ตอนที่ 16 บทลงโทษ‘คนทรยศ’
“เอลิซ ทำไมคุณทำแบบนี้” เสียงดังก้องกังวาน ทำฉันแทบตาสว่าง
ฉันงัวเงียมองเขาด้วยความมึนงง จากการโดนกระชากขึ้นมาจากที่นอน และโดนตะคอกใส่
“อะไรกันค่ะ เอลิซทำอะไร” ฉันยังคงสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไรทำไมเขาถึงดูโกรธขนาดนี้ หรือว่าเขายังโกรธฉันจากเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีก
เขามองฉันด้วยสายตาที่ดุดันและน่ากลัวมาก จนทำให้ฉันรู้สึกหวาดผวา ก่อนที่สติฉันจะค่อยๆ กลับมา เขาได้ปาสิ่งหนึ่งมาที่หน้าตักฉัน
“นี่มันคืออะไร” เขากดเสียงต่ำ สกัดอารมณ์สุดขีด
ซองสีน้ำตาลที่ดูคุ้นตาถูกปามาที่หน้าตัก ฉันตาสว่างขึ้นทันที นี่ฉันไม่น่าลืมวางไว้ที่หัวนอนเลยให้ตายเถอะ!!
ฉันค่อยๆ หยิบซองนั้นขึ้นมา กำไว้แน่น แน่นอนเขาคงรู้แล้วว่าข้างในนั้นคืออะไร
“อธิบายซิ” เขาคาดคั้นเอาคำตอบ
“กะ...ก็” ฉันตอบตะกุกตะกัก
“ก็...อะไร!!!” น้ำเสียงดุดันตะคอกใส่ฉัน
ฉันสะดุ้งตกใจเสียงตะคอก มือยิ่งกำซองแน่น จนรับรู้ได้ถึงอาการชาที่มือ
“ผมถามว่า...ก็อะไร!!!” เขายังคงตะคอกด้วยน้ำเสียงที่ดุดันยิ่งขึ้น
ตัวฉันสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ดวงตาหลุบต่ำไม่กล้าสบตากับร่างหนาที่ยืนเกรี้ยวกราดอยู่เบื้องหน้า ตอนนี้ฉันรับรู้ได้ว่า เขาโกรธมาก ความทรงจำ คำสัญญา คำพูดก่อนหน้านี้ของเขาพรั่งพรูเข้ามาในหัวของฉัน ‘อย่างที่บอก ผมไม่ชอบคนผิดสัญญา คนโกหก’ ประโยคเหล่านั้นทำฉันตัวสั่นเหมือนสัตว์ที่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่ากำลังจะโดนประหาร
“ว่ายังไง ห๊ะ!! ก็อะไร!!!” เขายังไม่หยุดที่จะฟังคำตอบจากปากของฉัน
“............” ฉันยังคงเงียบ
“เงียบทำไม...ตอบ!!” เขาเหมือนจะหมดความอดทนกับฉันแล้ว
“ก็ ยาคุมฉุกเฉินไง” ฉันเปิดปากตอบเสียงแผ่วเบาเหมือนไม่อยากให้เขาได้ยิน
เขาชะงัก!! สายตาคมเข้มมีความสั่นไหวเสียใจวูบผ่าน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นดุดันแข็งกร้าวเหมือนเดิม เขาเดินเข้ามาจับที่สองแขนของฉันอีกครั้ง แล้วออกแรงบีบจนฉันรู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งแขน
“เจ็บ..ฉันเจ็บนะคะ คุณเซฟ” ฉันร้องประท้วง หน้านิ่วเพราะความเจ็บ
เขาจ้องหน้าฉันไม่วางตา โกรธจนหน้าแดงคล้ำ จองเหมือนจะกินเลือดเนื้อฉันให้ได้ ก่อนจะกดเสียงต่ำถามฉันว่า “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณไม่เห็นความสำคัญของสัญญาระหว่างเราเลยงั้นหรอ”
“ปล่อยนะฉันเจ็บ” ฉันออกแรงดิ้น น้ำตาเอ่อคลอ ทั้งเจ็บและไม่เข้าใจ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บ
“ผมถามว่าคุณทำแบบนี้ทำไม คำพูดผมมันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม” เขาไม่สนใจน้ำตาที่เริ่มรินไหลของฉัน ยังคงถามย้ำด้วยน้ำเสียงที่โกรธอย่างมาก
