“ไม่เลยจ้ะ ทุกคนเรามันก็ต้องมีผิดพลาดและพลั้งเผลอกันได้ทุกเมื่อ แม่อ้อนเองก็เคยพลั้งพลาด การที่ใครสักคนจะทำผิดทั้งโดยไม่ตั้งใจหรือตั้งใจ ไม่ได้หมายถึงว่าคนคนนั้นเป็นคนไม่ดีหรือเหลวไหลน่าอับอาย แต่เมื่อผิดแล้วแก้ไขก็สมควรแก่การให้อภัย แต่ถ้าผิดพลาดพลั้งแล้วไม่แก้ไขไม่ปรับปรุงตัวยังคงทำผิดอยู่ซ้ำๆ ต่างหากที่น่าเป็นห่วงและน่าอับอายน่าผิดหวัง ฝนไมได้ทำให้แม่กับพ่อผิดหวังเลยนะจ๊ะตรงกันข้ามฝนเป็นเด็กดีและทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจมาก อย่าคิดมากเลยลูก”
“แต่ฝน..” ปลายฝนสะอื้นฮึกตีบตันไปทั้งใจ
“เช็ดน้ำตาซะ แล้วออกไปทานข้าวกันกับครอบครัวของเรา จำไว้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราคือคนในครอบครัวเดียวกัน ต้องรักกันสามัคคีและให้กำลังใจกัน ถ้าหากฝนท้องจริงๆ แม่ก็ดีใจที่จะได้อุ้มหลานไม่ว่าเด็กคนนี้จะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม เขาคือลูกของฝนและเป็นหลานของแม่ จำไว้นะลูก”
คุณอโนมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวซีดเบาๆ ปลายฝนพยักหน้าแล้วกราบลงกับอกอุ่นของนางด้วยความซาบซึ้ง หนทางที่มืดมนก่อนหน้านี้พลันสว่างไสวไปด้วยความรักและเมตตาของคุณอโนมา เธอช่างมีบุญเหลือเกินที่ได้คุณอโนมารับอุปการะเลี้ยงดูด้วยดีเสมอมา..
สี่ปีผ่านไปเร็วราวติดปีกจากสาวน้อยวัยสวยสดปลายฝนเติบใหญ่กลายเป็นหญิงสาววัยยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ที่สวยสะพรั่งทั้งยังเนื้อหอมด้วยความสวยและฉลาดเฉลียว เป็นเลขาที่เก่งฉกาจของคุณอัคคีซึ่งปัจจุบันก็ได้วางมือจากงานลงบ้างแล้ว โดยให้อัคราเป็นผู้บริหารจัดการงานในสาขาต่างประเทศส่วนบริษัทอสังหาริมทรัพย์รวมไปถึงโรงแรมและรีสอร์ตบางแห่งในประเทศไทยเขาก็ได้วางใจให้ปลายฝนดูแล ซึ่งปลายฝนก็ทำได้ดีเป็นที่เคารพและไว้วางใจของพนักงานและได้รับการยอมรับของคณะกรรมการผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ตอนนี้เธอกลายเป็นว่าที่นักธุรกิจหญิงที่สวยเก่งฉลาดไปโดยปริยายแต่ก็ยังคงทำหน้าที่เลขาให้กับคุณอัคคีอยู่เช่นเดิม
“วันนี้คุณพ่อคุณแม่จะกลับรึยังครับพี่ฝน” อาทิตย์วราหนุ่มน้อยวัยสิบแปดปีเศษซึ่งกำลังศึกษาในชั้นปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังเอ่ยถามพี่สาวซึ่งตักข้าวใส่จานให้ตน
“ยังไม่กลับจ้ะ อยู่ที่เกาะพราวแสงจันทร์อีกอาทิตย์หนึ่งแน่ะ พี่ล่ะคิดถึงจะแย่แล้ว”
“ที่คิดถึงเนี่ยคิดถึง น้องแซม หรือคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ครับ”
“ก็ทั้งสามคนนั่นล่ะ แล้วนี่อิ่มอุ่นพี่สาวเราไปไหนเสียล่ะไม่เห็นลงมาทานข้าว”
“เมื่อคืนกลับมาดึกครับเมื่อกี้ผมไปเคาะประตูก็เงียบ สงสัยเมาหนักเลยแฮ้งค์มั้ง”
“เอ๊ะ อิ่มอุ่นไม่ใช่นักเที่ยวจะเมาได้ยังไง ไม่ได้การแล้วพี่จะขึ้นไปดูพี่สาวเราหน่อย โอมทานข้าวไปก่อนนะจ๊ะ..” ปลายฝนในชุดทำงานสวยทันสมัยหน้ายุ่งไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวของตนจะทำตัวเหลวไหล
“คร้าบผม..” หนุ่มน้อยรับคำแล้วก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยทั้งยังยกหนังสือนวนิยายแปลเล่มโปรดขึ้นอ่านไปด้วยเพราะปกติแล้วเวลาที่บิดามารดาอยู่ร่วมโต๊ะด้วยเขาไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้นั่นเอง...
