Share

8.วันแรกก็ถูกวางยา

last update Last Updated: 2025-10-06 23:15:14

ด้านตันหยง  เมื่อหลบออกมาแล้วนางก็นั่งเล่นอยู่ในสวน  มีสาวใช้คนสนิทจากบ้านเดิมสองคนคอยอยู่รับใช้ข้างกาย  เพราะนางไม่ไว้ใจคนของจวนโหวสักเท่าไหร่  โดยเฉพาะสาวใช้หน้าตาดีที่ถูกส่งมาเดินวนเวียนทั่วเรือนของนาง  คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนของฮูหยินรองฟู่ทั้งนั้น  และแน่นอนว่าพวกนางไม่ได้มาอยู่รับใช้ตนเพียงอย่างเดียว  แต่มาคอยก่อกวนให้อยู่ไม่เป็นสุขด้วย

ทว่า  ใครหรือจะอยู่ไม่เป็นสุข

“ฮูหยิน  ชาเจ้าค่ะ”  สาวใช้ของจวนโหวนามว่าจางหมิ่นเดินเข้ามาวางถาด  จากนั้นก็รินให้นายหญิงคนใหม่ของตน

ตันหยงเงยหน้ามองอีกฝ่ายพร้อมกับยิ้มอ่อนให้  จากนั้นนางก็เอ่ยว่า  “เจ้าชิมให้ข้าที  ข้าอยากรู้ว่ามันร้อนหรือเปล่า”

“อะ… เอ่อ  ไม่ได้เจ้าค่ะ  บ่าวเป็นบ่าว  ไม่ควรแตะต้องของผู้เป็นนาย  หากฮูหยินรองฟู่ทราบเรื่อง  บ่าวต้องถูกโบยจนหลังลายเป็นแน่เจ้าค่ะ”  จางหมิ่นรีบปฏิเสธ

“แล้วนายเจ้าโบยเจ้ากี่ไม้ล่ะ” จินมู่สาวใช้ตันหยงถาม

“สิบไม้เจ้าค่ะ”  จางหมิ่นรีบเอ่ย  หมายให้อีกฝ่ายปรานี

ทว่า!

“เช่นนั้นถ้าเจ้าไม่ดื่มชานี่  ก็รับโทษโบยจากฮูหยินท่านโหวไปยี่สิบไม้ก็แล้วกัน  เด็ก ๆ มาเอานางไปโบย” ครานี้เป็นเสียงสั่งการของชงมู่  สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้ม  แต่ความจริงนางเด็ดขาดนัก  ใครกล้าลงมือกับผู้เป็นนาย  นางย่อมไม่ปรานีแน่

“ไม่  ไม่นะเจ้าคะ  บ่าวไม่ได้ทำผิดอันใด  ไยนายหญิงสั่งลงโทษเช่นนี้”  จางหมิ่นส่งเสียงคร่ำครวญ  หมายให้ท่านโหวได้ยิน  ซึ่งมันก็ได้ผล  ยามนี้ฟู่อินโหวเดินออกมาแล้ว

“มีเรื่องอะไรกันแต่เช้า”  ร่างสูงก้าวลงมาจากบันไดตรงมาหาภรรยาตน  ทว่าจางหมิ่นกลับพุ่งเข้ามาเกาะขาเขาก่อนจะถึง

“ท่านโหว  ช่วยบ่าวด้วยเจ้าค่ะ  ฮูหยินสั่งคนให้โบยบ่าวยี่สิบไม้เจ้าค่ะ  บ่าวแค่ไม่ยอมดื่มชาเท่านั้นเอง”  

อินหลางหันมองภรรยาตัวน้อยของตนเป็นเชิงถาม  แต่สิ่งที่เขาเห็นคือนางยกยิ้มมุมปาก  มิหนำซ้ำนางยังมองเขาสลับกับสาวใช้ขึ้นลงราวกับกำลังพิจารณาบางสิ่ง

