Mag-log inสัปดาห์ต่อมา
ด้านข้าวตังหลังจากที่ร่างบางกลับมาจากบ้านคุณย่า นี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ที่เธอไม่เจอกับผู้กองหน้าหล่อนั้น ร่างบางในชุดมัธยมปลาย ผมยาวถักเปียทั้งสองข้างที่ยืนรอผู้ปกครองมารับอยู่ข้างโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ขณะที่ข้าวตังจะเดินไปซื้อขนมนั้น จู่ๆ สายตากับสะดุดเข้ากับร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์สีเข้มและเสื้อยืดสีขาว สวมทับด้วยแว่นตากันแดดสีชา ที่เดินออกจากร้านสะดวกซื้อตรงข้ามกับข้างโรงเรียนของเธอ
"ว้าว ใครอะ โคตรหล่อเลยอะ แก" ยัยน้ำผึ้งที่ยืนอยู่กับฉันแต่สายตากับจ้องมองไปที่ผู้กองธีร์ณัฐ
"ผู้กองธีร์" ข้าวตังเอ่ยตอบเพื่อน แต่ขณะที่ข้าวตังจะโบกมือคืนตังเขา แต่นั้นก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อธีร์ณัฐนั้นบึ้นรถออกไป ทั้งสองสาวข้าวตังและน้ำผึ้งได้แต่มองตามรถราคาหลายล้านที่วิ่งออกไป
"ข้าวแกรู้จักเขาเหรอ" ด้านข้าวตัง หลายวันมานี้ที่เธอไม่ได้เจอหน้าหล่อๆ ของเขา วันนี้ทำเอาร่างบางในชุดมัธยมปลายถึงกับยิ้มไม่หุบ
"รู้สิ ฉันรู้จักเขาดีเลยแหละ" เสียงหวานเอ่ยตอบเพื่อนของเธอ
"อ๋อ ที่วันก่อนแกไม่ยอมรับรักไอ้ต้นน้ำ เพราะเขาคนนี้ปะ..." น้ำผึ้งที่เป็นเพื่อนสนิทข้าวตังตั้งแต่สมัยอนุบาล ที่สังเกตเห็นสีหน้าและแววตาที่ดูเป็นประกายของเพื่อนถึงกับอดแซวไม่ได้
"บ้าน่า ฉันแค่รู้จัก ไม่ได้เป็นแฟนเขานะยะ" ข้าวตังเอ่ยแก้ต่าง ถึงน้ำผึ้งจะเอ่ยมาเช่นนั้นแต่นั้นก็ทำเอาข้าวตังถึงกับยิ้มไม่หุบ ถึงเราจะเจอกันแค่สองครั้ง หลายวันมานี้เธอก็คิดถึงใบหน้าหล่อๆ นิ่งๆ เสียงเข้มๆ ของเขาเล่นเอาซะฝันถึงทุกคืนเลย ผู้ชายในฝันของฉัน
"จะว่าไปแล้ว ผู้กองธีร์อะไรของแกนั้นเขามีเมียยัง ดูท่าน่าจะเป็นพี่เราหลายปีอยู่เหมือนกันนะ"
"ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน" ที่เอ่ยไปเช่นนั้น นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ติดค้างในใจฉันอยู่หลายวัน อยากรู้แต่ก็ไม่กล้าถามจ่าเข้ม เพราะจ่าเข้มน่าจะรู้เรื่องของเขาดีกว่าใคร ข้าวตังได้แต่คิด
"ผู้กองธีร์ ชื่อนี้คุ้นๆ แฮ่ะ เขาอยู่ สภ.นี้ปะ"
"อืม"
"แกอยากรู้ปะ" น้ำผึ้งเอ่ยจบก็กระซิบเข้าที่ข้างหูของข้าวตังทันที ด้านข้าวตังที่มีตัวช่วยสืบเรื่องผู้กองธีร์ ใบหน้าสวยถึงกับตาลุกวาว
"ไม่เกินพรุ่งนี้ แกรอฟังคำตอบได้เลย" จากนั้นไม่นานคนที่บ้านข้าวตังก็มารับ
