“เสี่ยวจูอยู่บนต้นไม้ แล้วทำไมไม่เรียกจิ่วหลงให้ไปเอาลงมาเล่า”
“พี่จิ่วหลงไม่อยู่ เขาออกไปเอายาข้างนอกเจ้าค่ะ ตอนนี้มันก็ร้องอยู่บนต้นไม้และไม่มีใครกล้าขึ้นไปเพราะว่า…กลัวมันจะข่วนเอาเจ้าค่ะ”
“ปัดโธ่เอ๊ยเจ้าแมวโง่เอ๊ย!!”
“ท่านพ่อเจ้าค่ะ”
“รีบไปเถอะ ๆ เฮ้อ…วุ่นวายได้ทุกวันสิน่า!”
กู้ม่านซีและสาวใช้รีบวิ่งไปยังด้านหลังบ้าน เสียวจูติดอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่ยื่นล้ำออกไปยังจวนข้าง ๆ มันเกาะอยู่ปลายกิ่งที่เกือบจะล้ำไปที่จวนอีกหลังหนึ่งซึ่งทำให้นางปวดหัว เมื่อเห็นเจ้าแมวอ้วนของนางไปอยู่ที่นั่นและเหล่าคนใช้ในจวนก็เริ่มวุ่นวาย
“เสียงอะไรเอะอะข้างนอก”
“คุณชาย ดูเหมือนว่าจวนใต้เท้ากู้จะมีเรื่องขอรับ เห็นว่ามีแมวติดอยู่บนต้นไม้ เอ๊ะ!!”
สิ้นเสียงของต้าจื่อ เจียงอี้หานก็มองเห็นแล้วเช่นกัน สตรีในชุดสีขาวคนเดิมที่กระโดดข้ามรถม้าของเขาเมื่อตอนสาย ตอนนี้นางก่อเรื่องอีกครั้งและเริ่มปีนขึ้นต้นไม้ที่ยื่นกิ่งมายังจวนของเขาเพื่อจะช่วยแมวของนาง
“นั่นแมวหรือลูกหมูน่ะ ที่ติดอยู่ที่กิ่งไม้”
“คุณชายนั่นแมวขอรับ เห็นว่าชื่อ…เสี่ยวจู (หมู)”
“เสี่ยวจู หึ ตั้งตามขนาดตัวสินะ”
กู้ม่านซีค่อย ๆ ขยับเพื่อจะไปดึงตัวเจ้าเสี่ยวจูที่เริ่มกลัว เพราะยิ่งนางขยับเข้ามาใกล้มันกิ่งไม้ก็ยิ่งจะโน้มลงเรื่อยและมันก็เริ่มกลัว
“เสี่ยวจูไม่ต้องกลัวข้ามาแล้ว เจ้าอย่าขยับสิกิ่งไม้นี่มัน….”
“แย่แล้ว!! กิ่งไม้กำลังจะหัก!!” / ม่านซี
“คุณชาย!!” / ต้าจื่อ
“แย่แล้ว เสี่ยวจู!!” / ม่านซี
แมวอ้วนนั้นตกลงไปก่อน ตามด้วยกู้ม่านซีที่ไม่ทันรู้ว่ากิ่งไม้นั่นบอบบาง ร่างของนางตกลงมาจากกำแพงสูง เจียงอี้หานรับนางเอาไว้ได้ทันและค่อย ๆ ลงมาที่พื้นอย่างปลอดภัย
“คุณหนู!!”
“คุณชาย!!”
กู้ม่านซีที่หลับตาสนิทเพราะคิดว่าต้องตกลงมาที่พื้นเป็นแน่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาในอ้อมกอดของบุรุษหนุ่มหน้าตาดีที่อุ้มนางเอาไว้
“ท่าน….”
“แม่นาง นี่เจ้า…”
“ผลัวะ!!”
“กรี๊ด!! เสี่ยวจู!!”
