Mag-log inสายวันถัดมา อรนิชาเตรียมตัวออกจากบ้าน ตั้งใจไปพบชัชพลเพื่อขอหย่ากับเขาอีกรอบ แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะที่ห้องรับแขกมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งอยู่ที่โซฟา เป็นสาวสวยคนหนึ่งที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี เพราะมีดีกรีเป็นถึงนางแบบและนักแสดงในวงการบันเทิงของไทย ' น้องใบข้าว ' ชื่อที่นักข่าวบันเทิงมักจะใช้เรียกเธอเวลาสัมภาษณ์รวมไปถึงการพาดหัวข่าวบนสื่อต่างๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นแต่ที่เป็นประเด็นก็คือ เธอมาที่นี่ทำไมต่างหาก
" สวัสดีค่ะคุณใบข้าว ไม่ทราบว่าคุณมาพบใครหรือคะ " อรนิชาเอ่ยคำทักทายอีกคนก่อน เพราะอยากทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับแขก " เนี่ยน่ะเหรอเด็กใหม่ของพี่มาร์ค นังหนูดีแกแน่ใจนะว่าเป็นคนนี้ " ใบข้าวเบ้ปากมองอรนิชาตั้งแต่หัวจรดเท้า การแต่งตัวเชยระเบิดแถมหน้าตาก็จืดชืดไร้การเติมแต่งของเครื่องสำอาง นี่มาร์คหน้ามืดหรือโดนคุณไสยมนต์ดำกันนะ ถึงได้คว้าเอายัยหน้าจืดนี่มาขึ้นเตียงด้วยแถมยังพามาอยู่ที่บ้านแบบออกหน้าออกตาอีกตั้งหาก " คนนี้แหละค่ะ คุณอรนิชาชื่อเล่นว่าคุณออม " หนูดีตอบใบข้าวแล้วหันมาทำหน้ามองเหยียดใส่อรนิชาไปหนึ่งที อะไรกันเนี่ย! อรนิชาถึงขั้นกับใบ้กินไปชั่วขณะที่จู่ๆแม่ดาราสาว ก็มีทีท่าว่าจะเป็นศัตรูกับเธอซะงั้น ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและเพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรก ให้ตายเหอะ นี่คงเป็นเพราะผู้ชายอย่างมาร์คแน่ๆ และถ้าเดาไม่ผิดยัยดาราสาวคนนี้ คงเป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่มาร์คสะสมเอาไว้แน่นอนไม่งั้นคงไม่ถามถึงสถานะของเธอแบบนี้หรอก " คุณมีธุระกับคุณมาร์คเหรอคะ ตอนนี้คุณมาร์คไม่อยู่ " อรนิชารีบเปลี่ยนบทสนทนาเพราะไม่ต้องการสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าดาราสาวคนนี้สำคัญกับมาร์คในระดับไหน และถ้าเดาไม่ผิดถ้าไม่ได้มาหามาร์คก็คงจงใจมาหาเธอเป็นแน่แท้ " ถึงฉันจะมีธุระกับพี่มาร์ค ฉันก็ไม่จำเป็นต้องบอกเธอ และบ้านหลังนี้ฉันก็มาเป็นประจำอยู่แล้ว " " จะมาวันไหน เมื่อไหร่ คงไม่ต้องรายงานคนมาใหม่อย่างเธอมั้ง " ใบข้าวต้องการบอกอรนิชาเป็นนัยๆ ว่าเธอเป็น 'คนมาก่อน' ยังไงก็ต้องสำคัญกว่า 'คนที่มาทีหลัง' อรนิชาเดาไว้ไม่มีผิด ว่าถ้ายัยใบข้าวไม่มีธุระกับมาร์คก็คงคิดจะมาแสดงตัวให้เธอรู้ว่าหล่อนเป็นอะไรกับมาร์คแน่นอน แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ก็คงป่วยการที่จะสนทนาด้วยต่อ เพราะเธอไม่ต้องการจะรับรู้และที่สำคัญเธอกับมาร์คไม่ได้เป็นอะไรกัน " ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ " " เดี๋ยวสิ มารยาทน่ะมีไหม หรือคิดว่าตัวเองสำคัญกับพี่มาร์คจนมองไม่เห็นหัวใครแบบนี้ " ต่อให้อยู่เฉยๆปัญหาก็วิ่งเข้ามาหาเราอยู่ดีสินะ อรนิชาไม่อยากจะตอบโต้ โดยเฉพาะข้อพิพาทที่มีมูลเหตุมาจากผู้ชาย เพราะมันดูไร้ค่าไร้เกียรติถ้าจะต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกันเพราะแย่งผู้ชายคนเดียว เธอจึงเลือกที่จะเงียบแล้วก้าวเท้าออกจากบ้านให้เร็วที่สุด " เธอยังไปไหนไม่ได้ " ใบข้าวถือวิสาสะกระชากแขนอรนิชาให้หยุด ตอนนี้อรนิชาเริ่มที่จะไม่พอใจพฤติกรรมคุกคามคนอื่นของใบข้าวแล้ว เอาสิ ในเมื่อปัญหามันเข้ามาให้พุ่งชนขนาดนี้ เธอคงจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว " คุณจะมีธุระอะไรกับฉัน ในเมื่อเราก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน " เมื่อเห็นว่าอรนิชาโต้กลับไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวแต่อย่างใด มันกลับเพิ่มความไม่พอใจให้ใบข้าวมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ' ยัยหน้าจืดนี่ นิสัยมันไม่ได้จืดเหมือนหน้าตานี่หน่า สงสัยคงต้องเพิ่มระดับความร้ายขึ้นอีกหน่อยแล้วเรา ' " แค่พี่มาร์คพามาอยู่ที่บ้าน อย่านึกว่าตัวเองจะได้อยู่ตลอดไปนะเดี๋ยวพอมีคนใหม่เธอก็จะตกกระป๋อง " " แล้วฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะ พี่มาร์คเขาไม่ชอบหรอกพวกจืดชืดแบบเธอเนี่ย " ใบข้าวยิ้มเยาะ ดีใจที่ตัวเองพูดจาเหน็บแนมอรนิชาได้ เธอคิดว่าอย่างไรเสียเกมนี้เธอก็ชนะ มาร์คไม่มีวันอยู่กับอรนิชาได้นานเพราะเธอไม่มีอะไรที่มาร์คชอบเลย " ตกกระป๋องเหมือนที่คุณใบข้าวเป็นอยู่ ตอนนี้น่ะเหรอคะ " " ฉันทำใจไว้แล้วล่ะค่ะ แต่ถึงคุณมาร์คจะทิ้งฉัน เขาก็จะทิ้งเพราะเจอเด็กใหม่ คงไม่ได้ทิ้งเพราะเด็กเก่าที่เขาไม่เอาแล้วอย่างคุณแน่นอน " ใบข้าวกับหนูดีถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อถูกอรนิชาโต้กลับคิดว่าอีกคนจะไม่กล้าหือ แต่ที่ไหนได้อรนิชาก็ปากร้ายไม่เบา " หน็อย นังออมแกว่าฉันเหรอ " ใบข้าวโวยวายอย่างคนเสียสติ แต่อรนิชาก็ไม่ได้สนใจสักนิด เธอเดินออกมาขึ้นรถแล้วสั่งให้เอกขับรถพาไปยังบ้านของชัชพลทันที ' คิดจะมาข่มเหงกันง่ายๆอย่างนั้นเหรอ ถึงฉันไม่ใช่นักเลงแต่ก็ไม่ยอมให้ใคร มารังแกฟรีๆหรอกนะ ' อรนิชามาพบชัชพลที่บ้านอีกครั้ง กดกริ่งเรียกอยู่นานก็ไม่มีใครมาเปิดประตูน่าจะไม่มีคนอยู่ในบ้าน เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายไปพบกับพ่อแม่ของชัชพลที่ร้านทองของครอบครัวเขาแทน " สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่ " อรนิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ถ้าจำไม่ผิดเธอเคยพบกับทั้งสองท่านอยู่สามครั้ง