"บายๆ นะแก แล้วเจอกัน" ด้านข้าวตังหลังจากที่คุณนายสายสุรีย์ลงทุนขับรถมารับฉันถึงโรงเรียนแล้วนั้น ขณะที่อยู่ภายในรถ
"ข้าวตังเดือนหน้าลูกต้องสอบเข้ามหาลัยแล้วนะลูก เรื่องเรียนพิเศษไปถึงไหนแล้ว" เสียงมารดาเอ่ยกับลูกสาวคนเล็ก
"ถ้าข้าวเข้ามหาลัยรัฐไม่ได้ เข้าเอกชนก็ได้นิคะคุณแม่" ข้าวตังเอ่ยกับมารดาด้วยเสียงอ่อน
"สรุปวิชาที่คะแนนไม่ถึงครึ่ง ข้าวจะไม่ไปเรียนเพิ่มใช่ไหม แม่ถามหนูแค่นี้แหละ" ข้าวตังได้แต่พยักหน้า
"ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ข้าวไม่ชอบนิคะ ถึงเรียนไป พอเข้ามหาลัยข้าวก็ไม่เรียนอะไรที่เกี่ยวกับวิชาพวกนี้อยู่ดี ข้าวไม่อยากไปเรียนเพิ่มให้เสียเวลา" ข้าวตังเอ่ยอย่างมีเหตุผล
"เหอะ ดูเอาเถอะลูกสาวฉัน" มารดาได้แต่ว่ามา
"พูดถึงเรื่องเรียนทำหน้าหงอยเหงา พูดเรื่องเที่ยวตานิเป็นประกาย ลูกบ้านนี้เป็นกันทั้งบ้าน" คุณนายสายสุรีย์ได้แต่เอ่ยมา แต่นั้นข้าวตังถึงกับพูดไม่ออก เพราะเรื่องจริง
"แล้วนิแม่จะไปทำเล็บ ทำผม ข้าวจะไปกับแม่ไหม" มารดาเอ่ยชวนลูกสาว
"วันนี้วันศุกร์ข้าวขอไปค้างที่บ้านคุณย่านะคะ" เสียงสดใสเอ่ยกับมารดา
"บ้านคุณย่ามีอะไรน่าสนใจ ลูกสาวแม่ถึงไปติดบ้านคุณย่านักหนา อย่าบอกนะว่าจะแอบหนีไปที่น้ำตกอีก" เมื่อมารดาเอ่ยมาเช่นนั้นใบหน้าสวยถึงกับทำหน้าไม่ถูก
"รู้ทันข้าวทุกเรื่องเลยนะคะ" ข้าวตังได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับมารดา ด้านคุณนายสายสุรีย์อีกไม่กี่เดือนข้าวตังก็จะไปใช้ชีวิตในเมืองหลวงแล้ว เมื่อลูกสาวเอ่ยขอเช่นนั้นท่านก็ไม่อยากจะขัด แต่คุณดิเรกรู้ไม่ได้เชียวนะ ที่ปล่อยลูกแอบเที่ยวเรื่องใหญ่แน่ เมื่อเป็นเช่นนั้นถึงกับยอมขับรถมาส่งข้าวตังที่บ้านคุณย่า
"อยู่กับคุณย่า คุณป้า ห้ามสร้างเรื่องนะ" คุณนายสายสุรีย์เอ่ยกำชับลูกสาว
"ข้าวโตแล้วนะคะ ไม่สร้างเรื่องหรอกค่ะ" ด้านข้าวตังวันนี้ที่มารดายอมตามใจ คนจะไปเที่ยวบ้านคุณย่าถึงกับยิ้มไม่หุบ
"วันอาทิตย์เย็นๆ เจอกันนะคะ คุณนายสายสุรีย์คนสวย" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับกอดมารดาจากนั้น ก็วิ่งเข้าบ้านคุณย่าไปทันที
ด้านข้าวตังหลังจากที่เข้ามาถึงบ้านคุณย่าแล้วนั้น ร่างบางก็ไม่รอช้า หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงยีนส์ขาสั้น และเสื้อยืดสีขาว ก็คว้าเวสป้าคู่ใจไปที่น้ำตกทันที เพราะตอนนี้ไอ้เปี๊ยกและยัยน้อยหน่าคงจะอยู่ที่นั้นแล้ว
