เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีมือหยาบ ๆ ของใครบางคนตบลงมาบนท่อนแขนกลมกลึงอย่างแรง ลลนาลืมตาขึ้น ก่อนจะลำดับเรื่องราว เธอนั่งรถมากับเผ่าเพชร ก่อนจะหลับไปเพราะระยะทางที่ไกลเหลือเกิน พลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู นี่เท่ากับว่าเธอนั่งหลับข้ามคืนเลยทีเดียว เพราะตอนนี้นาฬิกาบอกว่าเป็น ตอนสายของอีกวัน ดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ กับภาพที่ปรากฏตรงหน้า นี่ใช่ไหมนรกบนดินของเธอ…
“ลงจากรถแล้วขนของคุณไปไว้ที่นั่น” เผ่าเพชรบอก พร้อมกับ ชี้นิ้วไปยังเพิงสังกะสีหลังเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
“นี่เราอยู่ที่ไหนกันคะ” ลลนาถามเขา หลังจากที่ไม่ได้คุยอะไร กับเขาเลยตลอดทาง จนเผลอหลับไปในที่สุด
“ไร่ผม” เผ่าเพชรตอบเสียงขรึม ก่อนจะทำท่าเปิดประตูรถ
“แล้วทำไมฉัน... ต้องมาอยู่ เอ่อ...”
จะให้เธอเรียกสิ่งที่เห็นว่าอะไรดีล่ะ บ้าน... กระท่อม... หรือโรงเรือน
“ที่นี่เหมาะกับคนอย่างคุณแล้ว คุณคาดหวังอะไรจากที่นี่เหรอลลนา” เผ่าเพชรถามกลับ ใบหน้าที่เคยหล่อเหลายิ้มเย็น แต่ดวงตา คมเข้มแข็งกร้าว ซีกหน้าที่มีรอยแผลเป็นปูดโปนจนดูน่ากลัว
ลลนาถอนหายใจ ป่วยการจะพูดกับคนอย่างเขา ได้... เธออยู่ที่นี่ก็ได้ ร่างบางเปิดประตูรถลงไปด้านล่าง ก่อนจะขนสัมภาระลงจากรถ เผ่าเพชรเอาแต่ยืนมองนิ่ง ๆ ไม่แม้จะช่วยเธอยกกระเป๋าสักใบ
“ที่นี่เป็นบ้านพักหัวหน้าคนงานคนเก่า แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว คุณอยู่ได้ตามสบายเลยนะ” เผ่าเพชรบอก เมื่อเห็นเธอยืนหันหน้าหันหลัง ไม่รู้จะไปทางไหนดี
“ตายหรือคะ!” ลลนาร้องถามเสียงดัง
“ใช่ คุณมีปัญหาอะไร” เผ่าเพชรถาม ก่อนจะล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ
“เอ่อ... คือ... เขาตายยังไงคะ”
“ผูกคอตาย” เผ่าเพชรตอบเสียงเรียบ ไม่มีแววล้อเล่นหรือ หยอกเย้าปนมาในนั้น
“ผูกคอตาย!”
ลลนาตะโกนลั่น ใบหน้าสวยตื่นตระหนก
จะบ้าหรือไง! เขาจะให้เธออยู่ที่แบบนี้ได้ยังไง อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะเกรงใจพ่อแม่เธอบ้าง เกรงใจหรือ... ลลนายิ้มหยัน ขนาด พ่อกับแม่เธอยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้น เขายังลากเธอมาต่อหน้าต่อตา เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ร่างบางก็ถอนหายใจอีกครั้ง นึกปลงกับโชคชะตาตัวเอง
“ทำไม... กลัวผีเหรอ” เผ่าเพชรยิ้มหยัน
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ตกลงคุณจะให้ฉันอยู่ที่นี่ แล้วหน้าที่ฉัน หรืองานของฉัน ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ”
“หน้าที่คุณน่ะเหรอ เอาไงดีล่ะ จากที่ตอนแรกคิดว่าจะเอามาเป็นแม่พันธุ์ ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว คุณเลือกเอาว่าถนัดอะไรก็เลือกทำเอาสักอย่าง งานที่นี่ไม่ยาก แค่ใช้แรง แต่ถ้าคุณอยากสบาย อยากทำงานที่คุณถนัดก็เอาสิ หนุ่ม ๆ ในไร่ผมเยอะแยะ คุณก็เลือกหน่อยแล้วกัน คนที่มีเมียมีลูกก็หลบ ๆ หน่อย ผมไม่อยากให้มีปัญหา”
“ไอ้บ้า!”
