공유

ช่องทางหาเงิน

last update 최신 업데이트: 2025-12-09 17:13:36

ช่วงเช้าจิ่นฟานอวี้ออกไปตักน้ำตั้งแต่เช้ามืดเหมือนที่เคยทำประจำจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน ไม่ว่าอากาศจะหนาวสักเพียงใดคนในหมู่บ้านก็มักออกไปตักน้ำเป็นสิ่งแรก ตอนเช้าจึงมีคนรอตักน้ำกันเยอะ

นางตื่นขึ้นมาเก็บที่นอนล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยจึงเดินไปเคาะประตูหลายครั้งเห็นว่าเสียงเงียบจึงแง้มเปิดดูประตูไม่ได้ล็อคแปลว่าเข้าไปได้หรืออีกอย่างก็ไม่มีคนอยู่ในนั้น ภายในห้องของบัณฑิตหนุ่มดูสะอาดตา ห้องโล่งมีข้าวของไม่มากถูกจัดวางมีระเบียบเรียบร้อยมองอย่างไรก็ดูสบายตา

นางลองเอื้อมมือลูบที่พื้นดูกลับไม่มีเศษฝุ่นติดมือแสดงว่าเขาทำความสะอาดทุกวัน ช่างมีระเบียบเรียบร้อยจริงๆ

ห้องทรุดโทรมเก่าเหมือนชิ้นส่วนจะพังอยู่รอมร่อก็ยังดูสะอาดสะอ้านน่ามอง นางสำรวจว่ามีสิ่งของใดบ้างในห้องโล่งๆ ห้องนี้ นอกจากตำราเล่าเรียนแล้วก็มีเสื้อผ้าเก่าซีดเพียงสามชุดเท่านั้น ฟูกและผ้าห่มก็เก่าๆ ขาดๆ ไม่ต่างจากนาง เมื่อเดินวนรอบห้องไม่นานจึงออกมาแล้วปิดประตูตามเดิม มองหาเขาไปด้วย พลางเดินเลยเข้าไปในครัวเตรียมทำอาหารเช้า สายตานางเหลือบไปเห็นเขากำลังเทน้ำลงถังอยู่ด้านหลังครัวจึงเดินไปหา

"เข้าไปในห้องเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย"

นางร้องบอกเขาแต่จิ่นฟานอวี้ก็ยังทำหูทวนลมทำงานต่อไปอย่างเคยชิน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมเชื่อฟังจึงมาก่อไฟทำอาหาร ปลาเมื่อวานยังเหลืออยู่นางจึงทำข้าวต้มกินกับทอดปลา

สองสามีภรรยานั่งกินข้าวด้วยกันเงียบๆ อีกครั้ง ความคิดว่องไวที่ติดตัวมาจนเคยชินนึกบางอย่างออกกะทันหัน จึงเอ่ยถามเขาออกไป

"ตลาดอยู่ไกลหรือไม่"

จิ่นฟานอวี้นิ่งไปชั่วครู่ก่อนย้อนถาม

"เจ้าถามทำไม"

"ข้าอยากไปตลาด"

นางไม่เคยออกนอกหมู่บ้านไม่รู้จักตลาดวันนี้อยู่ๆ ก็อยากไปขึ้นมา แต่เขาไม่กังวลใจในเมื่อสามารถขึ้นเขาเก็บของป่านางก็ไปมาแล้วตลาดอยู่ไกลออกไปไม่มาก เดินทางผ่านเพียงสองหมู่บ้านก็ไปถึง การเดินทางก็ไปได้ง่ายเป็นเส้นทางราบเรียบ เขาจึงบอกทางให้แก่นาง เห็นว่าคงถามไปอย่างนั้นไม่ได้คิดจริงจังถือเป็นคำถามเรื่อยเปื่อยสำหรับเขา

"เดินไปทางทิศเหนือไม่ไกลผ่านสองหมู่บ้านก็ถึง"

เขาอธิบายเท่านั้นแล้วกินข้าวต่อ นางพยักหน้ายิ้มรีบทำเวลาเก็บของล้างจานเสร็จแล้วก็สะพายตะกร้าเข้าที่หลัง

"เจ้าถามหาตลาดทำไม แล้วนั่นจะขึ้นเขาอีกหรือ"