“ถอยออกไป”  เสียงเย็นออกคำสั่งกับคนที่เกาะขาตน  ทำให้จางหมิ่นต้องรีบขยับถอยหนีออกในทันที  จากนั้นท่านโหวก็เดินมานั่งที่ตั่งกลมข้างภรรยาของตน

“มีเรื่องอะไรกันแน่”  เขาเอ่ยถามอีกครั้ง

“ข้าก็แค่ให้นางดื่มชาแทน  แต่นางบอกว่าดื่มไม่ได้  เพราะ  มารดาท่านโหวสั่งไว้ห้ามทำตัวเสมอนาย  หากฝ่าฝืนจะถูกโบยสิบไม้  คนของข้าเลยตั้งกฎขึ้นมาบ้าง  ใครขัดคำสั่งข้ารับโทษเป็นสองเท่า”  สิ้นคำนางก็เผยยิ้มให้เขาเหมือนไม่มีอะไร

ปึ้ง!  ฝ่ามือเรียวทุบลงบนโต๊ะทันที

“เรื่องแค่นี้น่ะหรือ  ทำให้เจ้าสั่งลงโทษคนในเรือน  ไร้เหตุผลสิ้นดี”  ร่างสูงลุกพรวดขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าภรรยา  ไม่ต่างจากคนที่นั่งคุกเข่าอยู่  จางหมิ่นกำลังยิ้มเยาะตันหยง

ทว่าคนที่ถูกมองด้วยแววตาเกรี้ยวกราดหาได้ใส่ใจไม่  นางกลับยกยิ้ม  พรางรินชาใส่จอกแล้วยื่นให้สามีอย่างใจเย็น

“ท่านโหวอย่าได้ตำหนิข้าเลยนะเจ้าคะ  นั่งลงดื่มชาถ้วยนี้ก่อนเถิด”  ตันหยงยังคงเผยยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้

“ท่านโหว!  อย่าดื่มนะเจ้าคะ” จางหมิ่นร้องห้ามอย่างลืมตัว  เมื่อนึกได้นางก็รีบก้มหน้าทันที  

ท่าทางตื่นตูมนี้… ทำให้อินหลางเริ่มสังเกตเห็นถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ  เขาจึงหันกลับมาหาภรรยาตัวน้อยที่ยังยื่นจอกชาให้  ใบหน้ายิ้มแย้มนี้มันช่างยียวนเสียเหลือเกิน  ไม่ถึงอึดใจเขาก็หันกลับมาหาสาวใช้ที่นั่งนิ่งไม่ยอมขยับ

“ในเมื่อฮูหยินมีน้ำใจเจ้าก็รับไปเถิด  แต่ถ้าไม่เช่นนั้นเจ้าก็ไปรับโทษโบยยี่สิบไม้เสีย”  สุ้มเสียงเขาเริ่มเยือกเย็น

“ทะ… ท่านโหว”  จางหมิ่นเงยหน้าอ้อนวอน

“จะอะไรนักหนา  กะอีแค่ดื่มชาแทนฮูหยิน”  ชงมู่หันมารับถ้วยชาในมือผู้เป็นนาย  ก่อนจะเดินตรงไปใช้มือบีบปากสาวใช้นางนี้อ้าออกแล้วกรอกมันลงไปจนหมด

“ไม่นะ!  ไม่นะ!”  จางหมิ่นร้องเสียงหลง  พร้อมกับใช้นิ้วล้วงเข้าไปในคอตน  หมายจะให้อาเจียนออกมา

“หึหึ… แค่ดื่มชา  ทำไมเจ้าต้องร้อนรนถึงเพียงนี้เล่า  หรือชานี้มันมีพิษร้ายอันใดซ่อนอยู่”  ชงมู่ยอบกายชันเข่ามองอีกฝ่าย  ก่อนจะเชยคางจางหมิ่นขึ้นเพื่อให้เผชิญหน้ากับทุกคน

“ขะ… ข้า  ข้าเปล่านะ”

“เปล่าอะไร  เปล่าวางยาฮูหยินข้ากระนั้นหรือ”

