"แต่ป้ามีข้อเสนอนะถ้าหนูโอเคกับข้อเสนอป้า ป้าจะยกหนี้ทั้งหมดที่พ่อแม่หนูติดป้า"คุณป้าเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนกับอ่อนโยนแต่กับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ไปในตัว
"ข้อเสนออะไรคะป้า"ฉันที่สนใจอดถามไม่ได้ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงฉันก็พร้อมยอมทำตามที่คุณป้าเสนอ "เข้ามาใกล้ ๆ ป้าสิ มาตรงนี้ป้าจะบอก" คุณป้าบอกฉันขณะที่ฉันขยับเข้าไปใกล้ตามที่คุณป้าบอก ก่อนที่คุณป้าจะยกฝ่ามือขึ้นมาป้องที่ใบหูฉันพร้อมกับยืนปากเข้ามากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา "หนูต้องช่วยป้าเรื่องหนึ่งทำอย่างไรก็ได้ให้ตาสายฟ้าไม่ต้องกลับไปอังกฤษ"เมื่อฉันได้ยินกับทำให้ฉันเบิกตาโพรง ก่อนจะคิดว่ามันเป็นข้อเสนอที่ยากเหลือเกิน แต่ถ้าเราทำได้หนี้ทั้งหมดก็จะเป็นศูนย์เลยนะ คุณป้าขยับออกเล็กน้อยก่อนจะหันมาถามฉันอีกรอบ "เอาไงจะช่วยป้าไหม แต่หนูไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะเพราะป้าจะช่วยเหลือหนูอีกแรง"คุณป้าพูดโน้มน้าวฉันขณะที่ฉันยังสองจิตสองใจว่าจะเอาดีนะ ถ้าทำได้ครอบครัวจะหลุดจากหนี้สินที่พะรุงพะรังอยู่ตอนนี้ "คือ..."ฉันเริ่มทำน้ำเสียงติดขัดก่อนที่คุณป้าจะพูดสวนขึ้นมา "เอาแบบนี้ ป้าให้หนูลองไปคิดดูก่อนแล้วช่วงเย็นป้าจะมาเอาคำตอบ"ฉันได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะลาท่านออกจากห้องทำงานเพื่อมาทำงานของตัวเองที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงสาย ๆ ของวันคุณป้าเดินมาหาฉันที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ "หนูม่านน้ำว่างหรือเปล่าจ๊ะช่วยยกกาแฟกับขนมเข้าไปในห้องตาสายฟ้าที"คุณป้าเรียกฉันพร้อมยกถาดกาแฟเดินตรงมาหาฉัน ฉันจะปฎิเสธก็ไม่ได้จึงต้องรับปากท่านถึงแม้ในใจจะไม่อยากจะเจอหน้าคนใจดำก็ตามตอนแรกคิดว่าเขาไม่อยู่ที่รีสอร์ทเสียอีกเพราะไม่เห็นรถจอดอยู่แต่เมื่อคุณป้าพูดมาเช่นนั้นแสดงว่าเขายังอยู่ที่นี่ยังไม่ไปไหน "คะคุณป้า"ฉันรับถาดที่มีแก้วกาแฟและขนมมาถือไว้ก่อนจะสาวเท้าไปตามทางเดินจนมาหยุดที่ห้องพักส่วนตัวของคนใจดำ มือบางกำมือไว้พอหลวม ๆ ก่อนจะเคาะประตูห้องเพื่อรักษามารยาท ก๊อก ก๊อก ก๊อก! ไม่นานประตูห้องถูกเปิดออกแต่สิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้คนใจดำนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวไว้ส่วนมือเขาถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดลงกลุ่มผมที่เปียกชื้นจากการสระผมขณะที่จมูกฉันสัมผัสได้กับกลิ่นหอมสดชื่นของครีมอาบน้ำที่ลอยฟุ่งอยู่บนชั้นอากาศก่อนที่ฉันจะร้องด้วยความตกใจ "ว๊าย...ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยละคะ"ฉันรีบยกมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือถาดกาแฟปิดดวงตาฉันไว้ คนบ้าดูสินุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวดันมาเปิดประตูให้ดูอีก ถึงหุ่นเขาจะดี มีกล้ามเป็นมัด มัด ก็ตามแต่ฉันที่เป็นสาวโสดไม่เคยเห็นผู้ชาย โป๊เปลือยมาก่อนก็มีบ้างละที่ต้องอาย คนบ้าฉันได้แต่ก่นด่าเขาในใจ "มีอะไร"ขณะที่คนใจดำถามฉัน "คุณป้าให้เอากาแฟมาให้คะ" "อืมว่างไว้บนโต๊ะนั้นแหละ"คนใจดำบอกขณะที่ฉันเบี่ยงสายตาไปทางโต๊ะหนังสือที่อยู่ข้างเตียงนอนก่อนจะสาวเท้าเพื่อเอาถาดกาแฟวางไว้ตามที่เขาบอก เมื่อฉันว่างถาดกาแฟเรียบร้อยดีแล้วฉันหมุนตัวเพื่อที่จะเดินออกจากห้อง แต่จังหวะนรกก็เกิดขึ้นเมื่อคนใจดำดันมายืนข้างหลังฉันตอนไหนไม่รู้ด้วยความตกใจบวกกับความที่ฉันไม่ระวังตัวส่งผลใก้ฉันเซถอยหลังจนเท้าฉันสะดุดเข้ากับอะไรบ้างอย่างจนฉันล้มลงไปกองที่เตียงนอนพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ "ว้าย" ฉันร้องกรี๊ดทันทีเมื่อร่างบางฉันล้มหงายหลังลงที่เตียงนอน แต่ไอ้มือเจ้ากรรมดันไปคว้าท่อนแขนเขาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ตัวเองล้มลง แต่กลายเป็นว่าเราทั้งสองล้มลงบนเตียงนอนด้วยท่าทางที่หมิ่นเหม่ และที่สำคัญคือริมฝีปากของเขาตอนนี้แนบชิดริมฝีปากฉัน...โอ้ย...อิแม่จะเป็นลมนี่ฉันเสียจูบแรกให้เขาเหรอนี่ อีกทั้งผิวบางบริเวณแก้มของฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่ปะทะอยู่บนพ่วงแก้มของฉัน ส่งผลให้ใบหน้าฉันตอนนี้เริ่มรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมา ก่อนที่ฉันเริ่มจะตั้งสติได้ฝ่ามือบางรีบดันคนใจดำออกพร้อมกับส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ "อืม..." ขณะที่เขาถอดริมฝีปากออกก่อนจะใช้แขนตัวเองยันตัวขึ้นเล็กน้อย "ออกไปเถอะคะ แล้วเอารีโมตที่คุณถือมาออกไปด้วยมันว่างอยู่บนขาฉัน"ฉันรีบเอ่ยบอกขณะที่เขาชักสีหน้างงเล็กน้อยก่อนจะลุกออกจากฉันอย่างว่าง่ายก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวให้แน่นกว่าเก่า ฉันที่เห็นว่าเขาออกจากตัวฉันแล้วรีบลุกขึ้นแล้วสาวเท้าออกจากห้องเขาด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม อีกด้าน วันนี้เป็นวันที่สองที่ผมเดินทางมาหาพ่อกับแม่ที่ประเทศไทย ถามว่าเมื่อคืนนี้ผมนอนหลับสบายไหมที่ได้กลับมานอนที่บ้านตัวเอง