข้าวเลยนะครับผู้กอง ยัยข้าวนิสัยก็เป็นแบบนี้แหละ" จ่าเข้มและหมู่โยที่สังเกตเห็นท่าทีของผู้กองหนุ่มถึงกับเอ่ยขึ้นมา
"เธอมาเล่นน้ำตกที่นี่เป็นประจำเหรอครับ" ธีร์ณัฐเอ่ยถามจ่าเข้ม
"ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่วันนี้สงสัยจะแอบพ่อเธอมา" จ่าเข้มที่เป็นตำรวจในพื้นที่เห็นข้าวตังตั้งแต่ยังเด็กตัวเล็กๆ ถึงกับเอ่ย
ด้านหมู่โยที่นานๆ ทีจะเห็นสาวน้อยใบหน้าสวย ปากนิด จมูกหน่อย อย่างข้าวตัง ถึงกับตกอยู่ในภวังค์ความสวยน่ารัก ของข้าวตังไปชั่วขณะ
"หุบเขา ป่าลึกแบบนี้ ไม่คิดเลยนะครับ ว่าจะเจอสาวสวย น่ารักขนาดนี้" หมู่โยถึงกับเอ่ยชมความสวยน่ารักของสาวน้อยที่เดินผ่านหน้าตนไป
"สวยมันก็สวย น่ารักดีอยู่หรอกนะครับ แต่ไอ้ข้าวมันฤทธิ์เยอะ เด็กแสบซน ที่ไม่กลัวใคร เพราะเป็นลูกสาวคนเล็กของนักการเมืองแถวนี้ครับ"
"หึ..." ธีร์ณัฐที่มองตามร่างบางไปยังรถเวสป้าสีชมพูของเธอนั้น ถึงว่าดูไม่ธรรมดาดี ธีร์ณัฐได้แต่คิด
"นี้ก็จะค่ำแล้ว หมู่โยขับรถตามไปส่งเด็กๆ พวกนั้นหน่อยละกัน ผมกลัวจะเกิดอันตรายกับพวกเธอ" ธีร์ณัฐเอ่ยจบก็แยกเดินไปอีกทาง ด้านจ่าเข้มและหมู่โยที่ได้รับคำสั่งจากผู้กองธีร์หน้าหล่อที่แสนจะเย็นชานั่น ทั้งสองถึงกับขมวดคิ้วมองหน้ากัน
"ปกติผู้กองธีร์ เคยสนใจ เป็นห่วงใครที่ไหนจ่า" หมู่โยเอ่ยขึ้นมา
"นั้นนะสิ วันนี้ดูใจดีเป็นพิเศษ ท่าทีที่นี่วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนสงสัยฝนจะตกหนักวะ รีบไปส่งแก๊งค์เด็กแสบนั้นเถอะหมู่โย" พอจ่าเข้มเอ่ยจบหมู่โยก็ไปที่รถทันที
ด้านข้าวตังที่มาถึงรถก่อนเพื่อนๆ แล้วนั้น ไม่นานรถตำรวจก็วิ่งเข้ามาจอดข้างๆ กับรถของเธอ
"ผู้กองธีร์เห็นว่าเริ่มจะมืดแล้ว ให้ผมไปส่งพวกคุณนะครับ" หมู่โยเอ่ยกับข้าวตัง และน้อยหน่า เปี๊ยกที่เดินมาพอดี
"ว้าว หล่อมาก" น้อยหน่าที่เห็นตำรวจหนุ่มหน้าหล่ออย่างธีร์ณัฐที่เดินมาทางพวกเธอ น้อยหน่าและเปี๊ยกถึงกับโดนความหล่อของธีร์ณัฐตกเข้าเต็มๆ
"ฉันไม่อยากรบกวนเวลาของคุณตำรวจ พวกเรามาเอง กลับเองได้ค่ะ" ข้าวตังหันไปเอ่ยกับธีร์ณัฐ เธอไม่ได้ขอร้องและอ้อนวอนพวกเขา
"ตำรวจมีหน้าที่ช่วยเหลือ ประชาชน พวกคุณขับนำหน้ารถพวกผมเถอะครับ" หมู่โยเอ่ยขึ้นมา
"ไปเถอะพี่ข้าวอีกอย่างที่นี่ก็เริ่มมืดแล้ว รีบไปสิพี่" ด้านข้าวตังเมื่อจะปฏิเสธ แต่น้อยหน่าเอ่ยมาเช่นนั้น ข้าวตังถึงกับสตาร์ทรถและขับนำหน้ารถตำรวจ โดยมีหมู่โย และผู้กองธีร์ณัฐที่ขับตามมาส่ง ข้าวตังเรื่องอะไรจะให้พวกเขาไปส่งถึงที่บ้านคุณย่าละ แบบนั้นคุณย่าเห็นรถตำรวจนำไปส่งถึงบ้านเป็นเรื่องแน่ ข้าวตังขับมาจนกระทั่งถึงในหมู่บ้าน
"พวกคุณส่งพวกฉันถึงตรงนี้ก็พอค่ะ ขอบคุณนะคะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับยกมือไหว้หมู่โย และธีร์ณัฐ จากนั้นก็ขับรถกลับบ้านคุณย่าทันที
ด้านหมู่โยที่มองตามข้าวตังจนกระทั่งลับตานั่น