“ท่านโหว  บ่าวไม่ได้ทำจริง ๆ นะเจ้าคะ”  ร่างอรชรของสาวใช้คนงาม  รีบขยับคลานมาหาผู้เป็นนายทันที

“หยุดอยู่ตรงนั้น  หากเจ้าไม่ได้ทำจะร้อนตัวไปไย”  เพียงแค่คำพูดเย็นชาเปล่งออกมา  สาวใช้ตัวน้อยก็ชะงัก  มากไปกว่านั้นคนที่นางหวังให้ช่วยยังออกคำสั่งอีกว่า  “เว่ยซา  เอาตัวนางไปขังไว้ในห้องเก็บฟืน  ห้ามให้ใครเข้าใกล้เด็ดขาด”

คนสนิทรับคำสั่งแล้วก็พาตัวจางหมิ่นออกไป  พร้อมด้วยเสียงคร่ำครวญน่าสงสาร  ไม่รู้เป็นเพราะกลัวความผิด  หรือนางถูกใส่ร้ายจริง ๆ ทว่าใครกันจะกล้าเข้ามาช่วย

ในเมื่อคนที่นางสร้างเรื่องด้วยคือฮูหยินของจวน  

 

“เกิดอะไรขึ้น  ทำไมจู่ ๆ จางหมิ่นถึงถูกสั่งขังได้”

“ข้าก็ไม่รู้  ได้ยินแค่ว่าฮูหยินให้นางดื่มชา  แต่นางไม่ดื่ม  จากนั้นคนของฮูหยินก็เอาชากรอกปากนาง  ท่านโหวก็สั่งให้เอาไปขัง  ข้าว่านางคงล่วงเกินอะไรฮูหยินท่านโหวเป็นแน่  ถึงได้โดนเช่นนี้”  อีกคนก็หันมากระซิบกระซาบบอก

“แน่ใจหรือ  มิใช่ฮูหยินเห็นว่าจางหมิ่นหน้าตางดงามเลยเกิดหึงหวงหรือ  ข้าเห็นตอนที่จางหมิ่นเกาะขาท่านโหวด้วยนะ”

“เช่นนั้นนางก็คงจะหึงหวงท่านโหวจริง ๆ นั่นแหละ”

“สนุกปากกันจริงนะพวกเจ้า  ข้าไม่แปลกใจเลย  เหตุใด  คนของฮูหยินถึงได้กล่าวว่าสาวใช้ที่นี่เชื่อถือไม่ได้  ลงโทษตบปากพวกนางคนละยี่สิบ  ภายหน้าจะได้รู้จักเข็ดหลาบบ้าง”  เสียงสั่งการของเว่ยซาดังพอให้ผู้เป็นนายที่อยู่ในสวนได้ยิน  

ทว่าไม่มีใครถามว่าเกิดอันใดขึ้น  เพราะอีกไม่นานคนสนิทท่านโหวก็ต้องเดินเข้ามารายงานผู้เป็นนายอยู่ดี  

เมื่อเว่ยซาเดินมาถึงเขาก็กล่าวบอกไปตามจริง  แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากมายอันใด  เพราะไม่อยากสร้างประเด็นขึ้นอีก

“จัดการได้ดี”  ชงมู่เอ่ยชมเว่ยซา

“มันคือกฏที่บ่าวไพร่ในจวนควรปฏิบัติอยู่แล้ว”  องครักษ์วัยสามสิบเอ่ยตอบอย่างไม่ยี่หระ  เขาไม่ได้ทำเพื่อใคร  ทว่านี่มันคือกฏตายตัวที่มีกันทุกจวนอยู่แล้ว  บ่าวไพร่ห้ามนินทาเจ้านาย

“ชิ!”  สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มคว่ำปากอย่างหมั่นไส้  

“ชงมู่  อย่าเกินไปนัก”  จินมู่เตือนเสียงเบา  สหายวัยเดียวกันจึงยู่ปากใส่  ก่อนจะหันมาเห็นสายตาตำหนิของผู้เป็นนาย  นางจึงยิ้มแหยแล้วถอยมายืนหลบทางด้านหลัง

