Share

5 หมาป่าตัวโตแห่งต้าหลาง (4)

last update Huling Na-update: 2025-06-17 11:39:48

ดวงตาคมกริบมองสตรีตรงหน้า แม้นางจะดูผิดแผกจากผู้คนทั่วไปทว่ากลิ่นกายสาวและเลือดเนื้อที่ส่งไออุ่นมาได้สร้างความรัญจวนให้แก่เขาอย่างประหลาด หรือจะเป็นนางผู้นี้ที่มารดาอยากให้เขาตามหา

“อ๋องชิงซาน...สตรีเช่นข้ามีหน้าที่ส่งข่าวเพียงเท่านี้ หากต้องการรักษาชีวิตคน จงถอยทัพออกไปหนึ่งร้อยลี้ เช่นนั้นข้าจะส่งคืนชายผู้นั้นแก่ท่าน”

มู่ชิงซานคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดที่กล้าล่วงเกินตน และนางยังจงใจพ่นลมหายใจประหลาดออกมาจากจมูกใหญ่โตไม่หยุด ซึ่งไม่แน่ว่ามันอาจมีพิษร้ายซ่อนอยู่

“หากอดีตฮ่องเต้แคว้นหมิงแสดงความกล้าหาญได้สักเสี้ยวหนึ่งของเจ้า ข้าคงมีสิ่งให้กระทำมากกว่านี้”

หญิงสาวโกรธเหลือเกิน หากปั้นสีหน้าเรียบเฉยด้วยไม่อยากให้เขาเห็นถึงความกลัวและอ่อนแอ

“แล้วเจ้าจะเสนอสิ่งใดเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับเจ้าของป้ายหยกนี้”

ฟ่านรั่วเจี๋ยอมยิ้มน้อยๆ ดวงตาคู่สวยหวานเกิดประกายขึ้น

“ถอยทัพของท่านออกไปหนึ่งร้อยลี้ และข้าจะส่งบุรุษรูปงามคืน” นางย้ำคำเดิมด้วยเสียงหนักแน่น

“ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าเจ้าไม่เล่นกลอันใด มารยาหญิงเชื่อถือได้หรือ โดยเฉพาะสตรีที่มีรูปโฉมเยี่ยงตัวประหลาด”

ฟ่านรั่วเจี๋ยใช้เวลาตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ความบริสุทธิ์ของข้า คือข้อยืนยันว่าคำพูดทั้งหมดนี้เชื่อถือได้”

ดวงตาคมกริบหรี่มองสตรีตรงหน้า

“ฮ่าๆ เจ้ากำลังล้อข้าเล่น” ชายหนุ่มหัวเราะด้วยเสียงน่าเกลียด

“เปล่าเลย...ความบริสุทธิ์ของข้ามีไว้ให้สำหรับผู้ชายที่คู่ควร” นางยังย้ำด้วยถ้อยคำเดิม

“ฮ่าๆ ฉะนั้นข้ามิบังอาจพรากมันมาจากเจ้าหรอก มิมีวัน” เขากล่าวด้วยเสียงหนักแน่น แจ้งเจตนาตน

“ข้าจะจดจำถ้อยคำนี้ไว้ เมื่อใดที่ท่านคืนคำ สตรีแซ่ฟ่าน...จะทำให้ท่านกระอักออกมาเป็นเลือด!” เมื่อนางเอ่ยจบจึงเตรียมผละจากเขา

“เจ้าคิดว่าจะไปจากข้าได้ง่ายๆ เยี่ยงนั้นรึ”

ฟ่านรั่วเจี๋ยอมยิ้มน้อยๆ จากนั้นจึงชี้ให้เขามองด้านหลัง ยามนั้นมีควันไฟลอยขึ้น ต่อมามีเสียงเป่าเขากวางส่งสัญญาณเตือนภัยของทัพต้าหลาง

“จงอย่าลืมถอยทัพของท่านออกไปหนึ่งร้อยลี้ แล้วจะได้บุรุษผู้นั้นกลับคืน”

มู่ชิงซานมองหน้าหญิงสาวอีกครั้งอย่างพินิจ สตรีแซ่ฟ่านผู้นี้สร้างความฉงนแกมขวัญลุกให้เขาโดยแท้ อีกทั้งยังมีใจกล้าที่โยนเงื่อนไขให้เขาถอยทัพห่างจากกำแพงแคว้นหมิง