เมื่อตอนที่คบกับชัชพลใหม่ๆแต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก " อ้าวหนู ไปยังไงมายังไงถึงมาถึงที่นี่ได้ " ชาตรีและสุจินดาพ่อกับแม่ของชัชพลมองหน้ากันด้วยความงุนงงเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เคยเจอกับอรนิชามาแล้วสองสามครั้ง ซึ่งชัชพลพามาแนะนำให้รู้จักแต่ครั้งนี้มันแปลกไป ไม่เคยเห็นเธอมาโดยที่ไม่มีชัชพลมาด้วย " หนูมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ " อรนิชาตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองคนฟัง โดยที่มีความหวังว่าพวกท่านจะเห็นใจ และยินดีที่จะช่วยเหลือเธอ " นี่หนู ถึงบ้านเราจะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่พวกเราก็ไม่ได้จนนะ เงินแค่สิบล้านเราจ่ายหนี้ให้ลูกชายเราได้แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมต้องมาใส่ร้ายว่าลูกเราติดการพนันด้วย " จริงดังที่มินตราพูดไว้ก่อนหน้า ชัชพลเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านพ่อแม่ต้องเข้าข้างลูกเป็นธรรมดา แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือพวกเขาคิดว่าอรนิชาใส่ร้ายลูกชายเขา อรนิชาจึงรู้ได้ทันทีว่าคงไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเขาแน่ และก็ป่วยการที่จะโต้เถียงเพราะเธอไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าชัชพลเป็นผีพนันจริงๆ " แล้วพวกเราไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นมาก่อนว่าเจ้าแชมป์มันจะไปจดทะเบียน จะให้เราเชื่อเรื่องที่หนูพูดเห็นทีจะไม่ได้ " " เราเลี้ยงลูกมาอย่างดี ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าแชมป์ไม่เคยเล่นการพนัน " ชาตรีพ่อของชัชพลพูดอย่างยาวเหยียด ทุกคำยังคงมีความเชื่อมั่นว่าลูกชายเป็นคนดี " ค่ะ " อรนิชาตอบรับสั้นๆ แต่ก็หยิบใบทะเบียนสมรสออกมาจากซองเอกสารที่พกมาด้วย ยื่นให้ชายและหญิงวัยกลางคนดู " ชื่อนามสกุลคนในทะเบียน คุณพ่อกับคุณแม่คงจะรู้จักดี แล้วลายมือที่เซ็นชื่อนี่ก็คงจะจำได้นะคะว่ามันเป็นของใคร งั้นหนูขอตัวก่อนสวัสดีค่ะ " อรนิชาหยิบเอาทะเบียนสมรสคืนมา แล้วเดินออกจากร้านอย่างไว ในใจไม่นึกเสียใจเลยสักนิดที่คำพูดเมื่อครู่ฟังดูไม่ค่อยดีเพราะพูดกับผู้ใหญ่ แต่กลับสะใจที่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปบ้าง เมื่อแผนสำรองไม่ได้ผล อรนิชาก็ต้องกลับมานั่งเครียดใหม่คิดหาวิธีที่จะให้ชัชพลยอมหย่าให้เธอให้ได้ โดยที่เธอเองก็ยังมืดแปดด้านเพราะคิดไม่ออก ว่าจะทำอย่างไร ทางฝั่งของมาร์คเมื่อได้รับรายงานจากสีนวลว่า ใบข้าวบุกมาหาเรื่องอรนิชาถึงที่บ้านเขาก็รีบเลื่อนการเดินทางให้เร็วขึ้นเพื่อกลับมาหาอรนิชาหนึ่งปีผ่านไปอรนิชาและมาร์คเลือกจัดงานแต่งงานที่ไร่ เพราะหลงเสน่ห์อากาศที่บริสุทธิ์และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพืชผักและผลไม้ ทั้งคู่เชิญแต่เพื่อนสนิทมาร่วมงาน และมีญาติผู้ใหญ่ของพ่อกับแม่มาร์คอีกสี่ห้าคน แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนงานในไร่และเพื่อนบ้านไร่ติดกันเสียมากกว่าดวงดาวอุ้มลูกสาววัยสามเดือนเศษมาร่วมรดน้ำสังข์อวยพรให้บ่าวสาว และถือโอกาสขอโทษอรนิชากับมาร์คอย่างเป็นทางการด้วย เพราะที่ผ่านมาเธอไปอาศัยอยู่ที่บ้านสามีในตัวเมืองไม่เคยได้กลับมาที่ไร่เลยทำให้ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งสอง" ขอให้มีความสุขรักกันไปจนแก่เฒ่านะ แล้วฉันก็ขอโทษด้วยสำหรับทุกอย่างที่ทำลงไป " อรนิชามองหน้าดวงดาวน้ำตาคอ ดวงดาวถือว่าเป็นพี่น้องคนเดียวที่อรนิชามี วันนี้ดวงดาวเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคนจากเมื่อก่อน ทั้งการพูดจาและการวางตัวดูสำรวมมากขึ้น แถมยังดูเป็นคนใจเย็นขึ้นอีกด้วย" ออมไม่เคยถือโทษโกรธพี่ดาวเลยจ้ะ พี่ดาวเป็นพี่คนเดียวที่ออมมี ออมยังรักและเคารพพี่ดาวเหมือนเดิม " ดวงดาวก็น้ำตาคลอเช่นกัน ซึ้งใจกับความรักที่อรนิชามีให้เธอตั้งแต่เล็กจนโต ยิ่งรู้สึกผิดที่เคยคิดทำลายครอบครัวของน้อง" ฉันขอโทษนะคุณม
อรนิชาจงใจพูดว่าตัวเองควบคุมการเงินของมาร์ค เพื่อให้เดียน่าเข้าใจว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่มีอำนาจเหนือกว่าเดียน่าได้แต่อิจฉาตาร้อนอยู่ในอก ไม่คิดว่าไก่อ่อนอย่างอรนิชาจะตอบโต้เธอได้นิ่มนวลแต่เจ็บแสบแบบนี้ เห็นทีว่าไม้เด็ดที่เตรียมไว้ต้องรีบงัดออกมาใช้เสียแล้ว ขืนชักช้าอาจจะไม่ทันกาลได้เดียน่าแสร้งชวนมาร์คดื่มไวน์เพื่อฉลองวันเกิด เธอรินไวน์ให้มาร์คไม่หยุด แถมยังชวนคุยแต่เรื่องความหลัง จนอรนิชาทนนั่งฟังไม่ไหวเลยขอตัวไปอาบน้ำเข้านอนเสียก่อน รอเวลาจนสี่ทุ่มก็ไม่มีวี่แววว่าสามีจะกลับเข้าห้องมาเลย ไม่รู้ว่ารำลึกความหลังกันไปถึงไหน อรนิชาตัดสินใจเดินลงไปแอบดูว่าทั้งสองคนทำอะไรกันบ้างมาร์คดื่มไปเยอะก็จริงแต่เขายังคงมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา " สี่ทุ่มแล้ว ไปเถอะเราจะไปส่งที่โรงแรม " " เดียน่าค้างที่นี่ไม่ได้เหรอคะ บ้านมาร์คไม่มีห้องว่างเลยเหรอ " เดียน่าเริ่มปฏิบัติการยั่วยวนมาร์ค เธอลูบไล้แผงอกของมาร์ค ปากก็ซุกไซร้ซอกคอของเขาไม่หยุด มาร์คพยายามปัดมือเธอออกแต่ก็ไม่ทันความไวที่เดียน่ามี สุดท้ายเธอจงใจใช้มือเข้าเกาะกุมพร้อมนวดวนเจ้ามังกรที่นอนหลับอยู่ภายใต้กางเกงทำงาน จนมันเกิดอาการตื่นตัวขึ้นมา พ
