แชร์

บทที่ 5 สวยงามแต่มีหนาม

ผู้เขียน: นิพานัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-02 23:19:02

“ถ้วยฟูลงมานะเด็กดี...”

เจ้าสี่ขาส่งเสียงร้องหวานหูดูขี้อ้อน แต่ก็เหมือนว่าจะติติงเจ้านายอย่ามาออกคำสั่ง

แมวน้อยพันธุ์ไทยที่ภารัชชาเก็บมาเลี้ยง กำลังเดินนวยนาดอยู่บนขอบโต๊ะ พร้อมจะปัดทุกอย่างทิ้งให้พ้นทาง ถ้าหากนางแมวตัวเมียผู้นี้รู้สึกไม่ชอบใจ

“ถ้วยฟูอย่าปัดของแม่นะคะ” เธอทำเสียงดุ ก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มแมวสามสีตัวอวบอ้วน

ถ้าช้ากว่านี้เจ้าแมวสามสีอย่างถ้วยฟูนั้น คงจะปัดแจกันดอกไม้เธอร่วงระเนระนาดแน่นอน วิสัยแมวก็เป็นแบบนี้ แม้จะดูขี้อ้อนแต่ก็เอาแต่ใจและเย่อหยิ่งถือดีเป็นที่หนี่ง

“ม๋าว~”

“เด็กดี”

“มาว...”

ถ้วยฟูส่งเสียงร้องครืดครางให้ฟัง พลางเอาหน้ามาถูข้างแก้มภารัชชาอย่างออดอ้อน

พอกอดหอมเจ้าขนปุยจนมีพลังใจเต็มเปี่ยม เธอก็เตรียมตัวไปเปิดร้านดอกไม้ในช่วงแปดโมงเช้า แต่ยังไม่ทันจะเดินไปพลิกป้ายให้กลายเป็น OPEN ประตูก็ถูกผลักเข้ามาซะก่อน

“ยินดีต้อนรับค่ะ” น้ำเสียงสดใสทักทายลูกค้าคนแรกของวัน

เธอโปรยรอยยิ้มหวานล้ำบนใบหน้า แต่แล้วก็หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อได้สบสายตาเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงกำยำ

เจ้าของดวงตาสีดำทมิฬปรายตามองมา เขายกยิ้มมุมปากขณะกวาดสายตามองไปรอบบริเวณ สำรวจร้านดอกไม้ของภารัชชาที่ให้คนตามสืบว่าเธอรักนักหนาพลางๆ

รักถึงขั้นทุ่มเวลาอยู่กับดอกไม้ทั้งวัน หมอไป๋ก็แค่อยากมาดูให้เห็นกับตาตัวเอง ว่าที่ภรรยาของเขาเป็นคนนิสัยใจคอเช่นใด ปากคอเลาะร้ายแต่ชอบของสวยงามงั้นหรือ

“คุณไป๋...”

“ร้านสวยดีหนิ”

“คุณมาทำอะไรที่นี่ เรามีนัดลองชุดวันอาทิตย์นี่คะ”

ภารัชชาตื่นตระหนกเป็นลูกนกตื่นรัง ซ่งไป๋เหมือนเงาดำของปีศาจซาตาน ไม่ว่าจะเหยียบย่องก้าวย่างไปทางไหน ก็มีแต่จะรู้สึกอึดอัดราวกับมีสิ่งชั่วร้ายอยู่ใกล้ตัว

“ฉันก็แค่มาดูความเป็นอยู่ของเธอ อยากรู้ว่าร้อนเงินหรือมีอะไรกันแน่ ถึงได้เสนอตัวเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลซ่ง”

ในน้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งติดเย็นเยียบดูน่ากลัว แววตาสีคมเข้มสุดลึกล้ำทำภารัชชาประหม่ากลัว แต่เธอจะไม่ยอมโดนเขากดขี่ข่มเหงหรือเป็นของตายให้เขาเล่นแน่นอน

“ฉันไม่ได้เสนอตัวค่ะ บอกแล้วไงคะ ว่าฉันเองก็ค้านงานแต่งในครั้งนี้ไม่ได้เหมือนกับคุณ”

“แต่เธอดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรนะภารัชชา”

“อย่าตัดสินความทุกข์คนอื่นจากภายนอกเลยค่ะคุณไป๋”

ภารัชชาพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่าย เจอหน้ากันก็พาลมีแต่เรื่องให้ต้องปะทะฝีปากคารมอยู่ร่ำไป บางทีถ้าต่างคนต่างวางทิฐิหรือลดอคติลง อาจจะร่วมชายคาเรือนหอได้ดีก็ได้

