LOGINด้านธีร์ณัฐ ปากบางจิ้มลิ้มที่สัมผัสเข้ากับปากของตน ทั้งสองร่างตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ด้านข้าวตังให้ตายเถอะนี้เป็นจูบแรกของฉัน ถึงจะเป็นอุบัติเหตุแต่นั้นเธอก็ไม่คิดจะเสียใจ ปากหยักหนาใบหน้าอันหล่อเหลาของคนตรงหน้านั้นน่าลิ้มลองจนยากจะถอย ทั้งที่เธอเป็นคนถอนจูบออกจากเขาได้ แต่นั้นข้าวตังกับไม่คิดจะทำ
ด้านธีร์ณัฐใบหน้าสวยหวานสดใส กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ติดปลายจมูกของตนชวนให้หลงไหล จากที่คิดจะขยับปากออกจากสัมผัสของคนด้านบน แต่การกระทำกับตรงข้าม เรียวลิ้นร้อนกับแทรกเข้าที่โพรงปากของคนตัวเล็กเกินจะหักห้ามใจ เรียวลิ้นร้อนตวัดเข้าโพรงปากของคนตัวเล็กจนห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้
ด้านข้างตังที่ถูกเรียวลิ้นร้อนของคนด้านบน ใบหน้าหล่อเหลาใต้ร่างรุกจูบสัมผัสเข้าที่ปากบางของเธออย่างช่ำชองนั้น ข้าวตังเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธแต่กับปล่อยให้เรียวลิ้นร้อนของคนมากประสบการณ์ นั้นตักตวงความหอมหวานจากปากของเธอ เพราะลึกๆ เธอเองก็ต้องการให้เขานั้นจูบเธอเช่นกัน ด้านธีร์ณัฐที่คิดว่าเด็กสาวนั้นจะปฏิเสธและต่อต้านตนนั้น แต่กับคิดผิด กับเป็นข้าวตังที่ปล่อยให้เขาจูบเธออยู่เช่นนั้น
ด้านธีร์ณัฐจากที่คิดจะถอนตัว แต่กับถึงขั้นเลยเถิด เขากับหยุดแทรกเรียวลิ้นเข้าที่ปากบางจิ้มลิ้มของคนด้านบนไม่ได้
ด้านข้าวตังถึงจะเป็นจูบแรกของเธอ แต่นั้นคนตัวเล็กก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้ธีร์ณัฐนั้นจูบเธอเพียงฝ่ายเดียว เรียวลิ้นเล็กเกี่ยวและสัมผัสปากหยักหนาอย่างไม่ประสีประสาแต่นั้นกับทำให้ธีร์ณัฐถึงกับเสียการควบคุมไปชั่วขณะ จูบของข้าวตังกับทำเอาคนมากประสบการณ์อย่างเขาแทบคลั่ง
จูบที่อ่อนหัดและไร้ประสบการณ์ของเธอ แต่นั้นธีร์ณัฐกับติดใจยากเกินที่จะลืมลง ให้ตายเถอะเขาไม่ได้สัมผัสและเล่นลิ้นจูบกับสาวๆ แบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ นานแทบจะจำไม่ได้ ทั้งที่หญิงสาวสวยๆ นั้นคืออาหารจานโปรดของเขา แต่กับห่างหายเรื่องแบบนี้มานานนับหลายปี หัวใจที่แข็งกระด้างมานานกับรู้สึกหวั่นไหว และใจเต้นแรงอีกครั้ง กับจูบของคนตรงหน้า หรือเขานั้นควรเปิดใจคบกับใครอีกสักครั้งดี ธีร์ณัฐได้แต่คิด
ด้านข้าวตังเรียวลิ้นร้อนตวัดและดูดเข้าที่ปากของฉัน จากจูบที่ธรรมดาเขากับกดจูบลงที่ปาก และขบเข้าที่ริมฝีปากฉันอย่างดูดดื่มหนักหน่วงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จูบแรกไม่คิดว่าฉันจะชอบ แต่กับติดใจสัมผัสของคนตรงหน้ายากเกินจะหักห้ามใจ