"พอมีสาวๆ สวยๆ น่ารัก แบบนี้ ยกมือไหว้ ผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ ผู้กอง น่ารักชิบหาย" หมู่โยได้แต่เอ่ยออกมาสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เรียกว่ารักแรกเจอได้หรือเปล่า เพราะตอนนี้เขาอยากจะจีบสาวน้อยน่ารักคนนี้ซะเหลือเกิน
ด้านธีร์ณัฐที่โยธินเอ่ยปากชมแม่สาวน้อยใบหน้าสวยต่อหน้าของตน จู่ๆ เขากับรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจหมู่โยซะงั้น จนกระทั่งถึงโรงพักที่ผู้กองธีร์ไม่เอ่ยคุยกับตน โยธินที่เห็นท่าทีของผู้กองธีร์เช่นนั้น ถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย
"ให้ตายเถอะนี้ผู้กองธีร์เป็นไรไป ก่อนหน้านี้ก็คุยกันมาดี"จู่ๆๆ ก็ไม่คุยกับเขาซะงั้น โยธินได้แต่คิด
ข้าวตังที่ถูกคนตัวโตตวัดเรียวลิ้นร้อนขึ้นๆ ลงและวนเล่นขบเข้าที่อวบอวบอิ่มของเธอนานนับหลายนาที ปากบางจิ้มลิ้มอันหน้าจูบถึงกับทนไม่ไหว เสียงเล็กหลุดเสียงออกมาด้วยความเสียวปรนทรมาน ให้ตายเถอะ ฉันไม่คิดว่าผู้กองธีร์ที่แสนเย็นชา เขาจะกล้าทำเช่นนี้กับฉัน ตอนแรกก็อยากจะห้ามอยู่หรอกนะ แต่พอลิ้นร้อนตวัดเข้าที่จุดไวต่อความรู้สึกฉันถึงกับทนความต้องการที่แปลกใหม่นี้ไม่ไหว ร่างบางถึงกับเด้งหน้าอกอันอวบอึ๋มที่ใหญ่เกินตัวของเด็กสิบแปดปลายๆ รับกับลิ้นร้อนของชายตรงหน้า ฝ่ามือเรียวจิกเข้าที่บ่าไหลหน้าของคนตัวโตราวกับหาที่ยืดเกาะ"อ่า...ซี๊ด" ด้านข้างตังฉันพยายามอย่างหนักที่จะไม่ปล่อยเสียงอันน่าเกลียดนี้หลุดออกมา แต่เมื่อคนตรงหน้าลิ้มลองที่หน้าอก ฉันเสียวถึงกับควบคลุมเสียงตัวเองไม่ไหว น่าอายชะมัดเสียงหวานปรนกระเส่าที่หลุดออกจากคนตัวเล็ก ทำใหคนที่ตวัดลิ้นเข้าที่เม็ดยอดอกปทุมถันนั้นได้สติ ริมฝีปากหนาติดคล้ำนิดๆ เน้นกดจูบลงที่เม็ดยอดอกอมชมพูและดูดยืดเล่นราวกับเด็กแรกเกิด ก่อนที่จะปล่อยละใบหน้าออกจากเจ้าสองเต้าอวบอึ๋ม อย่างนึกเสียดาย สายตาคมเหลือบมองต่ำที่หน้าอกของเด็กสาวตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยร่องรอยแดงเป็น
ด้านข้าวตังที่เห็นธีร์ณัฐยืนพ้นควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่นั้น คนตัวเล็กถึงกับเดินเข้าหาราวกับว่าเธอนั้นฝันไป"ผู้กองดูดบุหรี่ด้วยเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม สายตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น จากนั้นก็เบนสายตาไปที่บุหรี่แทนใบหน้าสวยของเธอ"อืม"เสียงเข้มเอ่ยครางในลำคอโดยไม่คิดจะมองร่างบางที่เดินเข้าหาตน ด้านข้าวตังที่เห็นเขาแสดงท่าทีที่แสนจะเย็นชาให้กับตนเช่นนั้น คนตัวเล็กถึงกับชะงัก"ฉันดูดแค่ช่วงที่เครียดหนะ" เขาเอ่ยตอบเธอ แต่ด้วยท่าทีที่แสนจะเย็นชานั้น กับใช่ว่าคนอยากเจอเขานั้นจะถอดใจ ร่างบางกับทำสีหน้าให้ปกติ"ฉันไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีก" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกดีใจที่เธอนั้นได้เจอกับเขา"ฉันเองก็ไม่ต่างจากเธอ" เสียงเข้มเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่เห็นเขาอีกครั้งคนตัวเล็กจากที่จิตใจห่อเหี่ยวเฉามาหลายวัน กับใจฟูมาอีกครั้ง ที่บังเอิญเธอเจอเขา ในงานเลี้ยงของค่ำคืนนี้คุณพ่อของเธอคงเลี้ยงส่งเขาสินะ คนตัวเล็กได้แต่คิด"ผู้กองจะไปจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยความรู้สึกสับสน แม้ก่อนหน้านี้เธอปฏิญาณกับตนไปแล้วจะไม่ร้องห่มร้องไห้เพราะเขาอีก พึ่งจะใจฟูได้ไม่นาน"อืม" คำ