“ฉันทำอะไร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะฉันเมา ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นสักหน่อย มันเป็นแค่เกม แค่เกมเข้าใจไหม แค่เกมที่ฉันเล่นตอนที่ฉันไม่มีสติ แต่แล้วทำไมฉันต้องมาติดอยู่ที่นี่ ฉันเบื่อ ฉันต้องการอิสรภาพของฉันคืน...ฮืออออ” ฉันระเบิดความอัดอั้นที่มีมาหลายวันแล้วตะโกนใส่หน้าเขาไป
เขาอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน จนหน้าถอดสี แต่ก็เป็นแค่เพียงแว๊บเดียวเท่านั้น ~~
“แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เกม....” เขากัดฟันกรอด ก่อนจะผลักร่างฉันให้ราบลงไปกับที่นอน แล้วโถมกายขึ้นมาทับร่างฉันไว้ เขาจับมือทั้งสองข้างฉันไพล่ไว้แล้วกดไว้เหนือศีรษะ จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างออกแรงกระชากชุดนอนและบราเซียจนขาดทำให้ผิวขาวเกิดรอยแดงจากการถูกผ้าบาด เนินอกขาวอวบอิ่มทะลักอวดโชว์สู่สายตากร้าว เขามองมันพร้อมแสยะยิ้ม จนฉันอดผวากับสายตานั้นไม่ได้
“คุณเซฟ คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ” ฉันพยายามดิ้น แต่ความพยายามของฉันมันเหมือนจะสูญเปล่า เสียงของฉันคงไม่มีความหมายสำหรับเขาที่ตอนนี้โกรธจนหน้ามืดตามัว
งับ!!~~ เขาก้มลงกัดไปที่ยอดปทุมถันของฉันเต็มแรงจนเกิดรอยฟัน ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะความเจ็บจนน้ำตาไหล
“โอ๊ยยย ฮึก ฮึก เจ็บ” ฉันร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด
“เจ็บสิดี คนที่ทรยศผมมันต้องเจ็บ” เขาก้มลงไปกัดที่ยอดปทุมถันของฉันอีกข้าง ซึ่งมันก็เกิดรอยฟันไม่ต่างกัน
“ฉันเจ็บ ฮืออออ ฮึก ฮืก ได้โปรด...ปล่อยฉัน ฮึก ฮึก” ฉันร้องบอกหวังให้เขามีสติ และหยุดการกระทำป่าเถื่อนนี้สักที
แต่เสียงที่ร่ำร้องออกมานั้น มันช่างเปล่าประโยชน์ ~~
เขากัดฉันไปทั่วทั้งคอ หน้าอก ทุกจุดที่เขาสัมผัสเต็มไปด้วยรอยฟัน รอยแดง ฉันได้แต่ร้องไห้ด้วยความเจ็บ จนกระทั่งเมื่อเขากระทำจนสาแก่ใจแล้ว เขาถึงได้หยัดตัวยืนขึ้น มองร่างบางที่นอนน้ำตานองหน้าตามตัวก็เต็มไปด้วยรอยแดงเถือกไปทั้งตัว ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์กดสายโทรหาลูกน้องคนสนิทให้พาลูกน้องสองคนที่อยู่หน้าห้อง และป้าเสริมเข้ามา
ฉันนอนมองเขาทั้งที่น้ำตาอาบแก้ม ทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ ทั้งหวาดกลัวผู้ชายตรงหน้า ได้แต่ค่อยๆ เลื่อนมือหยิบเอาผ้าห่มมาคุมกายไว้ แต่พอเมื่อผ้าสัมผัสผิวที่มีรอยก็ทำให้ให้เจ็บแสบจนสะดุ้ง ฉันยันตัวขึ้นมาฟังว่าเขาเรียกลูกน้องกับป้าเสริมมาทำไม ฉันมีลางสังหรณ์ว่า…ทุกคนกำลังจะเดือดร้อนเพราะฉัน!!