ใช้เวลาไม่นานข้าวตังก็มาถึงน้ำตก แต่กับผิดคาดเมื่อเพื่อนของเธอนั้นไม่อยู่ที่นี่ แต่กับมีกลุ่มวัยรุ่นอีกหลายกลุ่มที่เล่นน้ำอยู่ที่นี่แทน
"ไม่อยู่ที่น้ำตก หรือสองคนนั้นจะอยู่ที่ลำธารกัน" เมื่อเป็นเช่นนั่นข้าวตังจึงขับรถมอไซค์คู่ใจไปยังลำธารที่อยู่ห่างจากน้ำตกราวๆ หนึ่งกิโล ก็เจอกับเปี๊ยกและน้อยหน่า
"พี่ข้าว ทางนี้" ด้านน้อยหน่าที่เห็นข้าวตังถึงกับโบกมือเรียกให้ลงเล่นน้ำที่ลำธารทันที ข้าวตังเล่นน้ำที่ลำธารจนกระทั่งถึงช่วงเย็นและตอนนี้คนที่อยู่บริเวณแถวนี้ก็เริ่มทยอยกลับกันแล้ว
"พี่ข้าวจะเย็นแล้วฉันว่าเรากลับกันเถอะ" เมื่อน้อยหน่าเอ่ยชวนเช่นนั้น ทั้งสามก็พากันกลับ
ด้านข้าวตังแต่ขณะที่ฉันขับรถกลับบ้านคุณย่านั้น จู่ๆ สายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับสวนดอกทานตะวัน และดอกเบญจมาศที่ปลูกอยู่ริมลำห้วยที่เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ อยากจะบอกว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ ฉันชอบมามากๆ ไม่ได้ผ่านทางนี้แค่ไม่กี่เดือน พอถึงช่วงฤดูฝน วิวและบรรยากาศลมเย็นๆ มีอายหมอกที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา สวยมาก สวยตะโกนเลย สวยซะฉันหยุดมองและสูดบรรยากาศแถวนี้ไม่ได้
ด้านข้าวตังเมื่อเห็นมีหมอกลงในช่วงเย็นๆ แสงของพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ร่างบางถึงกับจอดรถ และวิ่งไปเก็บภาพและบรรยากาศสวยๆ ที่เต็มไปด้วยแหล่งธรรมชาติ บอกเลยบ้านคุณย่าของฉัน สวรรค์ธรรมชาติสุดๆ ลำห้วย น้ำตก ภูเขา ทะเลหมอก ทุกอย่างคือครบที่นี่ที่เดียวจบ นี้คืออีกหนึ่งเหตุผลในช่วงวันหยุดฉันจะชอบมาที่นี่
ร่างบางในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีขาว เดินไปยังลำห้วย ที่เป็นสวนดอกไม้
"ว้าว สวยมาก ชื่นใจจัง" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับยกมือขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกับรับลม แต่นั้นกับไม่รู้ถึงสายตาคมอีกคู่ที่จ้องมองเธอมาจากด้านหลัง
"เสียงดัง รบกวนคนอื่น" เสียงเข้มที่เอ่ยออกมาในระยะไม่กี่เมตร ทำเอาข้าวตังที่เห็นใบหน้าเจ้าของเสียงใบหน้าสวยถึงกับชะงักสีหน้าตกใจ
"ผู้กองธีร์ มาทำอะไรที่นี่คะ" นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อเขา