เขาเห็นนางเป็นสตรีจะไปไหนมาไหนตามอำเภอใจก็ค่อนข้างอันตรายไม่น้อย จางลี่อิงพยักหน้าหมุนตัวเดินเร่งฝีเท้าออกไปโดยที่จิ่นฟานอวี้เรียกเอาไว้ไม่ทัน

ช่างว่องไวเสียจริง

จางลี่อิงหาของป่าได้เต็มตะกร้านางก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ตลาดไปทางทิศเหนือ ถนนหนทางราบเรียบของคนสมัยก่อนคงดีได้เท่านี้ นางยังมองว่าสภาพมันดูขรุขระเดินยากไปบ้าง นี่คงเป็นถนนที่ดีที่สุดของละแวกหมู่บ้านชนบทห่างไกล พวกเขาชินชากับเส้นทางมันจึงเดินง่ายสำหรับคนที่นี่

เมื่อมาถึงตลาดมีคนไม่มากทั้งพ่อค้าและคนมาหาซื้อข้าวของดูเหมือนว่าเริ่มจะวายแล้ว นางวางตะกร้าลงนำเห็ดป่าออกมาขายลองดูหากขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไรคงแบกกลับบ้านตุนไว้เป็นเสบียง สักครู่ก็มีหญิงวัยกลางคนเดินมาซื้อไปสองกำมือ เมื่ออีกคนเห็นมีของป่าก็เดินเข้ามาซื้ออีก จากสองคนกลายเป็นสี่คนห้าคน ครู่ต่อมาตะกร้าของนางก็ถูกรุมล้อมจนขายหมดเกลี้ยง จางลี่อิงยิ้มพึงพอใจที่นางได้เงินจากการขายของป่ามาพอสมควรวันนี้จึงซื้อวัตถุดิบไปทำกับข้าวหลายอย่าง

จางลี่อิงเดินเท้ามาถึงบ้านในช่วงเย็นโดยจิ่นฟานอวี้แอบชะเง้อมองเป็นระยะ ทั้งคัดอักษรและอ่านหนังสือแต่กลับไม่มีสมาธิจนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาในบ้าน

"ทำไมกลับมาเย็น หน้าหนาวฟ้ามืดเร็วควรรีบกลับ เส้นทางยามค่ำใช่ว่าจะปลอดภัย"

เขาทักขึ้นจางลี่อิงยิ้มให้แต่ไม่ตอบรีบเอาของไปเก็บเตรียมตัวก่อไฟทำอาหาร

มื้อนี้มีไข่พะโล้หมูสามชั้น ผัดเต้าหู้ใส่ผักกาด จิ่นฟานอวี้มองดูอาหารบนโต๊ะก็เกิดสงสัย หมูมีราคาแพงกว่าจะได้กินก็เดือนละครั้ง ส่วนไข่นั้นแพงกว่าหมูอีกหลายเท่าเขายังไม่เคยได้กินเลยสักใบมาตั้งนานแล้ว เพราะว่าเขามีรายได้น้อยไม่เพียงพอซื้อของดีๆ มากิน ยังต้องเจียดเงินที่มีไม่พอเลี้ยงตัวให้ที่บ้านของนางอีก แล้วนี่นางเอาเงินที่ไหนไปซื้อหามาตั้งมากมาย

"ของแพงเช่นนี้เจ้าเอาเงินที่ไหนซื้อมาตั้งเยอะ"

จางลี่อิงพยักหน้าไปพลางคีบอาหารใส่ปากไปด้วยขณะที่จิ่นฟานอวี้กลับกินไม่ลง

"ข้าก็เอาของป่าไปขาย คนมารุมล้อมซื้อเยอะแต่ข้าก็ไม่ขึ้นราคา พวกเขาก็เลยซื้อจนหมด เจ้ากินเยอะๆ นะจะได้มีแรงอ่านหนังสือ"

นางเชิญชวนเขาพลางคีบหมูสามชั้นใส่ในชามให้ จิ่นฟานอวี้กินช้าๆ นิ่งฟัง นางพูดประโยคยาวๆ และเล่าเรื่องราวได้เหมือนคนปกติ เมื่อเช้าไปขึ้นเขาเก็บของป่าแล้วยังเอาไปขายที่ตลาดแถมยังตั้งราคาเป็น

"เจ้าเอาของไปขายที่ตลาดมาหรือ"