ฝ่ามือเรียวกำเข้าที่คอเสื้อของคนตัวโต ความรู้สึกที่ฉันมีให้กับคนที่ตักตวงความสุขจากปากของฉันตอนนี้มันเลยเถิดเกินไปไกลยากที่จะหันกลับ
ด้านธีร์ณัฐที่ติดใจรสจูบที่หอมหวาน ของข้าวตังแต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้นั้น กับมีเสียงรถที่วิ่งผ่านมาบริเวณนี้ ทำให้ทั้งสองที่แลกจูบกันอย่างหนักหน่วงนั้นได้สติ ปากหยักหนาของคนตัวโตจึงค่อยๆ ถอนจูบออกจากปากบางจิ้มลิ้มตรงหน้าออกอย่างน่าเสียดาย
ด้านข้าวตังที่ร่างบางยังคงทับบนตัวกับธีร์ณัฐอยู่นั้นทั้งสองสบตากัน ข้าวตังฉันรู้สึกอายมากที่เผลอตัวจูบกับเขาอย่างหน้าด้านๆ แบบนี้ฉันจะกล้ามองหน้าเขาได้ยังไง ร่างบางถึงกับผละออกจากคนตัวโตใบหน้าสวยถึงกับแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย แต่ในจังหวะที่จะลุกเดินนั้น จู่ๆ กับรู้สึกเจ็บแปลบๆที่ข้อเท้า
"อะ...ซี๊ด" ใบหน้าสวยถึงกับหยี่หน้าขึ้นมาด้วยความเจ็บ
ด้านธีร์ณัฐที่เห็นข้าวตังเจ็บเช่นนั้น ร่างสูงสบตาเข้ากับคนตัวเล็ก ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับหลุดยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เขาไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้กับใครที่ไหน แม้แต่อดีตแฟนเก่าของเขาก็ไม่เคยได้รับ
"แก๊ก" ฝ่ามือหนาจับและบิดเข้าที่ข้อเท้าของคนตัวเล็ก
"ขาน่าจะแพลงหนะ" ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าสวยของคนตัวเล็ก แต่นั้นข้าวตังกับเบื้องหน้าหนีหลบสายตา เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา
"ฉะ...ฉันว่าฉันกลับดีกว่าค่ะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับสาวเท้าจะเดิน แต่นั้นก็ยังรู้สึกแปลบๆ ที่ข้อเท้าอยู่ดี
"ซี๊ด" เสียงเล็กจือปากออกมาด้วยความเจ็บ
"เป็นไงยังเจ็บอยู่ไหม" ธีร์ณัฐย่อตัวและกดนิ้วนวดที่ข้อเท้าให้เธออีกครั้ง
"ค่ะ ฉันยังเจ็บอยู่"
"งั้นเธอก็ขี่หลังฉันละกัน" ร่างสูงไม่พูดเปล่าแต่กับถือวิสาสะจับเข้าที่แขนเรียวเล็กอีกครั้ง ด้านข้าวตังที่ยังทรงตัวไม่อยู่นั้นถึงกับเซล้มตัวกระแทกเข้าที่หน้าอกแกร่งหนาของธีร์ณัฐ ข้าวตังตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโตอีกครั้ง ใบหน้าอันหล่อเหลาโน้มเข้าหาคนตัวเล็กแทบจะแนบชิดกัน
"ให้ตายเถอะนี้จะมีรอบสองไม่ได้ แค่รอบเดียวฉันก็อายมากไม่กล้าแม้แต่จะสู้หน้าเขา
!! ตึก ตึก !! หัวใจดวงเล็กๆ ถึงกับเต้นสั่นแรงขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ แต่นั้นข้าวตังกับเบื้องหน้าหลบจมูกโด่งคมสันของธีร์ณัฐที่จะสัมผัสเข้าที่แก้มของเธอ
"คุยกับฉัน ทำไมถึงไม่มองหน้าฉันละ" เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นมา ฉันรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา
"ฉันจะกลับบ้าน" ข้าวตังเอ่ยไม่เต็มเสียง
"เธอตอบไม่ตรงคำถาม" ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับผุดรอยยิ้มอันร้ายกาจขึ้นมา
"เขิน ที่จูบกับฉันงั้นเหรอ" ด้านข้าวตังที่ถูกคนเจ้าเล่ห์ถามเช่นนั้น ถึงกับมองค้อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ตุบ" กำปั้นเล็กถึงกับทุบเข้าที่หน้าอกของธีร์ณัฐด้วยความโกรธ
"คนบ้า ใครใช้ให้ผู้กองพูดแบบนี้กับฉันกัน"
"จะเขินทำไม ฉันคิดว่าเธอชอบจูบของฉันซะอีก" แต่นั้นคำพูดของผู้กองหนุ่มเจ้าเล่ห์กับทำให้ใบหน้าสวยถึงกับแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอายหนักเข้าไปอีก
"หลงตังเอง" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเบื้องหน้าหนี
"อ้าว...นี้เธอจูบฉันก่อน เธอไม่ได้ชอบจูบฉันหรอกเหรอ" ธีร์ณัฐเอ่ยแกล้งกับใบหน้าสวยอย่างนึกสนุก
"ผู้กอง..." ข้าวตังเอ่ยเสียงแข็ง จ้องคนตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจสุดๆ คนที่โดนจับได้ว่าตนเป็นฝ่ายเริ่มจูบเขาก่อนถึงกับทำหน้าไม่ถูก ข้าวตังรู้สึกอายเขาจนอยากจะหายไปจากตรงนี้
"ฉันออกจะเป็นหนุ่มหน้าจูบ เธอจะจูบฉันอีกก็ได้นะ เอาดิ" ธีร์ณัฐไม่พูดเปล่าแต่กับยื่นใบหน้าเข้าหาเธอ
"คนบ้า ใครเขาอยากจะจูบผู้กองบ้า อย่างคุณกัน" ด้านธีร์ณัฐที่ไม่เคยเจอของแปลก ที่ต่อปากต่อคำเก่งอย่างข้าวตัง ถึงกับนึกสนุกและชอบใจจนอยากจะแกล้งและอยู่ตรงนี้นานๆ
"พอจะให้จูบก็หาว่าบ้า" ธีร์ณัฐยังแกล้งตีหน้าซื่อใส่คนตัวเล็ก
"ฉันไม่พูดกับผู้กองแล้ว ปล่อยค่ะฉันจะกลับ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับผละออกจากธีร์ณัฐ ทำเอาร่างสูงที่ยังไม่ทันระวังตัวถึงกับเซ แต่นั้นข้าวตังกับลืมตัวขาของเธอยังเจ็บ
"ข้าวตังขาเธอยังเจ็บ จะให้ฉันอุ้มหรือจะขึ้นขี่หลังฉัน ก็เลือกเอา" เสียงทุ่มของธีร์ณัฐเอ่ยกับคนตัวเล็ก ขาเจ็บขนาดนี้แต่เด็กอวดดีอย่างเธอก็ไม่คิดจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขา
"รถฉันไม่ได้ไกลมาก เดินเองได้ค่ะ" เสียงแข็งเอ่ยมาเช่นนั้น แต่ด้วยท่าทีเดินกะเผลกของคนตัวเล็กนั้นกับรู้สึกขัดตาเขานัก
ธีร์ณัฐเดินไปพร้อมกับซ้อนตัวเด็กดื้อ ลอยหวืออุ้มขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ด้านข้าวตังที่ถูกอุ้มขึ้นนั้น ร่างบางถึงกับชะงักตากลมเบิกกว้างด้วยท่าทีตกใจ ทั้งสองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
"บอกว่าให้เลือกไง" ธีร์ณัฐเอ่ยกับเด็กดื้อในอ้อมแขนของตน ข้าวตังได้แต่มองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"ขี่หลังค่ะ" ข้าวตังเอ่ยจบร่างบางก็ขึ้นขี่หลังของธีร์ณัฐ
