Share

บทที่ 49

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-30 10:04:21

“พี่ชาย...ท่านประเมินคุณหนูสามของข้าต่ำเกินไปแล้ว” ชายต่างถิ่นดูมั่นอกมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวคุณหนูสามที่รูปโฉมงดงามเจิดจรัสยิ่งนัก

เหล่าพ่อค้าและชาวเมือง ณ บริเวณนั้นต่างเหลียวสบตา...

ไม่ได้การแล้ว ไม่ได้การแล้ว! คนผู้นี้...คนผู้นี้ถูกความงามของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงทำให้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้วจริงๆ นั่นหละ…

เฮ้อ! อีกไม่นานชายต่างถิ่นคนนี้ก็จะสิ้นเนื้อประดาตัว ทั้งยังอาจตกเป็นหนี้สินที่ไม่อาจชดใช้...ครั้งนี้นับว่าความงามของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงสร้างบาปกรรมโดยแท้!

ยิ่งคิด เหล่าพ่อค้าและชาวเมืองก็ยิ่งสังเวชใจ สมเพชเวทนาชายต่างถิ่นที่ไม่รู้ความ แยกไม่ออกว่าอะไรคือความงาม แยกไม่ออกว่าอะไรคือความสามารถ ผู้นี้ยิ่งนัก

ข้างหน้ามีทั้งสาวงาม มีทั้งภาพที่ค่อยๆ ถูกแต่งแต้มจนเป็นรูปภาพหลากสีสัน เจริญตา ผู้เข้าชมการประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีต่างเพลิดเพลินจำเริญใจเป็นอย่างยิ่ง

กว่าที่พวกเขาทั้งหมดจะทันรู้สึกตัว เสียงระฆังจากหอเหยียบเมฆาก็ดังขึ้นอีกครั้ง บอกให้รู้ว่าสาวงามทุกคนที่อยู่ข้างในลานไม่ว่าจะวาดภาพของตนเสร็จสมบูรณ์ดีหรือไม่ ก็ล้วนต้องวางพู่กันลง แล้วถอยออกไปยืนรอคณะกรรมการเดินชมภาพทั้งหมดเพื่อให้คะแนน...

เหตุที่ต้องให้เจ้าของผลงานยืนรอคณะกรรมการอยู่ด้านข้าง ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้เหล่าคณะกรรมการผู้ร่วมให้คะแนน และเพื่อเปิดโอกาสให้เหล่าสาวงามได้นำเสนอความคิดและผลงานของตนอย่างเต็มที่ นอก จากนี้ หากเหล่าราชบัณฑิตอาวุโสที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินต้องการซักถามสิ่งใด เจ้าของผลงานจะได้สามารถตอบข้อซักถามนั้นได้ทันท่วงที เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การตรวจให้คะแนนเหล่าสาวงามก็ย่อมเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

เซียงหรงกวาดตามองทั่วทั้งภาพที่แม้จะยังไม่สมบูรณ์ดี แต่ก็นับว่าใช้ได้ของตนเองแล้ว ก็ได้แต่ทอดถอนใจ

ดูเหมือนนางจะกะเวลาผิดไปเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถวาดภาพตรงหน้านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ทว่า...องค์ประกอบสำคัญทั้งหมดของภาพภาพนี้ นางก็ล้วนวาดไปหมดแล้ว จะอย่างไรภาพนี้ก็คงไม่ถึงกับทำให้บิดาและจวนเฉินกั๋วกงต้องอับอายขายหน้ากระมัง?

