ซีลินยกมือขึ้นมาลูบแก้มของตัวเบาๆ เธอมิได้รู้สึกโกรธเคืองสตรีงดงามเบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย เธอก้มหน้าลงเพื่อเป็นการบอกลาก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งท้ายเอาไว้เพียงรอยยิ้มและแววตาที่อ่อนโยนซึ่งมันบาดลึกลงไปในหัวใจของนาทาเลียได้อย่างชัดเจน
นาทาเลียก้มมองมือของตัวเอง แน่นอนว่ามันยังเจ็บ ยังมีร่องรอยแดงเนื่องจากมันพึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของซีลิน หน้าต่างสีแดงนั้นหายไปไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยนอกจากความเจ็บของเธอที่ฉายชัดขึ้นมา ชีวิตเช่นนี้ดีแล้วอย่างนั้นหรือ? ต้องทำตามคำสั่งพวกนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำถามนั้นเธอเคยได้คำตอบมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะเธอคิดว่าอย่างไรเสีย นี่ก็คือเกม..และหากว่าเธอลองตายไป เธออาจจะได้กลับไปยังโลกที่เคยอยู่แต่ทว่าเมื่อนาทาเลียตาย เธอกลับเข้ามาในร่างของตัวเองอีกครั้ง.. พร้อมกับหน้าต่างคำสั่งว่าเธอเหลืออีก 9 ชีวิต นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถตายได้อีก9ครั้งรึเปล่านะ ครั้งเดียวก็เจ็บปวดแทบบ้าแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเธอไม่คิดที่จะลองตายอีกครั้งแล้ว เพราะอย่างนั้นเธอจะต้องตามหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากหน้าต่างข้อความพวกนี้ อย่างน้อยก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่เป็นของเธออย่างแท้จริง..เส้นทางชีวิตที่สามารถเลือกเองได้ ความเจ็บปวดกลั่นออกมาเป็นน้ำตา นาทาเลียใช้หลังมือเพื่อปาดน้ำตาที่รินไหลพวกนี้ออกไป เธอยกมือขึ้นมาเพื่อปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นอย่างสุดกำลัง โอเวนยกมือขึ้นมาเพื่อขยี้ตาตัวเอง เขาเล็งเห็นถึงความผิดปกติในตัวของนาทาเลีย นางไม่ได้เอะอะโวยวายมากมายเท่าที่ควร อีกทั้งยังยินยอมรามือง่ายๆเพราะอย่างนั้นเขาก็เลยลองตามมาดู เผื่อว่าจะรู้ถึงสาเหตุที่นางยอมแพ้ แต่ทว่าภาพที่เขาเห็นคือนาทาเลียสตรีชั่วช้าผู้นั้นกำลังร้องไห้? สตรีเช่นนางมีน้ำตาด้วยอย่างนั้นหรือ สตรีที่ดีแต่สร้างเรื่องไปเรื่อย ปากก็บอกว่ารักเขาแต่นางกลับหลับนอนกับบุรุษมากมาย โอเวนตั้งมั่นในใจว่าพระชายาของเขาจะเป็นใครก็ได้แต่จะต้องไม่ใช่นาทาเลียที่เห็นเขาเป็นเพียงของเล่น นางไม่ได้รักเขาแถมยังมีมองเขาเป็นเพียงแค่บุรุษผู้หนึ่งที่นางยังไม่ได้นอนด้วยก็เท่านั้น หากให้เขาเดาหากว่าเราร่วมหลับนอนด้วยกัน นาทาเลียน่าจะ..หมดความสนใจในตัวเขา เขาไม่ยอมให้นางได้ดั่งใจอะไรแบบนั้นง่ายๆ หรอก ทว่า..ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยามที่เส้นผมสีเงินของนางพลิ้วไหวไปตามสายลมสตรีผู้นั้นงดงามจับใจจนยากจะละสายตาไปมองทางอื่นจริงๆ งดงามมากถึงเพียงนั้น ความงามที่สามารถตรึงตาตรึงใจผู้พบเห็นได้อย่างง่ายดาย และนางก็ใช้ความงดงามของนางได้คุ้มค่าเสียจริง นาทาเลียขึ้นชื่อเรื่องการรับนายบำเรอเข้าไปที่คฤหาสน์อาโมรี ท่านแกรนด์ดยุคมีน้องสาวเพียงผู้เดียวและนาทาเลียคือแก้วตาและดวงใจของท่านแกรนด์ดยุค ชายผู้นั้นไม่คิดขัดขวางความสุขของน้องสาวเลยแม้แต่นิดเดียว แถมทหารที่สมัครเข้าไปในสังกัดของตระกูลอาโมรีหากว่าหน้าตาดีหน่อยจะถูกส่งไปหานาทาเลียเลือกสรรก่อน ช่างเป็นความงดงามที่น่าสะอิดสะเอียนและน่าขยะแขยงยิ่งนัก นางคือหญิงชั่วและเขาคือชายเลว เพราะอย่างนั้นเส้นทางของเราทั้งสองคนมันถึงได้ไม่มีวันที่จะมาบรรจบกันอย่างไรเล่า และ..