Share

บทที่ 73

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-17 06:02:50

มาเยือนจวนกั๋วกงคราใด โดยเฉพาะครั้งนี้...หลี่จือหลินสุขใจนัก

ทว่าเหล่าพี่หญิงน้องหญิงของเซียงหรงที่ต่างลอบเฝ้ามองอยู่ไกลๆ กลับรู้สึกตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

ในใจพวกนางยามนี้เหมือนมีหม้อน้ำเดือด ทั้งไม่อาจสงบใจและไม่อาจยินยอม

“น่าชังนัก คงเพราะทั้งได้รับปิ่นหงส์พระราชทานจากหวงโฮ่ว ทั้งยังใกล้จะได้ไต่ขึ้นสู่ที่สูงเป็นว่าที่จวิ้นหวังเฟยกระมัง จึงได้กล้าวางท่าเช่นนั้น กล่าววาจาเช่นนั้น หึ...ก็แค่มารยาแสร้งปล่อยเพื่อจับชั้นต่ำ ดูก็รู้แล้วว่ากำลังพยายามดึงดูดความสนใจของพี่จือหลินจะแย่!” คุณหนูห้าของจวนเฉินกั๋วกง เฉินเหม่ยเซียง บิดผ้าเช็ดหน้าในมือจนยับยู่ สองตาจ้องมองภาพพี่ชายจวิ้นหวังจ๋างจื่อคอยรินน้ำชาและส่งขนมให้พี่หญิงสามแพศยาของตนอย่างริษยาชิงชัง

ยิ่งเห็นภาพบาดตา เฉินเหม่ยเซียงก็ยิ่งห้ามปากตนเองไม่ได้

นางพึมพำเสียงสั่น “ทั้งๆ ที่ก็เป็นบุตรสาวกั๋วกงเช่นเดียวกัน รูปโฉมก็หาได้แตกต่างกันสักเท่าใด หนำซ้ำพวกเราเหล่าพี่น้องล้วนได้เข้าเรียนในสำนักศึกษาอันยิ่งใหญ่ แตกต่างจากนาง...กับแค่โชคดีได้ครองตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีในปีนี้แล้วอย่างไร? นางที่เป็นเพียงสตรีในเรือนหลัง ทั้งชีวิตแทบไม่เคยก้าวขาออกจากจวนที่ไหนเลยจะเทียบชั้นกับพวกเราเหล่าพี่หญิงน้องหญิงได้! เพียงเพราะเกิดเป็นบุตรสาวเซียงเหลียนจวิ้นจูที่เป็นภรรยาเอกเท่านั้นหรอกหรือ จึงได้รับความสำคัญจากพี่จือหลินถึงเพียงนี้!”

เฉินเหม่ยลี่เองก็ไม่ได้รู้สึกต่างจากน้องสาวร่วมครรภ์มารดาสักเท่าใด ทั้งอย่างนั้น นางกลับแสร้งปรามเสียงนุ่ม “น้องห้าอย่าได้พูดจาเลอะเทอะไป ยามนี้ตระกูลจางของท่านแม่กำลังถูกสอบสวนเรื่องลักลอบกักตุนเสบียง ค้ากำไรธัญพืชในช่วงสงคราม เดิมทีสามสี่วันมานี้ ทั้งท่านแม่และพวกเราสองพี่น้องก็ใช้ชีวิตในจวนกันอย่างลำบากมากอยู่แล้ว หากมีผู้ใดมาได้ยินแล้วนำไปฟ้องท่านพ่อหรือสตรีอสรพิษจากสกุลหาน เจ้าคิดว่าท่านพ่อที่ไม่มีใจจะช่วยเหลือสกุลจางสักนิด จะยังมีใจอยากปกป้องพวกเราและท่านแม่อีกหรือ...แม้จะดูเหินห่างหมางเมิน แต่สิบกว่าปีมานี้ ในใจของท่านพ่อก็ยังคงมีพี่หญิงสามน่าตายของเจ้าเป็นบุตรสาวอยู่เพียงผู้เดียว จนบางครั้งข้ายังอดสงสัยไม่ได้ ว่าท่านพ่อหาใช่อับอายผู้คนจึงกักขังเฉินเซียงหรงไว้ในจวน แต่ทำเพื่อปกป้องนางจากเรื่องราวอันตรายและสิ่งเลวร้ายต่างๆ นาๆ ข้างนอกจวนกั๋วกงต่างหาก”

