Share

บทที่ 2

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-25 08:05:12

ฟู่หยวนเพ่ยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจถวายตัวแล้ว จึงกลับตำหนักชุนชิวที่พี่สาวของนางพักอยู่ เนื่องจากเป็นพระประสงค์ของลี่เฟยที่ต้องการให้น้องสาวอยู่ใกล้ๆ หวงตี้ จึงมีรับสั่งให้ยกเรือนฝั่งปีกซ้ายของตำหนักชุนชิวให้เป็นที่อยู่ของนาง เด็กสาวเดินเข้าไปยังภายในโดยไม่ลืมไปยังตึกฝั่งปีกขวาของตำหนักเพื่อคารวะลี่เฟยที่มีศักดิ์สูงกว่าตามธรรมเนียม ที่นั่นลี่เฟยหรือฟู่หยวนฉุน พี่สาวของนางกำลังจะเสวยมื้อเช้าอยู่พอดี

“ถวายพระพรพระสนมเพคะ”

ลี่เฟยลุกขึ้น เผยให้เห็นครรภ์นูนกลมวัยห้าเดือนของนาง ลี่เฟยผู้นี้ใบหน้านวลผ่องแจ่มใส สวมชุดสีเขียวอ้ายฉ่าว[1] ปักลายกรอบล้อมบุปผา ทาแป้งแต้มชาดสีเฟิ่นหงหอมละมุน ตรงบริเวณหน้าผากติดฮวาเตี้ยน[2]ตามสมัยนิยม แม้จะมีองค์รัชทายาทอยู่ในครรภ์ แต่ก็ยังไม่สิ้นไร้ซึ่งความงาม ตรงข้ามวันนี้นางกลับดูงดงามเฉิดฉายกว่าทุกๆ วันด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเสียงที่เรียกหยวนเพ่ยนั้นก็หวานนุ่มนวล อย่าว่าแต่หวงตี้เลย สตรีแม้ได้ยินก็ใจอ่อน

“พระสนมอันใด เราเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ลุกขึ้นเถิด”

ฟู่หยวนเพ่ยลุกขึ้น ก่อนปล่อยให้ลี่เฟยที่เดินมาหาจูงมือนางเข้าไปนั่งยังโต๊ะที่มีสำรับอาหารน่ากินวางรออยู่หลายจาน ก่อนที่นางจะสั่งให้นางกำนัลนำถ้วยชามและตะเกียบมาเพิ่มอีกชุดหนึ่ง

“ก็รู้อยู่หรอกว่าเจ้าเพิ่งกลับจากตำหนักใหญ่ คงอยากพักผ่อน แต่ตั้งแต่เจ้ามาอยู่ที่นี่พี่ก็เริ่มรู้สึกว่ากินข้าวคนเดียวไม่อร่อยแล้ว จึงให้เด็กๆ อุ่นอาหารรอเจ้ากลับมา”

หยวนเพ่ยค้อมศีรษะน้อยๆ “ขอบพระทัยพระสนม”

“เรียกพี่ใหญ่เถอะ”

“เพคะ พี่ใหญ่” ฟู่หยวนเพ่ยยิ้มอ่อนบาง ก่อนรับถ้วยน้ำแกงใบบัวข้นที่นางกำนัลตักให้ มาตักกินไปคำหนึ่ง รสชาติหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมสดชื่นของใบบัวอ่อนๆ ชวนให้เจริญอาหาร

“เป็นอย่างไรบ้าง ฝ่าบาทรังแกเจ้าหรือไม่” ลี่เฟยเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ไม่เพคะ ฝ่าบาทใจดีกว่าที่หม่อมฉันคิดมากทีเดียว” หยวนเพ่ยตอบพลางเปลี่ยนไปตักข้าวต้มแปดรัตนะแทน

มีแต่นางน่ะสิที่จะรังแกเขา...ไม่สิ...พูดไม่ถูก...นางรักษาอาการไหล่ติดให้ก่อนจะสายเกินการณ์มากกว่า

“แล้ว...พระองค์โปรดเจ้าหรือไม่” ลี่เฟยเอ่ย แม้น้ำเสียงจะนุ่มนวล แต่ฟังแล้วคล้ายฉายแววไม่พอใจ

ครานี้ฟู่หยวนเพ่ยกลอกตาไปมา ถ้าภายในสองสามวันนี้เขาออกว่าราชการได้โดยปากไม่เบี้ยว ก็นับว่าโปรดก็แล้วกัน “...ถวายตัวคราแรก มิอาจบ่งชัดว่าโปรดไม่โปรดเพคะ”

