LOGIN“นี่มันอะไรกัน!”
เสียงแหลมสูงของผู้หญิงที่ดังคุ้นหูทำให้ภามตื่นขึ้นมาในที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นอาการปวดหัวก็ทำให้เขาหงุดหงิดจนนึกอยากจะตะโกนด่าผู้บุกรุกถึงห้องนอนของเขา แต่เพราะเสียงคุ้นหูนั้นทำให้เขารับรู้ว่าคนที่เข้ามานั้นเป็น ‘คีรีมา’ น้องสาวต่างมารดาของเขาเอง
“เอะอะโวยวายอะไรยัยครีม แล้วเข้ามาในห้องพี่ทำไม ห้องเธออยู่ตรงข้ามไม่ใช่หรือไง”
เขาถาม ขณะที่ลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มที่ร่นลงมากองบนตักเผยให้เห็นร่างกายท่อนบนของเขาที่เปลือยเปล่า เผยผิวขาวจัดและกล้ามเนื้อหนั่นแน่นสวยงามอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างสูงใหญ่กำยำนั้นดูดีมากแม้ตอนนี้จะมีร่องรอยขีดข่วนจากรอยเล็บของแม่เสือสาวเมื่อคืนนี้ก็ตามที เมื่อวานตอนโดนข่วนเขาก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ตอนนี้ชักจะเริ่มรู้สึกแสบยิบๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว ต่อไปเขาว่าถ้าจะขึ้นเตียงกับผู้หญิงที่ไหนอีก เขาอาจจะต้องขอให้พวกเธอตัดเล็บเสียก่อน ไม่ไหว…เขากลัวว่าสักวันหนึ่งจะถูกถลกหนังออกมาสดๆ เวลาเขามีเซ็กซ์กับพวกเธอ!
แต่คนเมื่อคืนนี้นั้น… ภามหวนคิดถึงแล้วก็สบถด่าเพื่อนสนิทอย่างแสงตะวันอยู่ในใจ เพื่อนสนิทของเขามันบ้า! ไปหาผู้หญิงแบบนั้นมาได้ยังไง แม่เสือนั่นก็เหมือนกัน ตอนแรกเขานึกว่าหล่อนเล่นบทบาทสาวบริสุทธิ์อยู่หรอกแต่วินาทีที่เข้าไปอยู่ในความอบอุ่นอันคับแน่นนั้น ปราการแรกที่พบเจอและกว่าจะผ่านไปได้จึงได้รู้ว่าหล่อนไม่ได้เล่นละครอะไร...หล่อนเป็นสาวพรหมจรรย์จริงๆ
หล่อนคงจะตกใจ แถมเขายังเป็นแขกคนแรก แล้วเขาไม่ทะนุถนอมหรือช่วยปลุกเร้าอารมณ์เตรียมพร้อมให้หล่อนสักนิด ก็เขาเมามาก แล้วคิดไปว่าหล่อนแค่เล่นไปตามบทบาทที่ได้รับจ้างมา ย้อนคิดถึงน้ำตาและเสียงหวานที่ครวญครางสั่นพร่าข้างหูแล้วจึงรู้ว่านั่นอาจจะเป็นความจริงจากใจหล่อน
ไอ้คุณชาย...มึงเล่นกูแล้ว
เดี๋ยวกูจะตามไปเฉ่งมึงไอ้บ้า เล่นอะไรแบบนี้
ภามเข่นเขี้ยวในใจ จดบัญชีนี้ไว้แล้วจะตามไปฉีกอกเพื่อนสนิทอย่างแสงตะวันในภายหลัง!
