Mag-log inด้านธีร์ณัฐ ปากบางจิ้มลิ้มที่สัมผัสเข้ากับปากของตน ทั้งสองร่างตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ด้านข้าวตังให้ตายเถอะนี้เป็นจูบแรกของฉัน ถึงจะเป็นอุบัติเหตุแต่นั้นเธอก็ไม่คิดจะเสียใจ ปากหยักหนาใบหน้าอันหล่อเหลาของคนตรงหน้านั้นน่าลิ้มลองจนยากจะถอย ทั้งที่เธอเป็นคนถอนจูบออกจากเขาได้ แต่นั้นข้าวตังกับไม่คิดจะทำ
ด้านธีร์ณัฐใบหน้าสวยหวานสดใส กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ติดปลายจมูกของตนชวนให้หลงไหล จากที่คิดจะขยับปากออกจากสัมผัสของคนด้านบน แต่การกระทำกับตรงข้าม เรียวลิ้นร้อนกับแทรกเข้าที่โพรงปากของคนตัวเล็กเกินจะหักห้ามใจ เรียวลิ้นร้อนตวัดเข้าโพรงปากของคนตัวเล็กจนห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้
ด้านข้างตังที่ถูกเรียวลิ้นร้อนของคนด้านบน ใบหน้าหล่อเหลาใต้ร่างรุกจูบสัมผัสเข้าที่ปากบางของเธออย่างช่ำชองนั้น ข้าวตังเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธแต่กับปล่อยให้เรียวลิ้นร้อนของคนมากประสบการณ์ นั้นตักตวงความหอมหวานจากปากของเธอ เพราะลึกๆ เธอเองก็ต้องการให้เขานั้นจูบเธอเช่นกัน ด้านธีร์ณัฐที่คิดว่าเด็กสาวนั้นจะปฏิเสธและต่อต้านตนนั้น แต่กับคิดผิด กับเป็นข้าวตังที่ปล่อยให้เขาจูบเธออยู่เช่นนั้น
ด้านธีร์ณัฐจากที่คิดจะถอนตัว แต่กับถึงขั้นเลยเถิด เขากับหยุดแทรกเรียวลิ้นเข้าที่ปากบางจิ้มลิ้มของคนด้านบนไม่ได้
ด้านข้าวตังถึงจะเป็นจูบแรกของเธอ แต่นั้นคนตัวเล็กก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้ธีร์ณัฐนั้นจูบเธอเพียงฝ่ายเดียว เรียวลิ้นเล็กเกี่ยวและสัมผัสปากหยักหนาอย่างไม่ประสีประสาแต่นั้นกับทำให้ธีร์ณัฐถึงกับเสียการควบคุมไปชั่วขณะ จูบของข้าวตังกับทำเอาคนมากประสบการณ์อย่างเขาแทบคลั่ง
จูบที่อ่อนหัดและไร้ประสบการณ์ของเธอ แต่นั้นธีร์ณัฐกับติดใจยากเกินที่จะลืมลง ให้ตายเถอะเขาไม่ได้สัมผัสและเล่นลิ้นจูบกับสาวๆ แบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ นานแทบจะจำไม่ได้ ทั้งที่หญิงสาวสวยๆ นั้นคืออาหารจานโปรดของเขา แต่กับห่างหายเรื่องแบบนี้มานานนับหลายปี หัวใจที่แข็งกระด้างมานานกับรู้สึกหวั่นไหว และใจเต้นแรงอีกครั้ง กับจูบของคนตรงหน้า หรือเขานั้นควรเปิดใจคบกับใครอีกสักครั้งดี ธีร์ณัฐได้แต่คิด
ด้านข้าวตังเรียวลิ้นร้อนตวัดและดูดเข้าที่ปากของฉัน จากจูบที่ธรรมดาเขากับกดจูบลงที่ปาก และขบเข้าที่ริมฝีปากฉันอย่างดูดดื่มหนักหน่วงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จูบแรกไม่คิดว่าฉันจะชอบ แต่กับติดใจสัมผัสของคนตรงหน้ายากเกินจะหักห้ามใจ
ฝ่ามือเรียวกำเข้าที่คอเสื้อของคนตัวโต ความรู้สึกที่ฉันมีให้กับคนที่ตักตวงความสุขจากปากของฉันตอนนี้มันเลยเถิดเกินไปไกลยากที่จะหันกลับ