ถึงแม้ว่านางจะร้องไห้ด้วยความน่าสงสารมากแค่ไหนโอเวนก็เลือกจะเดินจากไป เขาเสียเวลากับนาทาเลียมามากพอแล้ว เขาไม่ควรจะให้ความสนใจกับนางอีก ................... นาทาเลียนั่งอยู่ในสวนดอกไม้ที่ด้านหน้าคฤหาสน์ เมื่อวานนางกลับมาจากงานเลี้ยงในสภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่นัก เพราะอย่างนั้นนาทาเลียจึงเก็บตัวอยู่ในห้องตลอดทั้งคืน จนถึงช่วงเที่ยงเมื่อดวงตาที่บวมเป่งทั้งสองข้างของนางค่อยๆ ยุบลงนางถึงได้ออกมาด้านนอก ในอาโมรีมีคฤหาสน์ขนาดใหญ่สองหลังที่อยู่ในรั้วเดียวกัน คฤหาสน์ฝั่งซ้ายเป็นของเธอและฝั่งขวาเป็นของท่านพี่ คฤหาสน์ที่แสนหรูหราใหญ่โตและเต็มไปด้วยข้ารับใช้มากมาย คราแรก..ในครั้งแรกที่เธอลืมตาขึ้นมารอบๆ เตียงนอนของเธอมันเต็มไปด้วยบุรุษเปลือยเปล่าและขวดสุรามากมายที่ทำเอาเธอกรีดร้องในใจนับครั้งไม่ถ้วน แต่ในยามนี้เธอสั่งให้อีฟซึ่งเป็นสาวใช้คนสนิทไล่บุรุษพวกนั้นออกไป สาบานได้เลยว่าเธอชอบกล้ามท้องของพวกเขามากๆ เลย แต่เธอไม่ชอบที่พวกเขาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเธอ และเดิมทีคฤหาสน์ของนาทาเลียมีเรือนหลังเล็กๆ เอาไว้ให้กับพวกชายบำเรอของเธอได้อาศัยอยู่ ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอปรับเปลี่ยนเรื่องภายในคฤหาสน์ของตัวเองเป็นการใหญ่มากทีเดียว และตอนนี้มันสงบสุข..คิดว่านะ “ท่านหญิงคะ ทางนายบำเรอฝากข้าแจ้งมาว่าท่านไม่เรียกพวกเขานานมากแล้ว..” นั่นไง ความสงบสุขของเธอกำลัง..ทุกสั่นคลอน “อีฟ ข้าต้องการปลดนายบำเรอทุกคนของข้า แล้วส่งพวกเขากลับไปเป็นทหารของท่านพี่ซะเถอะ ข้าไม่อยาก..ไม่สิ ข้าไม่ชอบพวกเขาแล้ว” ช่วงนี้อีฟรู้สึกว่าท่านหญิงของเธอนั้นอารมณ์แปรปรวนยิ่งนักไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน เรื่องภายในคฤหาสน์ถึงได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนยุ่งเหยิงไปหมด “รับทราบค่ะท่านหญิง” หลังจากที่อีฟจากไป นาทาเลียก็ได้ใช้ชีวิตเงียบๆ ของตัวเองเสียที เธอมองไปที่หน้าต่างของเกมนี้ มันมีรายละเอียดของอีฟที่พึ่งจะเดินจากไปและมีรายละเอียดของตัวละครนาทาเลียอยู่ด้วย เธอกำลังพยายามค้นหาหนทางแก้ไขชีวิตของตัวเองให้มันดีขึ้น และเธอกำลังท้อเป็นอย่างมากเพราะไม่ว่าจะกดตรงไหนก็ไม่มีหนทางในการทำให้หน้าต่างพวกนี้หายไปเลย จนหางตาของเธอเหลือบไปเห็นรูปฟันเฟืองที่เขียนเอาไว้ว่าการตั้งค่า หัวใจของนาทาเลียเต้นไม่เป็นจังหวะเลย เธอรีบกดเข้าไปที่การตั้งค่าพร้อมกับตามหาคำว่าการยกเลิกหน้าต่างคำสั่งของเกม หมายเหตุหากอยากจะมีชีวิตที่มีอิสระในเกมนี้ ท่านจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งสิบคำสั่งพิเศษให้ครบถ้วนแล้วหน้าต่างภายในเกมนี้จะหายไป นาทาเลียยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ หนทางที่เธอตามหามานานในที่สุดมันก็มีหนทางแก้ไขเรื่องเฮงซวยพวกนี้แล้ว แค่ทำตามภารกิจพิเศษสิบข้อ ก็จะได้เป็นอิสระจากหน้าตาเกมบ้าๆ พวกนี้ จะรออะไรล่ะ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตามเธอยินยอม เพื่อให้ได้เป็นอิสระจะได้ทำตามความต้องการของตัวเอง บางทีเธออาจจะได้มีเพื่อนและกลับไปขอโทษเลดี้ซีลินในเรื่องเมื่อวาน ปลายนิ้วของนาทาเลีย จิ้มลงไปบนคำว่าตกลงอย่างไม่มีความลังเลใดๆ เลยเมื่อลูเซียนกลับมาที่ห้องของโรงแรมเขากลับไม่พบเจอใครเลยสักคนเดียว เขาตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆนาทาเลียก็หายไป เขากำลังจะวิ่งออกไปเพื่อตามหาเธอที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก ในระหว่างที่เขากำลังวิ่งตามหาเธอแสงสีทองก็ส่องสว่างอยู่บนแหวนที่เขาสวม นั่นหมายความว่านาทาเลียอยู่ในมิติเวทของเขาลูเซียนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะสัมผัสที่แหวนเบาๆเพื่อเข้าไปหาเธอในมิติเวท ที่นี่แตกต่างจากในมิติเวทที่เธอและเขาเคยอยู่ด้วยกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลสาบอย่างนั้นหรือ?"นาทาเลีย.."เขาพบเจอนาทาเลียนั่งอยู่กับบุรุษผู้หนึ่งที่ดูคุ้นตา..หมอนี่คือคนที่มาป้วนเปี้ยนหน้าห้องเมื่อตอนบ่ายนี่"ลูเซียน มานี่สิ..ข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับโลเวล"นี่คือบุรุษที่นาทาเลียกล่าวถึงให้เขาฟังบ่อยๆสินะ โลเวล บาทาซาร์"ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านเจ้าของหอคอย"โลเวลลุกขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงเพื่อเป็นฝ่ายทักทายก่อน อย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆว่าออร่าพลังเวทของชายผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ที่ไหนได้นี่คือจอมเวทกูเรียนในตำนาน เจ้าของหอคอยเวทผู้ยิ่งใหญ่"อืม..นาทาเลียพูดถึงเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางคือนาทาเลีย"ไม่บ่อยนักที่จะมีคนที่ส
กว่านาทาเลียจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็เป็นในช่วงเย็นของอีกวัน เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องนี้แต่ก็ไม่พบลูเซียนเลย นาทาเลียลุกขึ้นเพื่อเดินไปล้างหน้าล้างตา เธอแค่นหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสภาพใบหน้าของตัวเองในกระจกเงาที่สะท้อนออกมา ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนัก..ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยเธอไม่รู้ว่าลูเซียนออกไปไหน แต่เขาน่าจะมีธุระของเขานั่นแหละ นาทาเลียนั่งลงที่โซฟา เธอรินน้ำชาในกาใส่ถ้วยเล็กๆก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่เธอตามพี่ชายไปที่ลานประมูล เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้ตาสว่างเรื่องของนาทาเลียในอดีต อีกทั้งสุราต้องคำสาปขวดนั้นหากเดาไม่ผิดเขาจะต้องใช้มันกับเธออย่างแน่นอน เช่นนั้นก็จะต้องหาทางรับมือกับคนสารเลวอย่างโอเว่นเอาไว้"ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..