ลลนาเดินตามแตงมาจนถึงโรงอาหาร ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ บ่ายสองแล้ว จึงไม่มีกับข้าวอะไรเหลือ แตงแนะนำให้เธอรู้จักกับ ป้านวล แม่ครัวประจำที่นี่ ลลนาได้ข้าวไข่เจียวเป็นอาหารกลางวัน แตงชวนเธอคุยนั่นนี่ ลลนารับรู้ว่าแตงทำงานเป็นแม่บ้าน ไม่ต้องเข้าไร่เหมือนคนอื่น มิน่าแตงถึงได้ว่างมานั่งชวนเธอคุย หญิงสาวรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อย ๆ ที่นี่ก็ยังมีเพื่อนคุย แตงรอจนลลนากินอิ่ม ก่อนจะชวนเธอออกไปเดินสำรวจในไร่ ลลนาไม่ลืมขอบคุณป้านวลที่ทำข้าวให้เธอ ได้อิ่มท้อง
วันนี้ยังไม่ต้องเริ่มงานตามที่เผ่าเพชรบอก ร่างบางเลยเดินตามแตงไปเรื่อยเปื่อย แตงพาเธอเดินดูคนงานเก็บผลผลิต แต่ยังไม่ทั่วเพราะที่นี่กว้างมาก นี่น่ะเหรอสินสอดที่ทางเผ่าเพชรใช้เป็นของหมั้น ลันลดา ที่ดินนับพันไร่... ตอนนี้เธอมาเป็นตัวแทนของลันลดา ไม่แน่ว่าเผ่าเพชรอาจจะแบ่งให้เธอครึ่งหนึ่งก็ได้ คิดอย่างขำ ๆ เมื่อเริ่มเพลิน กับการเดินสำรวจไร่
แตงพาเธอมาซื้อของที่ร้านสหกรณ์ในไร่ วันนี้ลลนายังไม่มีบัตรสมาชิก จึงใช้สิทธิ์ของแตงไปก่อน หญิงสาวนึกชอบใจเมื่อแตงเล่าว่า สิ้นปีจะมีเงินปันผลให้ ถ้าใครซื้อเยอะก็ได้เงินคืนเยอะ ก็ยังดี... อย่าง น้อย ๆ เผ่าเพชรยังนึกถึงเรื่องนี้ได้ นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้คนงานแล้ว ยังมีเงินปันผลจูงใจอีกด้วย
“วันนี้ซื้อที่นี่ก่อนนะปอ แต่ถ้าเธออยากได้อะไร ต้องรอวันอาทิตย์ จะมีรถสองแถวพาเข้าเมือง รถจะมาตอนเก้าโมง เธอต้องไปรอ หน้าศาลาทางเข้าไร่ แล้วรถจะกลับเข้าไร่ตอนบ่ายสามโมง อย่าช้าล่ะ ถ้าเธอตกรถลำบากแน่”
“ไม่มีรถประจำทางเหรอ”
“ในป่าแบบนี้ใครจะมาล่ะ อยู่ไปนาน ๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง”
“แตงพักอยู่ที่ไหน”
“ฉันพักที่เรือนเล็กหลังบ้านใหญ่ บ่ายแล้วฉันต้องไปเตรียม ข้าวเย็น ฉันไปก่อนนะ เธอจะเดินดูอย่างอื่นอีกหรือเปล่า” แตงถาม เมื่อได้เวลาเริ่มงานตอนบ่ายของตัวเอง
“ไม่ดีกว่า อยากพักเหมือนกัน”
“อ้อ... วันหลังเธอต้องแต่งตัวให้มิดชิดหน่อยนะ ที่นี่คนงานผู้ชายเยอะ”
“ขอบใจที่บอกนะ แต่ฉันไม่มีเสื้อผ้าแบบที่เธอบอกเลย”
“วันอาทิตย์จะพาไปตลาด ฉันไปนะ เธอเดินกลับถูกแน่นะ”
แตงยังห่วง
“ถูกสิ ฉันจำทางได้”
ลลนาบอกก่อนจะยิ้มและโบกมือให้แตงอีกรอบ ร่างบางเดินกลับมาตามทางเดิม ก่อนจะมาเจอกับทางแยก มือบางยกขึ้นเกาหัวเพราะตอนขามาไม่มีทางแยกแบบนี้
“ไปทางไหนดีล่ะ”
หญิงสาวถามตัวเอง เมื่อยืนมองป้ายที่ติดอยู่ข้างทางอย่างลังเล ป้ายหนึ่งชี้บอกทางไปโรงบ่ม ป้ายหนึ่งชี้ไปโรงเรือน แต่ที่สะดุดตาที่สุดคงเป็นป้ายที่บอกว่า ‘เขตห้ามเข้า’