แมวอ้วนที่ยังค้างอยู่ที่กิ่งไม้ข้างล่างตกลงมาใส่พวกเขาทั้งสองคน กู้ม่านซีและเจียงอี้หานจึงเสียหลักและล้มลงไปทั้งคู่ นางล้มลงและไม่ทันระวังหัวจึงไปโขกกับหน้าผากของเขาเข้าเต็มแรง อีกทั้งริมฝีปากนางยังเผลอไปแตะเขาอยู่นิดหน่อยด้วย แต่เพราะความตกใจนางจึงรีบลุกขึ้นมาเรียกแมวของนางออกมาจากกอหญ้าข้าง ๆ
“เสี่ยวจู!! ซนนักนะเจ้ากล้าดีอย่างไรปีนต้นไม้นั่น ไม่ได้เจียมตัวเลยเจ้าแมวอ้วน!!”
กู้ม่านซีหันไปด่าแมวของตัวเอง เมื่อตัวมันถึงพื้นก็นั่งขดตัวไม่กล้าขยับไปไหนอยู่ตรงนั้น นางจึงรีบหันมามองบุรุษที่พึ่งช่วยเอาไว้เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาจะค่อย ๆ ลุกขึ้นมาและจับไปที่ริมฝีปากอย่างเหม่อลอย ตอนนี้เองที่นางได้เห็นหน้าเขาชัด ๆ หัวใจสาวน้อยที่พึ่งพบบุรุษที่หน้าตาดีและถูกใจจึงได้เผลอมองจนใจเต้นแรง
“ทะ ท่าน…เอ่อ คุณชาย ท่านบาดเจ็บหรือไม่เจ้าคะ”
“คุณชาย!! ค่อย ๆ ลุกขอรับ คุณหนูกู้คุณชายของข้าพึ่งจะย้ายมาวันแรกก็…”
“ต้าจื่อ!!…คุณหนูกู้ตกใจแย่แล้ว ยังไม่รีบไปเตรียมน้ำชามาอีก”
“แต่ว่า!!”
คุณชายหันไปส่งสายตาให้กับองครักษ์ ต้าจื่อหันมาค้อนให้กับกู้ม่านซีก่อนจะหันกลับไปสั่งคนให้เตรียมชา กู้ม่านซีไม่เคยเห็นบุรุษใดในจิ่งโจวที่จะรูปงามและสง่างามเหมือนกับคนที่ยืนตรงหน้านี้มาก่อน นางพึ่งเข้าใจในสิ่งที่ท่านพ่อนางพูดก็ตอนนี้เอง ว่าอาการอยากแต่งงานเป็นเช่นไร
“แต่งเจ้าค่ะ”
“คุณหนูกู้ เจ้าว่าอะไรนะ”
“ข้า!! อ้อ ใช่แล้ว ไม่มีอะไรเจ้าค่ะข้าก็แค่ ขอบคุณคุณชาย ต้องขออภัยจริง ๆ แมวของข้าทำความเดือดร้อนให้ท่านแล้ว ชุนหลิน!!”
“เจ้าค่ะคุณหนู ท่านปลอดภัยดีนะเจ้าคะ”
“ข้าปลอดภัยดี เจ้าส่งคนงานที่บ้านมาสักสิบคนมาช่วยคุณชาย…. เอ่อ…”
คนที่พึ่งรู้ตัวหันไปคำนับให้นางอีกครั้งเพื่อแนะนำตัวอย่างสุภาพ
“ข้าน้อยเจียงอี้หาน เป็นขุนนางตัวแทนพระองค์ของฝ่าบาท มาที่นี่เพื่อ...”