ท่านหญิง"โลเวลปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เขากระโดดเข้ามาหานาทาเลียในทันทีก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน"คิดถึง..จังเลยครับ แล้วไอ้สารเลวคนไหนมันทำให้ท่านหญิงของข้ามีสภาพเช่นนี้กัน?"เธอตกใจจนตาค้าง ทั้งๆที่เธอปลอมตัวอยู่ด้วยพลังเวทของลูเซียนแต่แล้วทำไม โลเวลถึงจำเธอได้กันล่ะ? เธอยื่นมือไปกอดเอวของเขาเอาไว้แน
ลูเซียนตกใจเล็กน้อยที่เขาเห็นหยาดน้ำตาแวววาวรินไหลลงมาจากดวงตาของนาทาเลียที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา เขาไม่มั่นใจว่าเธอพบเจอกันอะไร แต่เขาก็ยังไม่อยากจะดึงจิตวิญญาณของเธอกลับมา เพราะในบางทีเธออาจจะกำลังพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองรับรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของพี่ชายตัวเอง..อลาโน่ อาโมรี เมื่อไหร่กันนะที่เขาจะได้พบเจอพี่เขยอย่างเป็นทางการ อดใจรอไม่ไหวแล้วละสิ“สิ่งที่กระหม่อมต้องการ คือทำให้นาทาเลียเป็นของพระองค์ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ ทำให้นางกลับมาหากระหม่อมที่อาโมรีไม่ได้อีก..”ข้อแลกเปลี่ยนกับสุราต้องคำสาปของแกรนด์ดยุคดูเหมือนจะแปลกมากทีเดียวในความคิดของโอเว่น“แกรนด์ดยุคต้องการแค่นั้น?”ชั่วขณะหนึ่งความเศร้าหมองปรากฏให้เห็นในดวงตาของอลาโน่“พ่ะย่ะค่ะ แค่นั้นก็พอ แค่ให้น้องสาวของกระหม่อมได้นั่งในตำแหน่งของจักรพรรดินี”โอเวนพยักหน้า“เช่นนั้นก็หมายความว่าความคิดของเราทั้งคู่มันตรงกัน ข้ารัก นาทาเลียจากใจจริง และข้าจะดูแลนางให้ดี แกรนด์ดยุคไม่ต้องเป็นห่วง”เมื่อกล่าวจบโอเว่นก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมกับสุราต้องคำสาป ส่วนอลาโน่ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีหมดแรงก่อนจะยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากเ
ถึงแม้ว่าลูเซียนจะบอกกล่าวกับเธอว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่การที่เขาพาเธอเข้ามาในงานประมูลโดยการใช้เทเลพอทเข้ามานั้นมันคือเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว“ข้าคิดว่าท่านจะทำบัตรเชิญปลอมมาซะอีก”“จะทำแบบนั้นให้ยุ่งยากทำไมกัน ในเมื่อผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมคือเราได้เข้ามาอยู่ในงานนี้แล้ว”นาทาเลียอยากจะกรีดร้องดังๆ ออกมาซะเหลือเกิน หากไม่ติดว่าในยามนี้เราทั้งคู่กำลังยืนอยู่ในงานนี้เธอนั่งลงยังที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ นาทาเลียเลือกที่นั่งที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่ได้คิดมาประมูลอะไรทั้งนั้น เธอแค่ต้องการจับตาดูท่าทีของท่านพี่..ทว่าที่นี่คือโรงละครโอเปร่าเก่า เพราะอย่างนั้นจึงมีที่นั่งด้านบนอีกหลายสิบห้องที่ปิดม่านและปิดบังตัวตนเอาไว้ หมายความว่าพี่ชายของเธออาจจะนั่งอยู่ด้านบนและแอบประมูลบางอย่างลับๆ หรือแม้กระทั่งเขาอาจจะคุยงานกับผู้อื่นแบบที่ไม่มีคนเห็น เพราะห้องที่อยู่ชั้นบนไล่ขึ้นไปเป็นขั้นบันไดเช่นนี้ ทำให้เป็นส่วนตัวและสะดวกในการพูดคุยบางอย่างที่ไม่อยากให้มีผู้อื่นรู้“อยากขึ้นไปข้างบนไหม”นาทาเลียพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เธออาจจะแค่สงสัยไปเองก็ได้เพราะอย่างนั้