ด้านธีร์ณัฐที่ติดใจรสจูบที่หอมหวาน ของข้าวตังแต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้นั้น กับมีเสียงรถที่วิ่งผ่านมาบริเวณนี้ ทำให้ทั้งสองที่แลกจูบกันอย่างหนักหน่วงนั้นได้สติ ปากหยักหนาของคนตัวโตจึงค่อยๆ ถอนจูบออกจากปากบางจิ้มลิ้มตรงหน้าออกอย่างน่าเสียดาย
ด้านข้าวตังที่ร่างบางยังคงทับบนตัวกับธีร์ณัฐอยู่นั้นทั้งสองสบตากัน ข้าวตังฉันรู้สึกอายมากที่เผลอตัวจูบกับเขาอย่างหน้าด้านๆ แบบนี้ฉันจะกล้ามองหน้าเขาได้ยังไง ร่างบางถึงกับผละออกจากคนตัวโตใบหน้าสวยถึงกับแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย แต่ในจังหวะที่จะลุกเดินนั้น จู่ๆ กับรู้สึกเจ็บแปลบๆที่ข้อเท้า
"อะ...ซี๊ด" ใบหน้าสวยถึงกับหยี่หน้าขึ้นมาด้วยความเจ็บ
ด้านธีร์ณัฐที่เห็นข้าวตังเจ็บเช่นนั้น ร่างสูงสบตาเข้ากับคนตัวเล็ก ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับหลุดยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เขาไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้กับใครที่ไหน แม้แต่อดีตแฟนเก่าของเขาก็ไม่เคยได้รับ
"แก๊ก" ฝ่ามือหนาจับและบิดเข้าที่ข้อเท้าของคนตัวเล็ก
"ขาน่าจะแพลงหนะ" ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าสวยของคนตัวเล็ก แต่นั้นข้าวตังกับเบื้องหน้าหนีหลบสายตา เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา
"ฉะ...ฉันว่าฉันกลับดีกว่าค่ะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับสาวเท้าจะเดิน แต่นั้นก็ยังรู้สึกแปลบๆ ที่ข้อเท้าอยู่ดี
"ซี๊ด" เสียงเล็กจือปากออกมาด้วยความเจ็บ
"เป็นไงยังเจ็บอยู่ไหม" ธีร์ณัฐย่อตัวและกดนิ้วนวดที่ข้อเท้าให้เธออีกครั้ง
"ค่ะ ฉันยังเจ็บอยู่"
"งั้นเธอก็ขี่หลังฉันละกัน" ร่างสูงไม่พูดเปล่าแต่กับถือวิสาสะจับเข้าที่แขนเรียวเล็กอีกครั้ง ด้านข้าวตังที่ยังทรงตัวไม่อยู่นั้นถึงกับเซล้มตัวกระแทกเข้าที่หน้าอกแกร่งหนาของธีร์ณัฐ ข้าวตังตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโตอีกครั้ง ใบหน้าอันหล่อเหลาโน้มเข้าหาคนตัวเล็กแทบจะแนบชิดกัน
"ให้ตายเถอะนี้จะมีรอบสองไม่ได้ แค่รอบเดียวฉันก็อายมากไม่กล้าแม้แต่จะสู้หน้าเขา
!! ตึก ตึก !! หัวใจดวงเล็กๆ ถึงกับเต้นสั่นแรงขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ แต่นั้นข้าวตังกับเบื้องหน้าหลบจมูกโด่งคมสันของธีร์ณัฐที่จะสัมผัสเข้าที่แก้มของเธอ
"คุยกับฉัน ทำไมถึงไม่มองหน้าฉันละ" เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นมา ฉันรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา
"ฉันจะกลับบ้าน" ข้าวตังเอ่ยไม่เต็มเสียง