"ฉันต่างหากที่ต้องถาม เธอมาทำอะไร" ธีร์ณัฐไม่พูดเปล่าและร่างสูงในชุดกางเกงสีเข้มเสื้อยืดพอดีตัวนั้นกับเดินมือถือดอกเบญจมาศที่เขาดึงติดมือเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าเธอ ข้าวตังที่บังเอิญเจอเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวร่างบางได้แต่มองตาพริบๆ เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา อยู่ในชุดนอกเครื่องแบบว่าหล่อ เท่ห์แล้ว พออยู่ในชุดเสื้อยืดธรรมดาแบบนี้ ก็เหมือนกับวัยรุ่น ใบหน้าอันหล่อเหลาคนนึง แบบนี้ข้าวตังก็ตายไปเลยสิคะ
!! ตึก ตึก !! ยิ่งคนตรงหน้าขยับเท้าเข้ามาใกล้ หัวใจดวงเล็กๆ กับเต้นขึ้นมาอย่างไม่เป็นจังหวะ
"ว่าไง...ข้าวตัง เธอมาทำอะไรเหรอ"
"เออ ฉันๆ มา..." ด้านข้าวตังที่เจอผู้กองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าสบตามาอีกครั้ง ร่างบางถึงกับไม่เป็นตัวเองปากหนักถึงกับขยับพูดไม่ออก
"ฉะ...ฉันมาเดิน..." แต่ในขณะที่ข้าวตังจะสาวเท้าเดินถอยหลังนั้น ก่อนหน้านี้ฝนตก เท้าเล็กลื่นสะดุดเข้ากับโขดหิน ฝ่ามือเรียวกระชากแขนของคนตรงหน้าเพื่อหาที่ยึดเกาะ แต่นั้นกับไม่เป็นผล
!! ว้าย !! กับกลายเป็นว่าเธอนั้นกระชากแขนเขาล้มลงไปกับพื้นแทน
!! ตุบ !!
ด้วยความที่ฝนตก พื้นดินแฉะ ร่างสูงที่ไม่ทันระวังตัว ธีร์ณัฐล้มลงไปนอนกองกับพื้นดินโดยที่มีข้าวตังนั้นล้มทับตัวเขามาอีกที
!! จุ๊บ !!
ปากบางจิ้มลิ้มของคนตัวเล็กกดทับและสัมผัสเข้าที่ปากหยักหนาของคนตัวโตที่อยู่ใต้ร่างเธออย่างไม่ทันตั้งตัว ด้านข้าวตังที่รู้สึกได้ถึงปากของเขาและเธอสัมผัสกันนั้น ตากลมเล็กถึงกับเบิกกว้างออกมาด้วยความตกใจ แขนแกร่งหนากับโอบเข้าที่ร่างบางของคนตัวเล็กอย่างลืมตัว ทั้งสองสบตากัน
ข้าวตังที่ถูกคนตัวโตตวัดเรียวลิ้นร้อนขึ้นๆ ลงและวนเล่นขบเข้าที่อวบอวบอิ่มของเธอนานนับหลายนาที ปากบางจิ้มลิ้มอันหน้าจูบถึงกับทนไม่ไหว เสียงเล็กหลุดเสียงออกมาด้วยความเสียวปรนทรมาน ให้ตายเถอะ ฉันไม่คิดว่าผู้กองธีร์ที่แสนเย็นชา เขาจะกล้าทำเช่นนี้กับฉัน ตอนแรกก็อยากจะห้ามอยู่หรอกนะ แต่พอลิ้นร้อนตวัดเข้าที่จุดไวต่อความรู้สึกฉันถึงกับทนความต้องการที่แปลกใหม่นี้ไม่ไหว ร่างบางถึงกับเด้งหน้าอกอันอวบอึ๋มที่ใหญ่เกินตัวของเด็กสิบแปดปลายๆ รับกับลิ้นร้อนของชายตรงหน้า ฝ่ามือเรียวจิกเข้าที่บ่าไหลหน้าของคนตัวโตราวกับหาที่ยืดเกาะ"อ่า...ซี๊ด" ด้านข้างตังฉันพยายามอย่างหนักที่จะไม่ปล่อยเสียงอันน่าเกลียดนี้หลุดออกมา แต่เมื่อคนตรงหน้าลิ้มลองที่หน้าอก ฉันเสียวถึงกับควบคลุมเสียงตัวเองไม่ไหว น่าอายชะมัดเสียงหวานปรนกระเส่าที่หลุดออกจากคนตัวเล็ก ทำใหคนที่ตวัดลิ้นเข้าที่เม็ดยอดอกปทุมถันนั้นได้สติ ริมฝีปากหนาติดคล้ำนิดๆ เน้นกดจูบลงที่เม็ดยอดอกอมชมพูและดูดยืดเล่นราวกับเด็กแรกเกิด ก่อนที่จะปล่อยละใบหน้าออกจากเจ้าสองเต้าอวบอึ๋ม อย่างนึกเสียดาย สายตาคมเหลือบมองต่ำที่หน้าอกของเด็กสาวตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยร่องรอยแดงเป็น