ทางด้านปลายฝนซึ่งขึ้นมาดูน้องสาวก็เคาะประตูเบาๆ แล้วร้องเรียกเจ้าของห้องสักครู่ประตูก็เปิดออกเจ้าของห้องยังอยู่ในสภาพใบหน้ายุ่งเหยิงตาบวมแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“อิ่มอุ่นเป็นอะไรไป..” ปลายฝนหน้าตื่นแล้วโอบกอดร่างที่โผเข้าหาอย่างตกใจ
“ฮือๆ ฝนช่วยอิ่มอุ่นด้วย”
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดมา เกิดอะไรขึ้น” เมื่อเข้ามาในห้องนอนสีหวานของอัจฉรียาพร
“ไหนมีอะไรบอกฝนมาสิ”
“ฮือออ เจ็บใจนัก อิ่มอุ่นเสียท่าพี่สิงโต” อัจฉรียาพรทุบหมอนปุบๆ ด้วยท่าทางฉุนเฉียวปลายฝนตกใจหน้าซีดไม่คิดว่าสิงหราชจะมีนิสัยชอบรังแกผู้หญิงเหมือนกับใครบางคน
“นี่หมายความว่า...”
“ยังคะ อิ่มอุ่นยังไม่ได้พลาดท่าเสียทีพี่สิงโตถึงขั้นนั้น แต่พี่สิงโตจะต้องรับผิดชอบอิ่มอุ่นที่บังอาจมาจูบอิ่มอุ่น” สีหน้าแววตาท่าทางของอัจฉรียาพรดูจะเอาจริงเอาจังแววตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจเมื่อพูดถึงสิงหราช ปลายฝนลอบถอนใจโล่งอกที่อัจฉรียาพรยังไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับสิงหราช ไม่เช่นนั้นคงจะเกิดเรื่องใหญ่แน่นอน
“แล้วอิ่มอุ่นจะทำไงล่ะจ๊ะ”
“อยากเจ้าชู้ เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นดีนัก น้องอิ่มอุ่นจะดัดนิสัยคนนิสัยเสียให้หลาบจำเลยทีเดียว”
“อิ่มอุ่นจะทำอะไรจ๊ะ”
“พรุ่งนี้อิ่มอุ่นจะไปหาคุณป้าเกศรากับคุณลุงที่คุ้ม พี่สิงโตจะต้องหมั้นกับอิ่มอุ่นโดยทันที”
“เอ่อ.. จะ จะดีเหรอจ๊ะไม่รอคุณพ่อคุณแม่มาก่อนเหรอ” ปลายฝนหน้ายุ่งเมื่อเห็นเค้าลางความวุ่นวายของคนทั้งคู่
“ไม่ต้องห่วงค่ะ อิ่มอุ่นโทร. บอกพวกท่านแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะตามอิ่มอุ่นไปค่ะจะพาน้องแซมไปด้วย”
“หา.. รวดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ” ปลายฝนอุทานอย่างไม่อยากเชื่อว่าน้องอิ่มอุ่นจัดการเรื่องต่างๆ ได้รวดเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
“แล้วนี่พี่สิงโต..”
“หึ ไอ้พี่สิงโตกระอักเลือดแน่ๆ ที่กล้ามาล่วงเกินอิ่มอุ่น คราวนี้ล่ะจะจัดการให้อ่วมเลย บังอาจกับอิ่มอุ่นดีนัก” หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจทั้งที่เมื่อครู่ยังร้องไห้ตาบวมอยู่เลย...