ผมบอกเลยว่ากว่าผมจะข่มตาหลับได้ใช้เวลานานอยู่อาจคงเป็นเพราะช่วงเวลาที่สองประเทศห่างกันมาก กว่าจะหลับไม่รู้ว่าเป็นเวลาอะไร ทำให้วันนี้ผมตื่นนอนในช่วงเวลาที่สายมาก หลังตื่นนอนผมเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเรียกความสดชื่นให้กับตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันช่วงรอบเอวไว้พอหลวม ๆ เพราะอย่างไรเสียห้องนี้ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวของผมคงไม่มีใครเข้ามาที่ห้องนี้ได้ ขณะที่ผมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่ผ่านการสระมาจนสะอาด ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังเข้ามา ผมจึงสาวเท้าไปเปิดประตูในทันที เพราะห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวไม่เป็นพ่อก็แม่นั้นแหละที่มาเรียกผมแต่เมื่อผมเห็นว่าคนที่เคาะห้องเป็นใครผมแอบสงสัยอยู่บ้างเพราะแม่กับพ่อจะไม่ค่อยให้พนักงานเอาอาหารหรือน้ำขึ้นมาให้ผมถึงห้องนอน แต่ผมก็ยอมให้เธอถือถาดกาแฟเข้ามาในห้องผมอย่างว่าง่ายแต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ สาวน้อยร่างบางคงเกิดความตกใจคว้าแขนผม ขณะที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวส่งผลให้ผมลงไปนอนทับร่างบอบบางอีกทั่งริมฝีปากผมประกบจูบกับกลีบปากบางสีชมพูอ่อนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่จมูกผมแนบชิดที่พ่วงแก้มเนียนใสที่ตอนนี้เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยขึ้นมาปะทะจมูกผมเรื่อย ๆ จนผมเผลอลืมดันตัวเองออก จนได้ยินเสียง อู้อี้ ในลำคอบางทำให้ผมเริ่มมีสติขึ้น ใช้ท่อนแขนดันตัวเองขึ้นเล็กน้อยแต่คนตัวเล็กยังอยู่ใต้ร่างผมอยู่ ก่อนผมจะได้ยินเสียงหวานเอ่ยขึ้น"ออกไปเถอะคะ แล้วเอารีโมตที่คุณถือมาออกไปด้วยมันวางอยู่บนขาฉัน"ผมถึงกับขมวดคิ้วสงสัยคนตัวเล็กคงไม่รู้ว่าไอ้ที่อยู่บนขาน้องมันคืออะไร แต่ผมก็ไม่ได้บอกกลัวว่าคนตัวเล็กจะเขินอาย ผมทำได้เพียงยอมลุกขึ้นตามคนตัวเล็กบอกก่อนผมจะเห็นคนตัวเล็กวิ่งออกจากห้องผมไป อยู่ ๆ ผมก็เผลอยิ้มขึ้นอย่างลืมตัว ก่อนจะหุบยิ้มแล้วปิดประตูห้องเพื่อแต่งตัวและจะออกไปหาเพื่อนที่ผมนัดไว้2 อาทิตย์ต่อมา ม่านน้ำที่นั่งมองดูตัวเองในกระจกที่ตอนนี้ร่างบางที่มีหน้าท้องนู้นขึ้นมาเล็กน้อยสวมใส่ชุดแต่งงานสายเดี่ยวสีขาวกระโปรงยาวแค่เข่า ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มสีสันอย่างสวยงาน ขณะช่างที่ถูกจ้างมากำลังจับผมออกเป็นช่อเล็ก ๆ แล้วถักสานจนเกิดเป็นผมเปียอย่างสวยงาม