“ใช่ ๆ คุณชายเจียง ส่งคนมาช่วยคุณชายเจียงย้ายของเข้ามาหน่อยจะได้เร็ว ๆ”
“เอ่อ คุณหนูกู้ คงไม่รบกวน”
“ไม่เป็นไร ต่างตอบแทนท่านก็อย่าคิดมากเลย”
“แต่ว่า…”
“เจ้าค่ะคุณหนู ไปพวกเราไปช่วยกัน”
“ไม่ต้องเกรงใจ ๆ คุณชายเจียงท่านเดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยสินะ นี่ก็พึ่งย้ายมาวันแรกอะไรก็คงจะยังไม่เข้าที่ เอาแบบนี้นะเย็นนี้ข้าจะให้คนยกสำรับมาให้ท่านอ้อ ไม่สิ ๆ ยกมาให้ทุกวัน ทุกมื้อเลย”
“เห็นทีจะไม่ต้องรบกวน จวนข้ามีพ่อครัวและสาวใช้ตามมา….”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า จวนท่านก็เหมือนจวนข้าเราบ้านใกล้เรือนเคียงจะมัวเกรงใจทำไม ข้าจัดการเองอาหารหรือที่ท่องเที่ยวในจิ่งโจวนี้มีที่ไหนที่ข้ากู้ม่านซีไม่เคยไปบ้าง ข้าสามารถให้ข้อมูลที่ท่านอยากรู้ทุกอย่างได้เลยนะ”
“ใครอยากรู้กัน เรื่องแบบนั้นเป็นหน้าที่ของข้าต่างหาก”
ต้าจื่อนำน้ำชาและของว่างมาวางบนโต๊ะ ม่านซียังคงคุยไม่หยุดและเมื่อเห็นว่าน้ำชามาวางแล้ว คุณชายเจียงกำลังจะยกกาน้ำชาขึ้นมานางก็รีบพุ่งเข้าไปและยกกาน้ำชามารินให้เขาทันที
“ชามาแล้ว ๆ ท่านคงจะตกใจมากสินะ หน้าท่านซีดเซียวเช่นนี้ดื่มชาเสียหน่อยจะได้สดชื่น นี่ชาอะไรกัน รสชาติแย่จังเลยเดี๋ยวสั่งให้สาวใช้เอาชามาเปลี่ยน”
“เอ่อ…. คุณหนูกู้ เห็นทีว่าเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องลำบาก”
“ไม่ลำบากเลย ชุนหลิน!!”
“คุณหนูกู้ ไม่ต้องจริง ๆ …. อย่างที่เห็นวันนี้ข้าพึ่งจะย้ายมาวันแรกยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก ถ้าอย่างไรเชิญกลับไปก่อนดีหรือไม่ หากว่าจวนจัดเรียบร้อยแล้วข้าค่อยเชิญเจ้ามาดื่มชาด้วยกันอีก”
“ไม่เป็นไรข้าไม่ถือ นั่น ชุนหลินพาคนมาช่วยยกของแล้ว ท่านก็…”
“ไม่ต้องจริง ๆ ข้า เกรงใจ….”
