Share

บทที่ 48

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-30 09:59:39

พ่อค้าและชาวเมือง ณ บริเวณนั้นต่างพากันส่ายหน้า เอือมระอา ผินหน้ากลับจ้องมองเหล่าสาวงามสบัดพู่กันตวัดวาดภาพอันงดงามเลิศล้ำ ไม่คิดต่อปากต่อคำกับคนถูกศรรักปักลึกจนหน้ามืดตามัว ให้เสียเวลาดูชมเหล่าสาวงามเลื่องชื่อของแผ่นดินเทียนจิน อวดความสามารถที่ฝึกฝนกันมาตั้งแต่ยังเยาว์

ผู้ที่ตวัดพู่กันวาดภาพได้รวดเร็ว ดูชมแล้วพาให้ตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด คือคุณหนูรองจากจวนเฉินกั๋วกง เฉินเหม่ยลี่ รองลงมาคือท่านหญิงเทียนจูที่ถูกจัดให้ยืนวาดภาพอยู่ข้างเคียงกัน

หญิงงามคู่นี้ยิ่งวาดภาพก็ยิ่งตวัดพู่กันรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังประชันความเร็วกันอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาคุณหนูใหญ่จากจวนเฉินกั๋วกง เฉินชิวเยว่ และคุณหนูสี่จากจวนสกุลอู๋ อู๋ชิงชิง ที่ถูกจัดให้ยืนวาดภาพอยู่ถัดจากคุณหนูรองจวนเฉินกั๋วกงและท่านหญิงเทียนจูตามลำดับ กลายเป็นว่าตวัดพู่กันวาดภาพได้อย่างเอื่อยเฉื่อย เชื่องช้า ทั้งอย่างนั้นก็ยังให้ความรู้สึกว่าคุณหนูทั้งสองต่างเป็นผู้สุขุมและใจเย็นเป็นอย่างยิ่ง

เหนือสิ่งอื่นใด ภาพวาดของยอดหญิงงามทั้งสี่ ล้วนงดงามยิ่ง

นอกจากคุณหนูทั้งสามและท่านหญิงเทียนจูแล้ว สี่สหายผู้รู้ใจจากจวนสกุลหวัง จวนสกุลโจว จวนสกุลเหวย และหมู่ตึกสกุลมู่หรง ซึ่งล้วนผ่านเข้าสู่รอบที่สามมาด้วยกันทั้งกลุ่มเองก็ดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่แพ้กัน

คุณหนูทั้งสี่ แม้แต่ละคนถูกจับแยกให้ยืนวาดภาพห่างกันเป็นอย่างยิ่ง พวกนางทั้งหมดกลับวาดภาพสาวงามซึ่งรายรอบด้วยดอกไม้น้อยใหญ่ ดูคล้ายคลึงกันอย่างน่าอัศจรรย์ ช่างสมกับที่เป็นสี่สหายผู้รู้ใจดังที่ผู้คนเล่าลือไม่มีผิด

หันกลับมาดูที่คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง...

“อ๊ะ คุณหนูสามของเจ้าจับพู่กันแล้ว” หนึ่งในกลุ่มพ่อค้าช่างวิจารณ์หันไปกล่าวกับชายร่างสูงต่างถิ่นที่ลงเดิมพันข้างคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง

คนต่างถิ่นผู้ที่เอาแต่จ้องมองไปยังคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงผู้นั้นได้ฟังก็กระตุกยิ้มที่มุมปากทว่าไม่ได้กล่าวตอบสักคำ ราวกับไม่อยากจะเสียเวลาสิ้นเปลืองความคิดไปกับการสนทนาพาทีกับผู้คน ในใจนึกอยากก็แต่เฝ้ามองคุณหนูสามในดวงใจเท่านั้น

ภาพที่พวกเขาเหล่าผู้รอชมทั้งหมดได้เห็น ก็คือภาพคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง เหลียวมองก้านธูปบอกเวลาเล็กน้อย นางนิ่งคิด คล้ายคำนวณบางสิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจุ่มพู่กันลงในหมึกสีแดง แล้วเริ่มสะบัดพู่กัน ตวัดวาดทันที

สิ่งที่คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง เฉินเซียงหรง วาด คล้ายจะเป็นสตรีชุดแดงที่นั่งอยู่บนแท่นเหนือขั้นบันไดสูง

“นั่นมัน...ภาพสาวงามรึ?” พ่อค้าคนหนึ่งเริ่มวิเคราะห์

พ่อค้าอีกคนกล่าวเสียงดัง ใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เทศกาลในวันนี้ก็คือเทศกาลชมบุปผา และบุปผาที่ว่าก็คือเหล่าหญิงงาม...คุณหนูสามที่ถูกกักตัวไว้ในเรือนหลังตั้งแต่ยังเยาว์ ไม่เคยเข้ารับการศึกษาจากสำนักศึกษาชื่อดังดีๆ ใด กลับตีความได้ดังเช่นเหล่าคุณหนูผู้มีความสามารถเช่นนี้ก็นับว่าไม่เลว!”