ด้านข้าวตังที่เห็นธีร์ณัฐยืนพ้นควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่นั้น คนตัวเล็กถึงกับเดินเข้าหาราวกับว่าเธอนั้นฝันไป"ผู้กองดูดบุหรี่ด้วยเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม สายตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น จากนั้นก็เบนสายตาไปที่บุหรี่แทนใบหน้าสวยของเธอ"อืม"เสียงเข้มเอ่ยครางในลำคอโดยไม่คิดจะมองร่างบางที่เดินเข้าหาตน ด้านข้าวตังที่เห็นเขาแสดงท่าทีที่แสนจะเย็นชาให้กับตนเช่นนั้น คนตัวเล็กถึงกับชะงัก"ฉันดูดแค่ช่วงที่เครียดหนะ" เขาเอ่ยตอบเธอ แต่ด้วยท่าทีที่แสนจะเย็นชานั้น กับใช่ว่าคนอยากเจอเขานั้นจะถอดใจ ร่างบางกับทำสีหน้าให้ปกติ"ฉันไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีก" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกดีใจที่เธอนั้นได้เจอกับเขา"ฉันเองก็ไม่ต่างจากเธอ" เสียงเข้มเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่เห็นเขาอีกครั้งคนตัวเล็กจากที่จิตใจห่อเหี่ยวเฉามาหลายวัน กับใจฟูมาอีกครั้ง ที่บังเอิญเธอเจอเขา ในงานเลี้ยงของค่ำคืนนี้คุณพ่อของเธอคงเลี้ยงส่งเขาสินะ คนตัวเล็กได้แต่คิด"ผู้กองจะไปจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยความรู้สึกสับสน แม้ก่อนหน้านี้เธอปฏิญาณกับตนไปแล้วจะไม่ร้องห่มร้องไห้เพราะเขาอีก พึ่งจะใจฟูได้ไม่นาน"อืม" คำ
หลายวันต่อมา @ห้องเรียน ม.6/2 ด้านข้าวตัง นี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ตั้งแต่วันที่เธอและเขาจูบกันที่ลำห้วยนั้น ฉันก็ไม่เจอผู้กองธีร์ณัฐอีก คำพูดของเขาในวันนั้นยังดังกึกก้องมาในห่วงความคิดของฉันจนยากเกินที่จะลืม"จูบนี้เป็นจูบสุดท้ายระหว่างเราใช่ไหมคะ" มันคือคำถามที่ฉันถามเขา ผู้กองหนุ่มใบหน้าอันหล่อเหลาสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่เศร้าของเด็กสาวตรงหน้า "เธอจะคิดแบบนั้นก็ได้" ธีร์ณัฐเอ่ยกับคนตรงหน้า ใบหน้าสวยของคนตัวเล็กรู้สึกร้อนพราวๆ ที่ดวงตา พยายามข่มอารมณ์และความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา "ฉันขอกอดผู้กองได้ไหมคะ"ข้าวตังเอ่ยอย่างตรงๆ ไม่คิดจะปิดกลั้นความรู้สึก ไหนๆ อีกไม่กี่วันเขาก็จะไปจากเธอแล้ว ถือซะว่าเราทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ ทั้งสองสบตาเข้าหากัน ด้านธีร์ณัฐเมื่อหญิงสาวเอ่ยขอตนเช่นนี้คนที่ไม่ปฏิเสธ ฝ่ามือหนาของคนตัวโตดึงร่างบางเข้ามากอดด้วยความรู้สึกที่สับสน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่พี่ชายกอดน้องสาว "ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ข้าวตังฉันต้องขอโทษที่ฉันทำตามที่เธอต้องการไม่ได้" เสียงทุ่มเอ่ยจากปากผู้กองหนุ่ม พร้อมกับโน้มปากหยักหนาเข้าไปจูบที่หน้าผากของคนตัวเล็ก มันเป็นจูบสุดท้ายที่เขาจะมอบให้เธอจ
หลายวันต่อมา ด้านข้าวตังร่างบางในชุดกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดพอดีตัว นั่งหันหลังที่ลำห้วยทุ่งทานตะวัน หลายวันมานี้ฉันรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก หลังจากเลิกเรียนตั้งแต่วันที่ฉันขาแพลงในวันนั้น พอฉันหายเป็นปกติ ฉันก็มาที่นี่ทุกวัน เพื่อหวังจะได้เจอกับคนที่อยากเจอ ถึงความหวังของฉันมันจะแสนริบหรี่ แต่ก่อนที่เขาจะย้ายไปที่อื่น ฉันอยากจะเจอหน้าเขาอีกสักครั้ง ใบหน้าสวยที่นั่งหันหลังได้แต่เหลือบมองท้องฟ้าในเวลาค่อนจะค่ำ ซึ่งอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าตะวันก็จะตกดินข้าวตังมานั่งอยู่ตรงนี้นานนับชั่วโมง แต่นั้นก็ไม่มีวี่แววว่าผู้กองธีร์ณัฐนั้นจะมา เธอไม่ได้นัดเขา อย่าว่าแต่นัดเลยช่องทางที่จะติดต่อเธอก็ไม่มี เธอใช้เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้นที่ทำให้เธอมาที่นี่ในเวลาแบบนี้ แต่นั้นวันนี้ความหวังของเธอมันก็เหมือนจะสูญเปล่าอย่างเช่นเคย"ให้ตายเถอะ แค่อยากเจอ ทำไมฉันต้องมานั่งรออะไรในที่แบบนี้ด้วย ทั้งที่ไปที่ทำงานของเขาก็เจอ แต่ฉันไม่อยากจะทำเช่นนั้น เพราะในตอนนี้ฉันไม่มีสถานะ ฉันรู้สึกข้างเดียว ข้าวตังได้แต่นั่งคิดอยู่เงียบๆ เช่นนั้นนานนับหลายนาทียิ่งคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่บังเอิญเคยกอด เคยจูบ อีกไม่กี