“มีน้ำตกด้วยเหรอ ดีจัง”
ร่างบางคิดอย่างลังเล แววซุกซนปรากฏขึ้นในดวงตาคู่หวาน เมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา
“เพิ่งจะบ่ายสาม” หญิงสาวบอกตัวเอง ก่อนจะหันซ้ายหันขวา แล้วสาวเท้าไปยังเขตหวงห้ามอย่างนึกสนุก
ข้างทางที่เดินเข้ามาไม่ได้เป็นต้นองุ่นเหมือนอย่างที่เห็นใน ตอนแรก กลับกลายเป็นป่าไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นรกชัฏ ดีที่ทางเดินเล็ก ๆ นี่ไม่รกไปด้วย บอกให้รู้ว่าที่นี่ได้รับการดูแลอย่างดี ลลนาเดินเพลิน เพราะอากาศที่นี่เย็นสบาย หญิงสาวลืมไปเลยว่าเธอกำลังอยู่ต่างถิ่น ไม่ได้อยู่ในกองละครอย่างที่ผ่าน ๆ มา
ไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำไหลลงมากระทบหิน ใบหน้าสวยที่เริ่ม ชื้นเหงื่อยิ้มกว้าง เมื่อสัมผัสกับความเย็นของบรรยากาศที่นี่
“น่าจะถึงแล้ว”
ร่างบางเดินไปตามเสียงน้ำที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนจะ ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ดวงตากลมโตเบิกกว้าง น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ภายในไร่นี้สวยเหมือนภาพวาด ทำไมของสวยงามแบบนี้ถึงได้มา ซ่อนอยู่ในไร่แบบนี้ได้ ไม่เสียเวลาคิดนาน รีบวางของที่ซื้อติดมือมาจากสหกรณ์ลงพื้น ภาพตรงหน้าเหมือนมนต์สะกดสั่งให้เธอเดินเข้าไปหา เท้าบางเหยียบย่ำไปบนแนวโขดหินที่วางเรียงรายไปจนถึงลำธาร ทันทีที่เท้าบางสัมผัสกับผิวน้ำ ขนอ่อนบริเวณต้นคอก็ลุกชัน
“น้ำเย็นจังเลย”
ชักเท้ากลับ ก่อนจะค่อย ๆ จุ่มกลับลงไปใหม่เมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้ว
“รู้อย่างนี้ เอามือถือมาด้วยก็ดี” หญิงสาวนึกถึงโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตทิ้งไว้ ก่อนจะถอนหายใจเมื่อนึกถึงบ้านพัก ดีที่ยังมีน้ำมีไฟ ให้ใช้ ลลนาคิดอย่างปลง ๆ มือบางวักน้ำสาดเล่น นึกถึงเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพฯ นี่ถ้าพวกมันรู้ว่าเธอตกอยู่ในชะตากรรมแบบนี้ พวกมันคง ขำกันน่าดู
“อีพริต ฉันคิดถึงแกจัง” อดคิดถึงหน้าเพื่อนสาวไม่ได้ นี่ถ้าพีทพลมาเจออะไรแบบนี้ มันคงลงไปดิ้นตายอยู่ในน้ำนั่นแล้ว
ร่างบางนั่งทอดอารมณ์ แม้จะยังคิดไม่ตก แต่ก็ต้องทำใจยอมรับ เพราะตัดสินใจมาแล้ว หวังว่าคู่หมั้นของน้องคงไม่ใช้แรงงานเธอเหมือนวัวเหมือนควายหรอกนะ อย่างน้อย ๆ เธอก็ไม่ได้มาทำงาน ล้างหนี้แบบพวกนางเอกนิยาย เธอมีเงิน มีทุกอย่างที่เท่าเทียมกับเขา ถ้าเขาไล่เธอกลับ เธอก็พร้อมเสมอ