“ชุนหลินเร็ว ๆ เข้าหน่อย เอ๊า ท่านองครักษ์ รีบไปบอกสิว่าจะให้วางสิ่งใดไว้ตรงไหน”
“เอ่อ…คุณชาย”
เขาพยักหน้าให้แค่นิดเดียว องครักษ์ของเจียงอี้หานก็เดินไปพร้อมกับคอยบอกคนอื่น ๆ ให้เอาของที่เหลือวางที่ใด อี้หานจำเป็นต้องหันมาคำนับขอบคุณม่านซีที่กำลังยกชาขึ้นมาดื่มและลูบหลังเจ้าแมวอ้วนที่ค่อนข้างน่าเกลียดในสายตาเขา
“ชารสชาติแย่จริง ๆ เอาล่ะ วันนี้ก็…ขอบคุณท่านมาก ท่านพึ่งจะย้ายมาใหม่ อย่างไรก็ยินดีต้อนรับสู่เมืองจิ่งโจวนะคุณชายเจียง ข้าคงต้องขอตัวก่อน ตายจริงเสี่ยวจูนี่เจ้าบาดเจ็บหรือนี่ คุณชายเจียงคงขอตัวก่อนไว้พบกันใหม่ ข้าจะหมั่นแวะมาเยี่ยมท่านนะ”
“เอ่อ…”
ไม่มีโอกาสที่เจียงอี้หานจะได้บอกปัดหรือปฏิเสธได้เลย หลังจากวันนั้นเขาก็ต้องพบกับแขกที่แทบจะไม่ได้รับเชิญอย่างคุณหนูกู้ทุก ๆ วัน
“ชานี่น่ะเป็นชาชั้นดีจากเจียงหนานข้าสั่งให้คนเตรียมเอาไว้เพื่อมามอบให้ท่านถือว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ ไม่รับไม่ได้ แล้วก็ขนมนี่ ป้าถังทำตั้งแต่เช้าท่านต้องชิมให้ได้เลยเพราะว่ามัน อร่อยมาก…. กินกับน้ำชาเจ็ดยอดเหมันต์อร่อยที่สุด ลองดูสิ ลองชิมดู”
“เอ่อ คุณหนูกู้เจ้ามาเยี่ยมข้าทุกวันเช่นนี้ ใต้เท้ากู้ไม่ว่าอะไรหรอกหรือ ข้าเองยังไม่มีโอกาสไปทักทายใต้เท้ากู้เลยตั้งแต่ย้ายมาได้สามวัน”
“ไม่เป็นไร หากท่านจะไปหาท่านพ่อข้านั่นย่อมได้อยู่แล้ว แต่ว่าท่านกับท่านพ่อมิได้พบกันในราชสำนักแล้วงั้นหรือ ธรรมเนียมขุนนางของพวกท่านนี่ช่างน่าเบื่อเสียจริง อ้อ จริงสิเอาแบบนี้ พรุ่งนี้ท่านพ่อไม่ได้เข้าวังท่านก็มากินข้าวเย็นที่บ้านข้าและจะได้ฝากตัว เอ๊ย ทักทายในฐานะเพื่อนบ้านอย่างไรเล่า ดีหรือไม่”
“เอ่อ เรื่องนี้…. หากเจ้าว่าเช่นนั้นก็ตามนั้น รบกวนฝากแจ้งใต้เท้ากู้ว่าพรุ่งนี้ข้าจะไปคารวะทักทาย”
จวนองค์ชายห้า “พระชายาอยู่ที่ใด”“ทูลองค์ชาย พระชายายังทรงบรรทมอยู่เพคะ”“เช่นนั้นเองหรือ จริงสิชุนหลิน”“เพคะ”“เจ้าไปเอาเสี่ยวจูกลับมาที่นี่เถอะ แล้วก็หาสาวใช้ที่พอรู้ความมาช่วยอีกสักสองสามคนคอยระวังพระชายาให้ข้าระหว่างที่ข้าไม่อยู่ด้วย”“เพคะองค์ชาย ขอบพระทัยเพคะ”ชุนหลินดีใจและรีบออกไปรับเสี่ยวจูกลับมา นางรู้ว่ากู้ม่านซีเอาแต่นอนเพราะนางไม่มีจิตใจอยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรทั้งนั้น อีกอย่างตั้งแต่นางตั้งครรภ์ก็อารมณ์แปรปรวนง่ายจนไม่มีผู้ใดเข้าหน้าติด แม้ว่าจะไม่แพ้ท้องแต่ก็ทำให้ทั้งจวนวุ่นวายไปไม่น้อย ห้องบรรทม