Share

บทที่ 3

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-04-25 08:07:26

ฟู่หยวนเพ่ยใช้เวลาอึดใจหนึ่งทำความเข้าใจกับที่บุรุษตรงหน้าเอ่ยขึ้นมา

"ให้หม่อมฉันใช้เท้าเหยียบพระองค์หรือเพคะ?"

อีกฝ่ายพยักหน้า "เหยียบเรา แบบที่เจ้าทำเมื่อสองวันก่อน"

ทีแรกพระองค์นอนปวดกายอยู่บนเตียง ขยับไม่ได้แม้เพียงปลายนิ้ว แม้พยายามขยับก็ปวดร้าวแทบขาดใจ ไม่นึกเลยว่าตนเองต้องมีสภาพน่าสมเพชอยู่ถึงสามวันเต็ม ในระหว่างที่นอนรักษาตัว ในใจก็นึกหาวิธีแก้แค้นฟู่หยวนเพ่ยที่ทำให้เขาต้องมานอนซมเช่นนี้ด้วยวิธีใดให้สาสม พระองค์จะปลดนาง! ทรมานนาง! โบยนาง! ตบปากนาง! สารพัดวิธีที่ล่องลอยอยู่ในหัวรอวันที่พระองค์หายดีแล้วจะไปประกาศโทษต่อหน้านางด้วยพระองค์เอง

แต่ใครจะคาดคิดว่าล่วงเข้าวันที่สี่ ร่างกายที่เมื่อยล้ากลับโปร่งโล่งเบาสบาย อาการเจ็บปวดหัวไหล่ที่เคยเรื้อรังกำเริบเป็นระยะพลันหายเป็นปลิดทิ้ง ซ้ำยังกระฉับกระเฉงกระปรี้กระเปร่าถึงขนาดไปซ้อมกระบี่ยิงธนูที่สนามฝึกอยู่ชั่วยามหนึ่งจึงมาหาฟู่หยวนเพ่ยที่ตำหนักชุนชิว หมายให้นางนวดแบบนั้นอีกครั้ง เพื่อที่พระองค์จะได้หายขาดจากโรคภัยทั้งปวง

แต่คำตอบที่นางให้พระองค์คือคำปฏิเสธเรียบๆ

"ไม่ได้เพคะ"

ครานี้ทำเอาหวงตี้พระพักตร์ตึงขึ้นมา

"ทำไม?"

"การนวดเมื่อสองวันก่อน เป็นการนวดเพื่อรักษาอาการ ควรปล่อยให้กล้ามเนื้อพักสักสัปดาห์สองสัปดาห์ เพราะถ้าฝืนนวดถี่กระชั้น นอกจากไม่หาย อาการบาดเจ็บจะยิ่งเพิ่มขึ้นเพคะ"

"เช่นนั้นหรือ?" หวงตี้มีสีพระพักตร์ผิดหวังเล็กน้อย

ฟู่หยวนเพ่ยเห็นเช่นนั้นก็มิอาจปล่อยให้เขากลับไปมือเปล่า

"เช่นนั้น เพื่อมิให้ฝ่าบาทมาเสียเที่ยว หม่อมฉันจะนวดเท้าให้นะเพคะ"

พระองค์พยักพระพักตร์ ที่จริงรสมือนางที่นวดยามปกติก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าท่าพิสดารของนางเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นถ้านี่ถือเป็นคำปลอบใจจากนาง พระองค์ก็ยินดีรับ

หญิงสาวยิ้มอ่อนบาง จากนั้นจึงเรียกให้นางกำนัลมาช่วยหวงตี้แต่งตัว และนำเสด็จไปยังโถงรับแขกส่วนหน้า ส่วนนางผละไปล้างมือล้างหน้าเปลี่ยนชุดใหม่ ด้วยถือว่าผู้ที่ทำการนวดนั้น มือไม้และร่างกายต้องสะอาดสะอ้าน นอกเหนือจากสุขอนามัยพื้นฐานแล้ว ยังเป็นการให้เกียรติผู้ที่มาให้เธอนวดอีกด้วย

นางใช้เวลาไม่นานก็แต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย เสื้อที่มีสีขาวดอกฉาตั้งแต่ผ้ารัดอกและเสื้อคลุมสะท้อนลายปักดอกมู่ตานขับผิวของหยวนเพ่ยให้ผุดผาดนวลตา ประดับฮวาเตี้ยนและเครื่องประดับผมฝีมือช่างชาวเผ่าเหมียวทำด้วยเงินยวงบริสุทธิ์ ส่งเสริมให้อีกฝ่ายงดงามชวนมองมากขึ้นไปอีก เด็กสาวสั่งให้คนเตรียมถังไม้เและผ้าเนื้อนุ่มไว้เรียบร้อยแล้ว