“ไม่ต้องมาปดพี่ ลี่กงกงที่อยู่งานที่ตำหนักใหญ่เมื่อคืนมาเล่าให้ฟังว่า ฝ่าบาทพอพระทัยมาก จนกระทั่งเช้าวันนี้ไม่ทรงออกว่าราชการด้วยซ้ำ”

เด็กสาวกะพริบตาปริบ นอกจากทึ่งในด้านการหาข่าวสารในวังที่รวดเร็วทันใจของผู้เป็นพี่สาวแล้ว ยังอดสมเพชในหูของขันทีหน้าตำหนักที่คิดว่าเสียงร้องโอดโอยราวสัมภเวสีนั้นเป็นเสียงกระเส่าของชายหญิงที่ร่วมอภิรมย์ไปได้

เอาเถอะ จะคิดอะไรก็คิดไป “หม่อมฉันแค่ถวายการนวดให้ฝ่าบาท ถ้าฝ่าบาทจะส่งเสียงอันใดออกมา ก็มาจากสาเหตุนั้นเพคะ พี่สาวอย่าได้กังวล”

“เจ้าเด็กคนนี้ พูดอันใดก็ไม่รู้” ลี่เฟยหัวเราะเสียงใสขณะที่คีบอาหารให้หยวนเพ่ยอีกมากมาย น้ำเสียงท่าทีเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง “เพียงแต่เจ้าเคยบอกว่าเจ้าไม่ชอบฝ่าบาท พี่ก็แค่กลัวว่าพระองค์จะบังคับฝืนใจ ทำให้เจ้าทนทุกข์”

อา...ฟังดูเหมือนห่วงใย แต่ไม่ใช่

ก็ไม่แปลกหรอก พี่น้องต่อให้รักมากเพียงใด แต่ถ้าต้องใช้สามีร่วมกัน ความรู้สึกหึงหวงย่อมก่อเกิด...เช่นนั้นที่นางชิงตอบว่าไม่ชอบนั้นนับว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว

วังหลวงแห่งนี้มีเหตุการณ์พลิกผันได้ตลอดเวลา วันนี้รักกันดั่งพี่น้อง วันหน้าอาจหยิบดาบประหัตประหารกัน...นางขอเพียงอยู่อย่างสงบและรอคอยให้หลานตัวน้อยของนางถือกำเนิดขึ้นมาอย่างปลอดภัยดีกว่า

ชีวิตก่อนหน้าลำบากทนทุกข์แสนสาหัส พอจะสุขสบายเข้าหน่อยก็มาจากโลกนี้ไป ชาตินี้ได้เกิดในตระกูลร่ำรวย มีพี่สาวเป็นถึงพระสนมสูงศักดิ์ เพียงเท่านี้นางก็พอใจแล้ว

ในช่วงสองสามวันนี้ ฟู่หยวนเพ่ยถือว่าอยู่อย่างสงบสุขที่สุด

เช้าไปคอยดูแลปรนนิบัติลี่เฟยที่กำลังตั้งครรภ์ แม้จะมีการนวดถวายบ้าง แต่ก็จะกระทำด้วยความระมัดระวัง โดยจะเน้นการนวดกดจุดที่แขน ขา และหลังเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการที่ร่างกายต้องรับหน้าที่แบกน้ำหนักทารกเท่านั้น และที่สำคัญคือจะไม่นวดที่หน้าท้องเด็ดขาด ซึ่งถือว่าเป็นกฎเหล็กสำคัญที่คนทำอาชีพนวดต้องพึงระลึกไว้เสมอ

หลังจากเสร็จสิ้นการดูแลพี่สาว หยวนเพ่ยมักไปอาสานวดแป้งหมี่ที่ห้องเครื่องของตำหนักชุนชิวเป็นประจำ ซึ่งตำหนักนี้เป็นตำหนักเดียว ไม่นับตำแหน่งหวงโฮ่วที่มีห้องเครื่องสามารถประกอบอาหารได้โดยไม่ต้องรออาหารจากห้องเครื่องหลวง อีกทั้งยังมีพ่อครัวจากหยางโจวที่เป็นบ้านเกิดของนางและลี่เฟยที่หวงตี้ว่าจ้างให้มาทำอาหารขึ้นชื่อให้กินจนหายคิดถึงบ้านอีก…