“เราไม่มีทางรู้หรอกค่ะว่าคนๆ นั้นเจออะไรมาบ้าง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่เด็ดขาด ซ่งไป๋ยกยิ้มแต่ไม่พูดอะไรกลับมา เขาก้าวเชื่องช้าสำรวจดอกไม้นานาพรรณเพลินตา

“งั้นเหรอ ฉันไม่ควรตัดสินเธอสินะ”

“ไม่ว่าใครก็ตาม อย่าตัดสินเขาจากอคติของคุณเลย”

มนุษย์เราไม่มีทางอ่านผู้อื่นออก แม้แต่คนที่เดินสวนกันในวันธรรมดา เขาคนนั้นอาจจะแบกความทุกข์ไว้เต็มบ่าก็ได้

ตัวเธอเองก็เช่นกัน ในทุกค่ำคืนที่วันวิวาห์ใกล้มาถึง มันทำให้เธอข่มตาไม่เคยหลับเลยสักวัน การตัดสินใจก้าวขาเข้าไปในตระกูลซ่ง คงไม่ต่างจากเอาตัวเองไปตายดาบหน้า

คงจะโดนสามีจิกกัดด้วยถ้อยคำบั่นทอนจิตใจ แต่สุดท้ายก็ต้องร่วมหอลงโลงเพื่อให้กำเนิดทายาทเลือดบริสุทธิ์อยู่ดี

หมอไป๋คาดเดาได้ยากเกินไป การเผชิญหน้ากับเขามักสร้างความประหม่ามหาศาลให้ภารัชชา

เธอเองก็ต้องทิ้งทั้งชีวิตเพื่อแต่งงานกับเขา ชายในฝันหรือเจ้าชายขี่ม้าขาวมันก็คงมีเพียงแค่ในนิทานปรัมปราเท่านั้น

“ระวังนะคะ หนามของกุหลาบนั่นมัน...”

จึก

“คุณไป๋”

ภารัชชาเบิกตาโตอย่างตกใจ เธอจะเตือนเขาที่กำลังยื่นนิ้วไปแตะกุหลาบให้ระวัง แต่คงไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเขารีบชักนิ้วกลับแล้วมุ่นคิ้วนิ่วหน้าหัวเสียทันที

“เลือดออกไหมคะ” ร่างบางระหงเดินเข้าไปดูอาการ เธอจับมือเขาที่มีเลือดไหลจากจุดเล็กๆ อย่างลืมตัว

หมอไป๋หลุบตามองภารัชชานิ่งๆ เธอลืมตัวไปหรือเปล่าถึงได้ออกอาการเป็นห่วงเขาขนาดนี้ คิดว่าแค่หนามกุหลาบจะมีพิษร้ายแล่นเข้าสู่หัวใจหรือยังไงกัน

“รอตรงนี้นะคะ ฉันจะไปเอาอุปกรณ์ทำแผลให้”

“ไม่...”

“อย่าดื้อค่ะ รอตรงนี้ อย่าไปไหนนะ”

ไม่ใช่แค่ออกคำสั่ง แต่เธอยังทำตาดุใส่เขาอีกด้วย ก่อนที่จะเข้าไปเอากล่องอุปกรณ์ล้างแผลมาทำความสะอาดให้

ร่างสูงนั่งเกยที่ขอบโต๊ะตัวยาว ยื่นนิ้วให้ภารัชชาทำความสะอาด ถึงจะเป็นหมอแต่ถ้ามีคนทำให้ก็ดีเหมือนกัน

“ที่เขาเปรียบผู้หญิงอันตรายเหมือนกุหลาบคงจะจริง” อยู่ดีๆ ซ่งไป๋ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

สายตาคมคายคล้ายสังหารคนได้จ้องมองเธอ ใบหน้าเรียวรีได้รูปดูสวยเด่นเป็นสง่า แต่วาจาบางครั้งก็ไม่น่าภิรมย์ชวนตีให้มีน้ำโหขึ้นมา

“หมายความว่ายังไงคะ”

“เปล่า ฉันก็แค่เปรียบเปรยเธอกับเจ้านี่”

“หวังว่าคุณจะเปรียบเทียบฉันในทางที่ดีนะคะ”

หมอไป๋แค่นยิ้มมุมปาก ไม่ได้บอกว่าเปรียบเปรยเธอยังไง

ความงามของกุหลาบทั้งสวยและดึงดูดให้หลงใหล แต่สุดท้ายก็แฝงไปด้วยอันตรายอยู่ดี หนามแหลมพวกนี้คงเป็นสัญญาณเตือนว่าอย่าไว้ใจความสวยงามมากเกินไป

หญิงงามเองก็เช่นเดียวกัน...