เมื่อถักเปียจนครบสองข้างแล้วช่างก็รวบตึงเปียผมทั้งสองมาอยู่ทางด้านหลังก่อนจะมัดและติดกิฟฝั่งเพชรรูปหัวใจและแซมด้วยไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ สีขาวลงบนกลุ่มผมเป็นอันเสร็จสิ้น "เสร็จแล้ว สวยมากกกเลยค่าคุณน้อง "เสียงของช่างเอ่ยบอกเมื่อจัดแต่งผมเสร็จและติดกิฟท์ฝั่งเพชรรูปหัวใจเป็นลำดับสุดท้าย ฉันที่มองตัวเองผ่านกระจกเงาใช่สวย วันนี้ฉันสวยแปลกตามากไม่คิดว่าพี่ช่างแต่งหน้าจะมีฝีมือมากขนาดนี้ ก่อนฉันจะได้ยินเสียงเปิดประตู แก๊บ! ตามมาด้วยเสียงทุ้มคุ้นหูเอ่ยเรียก "เสร็จหรือยังครับเจ้าสาวของพี่ แม่ให้มาเรียก พระใกล้จะถึงแล้วนะครับ" ฉันที่มองไปตามเสียงก่อนจะส่งยิ้มหวาน ๆ ไปให้คนเรียก ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้เดินมาหาเจ้าบ่าวในเวลาต่อมา ขณะพี่สายฟ้าที่ตอนนี้อยู่ในชุดสูทสีขาวเซ็ทผมออกมาจนดูหล่อและยิ่งมาอยู่ในชุดสูทยิ่งทำให้คนตัวสูงที่ดูหล่อดูสมา
แต่ในวินาทีถัดมาแสงไฟที่ส่องให้แสงสว่างภายในรีสอร์ทกับดับลง หลงเหลือแต่ความมืดสนิท มีเพียงแสงนวลผ่องของพระจันทร์ที่ส่องให้ความสว่างเท่านั้น "พี่สายฟ้า" มือบางคว้าท่อนแขนคนนั่งอยู่ข้าง ฉับพลันกับคิดถึงเหตุการณ์ร้าย ๆ เมื่อคราวก่อนผุดเข้ามาในหัวก่อนเสียงหวานจะเอ่ยเรียกคนข้างกายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพราะความกลัว "ไม่ต้องกลัวครับพี่นั่งอยู่นี่"เสียงทุ้มเอ่ยบอกพรางโอบกอดคนตัวเล็กไว้ในแนบอกที่ตอนนี้ร่างบอบบางขยับสั่นไหวเบา ๆ จนสายฟ้าพอจะรับรู้อาการของคนในอ้อมกอดนี้ได้ อยู่ ๆ ก็รู้สึกผิดและกลัวที่ตัวเองสร้างสถานการณ์ตรงนี้ขึ้นมา แล้วถ้าคนตัวเล็กโกรธไม่ยอมตกลงที่จะแต่งงานกับตัวเองจะทำอย่างไร "เอาวะ สู้โว้ย ถ้าวันนี้ไม่ตกลง อย่างไงเขาก็จะตื้อให้คนในออมอ้อมยอมตกลงแต่งงานกับตัวเองให้ได้"สายฟ้าได้แต่คิดในใจ ผิดกับทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยง พวกเขาทุกคนรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เกิดจากฝีมือของคนจัดเตรียมงานที่อยากจะเซอร์ไพรส์เมียรัก แต่ไหนเลยคนที่โดนเซอร์ไพรส์กับกลัวแทนที่จะมีอาการประหลาดใจ "ทำไมไฟดับคะพี่"ม่านน้ำถามขึ้นอีกรอบเมื่อคนตัวสูงไม่ได้ให้คำตอบในคราวแรก แต่แล้วสิ้นเสียงหวานเอ่ยถามเท่านั้นไฟ