ลลนาแหวใส่ งานที่เธอถนัดนั้นหรือ... นี่เขาหมายความว่าจะให้เธอขายตัวใช่ไหม
“อุปกรณ์ทำความสะอาดก็หาเอานะน่าจะพอมี ถ้าอยากได้อะไรก็เดินไปทางโน้น ถามเอากับคนงาน อ้อ... ที่นี่ผู้ชายเยอะ ถ้าคุณกลัว ก็หาใครมานอนเป็นเพื่อนสักคน ส่วนข้าว... วันนี้คุณเดินไปกินตรงนั้นก่อน แต่พรุ่งนี้ต้องทำกินเอง ที่นี่มีให้แค่มื้อกลางวัน เช้ากับเย็นหากินเอง วันนี้คุณพักก่อน พรุ่งนี้จะให้หัวหน้าคนงานพาไปทำงาน” เผ่าเพชรพูดจบก็ทำท่าจะเดินจากไป
“อ้อ... อีกอย่าง จำไว้นะลลนา อย่าเที่ยวไปบอกใครว่ามาที่นี่ในฐานะอะไร คุณเป็นแค่คนงานในไร่ จำเอาไว้ ถ้าทำตัวดี ๆ ผมอาจจะปล่อยคุณกลับเร็วขึ้นก็ได้”
พูดจบเขาก็เดินจากไป ลลนายังยืนอยู่กับที่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น... แต่เป็นแบบนี้ก็ดี เขาเอาเธอมาทำงานในไร่ ก็ยังดีกว่าให้ไปทำหน้าที่อื่น แค่คิดว่าเธอต้องไปนอนเปลือยกายให้ผู้ชายคนนั้นทำเรื่องอย่างว่า ลลนาก็รู้สึกคลื่นไส้จนแทบจะอาเจียน
ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในบริเวณบ้านพัก ภายนอกอาจจะดูเป็นแค่เพิงพัก แต่ข้างในมีห้องหับแน่นหนา มีส่วนยื่นออกไปเป็นครัว และห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ทางด้านหลัง ให้เธออยู่ที่นี่ก็ยังดีกว่าต้องทนอยู่ร่วมบ้านกับเขา มือบางขยับประตู ก่อนจะยิ้มเมื่อมันดูแน่นหนา หากุญแจมาคล้องเพิ่มคงอุ่นใจกว่านี้ นี่ที่ไหนก็ไม่รู้ เขาบอกว่าคนงานผู้ชายเยอะแยะ เธอต้องระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะยังไม่อยากถูกฆ่าข่มขืนหมกป่าไปก่อนเวลาอันควร
เมื่อปลงกับชีวิตได้แล้ว ลลนาก็เริ่มลงมือทำความสะอาดที่พัก อุปกรณ์หาได้จากห้องเก็บของด้านหลัง ที่นี่มีน้ำมีไฟพร้อม อุปกรณ์จานชามและเครื่องครัวมีครบ เหมือนเขาจะเตรียมไว้ล่วงหน้า ดีแล้วที่คนมาอยู่ที่นี่เป็นเธอ เพราะถ้าเป็นลันลดาคงจะลำบากกว่านี้ ลันลดา ขี้โรค ถ้ามาเจอกับอะไรแบบนี้คงได้ล้มป่วยกันบ้างล่ะ หรือบางทีเพราะเป็นเธอหรือเปล่า เผ่าเพชรถึงเตรียมที่นี่ไว้ให้ ถ้าคนมาที่นี่เป็นลันลดา บางทีเธออาจจะได้ไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ในสถานะที่เขาต้องการ
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนลลนาไม่รู้ เพราะมัวแต่เก็บนั่นทำนี่ จนทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ท้องเธอเริ่มประท้วง ร่างบางมองไปตามทางที่ชายหนุ่มชี้บอก ให้ไปหาอะไรที่นั่นกินก่อน รู้อย่างนี้เธอตุนบะหมี่มาด้วยก็ดี