หยวนเพ่ยนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็ก ถอดรองเท้าและถุงเท้าของโอรสสวรรค์ออกจนเห็นเท้าเปล่าเปลือย ใช้น้ำลอยดอกไม้ล้างเท้าให้เขาจนสะอาด ซับน้ำด้วยผ้านุ่มจนแห้งสนิท จากนั้นนางจึงใช้นิ้วหัวแม่มือกรีดไล้ที่ฝ่าเท้า ให้ความรู้สึกร้าวซ่านผ่อนคลายไม่ต่างจากเมื่อคืนนั้นแม้แต่น้อย

หวงตี้ถอนหายใจออกมาอย่างสบายพระวรกาย อีกทั้งกลิ่นกำยานที่ลอยอวลในห้องนี้ก็ทำให้พระองค์ผ่อนคลาย วางความคิดจากราชกิจและอื่นๆ ออกไปได้แม้เพียงชั่วคราว

ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม นิ้วมือเนียนละเอียดนวดคลึงนิ้วเท้าของเขาทีละนิ้ว ไม่มีทีท่ารังเกียจแต่อย่างใด นวดพลางก็ว่าพลาง "เท้าถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้อื่นๆ นอกจากจะช่วยในการเดินเหินแล้ว เส้นชีพจรบริเวณเท้ายังสัมพันธ์กับอวัยวะภายในอื่นๆ อย่างปอด กระเพาะอาหาร หรือแม้แต่ตับอีกด้วย"

"เช่นนั้นเราต้องให้เจ้ารักษาเท้าให้เราบ่อยๆ แล้วสินะ" พระองค์ตรัสทีเล่นทีจริง

"หม่อมฉันเป็นข้าราชบริพารในพระองค์ ย่อมต้องดูแลพระองค์อย่างสุดความสามารถ" นางทูลพลางกำมือ ใช้ข้อนิ้วกรีดไล้ไปยังใจกลางฝ่าเท้าจนพระองค์ครางออกมา

"มาทุกวันมิได้หรือ?"

"มิได้เพคะ ถึงจะนวดผ่อนคลาย ก็ยังต้องพักกล้ามเนื้อหนึ่งถึงสองวันอยู่ดี" นางทูลตอบเรียบๆ จนหวงตี้เดาะลิ้นอย่างไม่พอพระทัย

"เจ้านี่...ขัดไปเสียทุกเรื่อง จะพูดเอาใจเราเสียหน่อย มันจะตายหรือ"

"ที่บ้านหม่อมฉันถือว่าคำพูดหวานๆ ไม่ได้ช่วยให้อันใดดีขึ้น สู้พูดออกไปตรงๆ หม่อมฉันถือว่าเป็นความหวังดี"

"ไม่อยากให้เราโปรดเจ้าหรือ?" พระองค์ผงกศีรษะขึ้นมา ท่าทีจริงจัง

นางกลับสบตาพระองค์เพียงอึดใจ จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตานวดต่อ "หม่อมฉันมิได้อยากเป็นคนโปรดเพคะ" ว่าจบก็ค่อยๆ ดัดฝ่าเท้าอีกฝ่ายขึ้นเพียงอึดใจ ให้ความร้อนซ่านแล่นขึ้นจากปลายเท้าอยู่อึดใจก็คลาย "เสร็จแล้วเพคะ"

หวงตี้ทรงยืนขึ้น ความรู้สึกเบาสบายทั่วร่างทำเอาพระองค์แย้มสรวลออกมา แล้ววางมือลงบนผ้าคาดเอว ได้ป้ายหยกขาวมันแพะแกะเป็นรูปค้างคาวและผลท้อ ประดับพู่สีทองชิ้นหนึ่งก็ปลดออกมาแล้วยื่นให้ฟู่หยวนเพ่ย

"ถือว่าตอบแทนที่เจ้าถวายการปรนนิบัติเราเป็นอย่างดี”

หยวนเพ่ยรับมา เมื่อวางบนมืออุ่นยิ่งรู้สึกว่าหยกนั้นเย็นราวกับน้ำแข็ง ชวนให้จิตใจสงบอย่างประหลาด

"ขอบพระทัยเพคะ"

หวงตี้เพียงยิ้มตอบ จากนั้นจึงออกจากตำหนักฝั่งของนาง คิดว่าคงไปตำหนักฝั่งของลี่เฟย ปลอบขวัญที่จู่ๆ ก็ผลุนผลันมาหานางโดยมองข้ามลี่เฟยที่มีศักดิ์สูงกว่า