“มากันแล้วครับนาย” เสียงลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้น เมื่อขึ้นมาตามเจ้านายถึงห้องนอน ก่อนสายตาจะมองมายันร่างใต้ผ้าห่มด้วยแววตาที่แฝงได้ด้วยความสงสาร ก่อนจะก้มหน้าเบนตัวเพื่อให้เจ้านายของเขาเดินผ่านหน้าไป
เขาย่างกายเดินออกไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้รีบร้อนมากนัก แต่ทุกท่วงท่ากับดูดุดัน แผ่รังสีอำมหิต จนทุกคนที่อยู่ใกล้ต้องหวาดหวั่น ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงชั้นสองของบันไดแล้วมองไปที่เหยื่อทั้งสามที่ตอนนี้ก้มหน้าเพื่อหลีกหนีสายตาเหี้ยมที่ส่งมา ประหนึ่งลูกกระสุนที่พุ่งมาหมายให้เป้าหมายตายในทันที
“พวกมึง เห็นคำสั่งกูไม่มีความหมายใช่ไหม!!!” เขาตะโกนเอ่ยเสียงเหี้ยม จนฉันที่ได้ยินยังขนลุก
แกร๊ก ~~~~ เสียงขึ้นลำกล้องปืน ทำเอาใจฉันตกไปที่ตาตุ่ม เขาจะทำอะไรน่ะ ฉันพยายามประคองตัวเองที่บอบช้ำให้ลุกขึ้นโดยมีผ้าห่มห่อหุ้มกายที่เปลือยเปล่าอยู่เพื่อตามไปดู และหวังในใจลึกๆ ว่าเขาจะไม่ลงมือยิงใคร
เขายืนอยู่ข้างบนตรงบันได ตรงหน้าด้านล่างคือลูกน้องสองคนที่ฉันจำได้ว่าเป็นสองคนที่อยู่หน้าห้อง อีกคนที่ยืนถัดไปคือป้าเสริม ทั้งสามยืนก้มหน้าตัวสั่น
“กูถามว่า คำสั่งกูไม่มีความหมายใช่ไหม!!!” เสียงตวาดลั่นทำสามคนเขาทรุดลงไปนั่งกับพื้น
ทุกคนยังคงนิ่งเงียบ ก้มหน้า ตัวสั่น
“ถ้าไม่มีใครตอบ งั้นกูจะยิงเรียงตัว” เขาเอ่ยพร้อมเล็งปืน
“นะ...นายครับ ผมขอโทษครับ คือคุณเอลิซบอกว่านายอนุญาตแล้ว พะ..พวกผมเลย” ลูกน้องคนแรกตอบตะกุกตะกัก
“พวกมึงเลยให้เธอไป...อย่างงั้นหรอ...ห๊ะ!!!!” เขาคำรามลั่น
ปังงง!!!!! เสียงปืนดังขึ้น
ฉันเอามือขึ้นมาปิดปาก ความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจในทันที
ลูกกระสุนพุ่งออกไปโดนที่แขนลูกน้องคนแรก เลือดไหลซึมออกมาจนชุ่มแขน
“อ๊ากกกก นะ...นาย ผมขอโทษครับ” ลูกน้องที่โดนกระสุนยกมือไหว้โดยไม่สนเลือดที่กำลังไหลซึมออกมา
แกร๊ก~~~~ ปังงง!!!!! เสียงลูกกระสุนปืนนัดที่สองยิงไปโดนที่แขนลูกน้องอีกคนทันที
“อ๊ากกกก นายครับ ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับ” ลูกน้องอีกคนที่โดนกระสุนก็ยกมือไหว้โดยไม่สนเลือดที่กำลังไหลซึมออกมาเช่นกัน
แกร๊ก~~~~ เขาเล็งปืนไปที่บุคคลที่สามนั้นก็คือ ป้าเสริม ป้าเสริมตัวสั่น ยกมือไหว้อย่างน่าเวทนา จนฉันที่เดินมาจากห้องนอน รีบเข้าไปเกาะขาเขาเพื่อไม่ให้เขาทำร้ายป้าเสริม เพราะแค่ลูกน้องสองคนนั้นที่ฉันเอ่ยขอร้องไม่ทันต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน ฉันก็รู้สึกแย่มากแล้ว
“คุณเซฟ หยุดเถอะนะคะ ทุกอย่างมันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันบังคับทุกคนเอง ฮือออ อย่าทำอะไรป้าเสริมและคนอื่นๆ อีกเลยนะคะ พวกเขาไม่ผิด ฉันโกหกว่าคุณอนุญาตให้ฉันออกไปเอง ฮืออออ” ฉันเกาะขาอ้อนวอนเขา น้ำตาพรั่งพรูเพราะรู้สึกผิดจับใจ
เขาเสหน้ามามองฉันเล็กน้อย ก่อนแสยะยิ้ม ที่ดูน่ากลัวน่าขนลุก
“ผมบอกแล้วว่าคนที่ทรยศผมมันต้องเจ็บ” เขากดเสียงต่ำยิ่งทำให้ดูน่าเกรงขาม
“ฮืออออ เอลิซขอโทษ เอลิซผิดเอง ถ้าจะลงโทษ มาลงที่เอลิซคนเดียวนะคะ ฮึก ฮึก” ฉันร้องไห้อ้อนวอนเขา ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องเจ็บตัวเพิ่ม
“หึ...” เขาแค่ส่งเสียงในลำคอ แต่ตาและปืนที่มือยังเล็งไปที่ป้าเสริม
“ได้โปรดนะคะ เอลิซยอมคุณทุกอย่าง ได้โปรดอย่าทำร้ายป้าเสริมเลยนะคะ ฮึก ฮึก” ฉันเอ่ยบอกเขาไปอย่างคนหมดสิ้นหนทางปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มนวล
เขาลดปืนลงแล้วหันมากระชากแขนให้ฉันลุกขึ้น พร้อมกระซิบมาที่หูฉันด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ
“ทุกอย่างแน่นะ” เสียงเยือกเย็นผ่านเขามาที่หูฉันพร้อมแสยะยิ้มร้าย
ฉันก้มหน้าแล้วพยักหน้าตอบรับอย่างจำใจในชะตากรรมของตัวเอง เพราะความคิดน้อยและอยากเอาชนะโดยไม่ดูกำลังตัวเอง ทำให้ฉันต้องทำให้ใครหลายคนบาดเจ็บ โทษทัณฑ์นี้ฉันจะเป็นคนรับมันไว้เอง
และเหมือนเขาจะได้คำตอบอย่างที่ใจเขาปรารถนา เขารีบลากฉันกลับมาที่ห้องนอน แล้วเหวี่ยงฉันไปบนที่นอน ปืนที่ถือมาเขาลดนกปืนลงแล้วเก็บไว้ที่ตู้เซฟตามเดิม ก่อนจะหันมามองฉันด้วยสายตากร้าว ฉันหวาดกลัวสายตาที่เขามองมา ทำได้เพียงกอดเข่านั่งตัวสั่นอยู่ที่หัวเตียงอย่างคนรู้ชะตากรรมว่าจะต้องพบเจอกับอะไร….
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(3)ผมตัดสินใจเดินลงมาหาเธอ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ๆ แล้วเอ่ยทักทายเธอออกไป..."คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" ผมเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตอบ"ค่ะ ว่าไงคะ" เธอหันมาหาพร้อมตอบรับ ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะตะลึงในความหล่อของผมอยู่เหมือนกัน"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" โอ๊ยคนอะไรยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ขนาดใส่เสื้อผ้ายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าหาก...(ไอ้เสือ...!! ใจเย็นดิว่ะ...หึหึ)"อะ...อะไรนะคะ" เหมือนเธอจะเริ่มเมาแล้ว แต่นั่นก็กลับยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นไปอีก"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" ผมถามโดยที่สายตามจับจ้องไปทั่วร่างของเธอ"ดะ..ได้ค่ะ" เธอตอบตะกุกตะกัก และนั่นมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่น(นี่มันคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ฟ้าเป็นใจใช่หรือเปล่า ~~)"คุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถามเธอออกไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก"คุณครับ ชื่ออะไรครับ" ผมสะกิดเธออีกครั้ง เพราะดูเธอจะเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังที่ผมถาม"ห๊ะ...ว่ายังไงนะคะ"สายตาเย้ายวนเหลือเกิน ทนไว้ไอ้เซฟทนไว้" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถาม
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(2)อีกทั้งวันนี้เธอกำลังฉลองวันครบรอบของเธอกับแฟนของเธออยู่ด้วย...หึ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยามที่เธอเตรียมขอขวัญไปเซอร์ไพรส์ให้มันนั้น ยามที่มันได้รับหน้ามันจะบานเป็นกระด้งขนาดไหน ทั้งที่พวกมันไม่สมควรจะได้รับความปรารถนาดีจากเธอเลยด้วยซ้ำ...!! ผมนึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ใช้ให้ลูกน้องไปคอยตามดูเธอ รวมทั้งไอ้แฟนสารเลวของเธอ แล้วก็...หึ..นังเพื่อนสุดเลวของเธอด้วย ผมมักจะได้รับรายงานถึงสิ่งที่เธอมักจะทำให้พวกมันอยู่เสมอ สิ่งที่ดี ๆ และความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมอบให้พวกมัน ทั้ง ๆ ที่พวกมันต่างทรยศหักหลังเธอ พวกมันไม่สมควรจะได้รับความรักและความใจดีแบบนั้นเลย... “แม่งเอ๊ย...!!” ผมที่สบถลั่นออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำไมผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นถึงได้ครอบครองหัวใจของเธอได้ว่ะ ทำไมกันวะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้วะ...ทำไมไม่เป็นผมวะที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ และทำไมจังหวะชีวิตของเราถึงต้องไม่ตรงกันด้วยวะ.... ผมที่นั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะปาแก้วเหล้าออกไปจนแตกกระจาย ประจวบกับที่ไอ้กิตที่เพิ่งเข้ามาก็ได้เห็นการก