"เธอตอบไม่ตรงคำถาม" ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับผุดรอยยิ้มอันร้ายกาจขึ้นมา
"เขิน ที่จูบกับฉันงั้นเหรอ" ด้านข้าวตังที่ถูกคนเจ้าเล่ห์ถามเช่นนั้น ถึงกับมองค้อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ตุบ" กำปั้นเล็กถึงกับทุบเข้าที่หน้าอกของธีร์ณัฐด้วยความโกรธ
"คนบ้า ใครใช้ให้ผู้กองพูดแบบนี้กับฉันกัน"
"จะเขินทำไม ฉันคิดว่าเธอชอบจูบของฉันซะอีก" แต่นั้นคำพูดของผู้กองหนุ่มเจ้าเล่ห์กับทำให้ใบหน้าสวยถึงกับแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอายหนักเข้าไปอีก
"หลงตังเอง" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเบื้องหน้าหนี
"อ้าว...นี้เธอจูบฉันก่อน เธอไม่ได้ชอบจูบฉันหรอกเหรอ" ธีร์ณัฐเอ่ยแกล้งกับใบหน้าสวยอย่างนึกสนุก
"ผู้กอง..." ข้าวตังเอ่ยเสียงแข็ง จ้องคนตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจสุดๆ คนที่โดนจับได้ว่าตนเป็นฝ่ายเริ่มจูบเขาก่อนถึงกับทำหน้าไม่ถูก ข้าวตังรู้สึกอายเขาจนอยากจะหายไปจากตรงนี้
"ฉันออกจะเป็นหนุ่มหน้าจูบ เธอจะจูบฉันอีกก็ได้นะ เอาดิ" ธีร์ณัฐไม่พูดเปล่าแต่กับยื่นใบหน้าเข้าหาเธอ
"คนบ้า ใครเขาอยากจะจูบผู้กองบ้า อย่างคุณกัน" ด้านธีร์ณัฐที่ไม่เคยเจอของแปลก ที่ต่อปากต่อคำเก่งอย่างข้าวตัง ถึงกับนึกสนุกและชอบใจจนอยากจะแกล้งและอยู่ตรงนี้นานๆ
"พอจะให้จูบก็หาว่าบ้า" ธีร์ณัฐยังแกล้งตีหน้าซื่อใส่คนตัวเล็ก
"ฉันไม่พูดกับผู้กองแล้ว ปล่อยค่ะฉันจะกลับ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับผละออกจากธีร์ณัฐ ทำเอาร่างสูงที่ยังไม่ทันระวังตัวถึงกับเซ แต่นั้นข้าวตังกับลืมตัวขาของเธอยังเจ็บ
"ข้าวตังขาเธอยังเจ็บ จะให้ฉันอุ้มหรือจะขึ้นขี่หลังฉัน ก็เลือกเอา" เสียงทุ่มของธีร์ณัฐเอ่ยกับคนตัวเล็ก ขาเจ็บขนาดนี้แต่เด็กอวดดีอย่างเธอก็ไม่คิดจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขา
"รถฉันไม่ได้ไกลมาก เดินเองได้ค่ะ" เสียงแข็งเอ่ยมาเช่นนั้น แต่ด้วยท่าทีเดินกะเผลกของคนตัวเล็กนั้นกับรู้สึกขัดตาเขานัก
ธีร์ณัฐเดินไปพร้อมกับซ้อนตัวเด็กดื้อ ลอยหวืออุ้มขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ด้านข้าวตังที่ถูกอุ้มขึ้นนั้น ร่างบางถึงกับชะงักตากลมเบิกกว้างด้วยท่าทีตกใจ ทั้งสองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
"บอกว่าให้เลือกไง" ธีร์ณัฐเอ่ยกับเด็กดื้อในอ้อมแขนของตน ข้าวตังได้แต่มองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"ขี่หลังค่ะ" ข้าวตังเอ่ยจบร่างบางก็ขึ้นขี่หลังของธีร์ณัฐ
"หึ...ก็แค่นั้น" ด้านธีร์ณัฐที่ให้เด็กดื้อที่แสนพยศขึ้นขี่หลังแล้วนั้น ธีร์ณัฐถึงกับผุดรอยยิ้มขึ้นมาด้วยท่าทีพอใจ