มาร์คและอรนิชาเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่เป็นหลัก แต่จะกลับมาอยู่กรุงเทพฯเดือนละสองครั้ง โดยเอาวันที่อรนิชาต้องเข้าบริษัทเป็นที่ตั้ง " คุณดูนี่สิคะ คุณแม่ส่งรูปตอนขึ้นฝั่งที่อิตาลีมาให้ดู " อรนิชายื่นโทรศัพท์มือถือให้สามีดู" มีความสุขกันจริง คนที่ไม่ต้องทำงานเนี่ย " มาร์คไม่วายแซะแม่กับพ่อตัวเอง แต่ดูจากรูปที่ถ่ายพ่อกับแม่คงมีความสุขมาก สีหน้าไม่เคร่งเครียดเหมือนตอนที่ยังทำธุรกิจอยู่" นายครับวันนี้นายจะเข้าโรงแรมไหมครับ " ดิวได้กลับมารับใช้มาร์คตามเดิมและได้ย้ายไปอยู่กับมาร์คที่ไร่ด้วย ส่วนสีนวลและเอกก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลบ้านที่กรุงเทพฯให้มาร์ค และเอกยังทำหน้าที่ขับรถให้อรนิชานั่งตอนอยู่ที่กรุงเทพฯเหมือนเดิม" เธอจะไปกับฉันไหม " " ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันจะแวะไปหายัยมินหน่อย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย " มินตราต้องไปทำงานในบริษัทของพ่อเธอแถมร้านขายเสื้อผ้าก็ยังต้องดูแล เลยทำให้สองสาวเพื่อนซี้ ไม่ค่อยมีเวลาได้เมาส์มอยกันสักเท่าไหร่นัก" งั้นฉันไปก่อนนะ " " ฟอด " มาร์คหอมแก้มอรนิชา เดี๋ยวนี้เขาแสดงความรักกับเธอต่อหน้าลูกน้องมากขึ้น ทำไงได้คนมันคลั่งรักเมียเอะอะก็ต้องกอดต้องหอมเป็นธรรมดาอยู่แล้
" เถ้าแก่ครับ เถ้าแก่ " คำหล้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหามาร์คที่บ้านพัก " มีอะไรเหรอพี่คำหล้า " " มีคนมาหาเถ้าแก่ครับ ตอนนี้อยู่ที่บ้านของเจ้เดือน " มาร์คนิ่วหน้า ใครกันนะที่มาหาเขาหรือจะเป็นแทนคุณ แต่ถ้าเป็นแทนคุณทำไมไม่โทรมาบอกเขาก่อนว่าจะมา หรือจะเซอร์ไพรส์เขาถ้าเป็นแทนคุณจริงๆนะเขาจะเตะให้หงายเลยคอยดูมาร์คเดินมาที่บ้านของดวงเดือน จากที่ตอนแรกอารมณ์ดีๆกลับกลายเป็นต้องอารมณ์เสียซะอย่างนั้น เพราะคนที่มาหาเขาไม่ใช่แทนคุณ แต่เป็นเมทินีแม่ของเขาต่างหาก แถมไม่ได้มาแค่คนเดียวด้วยยังยกโขยงกันมาทั้งผกาและอัญชัน" มาอยู่ที่ไร่ไม่เท่าไหร่ มือไม้แข็งเลยหรือไงตามาร์ค " เมทินีตำหนิลูกชายที่ไม่ยกมือไหว้ทักทายตนและผกา มาร์คผิวคล้ำลงเล็กน้อยคงเป็นเพราะตากแดดทำงานในไร่ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเขากำลังเป็นทุกข์ หรือลูกชายเขาจะชอบชีวิตชาวไร่เข้าแล้วจริงๆ" สวัสดีครับ " มาร์คทำแบบขอไปที เมทินีถึงกับส่ายหน้า ลูกคนนี้ไม่เคยมีมารยาทเอาเสียเลย" แม่มีธุระอะไรกับผมอีก " ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาร์คเอ่ยถามถึงจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของแม่ทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำไมแม่เขาถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ มันเดาได้ไม