“ห้องพี่ภามอะไรละคะ นี่ห้องหนู!” เสียงของคีรีมาผู้เป็นน้องสาวดังลอดเข้ามาในความคิดของเขา ภามเลิกคิ้วสูง เมื่อมองไปรอบๆ จึงได้รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเขาจริงๆ
คอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นหนึ่งในโครงการซึ่งเป็นกิจการในเครือของครอบครัวเศรษฐวัฒน์ เพนต์เฮาส์ชั้นนี้เป็นเขาซื้อเอาไว้เองเมื่อปีกลาย มันถูกออกแบบให้มีสองฝั่ง ทางซ้ายคือที่อยู่ของคีรีมา ฝั่งขวาจึงเป็นอาณาเขตของเขา ปกติภามอยู่ที่นี่คนเดียว ส่วนน้องสาวที่เรียนจบได้เกือบสองปีนั้นอาศัยอยู่กับบิดามารดาที่บ้านเป็นหลัก บางครั้งยามเมามายไร้สติ ภามก็เคยเข้าห้องผิด ในเมื่อคีย์การ์ดที่ใช้เป็นชุดเดียวกัน รหัสผ่านก็เช่นกัน เขาเคยบอกให้คีรีมาเปลี่ยน แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยยอม แถมยังบอกว่าได้จำรหัสเดิมไปแล้วและยากจะจำใหม่ได้ ภามจึงไม่เคยมีปัญหาอะไรกับการเข้าผิดฝั่งเพราะน้องสาวไม่ค่อยอยู่กระทั่งเมื่อคืนนี้
ซึ่งมันเป็นความผิดพลาดเพราะความเมาของเขานั่นแหละ
“โทษที พี่เผลอเอาผู้หญิงมานอนฝั่งนี้ เดี๋ยวจะกลับไปแล้ว”
เขาตอบสั้นๆ ตรงไปตรงมายิ่ง ใช่ว่าคีรีมาจะไม่เคยเห็นเขาควงผู้หญิงที่ไหน น้องสาวเขาไม่ใช่เด็กไม่รู้อะไร เธออายุยี่สิบสามและเรียนจบปริญญาแล้วด้วยซ้ำไป ถึงจะไม่ทำงานทำการเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนทั้งตระกูลจะกังวลเพราะคีรีมาคือเจ้าหญิงของบ้าน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของแม่เลี้ยงแต่ก็ใช่ว่าจะต้องไม่ถูกกันเสมอไป เขาก็ยังรักน้องเหมือนน้องแท้ๆ แม่เธอก็เลี้ยงเขามาแต่เด็กไม่ต่างจากแม่แท้ๆ ที่ตายตั้งแต่คลอดเขาออกมา ถึงเขากับน้องจะห่างกันเกือบสิบปี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สนิทสนมอะไรกัน
“หา!”
ทว่าสีหน้าแตกตื่นต่างจากทุกครั้งทำให้ใบหน้าง่วงงุนของภามพลันตื่นตระหนก เมื่อน้องสาวตัวน้อยร้องดังลั่น หูตาเหลือกวิ่งออกไปข้างนอก ส่งเสียงดังลั่นแล้วจึงกลับมายังห้องที่เขาอาศัยนอนอีกครั้ง ภามฉวยโอกาสที่น้องออกไปหยิบเอากางเกงที่ถอดเรี่ยราดทิ้งไว้ขึ้นมาสวม ตามด้วยเสื้อเชิ้ตผ้าไหมอิตาลีสีเข้ม แล้วในจังหวะที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อเม็ดแรกคีรีมาก็วิ่งกลับมาหาเขาหน้าตาแตกตื่นซีดเผือด เมื่อเห็นว่าร่องรอยบนเตียงนั้นยับเยิน ชัดเจนว่ามันผ่านอะไรๆ ที่เธอก็รู้ดีโดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
“รุ่นน้องของหนูหายไปไหน”
เธอร้องถามเขา ภามเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสับสน
“อะไรกันยัยครีม”
“พี่ทำอะไรรุ่นน้องหนูหรือเปล่า!”
“รุ่นน้องอะไรของเธอกัน”
คนเป็นพี่ชายย้อนถามกลับอย่างสับสนงุนงง
“งั้นยัยลินหายไปไหน! ห้องนี้เป็นห้องที่หนูให้ลินนอน พี่ไม่ได้ทำอะไรลินใช่ไหม! แน่ใจนะว่าที่นอนด้วยเมื่อคืนคือผู้หญิงที่หิ้วมา ไม่ใช่รังแกรุ่นน้องหนู!
ตอนท้ายท่าทางเหมือนจะสติแตกทำให้คนเป็นพี่ชายได้แต่ยื่นมือไปจับไหล่เล็กของน้องสาวไว้แน่น ให้เธอเลิกทำตัววุ่นวายเหมือนหนูติดจั่น เขาเห็นแล้วเวียนหัวจะอ้วก
“พูดอะไรอย่างนั้น! อธิบายสิ!”