ข้าวตังที่ถูกคนตัวโตตวัดเรียวลิ้นร้อนขึ้นๆ ลงและวนเล่นขบเข้าที่อวบอวบอิ่มของเธอนานนับหลายนาที ปากบางจิ้มลิ้มอันหน้าจูบถึงกับทนไม่ไหว เสียงเล็กหลุดเสียงออกมาด้วยความเสียวปรนทรมาน ให้ตายเถอะ ฉันไม่คิดว่าผู้กองธีร์ที่แสนเย็นชา เขาจะกล้าทำเช่นนี้กับฉัน ตอนแรกก็อยากจะห้ามอยู่หรอกนะ แต่พอลิ้นร้อนตวัดเข้าที่จุดไวต่อความรู้สึกฉันถึงกับทนความต้องการที่แปลกใหม่นี้ไม่ไหว ร่างบางถึงกับเด้งหน้าอกอันอวบอึ๋มที่ใหญ่เกินตัวของเด็กสิบแปดปลายๆ รับกับลิ้นร้อนของชายตรงหน้า ฝ่ามือเรียวจิกเข้าที่บ่าไหลหน้าของคนตัวโตราวกับหาที่ยืดเกาะ"อ่า...ซี๊ด" ด้านข้างตังฉันพยายามอย่างหนักที่จะไม่ปล่อยเสียงอันน่าเกลียดนี้หลุดออกมา แต่เมื่อคนตรงหน้าลิ้มลองที่หน้าอก ฉันเสียวถึงกับควบคลุมเสียงตัวเองไม่ไหว น่าอายชะมัดเสียงหวานปรนกระเส่าที่หลุดออกจากคนตัวเล็ก ทำใหคนที่ตวัดลิ้นเข้าที่เม็ดยอดอกปทุมถันนั้นได้สติ ริมฝีปากหนาติดคล้ำนิดๆ เน้นกดจูบลงที่เม็ดยอดอกอมชมพูและดูดยืดเล่นราวกับเด็กแรกเกิด ก่อนที่จะปล่อยละใบหน้าออกจากเจ้าสองเต้าอวบอึ๋ม อย่างนึกเสียดาย สายตาคมเหลือบมองต่ำที่หน้าอกของเด็กสาวตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยร่องรอยแดงเป็น
ด้านข้าวตังที่เห็นธีร์ณัฐยืนพ้นควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่นั้น คนตัวเล็กถึงกับเดินเข้าหาราวกับว่าเธอนั้นฝันไป"ผู้กองดูดบุหรี่ด้วยเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม สายตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น จากนั้นก็เบนสายตาไปที่บุหรี่แทนใบหน้าสวยของเธอ"อืม"เสียงเข้มเอ่ยครางในลำคอโดยไม่คิดจะมองร่างบางที่เดินเข้าหาตน ด้านข้าวตังที่เห็นเขาแสดงท่าทีที่แสนจะเย็นชาให้กับตนเช่นนั้น คนตัวเล็กถึงกับชะงัก"ฉันดูดแค่ช่วงที่เครียดหนะ" เขาเอ่ยตอบเธอ แต่ด้วยท่าทีที่แสนจะเย็นชานั้น กับใช่ว่าคนอยากเจอเขานั้นจะถอดใจ ร่างบางกับทำสีหน้าให้ปกติ"ฉันไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีก" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกดีใจที่เธอนั้นได้เจอกับเขา"ฉันเองก็ไม่ต่างจากเธอ" เสียงเข้มเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่เห็นเขาอีกครั้งคนตัวเล็กจากที่จิตใจห่อเหี่ยวเฉามาหลายวัน กับใจฟูมาอีกครั้ง ที่บังเอิญเธอเจอเขา ในงานเลี้ยงของค่ำคืนนี้คุณพ่อของเธอคงเลี้ยงส่งเขาสินะ คนตัวเล็กได้แต่คิด"ผู้กองจะไปจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยความรู้สึกสับสน แม้ก่อนหน้านี้เธอปฏิญาณกับตนไปแล้วจะไม่ร้องห่มร้องไห้เพราะเขาอีก พึ่งจะใจฟูได้ไม่นาน"อืม" คำ