เฉินเหม่ยเซียงเบิกตาโพลง หันมามองหน้าพี่หญิงของตนทันที “จริงสิ เหตุใดข้าจึงไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน!” นางบิดผ้าเช็ดหน้ารุนแรงขึ้น “ข้ายังเคยคิดด้วยซ้ำ ว่าหากสบโอกาสออกนอกจวนพร้อมนางเหมือนเมื่อครั้งที่พวกเรายังเยาว์อีกสักครั้ง สามารถกลั่นแกล้งให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียงซ้ำๆ จะดีเพียงใด”

“เบาเสียงหน่อย” เฉินเหม่ยลี่รีบปราม “หรือเจ้าอยากให้ผู้อื่นรู้ว่าเมื่อเจ็ดแปดปีก่อน เราสองพี่น้องจงใจ อยากจะให้เฉินเซียงหรงเกิดเรื่องไม่ดีจะแย่”

สายไปเสียแล้ว เฉินชิวเยว่และเฉินหมิงเยว่ที่แอบมองอยู่ด้านหลังอีกทอดหนึ่งได้ยินบทสนทนาลับๆ นี้เต็มสองหู

สองพี่น้องจากครรภ์อนุหาน หานชิงเยว่ ซึ่งยามนี้เป็นใหญ่ที่สุดในจวนเหลียวสบตากัน ต่อให้ไม่ต้องเอ่ยให้มากความ สองพี่น้องต่างเข้าใจความคิดของซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง

เป็นอย่างที่เดาไว้ไม่มีผิด เฉินเหม่ยเซียงยังนับว่าไม่เท่าไหร่ ทว่าที่แท้แล้วอนุจางกับเฉินเหม่ยลี่กลับเสแสร้งเป็นคนดีที่มีอุปนิสัยอ่อนหวานนุ่มนวลได้เก่งนัก...เฮอะ...

หากท่านพ่อรู้ว่า ที่แท้แล้วครั้งนั้น บุตรสาวคนที่สองกับห้า เจตนาล่อลวงบุตรสาวภรรยาเอกที่ตนรักหวงแหนออกไปจากกลุ่มคน หมายใจจะให้เกิดเรื่องไม่ดีต่อเฉินเซียงหรงขึ้นจริงๆ หาใช่เกิดเรื่องเพราะความบังเอิญดังที่อนุจาง มารดาของเฉินเหม่ยลี่และเฉินเหม่ยเซียงกล่าวอ้าง ไม่แน่ว่าท่านพ่ออาจโมโหถึงขั้นตัดเป็นตัดตายกับอนุจางและบุตรสาวอสรพิษที่จิตใจสกปรก ก่อเรื่องเลวร้ายกับพี่หญิงน้องหญิงของตนได้ลงคอตั้งแต่ยังเยาว์...หากเดาไม่ผิดคนขายถังหูลู่และเหล่าผู้เป็นพยานในครั้งนั้นคงล้วนถูกอนุจางว่าจ้างให้กล่าวคำเท็จเป็นแน่...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 104

    ไม่ทันที่นางจะได้ขยับตัว ตงหยางที่รัดท่อนแขนตัวเองเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ก้มลงดูดที่แผลของตนเอง ดูดแล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ดูด แล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ทำวนซ้ำอยู่อย่างนี้จนเลือดที่ดูดออกมาจากปากแผลเป็นสีแดงสด ถึงยอมหยุดมือเขาปล่อยให้สายรัดเอวที่รัดท่อนแขนอยู่ค่อยๆ คลายออกเอง กระถดเข้าไปนั่งชิดผนัง ก่อนถอนหายใจออกมาตงหยางเหลียวมองซากงูตัวนั้นอีกครั้ง ก่อนจะตวัดสายตามองเฉินเซียงหรง เอ่ยอย่างหัวเสีย“ดีเหลือเกิน ข้าบอกให้อยู่นิ่งๆ เจ้าก็รีบขยับตัวทันที!”“ก็ข้านึกว่า...” นางละอายเกินกว่าจะกล้าพูดต่อเขาช่วยชีวิตนาง...อีกเป็นครั้งที่สอง นางกลับคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสใช้กำลังข่มเหงรังแก ทำเรื่องที่นาง...ไม่ยินยอม...“คุณหนูเฉิน ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่มีความจำเป็นต้องบังคับข่มเหงสตรีที่ไม่เต็มใจ” เขาแค่นหัวเราะ ก่อนกล่าวต่อไป “ทว่าเป็นเช่นนี้จะดีหรือ หากร่วมทางกันไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งข้าเกิดดื่มสุราเมามายจนขาดสติเล่า เจ้าจะทำอย่างไร เจ้าจะยังกล้าติดตาม ‘รับใช้’ ข้าอีกหรือ ข้าว่าเจ้ายอมกลั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 103

