Mag-log inอรนิชามาพบกับมินตราตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งเป็นร้านประจำของทั้งสองสาวสมัยตอนเรียนมหาวิทยาลัยห้องเดียวกัน แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่อมินตราต้องย้ายไปเรียนที่อังกฤษกลางคันตอนขึ้นปีสาม ถึงแม้จะอยู่กันคนละประเทศก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเพื่อนซี้ เพราะทั้งคู่ยังติดต่อและพูดคุยกันแทบทุกวันเหมือนเดิม
อรนิชามองเพื่อนรักตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็รู้ทันทีว่ามินตราเปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะการแต่งตัวดูทันสมัยเป็นสาวเต็มตัว แตกต่างจากเธอที่ยังใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนเป็นหลัก " มิน แกดูเปลี่ยนไปนะ " อรนิชาจับตัวของมินตราให้หมุนไปทางซ้ายทีไปทางขวาที เพื่อสำรวจเพื่อนแบบจริงๆจังๆ " อื้อฮือ เดี๋ยวนี้แต่งตัวเปรี้ยวขนาดนี้แล้วเหรอ " " สวยละสิ ตอนนี้เทรนด์นี้กำลังมานะ " มินตรารีบนั่งก่อนที่ตัวเองจะเป็นจุดสนใจของทุกคนในร้านไปมากกว่านี้ เพราะสังเกตเห็นสายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องมาที่เธอแล้ว " ฉันว่ามันโป๊ไปหน่อยนะ " ชุดเดรสสั้นรัดรูปเน้นทรวดทรง ถึงด้านหน้าจะปิดหน้าอกหน้าใจ แต่ข้างหลังกลับเปิดเกือบจะถึงก้น " โอ๊ย ใครจะใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีนแบบแกล่ะ ดีหน่อยก็ชุดเซตที่เด็กมัธยมใส่ แบบนั้นมันไม่เหมาะกับคนอายุยี่สิบหกอย่างพวกเราแล้ว " " แกก็หัดเปลี่ยนการแต่งตัวบ้างนะ คนจะได้เลิกคิดว่าแกอายุแค่สิบเก้าสักที " " ก็ฉันชอบแบบนี้นี่ " อรนิชายอมรับในความไร้รสนิยมเรื่องการแต่งกายของตัวเอง เธอรู้แค่ต้องแต่งให้ถูกต้องตามกาลเทศะเท่านั้นส่วนเรื่องตามแฟชั่นเธอไม่ทันเหตุการณ์จริงๆ สองสาวสั่งอาหารเมนูประจำที่เคยกินด้วยกันบ่อยๆ " แกรู้ไหม ว่าฉันคิดถึงเวลาไปกินข้าวกับแกที่สุดเลย " มินตราเอ่ยออกมาขณะที่มือก็กำลังตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย " คิดถึงแล้วหนีไปอยู่อังกฤษทำไมตั้งหกปี " อรนิชาไม่เคยรู้เหตุผลจริงๆที่มินตราต้องย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศกลางคัน พยายามถามหลายต่อหลายครั้งแต่เจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ พูดแต่เพียงว่าเป็นความต้องการของพ่อ พ่อของมินตราเป็นนายพลที่เกษียณราชการแล้วออกมาบริหารกิจการเต็มตัว ส่วนแม่เป็นคุณหญิงเปิดสมาคมอะไรสักอย่างนี่แหละอรนิชาก็จำไม่ค่อยจะได้ รู้แค่เพียงว่าพ่อแม่ของมินตรามักจะเข้มงวดกับเธอเสมอ บ่อยครั้งที่มินตราแอบมาร้องไห้กับอรนิชาบ่อยๆ เพราะน้อยใจคนที่บ้าน " ไหนแกว่าจะเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังไง "มินตราทวงสัญญาที่อรนิชาให้ไว้เมื่อคืน อรนิชาเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ ให้เพื่อนรักอย่างมินตราฟัง เพราะเธอไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเพื่อนอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด 'ตอนอยู่บนเตียง' ให้ฟังเพราะคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเล่าจนเห็นภาพก็ได้ และที่สำคัญเธอรู้สึกกระดากปากเกินกว่าจะพูดเรื่องอย่างว่ากับเพื่อนต่อให้สนิทกันแค่ไหนก็เถอะ " ไอ้พี่แชมป์มันหลอกให้แกจดทะเบียนกับมัน แล้วพาแกไปขัดดอกที่บ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน " " ตายๆๆๆ ฉันฟังแล้วจะเป็นลม นี่มันยิ่งกว่าละครหลังข่าวอีก แกไม่ได้อำฉันเล่นใช่ไหมเนี่ย " มินตรายกมือทาบอกเพราะแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าเพื่อนรักอย่างอรนิชาจะประสบชะตากรรมที่เลวร้ายเช่นนี้ แล้วก็คาดไม่ถึงว่าคนหน้าซื่อๆอย่างชัชพลจะกลายเป็นคนเลวได้ขนาดนั้น " จริงซะยิ่งกว่าจริงอีก แล้วตอนนี้เปลี่ยนเบอร์หนี ลบไอจี ลบไลน์อีกตั้งหาก " อรนิชาคีบซูชิหน้าโปรดเข้าปากเคี้ยวแก้เซ็ง เมื่อต้องพูดถึงสิ่งที่อดีตคนรักทำกับเธอ " ว่าแต่คนที่แกต้องไปขัดดอก แก่มากไหม หน้าตาเป็นไง แล้วโรคจิตหรือเปล่า " มินตราคีบซูชิไปวางที่จานให้อรนิชาเพิ่มอีกชิ้น เพราะอยากฟังคำตอบที่เพิ่งถามไปเมื่อครู่ " ไม่แก่ แต่ไม่รู้อายุเท่าไหร่ หล่อมากเพราะเป็นลูกครึ่งผสมจีน อเมริกา ไทย " " แล้วเป็นไงอร่อยไหม " " ก็อร่อย " " ว้าย คุณออมเธอมันร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดไว้ " " รสชาติเหมือนที่เคยมากินทุกครั้งนี่ แกจะวี้ดว้ายทำไม " อรนิชาหมายถึงรสชาติของซูชิที่เพิ่งกินเข้าไป แต่มินตรากลับหมายเรื่องอย่างว่าแทน " ฉันไม่ได้หมายถึงซูชิ ฉันหมายถึงพ่อหนุ่มเมกันเลือดผสมคนนั้น " " คงจะใหญ่ ยาว อึด ทน ใช่ไหม " อรนิชาส่ายหัวเบาๆไม่รู้ว่าทำไมมินตราถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ จากเด็กสาวที่น่ารักสดใสเรียบร้อย จะกลายเป็นแม่สาวก๋ากั่นหรือเป็นเพราะสังคมเด็กนักเรียนนอกเขาเป็นกันแบบนี้ " พูดอะไรหัดอายผีเจ้าที่เจ้าทางร้านบ้างนะ วางตัวให้มันสมกับเป็นลูกท่านนายพลหน่อย คุณหนูมิน " " เรื่องธรรมชาติของมนุษย์จ้า ใครๆก็ต้องผสมพันธุ์กันถูกต้องไหม " มินตรายักไหล่ พูดคำนั้นแบบชิลๆ " มีเพศสัมพันธ์ค่ะ ผสมพันธุ์น่ะเขาเอาไว้ใช้กับสัตว์นะคะคุณหนู " " เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ว่าแต่ต่อไปแกจะทำยังไงต่อ " แน่นอนว่าคำตอบของอรนิชาคือ เธอต้องการหย่าให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนเลวๆอย่างชัชพลอีก แต่ไม่รู้ว่าเรื่องมันจะง่ายอย่างที่คิดไว้ไหม " ไปหามันวันนี้เลยไหมล่ะ ฉันจะไปด้วย " มินตราอาสาจะไปเป็นเพื่อนอรนิชา เพราะไม่อยากให้เพื่อนไปเผชิญหน้าอดีตคนรักเพียงลำพัง เกิดมันคิดทำบ้าอะไรขึ้นมาอีกจะได้ช่วยเหลือกันได้ " ดีเหมือนกัน ถ้าไปคนเดียวฉันบอกตามตรงว่ายังกล้าๆกลัวๆ อยู่ " เมื่อกินมื้อเที่ยงกันเสร็จสองสาวก็พากันมุ่งหน้าไปยังบ้านของชัชพลทันที เมื่อไปถึงหน้าบ้านอรนิชากดกริ่งหน้าประตูอยู่หลายครั้งโชคดีที่ชัชพลอยู่ที่บ้าน เขาเดินออกมาเปิดประตูแต่พอรู้ว่าเป็นอรนิชาก็รีบปิดประตูหนีทันทีเพราะกลัวว่าอรนิชาจะตามมาเอาเรื่องที่เขาพาเธอไปขายขัดดอก " ถ้าแชมป์ไม่ยอมเปิดประตูมาคุยกับออมดีๆ ออมจะไปที่ร้านทองแล้วบอกพ่อกับแม่แชมป์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด " ที่บ้านของชัชพลมีธุรกิจร้านขายทองคำ และอรนิชารู้ว่าชัชพลกลัวพ่อและแม่ของเขามาก เธอจึงขู่ว่าจะบอกความจริงกับทั้งสองท่าน ซึ่งคำขู่นี้มันก็ได้ผลเกินคาด ชัชพลยอมเปิดประตูออกมาและให้อรนิชากับมินตราเข้าไปคุยในบ้าน " ออมจะไม่ถามหรอกนะ ว่าทำไมแชมป์ถึงทำกับออมแบบนั้น คำตอบที่ได้มันคงมีแต่คำโกหก " " เราขอโทษ ออมให้อภัยเรานะ " ชัชพลกุมมืออรนิชาเอาไว้ หวังให้เธอใจอ่อนเหมือนทุกครั้ง เพราะเขารู้ดีว่าอรนิชาเป็นคนจิตใจดี ไม่เคยโกรธอะไรได้นาน และที่สำคัญเมื่อไหร่ที่เขาขอโทษเธอก็มักจะให้อภัยตลอด " ออมต้องการหย่า ตอนนี้ยังพอมีเวลาเราไปหย่าที่เขตกันเถอะ " แต่เขาคิดผิดนอกจากเธอจะไม่พูดว่า 'ยกโทษให้ ' อรนิชายังพูดเรื่องหย่าออกมาแถมยังเร่งให้เขาไปในวันนี้ด้วย " ออมโกรธเราจริงๆเหรอ ก็เราไม่มีทางเลือก ไอ้มาร์คมันจะฆ่าเรา เรากลัว เราไม่รู้จะทำวิธีไหนจริงๆเราก็เลย... " " ก็เลยเอาผู้หญิงคนนึงที่แกเคยบอกว่ารักมากไปแลกงั้นสิ แกรู้ไหมว่าเพื่อนฉันต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายอะไรบ้าง " มินตราอดไม่ได้เลยด่าชัชพลไปชุดใหญ่ ใจจริงอยากชกหน้ามันสักครั้งเสียด้วยซ้ำ แต่กลัวมันไม่เจ็บเพราะแรงเธอน้อย คนอย่างมันต้องเจอลูกปืนเท่านั้นถึงจะสาสม " ไปเตรียมตัวเถอะแชมป์ ออมมีเวลาไม่มากเดี๋ยวสำนักงานเขตจะปิดเสียก่อน " อรนิชายังยืนยันคำเดิมคือต้องการหย่า ภายในวันนี้ เดี๋ยวนี้ " เราไม่หย่า เรารักออมนะ ออมเราขอโทษเราสัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก " " ไอ้หน้าด้าน ทำชั่วขนาดนี้ เพื่อนฉันไม่แจ้งจับแกก็บุญหัวแกแค่ไหนแล้ว อย่าลีลาให้มันมากนัก " เครื่องด่าอย่างมินตรายังทำหน้าที่ได้ดีไม่ขาดตกบกพร่อง จนอรนิชาเองยังอดสงสัยไม่ได้ นอกจากเพื่อนจะแต่งตัวแซ่บขึ้นแล้ว มินตรายังด่าเก่งขึ้นอีกด้วย " ไปหย่าเถอะแชมป์ อย่าให้ออมต้องฟ้องหย่ารวมถึงแจ้งความที่แชมป์ล่อลวงออมด้วยเลย " พอได้ยินว่าจะแจ้งความ ชัชพลก็เกิดความกลัวว่าเรื่องเดือดร้อนจะมาถึงตัวเอง แต่ด้วยความเลวที่มันเข้าสู่กระแสเลือดแล้วมันก็ยากที่จะกลับตัวเป็นคนดีได้ ความคิดชั่วช้าก็ผุดขึ้นมาในทันทีอีกครั้ง " ถ้าจะให้กูหย่าก็เอามาสิบล้าน ผัวใหม่มึงรวยนี่เงินแค่นี้คงจ่ายได้สบาย " นอกจากไม่มีสำนึก ยังมีหน้าไปเรียกเงินจากอรนิชาเป็นข้อต่อรองอีก " ไอ้สารเลว กูไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาด่ามึงแล้วเนี่ย " เครื่องด่าอย่างมินตราถึงกับท้อเมื่อเจอคนหน้ามึนอย่างชัชพล " เฮ้อ " อรนิชาถอนหายใจออกมาเบาๆ " แชมป์จะเอาแบบนี้ใช่ไหม ได้งั้นออมจะแจ้งความแชมป์เตรียมตัวเข้าคุกได้เลย " อรนิชาจูงมือมินตราออกมาจากบ้านทันที ไม่สนใจกลับไปมองชัชพลที่ยืนตะโกนด่าไล่หลังเธอแถมยังบอกว่าไม่กลัวถูกจับอีกตั้งหาก " แกจะทำไงต่อ " มินตราหันมาถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้มีสีหน้าอมทุกข์อย่างเห็นได้ชัด เพราะเรื่องทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจคิด แถมยังถูกเรียกร้องเงินจำนวนมหาศาลเป็นข้อต่อลองอีก " ฉันจะมาอีก แต่ถ้าเขาไม่ยอมจริงๆ ฉันคงต้องพึ่งพ่อแม่เขาให้ช่วยพูดให้ " " แกคิดว่าพ่อแม่ไอ้แชมป์จะช่วยแกจริงๆเหรอ นั่นลูกชายคนเดียวของพวกเขานะ " มันก็จริงพ่อแม่ย่อมรักลูกมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ไม่มีใครเห็นขี้ดีกว่าไส้ แต่อรนิชาไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้ เธอไม่อยากต้องแจ้งความให้เรื่องมันถึงตำรวจจริงๆ เพราะลึกๆแล้วเธอไม่ได้อยากเป็นคนทำร้ายชัชพลด้วยตัวเอง ปล่อยให้เวรกรรมจัดการเขาเองมันจะดีกว่าหนึ่งปีผ่านไปอรนิชาและมาร์คเลือกจัดงานแต่งงานที่ไร่ เพราะหลงเสน่ห์อากาศที่บริสุทธิ์และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพืชผักและผลไม้ ทั้งคู่เชิญแต่เพื่อนสนิทมาร่วมงาน และมีญาติผู้ใหญ่ของพ่อกับแม่มาร์คอีกสี่ห้าคน แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนงานในไร่และเพื่อนบ้านไร่ติดกันเสียมากกว่าดวงดาวอุ้มลูกสาววัยสามเดือนเศษมาร่วมรดน้ำสังข์อวยพรให้บ่าวสาว และถือโอกาสขอโทษอรนิชากับมาร์คอย่างเป็นทางการด้วย