หลายวันต่อมา @ห้องเรียน ม.6/2 ด้านข้าวตัง นี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ตั้งแต่วันที่เธอและเขาจูบกันที่ลำห้วยนั้น ฉันก็ไม่เจอผู้กองธีร์ณัฐอีก คำพูดของเขาในวันนั้นยังดังกึกก้องมาในห่วงความคิดของฉันจนยากเกินที่จะลืม"จูบนี้เป็นจูบสุดท้ายระหว่างเราใช่ไหมคะ" มันคือคำถามที่ฉันถามเขา ผู้กองหนุ่มใบหน้าอันหล่อเหลาสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่เศร้าของเด็กสาวตรงหน้า "เธอจะคิดแบบนั้นก็ได้" ธีร์ณัฐเอ่ยกับคนตรงหน้า ใบหน้าสวยของคนตัวเล็กรู้สึกร้อนพราวๆ ที่ดวงตา พยายามข่มอารมณ์และความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา "ฉันขอกอดผู้กองได้ไหมคะ"ข้าวตังเอ่ยอย่างตรงๆ ไม่คิดจะปิดกลั้นความรู้สึก ไหนๆ อีกไม่กี่วันเขาก็จะไปจากเธอแล้ว ถือซะว่าเราทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ ทั้งสองสบตาเข้าหากัน ด้านธีร์ณัฐเมื่อหญิงสาวเอ่ยขอตนเช่นนี้คนที่ไม่ปฏิเสธ ฝ่ามือหนาของคนตัวโตดึงร่างบางเข้ามากอดด้วยความรู้สึกที่สับสน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่พี่ชายกอดน้องสาว "ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ข้าวตังฉันต้องขอโทษที่ฉันทำตามที่เธอต้องการไม่ได้" เสียงทุ่มเอ่ยจากปากผู้กองหนุ่ม พร้อมกับโน้มปากหยักหนาเข้าไปจูบที่หน้าผากของคนตัวเล็ก มันเป็นจูบสุดท้ายที่เขาจะมอบให้เธอจ
หลายวันต่อมา ด้านข้าวตังร่างบางในชุดกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดพอดีตัว นั่งหันหลังที่ลำห้วยทุ่งทานตะวัน หลายวันมานี้ฉันรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก หลังจากเลิกเรียนตั้งแต่วันที่ฉันขาแพลงในวันนั้น พอฉันหายเป็นปกติ ฉันก็มาที่นี่ทุกวัน เพื่อหวังจะได้เจอกับคนที่อยากเจอ ถึงความหวังของฉันมันจะแสนริบหรี่ แต่ก่อนที่เขาจะย้ายไปที่อื่น ฉันอยากจะเจอหน้าเขาอีกสักครั้ง ใบหน้าสวยที่นั่งหันหลังได้แต่เหลือบมองท้องฟ้าในเวลาค่อนจะค่ำ ซึ่งอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าตะวันก็จะตกดินข้าวตังมานั่งอยู่ตรงนี้นานนับชั่วโมง แต่นั้นก็ไม่มีวี่แววว่าผู้กองธีร์ณัฐนั้นจะมา เธอไม่ได้นัดเขา อย่าว่าแต่นัดเลยช่องทางที่จะติดต่อเธอก็ไม่มี เธอใช้เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้นที่ทำให้เธอมาที่นี่ในเวลาแบบนี้ แต่นั้นวันนี้ความหวังของเธอมันก็เหมือนจะสูญเปล่าอย่างเช่นเคย"ให้ตายเถอะ แค่อยากเจอ ทำไมฉันต้องมานั่งรออะไรในที่แบบนี้ด้วย ทั้งที่ไปที่ทำงานของเขาก็เจอ แต่ฉันไม่อยากจะทำเช่นนั้น เพราะในตอนนี้ฉันไม่มีสถานะ ฉันรู้สึกข้างเดียว ข้าวตังได้แต่นั่งคิดอยู่เงียบๆ เช่นนั้นนานนับหลายนาทียิ่งคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่บังเอิญเคยกอด เคยจูบ อีกไม่กี