"หึ...ก็แค่นั้น" ด้านธีร์ณัฐที่ให้เด็กดื้อที่แสนพยศขึ้นขี่หลังแล้วนั้น ธีร์ณัฐถึงกับผุดรอยยิ้มขึ้นมาด้วยท่าทีพอใจ
“ไอศครีมด้วยงับ ปะป๊า” ด้านคนน้องที่คุณพ่อสัญญาไว้กับตนเมื่อก่อนหน้านั้นกับไม่ยอมเช่นกัน“เอาสิยอมกันได้ที่ไหน” ข้าวตังหันมองทั้งสามหนุ่ม เมื่อเจอเจ้าสองแสบทวงสัญญาแบบนี้ดูสิว่าปะป๊าธีร์ณัฐของพวกเขาจะทำยังไง คนพี่จะกินเคเอฟซี คนน้องจะกินไอศครีม หม่ามี้คนสวยถึงกับส่ายหัวให้กับเจ้าตัวแสบ และก็เป็นเช่นนี้แทบจะทุกวันที่หลังเลิกเรียนลูกๆ ของเธอจะงอแงทานของอร่อย“หม่ามี้ว่าไงคับ” ธีร์ณัฐหันมาถามความเห็นภรรยา เพราะเย็นนี้ที่คฤหาสน์มีงานเลี้ยงเล็กๆ ปาร์ตี้วันเกิดครบ 63 ปีของคุณปู่ ธีร์ณัฐเกรงว่าตนจะพาลูกๆ และภรรยานั้นถึงบ้านช้า“ข้าวได้หมดแล้วแต่พี่ธีร์เลยค่ะ” ด้านธีร์ณัฐเมื่อภรรยาเอ่ยมาเช่นนั่น คนกลัวผิดสัญญาต่อลูกๆ ถึงกับยอมใจอ่อนแวะร้านโปรดของลูกๆ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงสองหนุ่มน้อยก็ทานพร้อมกับยื่นพุงป่องๆ ให้กับหม่ามี้ดู“พี่คีตะ พี่เควิน ทานเยอะแบบนี้หม่ามี้จะอุ้มไม่ไหวแล้วนะคะ” ข้าวตังเอ่ยขณะที่ลูกๆ นั้นจะให้เธออุ้มโดยเฉพาะแฝดคนเล็ก ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่เห็นหน้าอ้อนๆของลูกก็ยอมใจอ่อนอุ้มอยู่ดี ส่วนอีก คนพอเห็นหม่ามี้อุ้มน้องก็ไม่น้อยหน้ายกแขนให้ปะป๊าอุ้มเช่นกัน แต่ขณะที่ข้าวตังและธีร์ณัฐอุ้
~ 1 เดือนต่อมา ~ ด้านข้าวตังและวันนี้ก็มาถึงวันที่เจ้าสองแสบของฉันไปเนอร์สเซอรี่วันแรกเจ้าสองแสบพออยู่ในชุดนักเรียนยูนิฟอร์มตัวน้อยแล้วคือน่ารักสุดๆ เล่นเอาซะก่อนออกจากบ้านสองหนุ่มน้อยของฉันโดนคุณปู่คุณย่าฟัดแก้มป่องๆ ไปกันหลายที ถึงสองหนุ่มฉันจะรับปากคุณปู่คุณย่าว่าจะไม่งอแงร้องไห้เป็นเด็กดีแต่นั้นฉันก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่หรอกให้ถึงเนอร์สเซอรี่ก่อนเป็นอันรู้เรื่อง ส่วนค่าเทอมค่าใช้จ่ายของเด็กๆ ก็เป็นคุณปู่คุณย่าดูแลให้กับหลานๆ ทุกคนร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสวมกางเกงขาสามส่วนสบายๆ วันนี้พี่ธีร์และฉันเราลางานเพื่อมาส่งเด็กๆ เมื่อพี่ธีร์พาพวกเรามาถึงที่หมายแล้วนั้น ข้าวตังได้แต่มองสองหนุ่มน้อยของเธอด้วยสีหน้าลุ้นสุดๆ“พี่คีตะ พี่เควิน สัญญากับปะป๊าหม่ามี้ก่อนนะครับว่าจะไม่งอแงและไม่ร้องโยเย โอเคไหมคะลูก” เสียงหวานเอ่ยกับเด็กๆ ขณะที่สำรวจเจ้าสองแสบที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของเนอร์สเซอรี่นานาชาติ ที่ยิ่งมองสองหนุ่มน้อยของฉัน ยิ่งหล่อเหลาเอาการเหมือน อปป้าเกาหลี“มะร้องงับหม่ามี้ คีจะมะร้อง น้องก็จะมะร้อง” เด็กน้อยคนพี่เอ่ยกับมารดาเป็นคำสัญญาว่าตนจะไม่ร้องไห้“ถ้าน้องร้องคีจะปลอบน้อง
1 ชั่วโมงต่อมาด้านข้างตังเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดก่อนที่จะออกจากบ้านพาเจ้าสองแสบไปดูโรงเรียนก็ถูกสามีคนหื่นจัดจับกินไปหนึ่งรอบ ทำเอาเช้านี้คุณแม่ลูกสองถึงกับงอนสามี ขณะที่ธีร์ณัฐขับรถพาภรรยาและเด็กๆ ไปยังเนอร์สเซอรี่ที่คุณย่าปาสิตาดูไว้นั่น“พี่ธีร์รู้ตัวไหมคะ ว่าตัวเองนะสาย ข้าวนัดกับคุณครูไว้เก้าโมงครึ่ง นี้เราเรทมาหลายนาทีแล้วนะคะ” ข้าวตังที่นั่งหน้าข้างคนขับถึงกับต่อว่าสามี แต่นั้นคนถูกบ่นกับมีสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนๆ ขับรถผิวปากฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี และมีเสียงหัวเราะของสองหนุ่มน้อยที่ชอบให้ปะป๊านั่นฮัมเพลงให้ฟัง“คริ คริ” เสียงของเจ้าสองแสบ“ไม่สายหรอกครับ คุณแม่ท่านโทรเลื่อนนัดให้แล้วอีกอย่างเด็กๆ ไม่ได้เข้าเรียนวันนี้ซะหน่อย หม่ามี้อย่าดุปะป๊าเลยนะครับ เจ้าดีเทลก็คงจะยังไม่ถึง” ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับหันมายกยิ้มให้กับภรรยา จากนั้นก็หันไปหาคนร่วม“ใช่ไหมครับ คีตะ เควิน วันนี้เด็กๆ กำลังจะไปไหนกันครับ”“ไปสวนสัตว์ครับ ปะป๊า”“สวนสัตว์” เด็กๆ ตอบคุณพ่อคุณแม่แบบนั้นทำเอา ข้าวตังและธีร์ณัฐถึงกับมองหน้ากัน“ยุนย่า บอกว่ามีสวนสัตว์ และสนามเด็กเล่นด้วยค
~ 3 ปี ต่อมา ~@คฤหาสน์หลังใหญ่ครอบครัวของธีร์ณัฐ ด้านข้าวตังหลังจากที่ฉันแต่งงานกับธีร์ณัฐจากนั้นเพียงหนึ่งเดือนฉันก็เข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ครอบครัวของธีร์ณัฐ เนื่องจากผู้ใหญ่อยากให้ทั้งสองมาใช้ชีวิตกันอยู่ที่นี่ส่วนพี่ดีเทลและพี่สายธารตอนนี้ออกไปมีครอบครัว จะกลับมารวมตัวหรือพาเด็กๆ มาทานข้าวที่บ้านในทุกๆ เดือน นั้นคือความต้องการของคนในครอบครัวที่สามพี่น้องตกลงกัน ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ครอบครัวพี่ธีร์รักและเอ็นดูฉัน หลังจากที่แต่งงานไปไม่กี่เดือนฉันก็ได้ให้กำเนิดลูกชายสองแฝดของฉัน สมใจปะป๊า ปู่ย่าตายาย คุณป้า คุณอา พวกเขานัก เจ้าแฝดของฉันที่ตอนนี้อายุได้ 2 ขวบกว่า แสบและซนสุดๆ คนแรกชื่อพี่ คีตะ คนที่สอง พี่เควิน ชื่อนี้พี่ธีร์ตั้งให้ ตั้งแต่เราช่วยกันทำเขาแล้วแหละ ส่วนใบหน้าก็ยับยู่ยี่ถอดแบบจากพี่ธีร์และฉันไปคนละครึ่งแต่ถ้ามองผิวเผินจะเอนมาฝั่งของฉันมากกว่าคุณพ่อของพวกเขาด้านข้าวตังหลังจากที่ฉันลงไปคุณกับคุณแม่ของพี่ธีร์เรื่อง โรงเรียนของลูกชาย และนี่จะเก้าโมงแล้วที่ก่อนลงไปหาคุณแม่ฉันสั่งพี่ธีร์นักหนาให้อาบน้ำให้สองแสบ แต่นี้ดูสิกลับมาถึงบนห้องทั้งสามหนุ่มของฉันก็ยังอยู่ในสภาพเ