“เจ้ามั่นใจในสิ่งที่กล่าวออกมาเพียงใด”

“ชินอ๋อง คำพูดนี้สามารถพิสูจน์ด้วยความบริสุทธิ์ของฟ่านรั่วเจี๋ย”นางเอ่ยอย่างเป็นปริศนา และครานี้มู่ชิงซานไม่นึกขำสักนิด

หญิงสาวลูบหน้าอกตนเองไปมา อีกทั้งพยายามเรียกขวัญของตนเองกลับคืน เมื่อครู่นางตื่นเต้นจนแทบควบคุมสติไม่ได้ อีกทั้งกลัวเหลือเกิน ทว่าจะให้ทำเช่นไร ในเมื่อคนที่อยากพบหน้ากลับไม่พบ แต่ศัตรูที่อยากตัดศีรษะเอาเลือดชั่วๆ มาล้างเท้าจู่ๆ ก็ปรากฏตัวโดยมิได้คาดคิดมาก่อน บุรุษแซ่มู่และนางได้เผชิญหน้าเขาแล้ว เช่นนี้นับว่าไม่เสียชาติเกิด!!

ฟ่านรั่วเจี๋ยก้าวเข้าไปในซอกหินเล็กๆ นางวิ่งลัดเลาะไปอย่างรวดเร็วกระนั้นในหัวยังเห็นใบหน้าของปีศาจกระหายสงครามฉายซ้ำไปมา ชายผู้นั้นถูกขนานนามว่าเป็นหมาป่ารัตติกาล เขาสูบกินเลือดมนุษย์ เรือนกายสูงใหญ่กว่าคนธรรมดา แต่ทว่าตัวจริงๆ ของเขายามหายใจรินรดกันกลับไม่ได้ดูน่ากลัวหรือชวนให้ขวัญหนีดีฝ่อสักเท่าไร อีกทั้งรูปงามมาก มากเสียจนนางรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณท้องน้อย

ชายผู้นี้คือมู่ชิงซานจริงหรือ ไฉนเขาถึงได้งามจนน่าหลงใหล นางรำพึงรำพันในใจ พลางพยายามเตือนสติตนเองมิให้เผลอไผลไปกับกลิ่นอายบุรุษ!แถมเป็นบุรุษชั่วใจโฉดที่คิดจะรุกรานแผ่นดินผู้อื่น

สองขาของนางก้าวไปได้อีกเล็กน้อยจึงพบกับกองกำลังของเกาเจียว-หั่ว หนุ่มวัยฉกรรจ์ที่ตั้งแต่เกิดมานางก็เรียกเขาว่า ‘พี่หั่ว’ และชอบเล่นสนุกกับเขาเรื่อยมา ด้วยชายหนุ่มเป็นลูกของอำมาตย์เกา ซึ่งสมัยก่อนได้ให้ความช่วยเหลือมารดาฟ่านรั่วเจี๋ยอยู่เนืองๆ กระทั่งฝ่ายนั้นสิ้นลมหายใจไปแล้วเขายังยื่นมือมาดูแลสตรีผู้อับโชคคนนี้ด้วยความมีเมตตา

เมื่อเข้าไปใกล้กองกำลังเกาเจียวหั่ว นางจึงใช้ผ้าผืนหนึ่งพันใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้เพื่ออำพรางผู้อื่น น้อยคนนักที่จะไม่ตกใจเมื่อเห็นจมูกของนาง อีกทั้งรูจมูกเมื่อมองแล้วก็สร้างเสียงหัวเราะขบขัน ซึ่งมิผิดหรอกหากใครจะล้อเลียนนางว่า ‘แม่หมู’ คิดถึงคำพูดนั้นแล้ว ฟ่านรั่วเจี๋ยก็นึกแค้นใจต่อคนแซ่มู่!!

กระทั่งเข้าไปใกล้แนวกำแพงเมืองนางก็ส่งสัญญาณให้แก่เกาเจียวหั่วเวลาผ่านไปราวหนึ่งก้านธูปดับ แม่ทัพหนุ่มของแคว้นหมิงก็ยิ้มกว้างอวดฟันขาวมาอยู่ตรงหน้านาง

“อาเจี๋ย เจ้าซุกซนอีกแล้วใช่หรือไม่”

“พี่หั่ว ข้าจะทำเช่นนั้นได้หรือ รู้ไหมข้าต้องเสี่ยงภัยสักเพียงใด แต่นับว่าทุกอย่างยังเข้าข้างเรา ชายผู้นั้นจู่ๆ ก็ปรากฏตัวให้ข้าเห็น ตอนนี้ข้าได้สั่งให้เขาถอยทัพลูกหมาห่างออกไปหนึ่งร้อยลี้แล้ว” หญิงสาวกล่าวอย่างอวดอ้าง พลางนึกถึงใบหน้าของมู่ชิงซาน คนอย่างเขาให้ดีก็แค่ชอบขู่ ให้กัดจริงคงไม่กล้า!