และก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด เพราะทันทีที่เขาเอ่ยประโยคนี้ออกมา คนในอ้อมแขนก็ผละออกจากอกเขาเหมือนเป็นของร้อน เผ่าเพชรหลบตา เมื่อมองเห็นสายตาของภรรยาที่มองหน้าเขา นี่ยัง ไม่รวมกองไฟที่มันกำลังลุกอยู่บนหัวเธอนะ“หมายความว่าไงคะ! พูด!!!” ลลนาแหวใส่ก่อนจะจ้องหน้าสามีอย่างเอาเรื่อง อาคมมีเมียแล้วมันเกี่ยวอะไรกับน้องของเธอ“ปอ... ใจเย็น ๆ สิทูนหัว กำลังท้องอยู่นะ” เผ่าเพชรบอกก่อนจะพยายามรวบตัวภรรยามากอดไว้เหมือนเดิม“ไม่ต้องมาพูดดีเลยค่ะ บอกมานะ คุณคมเกี่ยวอะไรกับ ยายป่าน”“ก็ที่ไอ้คมมันไม่กลับไร่ก็เรื่องนี้แหละ มันมีเมียแล้ว”ท้ายประโยคเผ่าเพชรพูดเสียงเบา เมื่อมองหน้าที่กำลังสงสัยปนโกรธของภรรยา“หมายความว่ายังไง!”“ใช่ ไอ้คมกับป่าน...”“นี่แน่ะ ๆ ๆ เพราะพี่ใช่ไหม พี่สั่งให้คุณคมไปทำร้ายยายป่าน ใช่ไหม ตายซะเถอะ!!” ลลนาพูดพร้อมพร้อมกับทุบตีเผ่าเพชรไปด้วย แสดงว่าที่พ่อแม่บอกว่าน้องเธอหนีไปเที่ยว น้องหายออกจากบ้าน เพราะแบบนี้หรอกหรือ มือเรียวยกนิ้วขึ้นมานับ ตั้งแต่เมื่อไรนะที่เป็นแบบนี้ คำพูดของแม่ลอยเข้ามาในหัว‘น้องบอกว่ากำลังตามมา แต่ทำไมป่านนี้ยังมาไม่ถึง’“ไม่ต้องน
“ขึ้นดี ๆ นะปอ จะมาทำไมก็ไม่รู้” ร่างสูงบ่นงึมงำ แต่ท้ายประโยคพูดกับตัวเองเสียมากกว่า เมื่อยืนลุ้นภรรยาตัวน้อยที่กำลัง ปีนบันไดลิงขึ้นไปบนบ้านต้นไม้ ก่อนจะหายใจโล่งอกเมื่อเห็นคนตัวเล็กขึ้นไปจนสุด แล้วเหยียบลงพื้นกระดานอย่างปลอดภัย“เดินระวัง ๆ นะปอ กระดานบางแผ่นมันเปียกฝน เผื่อมันผุ”ร้องบอกคนตัวเล็กก่อนจะหันมาขนเสบียงที่ลลนาขนมาด้วย ตกลงจะมาอยู่ยาวเลยหรือไง เพราะดูจากกล่องอาหารและกระเป๋าที่ใส่ของมา น่าจะใช้ชีวิตที่นี่ได้เป็นเดือน“ขนอะไรมาวะ” เผ่าเพชรบ่นอุบ ก่อนจะเป่าลมออกปาก ภรรยาเขาซนจริง ๆ และที่เขาต้องห่วงก็เพราะตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่า ในท้องแบน ๆ ของเธอมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ เป็นอุปสรรคที่จะทำให้เมียเขาเลิกซนได้ เธอยังปั่นจักรยานไปทั่วไร่ ลงไปเก็บองุ่น ตักอาหารให้คนงาน แถมบางครั้งยังไปจับจอบช่วยคนงานต้นอ่อนเกลี่ยหน้าดินอีก จนตอนนี้เขาต้องเพิ่มศาลาพักแดด ให้คนงานหลายจุด เพราะไม่รู้ว่ายายตัวเล็กนี่จะโผล่ไปทำงานตรง จุดไหน ดีนะที่ไม่ไปโรงบ่ม แล้วขอชิมไวน์ที่หมักไว้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงปวดหัวนัก ลูกเขาคงเมาไปกับเธอด้วยแน่นอน“ตาม