หลายวันต่อมา @ห้องเรียน ม.6/2 ด้านข้าวตัง นี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ตั้งแต่วันที่เธอและเขาจูบกันที่ลำห้วยนั้น ฉันก็ไม่เจอผู้กองธีร์ณัฐอีก คำพูดของเขาในวันนั้นยังดังกึกก้องมาในห่วงความคิดของฉันจนยากเกินที่จะลืม"จูบนี้เป็นจูบสุดท้ายระหว่างเราใช่ไหมคะ" มันคือคำถามที่ฉันถามเขา ผู้กองหนุ่มใบหน้าอันหล่อเหลาสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่เศร้าของเด็กสาวตรงหน้า "เธอจะคิดแบบนั้นก็ได้" ธีร์ณัฐเอ่ยกับคนตรงหน้า ใบหน้าสวยของคนตัวเล็กรู้สึกร้อนพราวๆ ที่ดวงตา พยายามข่มอารมณ์และความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา "ฉันขอกอดผู้กองได้ไหมคะ"ข้าวตังเอ่ยอย่างตรงๆ ไม่คิดจะปิดกลั้นความรู้สึก ไหนๆ อีกไม่กี่วันเขาก็จะไปจากเธอแล้ว ถือซะว่าเราทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ ทั้งสองสบตาเข้าหากัน ด้านธีร์ณัฐเมื่อหญิงสาวเอ่ยขอตนเช่นนี้คนที่ไม่ปฏิเสธ ฝ่ามือหนาของคนตัวโตดึงร่างบางเข้ามากอดด้วยความรู้สึกที่สับสน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่พี่ชายกอดน้องสาว "ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ข้าวตังฉันต้องขอโทษที่ฉันทำตามที่เธอต้องการไม่ได้" เสียงทุ่มเอ่ยจากปากผู้กองหนุ่ม พร้อมกับโน้มปากหยักหนาเข้าไปจูบที่หน้าผากของคนตัวเล็ก มันเป็นจูบสุดท้ายที่เขาจะมอบให้เธอจ
หลายวันต่อมา ด้านข้าวตังร่างบางในชุดกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดพอดีตัว นั่งหันหลังที่ลำห้วยทุ่งทานตะวัน หลายวันมานี้ฉันรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก หลังจากเลิกเรียนตั้งแต่วันที่ฉันขาแพลงในวันนั้น พอฉันหายเป็นปกติ ฉันก็มาที่นี่ทุกวัน เพื่อหวังจะได้เจอกับคนที่อยากเจอ ถึงความหวังของฉันมันจะแสนริบหรี่ แต่ก่อนที่เขาจะย้ายไปที่อื่น ฉันอยากจะเจอหน้าเขาอีกสักครั้ง ใบหน้าสวยที่นั่งหันหลังได้แต่เหลือบมองท้องฟ้าในเวลาค่อนจะค่ำ ซึ่งอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าตะวันก็จะตกดินข้าวตังมานั่งอยู่ตรงนี้นานนับชั่วโมง แต่นั้นก็ไม่มีวี่แววว่าผู้กองธีร์ณัฐนั้นจะมา เธอไม่ได้นัดเขา อย่าว่าแต่นัดเลยช่องทางที่จะติดต่อเธอก็ไม่มี เธอใช้เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้นที่ทำให้เธอมาที่นี่ในเวลาแบบนี้ แต่นั้นวันนี้ความหวังของเธอมันก็เหมือนจะสูญเปล่าอย่างเช่นเคย"ให้ตายเถอะ แค่อยากเจอ ทำไมฉันต้องมานั่งรออะไรในที่แบบนี้ด้วย ทั้งที่ไปที่ทำงานของเขาก็เจอ แต่ฉันไม่อยากจะทำเช่นนั้น เพราะในตอนนี้ฉันไม่มีสถานะ ฉันรู้สึกข้างเดียว ข้าวตังได้แต่นั่งคิดอยู่เงียบๆ เช่นนั้นนานนับหลายนาทียิ่งคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่บังเอิญเคยกอด เคยจูบ อีกไม่กี