เขาเลิกคิ้วถามเพื่อความแน่ใจ นางจึงพยักหน้าอีกครั้ง

"ใช่แล้ว เจ้าถามทำไมหรือ"

การเดินทางไปตลาดเส้นทางผ่านสองหมู่บ้านสำหรับเขาไม่ไกล แต่นางไม่เคยออกนอกหมู่บ้าน ไม่เคยหาของป่ามาก่อนตลาดที่บอกทิศทางไปก็ไม่นึกว่าจะไปได้ถูกทาง เขาคิดว่านางคงไม่กล้าออกไปไหนไกลเพราะความไม่รู้เรื่อง แต่นางแบกสินค้าลงจากเขาแล้วไปที่ตลาดได้ขายของจนหมดซื้อกับข้าวกลับมามากมาย เขาอดสงสัยไม่ได้ว่านางทำได้อย่างไรในเมื่อร่างกายนางก็อ่อนแอเช่นเดียวกับเขาเอาเรี่ยวแรงจากไหนแบกของหนักเดินทางไกลขนาดนั้น แล้วนางยังค้าขายเป็นเหมือนคนปกติไม่มีผิด

"อ้าว จ้องหน้าข้าเพราะอะไร จะตอกย้ำความอัปลักษณ์กันหรือไรเล่า"

นางโพล่งออกไปอย่างร้อนตัว จิ่นฟานอวี้หยุดจ้องหน้าแล้วคีบอาหารใส่ปากต่อ

"เปล่า"

จากนั้นเขาก็กินข้าวเงียบๆ ไม่พูดไม่จาหรือถามนางอีก

วันนี้ก็เช่นเดิมทั้งคู่ผิงไฟด้วยกันในห้องของเขาความเงียบของหน้าหนาวช่างดูน่าเบื่อ นางไม่รู้จะทำอะไรสายตาอยากรู้แอบมองดูเขาคัดอักษรที่ไม่รู้จัก จะว่าเป็นของโบราณก็คงไม่ใช่ นางเคยเรียนประวัติศาสตร์มาตัวอักษรอย่างนี้ไม่เคยเห็น ฝีมือของเขาก็ดูปราณีตมีระเบียบชัดเจนตวัดขึ้นลงเป็นจังหวะไม่ช้าไม่เร็วแต่คล่องแคล่ว

สายตาใคร่รู้จ้องมองมือเรียวดุจหยกสลักปัดป่ายพู่กันไปมาอย่างเพลิดเพลิน เขารู้ตัวว่าถูกจ้องอยู่จึงเหลือบมองนางแล้วเขียนต่อไป พลันความรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหูก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว หากแสงจากตะเกียงสว่างกว่านี้คงได้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังหูแดงจัดอย่างแน่นอน

จางลี่อิงกลับมาที่ห้องของตนเองนางเอาเงินที่เหลือกลับมานับและยังเหลืออีกมากจึงเอาใส่ถุงที่เย็บไว้จากเศษผ้าเหลือเมื่อวันก่อน รูดแล้วมัดอย่างดีใส่ตู้เสื้อผ้าเอาไว้ ตอนนี้นางมีช่องทางทำมาหากินแล้วอีกหน่อยก็คงลืมตาอ้าปากได้

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ภรรยาอัปลักษณ์ของบัณฑิตยากจน   ส่วนแบ่ง