“เสร็จแล้วค่ะ” เธอพูดขึ้น หลังจากปิดพลาสเตอร์ยาให้เขาเสร็จเรียบร้อย ลายการ์ตูนหมีน่ารักนี่แหละเหมาะกับเขาดี

“เธออยากมีชีวิตแบบนี้จริงเหรอ”

“คะ”

“ชีวิตในกรงทองของแม่เธอ...”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 18 แมวเธออ้วนมาก

    เช้ามาที่หมอไป๋และภารัชชานั่งและยืนกันคนละมุม ร่างสูงยืนชงกาแฟอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว ส่วนภรรยาป้ายแดงนั่งดื่มเพียวมัทฉะในยามเช้าบนโต๊ะอาหารจะว่ามองหน้ากันไม่ติดก็ใช่ เมื่อคืนนอนกอดกันกลมไม่พอ ตอนตื่นเธอยังพบว่าตัวเองมุดเข้าไปซุกอกอุ่นของหมอไป๋อีกอายแค่ไหนก็ต้องเก็บอาการ หน้าต้องหนาให้พอต่อกรกับเขาเข้าไว้“ถ้วยฟู”“มาว~”เจ้าถ้วยฟูส่งเสียงร้องครืนคราง ก่อนจะเดินมาคลอเคลียที่ต้นขาของภารัชชา หมอไป๋ได้ยินเสียงแมวร้องก็หันมอง พลันขมวดคิ้วเครียดที่เห็นแมวน้อยเดินนวยนาดข้างเธอ“ตัวอะไร” เขามองแมวสามสีตัวอวบอ้วนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่ก็แฝงความไม่พอใจอยู่ในนั้นที่มีสัตว์เลี้ยงมาเดินเพ่นพ่านในบ้าน“จระเข้มั้งคะคุณไป๋”“กวนประสาทเหรอ”“คุณก็เห็นว่าน้องเป็นแมว จะถามทำไมคะว่าตัวอะไร” เธอก้มตัวลงไปอุ้มถ้วยฟูขึ้นมานั่งตักหมอไป๋มองแล้วเบ้หน้าเล็กน้อย พลางยกกาแฟรสเข้มขึ้นมาดื่มก่อนไปทำงาน แมวเธอตัวอวบอ้วนจนตักเธอจะรองรับน้ำหนักไม่ไหวอยู่แล้ว“แมวหรือหมูตัวใหญ่ขนาดนั้น”“ถ้วยฟูไม่อ้วนสักหน่อยค่ะ”“แน่ใจเหรอว่าไม่อ้วน”“น้องแค่จ้ำม่ำเฉยๆ เองคุณไป๋”ภารัชชามองตาขวางใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเอามือป้องหูถ้วยฟูไม

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 17 กอดคุณไม่อุ่นสักนิด

    ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงขนาดคิงส์ไซส์ เธอข่มตาในความมืดให้หลับไม่ลง จนได้ยินเสียงหมอไป๋ถอนหายใจเป็นระยะเขาก็คงรำคาญเธอเต็มที เล่นพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมา พาลให้เขานอนไม่หลับด้วยอีกคน แต่เมื่อภารัชชาเริ่มตัวสั่นแล้วกระเถิบจนแผ่นหลังชิดหลังหมอไป๋ เขาก็ผงกหัวแล้วเอี้ยวลำคอหันมองทันที“จะยุกยิกอีกนานมั้ย” หมอไป๋ขมวดคิ้วหัวเสีย พรุ่งนี้เขามีผ่าตัดช่วงเก้าโมงแต่ปาไปตีสองแล้วยังไม่ได้นอนเลย“ขอแค่เปิดไฟดวงเดียวได้มั้ยคะ”“เธอเป็นเด็กหรือไง ถึงนอนแบบปิดไฟไม่ได้”“ฉันก็แค่... กลัวความมืด”ภารัชชาตอบกลับไม่เต็มเสียง เธอมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ในหัวมีแต่ภาพจินตนาการน่ากลัวจนข่มตาหลับไม่ลง ซ่งไป๋เป็นคนใจคอโหดเหี้ยมอย่างที่ใครเขาพูดนั่นแหละเลือดเย็นได้แม้กระทั่งคนที่กลัวความมืด...“ในห้องนี้ไม่มีแสงลอดเข้ามาเลยนี่คะ คุณไป๋ปิดทั้งม่าน... ปิดไฟในห้องทั้งหมดเลย”“ฉันนอนไม่หลับถ้าไฟแยงตา”“ถ้างั้นให้ฉันไปนอนข้างนอกก็ได้ คุณจะได้ไม่หัวเสียด้วยค่ะ”หมอไป๋ยันกายลุกขึ้นนั่ง พลางลอบระบายลมหายใจทิ้ง ใช่ว่าเขาอยากจะรั้งเธอไว้สักหน่อย แต่ตัวเขาก็มีเหตุผลให้ต้องคุ้นเคยกับคนที่เกลียดเหมือนกันซ่งไป๋เป็นคนไม่คุ้น