ด้านธีร์ณัฐหลังจากที่ร่างสูงพาข้าวตังขับรถกินลมชมวิวไปได้สักพักแล้วนั้น ร่างสูงก็มาส่งเธอที่บ้าน สร้างความตกอกตกใจให้กับคุณย่าและคุณป้า ที่ผู้กองใบหน้าอันหล่อเหลาขับรถมาส่งหลานสาวสุดที่รัก คำตอบที่ได้ข้าวตังลื่นล้มที่ลำห้วย ธีร์ณัฐบังเอิญเจอเข้าพอดี"ขอบคุณผู้กองมากนะคะ ที่มาส่งข้าวตัง" คุณป้าหญิงวัยห้าสิบปลายๆ เอ่ยกับผู้กองธีร์ณัฐ"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมบังเอิญเจอเธอลื่นล้ม เลยพามาส่งนะครับ" ธีร์ณัฐเอ่ยกับป้าของข้าวตัง"ข้าวเดินยังไง ถึงได้เจ็บหนักแบบนี้ลูก" เสียงของคุณย่าเอ่ยกับหลานสาว"ก็ทางมันลื่นนี้คะคุณย่าใครจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันลื่น" ข้าวตังเอ่ยตอบขณะที่คุณย่านั้นนวดฝ่าเท้าให้กับเธอ"งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" แต่ขณะที่ธีร์ณัฐจะเดินไปขึ้นรถที่จ่าเข้มมารับนั้น"ผู้กองธีร์ ของคุณนะคะที่มาส่งฉัน" ข้าวตังเอ่ยกับเขา ธีร์ณัฐกับไม่ตอบร่างสูงกับพยักหน้าให้กับเธอด้านข้าวตังที่เห็นเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก เชอะ ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าลูกน้องไม่รู้จะเก๊กไปถึงไหน แค่ตอบฉันมันยากนักหรือไง ข้าวตังที่ธีร์ณัฐไม่ตอบเมินเฉยต่อเธอ จู่ๆ ฉันกับรู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่ตอบทั้งที่ก่อนหน้านี่เขายังต่อปา
ด้านข้าวตังหลังจากที่ขึ้นขี่หลังผู้ของธีร์แล้วนั้น แขนเรียวเล็กโอบเข้าที่ต้นคอของคนตัวโต"ผู้กองให้ฉันขี่หลังแบบนี้ ไม่หนักเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยที่ข้างหูของคนตัวโต ด้านธีร์ณัฐที่ถูกเด็กดื้อใบหน้าสวยถามเช่นนั้นถึงกับหลุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยัก"เมื่อกี้เธอนอนทับตัวฉัน หนักกว่านี้อีก" เสียงเข้มหลุดเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่ถูกแขวะเช่นนั้นใบหน้าสวยที่ยิ้มกริ่มถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน"ถ้าผู้กองหนักก็เดินสิคะจะได้ถึงรถฉันเร็วๆ" แต่นั้นยิ่งเธอเร่งเขา แต่คนขี้แกล้งกับยิ่งเดินช้า ราวกับว่าเขาไม่ได้หนัก แต่กับอยากให้เธอนั้นขี่หลังแบบนี้นานๆ ซะอีก ทั้งที่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร แต่มันกับเกิดขึ้นกับเธอ ธีร์ณัฐที่จะหันไปตอบ แต่ในจังหวะนั้นคนที่ต่อปากต่อคำกับโน้มใบหน้าลงมาที่บ่าไหล่ ปากบางจิ้มลิ้ม!! จุ๊บ !! สัมผัสเข้าที่แก้มของคนตัวโตเข้าอย่างเต็มๆ!! อุ้ย...!! ทำให้ร่างสูงที่ขาจะก้าวเดินต่อนั้นถึงกับหยุดชะงัก"วันนี้ฉันโดนเด็กดื้อขโมยทั้งจูบทั้งหอม ถึงสองครั้งติด เธอช่วยตอบฉันหน่อยสิข้าวตังว่าฉันควรจัดการกับเด็กดื้อคนนั้นยังไงดี" ธีร์ณัฐหันมาถามใบหน้าสวยที่อยู่บนหลังของตน ด้านข้าวตังที่ถู