    เกวียนมาถึงสำนักศึกษาโดยจิ่นฟานอวี้ลงเพียงคนเดียวคนที่เหลือออกเดินทางไปที่อื่นต่อ จางลี่อิงโบกมือร่ำลาทำเอาคนบนเกวียนอมยิ้มไม่หุบเพราะเห็นสีหน้าตกตะลึงของบัณฑิตหนุ่มเมื่อรถเทียมเกวียนจากไปแล้วเขาจึงเดินเข้าสำนักศึกษา ได้ยินเสียงบางอย่างจึงล้วงในย่ามพบหมั่นโถวกับเงินหนึ่งถุงที่จางลี่อิงใส่เอาไว้ให้ติดตัว เขาหยุดเดินยืนนิ่งงันอยู่ครู่เดียวก็เดินเข้าสำนักศึกษาไปจางลี่อิงเอาของป่าตากแห้งมาขายเช่นเคยนางเริ่มมีลูกค้าประจำที่มารอซื้อสามสี่คน นอกจากนั้นพวกเขายังชวนเพื่อนมาอุดหนุนหรือซื้อไปฝากญาติๆ ของป่าของนางขายดีกว่าเจ้าอื่นเพราะความอัธยาศัยดียิ้มแย้มและขายไม่แพง บางครั้งก็แถมให้หากคนใดซื้อเยอะ เมื่อขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็วนางก็สะพายตะกร้าเดินออกจากตลาดอย่างเร่งรีบจิ่นฟานอวี้เลิกเรียนในตอนบ่ายเขาเดินออกมาที่ด้านหน้าพบหญิงสาวคนหนึ่งยืนกอดอกก้มหน้าเขี่ยเท้าเล่นไปมา บุคลิกของนางกลับดูน่ามองไม่เบื่อในตอนนี้แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเคยเป็นหญิงสติไม่ดีมาก่อน"เจ้ามาที่นี่ทำไม"เขาถามขึ้นด้วยความสงสัย"ข้ามารอรับเจ้ากลับบ้านพร้อมกัน"จางลี่อิงยิ้มออกมารอยยิ้มของนางดูสดใสกว่าทุกวัน นางไม่เคยยิ้มให้เข

  • ภรรยาอัปลักษณ์ของบัณฑิตยากจน   ดีกันแล้วหรือ

    "ขอโทษที่ข้ามาช้า นั่นเจ้าทำอะไรหรือ"นางวางตะกร้าลงได้กลิ่นอาหารลอยมาตั้งแต่หน้าบ้านรีบวิ่งปรู้ดเข้าไปดูในครัวเขายืนมือไพล่หลังอยู่ใกล้ๆ บอกนางจะได้ไม่ต้องรีบร้อนเพราะเขา"ไม่เป็นไรเจ้ากลับมาเหนื่อยๆ จะได้กินเลย ข้าตุ๋นเห็ดตากแห้งกับทำหมั่นโถวเอาไว้"เขายิ้มน้อยๆ ให้นางรอยยิ้มดูเป็นมิตรดีแต่ก็ยังแฝงไว้ซึ่งความเย็นชาเหมือนเดิม จบคำพูดเขาก็ไม่เอ่ยสิ่งใดอีก"เสร็จหรือยัง มาข้าช่วย"นางกุลีกุจอช่วยตักออกจากหม้อสำหรับสองที่ ยกชามเห็ดตุ๋นร้อนๆ กับหมั่นโถวมาวางบนโต๊ะ เขาทำเอาไว้ทั้งหมดหกลูกสำหรับกินหลายวัน"หมั่นโถวนี่กินได้กี่วัน"นางสงสัยเพราะมีอาหารหลายอย่างให้เลือกวัตถุดิบในบ้านก็ไม่ขาดแคลนแล้ว"ข้ากินมื้อละหนึ่งลูก นอกนั้นเอาไว้ให้เจ้าพกติดตัวยามหิวตอนขึ้นเขาและไปตลาด"เขาทำเผื่อนางไว้กินแก้หิวกลางทาง จางลี่อิงกล่าวขอบคุณเขา พลันใบหน้าซีดเซียวก็แดงเรื่อขึ้นมาไม่มีสาเหตุ กินข้าวเสร็จเก็บครัวเรียบร้อยนางก็เอาของไปเก็บทำความงานบ้านเสร็จหมดทุกอย่างนางนึกขึ้นได้ไปหยิบถุงเงินมาไว้กับตัว ช่วงค่ำนางเข้าไปในห้องของจิ่นฟานอวี้ขอรบกวนเวลาเขาสักครู่ มือผอมบางล้วงถุงเงินออกมานับยื่นให้เขาห้าสิบตำ