“เจ้าหมายถึงทหารเลวของต้าหลาง”

“มิผิด รู้หรือไม่ ข้าจับตัวน้องชายของชินอ๋องชิงซานเอาไว้ เขาย่อมไม่อยากให้น้องชายผู้อ่อนแอสิ้นลมหายใจในมือของข้า”

แม่ทัพหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น เขายังตามฟ่านรั่วเจี๋ยไม่ทัน นางเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเล่าเรื่องต่างๆ อย่างรวบรัดให้เขาฟัง

“ข้าออกมาเก็บสมุนไพร และตั้งใจไปสืบเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในวังอีกทั้งได้ข่าวว่าองค์หญิงใหญ่กำลังไม่สบายใจ นางถูกบีบบังคับให้ไปรับใช้...ปีศาจสงครามชิงซาน” ฟ่านรั่วเจี๋ยหมายถึงฟ่านเยี่ยฉี สตรีที่เป็นของกำนัลจากสวรรค์ นางเลอโฉมหาผู้ใดเทียบได้ เปรียบเสมือนสิ่งล้ำค่าของแคว้นหมิง

“มันช่างเหิมเกริม ไอ้ลูกหมาชิงซานตั้งใจลบหลู่เกียรติพวกเรา องค์-หญิงใหญ่คือไซซีแห่งแผ่นดินหมิง ไฉนจะทำตัวเป็นของเล่นคนแซ่มู่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจฟ่านรั่วเจี๋ยสั่นไหว นางอดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมิได้ ผู้ชายทุกคนล้วนเห็นความงามของฟ่านเยี่ยฉีสำคัญต่อแผ่นดิน ส่วนสตรีที่อยู่ตำหนักด้านหลังวังกลับไร้ผู้เหลียวแล ถึงเก่งกาจเพียงใด แต่ในสายตาผู้ชาย ฟ่านรั่วเจี๋ยย่อมเป็นรององค์หญิงใหญ่ ใช่ เรื่องนี้นางรู้และเข้าใจ ผู้คนย่อมมองสตรีที่ภายนอก กระนั้นฟ่านรั่วเจี๋ยก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าเกาเจียวหั่วจะไม่เหมือนคนอื่น!

“เช่นนั้น ข้าจึงสั่งให้เขาถอยทัพออกห่างจากกำแพงเมือง”

“ทุกอย่างมันง่ายดายเช่นนั้น?”

ฟ่านรั่วเจี๋ยรู้ว่าแม่ทัพหนุ่มไม่ใช่คนเฉลียวฉลาด แต่เขานับว่าเป็นบุรุษองอาจและกล้าหาญ อีกอย่างใครที่ได้ฟังนางกล่าวคงนึกประหลาดใจอยู่หลายส่วนที่หมาป่ารัตติกาลจะยกทัพถอยไปง่ายๆ

“ใช่ พี่หั่วฟังไม่ผิด ตอนนี้ในพวกทหารเลวของต้าหลางกำลังได้รับพิษบางอย่าง พิษที่จะค่อยๆ แทรกซึมทำให้พวกมันต้องถอยร่นไปจากกำแพงเมืองเรา” ซึ่งเรื่องนี้ฟ่านรั่วเจี๋ยได้รับการช่วยเหลือจากคนผู้หนึ่ง เขาตัดขาดความวุ่นวายของวังหลวงไปหลายปี กระนั้นเขาก็ยังรักบ้านเมือง ไม่คิดปล่อยให้ศัตรูบุกมาทำลายแผ่นดินเกิด

หัวคิ้วเข้มๆ ที่หนาและยุ่งอยู่สักหน่อยของเกาเจียวหั่วขมวดเข้าหากัน ดวงตาเรียวมองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนเอ่ยเสียงขึงขังเจือด้วยคำตำหนินาง “แคว้นหมิงย่อมไม่เล่นสกปรกในการศึก หากกระทำเช่นนั้นนับว่าไร้ศักดิ์ศรี”