ชายหนุ่มสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ขณะที่คีรีมาระงับสีหน้าลนลานเพราะความคิดร้ายๆ ของตัวเองลง มาคิดอีกทีคนที่พี่ภามเอามานอนในห้องที่เธอให้เกวลินนอนอาจจะไม่ใช่คนที่เธอคิดก็ได้ ที่ยัยลินหายไปอาจจะเพราะออกไปข้างนอกก็ได้
ทว่าถึงจะพยายามคิดอย่างนั้น แต่ลางสังหรณ์ของเธอกลับบอกว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องดีเลย
“คือพี่ภามก็ไม่อยู่ตั้งเป็นเดือนใช่ไหม ทีนี้เมื่ออาทิตย์ก่อนหนูไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อน แล้วรุ่นน้องหนูนางมีปัญหาเรื่องที่อยู่นิดหน่อย หนูเลยให้น้องมาอยู่ที่นี่ไปก่อนตอนหนูไปเที่ยว จริงๆ นี่กลับมาก่อนกำหนดด้วยนะ แต่ไม่คิดว่าจะเจอพี่ภามที่ห้องนี้”
“ทำไมจะเอาคนมาอยู่ด้วยไม่บอกพี่”
“จะบอกได้ไง พี่ภามรับสายหนูเหรอ” คีรีมาย้อนถามกลับบ้างด้วยสีหน้าเป็นกังวล
คำตอบของน้องสาวทำให้พี่ชายชะงัก เหมือนจะมีครั้งหนึ่งที่คีรีมาติดต่อข้ามทวีปมาหา แต่เขาติดงานเลยไม่ได้สนใจอะไร ส่วนใหญ่น้องสาวคงจะโทร.มาฝากซื้อของอะไรสักอย่างนั่นแหละเขาถึงได้ไม่ติดต่อกลับเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะติดต่อมาเองอีกที แต่คีรีมาก็ไม่ได้โทร.มาอีก ภามเลยแทบจะลืมไปเลยว่าน้องเคยติดต่อหาเขา
แต่ถึงอย่างนั้น แม้ท่าทีภายนอกจะยังไม่แสดงออกอะไร แต่ในใจเขาชักสังหรณ์ไม่ดีแล้ว
“อาจจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะครีม”
ภามบอกเสียงห้วนก่อนจะเดินไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่บนพื้นพรมขึ้นมา ถึงอย่างนั้นลางสังหรณ์บางอย่างก็ทำให้เขาใจคอไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่อยากยอมรับว่าสิ่งที่คีรีมาบอกเขาก็กลัวว่ามันจะเป็นจริงเหมือนกัน
...ถ้าเมื่อคืนเขาอยู่ผิดห้อง ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ผิดแค่ห้อง แต่มันรวมนอนร่วมเตียงผิดคนล่ะ
แถมท่าทางต่อต้านในช่วงแรกก็อาจจะเป็นความจริงมากกว่าละครที่เขาคิดว่าหล่อนแสดงออกเล่นๆ
“ฉิบหายแล้วไงไอ้ภาม”
ชายหนุ่มถึงกับสบถพึมพำกับตนเองเสียงเบาก่อนจะรีบกดโทร.ออกหาเพื่อนสนิทที่ทำให้เขาเมาอย่างหมาเมื่อคืนนี้ทันที แล้วรอไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ไอ้คุณชาย!”
ชายหนุ่มแทบจะตะโกนออกมาดังลั่นในโทรศัพท์ขณะที่น้องสาวของเขาเดินกึ่งวิ่งออกไปจากห้องอีกครั้ง เพื่อตามหารุ่นน้องของตนเองต่อไป
ห้องฝั่งซ้ายมีถึงสามห้องนอน บางทีเด็กเกวลินนั่นอาจจะอยู่สักห้องก็ได้ละมั้ง
“ว่าไง”
“เมื่อวานมึงส่งเด็กยังซิงมาให้กูเหรอ”
เขาถามไปตรงๆ ไม่มีอารมณ์จะมาอ้อมค้อม นี่เป็นเรื่องใหญ่ และเขาก็อยากจะรู้ความจริงโดยไวเช่นกัน
“เด็กยังซิงบ้าอะไร” แสงตะวันตอบกลับรวดเร็ว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสับสนมึนงง ก่อนจะขยายความต่อไป “กูแค่หลอกมึงเล่นว่าจะส่งคนไป แต่คือกูไม่ได้ส่งเด็กไปให้มึงไง กูรู้น่าว่ามึงไม่ได้ชอบซื้อกิน”
คนขี้แกล้งที่มอมเหล้าเขาเมื่อวานตอบกลับ
“ฉิบหายแล้ว!”