" แค่ตอนนี้ไม่ได้รักต่อไปอีกแล้ว " ดวงดาวขมวดคิ้วยิ่งฟังยิ่งงงในความหมายที่ก้องภพพูดออกมา" หมายความว่า แต่ก่อนรักมากแต่ตอนนี้ไม่ได้รักแบบนั้นแล้วไง เขามีคนรักแล้วเราคงให้ได้แค่ความหวังดีแค่นั้น " นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าคนแพ้ต้องดูแลตัวเอง คงทำได้แค่ยังหวังดีเสมอ" นั่นน่ะสิเนอะ แต่ถึงยังไงนายก็ยังหวังให้เขามีแต่ความสุขใช่ไหม " ดวงดาวยกขวดเบียร์ขึ้นดื่มเพราะนี่ไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำพูดแทนใจที่เธอตั้งใจพูดกับก้องภพต่างหาก" แล้วเธอล่ะทำไมยังไม่แต่งงาน " ก้องภพถามดวงดาวบ้าง" หึ คนเลวๆใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างฉันคงไม่คู่ควรกับใครเขาหรอก " ดวงดาวใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ แถมเมื่อไม่นานมานี้ยังวางแผนจับสามีน้องสาวอีก เธอไม่คู่ควรกับใครจริงๆ ยิ่งคนดีๆอย่างก้องภพด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คงเป็นได้แค่ความฝัน เพราะถ้าวันนึงก้องภพรู้ว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างเขาคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน" แล้วเธอไม่มีคนที่เธอชอบบ้างเหรอ " " มีสิ ชอบตั้งแต่สมัยเรียนแต่ฉันไม่เคยมีตัวตนในสายตาเขาเลย " จังหวะนี้ดวงดาวหันไปสบตากับก้องภพ แววตาสั่นไหวเพราะไม่อาจซ่อนความจริงไว้ได้อีกต่อไปแล้ว เลยอยากจะเปิดเผยความจริงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอรู้สึกเช่น
หลังจากวันที่ก้องภพมาที่ไร่วันนั้น เขาก็พยายามหาโอกาสมาพบกับอรนิชาบ่อยขึ้นและวันนี้ก็เช่นกัน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมาร์คยังคงตามคอยเฝ้าอรนิชาไม่ห่าง ขนาดไปขับรถตรวจตราสวนผลไม้มาร์คยังต้องให้อรนิชาติดรถไปกับเขาด้วย เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้เธอคลาดสายตาแมวโขมยอย่างก้องภพจะต้องหาทางรีบเข้ามาอยู่ใกล้ชิดเธอ เพราะฉะนั้นอย่าได้หวังว่าจะมีชายคนไหนจะได้เข้าใกล้เมียเขาได้ แต่เหมือนสวรรค์แกล้งหรืออย่างไรก็ไม่รู้ มาร์คดันมีอาการท้องเสียเข้าห้องน้ำถ่ายหนักไปหลายรอบ เขาเลยจำเป็นต้องปล่อยให้อรนิชานั่งทำงานคนเดียว" วันนี้คุณมาร์คไม่มาเฝ้าเหรอครับ " ก้องภพว่าแล้วก็กวาดสายตารอบๆเพื่อมองหามาร์ค เพราะปกติจะเห็นมาร์คอยู่กับอรนิชาดังเงาตามตัว" ไปเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ อาหารเป็นพิษ " อรนิชาตอบเสียงเรียบ สายตายังคงจับจ้องที่โน้ตบุ๊กวันนี้เธอมีงานสำคัญที่ต้องเร่งส่งบริษัท" คุณมาร์คดูท่าทางจะหวงน้องออมมากเลยนะครับ หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อีก "" พี่ก้องอย่าถือสาคุณมาร์คเลยนะคะ เขาอาจจะพูดจาโผงผางไปบ้าง แต่ไม่มีอะไรกับใครหรอกค่ะ " อรนิชาอยากให้ก้องภพเข้าใจสามีของเธอแต่ก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบประเด็นเรื่องการหึงหวง สำหรับ