“แล้วอิ่มอุ่นคิดจะแต่งงานกับพี่สิงโตจริงๆ เหรอ”
“ไม่ค่ะ..”
“อ้าว..” ปลายฝนมึนไปกับคำตอบแสนมั่นใจของน้องสาว
“ก็อิ่มอุ่นจะทำให้พี่สิงโตเสียหน้าแล้วจะยั่วให้รักอิ่มอุ่น หลังจากนั้นก็จะชิ่งถอนหมั้นไงคะแล้วอิ่มอุ่นจะหนีไปไกลๆ สักพักปล่อยให้พี่สิงโตเดียวดายในวันแต่งงาน พี่สิงโตจะได้รู้ว่าอย่าคิดเล่นๆ กับผู้หญิง อย่าคิดว่าทำเหมือนพวกเราเป็นดอกไม้ข้างทาง ฮ่าๆ” อัจฉรียาพรเช็ดน้ำตาแล้วยิ้มกว้างอย่างมั่นใจ
“โธ่เอ๊ย คิดแบบเด็กๆ น่าอิ่มอุ่น”
“ไม่รู้ละ อิ่มอุ่นไม่ยอมโดนจูบฟรีๆ หรอก คอยดูนะ จะแก้แค้นให้สาสมเลย” ปลายฝนถอนใจไม่รู้จะพูดให้อัจฉรียาพรเปลี่ยนใจกับแผนการที่คิดไว้ได้อย่างไร เพราะหากเจ้าหล่อนคิดจะทำอะไรแล้วก็จะมุ่งมั่นทำจนสำเร็จและหากแค้นใจใครก็จะตามเอาคืนจนสาสมจนพอใจนั่นล่ะอัจฉรียาพรจึงจะหยุด เรื่องนี้ก็เช่นกันเห็นทีคราวนี้ไม่ใครก็ใครล่ะจะตกหลุมพรางของตัวเอง
ตอนที่61. ตอนอวสาน“มาแล้วเหรอครับเมียจ๋า มามะ มาอาบน้ำกัน”“นี่อะไรคะ..” ปลายฝนชูชุดชั้นในซีทรูลูกไม้สีดำขึ้นมองเขาอย่างคาดโทษ“อุ้ย อะ เอ่อ..” อัคราหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าพลางหลบตาภรรยาอย่างขัดเขิน“พี่ซันนี่เองที่เป็นโจรโรคจิตขโมยชุดชั้นในของฝนไป..” ปลายฝนทำท่าขึงขังแต่ในใจนั้นขันชายหนุ่มเต็มทีและขัดเขินเช่นกัน“ก็.. พี่ซันเห็นมันสวยดีและคิดว่ามันจะเป็นไงน้าถ้าฝนใส่มันให้พี่ซันดู” คราวนี้อัครานัยน์ตาพราวพรายหยิบชุดชั้นในชุดนั้นวางไว้แล้วค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างงามช้าๆ“หลังจากอาบน้ำแล้วฝนใส่ชุดนี้นอนนะ..” อัคราบอกยิ้มๆ แววตาบ่งบอกถึงจินตนาการที่คิดไว้โจ่งแจ้ง“บ้า.. พี่ซันลามก โรคจิต..” ปลายฝนจึงทุบอกกว้างเบาๆ อย่างขัดเขินกับแววตาท่าทางของสามี...“ว่าสามีแบบนี้ต้องโดนทำโทษหนักๆ แล้วพี่จะทำโทษด้วยการให้นักโทษสาวใส่ชุดชั้นในชุดนั้นเต้นระบำให้ดูด้วย..”“ถ้าใส่ชุดนี้น
ตอนที่60.“ขอบคุณฝนมากเลยนะที่ให้โอกาสพี่ซันเป็นพ่อของน้องแซมและเป็นสามีของฝน” อัครากุมมือบางไว้แนบอกมองใบหน้าหวานซึ้งอย่างแสนรัก ปลายฝนยิ้มบางๆ ให้สามีด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกัน“ฝนก็ต้องขอบคุณค่ะ ที่พี่ซันรักเราและกลับตัวเป็นสามีที่ดีของฝน” หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเขาอัคราหอมแก้มใสอย่างมันเขี้ยว“หึ ได้ทีก็ล้อกันจังนะ”“ก็ฝนเองยังไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าพี่ซันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ เห็นเกลียดฝนอย่างกับอะไรดี