อินหลางยังคงลอบสังเกตท่าทางของภรรยาตน  รวมถึงคนของนางที่ดูร้ายกาจไม่แพ้ผู้เป็นนาย  ดูท่าทั้งสามคงมีแผนรับมือตั้งแต่แรกแล้ว  มิเช่นนั้นแต่ละคนคงไม่มีความสามารถมากเพียงนี้  คนหนึ่งก็แลจะชำนาญเรื่องการรักษา  อีกคนก็เหมือนจะมือไวคล่องแคล่วและน่าจะมีวรยุทธด้วยกระมัง

ส่วนมู่ตันหยงก็จอมบงการ  ตัววางแผนในทุก ๆ เรื่องที่ทำ  ภายหน้าหากเกิดอันใดขึ้น  เขาคงต้องพิจารณาให้ดีแล้วว่า  ในช่วงเวลานั้น  เขายืนอยู่ในแผนการณ์ของนางหรือไม่  ทว่ายามนี้เขาควรสืบดูให้รู้ก่อนว่า  ในกาน้ำชามันมีพิษจริงหรือเปล่า

คิดได้ดังนั้นเขาจึงนั่งลงอีกครั้ง  “เจ้าแน่ใจได้เยี่ยงไรว่าในชานี้มีพิษ  หรือแท้ที่จริงแล้วเจ้าแค่ต้องการกลั่นแกล้งสาวใช้”

ตันหยงมองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “หากท่านโหวคิดว่าข้าตั้งใจทำ ไยถึงยอมร่วมมือด้วยล่ะเจ้าคะ” เผยยิ้มยียวนใส่อีกฝ่ายอย่างน่าตี  แล้วมีหรือฟู่อินโหวจะยอมให้นางแกล้งฝ่ายเดียว  เขายื่นมือออกมารั้งเอวคอดยกดึงนางมานั่งบนตัก

“ปล่อยนะ!”  มือน้อยยกขึ้นดันไหล่แกร่งอย่างตื่นตระหนก

“เก่งนักก็หาทางรอดให้ได้สิ”  อินหลางยิ้มร้ายใส่ใบหน้างามที่อยู่ห่างเพียงคืบ  กลิ่นหอมอ่อน ๆ จึงลอยเข้าจมูกอีกครา  เขาเผลอขยับเข้าใกล้ราวกับกำลังต้องมนต์  แต่ยังไม่ทันถึงแก้มเนียน  ภรรยาตัวน้อยก็เบี่ยงหนีและขบกัดเข้าที่ไหล่เขาอย่างแรง

พร้อมกันนั้นนางก็รีบดิ้นลุกออกจากตักเขา

“สมน้ำหน้า”  สิ้นคำร่างเล็กก็วิ่งหายเข้าเรือน  โดยมีสายตาคมกริบของสามีมองตาม  ทว่าริมฝีปากเขากลับยกมุมขึ้น  ไร้ซึ่งความหงุดหงิดอย่างที่ควรจะเป็น

 

 

 

 