“พี่หั่ว ข้าเป็นสตรีที่แผ่นดินหมิงทิ้งไว้ให้อยู่เบื้องหลัง เป็นคนที่ใครๆอยากลืม แม้แต่หน้าก็ไม่คิดมอง ฉะนั้นย่อมไร้เกียรติอันใด การช่วยให้ท่านเอาชนะมู่ชิงซานด้วยวิธีสกปรกเช่นนี้ นับว่าสมควรที่เขาจะได้รับบทเรียนที่คิดชั่วต่อบ้านเมืองเรา”

เกาเจียวหั่วส่ายศีรษะ แล้วถอนหายใจติดกันอีกหลายหน

“เวรกรรมหนอเวรกรรม เจ้าก่อเรื่องใหญ่โตอีกแล้วอาเจี๋ย!!”

มู่ชิงซานกลับมาถึงกองทัพของตนและหยวนซาง ผู้สงบนิ่งเป็นวิสัยมาโดยตลอดมีสีหน้าไม่สู้ดี อีกทั้งเดินรอบกระโจมเป็นวงกลมราวกับถูกมดรุมกัด

“หากยังไม่หยุดก้าว ข้าจะสั่งทหารตัดขาทั้งสองข้างของเจ้าเสีย”

กุนซือหนุ่มถอนหายใจหลายเฮือก สถานการณ์ตอนนี้สุ่มเสี่ยงมากอีกทั้งเขาต้องหาวิธีแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นโดยด่วน

“โถ ชินอ๋อง เรื่องนี้มันเป็นภัยที่พวกเราไม่รู้จัก และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คราแรกนึกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่เหตุใดทหารจึงได้และเสียชีวิตนับร้อย!”

ผู้นำทัพต้าหลางขบกรามแน่น เขาพยายามคาดเดาไปต่างๆ นานากระทั่งภาพสตรีผู้นั้นปรากฏขึ้นในหัว สิ่งนี้เป็นลางบอกเหตุใช่หรือไม่ มู่ชิงซานอยากไขคำตอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

“แคว้นหมิงอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผัก ผลไม้ และเพาะปลูกได้ดี”

“ข้ารู้!” มู่ชิงซานตอบกลับด้วยสุ้มเสียงหงุดหงิด

“เป็นเช่นนั้น และยังมีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย ที่สำคัญ...” หยวนซางเว้นจังหวะเล็กน้อย พลางยกมือลูบเนื้อตัวตนเอง

“เจ้าต้องการกล่าวถึงสิ่งใด”

“สมุนไพรบนแผ่นดินเล็กๆ นี้คือสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมายกลุ่มหมอตำแยมักดั้นด้นมาที่นี่ เพื่อค้นหาวัตถุดิบชั้นเลิศเพื่อปรุงยา ทั้งรักษาผู้คนและวางยาให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”

“เหลวไหล เรื่องเหล่านี้มีแต่เขียนไว้ในนิทานหลอกเด็ก”

“หามิได้ชินอ๋อง ครั้งหนึ่งฮ่องเต้แคว้นหมิงได้สั่งจับตัวหมอยาและหมอตำแยมากมาย เพื่อสืบค้นถึงยาลับของสกุลหนึ่งที่ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่ายาพิษชนิดนี้ยังคงมีอยู่ และได้รับการสืบทอดถึงลูกหลานมาจนถึงทุกวันนี้”

“ฮ่าๆ เจ้ากำลังหมายความว่า ทหารต้าหลางถูกมือชั่วลอบวางยางั้นรึ”

“ย่อมเป็นเช่นนั้น และการคาดการณ์ของข้าย่อมไม่ผิด” หยวนซางตอบ

“ฮึ คนชั่วช้าทำเรื่องบัดซบเช่นนี้ ย่อมเป็นชาวหมิง”

หยวนซางปั้นสีหน้ายุ่งยากใจ แล้วกล่าวตอบคนเป็นนายของตนว่า“ถ้าหากผู้ที่กระทำการดังกล่าวเป็นคนของต้าหลางเสียเอง ชินอ๋องจะสั่งตัดหัวพวกเขาหรือไม่!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    121 ตอนพิเศษ 2 (จบ)