คำตอบนั้นทำเอาภามชาวาบไปทั้งตัว แน่นอนแล้วว่าเมื่อคืนที่อยู่ร่วมเตียงกับเขาเป็นเด็กนั่นแน่แล้ว!
เขาไม่สนใจเสียงโวยวายของเพื่อนสนิทที่แว่วมาระหว่างกดตัดสาย รีบสาวเท้าออกไปจากห้องเกิดเหตุ หัวใจร้อนรนขึ้นมาติดหมัด เด็กนั่นหายตัวไปตอนไหนสารภาพว่าเขาไม่รู้จริงๆ
“พี่เอียน ทางนี้พร้อมหมดแล้วนะคะ”สริตาปรี่เข้ามาหาเขาในทันทีที่เห็นเขาโผล่ไปยังสวนหลังบ้านพัก ซึ่งติดกับชายหาดส่วนตัว ลมทะเลทำให้เส้นผมของน้องสะใภ้ที่เป็นหนึ่งในแม่งานปลิวไปมาจนหญิงสาวต้องใช้มือข้างหนึ่งจับรวบเอาไว้“ขอบใจมากนะซี”เอียนส่งยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะยกมือขยี้ผมของหญิงสาวอย่างเอ็นดู ทำให้สามีของสริตาโผล่แวบมาข้างกายเธอทันใด“อย่ารังแกเมียฉันสิเอียน”แอชตันแกล้งพูดเสียงต่ำ ขมวดคิ้วใส่พี่ชาย สริตาเลยได้แต่ส่ายหน้าให้สามีเป็นเชิงระอา แล้วเดินไปหาปาหนันกับเอเดรียนที่คอยดูแลเด็กๆ อยู่อีกทาง ปล่อยให้สองพี่น้องทางนี้ตบตีกันไปเอง“ใครจะไปรังแกเมียนายกันแอช รังแกนายไม่ดีกว่าหรือไง”ไม่พูดเปล่า คนเป็นพี่ชายก็ถองศอกใส่แอชตันซึ่งโก่งตัวหนีหลบทันแล้วหัวเราะดังลั่นจนกระทั่งเสียงหัวเราะซาลง ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นตบบ่าคนเป็นพี่ชาย พร้อมกับพูดกึ่งสัพยอกว่า“ถามจริงๆ ใครเป็นคนช่วยนายคิดทำเซอร์ไพรส์นี้หือเอียน บอกตามตรงว่าไม่อยากจะเชื่อว่านายคิดเอง”“ทำไม” เอียนย้อนถามเสียงต่ำ “นายอิจฉาที่คิดไม่ได้ล่ะสิ อย่างนี้แหละฉันถึงได้สงสารน้องซีว่ามีแกเป็นสามีเหมือนซวยไปสิบปี”“น้อยๆ หน่อยพี่ชาย ได้ทีเอา
‘ตื่นมาแล้วก็แต่งตัวด้วยชุดนี้รอนะ แล้วฉันจะมารับตอนเสร็จงานแล้ว จะรีบกลับมาจ้ะ - เอียน’ มธุรสามองข้อความที่สามีทิ้งไว้ให้ซึ่งติดอยู่ตรงหน้ากระจกตอนที่เขาลุกไปตั้งแต่เช้าเพื่อไปให้ทันนัดหมายเซ็นสัญญาซื้อขายโรงแรมที่ไหนสักแห่งซึ่งเธอก็จำไม่ได้ ช่วงเวลาที่เขาลุกไปนั้น จำได้แต่เลือนรางว่าอีกฝ่ายปลุกเธอขึ้นมาด้วยจูบแผ่วเบาแต่ช่างเรียกร้อง แต่เพราะเธอยังง่วงอยู่จึงได้แต่ตอบรับสัมผัสของเขาไปอย่างเรียบง่าย เสียงทุ้มนุ่มของเขาชิดอยู่ข้างหู เต็มไปด้วยความเสียดายและบังคับตนเองอย่างยิ่งยวดให้ลุกไปทำงาน สุดท้ายเขาก็ปล่อยให้เธอซึ่งเหนื่อยและเพลียจากการเดินทางและการรบกับลูกชายวัยขวบกว่าๆ นอนต่อไปในที่สุด มธุรสาตื่นขึ้นมาตอนแปดโมงเช้า ซึ่งทำให้เธอตกใจค่อนข้างมาก เธอรีบล้างหน้าแปรงฟันอย่างรวดเร็ว เมื่อออกมาจากห้องนอนก็เห็นว่าลูกชายอยู่ในความดูแลของวาเนสซ่า คนของเอียนที่ดูแลเธอจนกะมาดูแลเอ็ดวินต่อ อีกฝ่ายส่งยิ้มให้เธออย่างสดใสร่าเริง ขณะที่ลูกชายผู้ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้สำหรับเด็กบนโต๊ะอาหารข้างๆ วาเนสซ่าและกำลังกินอาหารของแกอย่างร่าเริง ก็ยิ้มกว้างให้เธอเช่นกัน “มัม มัม!” เอ็ดวินเรียกเธอพร้อมกับ