ด้านธีร์ณัฐหลังจากที่ร่างสูงพาข้าวตังขับรถกินลมชมวิวไปได้สักพักแล้วนั้น ร่างสูงก็มาส่งเธอที่บ้าน สร้างความตกอกตกใจให้กับคุณย่าและคุณป้า ที่ผู้กองใบหน้าอันหล่อเหลาขับรถมาส่งหลานสาวสุดที่รัก คำตอบที่ได้ข้าวตังลื่นล้มที่ลำห้วย ธีร์ณัฐบังเอิญเจอเข้าพอดี"ขอบคุณผู้กองมากนะคะ ที่มาส่งข้าวตัง" คุณป้าหญิงวัยห้าสิบปลายๆ เอ่ยกับผู้กองธีร์ณัฐ"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมบังเอิญเจอเธอลื่นล้ม เลยพามาส่งนะครับ" ธีร์ณัฐเอ่ยกับป้าของข้าวตัง"ข้าวเดินยังไง ถึงได้เจ็บหนักแบบนี้ลูก" เสียงของคุณย่าเอ่ยกับหลานสาว"ก็ทางมันลื่นนี้คะคุณย่าใครจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันลื่น" ข้าวตังเอ่ยตอบขณะที่คุณย่านั้นนวดฝ่าเท้าให้กับเธอ"งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" แต่ขณะที่ธีร์ณัฐจะเดินไปขึ้นรถที่จ่าเข้มมารับนั้น"ผู้กองธีร์ ของคุณนะคะที่มาส่งฉัน" ข้าวตังเอ่ยกับเขา ธีร์ณัฐกับไม่ตอบร่างสูงกับพยักหน้าให้กับเธอด้านข้าวตังที่เห็นเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก เชอะ ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าลูกน้องไม่รู้จะเก๊กไปถึงไหน แค่ตอบฉันมันยากนักหรือไง ข้าวตังที่ธีร์ณัฐไม่ตอบเมินเฉยต่อเธอ จู่ๆ ฉันกับรู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่ตอบทั้งที่ก่อนหน้านี่เขายังต่อปา
ด้านข้าวตังหลังจากที่ขึ้นขี่หลังผู้ของธีร์แล้วนั้น แขนเรียวเล็กโอบเข้าที่ต้นคอของคนตัวโต"ผู้กองให้ฉันขี่หลังแบบนี้ ไม่หนักเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยที่ข้างหูของคนตัวโต ด้านธีร์ณัฐที่ถูกเด็กดื้อใบหน้าสวยถามเช่นนั้นถึงกับหลุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยัก"เมื่อกี้เธอนอนทับตัวฉัน หนักกว่านี้อีก" เสียงเข้มหลุดเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่ถูกแขวะเช่นนั้นใบหน้าสวยที่ยิ้มกริ่มถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน"ถ้าผู้กองหนักก็เดินสิคะจะได้ถึงรถฉันเร็วๆ" แต่นั้นยิ่งเธอเร่งเขา แต่คนขี้แกล้งกับยิ่งเดินช้า ราวกับว่าเขาไม่ได้หนัก แต่กับอยากให้เธอนั้นขี่หลังแบบนี้นานๆ ซะอีก ทั้งที่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร แต่มันกับเกิดขึ้นกับเธอ ธีร์ณัฐที่จะหันไปตอบ แต่ในจังหวะนั้นคนที่ต่อปากต่อคำกับโน้มใบหน้าลงมาที่บ่าไหล่ ปากบางจิ้มลิ้ม!! จุ๊บ !! สัมผัสเข้าที่แก้มของคนตัวโตเข้าอย่างเต็มๆ!! อุ้ย...!! ทำให้ร่างสูงที่ขาจะก้าวเดินต่อนั้นถึงกับหยุดชะงัก"วันนี้ฉันโดนเด็กดื้อขโมยทั้งจูบทั้งหอม ถึงสองครั้งติด เธอช่วยตอบฉันหน่อยสิข้าวตังว่าฉันควรจัดการกับเด็กดื้อคนนั้นยังไงดี" ธีร์ณัฐหันมาถามใบหน้าสวยที่อยู่บนหลังของตน ด้านข้าวตังที่ถู