เพราะที่ผ่านมาเธอไปอาศัยอยู่ที่บ้านสามีในตัวเมืองไม่เคยได้กลับมาที่ไร่เลยทำให้ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งสอง" ขอให้มีความสุขรักกันไปจนแก่เฒ่านะ แล้วฉันก็ขอโทษด้วยสำหรับทุกอย่างที่ทำลงไป " อรนิชามองหน้าดวงดาวน้ำตาคอ ดวงดาวถือว่าเป็นพี่น้องคนเดียวที่อรนิชามี วันนี้ดวงดาวเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคนจากเมื่อก่อน ทั้งการพูดจาและการวางตัวดูสำรวมมากขึ้น แถมยังดูเป็นคนใจเย็นขึ้นอีกด้วย" ออมไม่เคยถือโทษโกรธพี่ดาวเลยจ้ะ พี่ดาวเป็นพี่คนเดียวที่ออมมี ออมยังรักและเคารพพี่ดาวเหมือนเดิม " ดวงดาวก็น้ำตาคลอเช่นกัน ซึ้งใจกับความรักที่อรนิชามีให้เธอตั้งแต่เล็กจนโต ยิ่งรู้สึกผิดที่เคยคิดทำลายครอบครัวของน้อง" ฉันขอโทษนะคุณม
อรนิชาจงใจพูดว่าตัวเองควบคุมการเงินของมาร์ค เพื่อให้เดียน่าเข้าใจว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่มีอำนาจเหนือกว่าเดียน่าได้แต่อิจฉาตาร้อนอยู่ในอก ไม่คิดว่าไก่อ่อนอย่างอรนิชาจะตอบโต้เธอได้นิ่มนวลแต่เจ็บแสบแบบนี้ เห็นทีว่าไม้เด็ดที่เตรียมไว้ต้องรีบงัดออกมาใช้เสียแล้ว ขืนชักช้าอาจจะไม่ทันกาลได้เดียน่าแสร้งชวนมาร์คดื่มไวน์เพื่อฉลองวันเกิด เธอรินไวน์ให้มาร์คไม่หยุด แถมยังชวนคุยแต่เรื่องความหลัง จนอรนิชาทนนั่งฟังไม่ไหวเลยขอตัวไปอาบน้ำเข้านอนเสียก่อน รอเวลาจนสี่ทุ่มก็ไม่มีวี่แววว่าสามีจะกลับเข้าห้องมาเลย ไม่รู้ว่ารำลึกความหลังกันไปถึงไหน อรนิชาตัดสินใจเดินลงไปแอบดูว่าทั้งสองคนทำอะไรกันบ้างมาร์คดื่มไปเยอะก็จริงแต่เขายังคงมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา " สี่ทุ่มแล้ว ไปเถอะเราจะไปส่งที่โรงแรม " " เดียน่าค้างที่นี่ไม่ได้เหรอคะ บ้านมาร์คไม่มีห้องว่างเลยเหรอ " เดียน่าเริ่มปฏิบัติการยั่วยวนมาร์ค เธอลูบไล้แผงอกของมาร์ค ปากก็ซุกไซร้ซอกคอของเขาไม่หยุด มาร์คพยายามปัดมือเธอออกแต่ก็ไม่ทันความไวที่เดียน่ามี สุดท้ายเธอจงใจใช้มือเข้าเกาะกุมพร้อมนวดวนเจ้ามังกรที่นอนหลับอยู่ภายใต้กางเกงทำงาน จนมันเกิดอาการตื่นตัวขึ้นมา พ
มาร์คและอรนิชาเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่เป็นหลัก แต่จะกลับมาอยู่กรุงเทพฯเดือนละสองครั้ง โดยเอาวันที่อรนิชาต้องเข้าบริษัทเป็นที่ตั้ง " คุณดูนี่สิคะ คุณแม่ส่งรูปตอนขึ้นฝั่งที่อิตาลีมาให้ดู " อรนิชายื่นโทรศัพท์มือถือให้สามีดู" มีความสุขกันจริง คนที่ไม่ต้องทำงานเนี่ย " มาร์คไม่วายแซะแม่กับพ่อตัวเอง แต่ดูจากรูปที่ถ่ายพ่อกับแม่คงมีความสุขมาก สีหน้าไม่เคร่งเครียดเหมือนตอนที่ยังทำธุรกิจอยู่" นายครับวันนี้นายจะเข้าโรงแรมไหมครับ " ดิวได้กลับมารับใช้มาร์คตามเดิมและได้ย้ายไปอยู่กับมาร์คที่ไร่ด้วย ส่วนสีนวลและเอกก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลบ้านที่กรุงเทพฯให้มาร์ค และเอกยังทำหน้าที่ขับรถให้อรนิชานั่งตอนอยู่ที่กรุงเทพฯเหมือนเดิม" เธอจะไปกับฉันไหม " " ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันจะแวะไปหายัยมินหน่อย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย " มินตราต้องไปทำงานในบริษัทของพ่อเธอแถมร้านขายเสื้อผ้าก็ยังต้องดูแล เลยทำให้สองสาวเพื่อนซี้ ไม่ค่อยมีเวลาได้เมาส์มอยกันสักเท่าไหร่นัก" งั้นฉันไปก่อนนะ " " ฟอด " มาร์คหอมแก้มอรนิชา เดี๋ยวนี้เขาแสดงความรักกับเธอต่อหน้าลูกน้องมากขึ้น ทำไงได้คนมันคลั่งรักเมียเอะอะก็ต้องกอดต้องหอมเป็นธรรมดาอยู่แล้
" เถ้าแก่ครับ เถ้าแก่ " คำหล้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหามาร์คที่บ้านพัก " มีอะไรเหรอพี่คำหล้า " " มีคนมาหาเถ้าแก่ครับ ตอนนี้อยู่ที่บ้านของเจ้เดือน " มาร์คนิ่วหน้า ใครกันนะที่มาหาเขาหรือจะเป็นแทนคุณ แต่ถ้าเป็นแทนคุณทำไมไม่โทรมาบอกเขาก่อนว่าจะมา หรือจะเซอร์ไพรส์เขาถ้าเป็นแทนคุณจริงๆนะเขาจะเตะให้หงายเลยคอยดูมาร์คเดินมาที่บ้านของดวงเดือน จากที่ตอนแรกอารมณ์ดีๆกลับกลายเป็นต้องอารมณ์เสียซะอย่างนั้น เพราะคนที่มาหาเขาไม่ใช่แทนคุณ แต่เป็นเมทินีแม่ของเขาต่างหาก แถมไม่ได้มาแค่คนเดียวด้วยยังยกโขยงกันมาทั้งผกาและอัญชัน" มาอยู่ที่ไร่ไม่เท่าไหร่ มือไม้แข็งเลยหรือไงตามาร์ค " เมทินีตำหนิลูกชายที่ไม่ยกมือไหว้ทักทายตนและผกา มาร์คผิวคล้ำลงเล็กน้อยคงเป็นเพราะตากแดดทำงานในไร่ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเขากำลังเป็นทุกข์ หรือลูกชายเขาจะชอบชีวิตชาวไร่เข้าแล้วจริงๆ" สวัสดีครับ " มาร์คทำแบบขอไปที เมทินีถึงกับส่ายหน้า ลูกคนนี้ไม่เคยมีมารยาทเอาเสียเลย" แม่มีธุระอะไรกับผมอีก " ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาร์คเอ่ยถามถึงจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของแม่ทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำไมแม่เขาถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ มันเดาได้ไม