“คุณหนูสาม เชิญ” นางกำนัลเอ่ยเตือน

เซียงหรงไม่คิดอิดออดสร้างความยุ่งยากรำคาญใจให้ผู้อื่น นางรีบวางพู่กัน เดินออกไปยืนรอเหล่าราชบัณฑิตอาวุโสอยู่ที่ด้านข้างทันที

ไม่นึกว่าเพียงนางขยับออกมายืนด้านข้าง เปิดเผยภาพวาดของตนแก่ทุกสายตา เสียงครางฮือกลับดังระงมไปทั่วทั้งลานประลอง เหล่าชาวเมืองและพ่อค้าที่ลงพนันขันต่อกับบุรุษผู้คลั่งไคล้ในตัวคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงจากต่างถิ่น เห็นภาพแล้วก็ถึงกับตกใจจนหน้าถอดสี

นี่...นี่มัน...

คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงผู้นี้ ที่แท้แล้วยังวาดภาพได้อีกด้วย!

ไม่...ไม่ถูก...นางไม่เพียงวาดภาพได้ แต่ยังวาดภาพออกมาได้ละเอียดลอองดงามราวกับจิตรกรเอกของยุคสมัยเป็นผู้บรรจงวาด สีแดงฉานที่เคยรกตาซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของผืนภาพ ตอนนี้มองแล้วกลับเห็นเป็นเรื่องเป็นราว มีน้ำหนักหนักเบา มองเห็นชัดเจนว่าด้านใดมีแสงสาดส่อง ด้านใดมีเงาทอดยาว ขับให้ภาพทั้งภาพของนางดูโดดเด่นสะดุดตายิ่งนัก

วิธีการวาดภาพเช่นนี้ มีสั่งสอนกันก็แต่ในราชวงศ์สกุลหลี่เท่านั้น แล้วคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงที่มารดามีสายเลือดราชวงศ์สกุลหลี่อยู่เพียงเจือจาง ซ้ำยังตายจากไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่นางยังเยาว์ อีกทั้งตัวนางเองยังมาถูกกักตัวเอาไว้ในเรือนหลัง ไม่เคยได้เข้าศึกษาในสำนักศึกษาชื่อดังดีๆ ใด ไปศึกษาวิธีการวาดภาพเช่นนี้มาจากที่ใด?

ได้ยินว่าพระชายาในจวิ้นหวังเถี่ยเม่าจื่อเพียงหนึ่งเดียวของเทียนจินเรารักเอ็นดูหลานสาวข้างสามีเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงใส่ใจแวะไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้งยังเชิญอาจารย์สูงวัยทั้งชายและหญิงมาสอนสั่งคุณหนูสามถึงในจวน หรืออาวุโสทั้งสองท่านที่อบรมสอนสั่งคุณหนูสามท่านนี้เก่งกาจปราดเปรื่องถึงเพียงนั้น?

ผู้ที่เก่งกาจปราดเปรื่อง มีฝีมือถึงเพียงนั้น ไฉนจึงไร้ชื่อเสียง ไม่เป็นที่กล่าวขวัญถึง ไม่เคยแม้แต่จะปรากฏกายในที่สาธารณะ และที่เหนือกว่าอะไรทั้งหมด อาวุโสสองท่านนั้นย่อมไม่มีทางเป็นอาจารย์หรือราชบัณฑิตอาวุโสประจำสำนักศึกษาชื่อดังดีๆ ใดในเหมืองหลวงแห่งนี้ทั้งนั้น เพราะหากเป็นดังที่ว่ามา ผู้คนในเมืองหลวงจะไม่เคยรับรู้ว่ามีอาจารย์ชื่อดังมากความสามารถไปอบรมสั่งสอนคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงถึงในเรือนได้อย่างไร? ก็ข่าวเล่าลือในเมืองหลวงแห่งนี้น่ะ...แพร่กระจายว่องไวเสียยิ่งกว่าฝูงมุสิก[1]แพร่พันธุ์เสียอีก!

หรืออาจารย์ชายหญิงที่จวิ้นหวังเฟยออกหน้าเป็นธุระเชิญตัวมาให้ความรู้แก่หลานสาวข้างสามี จะเป็นปรมาจารย์คงแก่เรียนที่รักสันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย เร้นกายดังมังกรที่ซุกซ่อนในหุบเขากว้างไกล?

[1] หนู

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status