  • ภรรยาอัปลักษณ์ของบัณฑิตยากจน   รับรางวัล

    "ใช่แล้วข้าจะเอาไว้กินแล้วก็เอาไว้ขายด้วย"นางยิ้มร่าเริงมือผอมบางเขี่ยเมล็ดผักที่แช่น้ำในกระป๋องไปมา จิ่นฟานอวี้เห็นดังนั้นก็ขอมาหนึ่งกระป๋องถกแขนเสื้อเตรียมลงมือ"ข้าช่วยปลูก"เขาบอกกับนางพลางเดินไปอีกแปลง"แต่ว่าเจ้าต้องอ่านหนังสือ"นางเกรงใจเขาอยากให้ใช้เวลานี้ตักตวงความรู้ให้เต็มที่เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบส่วนงานสวนนี้นางจะจัดการเอง"ไม่เป็นไรข้าอยากช่วย"เขาเอ่ยขึ้นสีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดแล้วลงมือปลูกผัก นางเห็นเขาอยากช่วยก็ไม่อยากพูดพร่ำเพรื่อลงมือปลูกอีกแปลงแปลงผักสิบแปลงมีผักอยู่หกชนิด จางลี่อิงและจิ่นฟานอวี้ปลูกผักเสร็จเขาก็ล้างมือกลับเข้าห้องอ่านหนังสือต่อ ส่วนนางก็รดน้ำจนเสร็จเอาหญ้าแห้งที่เก็บมาด้วยคลุมแล้วปิดรั้วเอาไว้จางลี่อิงเตรียมตัวเอาเห็ดตากแห้งไปขายที่ตลาด เช้าวันรุ่งขึ้นนางรีบไปแต่เช้าก่อนตลาดจะวาย เส้นทางลัดหากอยากไปให้ถึงเร็วขึ้นจะมีซอกซอยเล็กแคบอยู่เส้นหนึ่งแต่ผู้คนไม่สัญจรเพราะค่อนข้างเสี่ยงอันตราย มักมีขอทานหรือโจรและพวกอันธพาลหนีการจับกุมของมือปราบมาซ่อนตัวดักปล้นคนผ่านไปผ่านมาบ่อยๆแต่ก็เป็นเส้นทางเดียวที่ช่วยย่นระยะเวลาไปถึงตลาดได้เร็วขึ้น นางเดินไปถ

  • ภรรยาอัปลักษณ์ของบัณฑิตยากจน   แก้ปัญหาในแบบของข้า

    "ท่านเลี้ยงข้ามาอย่างไรก็รู้อยู่แก่ใจ ตอนแต่งงานก็ไม่ได้มีเงินขวัญถุงมาให้ตั้งตัว สามีที่ท่านยัดเยียดให้ข้า บีบบังคับจิตใจเขามาแล้วไล่เราออกจากตระกูลแยกบ้านให้ ก็รู้ๆ อยู่ว่าเขาป่วยกำพร้าพ่อแม่ไม่มีเงินให้ แต่พวกท่านก็ยอมรับแล้วนี่ว่าเขายากจนแล้วจะรีดไถกันได้ ไม่เรียกว่าอำมหิตจะให้เรียกว่าอย่างไร"นางร่ายยาวเท้าความหลังเวลานี้ย่าเหลียวไม่อายนางก็ไม่อายเช่นกัน ผู้คนที่มุงดูต่างส่งเสียงฮือฮา ถึงบางคนจะรู้เรื่องของนางแต่เรื่องแต่งงานพวกเขาเพิ่งรู้ความจริงว่านางถูกบีบออกจากตระกูลโดยการแต่งงาน"บ้านกับที่ดินข้าก็ยกให้แล้วเจ้ายังเนรคุณด่าข้าอีก น่าน้อยใจนัก" ย่าเหลียวเล่นบทบาทตัดพ้อเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ตีสีหน้าเศร้าสร้อยป้าสะใภ้รองกระตุกแขนของย่าเหลียวมองดูสายตาคนในหมู่บ้านนางก็รู้สึกหวาดหวั่นแต่ย่าเหลียวไม่สนใจยังหมายมั่นเอาชนะต่อไป"มันคือส่วนของพ่อแม่ข้าต่างหากที่จริงท่านควรแบ่งให้มากกว่านี้ แต่ตระกูลจางก็เจียดมาให้ข้าเท่านี้คิดบ้างหรือไม่ หากท่านตายไปจะบอกท่านปู่ว่าอย่างไรทำเช่นนี้ไม่ถือว่าลำเอียงกับข้าหรอกรึ เทียบกับลูกหลานคนอื่นนับว่าท่านใจดำกับข้าที่สุด"จางลี่อิงไม่ยอมแพ้วันนี้ขาด