องค์ชายเดินมานั่งข้าง ๆ พระชายาที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง ใบหน้านางยามหลับเป็นสิ่งที่เขาชอบมองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขนตางอนยาวเป็นแพ ริมฝีปากที่อวบอิ่มที่เขามักจะใช้เวลากับมันนานที่สุดก่อนจะนอนทุกค่ำคืน แต่ตั้งแต่ที่รู้ว่านางตั้งครรภ์เขาก็แทบจะไม่ได้แตะต้องนางเลย เพราะอยากให้ม่านซีได้พักผ่อนอย่างเต็มที่“ท่านกลับมาแล้วหรือเพคะ”“อย่าพึ่งรีบลุกสิเดี๋ยวจะหน้ามืดเอา เจ้าเป็นอย่างไรบ้างรู้สึกเวียนหัวอยู่หรือไม่”“ไม่แล้วเพคะ หม่อมฉันนอนนานเกินไปเดี๋ยวตอนค่ำจะนอนไม่ได้ นี่กี่ยามแล
สามเดือนถัดมา“ไม่ได้นะ ท่านจะเอามันไปไว้กับท่านพ่อทำไมกัน”“ไม่ได้! หากยังอยู่เช่นนี้สักวันเจ้าต้องเดินสะดุดมันล้มแน่นอน เจ้าดูสิมันอยู่เฉยเสียที่ไหน ต้าจื่อ!”“พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย”“ต้าจื่อ!”“พ่ะย่ะค่ะพระชายา”“เอาเสี่ยวจูไปฝากท่านพ่อเอาไว้”“ห้ามเอามันกลับไปนะ หากว่าเสี่ยวจูกลับ ข้าก็จะไม่อยู่กับท่าน!!”“ม่านซี! เหตุใดเจ้าจึงดื้อนัก หมอหลวงก็บอกแล้วว่าช่วงนี้เจ้าอารมณ์แปรปรวน ครรภ์แรกสำคัญมากและห้ามอยู่ใกล้ ๆ สัตว์เลี้ยง อีกอย่างหากเจ้ายังเดินเหินไม่ระวังเช่นนี้สักวัน…”“ท่านไม่เข้าใจข้าเลยสักนิด ท่านเอาแต่ทำงานในราชสำนัก ออกจวนไปตั้งแต่เช้ากลับมาก็ดึกดื่นข้ามีเพียงเสี่ยวจูอยู่เป็นเพื่อน วันนี้ท่านก็จะเอามันกลับไปอีก เจียงอี้หานท่านว่ามาว่าจะให้ข้าทำเช่นไร!!”จวนสกุลกู้ “เฮ้อ… ดูท่าองค์ชายคงต้องรับศึกหนักอีกแล้วสินะ”“งานนี้น้องเขยคงกินข้าวเช้าไม่อร่อยเป็นแน่ขอรับ ตั้งแต่ซีเอ๋อร์ตั้งครรภ์ก็อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ลูกเห็นใจน้องเขยยิ่งนัก”“ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเสียงดังกว่าทุกครั้ง เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่ แต่ว่าในเมื่อนางแยกครอบครัวไปแล้วเราก็ไม่สมควรจะไปวุ่นวาย”“ขอรับ ลูกแอบถามองค์ชายแล้วพระอ
“เจียงอี้หานคนขี้โกง….”ริมฝีปากเย็นประกบลงไปเพื่อปิดปากคู่หมั้นสาวทันที ม่านซีมิอาจหลีกหนีสัมผัสแห่งรักนี้ได้เลย ทุกครั้งที่ถูกเขาจู่โจมนางมักจะพ่ายแพ้ราวกับถูกหลอมละลายไปด้วยไฟปรารถนาที่พร้อมจะเผาไหม้นางทั้งตัวเช่นนี้“อื้อ อี้หานเราอย่าพึ่ง…อ๊าา”“ไม่ทันแล้ว เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องการเจ้าเพียงใด”“อื้อ…แน่นมาก อี้หาน อ๊าา!!”