“คุณเอียนอย่าแกล้งลูกอย่างนั้นสิคะ!”มธุรสาร้องห้ามคนเป็นสามีที่อุ้มลูกแล้วชูขึ้นเหนือศีรษะในสระว่ายใน ภายในบ้านพักตากอากาศของครอบครัวแอดดิสันที่ไมอามี่เธอเองเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก และเพิ่งรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติของสามหนุ่มแอดดิสันที่มักจะรวมตัวกันเสมอในวันเกิดของใครสักคน พวกเขายึดถือวันเหล่านั้นเป็นวันครอบครัว ตัดขาดจากทุกอย่างและอยู่ด้วยกันเฉพาะครอบครัวเท่านั้นแต่เดิมมีสมาชิกเพียงสามคน ทว่าตอนนี้สมาชิกเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เฉพาะครอบครัวของเอเดรียน แอดดิสันก็มีด้วยกันถึงห้าคนแล้ว ครอบครัวของแอชตันเองก็มีสมาชิกที่อายุไล่เลี่ยกับเอ็ดวินเพิ่มมาหนึ่งคน เป็นสาวน้อยแองเจล่าสุดน่ารัก และตัวเธอกับลูกชายที่เป็นสมาชิกใหม่ในปีนี้พร้อมกับวันเกิดของเอียน...“ลูกชอบออก ดูสิ แกหัวเราะสนุกสนานใหญ่เลย”เอียนพูดพร้อมกับยังคงหยอกล้อลูกชายอย่างสนุกสนาน หนุ่มๆ และเด็กชายแอรอนกับเด็กหญิงเอมิลี่ตอนนี้ต่างก็อยู่ในสระกันถ้วนหน้า มีเธอกับน้องซีอุ้มลูกเฝ้าริมสระ ส่วนพี่ปาหนันก็กำลังง่วนอยู่กับการปิ้งย่างทำอาหารเพียงลำพัง เธอจะเข้าไปช่วยแต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าไม่ต้อง มธุรสาที่ถนัดสายของหวานมากกว่าขอ
“พวกนั้นมันข่าวขยะ!” เขาตอบโต้เสียงขุ่น “น้องซีก็บอกเธอแล้วนี่ว่าไม่ให้เธอสนใจข่าวพวกนั้นมากนัก แล้วเธอก็ควรจะรู้ว่าบ้านของแอชลีย์น่ะยังไงก็มีสื่อในกำมือเยอะมากอยู่แล้ว เธอสามารถใช้อิทธิพลของเธอปั้นข่าวขึ้นมาอยู่แล้ว และบอกเธอตรงนี้เลยว่าฉันไม่เคยมีอะไรกับแอชลีย์อีกเลยเลยตั้งแต่ฉันมีเธอ! อันที่จริงไม่เคยมีอะไรกับใครเลยด้วยซ้ำนอกจากเธอน่ะ! แค่เธอคนเดียวฉันก็คลั่งจะตายอยู่แล้ว ทำงานวันละสิบแปดชั่วโมงอย่างฉันจะไปมีเวลาที่ไหนไปหาผู้หญิงคนอื่นอีกล่ะ หัดคิดซะบ้างสิ!”มธุรสาหน้าจ๋อยในตอนแรกเพราะที่เอียนพูดมานั้นถูกต้องทุกอย่าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าแดงในตอนท้ายเพราะประโยคสุดห่ามของเจ้าชายจอมโหด เขามันหื่นน่ะเธอรู้ แต่ทำไมต้องพูดเน้นย้ำแล้วย้ำอีกด้วยนะ!“และเพราะข้อนี้ ฉันจึงไม่มีวันเป็นพ่อของเด็กในท้องแอชลีย์อย่างที่เธอเข้าใจเด็ดขาด! และเชื่อฉันเถอะ แอชลีย์น่ะไม่มีทางท้องในตอนนี้หรอก เพราะถึงท้องคนอย่างเธอที่เกลียดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวขนาดนั้นก็คงเอาเด็กออกอยู่ดี! ไม่ต้องมาค้านนะ!” เขาห้ามเมื่อเห็นว่าเธอทำท่าจะโต้แย้ง “ทุกคนไม่ได้เหมือนกันหมด อย่าเอาการที่เธอรักลูกและยอมอุ้มท้องแกและคิดจะเลี้