~ 3 เดือนต่อมา ~ @CcT Hotel ร่างบางในชุดราตรีเจ้าสาวทรงยาวมินิมอลสีขาวผมยาวสีน้ำตาลเข้มถูกม้วนเป็นทรงเรียบหรู วันนี้เป็นวันสำคัญที่ฉันและผู้กองธีร์ณัฐเราแต่งงานกัน งานแต่งของเราถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับ 6 ดาวแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดบ้านเกิดของฉัน ขณะที่ข้าวตังอยู่ในห้องแต่งตัวที่พร้อมจะออกไปต้อนรับแขกที่มาในงานแล้วนั้น ดวงตากลมเล็กเหลือบมองใบหน้าอันหล่อเหลาเจ้าบ่าวของเธอ ธีร์ณัฐอยู่ในชุดสีขาวที่มีดาวดวงประทับที่บ่าไหล่ในมือถือกระบี่ฉันมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข เมื่อถึงเวลาไปต้อนรับแขกที่มาในงานแล้วมือหนาจับเข้าที่มือของแฟนสาว"วันนี้ข้าวตังสวยมากเลยนะครับ สวยมากซะพี่ไม่อยากให้เราเดินออกไปเลย" ธีร์ณัฐเอ่ยกับภรรยา ความรักของฉันกับพี่ผู้กองธีร์เป็นไงละหลังจากที่เรากลับมาจากปารีสไม่ถึงสองวัน ผู้กองธีร์เขาก็พาฉันไปจดทะเบียนสมรสเหตุผลเขากลัวฉันจะหนีไปอีกดูเอาเถอะอะไรจะใจร้อนขนาดนั้นสามีของฉัน"ถ้าไม่เดินออกไป แล้วจะเสร็จสิ้นพิธีเหรอคะ พี่ธีร์ก็พูดไปได้" ฉันว่าให้กับเจ้าบ่าวของฉัน นอกจากเป็นงานมงคลสมรสเราแล้วปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเราซะด้วยสิ คุณพ่อสุดหล่ออย่างพี่
"พี่ธีร์จะดุ จะด่าว่าข้าวเหรอ ใครกันละที่เป็นต้นเหตุให้ฉันมาที่นี่ละ" ข้าวตังเอ่ยเสียงดุขึ้นมาบ้าง ทำเอาผู้กองหนุ่มถึงกับชะงัก จากที่จะดุเมียกับโดนเมียดุมาซะงั้น จากสีหน้าเข้มขรึมถึงกับยอมอ่อนลง"ถ้าข้าวโกรธพี่เรื่องงาน พี่ผิดพี่ขอโทษ ต่อจากนี้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องงานเรื่องส่วนตัวพี่จะไม่ปิดบังเราอีก ให้อภัยด้วยนะครับ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ"อย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลย เมียหนีมาไกลขนาดนี้พี่ใจจะขาดตาย""สม..." ข้าวตังธีร์ณัฐเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิดต่อเธอร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าสะใจ ไอ้โกรธเธอก็โกรธอยู่หรอกแต่เห็นหน้าหล่อๆ ของว่าที่คุณพ่อแล้วถึงกับโกรธไม่ลง"นะครับ ข้าวหายโกรธพี่นะครับเมีย ดูสิพี่สั่งแต่ของโปรดเรามาทั้งนั้นเลย" ธีร์ณัฐที่เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเมียถึงกับทำหน้าไม่ถูก เขาเอ่ยอย่างเอาใจ ของโปรดฉันงั้นเหรอแต่ทำไมตอนนี้ฉันกับไม่อยากจะทานอะไรเลย สเต็กเนื้อที่แค่ได้กลิ่นน้ำครีมสลัดฉันก็ทนไม่ไหวเหมือนมีอะไรวิ่งมาจุกที่ลำคอ ไม่ไหวแล้วมันไม่ไหวจริงๆ ผุดๆ ลอยขึ้นมาเตะจมูกข้าวตังถึงกับหน้าซีดพะอืดพะอมในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว ร่างบางลุกวิ่งออกไปอ้วกที่ห้องน้ำด้านธีร์ณัฐที่เห็นท่าทีของข้าวตังเช่นน