“ทว่าเหตุใดจึงต้องวาดสาวงามบนที่สูง?” สหายข้างกายพ่อค้าคนเมื่อครู่สงสัย “เพราะอยู่สูงจึงนับว่าเป็นยอดหญิงงามเช่นนั้นหรือ”

“นั่นไม่นับว่าตื้นเขินเกินไปหน่อยหรือไร?” ฟูเหรินผู้หนึ่งปรามาส

ชาวเมืองอีกคนที่นั่งอยู่ข้างเคียงกันมุ่นหัวคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนกล่าว “เช่นนั้นแล้ว ไม่สู้วาดออกมาเป็นภาพสาวงามท่ามกลางดงบุปผชาติดังเช่นคุณหนูจากจวนสกุลหวัง คุณหนูจากจวนสกุลโจว คุณหนูจากจวนสกุลเหวย และคุณหนูของหมู่ตึกสกุลมู่หรงยังดีกว่า!”

“เฮ้อ...เจ้าจะรู้อะไร...” พ่อค้าที่ออกความเห็นเมื่อครู่เอ่ยอย่างมีหลักการ “ธรรมดาแล้ว สิ่งที่อยู่บนที่สูง ไม่ใช่ว่าจะยิ่งดูสูงส่งยากจะเอื้อมถึงหรอกหรือ?”

คนอื่นๆ คิดตามแล้วก็พยักหน้าเออออ

“เอ๊ะนั่น!” ชาวเมืองอีกคนสังเกตเห็นอย่างอื่นนอกจากหญิงงาม “ใช่ว่าจะมีเพียงสาวงาม คุณหนูสามยังใช้สีแดงนั่นวาดดอกไม้ดอกใหญ่เป็นฉากหลังอีกด้วย! นั่นดอกอะไรกัน?”

“นั่นไม่ใช่...ดอกโบตั๋น?” ใครอีกคนคาดเดา

พ่อค้าช่างวิเคราะห์ได้ยินแล้วก็ตบเข่าฉาด “สำหรับเทียนจินเรา โบตั๋นก็คือราชินีในหมู่ดอกไม้! แม้แต่ฉลองพระองค์ของหวงโฮ่วในวันนี้ก็ยังปักลายดอกโบตั๋นที่ว่านี้เอาไว้ พวกเจ้าดูสิ!”

ชาวเมืองคนหนึ่งกล่าวแย้งทันที “ใครที่ไหนจะกล้าจ้องมองหวงโฮ่ว! นับว่าไม่สมควรโดยแท้! เจ้าอยากให้ข้าถูกควักลูกตาหรือไร!”

เห็นคนเหล่านี้เริ่มพูดคุยเรื่องภาพวาดของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงที่ตนเชื่อมั่นมากหน่อย ชายร่างสูงจากต่างถิ่นก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงย่ามใจ

“เห็นหรือไม่ว่าคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงยอดหญิงเดียวในดวงใจของข้านั้นปราดเปรื่องเพียงใด ข้าเพิ่งเข้าเมืองหลวงมาได้ไม่ถึงสองชั่วยาม ไม่อยากข่มเหงรังแกพ่อค้าและชาวเมืองเช่นพวกเจ้า หากพวกเจ้าคนไหนเปลี่ยนใจอยากยกเลิกการพนันเมื่อครู่ ข้ายินดีให้พวกเจ้ากลับคำ จะไม่ใช้พี่ชายทหารที่ร่วมเป็นพยานรับรู้ท่านนั้น มากดดันพวกเจ้าให้มอบเงินจำนวนเท่ากับเงินในถุงนี้ให้สักนิด”

เหล่าพ่อค้าและชาวเมือง ณ บริเวณนั้นฟังแล้วกลับแค่นหัวเราะใส่ ผู้ที่เป็นตัวแทนกล่าวออกมาไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพ่อค้าช่างวิเคราะห์ผู้เดิมนั้น

“ที่ไหนจะต้องเปลี่ยนใจไม่พนัน ข้าค้าขายภาพวาดและงานฝีมือ จึงพอมีความรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง เจ้าดูให้ดีเถอะ สหายต่างถิ่น ภาพที่คุณหนูสามวาดนั้นแม้จะมองออกว่าวาดสิ่งใด แต่กลับใช้สีแดงแต้มไปทั่วทั้งกระดาษ เช่นนี้แล้วภาพของนางจะออกมางดงามได้อย่างไร? หากคณะราชบัณฑิตอาวุโสให้คะแนนนางสูงกว่าผู้เข้าแข่งขันรายอื่นๆ ข้ายอมคุกเข่าลงคลานสี่ขา เรียกเจ้าว่าบิดาก็ยังได้!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status