3 เดือนต่อมา ร่างบอบบางที่อยู่ในชุดนักศึกษาและคลุมทับด้วยชุดครุยตัวยาวสีกรม ผมสีแดงในตอนแรกถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติถูกเกล้าม้วนขึ้นเป็นทรงสวย เผยให้เห็นใบหน้าเรียวเล็กได้รูปที่ถูกเติมแต่งสีสันด้วยเครื่องสำอางเพียงบางเบา ริมฝีอวบอิ่มฉาบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนยกยิ้มหวานจนตาหยี ร่วมเฟรมถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อน ๆ ในคลาสเรียน ใช่แล้ววันนี้เป็นวันที่ม่านน้ำแล้วเพื่อน ๆ จบการศึกษาและเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อเสร็จพิธีจากหอประชุมเรียบร้อยแล้ว เพื่อน ๆ ในคลาสต่างพากันมาร่วมกลุ่มถ่ายรูป โดยช่างภาพที่ถูกว่าจ้างจากมหาวิทยาลัยเป็นคนหามา "123" แชะ ! เสียงตากล้องนับให้เป็นสัญญาณก่อนที่จะชัตเตอร์ "สวยแล้ว ผมขอถ่ายกันเสียอีก 2-3 รูปนะครับ"พูดจบตากล้องก็กดชัตเตอร์อีก 2-3 ครั้ง "เสร็จแล้วนะครับ เดี๋ยวรูปจะส่งไปให้ตามที่น้อง ๆ กรอกที่อยู่ให้นะครับ"ช่างภาพหนุ่มเอ่ยบอกก่อนที่บัณฑิตจะทะยอยเดินออกจากเฟรม เพราะมีบัณฑิตจากคลาสอื่น ๆ รอถ่ายรูปเช่นกัน "น้ำแกจะรีบเดินไปไหน"เสียงเพชรชี่เอ่ยทักเพื่อนเมื่อเห็นว่าม่านน้ำกำลังสาวเท้าด้วยความเร็วไปทางโต๊ะม้าหินอ่อนที่อยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ "พี่สายฟ้านั่งรอเราอยู
ช่วงเช้าของวัน หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จผมพาคนตัวเล็กมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในตัวจังหวัดตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เราสองใช้เวลาตรวจ รับยา รอบัตรนัดครั้งต่อไปกว่าจะเสร็จทุกขั้นตอนก็กินเวลาไปเกือบครึ่งวัน และเมื่อเราสองคนขึ้นมาบนรถยนต์ตอนแรกผมคิดว่าจะพาคนตัวเล็กกลับรีสอร์ท แต่เมื่อสายตาของผมไปประทะกับตัวเลขที่โชว์เวลาที่หน้าปัดด้านหน้าคอนโซลรถอีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะเที่ยงแล้ว และคาดการว่าเวลาในไม่ช้าคนที่นั่งข้าง ๆ ต้องมีอาการอยากอาหารแน่ ๆ เพราะเมื่อเช้าเราสองคนทานเพียงข้าวต้มกุ้งแค่ถ้วยเดียวก่อนออกมาโรงพยาบาล ฉับพลันคำพูดของคุณหมอสาวก็ลอยแวบขึ้นมาในหัว "ช่วงนี้คุณแม่อาจจะหิวบ่อยนะคะ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าปล่อยให้คุณแม่หิวหรือคุณพ่อจะหาซื้อพวกแครกเกอร์ติดไว้ก็ได้ ถึงมันจะช่วยไม่ได้มาก แต่มันก็ยังช่วยในระดับหนึ่งคุณแม่จะได้ไม่เหวี่ยงวีน ตามอารมณ์ที่แปรปรวนง่าย ๆ " และนี่คือคำพูดที่คุณหมอสาวเอ่ยบอกผมตอบรับคำในทันที ถึงว่าช่วงนี้อารมณ์ของคนตัวเล็กถึงขึ้น ๆ ลง ๆ คงเป็นเพราะฮอร์โมนของคนท้องนี่เอง ผมจึงไม่รอเวลาให้เนิ่นนานรีบหันไปถามคนที่นั่งข้าง ๆ ในทันที "ใกล้จะเที่ยงแล้ว หนู