  • ภรรยาอัปลักษณ์ของบัณฑิตยากจน   ทวงเงิน

    นับตั้งแต่แต่งงานเข้ามาในตระกูลจางจิ่นฟานอวี้นอกจากต้องจ่ายเงินคนในตระกูลแล้วยังต้องตามแก้ปัญหาของจางลี่อิงจนแทบไม่มีสมาธิอ่านหนังสือคัดอักษร แต่เขาก็อดทนอดกลั้นไม่พูดไม่จานางทั้งเห็นแก่ตัวกับเขาทั้งออกไปมีเรื่องกับคนอื่นทุกวันทั้งโดนรังแกมา ทั้งไปรังแกผู้อื่นตามกลุ่มอันธพาล สุดท้ายก็ถูกกลั่นแกล้งมีบาดแผลบ่อยๆ กิริยาหยาบคายไม่สนใจครอบครัว ขี้เกียจอาบน้ำ ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง อย่างที่บอกว่าทำได้เพียงผ่าฝืนและหาบน้ำที่ไม่ค่อยสำเร็จนางไม่ได้ชอบเขามาตั้งแต่แรกเห็นแล้วเพราะเขาขี้โรคผอมแห้งดูเหมือนผีในสายตาของนาง ช่วงหลังได้เจอกับพ่อค้าขายผ้ากลับทำให้หลงใหลในความหน้าตาดี คอยวิ่งตามเกวียนขายผ้าทุกครั้งที่เข้ามาในหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องคอยลากกลับบ้าน พอไม่ได้ดั่งใจก็โวยวายตีตัวเองหยิกเนื้อจนได้แผลบ่อยครั้ง เพื่อนบ้านต่างเอือมระอาแทนจิ่นฟานอวี้กับพฤติกรรมที่น่าอับอายของนางแต่เพราะจิ่นฟานอวี้ชอบช่วยเหลือเอื้อเฟื้อชาวบ้านพวกเขาจึงยังทำดีกับครอบครัวนางมาตลอด ครั้งนี้ทุกอย่างดูเปลี่ยนไปราวพลิกฝ่ามือ นางดูสงบเสงี่ยมรู้จักทำมาหากินเอาใจใส่สามี คนในหมู่บ้านที่เคยซุบซิบนินทาต่างแปลกใจเมื่อเห็นนางยิ้มร่าเร

  • ภรรยาอัปลักษณ์ของบัณฑิตยากจน   หาเงินซื้อยา

    นางมาถึงตอนยังไม่สายมากนักตลาดยังไม่วายจึงวางของลงขาย มีคนเดินผ่านไปผ่านมาต่างมองดูตะกร้าของนาง บ้างก็อยากแวะชม บ้างก็เดินเข้ามาเลือกดู ของป่ามีคนต้องการซื้ออยู่แล้วเพียงแต่ไม่ค่อยมีคนนำมาขาย พวกเขาเข้ามามุงดูสินค้าของนางอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาดระยะ"นั่นดอกอะไร"หญิงวัยกลางคนถามขึ้นเมื่อเห็นเห็ดหน้าตาแปลกประหลาด"เห็ดหูหนูดำจ๊ะ ใช้ทำอาหารทั้งแกงตุ๋นและผัดกินได้แต่ห้ามกินดิบนะ"นางอธิบายสรรพคุณให้ฟังหญิงคนนั้นขอซื้อสามกำมือ ครู่ต่อมาเมื่อมีคนเห็นก็ตามมาซื้ออีกพร้อมกับซื้อผักป่าที่นำมาด้วยจางลี่อิงเหลือไว้สามกำมือกับผักป่าอีกเล็กน้อยมุ่งหน้าไปทางร้านขายยาเพื่อให้เขาตีราคาเห็ดหลินจือให้ แม้ในยุคของนางยังเป็นของราคาแพงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเขาจะรู้จักหรือไม่"แม่นางจะรับยาแบบใดขอรับ"เถ้าแก่ถามนางด้วยความยิ้มแย้มบริการสุภาพแม้แม่นางน้อยคนนี้จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าซีดทว่าดูสะอาดตา"ข้ามีสิ่งนี้มาขายไม่ทราบว่าท่านจะรับหรือไม่"นางเอ่ยถามออกไปพร้อมหยิบเห็ดหลินจือขึ้นมาห้าดอกเถ้าแก่เบิกตาโตอย่างตื่นเต้นของหายากเช่นนี้นางไปหามาจากที่ใดกัน ดูๆ แล้วน่าจะเป็นเห็ดหลินจือเอาไว้ใช้ทำยา"รับสิ ข้ารับ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status