ลิ้นของเขาดูดดึงยอดอกสีหวานพร้อมกับกายท่อนล่างที่กระหน่ำกระแทกถี่ ๆ เพื่อส่งทั้งคู่ไปแตะทางสวรรค์ เหลืออีกกว่ายี่สิบวันที่จะเข้าพิธีแต่งงาน แต่คนที่พระทัยร้อนอย่างองค์ชายห้าก็ยังรอไม่ไหวจนต้องหาเรื่องเข้าหอกับนางเสียก่อน“อ๊ะ อี้หานข้าต้องกลับจวน อ๊าา….”“หากกล้าพูดอีกคืนนี้ก็อย่าได้หวังจะได้เดินลงจากเตียงข้าได้”“อื้อ อ๊าา…ท่านเบาหน่อยสิ อ๊าา!!!”“เจ้าทั้งหอม หวานและน่ากินไปทั้งตัวเช่นนี้ คิดว่าค่ำคืนนี้ข้าคงไม่อิ่มเป็นแน่ ม่านซีเจ้าอย่าได้กลัวไปเลย ไม่ว่าจะเป็นบิดาของเจ้า พี่ชายหรือแม้แต่สาวใช้และองครักษ์ มีผู้ใดบ้างที่จะไม่รู้ว่าพวกเราเป็นอะไรกัน”“อ๊าา อย่าพึ่งพูดข้าจะ…อ๊าา อี้หาน!!”เขารู้ว่านางเริ่มทนไม่ไหวเขาจึงจับนางขึ้นมาจูบ ปากที่บดขยี้รุนแรงพอ ๆ กับแรงกร
จวนองค์ชายห้า “เสี่ยวจู!!”ม่านซีวิ่งกระหืดกระหอบไปที่จวนขององค์ชายห้าโดยมีกู้ซานหรงและจิ่วหลงวิ่งตามมา เมื่ออี้หานเห็นนางจึงรีบเดินเข้ามารับเพราะสีหน้าของคู่หมั้นสาวทั้งซีดเซียวและหวาดกลัว“ม่านซีเจ้าใจเย็น ๆ ก่อนค่อย ๆ พูดนะ”“อี้หาน…ไม่สิ องค์ชาย เสี่ยวจูก่อเรื่องแล้ว”“เรื่องนั้นเจ้าอย่าตกใจไป องค์รัชทายาทก็แค่อยากจะเล่นกับมันเท่านั้น”“แต่ว่าวันถึงกับ…”“เอาน่า ๆ พวกเจ้าเข้ามานั่งก่อนเถอะ ตอนนี้องค์ชายกำลังอาบน้ำเปลี่ยนชุดอยู่ข้างใน เข้ามาแล้วข้าจะเล่าให้ฟัง”“องค์ชายครั้งนี้เสี่ยวจูล่วงเกินองค์รัชทายาท โทษหนักถึงตายเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”“ซานหรงเจ้าก็พูดเกินไปแล้วไม่มีอะไรหนักหนาขนาดนั้น เข้ามาก่อนแล้วข้าจะเล่าให้ฟัง ค่อย ๆ เดินนะม่านซี”“แต่ว่าตอนนี้เสี่ยวจู”“ไม่ต้องห่วง ต้าจื่อเอามันไปอาบน้ำน่ะ”“แต่ว่ามันยอมหรือเพคะ”“เข้ามานั่งพักก่อนดูเจ้าสิวิ่งหอบมาเป็นลูกแมวเลย บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง”“ท่านยังจะมาพูดเช่นนี้อีก ล่วงเกินองค์รัชทายาทถึงกับโดนตัดหัวได้เชียวนะแต่นี่มันถึงกับ…”เจียงอี้หานยิ้มและพานางเดินมานั่งที่ระเบียงซึ่งเป็นที่ประจำของพวกเขาเวลามานั่งจิบชาชมสวนที่นี่ ซานหรงน
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”“ดูเจ้าสิ ตั้งแต่มาจิ่งโจวเจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเปลี่ยนไปมากเพียงใด ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยอมแพ้สตรีเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เกิดความคาดหมายของข้านัก”เจียงอี้หานหันไปมองกู้ม่านซีที่มีท่านชายรองคอยพยุงอยู่ไกล