" แค่ตอนนี้ไม่ได้รักต่อไปอีกแล้ว " ดวงดาวขมวดคิ้วยิ่งฟังยิ่งงงในความหมายที่ก้องภพพูดออกมา" หมายความว่า แต่ก่อนรักมากแต่ตอนนี้ไม่ได้รักแบบนั้นแล้วไง เขามีคนรักแล้วเราคงให้ได้แค่ความหวังดีแค่นั้น " นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าคนแพ้ต้องดูแลตัวเอง คงทำได้แค่ยังหวังดีเสมอ" นั่นน่ะสิเนอะ แต่ถึงยังไงนายก็ยังหวังให้เขามีแต่ความสุขใช่ไหม " ดวงดาวยกขวดเบียร์ขึ้นดื่มเพราะนี่ไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำพูดแทนใจที่เธอตั้งใจพูดกับก้องภพต่างหาก" แล้วเธอล่ะทำไมยังไม่แต่งงาน " ก้องภพถามดวงดาวบ้าง" หึ คนเลวๆใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างฉันคงไม่คู่ควรกับใครเขาหรอก " ดวงดาวใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ แถมเมื่อไม่นานมานี้ยังวางแผนจับสามีน้องสาวอีก เธอไม่คู่ควรกับใครจริงๆ ยิ่งคนดีๆอย่างก้องภพด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คงเป็นได้แค่ความฝัน เพราะถ้าวันนึงก้องภพรู้ว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างเขาคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน" แล้วเธอไม่มีคนที่เธอชอบบ้างเหรอ " " มีสิ ชอบตั้งแต่สมัยเรียนแต่ฉันไม่เคยมีตัวตนในสายตาเขาเลย " จังหวะนี้ดวงดาวหันไปสบตากับก้องภพ แววตาสั่นไหวเพราะไม่อาจซ่อนความจริงไว้ได้อีกต่อไปแล้ว เลยอยากจะเปิดเผยความจริงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอรู้สึกเช่น
หลังจากวันที่ก้องภพมาที่ไร่วันนั้น เขาก็พยายามหาโอกาสมาพบกับอรนิชาบ่อยขึ้นและวันนี้ก็เช่นกัน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมาร์คยังคงตามคอยเฝ้าอรนิชาไม่ห่าง ขนาดไปขับรถตรวจตราสวนผลไม้มาร์คยังต้องให้อรนิชาติดรถไปกับเขาด้วย เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้เธอคลาดสายตาแมวโขมยอย่างก้องภพจะต้องหาทางรีบเข้ามาอยู่ใกล้ชิดเธอ เพราะฉะนั้นอย่าได้หวังว่าจะมีชายคนไหนจะได้เข้าใกล้เมียเขาได้ แต่เหมือนสวรรค์แกล้งหรืออย่างไรก็ไม่รู้ มาร์คดันมีอาการท้องเสียเข้าห้องน้ำถ่ายหนักไปหลายรอบ เขาเลยจำเป็นต้องปล่อยให้อรนิชานั่งทำงานคนเดียว" วันนี้คุณมาร์คไม่มาเฝ้าเหรอครับ " ก้องภพว่าแล้วก็กวาดสายตารอบๆเพื่อมองหามาร์ค เพราะปกติจะเห็นมาร์คอยู่กับอรนิชาดังเงาตามตัว" ไปเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ อาหารเป็นพิษ " อรนิชาตอบเสียงเรียบ สายตายังคงจับจ้องที่โน้ตบุ๊กวันนี้เธอมีงานสำคัญที่ต้องเร่งส่งบริษัท" คุณมาร์คดูท่าทางจะหวงน้องออมมากเลยนะครับ หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อีก "" พี่ก้องอย่าถือสาคุณมาร์คเลยนะคะ เขาอาจจะพูดจาโผงผางไปบ้าง แต่ไม่มีอะไรกับใครหรอกค่ะ " อรนิชาอยากให้ก้องภพเข้าใจสามีของเธอแต่ก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบประเด็นเรื่องการหึงหวง สำหรับ