ฟู่หยวนเพ่ยมองไปยังหน้าต่าง เห็นเงาร่างหนึ่งผลุบหายไป คาดว่าคงเป็นนางกำนัลของตำหนักใดตำหนักหนึ่งเพื่อมาสอดส่องเรื่องราวในตำหนักชุนชิว...หรืออาจจะเป็นคนของพี่สาวของนางเอง...จะใครก็ตาม นางก็ป้องกันแล้ว ไม่อยู่กับฝ่าบาทสองต่อสอง ถวายการนวดที่บรรดาสนมไม่มีใครกล้าทำ แต่นางทำ พวกนางคงดูแคลนนางไม่น้อย

ก็ได้แต่หวังว่า ทำถึงเพียงนี้แล้ว นางจะได้อยู่อย่างสงบมากกว่านี้...

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงเล่าลือกันว่าหวงตี้จู่ๆ ก็มีพระพลานามัยที่แข็งแรงสดชื่นขึ้นผิดไปจากแต่ก่อนแพร่ไปทั่ววังหลวง จนไปเข้าหูหมอหลวงในสำนักหมอหลวงหลายคน หัวหน้าหมอหลวงทนความคับข้องไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปากถามขณะที่เข้ามาตรวจสุขภาพให้โอรสสวรรค์ทุกเดือน

หวงตี้แม้จะทรงอยากเล่าให้ฟังเพียงใด ก็ไม่อาจตรัสออกไปได้ เนื่องจากติดสัญญาใจระหว่างพระองค์กับฟู่หยวนเพ่ย ว่านางจะขอดูแลสุขภาพของพระองค์อยู่เบื้องหลัง ไม่อยากจะแสดงตัว ซึ่งพระองค์ก็รับปากไปแล้ว เขาว่าผู้เป็นเจ้าคนนายคนตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำ

ทว่าคนที่หวงตี้ไม่อาจปิดบังได้ กลับเป็นอนุชาเพียงผู้เดียวของพระองค์ ฉู่หวาง จื่อหาน เขาเห็นว่าช่วงนี้เชษฐาของเขาดูกระฉับกระเฉง จนกระทั่งหลังจากหารือราชกิจเสร็จสิ้น หวงตี้จึงชวนฉู่หวางมาฝึกซ้อมกระบี่ด้วยกัน

ท่ามกลางอากาศหนาวของช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิในลานฝึกหลวง เสียงกระบี่ไม้กระทบกันอย่างรวดเร็วรุนแรง แม้จะเป็นการปะทะกันเพื่อทดสอบฝีมือก็ตาม หวงตี้ใช้ทักษะกระบี่ที่รวดเร็วว่องไวเข้าหาญหัก ในขณะที่ชายหนุ่มอีกคนใช้กระบี่ปัดป้องได้อย่างทันท่วงที พลันกระบี่เปลี่ยนทิศหมายฟาดตัดเข้าที่เอวของเขา ทว่าอีกฝ่ายกลับกระโดดหลบได้ทันท่วงที จากนั้นจึงฟันตรงฟาดผ่ากระหม่อม หวงตี้รีบถอยเท้าหลบ ทำให้ปลายกระบี่เฉียดพระพักตร์ไปอย่างฉิวเฉียด ทั้งสองยิ้มให้กัน จากนั้นจึงประมือกันต่อประมาณสิบกระบวนท่าจึงหยุดลง

เหงื่อผุดพรายทั่วร่าง ไอร้อนบางๆ ระเหยจากร่างทั้งสองด้วยผลจากการออกกำลังกลางอากาศหนาว ยิ่งเห็นดังนั้น ฉู่หวางยิ่งสงสัย จึงเอ่ยถาม

“กระหม่อมดูแลเรื่องสมุนไพรใหม่ที่เข้ามาในวังหลวงโดยตลอด แต่ไม่มีสมุนไพรตัวใดที่กินแล้วสามารถทำให้เป็นเช่นนี้ได้ หรือว่ามีใครลักลอบนำยาประหลาดมาให้เสด็จพี่เสวยหรือไม่”

“ไม่มี” หวงตี้เพียงส่ายพระพักตร์เล็กน้อย

“อ้อ ยังมี...การเคลื่อนไหวของเสด็จพี่ก็เฉียบคมขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นเช่นนั้น ถ้ามิใช่ยาวิเศษแล้วจะเป็นอะไรได้อีก”

โอรสสวรรค์เงยพระพักตร์ขึ้นมองแล้วตรัสตอบ “ไม่ใช่ยาวิเศษใดๆ แต่เป็นเหลียงเจียผู้หนึ่ง”

“เหลียงเจีย?” ฉู่หวางเลิกคิ้ว “ที่แท้เสด็จพี่ก็ได้บุปผางามไว้เชยชมอีกหนึ่งดอกนี่เอง”