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนเซียงหรงเองยังอดตกใจไม่ได้คืนหนึ่ง ขณะหลบฝนอยู่ในถ้ำเล็กๆ ตงหยางจุดไฟให้แสงสว่าง อากาศในถ้ำเย็นชื้น และเสื้อผ้าของพวกเขาเปียกชื้นจนต้องพาดไว้ใกล้กองไฟ เซียงหรงนั่งกอดเข่าห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาของนางมองเปลวไฟนิ่งราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์กระทั่งตงหยางมองนางด้วยสายตาขบขัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่าแม้จะหนีการแต่งงาน แต่ในที่สุดเจ้าก็ต้องหาสามีอยู่ดี” เขาเอ่ยเสียงเบาเช่นเดิม “คุณหนูเฉิน เจ้ากล่าวว่าต้องการแน่ใจว่าจะสามารถส่งจดหมายถึงมือบิดาและพี่ชายที่อยู่ต่างเมือง จะทำเพียงส่งจดหมายบอกล่าวเล่าความ ไม่พบพวกเขา เจ้ามีพ่อและพี่ชายกลับคิดหนีหน้า เจ้าบอกว่ามีคู่หมั้น แต่ก็ไม่ปรารถนาที่จะแต่งงานกับคู่หมั้นผู้นั้น กลับมุ่งหมายออกบวชละกิเลสเสียมากกว่า ช่างไม่รู้เสียเลยว่าต่อให้เจ้าจะโกนผมโกนคิ้ว บุรุษที่ได้พบเห็นเจ้า พูดคุยกับเจ้า พวกเขาไหนเลยจะลืมเลือนเจ้าได้ลง เจ้าคิดว่าหากได้ออกบวช จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบได้จริงหรือ” เซียงหรงเงยหน้าขึ้นมองเขา สีหน้าของนางเย็นชา “ก็ยังดีกว่ามีสามี&rdquo

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 102

    ยามบ่ายคล้อย แดดร่ม ลมตก เป็นช่วงเวลาที่เซียงหรงรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวที่สุดในช่วงวัน พื้นอารมณ์จึงค่อนข้างดีทว่าอารมณ์ดีๆ ของนาง กลับถูกทำลายลงด้วยเสียงเฉยชาที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ“เป็นเช่นไรล่ะ คุณหนูเฉิน ใช้ชีวิตแบบนี้สนุกดีหรือไม่ ไม่ต้องมีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องมีที่นอนอุ่นๆ ไม่ต้องกินอาหารดีๆ ใช้สองขาเดินทาง ร่อนเร่พเนจร ค่ำไหนนอนนั่น” นั่นประไร! นางรู้ว่าเขาคงอดทนไม่ว่านางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหรอก ยิ่งในตอนที่นางกำลังมี ‘ช่วงเวลาดีๆ’ รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวเช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่!เดินทางร่วมกันมาจนถึงตอนนี้ นางแทบจะนับเวลาที่เขาจะเอ่ยปากเหน็บแนมนางได้แม่นยำแล้ว!นางชำเลืองมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัว “ไม่เห็นจะลำบากอะไร” นางตอบเสียงเรียบพลางรวบชายเสื้อที่ปลิวเพราะลมเย็นตงหยางหันมามองนาง หัวคิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย “อ้อ เช่นนี้ไม่ลำบาก” เขาหัวเราะในลำคอ “เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่ดื้อดึงยิ่งนัก เจ้าอยากมีชีวิตแบบนี้ไปจนตายเช่นนั้นหรือ”นางหยุดเดิน หันไปสบตาเข