ๆ เมื่อพวกเขาหันไปสังสรรค์กันที่อีกโต๊ะหนึ่ง เพียงแค่รอยยิ้มของน้องชายห้าที่ปรากฏองค์รัชทายาทก็พอจะรู้ว่าสิ่งที่น้องชายเลือกในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง“ในตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าจะยอมรับเงื่อนไขแต่งงานกับท่านหญิงแคว้นจ้าวเป็นเขยแดนเหนือเสียแล้ว”“ข้าเข้าใจความปรารถนาดีของพี่หญิงรองดี แต่ข้ากับท่านหญิงผู้นั้น… ข้าไม่ได้มองนางเป็นเช่นนั้น”“เจ้าทำให้ท่านหญิงซู่หรงเยี่ยนเสียใจถึงกับต้องไปแต่งกับแม่ทัพแคว้นจ้าวเลยล่ะ ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้คิดเหมือนเจ้านะเห็นน้องหญิงรองบอกว่านางไม่ยอมกลับเข้าวังหลังจากทราบข่าวว่าเจ้าออกจากแดนเหนือและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่กองทัพหลังจากอภิเษก”“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับข้า บัดนี้คนที่ข้าต้องดูแล มีเพียงสตรีแสนซนตรงนั้น…เอ๊ะ! ท่านดูสิ นางซนขนาดไหน”ทั้งสองพระองค์หันไปเพราะตกใจเสียงของอี้หานที่มองไปที่ม่านซีตลอด นางเกือบจะล้มเพราะลืมนึกว่าต้องใช้ท
“ท่านพูดอะไรน่ะ”เจียงอี้หานเดินมานั่งใกล้ ๆ และดึงนางเข้ามากอดเอาไว้แน่น นางได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่ยังเต้นแรงรัวถี่อยู่ข้างในชัดเจนมากกว่าครั้งไหน ๆ“เจ้าฟังสิ ได้ยินหรือไม่”“ข้าได้ยินชัดแล้ว”“ข้าออกศึกเหนือใต้มานับครั้งไม่ถ้วน สืบคดีตามหัวเมืองทั่วหล้า ไม่มีเรื่องใดที่นึกกลัวเท่ากับวันนี้มาก่อน กู้ม่านซีเจ้าจะช่วยทำให้ข้าคลายกังวลลงได้หรือไม่ นับจากนี้ให้ข้าดูแลเจ้าอยู่กับเจ้าตลอดไปได้หรือไม่ อย่าทำตัวห่างเหิน อย่าจากข้าไปอีกเลยนะข้าขอร้อง”เขาสบตากับนางด้วยความจริงใจ วันนี้นางเองก็รู้ดีว่าในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด นางก็เห็นเพียงใบหน้าของเขา ที่จริงแล้วนางเหมือนจะได้ยินเสียงของเขาก่อนที่จะปรากฏตัวด้วยซ้ำ นางจึงมั่นใจว่าไม่อาจขาดเจียงอี้หานได้เช่นกัน“ข้าขอโทษ จากนี้ไปข้าจะเชื่อฟังและเป็นคู่หมั้นที่ดี จะไม่ทำให้ท่านรู้สึกลำบากใจอีกแล้วองค์ชาย”“เจ้าหายโกรธข้าได้หรือยัง”“ข้าบอกแล้วว่าไม่ได้โกรธท่าน”“เช่นนั้นจะเลิกทำตัวห่างเหินได้หรือยัง”“เลิกแล้ว”“เช่นนั้นอย่าได้คิดหลีกหนีข้าอีกได้หรือไม่”“ไม่หนีแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น… แต่งงานกันนะ”“เจ้าค่ะ ข้าจะรีบแต่งงานกับท่านให้เร็วที่สุด”