ก๊อก ๆ ๆ ๆ ลลนาเคาะประตูก่อนจะยืนรอ จนคนข้างในอนุญาตให้เข้าไป จึงเปิดประตู มือบางสั่นน้อย ๆ เมื่อหมุนลูกบิด ทั้งที่ทำใจมาแล้ว แต่พอเวลานี้มาถึงจริง ๆ กลับประหม่าเสียอย่างนั้น ใบหน้าสวยหันมาส่งยิ้มจืดเจื่อนให้กับกองเชียร์จำเป็นที่มายืนรอและให้กำลังใจเธอ เผ่าเพชร ชูสองนิ้วให้ภรรยาพร้อมกับคำว่าสู้ ๆ“เอาน่า” ปลอบใจตัวเอง เมื่อเดินเข้าไปในห้อง“ปอมีอะไรหรือเปล่าลูก พ่อกับแม่กำลังจะนอน”คุณประกรถาม เมื่อเห็นลูกสาวคนโตเข้ามาหา ร่างบางเดินเข้ามาหย่อนตัวลงข้างเตียง ก่อนจะคลานเข้าไปหาท่านทั้งสอง“วันเกิดปอปีนี้ ปออยากมาขอของขวัญน่ะค่ะ” ลลนาตอบ“อยากได้อะไรล่ะ สามีเราเขารวยล้นฟ้าขนาดนี้ ยังมีอะไรที่เขาหาให้เราไม่ได้ฮึ” คุณลัดดาพูดขึ้น ยังคงจิกกัดเผ่าเพชรเหมือนเดิม“ไหนบอกซิลูกว่าอยากไดอะไร”คุณประกรถามลูก เพราะไม่อยากให้คนเป็นแม่ทำเสียเรื่อง“ปอขอให้พ่อกับแม่รักปอบ้างได้ไหมคะ ไม่ต้องรักเท่าน้องก็ได้ ขอแค่รักบ้างสักนิดก็พอ” ลลนาตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา“ปอ!!”“ปอลูก!”สิ้นเสียงของลูกสาวคุณประกรกับคุณลัดดาก็อุทานออกมา พร้อมกัน“ปอรู้ว่าที่ผ่านมา ปอเป็นลูกที่ไม่ดีของพ่อแม่ ทำให้พ่อกับ
ฟ้าหลังฝนมักสวยเสมอ คำนี้คงใช้ได้จริง เพราะตั้งแต่ ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ในวันนั้นลลนาก็มีความสุขทุกวัน ทุกคนที่นี่รักเธอ โดยเฉพาะเผ่าเพชร คำว่ารักคงไม่พอสำหรับเขา เพราะเขาแสดงออกว่าหลงเธอเสียมากมาย ลลนายังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน แต่เผ่าเพชรก็จัดพิธีผูกแขนตามประเพณี พาเธอไปจดทะเบียนสมรส และประกาศให้คนที่นี่รู้ว่าเธอคือเมียของเขาพ่อแม่เธอไม่ได้มาที่นี่อย่างที่บอกไว้ เพราะเผ่าเพชรเป็นฝ่ายติดต่อไปว่าไม่ต้องการลันลดา เขารักลลนาแค่คนเดียวเท่านั้นและแล้ววันที่ลลนากลัวที่สุดก็มาถึง เมื่อพ่อแม่ติดต่อมาว่าจะมาเยี่ยมเธอที่นี่ ถึงแม้เรื่องของลันลดาจะจบไปแล้ว แต่ลลนาก็ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับท่านทั้งสอง เผ่าเพชรสัมผัสได้ว่าลลนามีความกังวล ถึงแม้เขาจะพยายามปลอบใจไม่ให้เธอคิดมาก แต่เธอก็ยังกังวลอยู่ดี“ปอ... พี่อยู่นี่ อย่ากังวลไปเลยนะ ยังไงพี่ก็ไม่ปล่อยให้ท่านตีปอหรอกน่า” เผ่าเพชรพูดติดตลก เมื่อเห็นคนตัวเล็กคิ้วผูกโบตั้งแต่ ทราบข่าว“ปอทราบค่ะ ว่าพี่เผ่าจะอยู่กับปอ แต่ปอกลัวว่า...”“เรื่องมันจะไม่เป็นแบบนี้เลย ถ้าพ่อแม่ปอไม่ทำกับเราแบบนี้ตั้งแต่แรก พี่ติดต่อไปแล้วว่าพี่รักปอ และเรากำลังจะแต่งงานก