นี่สินะที่เรียกว่าสิทธิพิเศษของคนโปรด…

หยวนเพ่ยอาศัยการนวดแป้งนี้ฝึกกำลังนิ้ว มือ แขน และเอวเพื่อให้มีพละกำลังในการนวดมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านเกิด ตอนแรกท่านปู่ท่านย่าก็ดูจะไม่ค่อยพอใจนักที่คุณหนูอย่างนางไปขลุกอยู่แต่ในครัว แต่เมื่อได้เห็นนางสำแดงผลจากการที่ฝึกฝนนวดคลายเส้นแบบราชสำนักตำรับสำนักอู๋ฝอซื่อจนกระทั่งอาการปวดเมื่อยหายขาด หยวนเพ่ยก็ขึ้นเป็นหลานสาวคนโปรดในจวนสกุลฟู่ไป จากนั้นเวลานางหายเข้าไปในครัวครั้งต่อไปจึงไม่มีใครคอยตำหนิติเตียนอีก

เด็กสาวเทแป้งหมี่ลงมาที่โต๊ะ เว้นให้เป็นหลุมตรงกลาง เติมเกลือ น้ำตาล และน้ำ จากนั้นจึงค่อยตะล่อมนวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน มือเล็กเปี่ยมเรี่ยวแรงบีบนวดขยำ จินตนาการว่าเป็นผิวเนื้อของผู้ที่มานวด แล้วจึงฝึกเน้นระดับความหนักเบาเพื่อไม่ให้ลืมว่า คนในช่วงใดต้องใช้น้ำหนักมือในการนวดแบบไหน

พวงแก้มเด็กสาวแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายที่หน้าผากจากการได้ออกแรง ใบหน้ามอมแมมไปด้วยแป้งหมี่ แต่ยังมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า คล้ายเด็กสาวชาวบ้านที่ช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ต่างจากทุกทีที่ทำหน้าเคร่งขรึม ยิ่งคนรอบข้างได้เห็นยิ้มหวานๆ ก็ชวนให้ดวงตาพร่าลาย

หลังจากนวดแป้งเสร็จ นางจึงเอาผ้าชุบน้ำหมาดๆ คลุมแป้งไม่ให้แห้งแข็ง ในขณะที่กำลังชื่นชมผลงานของตนเองอยู่นั้น พลันได้ยินเสียงหวีดร้องจากด้านนอกพร้อมกับเสียงสั่นเครือ

“ถะ...ถวายพระพรฝ่าบาท”

ฟู่หยวนเพ่ยหุบยิ้ม ไม่ยอมหันไปมองด้านหลัง

ฝ่าบาท? หรือว่าที่นวดไว้เมื่อคราวก่อนจะ…

“ฟู่หยวนเพ่ย”

“.........!?” หยวนเพ่ยสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หันมา ก็เห็นสีพระพักตร์จริงจังของหวงตี้ ร่างกายเขายังอยู่ครบสามสิบสอง ปากไม่เบี้ยว คอและไหล่ไม่ผิดรูป ซ้ำยังมีท่าทีกระฉับกระเฉงแข็งแรงจนแผ่รังสีน่าครั่นคร้ามออกมา

“ถะ...ถวายพระพรฝ่าบาท” หยวนเพ่ยย่อกายคารวะ แต่ไม่ทันจะยืดตัวขึ้น เขาก็ก้าวประชิดตัว สองมือจับที่แขนของนางแน่น พลางเอ่ยด้วยเสียงที่แสดงความปรารถนาออกมาเต็มเปี่ยม

“ฟู่หยวนเพ่ย เราต้องการเจ้า”

"ต้องการหม่อมฉัน?"

ฟู่หยวนเพ่ยกะพริบตาปริบๆ หรือว่าคืนนั้นนางนวดแรงเกินไปจนไปกระทบสมองของโอรสสวรรค์ผู้นี้ จึงได้เกิดพิศวาสนางขึ้นมา

เขาพยักหน้า "เราต้องการเจ้าเดี๋ยวนี้"

น้ำเสียงนั้นแฝงความดื้อดึงเอาแต่ใจ ยังมิทันเอ่ยปากปฏิเสธ นางก็ถูกเขาดึงมือให้เดินตามเขาไป ทั้งได้ยินเสียงเขาร้องถามนางกำนัลว่าห้องนอนของนางอยู่ที่ใด

เมื่อได้รับคำตอบ เขาก็กึ่งเดินกึ่งจูงฟู่หยวนเพ่ยมายังห้องด้านในที่เป็นห้องนอนของนาง จากนั้นจึงให้นางนั่งบนเตียง มองเขาค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นจนเห็นร่างกายกร้าวแกร่งขัดกับผิวกายขาวผ่องนั้น

"ฝ่าบาท..." ฟู่หยวนเพ่ยอ้าปากค้าง มองเขาที่หอบน้อยๆ จากการกระทำอันบ้าบิ่นของตนเอง จากนั้นจึงนั่งลงใกล้ๆ นาง หยวนเพ่ยเขยิบตัวหนี แต่เขากลับคว้ามือนางไว้ อย่างไรก็ไม่ให้นางหนี

"ฟู่หยวนเพ่ย นับตั้งแต่คืนนั้นเราก็ไม่อาจลืมเจ้า ไม่อาจลืมรสมือ (และเท้า) ที่ได้สัมผัสตัวเรา..."