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 16 ไม่โปรดปรานภรรยา

    ภารัชชานั่งข้างซ่งไป๋บนรถโรลส์รอยซ์คันหรู สารถีกรกำลังขับพาทั้งคู่ตรงไปยังเพนส์เฮ้าส์ส่วนตัวของหมอไป๋ มูลค่าร่วมสี่ร้อยกว่าล้านเป็นมุมที่เขาหวงความเป็นส่วนตัวมากแต่หมอไป๋เป็นคนเสนอเอง จัดให้เพนส์เฮ้าส์เป็นเรือนหอเพราะไม่อยากเจียดเงินในส่วนนี้ แค่ค่าสินสอดที่ต้องประเคนให้แม่ลูกคู่นี้ก็มากเกินพออีกอย่างการที่ภารัชชาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเขา เขาจะได้จัดการเธอได้ง่ายมากขึ้น เวลาพยศทีจะได้กำราบง่ายไม่ต้องใช้แรงเยอะปึกศีรษะเล็กที่สัปหงกอยู่ซบลงบนไหล่กว้าง ใบหน้าสวยสดดูเหนื่อยล้าจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทิ้งหัวบนไหล่หมอไป๋“นี่เธอ”ใบหน้าหล่อเหลาทมึงตึง ก่อนจะใช้นิ้วชี้ดันศีรษะเธอให้ออกห่างภารัชชาปรือตาขึ้นมอง หมอไป๋เลยหันหน้าหนีแสร้งว่าไม่ได้ดันหัวเธอออกแต่อย่างใด เธอหลับตาลงกลับเข้าสู่อาการสัปหงกอีกครั้ง และก็เผลอไปพิงไหล่เขาอย่างไม่รู้ตัวอีกแล้ว“ภารัช...”“อื้อ”หมอไป๋ลืมคำพูดที่จะต่อว่าไปชั่วขณะ หลุบตามองใบหน้าสวยสดที่ครางครืนในลำคอ ปมที่หว่างคิ้วเริ่มคลายออกราวกับสบายตัวที่ได้นั่งซบไหล่อยู่“ภาระ”ใบหน้าหล่อคมเบือนหนีออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้เธอได้ซบอิงไหล่เขาระหว่างรถขับเคลื่อนไปบนถน

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 15 มารยาสอนหญิง

    ภารัชชาควงแขนสามีร่วมดื่มฉลองกับเพื่อนเขาสักพักใหญ่ ก่อนที่เธอจะให้หมอไป๋ได้อยู่พูดคุยกับเพื่อนๆ เขาแทน ไม่อยากยืนฝืนยิ้มในหมู่คนที่เธอเองก็ไม่ได้สนิทสนมดีกระทั่งหมุนตัวกลับมาแล้วเห็นปรางสิตายืนข้างอาปราบต์ ใบหน้าที่เหนื่อยล้าสะสมมาทั้งวันก็เผยรอยยิ้มกว้างในทันทีเธอกลายเป็นเด็กน้อยวัยแปดขวบ จ้องจะวิ่งเข้าหาแม่ทุกครั้งที่ได้เจอหน้า ถึงแม้อายุอานามจะไม่ใช่เด็กน้อยแล้วก็ตาม แต่ข้างในตัวภารัชชายังมีเด็กน้อยหนึ่งคนอยู่ด้วยตลอดเวลาเด็กน้อยที่รอคอยความเมตตาและความรักจากผู้ให้กำเนิด...“แม่กับอาปราบต์ยังไม่กลับอีกเหรอ” ร่างระหงวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าปรางสิตา แต่คนเป็นแม่กับทำหน้าระอาเต็มกลืน อาปราบต์ที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงเป็นคนพูดกับเธอแทน“อาขอให้แม่อยู่ลาเราก่อนน่ะ จะเข้าเรือนหอทั้งทีคงมีอะไรให้ร่ำลากันหน่อย”“ร่ำลาอะไรล่ะ ฉันไม่ได้ส่งลูกเข้าโรงเชือดสัตว์นะคุณ”“แต่หลานกำลังจะเข้าเรือนหอ เธอควรให้พรลูกหน่อยนะสิตา”ปรางสิตาถอนหายใจพรืดยาว เธอก็แค่ไม่รู้จะอยู่ปั้นหน้าให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อเจ้าสัวชาญชัยอวยพรในพิธีงานจบก็ขอตัวกลับพร้อมภรรยาหลวง แต่อาปราบต์กลับรั้งปรางสิตาให้อยู่รอเจอภารัชชาหลังจ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 14 คนของตระกูลซ่ง