อีกฝ่ายส่ายหน้า “ข้ากับนางเรายังไม่ได้มีอะไรกัน”

“...แล้ว”

“นางชาญฉลาดที่รู้จักหาวิธีที่ไม่ต้องถวายตัว” หวงตี้ทรงพระสรวลเบาๆ อีกฝ่ายยิ่งฟังยิ่งงุนงงอึ้งงัน การถวายตัวก็เหมือนกับปลาที่ขึ้นเขียง ไม่อาจรอดได้ แล้วนางใช้วิธีใดรักษาความบริสุทธิ์ของตนเองเอาไว้

ถ้าเกิดว่าสักวันได้พบกัน เขาคงต้องถามเพื่อประดับความรู้เสียหน่อยแล้ว...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 98

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ด้วยอายุครรภ์เพียงแปดเดือน ชายาของฉู่อ๋องคนปัจจุบัน ก็คลอดบุตรคนสุดท้องออกมาในอีกสองวันต่อจากนั้น หนึ่งเดือนให้หลังประมุขสี่สกุลต่างมาร่วมแสดงความยินดี แม้แต่ประมุขเผ่าซีเซี่ยอย่างเค่อตัว และ พระชายาจินซาก็มาด้วย เค่อตัวท่าทีผึ่งผาย ในอ้อมแขนมีหมิงจูตัวน้อยวัยสองเดือนนอนหลับฝันห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 97

    หลายเดือนผ่านไป เผ่าซีเซี่ยก็มีข่าวดี ชายาของข่านซีเซี่ยได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนสุดท้อง เนื่องจากเกิดในช่วงอรุณรุ่ง ดวงอาทิตย์งดงามดั่งไข่มุกเหนือท่าสัตตบงกช เค่อตัวจึงตั้งชื่อเด็กหญิงตัวน้อยว่า หลัวหมิงจู หยวนเพ่ยได้ยินครั้งแรกก็อดชื่นชมไม่ได้ว่าเค่อตัวนั้นพอแก่ตัวลงพรสวรรค์ในการตั้งชื่อนั้นกลับแหลมคม

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 96

    หลังจากพักผ่อนอิริยาบถอยู่ที่ศาลาริมน้ำอยู่จนถึงบ่ายคล้อย สมาชิกทั้งหมดของฉู่หวางและข่านซีเซี่ยต่างยกโขยงไปที่เหลาที่ได้สัญญากับเจ้าของร้านไว้เพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างครึกครื้นสุขสันต์ แม้มีบางคราที่เด็กๆต้องรั้งไม่ให้เค่อตัวเอาแส้ไล่ฟาดหยวนเพ่ยเพราะโดนแดกดัน กับรั้งตั

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 95

    เมื่อมาถึงหน้าประตูสกุลเจียง ครอบครัวของฉู่หวังที่ประกอบด้วยสมาชิกสี่คนก็ต้องพบกับประมุขแห่งเผ่าซีเซี่ยยืนรอเขาอยู่แล้ว ท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่องใส่ฉู่หวางมาแต่ไกลจนนึกจะทำอย่างไรก็ได้ให้คนๆนี้ไปให้พ้นๆหน้า"ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึง ระหว่างทางมานี้พวกเจ้าได้กินข้าวต้มกับน้ำแกงรากบัวที่ข้าตั้งโรงทานเอาไว้ห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 94

    เมื่อสองผู้สูงศักดิ์ได้ผลแน่ชัดแล้วว่า ฟู่หยวนเพ่ย ชายาของฉู่หวางที่เป็นพระอนุชาคู่พระทัยของฮ่องเต้ จินซา ชายาของข่านซีเซี่ยผู้ทรงอิทธิพลในเส้นทางสายไหมคนปัจจุบัน ทั้งสองต่างตั้งครรภ์ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน บรรยากาศทั้งสองสำนักนับได้ว่าชื่นมื่นอย่างยิ่งหยวนเพ่ยตั้งครรภ์เข้าเดือนสี่ นับว่าครรภ์แข็ง

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 93

    ท่ามกลางความวุ่นวายจอแจในห้องเล็กๆนั้น เด็กสาวคนหนึ่งเพียงนั่งเท้าคางมอง ท่าทีสบายๆกึ่งเกียจคร้านอย่างยิ่ง แต่ก็มิทำให้ความงามของนางลดน้อยถอยลง ซินฉีที่เพิ่งว่างจากการจดบันทึกเดิมพัน(?) โดยทิ้งให้จื่อซินกับซูเฟยเดินทางไปยังที่พำนักของข่ายซีเซี่ยในเมืองหลวง จึงค่อยๆเบียดกระแซะเข้าไปหา "อาเหยา อาเหยาค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status