เท้าบางพาตัวเองออกเดินสำรวจ ที่นี่กว้างใหญ่มากมองไปจน สุดลูกหูลูกตา ตลอดทางเดินมีคนงานมองมาที่เธอ ลลนายิ้มตอบ คนเหล่านี้คงจำเธอไม่ได้ คงสงสัยที่อยู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้ามาเดินเล่นในไร่ บางคนพูดคุยเสียงดังตามหลังเธอ ลลนาอยากถามว่าถ้าจะกินข้าวต้องไปตรงไหน แต่คนงานแต่ละคนต่างก็สนใจกับงานของตัวเอง เธอเลยไม่ถามใคร เดินไปเรื่อย ๆ ที่นี่อากาศดี ขนาดช่วงบ่ายยังเย็นสบาย ผิดกับกรุงเทพฯ ที่มีแต่ฝุ่นควัน คิดเสียว่ามาพักผ่อน รอจนเขาปล่อยเธอกลับค่อยว่ากันอีกที หญิงสาวปลอบใจตัวเอง
“คนงานใหม่เหรอ”
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ลลนาหันไปมอง ดวงตากลมโตปะทะเข้ากับผู้หญิงผิวดำร่างใหญ่ที่กำลังยืนเท้าเอวมองเธอ
“จ้ะ” ลลนารับคำไปตามน้ำ
“หน้าตาคุ้น ๆ รูปร่างก็ดี ทำไมมาทำงานไร่ เรียนมาน้อยเหรอ”
เธอคนนั้นร้องถาม ลลนายิ้มหวานตอบกลับ ที่นี่ต่างถิ่น เลือกผูกมิตรกับเจ้าถิ่นไว้จะเป็นผลดีกับตัวเธอ
“จ้ะพี่”
“เออ... พูดเพราะดี ไม่หยิ่งอย่างที่คิด ฉันชื่อแตงนะ เป็นคนงานในไร่นี่แหละ เธอชื่ออะไร”
“ชื่อปอจ้ะ พี่แตงฉันหิวข้าว เจ้าของที่นี่บอกให้ฉันเดินมาทางนี้ ไปทางไหนต่อจ๊ะ ฉันไปไม่ถูก” ลลนาถาม พร้อมกับเรียกสาวร่างใหญ่ว่าพี่ เพราะดูจากหน้าตาแล้วแตงคงโตกว่าเธอหลายปี
“ชื่อเหมือนดาราที่เป็นข่าวเลย หน้าก็คล้าย เธออายุเท่าไร” แตงตั้งข้อสังเกต ก่อนจะถามเรื่องอายุ
“ปีนี้ยี่สิบห้าจ้ะ หลายคนก็ทักแบบนั้นพี่ ว่าฉันหน้าเหมือนดารา”
“เออ... ดีแล้วที่ไม่ใช่ ถ้าใช่ อีแตงจะตบสักฉาด แหม ๆ แรดเหลือเกิน ตอนที่มันตบนางเอกนะ ฉันเนี่ยฝนเปลือกทุเรียนรอเลย อยากจะฟาดหน้ามันสักที”
แตงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด ลลนาลอบกลืนน้ำลาย จากที่หิวในตอนแรกกลับอิ่มตื้อขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ อยู่ที่นี่เธอคงต้องพรางตัว ให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจถูกบรรดาแฟนคลับนางเอกลากไปตบได้
“ไป ๆ ฉันชวนคุยเพลินเลย เธอจะกินข้าวไม่ใช่เหรอ ตามมา ฉันแก่กว่าเธอสองปี ไม่ต้องเรียกพี่หรอก เรียกแตงเฉย ๆ ก็ได้ ว่าแต่เธอพักห้องไหนล่ะ” แตงชวนคุยระหว่างทาง
“ฉันอยู่ที่บ้านพักหัวหน้าคนงานคนเก่าน่ะ คุณเผ่าให้อยู่ที่นั่น”
ลลนาตอบกลับ แตงหยุดชะงักแล้วหันมามองหน้าลลนาทันที
“เธอหมายถึงบ้านตรงเชิงเขาใกล้ ๆ เรือนใหญ่ใช่ไหม”
“อืม... ทำไมเหรอแตง”
“ตายห่า! ที่นั่นผีดุจะตาย” แตงร้องลั่น ก่อนจะหันมามองลลนาอย่างตกตะลึง ลลนาได้แต่ยิ้มตอบ
“ฉันไม่กลัว”
“พ่อเลี้ยงคิดอะไรนะ ถึงให้เธอไปอยู่ที่นั่น” แตงยังสงสัยไม่เลิก
“ช่างเถอะ ว่าแต่แถวนี้มีร้านค้าไหม ฉันอยากได้ของใช้สักหน่อย”
“มีสหกรณ์น่ะ แต่ต้องสมัครสมาชิกก่อน กินข้าวเสร็จเดี๋ยวฉัน พาไป”
“ขอบคุณจ้ะ”
ลลนาอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย เมื่อเผ่าเพชรพูดประโยคนั้นออกมา ทำให้เขาพอใจก่อน เขาถึงจะยอมปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ อยากจะกลอกตาเป็นเลขเจ็ดไทยสักแปดตลบ นี่เขาคิดว่าเขากำลัง ทำอะไรอยู่ สิ่งที่เขากำลังทำกับเธอตอนนี้มันห่างจากคำว่าเพศสัมพันธ์แค่กางเกงกั้น ถ้าเธอไม่มีกางเกงขวางไว้ เผ่าเพชรคงทำแบบนั้นกับเธอไปแล้ว คนจะหื่น... ทำยังไงเขาก็หื่น นาทีนี้เธอต้องใช้สมองเท่านั้น เพราะดิ้นก็แล้ว ต่อสู้ก็แล้ว เธอก็แพ้เขาราบคาบ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ลลนาก็กลั้นใจ ข่มความอายไปจนหมดสิ้น ไหน ๆ เขาก็เห็นของเธอไปหมดแล้วนี่ จะเห็นอีกครั้งจะเป็นไรไป ขืนมัวชักช้า คนบ้านี่เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมปล่อยเธอขึ้นมา เธอคงได้ เสียตัวจริง ๆเมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นหญิงสาวก็กลั้นใจ คิดเสียว่ากำลัง ถ่ายละครฉากหนึ่งเท่านั้น เธอเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ส่วนเขาก็แค่ ตัวประกอบ หญิงสาวนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะค่อย ๆ หยัดกาย ลุกขึ้นช้า ๆ ตากลมโตมองไปยังใบหน้าของคนที่นอนหนุนแขนต่างหมอนรออย่างมีจริต เธอเห็นเผ่าเพชรขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนมันจะคลายออกอย่างเร็ว ร่างบางสะบัดผมไปมา ก่อนจะรวบเป็นห่างม้า ลวก ๆ ไว้ด้านหลัง ต
ร่างบางดิ้นหนี ร่างสูงตามติด หญิงสาวดิ้นมากเท่าไร เผ่าเพชรก็ยิ่งออกแรงกับเธอมากขึ้นเท่านั้น ที่นอน หมอน ผ้าห่มกระจุยกระจายจากแรงต่อสู้ มุ้งที่กางทิ้งไว้สายขาดร่วงลงมาพันจนทั้งเขาและเธอ เหมือนมัมมี่ แต่เผ่าเพชรไม่สนใจ เขายังกอบโกยความหวานจาก หญิงสาวอย่างเอาแต่ใจ ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชอง บวกกับกำลัง ที่เหนือกว่า ไม่นานคนที่ดิ้นเอาเป็นเอาตายก็เริ่มหมดแรง จังหวะการจูบที่หนักหน่วงในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความนุ่มนวล ชายหนุ่มยิ้มในใจ เมื่อคนใต้ร่างตอบสนองเขาแบบสะเปะสะปะ จูบของผู้หญิง ที่มีข่าวคาวรายวันกลับดูไร้เดียงสาเหมือนกับสาวน้อยที่เพิ่งถูกขโมยจูบ เผ่าเพชรแปลกใจตั้งแต่ตอนที่เขาปล้ำจูบเธอในห้องทำงาน แต่ก็เข้าใจเธอเป็นดารานี่ เป็นนักแสดง คงรู้ว่าต้องแสดงแบบไหนถึงจะทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร และน่าค้นหาในเวลาเดียวกันเผ่าเพชรถอนปากออกเมื่อคนใต้ร่างขาดอากาศหายใจ ตาดุมองใบหน้าสวยที่เห่อแดง มองปากอิ่มที่บวมเจ่อ ก่อนจะจูบหนัก ๆ บน ปากบางอีกครั้ง แต่ยังไม่ลุกออกไปไหนลลนารีบโกยอากาศเข้าปอดเมื่อปากเป็นอิสระ กลิ่นบุหรี่กับรสชาติของแอลกอฮอล์ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น กลิ่นเหงื่อเจือกลิ่นบุห