ดูจากสีหน้าของแกสทอนหลังจากที่เปิดจดหมายในมืออ่าน แสดงว่าท่านหญิงของเขานั้นส่งจดหมายเพื่อบอกว่าท่านหญิงจะกลับมาที่นี่ในเร็วๆ นี้สินะ โลเวลเองก็ไม่รอช้า เขาเปิดจดหมายออกมาอ่านเช่นกัน“โลเวล ขอบคุณในทุกอย่างที่เจ้าให้ความช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด เหนื่อยมากเลยใช่ไหมกับการเปิดตัวที่แสนยิ่งใหญ่ในฐานะของเจ้าของกิลล์ข้อมูล อดทนอีกนิดนะ เพราะว่าข้ากำลังจะกลับไปหาเจ้าในเร็ววันนี้ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววันนะโลเวล”ข้างล่างจดหมายท่านหญิงนาทาเลียเขียนชื่อของบุคคลหนึ่งเอาไว้“ฝากเจ้าตามสืบเรื่องของบุรุษที่ชื่อว่า ไคเลอร์ให้ข้าด้วย ข้าไม่มีข้อมูลอะไรให้นอกจากว่าเขาคือบุรุษที่สูงโปร่งและไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดของเขาเหมือนกัน เพียงแต่เขาสำคัญมากๆ และเป็นคนที่ข้าจะต้องตามหาให้เจอ”ไคเลอร์ อย่างนั้นหรือ?โลเวลเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษก่อนจะสั่งการกับฮอลี่“เอาข้อมูลของบุรุษที่ชื่อไคเลอร์มาให้ข้าหน่อยสิ คนที่มีชื่อว่าไคเลอร์ทุกคนของจักรวรรดิแห่งนี้”ฮอลี่พยักหน้า“รับทราบค่ะนายท่าน ข้าจะหาข้อมูลของชายที่ชื่อว่าไคเลอร์มาให้ท่านแบบไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว”แกสทอนมองท่าทีเคร่งเครียดของโลเว
“ข้าต้องการปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้ และให้พวกชาวเมืองทั้งหมดย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงที่พายุหิมะพัดแรงขึ้น..”สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกินขึ้นในช่วงเช้าของวันที่พายุหิมะพัดผ่านเข้ามาที่ดินแดงทางเหนือ องค์รัชทายาทโอเว่นนั้นทรงตื่นจากบรรทมตั้งแต่เช้า พระองค์เรียกประชุมทหารมากมายเพื่อหารือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นและนี่คือครั้งแรกที่สายตาของอาเธอร์นั้นมององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเขามองเห็นประกายไฟในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างชัดเจน“เรามีเสบียงที่สามารถเลี้ยงคนได้ราวสามร้อยคนในหนึ่งวัน แต่ทว่าประชากรของแดนเหนือรวมกันแล้วมีไม่ถึงสองร้อยคนด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นหากพาพวกเขามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราวจนกว่าพายุหิมะจะสงบลง น่าจะเป็นหาทางออกที่ดีที่สุด”“กระหม่อมเห็นด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงพระปรีชาสามารถยิ่งแล้ว”อาเธอร์กล่าวชมออกมาจากใจจริง“ข้ารู้เซอร์อาเธอร์ เพียงแต่ที่ดินแดนเล็กๆ แห่งนี้จำเป็นที่จะต้องมีเจ้าเมืองเพราะในอีกสามสัปดาห์ข้าจะต้องเดินทางกลับไปที่พระราชวังแล้ว ข้าจึงให้โอกาสพวกเจ้าในการอาสาที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเจ้าเมืองปกครองดูแลดินแดนเหนือ