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   31. นางร้ายมีสุข

    อินหลางไม่ปล่อยโอกาสให้ภรรยารักตนได้เอ่ยปาก เพราะกำหนัดก่อนหน้ามันยังค้างคาอยู่ พอมาเห็นผิวขาวของนาง ความต้องการมันก็ยิ่งเพิ่มพูนร่างอรชรจึงถูกเขาโถมเข้าใส่อย่างไม่รีรอ“อ่า… น้องหญิง ร่องเจ้ารัดแน่นยิ่งนัก” ท่านโหวเอ่ยชมทุกรั้งยามเมื่อเขาสอดใส่แท่งหยกเข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นท่วงท่าที่ทั้งคู่ทำ มันก็กระตุ้นกำหนัดดีนัก ยามเมื่อเขาออกแรงน้ำในถังก็กระเพื่อมตาม ดีที่มันกว้างใหญ่จึงรับการกระแทกของเขาได้ตันหยงได้แต่ครางเสียว ไม่อาจตอบโต้เป็นภาษาปกติเพราะร่างแกร่งถาโถมเข้าใส่จนนางต้องหาที่ยึด นั่นคือขอบถังที่อยู่บนศีรษะ ส่วนมืออีกข้างก็โอบรอบคอสามีไว้ ส่วนด้านล่างก็ถูกสะโพกหนาขยับเข้าใส่ไม่หยุดหย่อน ทำเอากำหนัดที่กักเก็บไว้เป็นได้ทะลักออกมาในเวลาอันรวดเร็ว ถึงกระนั้นก็ใช่ว่ามันจะจบ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ในถังอีกแล้ว ตรงนี้มันคับแคบเกินไป“ต่อนะน้องหญิง” สิ้นคำท่านโหวก็สอดลิ้นอุ่นเข้าปากนางทันที ตามด้วยเสียงจูบแลกลิ้นที่ไม่มีใครยอมใครเตียงกว้างที่ถูกปูไว้อย่างเรียบร้อย บัดนี้มันเริ่มย่นเข้าหากันเพราะสงครามของเนื้อกายเริ่มปะทุขึ้นมาอีกหนความสุข

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   30. ลอบสังหาร

    อินหลางพาภรรยาตัวน้อยของตนกลับมาถึงเรือนก็ไม่ยอมเสียเวลาจัดการกับนาง เพราะวันนี้ฮูหยินเขาแต่งกายได้งดงามเย้ายวนนัก หากไม่ติดว่าอยู่ในงานเลี้ยง เขาเป็นได้แบกนางกลับห้องในยามนั้นแล้ว และเมื่อมาถึงเขาก็ไม่รอช้าที่จะยกนางขึ้นบนโต๊ะกลางห้อง หมายจะรีดน้ำรักตนเสียตรงนี้ ทว่าในขณะที่เขาซุกหน้าบนซอกคอขาว ประตูที่ปิดอยู่กลับถูกเปิดออก ตามมาด้วยชายฉกรรจ์ปิดหน้าตากรูกันเข้ามา “ฆ่าฟู่อินโหว แล้วเอาฮูหยินมันไป” เสียงคำสั่งดังขึ้นทันที จากนั้นพวกมันก็ง้างดาบใส่ หมายเอาชีวิตเจ้าของจวน อินหลางป้องภรรยาตนไว้ข้างหลัง ทั้งเตะทั้งถีบผู้ที่ก้าวเข้าใกล้ เขาพาฮูหยินถอยร่นไปจนถึงมุมเก็บดาบ เมื่อคว้ามันมาได้ก็กลายเป็นกลุ่มคนร้ายที่ต้องหวาดกลัว เพราะฟู่อินโหวสังหารคนเหล่านี้อย่างไม่มีปรานี ถึงกระนั้นพวกมันก็ยังพุ่งเข้ามาไม่หยุด บางคนอ้อมมาด้านหลังหมายจะจัดการกับภรรยาเขา ฟิ้ว! คมธนูจากหน้าประตูแหวกผ่านอากาศปะทะร่างคนร้ายทันที พร้อมกันนั้นเหล่าองครักษ์ของฉินอ๋องก็กรูกันเข้ามา “จัดการมันให้หมด” เขาสั่งการเสียงเข้ม กลุ่มคนร้ายจึงพากันตื่นตระหนก บ้างก็วิ่งออกทางหน้าต่างเพื่อเอาตัวรอด “ข้