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากอพาร์ทเม้นท์ของเพื่อนสนิทมีคำถามหนึ่งแวบเข้ามาในหัวและอดจะไม่ถามหรือปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้จริง ๆ ม่านน้ำเลือกที่จะมองใบหน้าแฟนหนุ่มก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามในเวลาถัดมา "ทำไมพี่ขึ้นอพาร์ทเม้นท์ของเพื่อนหนูได้คะ"และเป็นเรื่องนี้ที่ม่านน้ำไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้เธอสงสัยตั้งแต่อยู่ในห้องแล้ว ว่าเหตุใดคุณลุงที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของผู้พักอาศัยถึงปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาได้ สายฟ้าเมื่อได้ยินคำถามถึงกับยกยิ้มกรุ่มกริ่มเอ่ยบอกเมียรักไปตามความเป็นจริง "ก็ไม่เห็นยาก แค่บอกลุงเขาว่าเราทะเลาะกัน และหนูหนีมาอยู่กับเพื่อน และตอนนี้หนูยังท้องอ่อน ๆ ลูกของพี่อยู่ ลุงคงเห็นใจสงสารพี่เลยช่วยพี่พาพี่ขึ้นมาหาหนูที่ห้องเพื่อนหนูนั้นแหละ" คนตัวเล็กพยักหน้าหงึก ๆ เข้าใจได้ว่าทำไมคู่หมั้นหนุ่มถึงขึ้นไปได้แต่อีกเรื่องที่เธอสงสัยไม่ต่างจากคำถามแรกก็คือเขาแน่ใจได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่กับเพื่อนสนิทของเธอ "แล้วพี่รู้ได้ไงว่าหนูอยู่ที่นี่" สายฟ้าเลิกคิ้วเข้ม ฉีกยิ้มกว้างออกมานุ่มนวล เหลียวมองคนนั่งข้างตัวเองแค่แวบหนึ่งก่อนสายตาจะจับจ้องถนนด้านหน้าต่อก่อนเสียงทุ้มเอ่ยตอบคำถา
สายฟ้าที่เข้ามาในห้องโดยมีเพื่อนทั้งสองอย่างนิกเป้เดินตามมาติด ๆ เขาใช้สายตาคู่คมพยายามสอดส่องมองไปทั่วบริเวณห้อง กับต้องมาสะดุดกับรองเท้าที่ถูกถอดวางทิ้งไว้ที่ชั้นไม้สีน้ำตาลที่ใช้สำหรับวางรองเท้าเขาจำได้ดีว่ารองเท้าคู่นี้นั้นเป็นของใคร มุมปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจเมื่อรู้สึกว่าความหวังอันริบหรี่ในตอนแรกเริ่มปรากฎให้เขาได้เห็นอีกครั้ง และอีกไม่เพียงอึดใจในภายภาคหน้าเขาจะได้เห็นหน้าคนตัวเล็กแล้ว (ถ้าน้องให้เจอ) "พี่สายฟ้า"เสียงทั้งสามสาวร้องอุทานออกมาประสานกัน พร้อมกับทำสายตาเลิ่กลั่กแสดงออกถึงการมีพิรุธ จนสายฟ้าสามารถจับความผิดปกตินั้นได้ "ฮ่าาา....พวกพี่มาได้ไงคะ"ขณะที่ดาวยกมือขึ้นป้องปากพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้แฟนของเพื่อนจับพิรุธได้แต่ด้วยความเป็นคนช่างสังเกตุของสายฟ้าทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเพื่อนสนิทของเมียรักที่แสดงออกมานั้น 'เฟซ สุด ๆ' "พี่ก็เดินขึ้นมา ม่านน้ำอยู่ที่นี่ใช่ไหม"สายฟ้าตอบขณะพยายามสอดส่องสายตามองไปรอบห้องกับไม่พบแม้แต่เงาของเมียรัก หัวคิ้วตีกันยุ่งก่อนจะสาวเท้าเดินไปดูด้านหลังระเบียงห้อง และมาหยุดที่ประตูไม้สีขาวคาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของเจ้าของห้อง มือ