ลลนาร้องลั่น เมื่อถูกโยนลงมาบนพื้นอย่างแรง ดีที่เขายังเลือกเพราะยังมีที่นอนรองอยู่อีกชั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะที่นอนยางพารามันบางจนแทบติดกับแผ่นกระดาน โยนลงมาแบบนี้มีแต่เจ็บกับเจ็บ“โอ๊ย!! เจ็บ” ร่างบางเจ็บจนตัวงอ “สำออย เมื่อกี้ทำอะไร!”“จุกค่ะ” ลลนาตอบไปอีกทาง ร่างบางนอนตัวงออยู่บนที่นอน “หึ!” ชายหนุ่มคำรามในลำคอ ก่อนจะยืนดูคนที่นอนตัวงอนิ่ง ๆ หรือเธอจะเจ็บจริง ๆ จำได้ว่าตอนที่ตกน้ำ เขานึกว่าเธอแกล้ง แต่ที่ไหนได้ เธอว่ายน้ำไม่เป็นจริง ๆ“จุกจริงเหรอ ไหนดูซิ” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะย่อเข่าลงดู มือแกร่งเอื้อมไปข้างหน้า หวังจะจับร่างบางให้หันหน้ามาหา ก่อนที่มือจะสัมผัสโดนตัว คนที่นอนตัวงอก็หันกลับมา แล้วใช้หมอนฟาดไปบนหน้าชายหนุ่มแรง ๆ มือบางฟาดไม่ยั้ง โดนส่วนไหนบ้างเธอไม่สนใจ“นี่แน่ะ ๆ ๆ ๆ” ลลนาหลับหูหลับตาฟาดหมอนใส่เผ่าเพชรรัว ๆ“ โอ๊ย!” เผ่าเพชรร้องลั่น ร่างสูงเบี่ยงหลบแต่คนตัวเล็กยังตามฟาดไม่หยุด“ว้าย!” ลลนากรีดร้องเมื่อถูกร่างหนาโถมเข้าใส่ ชายหนุ่มทับหญิงสาวไว้ทั้งตัว ก่อนจะแย่งหมอนออกแล้วรวบมือที่ทำร้ายเขา ทั้งสองข้างไว้บนหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว
แม้จะตกใจกับเสียงที่ดังกังวานของคนร่างสูง แต่ลลนากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อมองจนแน่ใจแล้วว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของ เผ่าเพชร ร่างบางก็หมุนตัวกลับ ลงมือไขกุญแจบ้านต่อ เธออยากพักผ่อน เพราะตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่มแล้ว วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวัน แถมพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่จึงไม่อยากเสียเวลา เผ่าเพชร ก็คงตามมาหาเรื่องเธอเหมือนเคย สิ่งที่เขาทำกับเธอวันนี้มันยังติดอยู่ในหัว พอนึกถึงทีไรขนอ่อนก็พากันลุกชัน คนบ้า... ลลนาก่นด่าในใจ “ไม่ได้ยินหรือไง ถามว่าไปไหนมา จะบอกไม่บอกวะ!” เผ่าเพชรเริ่มโมโหเมื่อคนตัวเล็กมองเขาเป็นอากาศ ลลนามองบน ก่อนจะหันมาเผชิญหน้า ถ้าเธอหนีเข้าบ้าน มีหรือที่คนบ้าอำนาจอย่างเขาจะยอม ดีไม่ดีอาจจะพังบ้าน หรือเกิดโมโหหนัก จุดไฟเผาบ้านขึ้นมา มีหวังเธอได้โดนไฟคลอกตายแน่ ๆ“มีอะไรคะ”“ถามก็ตอบมา!”“แน่ใจนะคะว่าคุณไม่รู้จริง ๆ ว่าฉันไปไหนมา”ถึงแม้จะรู้ว่าเขากำลังโมโห แต่มีหรือที่เรื่องนี้เขาจะไม่รู้ แตงไปยืมรถจากนายแสง นายแสงคงรายงานให้เขารู้แล้ว แล้วเขาจะมาถามเอาอะไร“ลลนา! อย่ามากวนประสาท”“ค่ะ ถ้าคุณอยากรู้ฉันก็จะบอกให้ ฉันไปบ้านมารีมาค่ะ พอใจหรือยัง”“ไปท