นางขยับปากขึ้นลง ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ไฉนคำพูดเขาคล้ายเท้าความความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างชายหญิง

นั่นนวด! นวดนะ!

"ฟู่หยวนเพ่ย เราขอร้อง ใช้เท้าของเจ้าเหยียบข้าอีกครั้งนะ"

[1] หมายถึงสีของต้นโกฐจุฬารัมพา

[2] ดอกไม้โลหะ ที่วาดหรือติดบนหว่างคิ้ว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 98

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ด้วยอายุครรภ์เพียงแปดเดือน ชายาของฉู่อ๋องคนปัจจุบัน ก็คลอดบุตรคนสุดท้องออกมาในอีกสองวันต่อจากนั้น หนึ่งเดือนให้หลังประมุขสี่สกุลต่างมาร่วมแสดงความยินดี แม้แต่ประมุขเผ่าซีเซี่ยอย่างเค่อตัว และ พระชายาจินซาก็มาด้วย เค่อตัวท่าทีผึ่งผาย ในอ้อมแขนมีหมิงจูตัวน้อยวัยสองเดือนนอนหลับฝันห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 97

    หลายเดือนผ่านไป เผ่าซีเซี่ยก็มีข่าวดี ชายาของข่านซีเซี่ยได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนสุดท้อง เนื่องจากเกิดในช่วงอรุณรุ่ง ดวงอาทิตย์งดงามดั่งไข่มุกเหนือท่าสัตตบงกช เค่อตัวจึงตั้งชื่อเด็กหญิงตัวน้อยว่า หลัวหมิงจู หยวนเพ่ยได้ยินครั้งแรกก็อดชื่นชมไม่ได้ว่าเค่อตัวนั้นพอแก่ตัวลงพรสวรรค์ในการตั้งชื่อนั้นกลับแหลมคม

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 96

    หลังจากพักผ่อนอิริยาบถอยู่ที่ศาลาริมน้ำอยู่จนถึงบ่ายคล้อย สมาชิกทั้งหมดของฉู่หวางและข่านซีเซี่ยต่างยกโขยงไปที่เหลาที่ได้สัญญากับเจ้าของร้านไว้เพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างครึกครื้นสุขสันต์ แม้มีบางคราที่เด็กๆต้องรั้งไม่ให้เค่อตัวเอาแส้ไล่ฟาดหยวนเพ่ยเพราะโดนแดกดัน กับรั้งตั

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 95

    เมื่อมาถึงหน้าประตูสกุลเจียง ครอบครัวของฉู่หวังที่ประกอบด้วยสมาชิกสี่คนก็ต้องพบกับประมุขแห่งเผ่าซีเซี่ยยืนรอเขาอยู่แล้ว ท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่องใส่ฉู่หวางมาแต่ไกลจนนึกจะทำอย่างไรก็ได้ให้คนๆนี้ไปให้พ้นๆหน้า"ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึง ระหว่างทางมานี้พวกเจ้าได้กินข้าวต้มกับน้ำแกงรากบัวที่ข้าตั้งโรงทานเอาไว้ห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 94

    เมื่อสองผู้สูงศักดิ์ได้ผลแน่ชัดแล้วว่า ฟู่หยวนเพ่ย ชายาของฉู่หวางที่เป็นพระอนุชาคู่พระทัยของฮ่องเต้ จินซา ชายาของข่านซีเซี่ยผู้ทรงอิทธิพลในเส้นทางสายไหมคนปัจจุบัน ทั้งสองต่างตั้งครรภ์ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน บรรยากาศทั้งสองสำนักนับได้ว่าชื่นมื่นอย่างยิ่งหยวนเพ่ยตั้งครรภ์เข้าเดือนสี่ นับว่าครรภ์แข็ง

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 93

    ท่ามกลางความวุ่นวายจอแจในห้องเล็กๆนั้น เด็กสาวคนหนึ่งเพียงนั่งเท้าคางมอง ท่าทีสบายๆกึ่งเกียจคร้านอย่างยิ่ง แต่ก็มิทำให้ความงามของนางลดน้อยถอยลง ซินฉีที่เพิ่งว่างจากการจดบันทึกเดิมพัน(?) โดยทิ้งให้จื่อซินกับซูเฟยเดินทางไปยังที่พำนักของข่ายซีเซี่ยในเมืองหลวง จึงค่อยๆเบียดกระแซะเข้าไปหา "อาเหยา อาเหยาค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status