“เธอคิดว่าฉันจะโง่ตอบตกลงเหรอรสา!”ทว่าหลังจากที่เงียบไปชั่วอึดใจ เอียนก็โพล่งขึ้นมาด้วยสีหน้าและแววตาเข้มจัด ความดุดันนั้นทำให้ความกล้าของมธุรสาแทบละลายหายไปในพริบตา หญิงสาวถึงกับถอยห่างจากชายหนุ่มสองสามก้าว ขณะที่เขาก็ประกาศต่อไปว่า“ฉันไม่คิดจะหย่าและยิ่งไม่มีความคิดที่จะยกลูกให้เธอไปด้วย!”“…”“ต่อให้เธออยากหย่ามากแค่ไหน สิ่งที่ทำได้ก็มีแต่ความอยากเท่านั้นแหละ รสา...มาถึงขั้นนี้แล้วยังคิดว่าฉันจะยอมปล่อยเธอไปอีกหรือไง”น้ำเสียงของเขาทั้งดุดันและข่มขู่ ทว่าน่าแปลก มธุรสาคิดว่าตัวเองอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แต่เธอรับรู้ได้ว่ามีความเจ็บปวดเจืออยู่ในน้ำเสียงและแววตาของเขามันจะเป็นไปได้ยังไงกัน คนอย่างเอียน แอดดิสันนี่หรือจะเจ็บปวดเพราะเธอ!“คุณจะทรมานตัวเองไปเพื่ออะไรคะ”หญิงสาวถามอย่างห้ามใจไม่อยู่ เอียนเลิกคิ้วขึ้นสูงทรมานตัวเอง?... ทรมานเรื่องอะไรกัน?!เรื่องเดียวที่เขาทรมานก็คือเรื่องที่เธอยังไม่เข้าใจเขาอีกนั่นแหละ จะมีเรื่องอะไรอีกล่ะ!มธุรสามองสีหน้าสับสนและไม่เข้าใจอันสมจริงของเอียน แล้วก็ถอนหายใจออกมาราวกับว่ามันจะช่วยระบายความเจ็บปวดในอก แม้ว่าความเป็นจริงแล้วเธอกลับไม่รู้สึกอย
หลังจากที่ทะเลาะกับมธุรสา ดูเหมือนว่าเขากับเธอจะเข้าหน้ากันไม่ติดเอาเสียเลย เอียนพยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วกำชับคนของเขาว่าห้ามไม่ให้เกวิน แมนนิ่งเข้ามาหามธุรสาได้อีก แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของเขากับเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นไปด้วยเลย มธุรสายังเย็นชากับเขาจนถึงสัปดาห์ต่อมา และเอียนก็ต้องกลับไปทำงานเนื่องจากไม่สามารถทิ้งงานไปได้มากกว่านี้แล้ว ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าเขาจะรอจนลูกอายุสามเดือนถึงจะเริ่มกลับไปทำงานอีกครั้ง แต่ความฝันก็เป็นเพียงความฝันเท่านั้นแหละทว่านอกจากการกลับไปทำงานอย่างไม่สบายใจแล้ว มธุรสาก็มีท่าทีเฉยชากับเขามากยิ่งขึ้น เอียนเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเช่นเดียวกันว่าช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา ถึงได้ขยันเป็นข่าวซุบซิบบ่อยนัก จนสริตาน้องสะใภ้ถึงกับโทรศัพท์มาถามเขาด้วยตัวเอง แล้วสะกิดเตือนเขาว่าบางทีที่มธุรสากำลังเครียดอาจจะเป็นเพราะข่าวขยะพวกนี้ก็ได้ และเธอยังเตือนเขาว่าอย่าทำให้มธุรสาซึมเศร้าหลังคลอดเด็ดขาด การดูแลสุขภาพจิตของแม่หลังจากการคลอดนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันเอียนเองก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่งานที่รัดตัวไม่ได้เอื้ออำนวยให้เขาได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกับมธุรสาเลย ช่ว