ลลนาเดินกลับมาที่บ้านพัก เมื่อเผ่าเพชรสั่งให้กลับบ้าน หญิงสาวไม่ได้ไปห้องพยาบาล เพราะตอนนั้นรู้สึกอาย เลยอยากหนีมาให้พ้น ๆ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หวังว่าบุษบากับอาคมคงไม่เอาเรื่องของเธอกับเผ่าเพชรไปพูดหรอกนะ “ปอ... เป็นไงบ้าง คุณเผ่าว่าอะไรเธอไหม คิดแล้วโมโห พวกนังสายใจนี่ร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ”แตงที่นั่งรออยู่หน้าบ้านรีบเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นลลนากลับมาใบหน้าสวยแดงก่ำ เมื่อนึกถึงสิ่งที่คนบ้านั่นทำโทษเธอ ดีที่อากาศร้อน แตงเลยไม่สังเกตอะไร“ไม่มีอะไรหรอกพี่แตง ก็แค่โดนดุแล้วก็ถูกอบรมนิดหน่อยน่ะพี่”“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงเธอแทบบ้า เสร็จงานก็รีบมารอเธอเลย”“ขอบใจนะพี่”“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกพี่ เรียกแค่แตงก็พอ อ้ะ นี่ของเธอ”แตงบอกพร้อมกับส่งถุงในมือให้ลลนา“ถุงอะไรเหรอ เอาอะไรมาให้อีกแล้ว เกรงใจจัง” ลลนาบอกอย่างเกรงใจ ก่อนจะรับถุงมาถือไว้“ไม่เป็นไร เอาไปเถอะ”“ไหนดูซิ มีอะไรบ้าง ไว้วันอาทิตย์จะเลี้ยงของอร่อยตอบแทนน้า”ลลนาเปิดดูอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นเสื้อแขนยาวเหมือนแบบที่ใส่อีกสามตัว มีหมวกกับผ้าโพกหน้ามาด้วย“แตง ทำไมซื้อมาให้เยอะจัง
ลลนาขยับตัวลุกขึ้น เมื่อรู้สึกเมื่อยที่ต้องนั่งอยู่บนตักของ เผ่าเพชรนาน ๆ ทันทีที่ร่างบางขยับ แขนข้างที่เผ่าเพชรวางไว้บนต้นขาตัวเองก็กอดหมับเข้าที่เอวคอด ร่างบางสะดุ้งเพราะตกใจ ก่อนจะย่นคอหนี เมื่อจมูกของชายหนุ่มฝังลงมาบนต้นคออย่างจงใจ“คุณเผ่า!” ลลนาตวาดแหว เมื่อลมหายใจร้อน ๆ ยังเป่ารดอยู่ ที่เดิม แสดงว่าเขาตั้งใจหอมต้นคอของเธอ ลลนาคอแข็ง พยายามแกะมือหนาออกจากเอว เธอนั่งบนตักเขานานเป็นชั่วโมง ๆ เขาไม่เมื่อยบ้างหรือไง เธอยังเมื่อยแถมปวดไปทั้งตัว ไหนจะต้องคอยหลบจมูกจากด้านหลัง ไหนจะต้องสะดุ้งทุกครั้งเมื่อเผ่าเพชรขยับตัว“นั่งเฉย ๆ จะทำงาน” เผ่าเพชรดุ เมื่อหัวทุยสวยบังหน้าจอคอมฯ มือแกร่งกดหัวเธอจนไปจมอยู่กับอกแกร่ง ท่านี้ถ้าใครมาเห็นก็เหมือนเธอนั่งซบอกเขาอยู่นั่นแหละลลนาแอบกลอกตา จะทำงานก็ทำไปสิ แล้วจะเอาเธอมานั่งตักทำไม ยิ่งเวลาที่ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากดแป้นพิมพ์ ร่างบางก็ยิ่งเกร็งหนัก“เมื่อยค่ะ”“เมื่อยแล้วนั่งเกร็งทำไม พิงมาสิ”เขาลืมไปหรือเปล่าว่ากำลังนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ถ้าเธอพิงไป ก็เท่ากับเธอนั่งซบอกเขา ลลนามองนาฬิกาบนผนัง นึกแปลกใจว่าทำไม เลขาฯ ของเขาถึง