ด้านธีร์ณัฐหลังจากที่ร่างสูงพาข้าวตังขับรถกินลมชมวิวไปได้สักพักแล้วนั้น ร่างสูงก็มาส่งเธอที่บ้าน สร้างความตกอกตกใจให้กับคุณย่าและคุณป้า ที่ผู้กองใบหน้าอันหล่อเหลาขับรถมาส่งหลานสาวสุดที่รัก คำตอบที่ได้ข้าวตังลื่นล้มที่ลำห้วย ธีร์ณัฐบังเอิญเจอเข้าพอดี"ขอบคุณผู้กองมากนะคะ ที่มาส่งข้าวตัง" คุณป้าหญิงวัยห้าสิบปลายๆ เอ่ยกับผู้กองธีร์ณัฐ"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมบังเอิญเจอเธอลื่นล้ม เลยพามาส่งนะครับ" ธีร์ณัฐเอ่ยกับป้าของข้าวตัง"ข้าวเดินยังไง ถึงได้เจ็บหนักแบบนี้ลูก" เสียงของคุณย่าเอ่ยกับหลานสาว"ก็ทางมันลื่นนี้คะคุณย่าใครจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันลื่น" ข้าวตังเอ่ยตอบขณะที่คุณย่านั้นนวดฝ่าเท้าให้กับเธอ"งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" แต่ขณะที่ธีร์ณัฐจะเดินไปขึ้นรถที่จ่าเข้มมารับนั้น"ผู้กองธีร์ ของคุณนะคะที่มาส่งฉัน" ข้าวตังเอ่ยกับเขา ธีร์ณัฐกับไม่ตอบร่างสูงกับพยักหน้าให้กับเธอด้านข้าวตังที่เห็นเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก เชอะ ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าลูกน้องไม่รู้จะเก๊กไปถึงไหน แค่ตอบฉันมันยากนักหรือไง ข้าวตังที่ธีร์ณัฐไม่ตอบเมินเฉยต่อเธอ จู่ๆ ฉันกับรู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่ตอบทั้งที่ก่อนหน้านี่เขายังต่อปา
ด้านข้าวตังหลังจากที่ขึ้นขี่หลังผู้ของธีร์แล้วนั้น แขนเรียวเล็กโอบเข้าที่ต้นคอของคนตัวโต"ผู้กองให้ฉันขี่หลังแบบนี้ ไม่หนักเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยที่ข้างหูของคนตัวโต ด้านธีร์ณัฐที่ถูกเด็กดื้อใบหน้าสวยถามเช่นนั้นถึงกับหลุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยัก"เมื่อกี้เธอนอนทับตัวฉัน หนักกว่านี้อีก" เสียงเข้มหลุดเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่ถูกแขวะเช่นนั้นใบหน้าสวยที่ยิ้มกริ่มถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน"ถ้าผู้กองหนักก็เดินสิคะจะได้ถึงรถฉันเร็วๆ" แต่นั้นยิ่งเธอเร่งเขา แต่คนขี้แกล้งกับยิ่งเดินช้า ราวกับว่าเขาไม่ได้หนัก แต่กับอยากให้เธอนั้นขี่หลังแบบนี้นานๆ ซะอีก ทั้งที่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร แต่มันกับเกิดขึ้นกับเธอ ธีร์ณัฐที่จะหันไปตอบ แต่ในจังหวะนั้นคนที่ต่อปากต่อคำกับโน้มใบหน้าลงมาที่บ่าไหล่ ปากบางจิ้มลิ้ม!! จุ๊บ !! สัมผัสเข้าที่แก้มของคนตัวโตเข้าอย่างเต็มๆ!! อุ้ย...!! ทำให้ร่างสูงที่ขาจะก้าวเดินต่อนั้นถึงกับหยุดชะงัก"วันนี้ฉันโดนเด็กดื้อขโมยทั้งจูบทั้งหอม ถึงสองครั้งติด เธอช่วยตอบฉันหน่อยสิข้าวตังว่าฉันควรจัดการกับเด็กดื้อคนนั้นยังไงดี" ธีร์ณัฐหันมาถามใบหน้าสวยที่อยู่บนหลังของตน ด้านข้าวตังที่ถู