ใจร้ายกับฝนมาตลอดด้วย”“ก็ตอนนั้นไม่รู้ใจตัวเองนี่นาว่ารักเมียแค่ไหนที่ทำร้ายๆ ไปก็เพราะหึง พอรู้ตัวก็ต้องพยายามจีบเมียให้รักให้หลงเราน่ะสิ แต่ก็โดนแกล้งให้คุกเข่าขอแต่งงานหน้าโบสถ์ด้วย..” อัคราทำหน้ามุ่ยเมื่อเห็นวีดีโอที่ถูกเสกแอบถ่ายไว้ทีไรทั้งตื้นตันและขัดเขินเสียทุกที แต่เขาก็ชอบดูมันซ้ำๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาทำมันด้วยใจจริงและเห็นทีไรก็อดขันตัวเองไม่ได้ ดูไม่จืดเลยอัคราเอ๋ย ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกเห็นภาพตนเองในวันนั้น
ตอนที่ 59.“สามีใครนะปากหวานน่ารักจัง”“แล้วทรายล่ะรักพี่ตอนไหน”“อืม ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มารู้ตัวอีกทีก็ไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้เห็นใครสำคัญกว่าทราย เขาต้องมองทรายและเป็นของทรายคนเดียว ทรายขี้หวงนะจะบอกให้..” หญิงสาวบอกพลางกอดแขนเขาแน่นแล้วซบหน้าลงกับท่อนแขนกำยำของสามีเป็นการตอกย้ำยืนยัน พ่อเลี้ยงกำพลหัวเราะท่าทางของภรรยาเบาๆ“จริงๆ แล้ว พี่รักทรายเพราะทรายเป็นคนที่มีความดีมีความกตัญญูต่างหาก..” ชายหนุ่มไล้แก้มนวลของภรรยาเบาๆ ทรายมองเขาด้วยแววตาซาบซึ้งมือเรียวลูบแก้มสากของเขาอย่างแสนรักพูดไม่ออกกับสิ่งที่เขาบอกมา“ตอนที่เราเผลอมีอะไรกันแล้วพี่ก็แอบติดใจลีลาสาวขี้เมานะ ก็เลยสืบเรื่องของทรายแล้วพบว่าผู้หญิงคนนี้หัวใจแกร่งเหลือเกิน ถึงเธอจะทำตัวเหมือนสาวสมัยใหม่แต่สิ่งที่เธอทำให้พี่ประทับใจคือเธอรักพ่อของเธอมากและไม่ยอมทอดทิ้งท่านไปไหน และยังดูแลท่านอย่างดีในขณะที่คนอื่นๆ หนีหายไปหมด แถมเธอยังขายกระเป๋าใบโปรดของตัวเองเพื่อเอาเงินมารักษาพ่อด้วยและก็ยังขยันด้ว
ตอนที่ 58.“พี่ซันคะลุกขึ้นเถอะค่ะทุกคนมองใหญ่แล้ว แล้วแผลล่ะเป็นไงบ้างเดี๋ยวก็เจ็บหรอก..” ปลายฝนบอกเขาเบาๆ อดห่วงคนเจ็บไม่ได้“ไม่ลุก ไม่ปล่อย ไม่เจ็บ หากปล่อยฝนไปฝนก็จะทิ้งพี่ไว้คนเดียว อย่าไปเลยนะอยู่กับพี่เถอะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก พี่ซันสัญญาจะทำให้ฝนกับลูกมีความสุขที่สุด พี่ซันจะเป็นสามีเป็นพ่อที่ดี..” อัคราหลับหูหลับตากอดขาปลายฝนแน่นโดยไม่สนใจใคร น้องแซมจึงเดินมายืนข้างๆ แล้วตบบ่าผู้เป็นพ่อเบาๆ“คุณพ่อซันค้าบ แม่ฝนกับน้องแซมรู้แล้วว่าพ่อซันรักเรา แต่ตอนนี้แม่ฝนหน้างี้แดงม้ากมาก เหมือนจาเป็นไข้ พ่อซันปล่อยแม่ฝนเถอะค้าบแซมจาได้พาแม่ฝนไปหาหมอ” เด็กชายพูดอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นว่าคุณแม่คนสวยหน้าแดงก่ำเสียเหลือเกิน...“แต่ถ้าพ่อซันปล่อย แม่ฝนก็จะพาน้องแซมหนีไปจากพ่อซัน พ่อซันยอมไม่ได้” อัครายังคงคุกเข่ากอดขาปลายฝนแน่นท่าทางดื้อดึงเหมือนน้องแซมไม่มีผิด เด็กชายเอียงคอมองบิดาของตนอย่างสงสัยทั้งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองหน้าแม่ฝนทีมองหน้าพ่อซันทีอย่างครุ่