    ฟ่านรั่วเจี๋ยมองเรือนทานตะวันแล้วคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นยามนี้นางมีทุกสิ่งที่ต้องการ ถึงแม้อดีตจะแก้ไขไม่ได้ แต่นางไม่ใช่สตรีอัปลักษณ์ที่อยู่ในตำหนักเย็นอย่างเดิมอีกต่อไป มารดานางคือองค์หญิงหรงจื่อแห่งแคว้นฉีเฟิงที่ล่มสลายลง ในบันทึกสำนึกความผิดที่นางได้อ่าน มารดาไม่ได้เขียนถึงความเจ็บแค้นต่อผู้ใด หากเล่าถึงบ้านเมืองที่จากมารวมถึงการปลูกสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้“เจี๋ยเจี๋ยอยากให้สามีกระทำสิ่งใดเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของมารดาเจ้าหรือไม่”ฟ่านรั่วเจี๋ยยิ้มแล้วตอบเขาว่า“ข้าคิดว่าความตั้งใจของท่านแม่คือได้ใช้ชีวิตอย่างสงบและช่วยเหลือผู้คน ตำรับยาต่างๆ ที่ข้าได้เรียนรู้อาจไม่ใช่การปรุงยาชั้นเลิศ แต่มันกลับช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย และสิ่งที่ต้องการของท่านแม่หาใช่การแก้แค้นหรือคิดกอบกู้ชาติที่ล่มสลายไปให้คืนกลับมาอย่างที่ข้าเคยเข้าใจ ในความจริงเมื่อวันเวลาเปลี่ยนผู้คนก็เปลี่ยน หลายชีวิตล้มหายตายจาก บ้างได้รับกรรมของตน บ้างสุขสบายมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ผู้ใดก่อกรรมไว้อย่างไรคงหนีไม่พ้น เช่นนี้ข้าคงต้องปล่อยให้แต่ละคนรับผลการกระทำของตนเอง น่าจะเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    120 ตอนพิเศษ (1)

    ตอนพิเศษสองใจรวมเป็นหนึ่ง ผมขาวไม่ทอดทิ้งมู่ชิงซานใช้เวลาที่เมืองหลวงต้าหลางไม่นานนัก กระนั้นเด็กฝาแฝดทั้งสองคนก็ได้มีเวลาเที่ยวเล่นจนเป็นที่พอใจ แต่ดูเหมือนคนเป็นบิดาจะไม่ได้ทำหน้าที่แม่ทัพใหญ่เท่าที่ควร ทั้งที่ฮ่องเต้กับฮองเฮาส่งเทียบเชิญมาให้เขาหลายฉบับ แต่ชายหนุ่มเมินเฉย และให้หยวนชางจัดการธุระต่างๆ แทนส่วนตัวเขาเอาแต่อยู่ในเรือนทานตะวัน และหาเรื่องกินฟ่านรั่วเจี๋ยไม่หยุด“เจี๋ยเจี๋ย...อีกนานกว่าข้ากับเจ้าจะได้กลับมาที่นี่ ฉะนั้นเราควรใช้เวลาอย่างเต็มที่ เมื่อจากไปจะได้ไม่คิดเสียดาย”ฟ่านรั่วเจี๋ยมองสามีตัวโต ผู้ชายอย่างเขาพอได้คืบก็จะเอาศอก ตอนแรกที่นางคลอดสองแฝดใหม่ๆ เขาไม่ยอมร่วมเตียงด้วย ทว่าเมื่อนางเปิดโอกาสให้กินปากกินเต้าหู้นาง เจ้าเป็ดน้อยก็กลายร่างเป็นหมาป่าจอมตะกละ“เยี่ยงนั้นอ๋องซานจงออกไปชื่นชมต้นไม้ สวนหิน และน้ำตกจำลองสิเหตุใดถึงเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมภรรยาอยู่เช่นนี้”“มิได้ ข้าหมายถึงการอยู่ด้วยกันสองต่อสองในเรือนทานตะวันอันหอมหวานอย่างไรเล่า หาใช่ออกไปสูดอากาศข้างนอก”ฟ่านรั่วเจี๋ยอมยิ้มอย่างรู้ทันสามี คนอย่างเขาเมื่อตั้งใจจะกระทำสิ่งใดหากให้ล้มเลิกความคิดย่อมเป็นไปไม

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    119 เนื้อแท้ของสตรีอัปลักษณ์ (2)