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   29. ภาพเสมือนจริง

    ผ้าแพรสีแดงถูกลากลงมาอย่างเชื่องช้า เสียงเนื้อผ้าลากผ่านไม้ดังแผ่วเบา ทว่าไม่มีใครใส่ใจตรงนี้เลย เพราะหลังจากผ้าถูกดึงออก พวกเขาก็เอาแต่จ้องฉากไม้กั้นที่สูงเท่าตัวคน แขกเหรื่อในงานรวมถึงเจ้าภาพแทบจะหยุดหายใจ ตรงหน้าพวกเขาคือฉากกั้นบานใหญ่ขนาดหกพับ แต่ละพับมีภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวต่าง ๆ พวกเขามีหลากหลายอิริยาบถ บางภาพยืนสบตากันใต้ร่มไม้ บางภาพยิ้มอ่อนขณะช่วยกันชงชาในศาลา บางภาพยืนกุมมือกันท่ามกลางแสงจันทร์ ซึ่งแต่ละภาพล้วนสะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และช่วงเวลาที่ฝังลึกอยู่ในใจ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงไม่แพ้กัน กลับมิใช่ความละเอียดของเส้นพู่กัน และเรื่องราวมากมายบนฉากกั้น ทว่า! มันคือ สีสัน ที่สาดซัดลงบนผืนผ้าอย่างวิจิตรตระการตาต่างหาก บางภาพเผยความงามของท้องฟ้าในยามเย็นเสมือนจริงยิ่งนัก และยังมีแสงสะท้อนสาดส่องลงมา นำพาให้อาภรณ์ของหนุ่มสาวในภาพนี้ทอประกาย ดวงตาของทั้งคู่หรือก็ดูแวววาว…ราวกับมีชีวิต ทุกภาพล้วนแต่เสมือนจริงจนทุกคนได้แต่ยืนนิ่งงัน แม้เสียงดนตรีขาดหายไปก็ยังไม่มีใครใส่ใจ ด้านไท่ฮูหยิน นางกำลังก้าวเข้าไปใกล้ พร้อมกับเอ

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   28. สาวงาม

    เวลาต่อมา ณ ลานไม้หน้าเรือนรับรอง กลุ่มคนงานก็นำโต๊ะยาวมาตั้งขวางทางเดิน ในขณะนั้นแขกผู้ใหญ่อย่างฉินอ๋องก็เดินทางมาถึง ซึ่งเขามักจะมาอวยพรนางทุกปีเพราะไท่ฮูหยินคือน้องสาวของหานสืออวิ้นผู้เป็นตาของเขาเอง หากจะนับให้เข้าใจฉินอ๋องก็คือญาติผู้พี่ของฟู่อินหลางและอายุของทั้งคู่ก็เท่ากัน เพราะเกิดในวันเดียวกัน ต่างก็แค่ คนหนึ่งเกิดกลางวัน อีกคนเกิดยามวิกาล“ท่านพี่ ไยท่านไม่บอกว่าฉินอ๋องจะมาด้วย แค่นี้ข้าก็ต้อนรับไม่ทันแล้วท่านรู้หรือไม่” ตันหยงตำหนิสามีทันที “พี่ก็ไม่รู้ว่าพระองค์จะเสด็จมา ก่อนหน้าทรงรับสั่งว่าจะเดินทางไปตรวจตราภัยแล้งช่วยรัชทายาท ทว่าเหตุใดจู่ ๆ ถึงได้เสด็จมาก็ไม่รู้” อินหลางหันมากระซิบบอกภรรยา ก่อนจะมองไปที่ร่างสูงตัวเท่ากัน ซึ่งยามนี้กำลังประคองท่านย่าตนออกมานั่งที่ตั่ง ทำให้แขกเหรื่อที่มาอวยพรต้องรีบเงียบเสียงลง“ตามสบายเถิด ข้าเองก็มาโดยไม่ได้แจ้งก่อน ต้อนรับตามแต่พวกเจ้าสะดวกเถิด” สุรเสียงของฉินอ๋อง เอ่ยออกมาเล็กน้อยก็ทำให้ภายในงานเงียบลงถนัดตา มีเพียงเสียงดนตรีเท่านั้นที่ยังคงบรรเลงขับกล่อมให้ได้ยิน“ทรงอำนาจดีจังเลยนะเจ้าคะ น่าเกรงขามมาก