ตอนที่ 57.อัคราถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัย แม้จะถูกยิงชนิดแบบที่เรียกว่าตัดขั้วหัวใจแต่อัคราก็รอดมาได้เพราะโชคดีที่เขามีหัวใจอยู่หน้าอกด้านขวา เพราะหากหัวใจของเขาอยู่ด้านซ้ายอัคราก็คงตายไปตั้งแต่ที่ถูกยิงเมื่อครั้งยังเป็นเพียงเด็กชายในวัยกำลังโต แต่ชายหนุ่มยังคงพักฟื้นอยู่ในห้องปลอดเชื้อหลายวันก่อนจะย้ายมาอยู่ห้องพักฟื้นพิเศษหลังจากที่อาการโดยรวมเขาดีขึ้น ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตำรวจก็จัดการอย่างเรียบร้อยและคุณอัคคีก็เป็นธุระจัดการเรื่องราวต่างๆ แทนอัครา จนทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติตลอดระยะเวลาที่เขาพักฟื้นอยู่ปลายฝนกับน้องแซมก็เป็นพยาบาลดูแลเขาไม่ห่างหายดูเหมือนปลายฝนกับอัคราเข้าอกเข้าใจกันด้วยดี แต่แล้วในวันที่อัคราจะออกจากโรงพยาบาลเขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของปลายฝนสร้างความร้อนรนใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก...“เฮีย ฝนไปไหน.. เมียผมไปไหน..” อัคราถามพี่ชายซึ่งช่วยมาเก็บข้าวของด้วยตัวเองด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กชายอัครายามงอแงไม่มีผิด“ฝนก็มาเฝ้านายทั้งคืนแล้วนี่นา”
ตอนที่56.“วางปืนลงซะแล้วยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนบอกคนร้ายทั้งสอง“ไม่ยอมโว้ย ถอยไป ออกไป ไม่งั้นกูจะยิงผู้หญิงคนนี้ มันจะปลอดภัยถ้าพวกมึงปล่อยพวกกูไป..” คนร้ายพูดพลางรั้งร่างบางของปลายฝนถอยหลังเข้าไปในตลาดซึ่งมีผู้คนขวักไขว่ทำให้ยากต่อการควบคุมและจับกุมคนร้ายและในช่วงเย็นที่คนกำลังออกมาจับจ่ายซื้อของผู้คนในตลาดก็ยิ่งเยอะอีกทั้งไทยมุงที่อยากรู้อยากเห็นก็มีมากปลายฝนใจเสียและตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เธอพยายามตั้งสติและมองหาช่องว่างเพื่อดิ้นให้หลุดจากคนร้ายและไม่เป็นอันตรายกับตัวเองทั้งปรายตามองอัคราที่ส่งสัญญาณให้เธอใจเย็นๆ และปากของเขาที่ขยับบอกว่าไม่ต้องกลัว หญิงสาวใจชื้นขึ้นค่อยๆ ก้าวตามคนร้ายไปในตลาดเรื่อยๆ“ถ้าไม่อยากตายหลบไปโว้ย หลบๆ” มันทั้งตะโกนและถือปืนกราดปืนไปรอบๆ คนที่กำลังซื้อของและมุงดูอยู่ก็หวีดร้องแล้วถอยหลบออกไปฝูงคนที่แตกฮือไปตลอดทางที่คนร้ายเดินผ่านทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ลำบากแต่ปลายฝนเห็นร่างสูงของอัคราที่หลบหลีกผ