    AFTER PARTY คือช่วงเวลาปลดปล่อยความสนุกหลังพิธีวิวาห์สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างก็มารวมตัวสนุกสุดเหวี่ยงด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนของทางฝั่งของหมอไป๋มากกว่าภารัชชามีเพื่อนรักเพียงคนเดียวแค่อิงธารา ส่วนอีกคนก็คือรุ่นพี่คนสนิทอย่างสิบทิศที่มาร่วมยินดี ทั้งสามนั่งร่วมดื่มเฉลิงฉลองกันที่โต๊ะ ส่วนเพื่อนร่วมงานหมอไป๋จัดเต็มอยู่หน้าเวทีกันหมดแล้วหากไม่ได้บอกว่าเป็นหมอรักษาคนไข้ ภารัชชาก็นึกว่าเหล่ากองทัพแพทย์เป็นนักเต้นมืออาชีพ แต่ละคนเท้าไฟมีหัวใจรักดนตรีกันทุกคน“แกดื่มเยอะเกินไปแล้วนะอิง พี่สิบช่วยปรามหน่อยสิคะ” ภารัชชาหันไปทำเสียงอ้อนให้สิบทิศช่วยสิบทิศเป็นรุ่นพี่สายรหัสเธอตอนเรียนมหาวิทยาลัย ชายร่างสูงโปร่งผิวพรรณดีสวมแว่นสายตาทรงกลม เป็นหนุ่มตี๋ที่มีสาวสวยมารุมขายขนมจีบกันให้เพียบ แต่คงทำได้แค่มองเพราะรุ่นพี่เธอมีแฟนสาวแล้ว“เดี๋ยวพี่ดูอิงให้เองครับ น้องชาไปช่วยคุณไป๋เถอะ”“ยัยชาฉันโคตรยินดีกับแกเลยนะเว้ย... เพื่อนร้าก”อิงธาราอยู่ในอาการมึนเมา โยกตัวมาโอบกอดเพื่อนรักแล้วโคลงตัวไปมา ทำภารัชชาหลุดยิ้มอย่างเอ็นดูเพื่อนตัวเอง“ฉันรู้แล้ว แต่แกช่วยตั้งสติหน่อยเถอะน่า”“ดูแลตัว

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 13 วิวาห์รักจอมปลอม

    วันเวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่หลับตาลงเพียงครู่เดียวตื่นขึ้นมาอีกวัน ภารัชชาก็อยู่ท่ามกลางงานแต่งสุดอลังการสมฐานะสะใภ้หมื่นล้านตระกูลซ่งภายในงานประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ โคมไฟคริสตัลห้อยระย้าเล่นแสงส่องประกายระยิบระยิบ แขกเหรื่อคนสำคัญทั้งจากวงการแพทย์และแวดวงธุรกิจ ต่างก็มาร่วมยินดีปรีดากับทั้งคู่ในครั้งนี้ควันสีขาวของทีมงานที่จัดเตรียมไว้พ่นตามทาง ขณะที่ร่างระหงในชุดเจ้าสาวเดินผ่าน ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ของแขกผู้มีเกียรติ เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวเพื่อร่วมแสดงความยินดีร่างบางระหงสวมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ กำลังก้าวเดินไปบนเวทีที่ปลายทางคือเจ้าบ่าวของงานซ่งไป๋หล่อเหลาเอาการ เขาอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีสุภาพเซททรงผมเปิดหน้าผาก แต่งแต้มเครื่องสำอางแค่เล็กน้อยก็โดดเด่นเป็นประจักษ์แก่สายตา ราวกับมีไฟออร่าสาดส่องไปที่เขาโดยไม่ต้องพึ่งไฟของงานเลยทุกฝีก้าวที่ภารัชชานั้นก้าวเดิน เป็นดั่งขั้นบันไดไปสู่ขุมนรก โดยที่มีผู้คุมขังวิญญาณให้โดนจองจำคือสามีจอมปลอมอย่างซ่งไป๋“ยิ้ม” เขาพูดผ่านไรฟัน แต่หน้ายังเปื้อนยิ้มอยู่ภารัชชาไม่ยิ้มเลยตั้งแต่เปิดประตูเดินออกมา เธอรู้ว่าปรางส

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status