เมื่ออยู่กันตามลำพัง ลลนาก็เอ่ยขอโทษเผ่าเพชรอีกครั้ง ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร เขายังคงเอาแต่นิ่งจนลลนาเริ่มนั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เผ่าเพชรคิดอะไรอยู่“คุณเผ่า คุณโกรธฉันหรือเปล่าค่ะ” ลลนาเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ“ทำแบบนี้ทำไม หนีพี่ทำไม”“คือฉัน... ฉัน...”“เพราะปอไม่รักพี่ใช่ไหม ไม่เคยรักพี่เลยใช่ไหม ถึงได้คิดจะโยนพี่ให้ใครต่อใครก็ได้”“คุณเผ่า!!” ลลนาร้องเรียกชายหนุ่มเสียงหลงเมื่อเขาถามกลับ มาแบบนี้“พี่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ที่ปอออกมาเสี่ยงตายแบบนี้ เพราะต้องการยกพี่ให้คนอื่นใช่ไหม”“คือ แม่...”“ทำไมปอต้องยอมคนอื่นตลอดเวลาด้วย ทำไมต้องให้คนอื่น มากำหนดชีวิตเรา”“ฉัน... ฉันคิดว่าคุณไม่รักฉัน ฉันคิดว่าคุณรักยายป่านมาตลอด และที่คุณได้ฉันมาก็เพราะถูกบังคับ มันคงเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ ยายป่านกลับมา น้องฉันยอมมาอยู่ที่นี่กับคุณแล้วค่ะ”“แล้วเคยถามพี่สักคำไหม ว่าพี่ต้องการแบบไหน ใครใช้ให้มา คิดแทนพี่”“ฉัน...” ลลนาพุดไม่ออก เมื่อเผ่าเพชรถามมาแบบนั้น“โชคดีแค่ไหนที่คนของไอ้หมอกมาช่วยไว้ทัน ลองคิดกลับกันสิ ถ้าปอถูกคนพวกนั้นทำร้าย แล้วเป็นอะไรขึ้นมา แล้วพี่จะเป็นยังไง พี่ต
ทันทีที่เป็นอิสระ ร่างบางก็รีบวิ่งไปหาเผ่าเพชร ทั้งสองกอดกันแน่นด้วยความห่วงใย ในหัวใจมีความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือความห่วงใยที่ทั้งสองมีให้กัน เผ่าเพชรโมโหตัวเองที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ลลนาก็โทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้ทุกคนต้องเดือดร้อน“คุณเผ่าเจ็บตรงไหนคะ ฉันขอโทษนะคะ”ลลนาพูดพร้อมกับปล่อยก้อนสะอื้น มือบางลูบไปบนหน้า ชายหนุ่ม ก่อนจะไปหยุดที่มุมปากที่แตกยับ“เจ็บตรงไหนบ้าง มันทำอะไรปอหรือเปล่า” เผ่าเพชรถาม มือแกร่งลูบไปตามหัวตามหลังคนตัวเล็กอย่างปลอบประโลม“คุณหมอกไม่ได้ทำอะไรฉันหรอกค่ะ คนของเขาช่วยฉันมาจากเดนมนุษย์พวกนั้น ฉันขอโทษนะคะ ขอโทษ” ลลนาพูด ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาอกแกร่ง“ไอ้วิน มึงช่วยเอาเพื่อนมึงออกไปจากไร่กูที กูเหม็นความรัก”สินธรขัดขึ้น เมื่อเห็นเผ่าเพชรกับลลนาแสดงความรักต่อกัน“มึงเลิกทำตัวแบบนี้เสียทีเถอะหมอก สนุกเหรอวะที่ถูกใคร ต่อใครมองว่าเป็นคนเลว” ธาวินทร์ถามกลับ“เรื่องของกู พวกมึงรีบออกไปซะ ก่อนที่จะไม่ได้ออกไป” สินธรตวาดลั่น เขาไม่อยากฟังว่าธาวินทร์จะพูดอะไร“พี่วิวอยู่บนห้องค่ะ” ลลนากระซิบบอกกับเผ่าเพชร“อืม... พี่รู้แล้ว วิวเป็นเมียไอ้หมอก”