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 101

    “ข้าขอร้อง...” เซียงหรงเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ “ข้าไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ที่บ้านของข้าในยามนี้ไม่มีใครที่ข้าจะไว้ใจได้อีก อีกทั้ง... อีกทั้งในเมืองหลวงยังมีสิ่งที่น่ากลัวมากๆ รอข้าอยู่ที่นั่น...” นางพยายามยื่นข้อเสนอ “ท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ขอเพียงท่านช่วยสะสางเรื่องที่ยังค้างคาใจและพาข้าหลบหนีจากฝันร้ายเหล่านั้น ข้ายินดีติดตามรับใช้ท่านในฐานะบ่าวคนหนึ่ง จะไม่สร้างความลำบากใดใดให้ท่านจอมยุทธสักนิด”“บ่าวคนหนึ่ง...” ชายสวมหน้ากากนิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ ก่อนถอนหายใจยาว “เอาเถิด หากเจ้าไม่สร้างปัญหาจริงดังปากว่า ข้าจะให้เจ้าเดินทางไปด้วย ระหว่างนั้นสบโอกาสค่อยหาทางส่งจดหมายไปถึงบิดาและพี่น้อง เรื่องคนของเจ้า สหายของข้าช่วยนางเอาไว้แล้ว”“จริงหรือ!”ได้ยินเช่นนี้ เซียงหรงโล่งใจเป็นอย่างยิ่งเขายังคงกล่าวต่อไป “ตงหลินผู้นี้เป็นสุภาพชน เชื่อถือได้ คนของเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน หากเจ้าไม่มีความคิดอยากกลับบ้านก็ไม่ควรติดต่อ ‘คนของเจ้า’ ผู้นั้นอีก”แม้แว

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 100

    เซียงหรงมองชายแปลกหน้าเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แม้จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่ลึกๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายร่างใหญ่ชุดดำสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าผู้นี้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ช่วยนาง...ทั้งในตอนที่นางเสี่ยงชีวิตกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงชัน และตอนนี้สายตาของเฉินเซียงหรงกวาดมองไปรอบๆ อีกครั้งกระท่อมหลังนี้ดูเหมือนจะถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว โต๊ะไม้ที่วางตะเกียงอยู่มีรอยถลอกลึก มุมหนึ่งของผนังมีช่องโหว่ที่ลมพัดผ่านเข้ามาได้ ดังนั้น นอกจากกลิ่นสาบภายในกระท่อมแล้ว ยามนี้นางได้กลิ่นสนเขาอ่อนๆ ลอยมากับสายลมนางเริ่มรู้สึกถึงความเย็นของกระแสลมที่กัดกินเนื้อหนัง“ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้จนวันตาย...ข้าจำได้ว่าคล้ายจะเห็นท่านพลิ้วตัวมารับร่างข้าไว้ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ท่านเป็นจอมยุทธ์ใช่หรือไม่ จึงสามารถช่วยข้าไว้ได้เช่นนี้” นางถาม น้ำเสียงเจือความขอบคุณเขาไม่ตอบไม่เพียงไม่ตอบ ยังเบนสายตาไปทางอื่นด้วยซ้ำดวงตาที่มองลอดหน้ากากนั้นยังคงนิ่งลึกท่าทางเช่นนี้...ดูๆ ไปแล้ว ก็คล้ายองครักษ์ที่รับหน้าที่ติดตามคุ้มกันนางเช่นกันหรือว่า...นางอดถามไม่ได้ “ท่านคือองครักษ์จากตำหนักจวิ้นหวังที่คอยติดตามคุ้มกันข้าหรือ?”“ไม่ใช

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 99

    ยามเมื่อเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา นางรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมผ่านผิวกาย แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันเล็กๆ บนโต๊ะไม้ส่องประกายริบหรี่สะท้อนเงามืดบนผนังไม้ที่แตกร้าวราวกับภาพเขียนที่น่าขนลุกภาพหนึ่ง รอบตัวนางในยามนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกระท่อมเก่าคร่ำคร่า“ท่านแม่...” นางยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดมารดาด้วยซ้ำทว่า... เพียงฝันไปหรอกหรือ?“ที่นี่ที่ไหน...” นางพึมพำแผ่วเบา รู้สึกร้าวระบมไปทั่วทั้งตัว เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเสื่อเก่าขาด มีหมอนสีดำสนิทที่คล้ายจะทำขึ้นมาด้วยการเอาเสื้อคลุมเปียกๆ ตัวหนึ่งมาหุ้มฟางรองศีรษะ กลิ่นอับของไม้ผุและฝุ่นทำให้นางแสบจมูกจนแทบทนไม่ไหวดวงตาของนางเลื่อนไปหยุดที่ร่างของชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าครึ่งบนกว่าแปดส่วน[1]ถูกปกปิดด้วยหน้ากากโลหะรูปพยัคฆ์ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมดุสะท้อนแสงไฟสลัวเหมือนตาของสัตว์ร้ายเซียงหรงสะดุ้งเล็กน้อย ความหวาดกลัวไหลย้อนกลับมาบีบรัดหัวใจของนางไว้แน่นเสื้อคลุมที่ใช้ทำเป็นหมอนยังคงเปียกชุ่ม เสื้อผ้าผมเพ้าของคนผู้นี้เองก็ไม่ต่างกัน...สังเกตได้เท่านี้เฉินเซียงหรงก็ห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status