    “ต่อแต่นี้ท่านจะทำเยี่ยงใด” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยถามเขา“แผ่นดินกว้างใหญ่ คนอย่างข้าย่อมไม่อับจนหนทาง” มู่หรูซื่อยังกล่าวด้วยความหยิ่งทะนง จากนั้นจึงใช้ไม้เท้าพยุงตัวก้าวห่างฟ่านรั่วเจี๋ย“อย่างไรขอให้ท่านอย่าได้ใจร้ายต่อนาง” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยตามหลังมู่หรูซื่อ แต่แรกนางอยากช่วยฟ่านเยี่ยฉีให้หายจากอาการคุ้มดีคุ้มร้าย แต่พอคิดว่าหากอีกฝ่ายได้สติกลับคืน นางคงต้องเจ็บปวดและทุกข์อย่างสาหัสกระนั้นนางก็มิอาจปล่อยให้พี่สาวต่างมารดาเผชิญชีวิตอย่างลำบาก จึงไหว้วานองครักษ์ผู้หนึ่งคอยติดตามความเป็นไปสองคนนี้อยู่ห่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ“ฮ่าๆ นางปีศาจจิ้งจอกผู้นี้เป็นภรรยาของข้า เยี่ยงนั้นข้าย่อมปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ”เมื่อมู่หรูซื่อกล่าวจบ ฟ่านเยี่ยฉีจึงเอ่ยเสียงราวกับเด็กน้อย“หนอน...นะ...นั่นหนอนกู่!”ฟ่านเยี่ยฉีมองผีเสื้อตัวโตซึ่งมันบินมาอยู่ใกล้ๆ นาง จึงตั้งท่าจะกระโดดจับเอาไว้ แต่มู่หรูซื่อส่งเสียงเข้มตวาดใส่ หญิงสาวเลยกลัวจนตัวสั่น“ในที่สุดนางก็ได้พบมัน แต่ทุกอย่างคงสายเกินไป” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยและมองผีเสื้อที่นางเลี้ยงดูตั้งแต่เป็นนางพญาหนอนกู่จนวันนี้มันกางปีกสวยงาม พร้อมออกไปใช้ชีว

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    118 เนื้อแท้ของสตรีอัปลักษณ์

    เนื้อแท้ของสตรีอัปลักษณ์เซี่ยเหยียนยืนอยู่ที่ลานวัด นางปลาบปลื้มใจเมื่อเห็นหลานฝาแฝดหญิงชาย จูหว่านต้านเทียนเป็นเด็กน่ารัก อีกทั้งใบหน้าและอากัปกิริยาเดินเหินล้วนทำให้ผู้มองมีความสุข“ซานเอ๋อ เจ้าเป็นเด็กใจร้ายต่อแม่ไม่เปลี่ยน” เซี่ยเหยียนเอ่ยจบแล้วต้องหัวเราะอีกคราเมื่อจูหว่านส่งยิ้มให้นาง พร้อมมอบขนมแป้งทอดไส้ไก่สับหน่อไม้ให้ด้วยชิ้นใหญ่ โดยไม่รู้ว่าตั้งแต่มาอยู่บนวัดแห่งนี้ คนเป็นย่ากินเจและถือศีลอย่างเคร่งครัด เซี่ยเหยียนตั้งใจมั่นว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวังหลวงอีก ดังนั้นยามนี้เซี่ย-เหยียนจึงมีฐานะเป็นเพียงสามัญชน “หลานย่าช่างมีจิตใจดี” นางว่าแล้วจึงลูบผมเด็กหญิงซึ่งตัวโตกว่าน้องชาย ทั้งแข็งแรง เสียงพูดดังกังวาน ท่าทางแม่นางน้อยเฉลียวฉลาด ดูเป็นผู้นำเกินวัย ซึ่งกล่าวไปแล้วหากจูหว่านจะเอาดีทางด้านการทหาร มู่ชิง-ซานคงสนับสนุนนางอย่างไม่คัดค้าน “ท่านย่า ข้ามีของมาฝากเช่นกัน” เด็กชายว่าแล้วจึงส่งปิ่นไม้ปักผมให้เซี่ยเหยียน มันเป็นปิ่นที่เขาซื้อมาจากมู่หรูซื่อนั่นเอง“หลานชายช่างเอาใจสตรีเก่ง” เซี่ยเหยียนว่าและจับปิ่นไม้พลิ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    117 พ่ายแพ้เพราะตัวเจ้าเอง (3)