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   27. ชุลมุนวุ่นวาย

    ตันหยงอาบน้ำเสร็จก็ออกมายืนรอสามีที่ระเบียงนอกเรือน เป็นจังหวะที่มีคนมารายงานข่าวกับเว่ยซาพอดี“มีอะไรหรือ” นางรีบถาม“ท่านโหวให้คนมาแจ้งว่าคืนนี้อาจจะกลับดึกขอรับ”“ได้บอกหรือไม่ว่าเพราะเหตุใด” “คงหารือกันเรื่องงานขอรับ ช่วงนี้ทางตะวันออกเกิดภัยแล้งอย่างหนัก ยังมีโรคระบาดตามมาอีก ผู้คนทางนั้นอดอยากและล้มตายกันมาก ท่านโหวและขุนนางคนอื่น ๆ ต่างก็พยายามหาทางแก้กันอยู่ขอรับ” เว่ยซารายงานเท่าที่ตนเคยได้ยินมา“ภัยแล้งเหรอ” ตันหยงนิ่งไป พร้อมกับคิดถึงเนื้อเรื่องที่ตนเคยอ่าน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฟู่อินโหวไม่ค่อยได้กลับจวน จึงทำให้ภรรยาตามไปราวีถึงหอ เป็นเหตุให้เขาอับอายมาก ทว่าคนเขียนไม่ได้ระบุไว้ว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะเนื้อเรื่องหลัก ๆ บรรยายถึงปัญหาชีวิตคู่ของฟู่อินโหวและมู่ตันหยง รวมถึงตัวนางเอกของเรื่องมากกว่าองค์ประกอบส่วนอื่นผู้ประพันธ์ไม่ได้ลงรายละเอียดนักเพราะนี่มันคือนิยายรักดราม่า แนวรักสามเส้าทว่าเมื่อนางเข้ามาอยู่ในนี้และเปลี่ยนบท เนื้อเรื่องมันเลยละเอียดขึ้น ตัวละครยังคงดำเนินชีวิตเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ตัดไปวันนั้นวันนี้เหมือนในนิยายที่ตนเคยอ่านมา ฉะน

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   26. มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู

    อินหลางเองก็มึนงงไม่แพ้กัน เขาจึงรีบถามให้แน่ใจ“จะ… จริงหรือ เจ้าไม่ได้ปดพี่นะ”“ข้าจะปดท่านพี่ทำไม เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นเราก็มาวาดภาพกันต่อดีกว่านะเจ้าคะ ข้าขอใช้ห้องตำราของท่านพี่ได้หรือไม่” ตันหยงยิ้มหวานให้เขา“ได้สิ จวนนี้เจ้าอยากใช้ตรงไหนจัดการได้เลย” ฟู่อินโหวรีบเอ่ย ภรรยาตัวน้อยก็ยิ้มกว้างทันที ด้านไป่ฮวาได้แต่เหลือบตามองอย่างหมั่นไส้ แต่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนสีหน้า แขนของนางก็ถูกคว้ามาเกาะ แล้วรั้งให้เดินตามกันออกมา ทิ้งให้คนในห้องมองตามอย่างมึนงง…“ฮะ… ฮูหยินไปสนิทกับแม่นางไป่ฮวาตั้งแต่เมื่อใดกัน” เป็นเกาหยางที่เอ่ยในสิ่งที่ตนสงสัยก่อนใคร“นั่นสิ ข้าไม่เคยเห็นแม่นางไป่มาหาฮูหยินเลยสักครั้ง และฮูหยินก็ไม่เคยไปหานางเลยสักครา แล้วทั้งคู่ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อใด” ครานี้เป็นเว่ยซานที่เอ่ยขึ้นมาอย่างงวยงง“พวกนางไม่เคยไปมาหาสู่กันกระนั้นหรือ”“ไม่ขอรับ ข้าอยู่เฝ้าฮูหยินตามคำสั่งนายท่านตลอดทั้งวัน มีแยกไปบ้างเวลาทำธุระ แต่ก็ไม่นานนะขอรับ เอ๋! หรือสองคนนี้จะนัดพบกันยามค่ำคืน ทว่าแม่นางไป่ก็เพิ่งมาอยู่แค่สามวันมิใช่หรือขอรับ มิหนำซ้ำว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status