    กระทั่งนางกัดเขาที่แก้มจนมู่หรูซื่อร้องโอดโอย ด้วยเลือดเขาไหลทะลักออกมา“นังบ้า!” มู่หรูซื่อเมื่อได้แผลเหวอะหวะจึงบันดาลโทสะ ทั้งตบทั้งถีบฟ่านเยี่ยฉีเท่าที่แรงเขาพอมี แต่มันไม่อาจทำให้นางได้รับอันตรายรุนแรงด้วยชายหนุ่มไร้วรยุทธ์ อีกทั้งแรงของเขายังน้อยกว่านาง“จะ...เจ้าจะทำอะไรลูกของเรา”ฟ่านเยี่ยฉีเอ่ยจบก็เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้ นางมองมายังต้านเทียนเห็นเด็กชายมีใบหน้าคล้ายมู่หรูซื่อหลายส่วน อีกทั้งในแววตาเขาดูคล้ายบิดาของนางเหลือเกิน ซึ่งเต็มไปด้วยความสดใสและอบอุ่น“ลูกแม่...” นางเอ่ยจบจึงกวักมือเรียกต้านเทียนให้เข้าไปหา“ท่านจำคนผิดแล้ว” ต้านเทียนตอบ กระนั้นยังก้าวไปใกล้ๆ นางและพยายามปลอบใจฟ่านเยี่ยฉี“ช่างเป็นคนที่น่าสงสาร ท่านเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่” เด็กชายถามฟ่านเยี่ยฉี“แม่ไม่เป็นอะไร” นางว่าจบก็จับที่ท้องของตน พลางย้อนคิดถึงภาพความหลังที่เหมือนกับฝันร้ายยาวนานหลังจากถูกอี๋เซียงจับตัวไป นางถูกตัดหู กรีดหน้าจนตาข้างหนึ่งถลนออกมา สุดท้ายมันเน่าจนต้องควักทิ้ง พอนางฟื้นได้สติอีกครั้งก็รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ แต่ความยากลำบากที่ต้องหลบหนีศัตรูมากมายทำให้นางแท้งจากนั้นจึงกลายเป็นหญิงเสี

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    116 พ่ายแพ้เพราะตัวเจ้าเอง (2)

    จางหมิ่นไม่คิดว่าเมื่อครู่ที่ออกตามหาหมูแคระให้จูหว่านจะทำให้ต้านเทียนหายตัวไป แต่เมื่อหาเด็กชายอยู่เกือบชั่วหนึ่งก้านธูปดับ ก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ชอบมาพากล อีกทั้งเหล่าองครักษ์ยังมารายงานว่า คุณชายน้อยอาจถูกใครบางคนลักพาตัวไปเมื่อมู่ชิงซานทราบข่าวเขาไม่ได้ตำหนิใคร เพียงแต่ให้กระจายกำลังตามหาลูกชาย ส่วนจูหว่านที่ก่อเรื่องนางเอาแต่นิ่งเงียบ ด้วยรู้ว่าบิดากับมารดากำลังร้อนใจเรื่องต้านเทียนฟ่านรั่วเจี๋ยสังหรณ์ใจไม่ดี กระทั่งนางเดินไปตามตรอกเล็กๆ ก็ได้ความว่ามีคนเห็นต้านเทียนถูกคนขายเครื่องประดับที่แต่งตัวเหมือนขอทานพาตัวไป“ท่านยายมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด”“แน่นอน ข้ากับหลานเห็นเต็มสองตา คนพวกนั้นเหมือนขอทานเร่ร่อนตอนแรกจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาไล่แล้ว แต่เห็นว่าภรรยาของเขาน่าเวทนา ข้าเลยยอมให้นั่งขายของใกล้ๆ กัน”“พวกเขามีหน้าตาและแต่งตัวเช่นไร”หญิงชราเล่ารายละเอียดที่นางพบเห็นให้ฟ่านรั่วเจี๋ยฟัง และเมื่อรับรู้หญิงสาวก็ใจหาย“เป็นพวกเขาจริงๆ แต่เหตุใดถึงได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนั้น”“เจี๋ยเจี๋ย...พวกเขาก่อกรรมมามิน้อย เจ้าสงสารได้แต่อย่าใจอ่อนให้อีก มิเช่นนั้นอาจเป็นเจ้าที่ต้องถูกพวกเขาทำร

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status